วันอาทิตย์ที่ 27 กรกฎาคม พ.ศ. 2557

สวนพฤกษศาสตร์ฯ เปิดให้สถาบันการศึกษา เข้าชมสวนฟรี ตลอดเดือนสิงหาคมนี้

ดร.สุ ญาณี เวสสบุตร  ผู้อำนวยการองค์การสวนพฤกษศาสตร์ กล่าวว่า เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ 12 สิงหาคม 2557 สวนพฤกษศาสตร์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ องค์การสวนพฤกษศาสตร์ (อ.ส.พ.) จะได้เปิดให้ นักเรียน นิสิต นักศึกษา จากสถาบันการศึกษาทั่วประเทศ เข้าทัศนศึกษาในสวนพฤกษศาสตร์ฯ ฟรี โดยยกเว้นค่าธรรมเนียมเข้าชม รวมค่าธรรมเนียมยานพาหนะที่นำเข้ามา

นอกจากเยาวชนจะได้เข้ามาชื่นชมความงดงามของพรรณไม้ และได้รับความรู้เกี่ยวกับการอนุรักษ์พันธุ์ไม้หายากและใกล้สูญพันธุ์ของไทย แล้ว ยังจะได้สนุกสนานไปกับกิจกรรมในนิทรรศการ “ไดโนเสาร์กาฬสินธุ์ แอ่วเชียงใหม่ ม่วนใจ๋กับ สวนพฤกษศาสตร์” ซึ่งพิพิธภัณฑ์ธรรมชาติ องค์การสวนพฤกษศาสตร์ ได้ร่วมกับ พิพิธภัณฑ์สิรินธร กรมทรัพยากรธรณี จัดให้มีนิทรรศการดังกล่าวขึ้น ในระหว่างวันที่ 20 สิงหาคม – 5 กันยายน 2557 ภายในงานจะมีเรื่องราวเกี่ยวกับธรณีวิทยาและซากดึกดำบรรพ์ เพลิดเพลินไปกับไดโนเสาร์เพื่อนตัวใหญ่ในลานกิจกรรม ร่วมเดินทางย้อนเวลาสู่ห้วงอดีตสู่ดินแดนแห่งโลกล้านปีและป่าดึกดำบรรพ์ องค์การฯ จึงขอเชิญชวนสถาบันการศึกษาต่างๆ นำนักเรียน นักศึกษาเข้าชมสวนพฤกษศาสตร์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ ฟรี ตลอดเดือนสิงหาคมนี้

สนใจสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ ส่วนสารนิเทศและประชาสัมพันธ์ องค์การสวนพฤกษศาสตร์ โทรศัพท์ 053-841234  และ www.qsbg.org



นายคมศักดิ์  หล่อเถิน /ข่าว

จันทบุรี จัดพิธีตักบาตรพระ 1,000 รูป คืนความสุข สร้างความสามัคคี ปรองดอง

ประชาชนชาวจังหวัดจันทบุรี ร่วมแต่งกายชุดขาว ตักบาตรพระ 1,000 รูป สร้างความสามัคคี ปรองดอง ส่งกำลังใจให้คนไทยใน 4 จังหวัดชายแดนใต้

วันนี้ ( 27 ก.ค.57 ) ที่บริเวณหอนาฬิกา ทุ่งนาเชย จังหวัดจันทบุรี นายสามารถ ลอยฟ้า ผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรีได้นำประชาชน พุทธศาสนิกชน ทุกสาขา อาชีพในจังหวัดจันทบุรี ร่วมแต่งกายชุดขาว ทำบุญตักบาตรพระ 1,000 รูป สืบอายุพระศาสนา ส่งเสริมประชาชนให้ประพฤติ ปฏิบัติดี สร้างความสุขให้ครอบครัว สอดคล้องวาระ จันทบุรีเมืองแห่งความสุข สุขทุกวันที่จันทบุรี สร้างความสามัคคี ปรองดอง สมานฉันท์ เป็นน้ำหนึ่งใจเดียว โดยคำนึงถึง ชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ รวมทั้งเป็นการถวายมหาสังฆทานครั้งยิ่งใหญ่เสริมสิริมงคลให้กับจังหวัดจันทบุรี ซึ่งเป็นโครงการที่ชมรมกัลยาณมิตรจังหวัดจันทบุรี จัดขึ้นเป็นประจำต่อเนื่องทุกปี และนำข้าวสาร อาหารแห้ง ที่ประชาชนร่วมกันทำบุญตักบาตร ไปถวายแด่พระภิกษุสงฆ์ ตามวัดต่าง ๆ ในพื้นที่ 4 จังหวัดชายแดน ภาคใต้   



จรัล บรรยงคเสนา/ภาพ/ข่าว ( 27 ก.ค. 57 )
                      ธเนศ  เธียรนันทน์/ตรวจข่าว

จันทบุรี พบการแพร่ระบาดยาเสพติดประเภทกัญชาเพิ่มขึ้น

สถานการณ์ยาเสพติดจังหวัดจันทบุรีภาพรวมยังอยู่ในระดับไม่รุนแรงแต่ต้องเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด ส่วนกัญชามีแนวโน้มเพิ่มระดับความรุนแรงมากขึ้น

นายสามารถ ลอยฟ้า ผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรีเปิดเผยข้อมูลจากศูนย์อำนวยการพลังแผ่นดินเอาชนะยาเสพติดจังหวัดจันทบุรี ว่า สถานการณ์การแพร่ระบาดของยาเสพติดในพื้นที่จังหวัดจันทบุรีในห้วงเดือนที่ผ่านมาอยู่ในระดับที่ไม่รุนแรงแต่ยังคงปรากฏการเคลื่อนไหวของกลุ่มเครือข่ายยาเสพติดในลักษณะผู้จำหน่ายรายย่อยอย่างต่อเนื่อง  พื้นที่ที่จะต้องเฝ้าระวังคืออำเภอที่มีแนวเขตติดต่อของจังหวัด ได้แก่ อำเภอแก่งหางแมวและอำเภอนายยายอาม  ทั้งนี้เนื่องจากปรากฏข้อมูลการเคลื่อนไหวของบุคคลในลักษณะนำยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) จากพื้นที่อื่นมาพักรอเพื่อเตรียมส่งต่อให้กับกลุ่มเครือข่ายยาเสพติดในพื้นที่ตอนใน คือ เขตอำเภอเมืองจันทบุรี อำเภอท่าใหม่และอำเภอขลุง รวมทั้งต้องเฝ้าระวังการเคลื่อนไหวของกลุ่มเครือข่ายยาเสพติดระหว่างประเทศไทยและกัมพูชาในพื้นที่อำเภอโป่งน้ำร้อนและจุดผ่อนปรนทางการค้าบ้านสวนส้ม ตำบลสะตอน อำเภอสอยดาว  ประเด็นที่น่าสนใจคือการจับกุมผู้กระทำความผิดในลักษณะผลิตยาเสพติดให้โทษประเภท 5 (กัญชา) ในพื้นที่อำเภอนายายอามและอำเภอท่าใหม่ อาจเป็นสิ่งบ่งชี้เกี่ยวกับสถานการณ์แพร่ระบาดของยาเสพติดในพื้นที่จังหวัดจันทบุรีในลักษณะของการมาทดแทนยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้าและไอซ์) ในอนาคต ทั้งนี้เนื่องจากกัญชามีราคาถูกกว่าและสามารถปลูกได้ในทุกสภาพอากาศและทุกสภาพภูมิประเทศ รวมทั้งหาซื้อได้ง่ายและไม่ยุ่งยากในการเสพ รวมทั้งสังคมไม่ได้ให้ความสำคัญต่อการเสพกัญชาเป็นสิ่งผิดกฎหมาย จึงทำให้ยังคงปรากฏการลักลอบปลูกกัญชาในบางพื้นที่ สำหรับการติดตามความเคลื่อนไหวของเครือข่ายยาเสพติดในเรือนจำจังหวัดจันทบุรีได้มีการกำหนดแผนปฏิบัติเพื่อทำการตรวจค้นเรือนนอนของผู้ต้องขังในคดียาเสพติดอย่างต่อเนื่องจึงทำให้สถานการณ์แพร่ระบาดของยาเสพติดภายในเรือนจำจังหวัดจันทบุรีมีระดับความรุนแรงลดลง  กล่าวโดยสรุปคือแนวโน้มสถานการณ์การแพร่ระบาดของยาเสพติดในพื้นที่จังหวัดจันทบุรีจะยังคงมีการเคลื่อนไหวของผู้กระทำความผิดในลักษณะครอบครองเพื่อจำหน่ายอยู่อย่างต่อเนื่อง โดยพื้นที่ที่จะต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษคืออำเภอแก่งหางแมว อำเภอโป่งน้ำร้อน อำเภอขลุงและอำเภอเมืองจันทบุรี ส่วนประเภทของยาเสพติดที่มีแนวโน้มจะแพร่ระบาดเพิ่มมากขึ้นในระยะนี้คือกัญชา



ธเนศ  เธียรนันทน์ / ข่าว
  

แถลงข่าวการจับกุมแก๊งรถจักรยานยนต์ในพื้นที่อำเภอปลวกแดง

แถลงข่าวการจับกุมแก๊งรถจักรยานยนต์ในพื้นที่อำเภอปลวกแดง

วันนี้ 27 ก.ค.57 พ.ต.อ.สมไทย คำวัฒน์ รอง ผบก.ภ.จว.ระยอง พ.ต.อ.พรชัย แก่นเพชร ผกก.สภ.ปลวกแดง พ.ต.ท.มานพ ภูชชงค์ รอง ผกก. ป.สภ.ปลวกแดง พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจปลวกแดงชุดจับกุม ได้แถลงข่าวการจับกุมแก๊งโจรชาวเขมรที่เข้ามาลักรถ จยย.ในพื้นที่อำเภอปลวกแดงจังหวัดระยองไว้ได้ 4 คน มีคนไทยร่วมด้วย 1 คน พร้อมด้วย รถยนต์เก๋งยี่ห้อฮอนด้า ซิตี้ สีบรอนด์เงินทะเบียน กค.-3404 สระแก้ว 1 คัน รถ จักรยานยนต์ยี่ห้อ ฮอนด้าคลิ๊กสีแดง ทะเบียน 1 กค-7274 สุพรรณบุรี และรถ จักรยานยนต์ฮอนด้า ซูมเม่อเอ๊ก สีเขียวดำ ทะเบียน 1กต.8726 ชลบุรี และประแจหกเหลี่ยมตัวที เบอร์8 จำนวน 1 อัน เหล็กหกเหลี่ยมเจียรปลายแหลมใช้แทงเบ้ากุญแจเพื่อสตาร์ทเครื่องยนต์ จำนวน 2 อันและโทรศัพท์มือถือสองเครื่อง

การจับกุมครั้งนี้เกิดจากเมื่อวันที่ 26 ก.ค.57 น.ส.ศรวณีย์ แฉเกษม อายุ 32 ปีพักอยู่ห้องแถวเลขที่ 70 หมู่ 6 ตำบลมาบยางพร อำเภอปลวกแดง ทำงานอยู่ที่ บริบัทดี เอช แอล ซัพพลายเซน ได้มาแจ้งความว่ามีคนร้ายมาลักรถ จยย.ยี่ห้อ ฮอนด้า ซูมเม่อเอ๊ก สีเขียว-ดำที่จอดไว้หน้าห้องพักแล้วขับหนีออกมาบนถนนซอยห้างแก้ว ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจของ สภ.ปลวกแดง ได้ทำการสืบสวนจับกุมตัวคนร้ายไว้ได้ทั้งหมดเป็นชาวเขมร 3คน และคนไทย1คน คือ 1 .นายซอ วัน อายุ 19 ปี 2.นายเจีย เดช อายุ 21 ปี 3.นายยง เพ็ญ อายุ 33 ปี ทั้ง 3 คนเป็นชาวเขมร และยังมีคนไทย 1 คนคือนางสำเนียง หรือเนียง จันทร์คล้าย อายุ 54 ปี อยู่บ้านเลขที่ 79 หมู่3 ตำบลพันทราย อำเภออรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว โดยนางสำเนียงบอกว่าชาวเขมรทั้งสามคนว่าจ้างให้มาส่งโดยขับรถยนต์เก๋งยี่ห้อฮอนด้า ซิตี้ สีบรอนด์เงิน ทะเบียน ก.ค. 3404 สระแก้วมาส่งที่อำเภอปลวกแดง เมื่อวานนี้ ส่วนคนร้ายชาวเขมรรับสารภาพว่ามาลักรถ จักรยานยนต์แล้วนำไปส่งขายที่ประเทศกัมพูชาจริงในราคาคันละ 1 หมื่นบาท โดยนายซอ วัน รับว่าทำมาแล้ว 12 ครั้ง และรถจักรยานยนต์ที่ชาวกัมพูชาต้องการจะเป็นยี่ห้อ ฮอนด้า ส่วนรถ จักรยานยนต์อีกคันได้ลักมาจากพื้นที่ อำเภอศรีราชา และขี่มาลักรถจักรยานยนต์ฮอนด้าซูมเม่อเอ๊ก ของ น.ส.ศรวณีย์ แฉเกษม ซี่งขณะแถลงข่าว นางสาว ศรวณีย์เจ้าของรถฮอนด้าซูมเม่อเอ๊ก มาดูและคอยรับรถกลับ...โดยบอกว่าวันเกิดเหตุช่วงเที่ยงวัน ได้ขี่จักรยานยนต์ออกไปซื้อบุหรี่ให้แฟน แล้วจอดรถไว้หน้าห้องโดยลืมถอดกุญแจไว้แป๊บเดียวได้ยินเสียงรถจักรยานยนต์วิ่งออกไปจึงออกมาดูเห็นหลังคนร้ายไวๆ ขับขี่ จักรยานยนต์ของตนออกไป ก็นับว่ายังโชคดีที่ตามจับคนร้ายได้พร้อมรถ

ทางด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เปิดเผยว่าคนร้ายชาวเขมรเหล่านี้ได้ทำงานกันเป็นทีมเป็นแก๊งและจะตระเวนไปตามจุดต่างๆ เพื่อลักรถนำส่งไปขายได้คัน 1 หมื่นบาท โดยจะใช้เครื่องมือที่ทำมาเสียบเข้าไปในช่องกุญแจแล้วก็ออกแรงบิดและสตาร์ทเครื่องแล้วก็ขับรถหนีไปซึ่งคนร้ายพวกนี้จะมาเช่าอยู่ตามหอพักติดแอร์อย่างดี จึงขอเตือนเจ้าของรถว่าให้เก็บรถไว้ให้ดีอย่าเสียบกุญแจรถทิ้งไว้โดยเด็ดขาด



วฐิต/ข่าว

พบระเบิด และเครื่องกระสุนปืนอาวุธสงครามถูกทิ้งริมถนนที่จังหวัดระยอง คาดผู้ที่มีไว้ครอบครองกลัวความผิด จึงนำมาทิ้ง

พบระเบิด และเครื่องกระสุนปืนอาวุธสงครามถูกทิ้งริมถนนที่จังหวัดระยอง คาดผู้ที่มีไว้ครอบครองกลัวความผิด จึงนำมาทิ้ง

เมื่อเวลา 09.00 น.วันที่ 27 ก.ค.ร.ต.ท.ชัยกมล พิพิธกุล ร้อยเวร สภ.นิคมพัฒนา จ.ระยอง ได้รับแจ้งพบวัตถุสงสัยคล้ายระเบิดและเครื่องกระสุนปืนอาวุธสงครามถูกนำมาทิ้งริมถนนลูกรังภายในซอย 7 ห่างจากถนนสาย 36 ประมาณ 1 กม. ท้องที่ ม.2 ต.มะขามคู่ อ.นิคมพัฒนา จึงเดินทางไปตรวจสอบพร้อมด้วย พ.ต.อ.เชาว์ศิริ บุญศิริโยธิน ผกก.สภ.นิคมพัฒนา พ.ต.ต.ประวิทย์ ภาษีชา ร.ต.อ.สุริยา กุลบุญญา ร.ต.ท.ธวิช ภูสมศรี ร.ต.ท.สุธน หมื่นสุข ร.ต.ต.สุรเดช มณีพิทักษ์ รอง สวป.สภ.นิคมพัฒนา พ.จ.อ.ถนัด ปานอินทร์ รอง ผบ.มว.รส.ที่ 2 และนายพิเชษฐ์ ธรรมโหร ปลัดอำเภอฝ่ายความมั่นคง อ.นิคมพัฒนา ก่อนจะประสานตำรวจ EOD ตำรวจภูธรจังหวัดระยอง มาเก็บกู้ จากการตรวจสอบพบวัตถุระเบิดซุกซ่อนอยู่ในถุงพลาสติกสีดำ ถูกนำมาทิ้งในป่าหญ้าริมถนนลูกรัง ประกอบด้วย ระเบิด เอ็ม 33 จำนวน 1 ลูก ระเบิด เอ็ม 26 เอ 1 จำนวน 1 ลูก ระเบิด เอ็ม 27 จำนวน 1 ลูก ระเบิดควัน เอ็ม 18 จำนวน 1 ลูก เครื่องกระสุนปืน อาก้า ขนาด 7.62 จำนวน 46 นัด

พ.ต.อ.เชาว์ศิริ บุญศิริโยธิน ผกก.สภ.นิคมพัฒนา กล่าวว่า วัตถุระเบิดและเครื่องกระสุนปืนอาวุธสงครามดังกล่าวที่ตรวจพบมีพลเมืองดี โทรศัพท์ไปแจ้งว่าพบวัตถุต้องสงสัยว่าจะเป็นระเบิด ถูกนำมาทิ้งบริเวณดังกล่าว จึงได้แจ้งไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้มาร่วมตรวจสอบ เบื้องต้นได้ตรวจยึดระเบิด และเครื่องกระสุนปืนอาวุธสงครามทั้งหมดส่งพนักงานสอบสวน สภ.นิคมพัฒนา ตรวจสอบลายนิ้วมือ เพื่อติดตามหาตัวผู้ที่นำมาทิ้ง มาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป ทั้งนี้คาดว่า ผู้ที่มีไว้ในครอบครองกลัวความผิด หลัง คสช.กวาดล้างหนัก และประกาศให้นำมาส่งมอบให้กับทางการ จึงนำมาทิ้งดังกล่าว




วฐิต/ข่าว

เศรษฐีเมืองระยอง แห่ร่วมประมูลเลขทะเบียนสวยหมวดอักษร กพ. “กำไรเพิ่มพูน เพิ่มพูนกำไร” เนื่องแน่น

เศรษฐีเมืองระยอง แห่ร่วมประมูลเลขทะเบียนสวยหมวดอักษร กพ. "กำไรเพิ่มพูน เพิ่มพูนกำไร” เนื่องแน่น

เมื่อเวลา 10.00 น.วันที่ 26 ก.ค.57 ที่โรงแรมสตาร์ อ.เมืองระยอง นายอัฌษไธค์ รัตนดิลก ณ. ภูเก็ต อธิบดีกรมการขนส่งทางบก เป็นประธานในพิธีประมูลหมายเลขทะเบียนรถ ซึ่งเป็นที่ต้องการหรือเป็นที่นิยมของประชาชน (เลขสวย) ประเภทรถนั่งส่วนบุคคลไม่เกิน 7 คน ที่จดทะเบียนในเขตจังหวัดระยอง หมวดอักษร กพ "กำไรเพิ่มพูน เพิ่มพูนกำไร” จำนวน 301 เลขหมาย มีนายธานี สามารถกิจ ผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง นายปิยะ ปิตุเตชะ นายก อบจ.ระยอง ร่วมเป็นเกียรติฯ โดยมีบรรดาเศรษฐีเมืองระยอง สนใจเข้าร่วมประมูลจำนวนมาก การประมูลจัดขึ้น 2 วันด้วยกัน ระหว่างวันที่ 26-27 ก.ค.นี้

 สำหรับการประมูลในวันแรกวันนี้ เริ่มประมูลที่ป้ายทะเบียน กพ 8899 ระยอง ราคาที่สูงสุด 380,000 บาท ผู้ที่ได้ชนะการประมูลได้ไป คือนายนัทธพงษ์ คุณาจิระกุล เจ้าของธุรกิจบ้านจัดสรร และอสังหาริมทรัพย์เมืองระยอง ส่วนป้ายทะเบียนที่มีผู้สนใจแห่ร่วมประมูลจำนวนมากคือ ป้ายทะเบียน กพ 9999 ระยอง ซึ่งผู้ที่ชนะการประมูล นางสาวสุภาวดี วาจาสิทธิ์ อายุ 23 ปี เจ้าของธุรกิจสถานบันเทิง "ซู้ด เวติโก ผับ” ผับชื่อดังเมืองระยอง ได้ไปในราคา 1,555,555 บาท



วฐิต/ข่าว

จังหวัดระยองจัดเจริญพระพุทธมนต์นพเคราะห์เฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร เนื่องในโอกาสเฉลิมพระชนมพรรษา 62 พรรษา 28 กรกฎาคม 2557

จังหวัดระยองจัดเจริญพระพุทธมนต์นพเคราะห์เฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร เนื่องในโอกาสเฉลิมพระชนมพรรษา 62 พรรษา 28 กรกฎาคม 2557

​วันนี้ (27 ก.ค. 57) ที่วัดเนินพระ นายธานี สามารถกิจ ผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง เป็นประธานในพิธีเจริญพระพุทธมนต์นพเคราะห์เฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร เนื่องในโอกาสเฉลิมพระชนมพรรษา 62 พรรษา วันที่ 28 กรกฎาคม 2557 โดยมีนายทรรศนะ วิชัยธนพัฒน์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง นายธีรวัฒน์ สุดสุข ปลัดจังหวัดระยอง นายดำริห์ สมควรคิด วัฒนธรรมจังหวัดระยอง นายชูเกียรติ ชมแก้ว ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดระยอง เจ้าคณะจังหวัดระยอง องค์กรเครือข่ายทางพระพุทธศาสนา สภาวัฒนธรรมจังหวัด ตลอดจนข้าราชการ ประชาชน ครูอาจารย์ นักเรียนโรงเรียนอนุบาลวัดเนินพระ เข้าร่วม

นายดำริห์ กล่าวว่า การจัดพิธีเจริญพระพุทธมนต์ เนื่องด้วยนพเคราะห์ในครั้งนี้ เพื่อเป็นการเฉลิมพระเกียรติและถวายพระราชกุศลแด่สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร เนื่องในโอกาสเฉลิมพระชนมพรรษา 62 พรรษา วันที่ 28 กรกฎาคม 2557 เป็นการเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์ สร้างขวัญและกำลังให้พุทธศาสนิกชน ที่เป็นพสกนิกรอยู่ใต้พระบรมโพธิสมภารได้ แสดงออกถึงความจงรักภักดี ให้สีงคมสงบร่มรื่น และสันติสุข ด้วยการนำหลักธรรมจากบทเจรญพระพุทธมนต์มาประพฤติปฏิบัติในวิถีชีวิต ประชาชนมีความสามัคคีปรองดอง ด้วยการทำกิจกรรมทางพระพุทธศาสนาร่วมกัน โดยมีสถาบีนพระมหากษัตริย์เป็นศูนย์รวมจิตใจของคนไทยทั้งชาติิ



สวรส/ข่าว

จ.ฉะเชิงเทราจัดพิธี เจริญพระพุทธมนต์นพเคราะห์ เฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ

วันนี้ (27 ก.ค.57) เวลา 09.09 น. ที่ศาลาการเปรียญวัดบางปรงธรรมโชติการาม  อำเภอเมืองฉะเชิงเทรา   นาย บัณฑิตย์ เทวีทิวารักษ์   รองผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทรา นำข้าราชการ พุทธศาสนิกชน ผู้นำท้องถิ่น นักเรียน นักศึกษา และ ประชาชนทั่วไป จำนวนกว่า  500  คน  ประกอบพิธีเจริญพระพุทธมนต์นพเคราะห์เฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมายุ 62 พรรษา 28 กรกฎาคม 2557  โดยรองผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทรา ประธานในพิธี ได้ลงนามถวายพระพร  เปิดกรวยดอกไม้ ธูปเทียนแพ ถวายราชสักการะเบื้องหน้าพระฉายาลักษณ์ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช ฯสยามมกุฎราชกุมาร และกล่าวคำถวายพระพรชัยมงคล จากนั้นพระสงฆ์เจริญชัยมงคลคาถา ต่อด้วยประธานในพิธีถวายผ้าไตรพระราชทานแด่พระสงฆ์ ก่อนที่พระสงฆ์เจริญพระพุทธมนต์บทต่างๆและเจริญพระพุทธมนต์บทดาวนพเคราะห์ฯ เพื่อเป็นการเฉลิมพระเกียรติและถวายเป็นพระราชกุศล ซึ่งเป็นการเทิดทูนสถาบันมหากษัตริย์ สร้างขวัญ กำลังใจให้พุทธศาสนิกชนที่เป็นพสกนิกรอยู่ภายใต้พระบรมโพธิสมภาร ได้แสดงออกถึงความจงรักภักดีให้เกิดความสงบร่มเย็น และสันติสุข ด้วยการนำหลักธรรมจากบทเจริญพระพุทธมนต์มาประพฤติปฏิบัติในชีวิตประจำวัน ประชาชนมีความรักความสามัคคี ปรองดอง ด้วยการทำกิจกรรมทางพระพุทธศาสนาร่วมกัน โดยมีสถาบันพระมหากษัตริย์เป็นศูนย์รวมจิตใจของคนไทยทั้งชาติ




ชาญณรงค์/ข่าว
ธนภัทร/ภาพ
ส.ปชส.ฉะเชิงเทรา