วันอังคารที่ 26 สิงหาคม พ.ศ. 2557

โครงการ”การขับเคลื่อนกิจกรรมองค์กรสตรีระดับภาค (ภาคกลาง)

วันนี้ (26 ส.ค.)  ที่โรงแรมอินโดจีน อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว นายชูศักดิ์  ตรีสาร รองผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว เป็นประธานเปิดโครงการ "การขับเคลื่อนกิจกรรมองค์กรสตรีระดับภาค” (ภาคกลาง) โดยมีนางสติล  คุณปลื้ม ประธานคณะกรรมการพัฒนาสตรีจังหวัดชลบุรี/ประธานคณะกรรมการพัฒนาสตรีภาคกลาง เป็นผู้กล่าววัตถุประสงค์ของโครงการเพื่อให้ครธกรรมการพัฒนาสตรีภาคกลางทั้ง 25 จังหวัดได้มีเวทีแลกเปลี่ยนเรียนรู้ประสบการณื พร้อมทั้งรายงานความก้าวหน้าในการดำเนินงานตามแผนปฏิบัติการและรับทราบปัญหาในการดำเนินงานตามภารกิจที่ได้รับมอบหมายซึ้งโครงการดังกล่าวจจะดำเนินงานตั้งแต่วันนี้ไปจนถึงวันที่ 28 สิงหาคม 2557 โดยได้จัดกิจกรรมศึกษาดูงานบ้านสตรีดีเด่นด้านการส่งเสริมครอบครัวแข็งแรง ในหมู่บ้านเศรษฐกิจพอเพียงต้นแบบของจังหวัดสระแก้ว เยี่ยมชมผลิตภัณฑ์ OTOPร้านอโนชาไหมไทยและเดินศึกษาดูงานที่ประเทศกัมพูชา

จ.ฉะเชิงเทรา ประชุมเตรียมความพร้อมรับเสด็จพระเจ้าวรวงศ์เธอพระองค์เจ้าศรีรัศมิ์ พระวรชายาฯ

วันนี้ (26 ส.ค.57)   นายบัณฑิตย์ เทวีทิวารักษ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทรา เป็นประธานในการประชุมเตรียมการรับเสด็จพระเจ้าวรวงศ์เธอพระองค์เจ้าศรีรัศมิ์ พระวรชายาฯ ในสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ที่จะเสด็จมาทรงเปิดศูนย์ 3 วัย สานสายใยรักแห่งครอบครัวหมอนทอง  จังหวัดฉะเชิงเทรา ในวันที่  25 กันยายน 2557  ซึ่งการประชุมในครั้งนี้ เพื่อมอบหมายหน้าที่ความรับผิดชอบของส่วนราชการและหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องไปดำเนินการเตรียมการรับเสด็จให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อยและสมพระเกียรติ 

ศูนย์ 3 วัย สานใยรักแห่งครอบครัว หมอนทอง จังหวัดฉะเชิงเทรา ในพระอุปถัมภ์ พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าศรีรัศมิ์ พระวรชายาฯ ตั้งอยู่หมู่ที่ 5 ตำบลหมอนทอง อำเภอบางน้ำเปรี้ยว จังหวัดฉะเชิงเทรา เดิมเป็นอาคารสอนศาสนาและอาคารอเนกประสงค์ ของมัสยิดดารุ้ลคอยร๊อต ตั้งอยู่ในที่ดินของมัสยิดดารุ้ลคอยร๊อต ซึ่งคณะทำงานศูนย์ 3 วัย สานใยรักแห่งครอบครัว หมอนทอง จังหวัดฉะเชิงเทรา ในพระอุปถัมภ์ พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าศรีรัศมิ์ พระวรชายาฯ เห็นว่าพื้นที่ดังกล่าวมีความเหมาะสมในการดำเนินดำเนินงานการจัดตั้งศูนย์ 3 วัย สานสายใยรักแห่งครอบครัวฯ เนื่องจากเป็นศูนย์กลางของชุมชนมีศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก สถานศึกษา หน่วยงานภาครัฐและเอกชนอยู่ในบริเวณใกล้เคียง โดยได้รับการสนับสนุนงบประมาณในการซ่อมแซม ปรับปรุงอาคารสถานที่จากกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ โดยเปิดให้บริการแก่สมาชิกศูนย์ 3 วัยฯ หมอนทอง จังหวัดฉะเชิงเทรา ในพระอุปถัมภ์ฯ อย่างไม่เป็นทางการ ตั้งแต่เดือนธันวาคม 2552 เป็นต้นมา  กิจกรรมการให้บริการแก่ประชาชนในเขตพื้นที่ตำบลหมอนทองและพื้นที่ใกล้เคียง โดยดำเนินงานภายใต้ 5 แนวคิดพระราชทานให้สอดคล้องกับวิถีชีวิตของคนในท้องถิ่น นอกจากนี้ยังมีการสนับสนุนด้านองค์ความรู้ โดยการจัดฝึกอบรมเสริมทักษะด้านอาชีพให้กับกลุ่มเป้าหมายในพื้นที่ตำบลหมอนทองและตำบลใกล้เคียง ได้รับการสนับสนุนงบประมาณการจัดอบรม และจัดกิจกรรมต่าง ๆ จากศูนย์พัฒนาสังคม หน่วยที่ 7 จังหวัดฉะเชิงเทรา และหน่วยงานภาคีเครือข่ายทุกภาคส่วนเข้ามามีส่วนร่วมในการดำเนินงานและสนับสนุนการจัดกิจกรรมแบบบูรณาการเพื่อเป็นจุดศูนย์รวมให้กับประชาชนทุกช่วงวัยได้เข้ามาใช้บริการและทำกิจกรรมร่วมกัน ส่งผลให้ชุมชนมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง และนำไปสู่ความเข้มแข็งในชุมชนต่อไป  ปัจจุบัน มีสมาชิกทั้งสิ้น จำนวน 1,143 คน ประกอบด้วย วัยเด็ก 464 คน วัยผู้ใหญ่ 544 คน และวัยผู้สูงอายุ 135 คน



ชาญณรงค์/ข่าว
ธนภัทร/ภาพ

ตำรวจสถานีตำรวจน้ำ 3 กองกับการ 5 กองบังคับการตำรวจ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี จับกุมเรือไดหมึกพร้อมไต๋เรือและลูกเรือชาวกัมพูชา ทำการประมงในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต หลังนำเรือเทียบท่าบริเวณ ต.เพ อ.เมืองระยอง

ตำรวจสถานีตำรวจน้ำ 3 กองกับการ 5 กองบังคับการตำรวจ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี จับกุมเรือไดหมึกพร้อมไต๋เรือและลูกเรือชาวกัมพูชา ทำการประมงในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต หลังนำเรือเทียบท่าบริเวณ ต.เพ อ.เมืองระยอง ขณะนำส่งพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรเพ ดำเนินคดี เจ้าของเรือคนไทย และกลุ่มชาวประมงในพื้นที่ไม่พอใจการจับกุม อ้างเลือกปฏิบัติ และอยู่ในช่วงการผ่อนผันการขึ้นทะเบียนแรงงานต่างด้าว เตรียมเดินทางเข้าพบผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง ขอความเป็นธรรม เมื่อเวลา 19.00 น.วันที่ 25 ส.ค.ร.ต.ท.บดินทร์ ศรีอ่อน รองสารวัตรสถานีตำรวจน้ำ 3 กองกับการ 5 กองบังคับการตำรวจ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี นำกำลังตำรวจ เข้าจับกุมเรือไดหมึกทรัพย์ธงชัย 3 ที่บริเวณท่าเทียบเรือศรีบ้านเพ ต.เพ อ.เมืองระยอง ขณะนำหมึกขึ้นฝั่ง ได้ผู้ต้องหาไต๋เรือและลูกเรือชาวกัมพูชา จำนวน 6 คน ประกอบด้วย นายชาลี ขวบ อายุ 25 ปี ไต๋เรือ นายจันทร์ทน เมียน อายุ 39 ปี นายญาติ กิม อายุ 42 ปี นายเทียคิม อายุ 51 ปี นายนา จุม อายุ 42 ปี และนายแพะ ไม่มีนามสกุล อายุ 27 ปี พร้อมของกลาง เรือประมงทรัพย์ธงชัย 3 ยาว 6 เมตร วิทยุสื่อสาร ยี่ห้อซุปเปอร์สตาร์ รุ่น 2004 1 เครื่อง อุปกรณ์ทำการประมงไดหมึก 1 ชุด และปลาหมึกสด 8 กก.ส่ง ร.ต.อ.สากล คำยิ่งยง พนักงานสอบสวน สถานีตำรวจภูธรเพ ดำเนินคดีในข้อหา ร่วมกันทำการประมงไดหมึกในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต ไต๋เรือ ใช้เรือทำการประมงในเขตการประมงไทยโดยไม่มีใบอนุญาตผู้ควบคุมเรือตาม พ.ร.บ.การเดินเรือในน่านน้ำไทย เป็นบุคคลต่างด้าวทำหน้าที่เป็นลูกเรือในเรือประมง ในเขตการประมงไทยโดยมิได้รับอนุญาต

ทั้งนี้ขณะที่ตำรวจน้ำ นำผู้ต้องหาทั้ง 6 คน ส่งพนักงานสอบสวน สถานีตำรวจภูธรเพ ดำเนินคดี ได้มีนายบุญยงค์คชา อายุ 54 ปี อยู่บ้านเลขที่ 44/1 ม.3 ต.เพ อ.เมืองระยอง อ้างเป็นเจ้าของเรือพร้อมกลุ่มชาวประมงกว่า 60 คน เดินทางมายังสถานีตำรวจภูธรเพ โดยแสดงความไม่พอใจการจับกุมของตำรวจน้ำครั้งนี้ โดยได้เข้าพบ พ.ต.อ.อภิชาติ ไชยบุญเรือง ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรเพ โดยกล่าวว่า การจับกุมเรือประมงของชาวประมงในพื้นที่ครั้งนี้ เป็นการเลือกปฏิบัติ ทำไมไม่จับเรือที่มีอยู่ทั้งหมดราว 200 ลำ นอกจากนี้แรงงานต่างด้าวทั้งหมดมีใบอนุญาตทำงานในราชอาณาจักรถูกต้องทุกคนด้วย อีกทั้งยังอยู่ในช่วงผ่อนผันการขึ้นทะเบียนแรงงานต่างด้าวอีกด้วย ทั้งนี้ในวันพรุ่งนี้(26 ส.ค.) เวลา 09.00 น.กลุ่มประมง จะเดินทางเข้าไปยื่นหนังสือขอความเป็นธรรมกับนายธานี สามารถกิจ ผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง ด้าน ร.ต.ท.บดินทร์ ศรีอ่อน รองสารวัตร สถานีตำรวจน้ำ ยืนยันการจับกุมได้กระทำตามกฎหมายไม่มีการเลือกปฏิบัติแต่อย่างใด เป็นไปตามนโยบายและแผนปฏิบัติราชการการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์และแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมายโดยปฏิบัติการจับกุมและกวดขันดังกล่าว ได้มีการนำเรือตรวจการณ์พร้อมกำลังตำรวจ ทำการตรวจเรือที่แล่น ผ่านเข้า-ออก บริเวณอ่าวเพ อ.เมืองระยอง ทุกลำ



วฐิต กลางนอก/ข่าว

กลุ่มประมงเพ อ.เมืองระยอง บุกศาลากลางระยอง ร้องศูนย์ธำรงธรรม หลังตำรวจน้ำจับเรือประมงพร้อมลูกเรือชาวกัมพูชา

เวลา11.00 น. ของวันที่ 26 ส.ค.ที่ศูนย์ธำรงธรรม ศาลากลางจังหวัดระยอง ต.เนินพระ อ.เมืองระยอง นายสมศักดิ์ พูลสำเภา ประธานกลุ่มเรือไดหมึกบ้านเพ พร้อมด้วยนายผู้ประกอบการประมงในตำบลเพ อำเภอเมืองระยอง จำนวน 100 คน ได้มารวมตัวกันที่หน้าศูนย์ราชการจังหวัดระยอง พร้อมแต่งตั้งตัวแทนเข้ายื่นหนังสือร้องเรียนปัญหาความเดือนร้อนของผู้ประกอบการอาชีพประมงไดหมึกบ้านเพ เนื่องจากได้รับความเดือนร้อนโดยเมื่อคืนวันที่ 25 สิงหาคมที่ผ่านมา เวลา 19.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจน้ำนำโดย ร.ต.ท.บดินทร์ ศรีอ่อน รองสารวัตร สถานีตำรวจน้ำ 3 กองกับการ 5 กองบังคับการตำรวจ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี นำกำลังตำรวจ เข้าจับกุมเรือไดหมึกทรัพย์ธงชัย 3 ที่บริเวณท่าเทียบเรือศรีบ้านเพ ต.เพ อ.เมืองระยอง ขณะนำหมึกขึ้นฝั่ง ได้ผู้ต้องหาไต๋เรือและลูกเรือชาวกัมพูชา จำนวน 6 คน ประกอบด้วย นายชาลี ขวบ อายุ 25 ปี ไต๋เรือ นายจันทร์ทน เมียน อายุ 39 ปี นายญาติ กิม อายุ 42 ปี นายเทีย คิม อายุ 51 ปี นายนา จุม อายุ 42 ปี และนายแพะ ไม่มีนามสกุล อายุ 27 ปี พร้อมของกลาง เรือประมงทรัพย์ธงชัย 3 ยาว 6 เมตร วิทยุสื่อสาร ยี่ห้อซุปเปอร์สตาร์ รุ่น 2004 1 เครื่อง อุปกรณ์ทำการประมงไดหมึก 1 ชุด และปลาหมึกสด 8 กก.ส่ง ร.ต.อ.สากล คำยิ่งยง พนักงานสอบสวน สถานีตำรวจภูธรเพ ดำเนินคดีในข้อหา ร่วมกันทำการประมงไดหมึกในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต ไต๋เรือ ใช้เรือทำการประมงในเขตการประมงไทยโดยไม่มีใบอนุญาตผู้ควบคุมเรือตาม พ.ร.บ.การเดินเรือในน่านน้ำไทย เป็นบุคคลต่างด้าวทำหน้าที่เป็นลูกเรือในเรือประมง ในเขตการประมงไทยโดยมิได้รับอนุญาต นายสมศักดิ์ พูลสำเนา ประธานกลุ่มเรือไดหมึกบ้านเพ เปิดเผยว่า การมาร้องเรียนในวันนี้เพื่อขอให้ทางจังหวัดได้ดำเนินการผ่อนผันการจับกุม เนื่องจากเรือประมงประมาณ 200 ลำ พร้อมลูกเรือ 1,200 คน ต้องจอดเรือไม่กล้าออกทำการประมงเพราะเกรงจะผิดกฎหมาย ส่วนเรื่องไต๋เรือที่ต้องใช้ชาวต่างชาติทางกลุ่มเรือไดหมักยังได้ทำหนังสือข้อชี้แจง ข้อเท็จจริงด้านการประมงของเรือไดหมึก ที่ปัจจุบันส่วนใหญ่จะมีผู้ควบคุมเรือ (ไต๋เรือ) เป็นแรงงานต่างชาติ 90 เปอร์เซ็นต์ เนื่องจากมีความจำเป็นที่ว่า ผู้ควบคุมเรือคนไทยไม่นิยมประกอบอาชีพนี้แล้ว เพื่อให้ทาง คสช.ได้พิจารณาผ่อนผันผ่านทางผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง เพื่อพิจารณาแก้ไขต่อไป

อย่างไรก็ตามสำหรับในเรื่องนี้ทางนายธานี สามารถกิจ ผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง ได้เรียกส่วนที่เกี่ยวข้องมาร่วมประชุมพร้อมกับตัวแทนเรือประมงไดหมึกบ้านเพ เพื่อรวมหาทางออกในการแก้ไขปัญหาก่อนนำเสนอให้ คสช. พิจารณาช่วยเหลือต่อไป

ชาวสวนยางพาราระยอง ยื่นหนังสือผู้ว่าฯ หลังประสบปัญหาราคายางตกต่ำ

เมื่อเวลา 10.30 น.ของวันที่ 26 ส.ค. นายสังเวิน ทวดห้อย ประธานเครือข่ายชาวสวนยางระดับจังหวัดระยอง พร้อมสมาชิกอีกจำนวน 5 คน เข้ายื่นหนังสือต่อนายธานี สามารถกิจ ผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง ที่ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดระยอง เพื่อเรียกร้องให้ทางจังหวัดเร่งช่วยเหลือชาวสวนยางพาราในจังหวัดระยอง หลังจากที่ปัจจุบันนี้ราคาน้ำยางสดเหลือเพียงกิโลกรัมละ 44 บาท ซึ่งเป็นราคาที่ตกต่ำสุด ในรอบ 10 ปี จนชาวสวนยางไม่อาจจะทำสวนยางต่อไปได้ เนื่องจากต้นทุนจะอยู่ที่ราคา 60 กว่าบาท

นายธานี สามารถกิจ ผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง เปิดเผยหลังรับหนังสือว่า จะส่งเรื่องให้ คสช.ทราบ ขอให้ชาวสวนยางระยองหนักแน่นและเข้มแข็งไว้ อยู่อย่างเศรษฐกิจพอเพียง เพราะขณะนี้ทุกส่วนที่เกี่ยวข้องกำลังดำเนินการแก้ไข และขอให้ชาวสวนยางพาราทำน้ำยางให้มีคุณภาพและหันมาทำยางแผ่นเป็นการเพิ่มมูลค่าให้มากขึ้น เนื่องจากตลาดยังให้ความต้องการและมีราคาสูงถึง กก.ละ 55 บาท อย่างไรก็ตาม จะส่งเรื่องร้องเรียนขอความช่วยเหลือดังกล่าว ให้ คสช.ทราบเพื่อดำเนินการแก้ไขอย่างเร่งด่วนต่อไป

ผู้ตรวจฯ มท. ติดตามการดำเนินงานตามนโยบาย คสช. ที่ จ.ตราด ย้ำ เร่งขับเคลื่อนการดำเนินงานของศูนย์ดำรงธรรมให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับประชาชน

(25 ส.ค. 57) นายเกรียงเดช เข็มทอง ผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทย ประจำเขตตรวจราชการที่ 9 พร้อมคณะเดินทางติดตามผลการดำเนินงานตามนโยบายของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) และนโยบายที่สำคัญของกระทรวงมหาดไทย ของจังหวัดตราด โดยมีนางสาวเบญจวรรณ อ่านเปรื่อง ผู้ว่าราชการจังหวัดตราด ตลอดจนส่วนราชการที่เกี่ยวข้องร่วมให้ข้อมูล ที่ห้องประชุมพลอยแดง ศาลากลางจังหวัดตราด

ผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า การติดตามการปฏิบัติงานตามนโยบายของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ของจังหวัด ตราดครั้งนี้ ภาพรวมของจังหวัดตราดยังไม่พบปัญหาในการปฏิบัติงานของหน่วยงานที่เป็นไปตามเป้าหมาย ทั้งนี้ในเรื่องการป้องกันและปราบปรามปัญหายาเสพติด การดูแลและรักษาทรัพยากรป่าไม้ การเตรียมการป้องกันและแก้ไขปัญหาอุทกภัยและดินโคลนถล่มในช่วงฤดูฝน และโดยเฉพาะในเรื่องของการดำเนินการขับเคลื่อนของศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดตราด ซึ่งพบว่าจังหวัดตราดมีการจัดตั้งศูนย์ดำรงธรรมครบทั้งในระดับจังหวัด อำเภอ และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น อย่างไรก็ตามแม้จังหวัดตราดจะมีการจัดตั้งศูนนย์ดำรงธรรมในระดับจังหวัดมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2550 แต่ทางกระทรวงมหาดไทยได้กำชับให้ทางจังหวัดดำเนินการแก้ไขปัญหาของประชาชนที่เข้ามาร้องเรียนผ่านศูนย์ดำรงธรรมให้เกิดผลเป็นรูปธรรม ทั้งนี้หลังจากที่ได้มีการดำเนินการปรับปรุงการดำเนนวงานของศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดตราดตามนโยบาย คสช. ส่วนใหญ่พบเรื่องร้องเรียนในเรื่อง ข้อพิพาทเรื่องที่ดิน 4 เรื่อง เรื่องขอมีบัตรประจำตัวประชาชน 1 เรื่อง เรื่องร้องเรียนเจ้าหน้าที่ของรัฐ 1 เรื่อง และเรื่องทั่วไป 1 เรื่อง

ชาวอำเภอคลองใหญ่ร่วมกันสร้างอาคารรวมใจคลองใหญ่ 100 ปี ร.พ.คลองใหญ่ ฉลองครบ 100 ปีการก่อตั้งอำเภอคลองใหญ่ จ.ตราด

(25 ส.ค. 57) นางสาวเบญจวรรณ อ่านเปรื่อง ผู้ว่าราชการจังหวัดตราด เป็นประธานเปิดอาคารรวมใจคลองใหญ่ 100 ปี และอาคารแสงบูรพา โรงพยาบาลคลองใหญ่ อำเภอคลองใหญ่ จังหวัดตราด โดยมีนายธีรพล ศิรินานุวัฒน์ นายอำเภอเสนา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา อดีตนายอำเภอคลองใหญ่ พร้อมด้วย นายบุญเลิศ วรวงศ์ ปลัดอาวุโสอำเภอคลองใหญ่ แพทย์หญิงโมไนยา พฤทธิภาพย์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลคลองใหญ่ ผู้นำองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น องค์กรภาคเอกชน ผู้นำชุมชน คณะกรรมการกิ่งกาชาดอำเภอคลองใหญ่ แพทย์ พยาบาลและลูกจ้าง โรงพยาบาลคลองใหญ่เข้าร่วมพิธีเปิดผ้าแพรคลุมป้ายอาคารรวมใจคลองใหญ่ 100 ปี พร้อมตัดริบบิ้นเปิดอาคารแสงบูรพา และร่วมพิธีทำบุญถวายภัตตาหารเพลแด่พระภิกษุสงฆ์ภายในอาคารรวมใจคลองใหญ่ 100 ปี

แพทย์หญิงโมไนยา พฤทธิภาพย์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลคลองใหญ่ กล่าวว่า ตามที่โรงพยาบาลคลองใหญ่ ประสบปัญหาความแออัดของตึกคลอด ทำให้การจัดบริการคลอดแก่ผู้รับบริการในอำเภอคลองใหญ่ขาดความสะดวกสบายและมาตรฐานคุณภาพ คณะกิ่งกาชาดอำเภอคลองใหญ่ โดยการนำของ นายธีรพล ศิรินานุวัฒน์ นายอำเภอเสนา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา อดีตนายอำเภอคลองใหญ่ จึงได้มีดำริจัดหาทุนทรัพย์ขยายตึกคลอด โดยการทอดผ้าป่า เนื่องในวาระการจัดตั้งอำเภอคลองใหญ่ครบ 100 ปี ในวันที่ 5 ธันวาคม 2555 จำนวนเงิน 2.5 ล้านบาท โดยพร้อมใจกันตั้งชื่ออาคารดังกล่าวว่า "อาคารรวมใจคลองใหญ่ 100 ปี” นอกจากนี้ โรงพยาบาลคลองใหญ่ ยังพบปัญหาการดูแลผู้ป่วยเฉพาะโรค ที่ต้องใช้การจัดการแบบเบ็ดเสร็จครบวงจร (One stop service) และอาคารสถานที่ที่เหมาะสม โรงพยาบาลจึงระดมทุนจากผู้ใจบุญ ขอรับบริจาคสร้างอาคารแสงบูรพาขึ้นอีกอาคารหนึ่ง ทั้งนี้เนื่องจากในอนาคต โรงพยาบาลคลองใหญ่ ต้องเป็นโรงพยาบาลด่านหน้าแห่งหนึ่งของประเทศในการรองรับประชาคมอาเซียน และพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษ ซึ่งคาดว่าจำนวนผู้ป่วยและผู้รับบริการชาติอาเซียน มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง การเตรียมความพร้อมเพื่อรองรับปัญหาดังกล่าว จึงมีความจำเป็นอย่างยิ่ง

เหล่ากาชาดจังหวัดตราดร่วมสยามเม็คโคร สาขาตราด จัดโครงการ “ปันน้ำใจ ด้วยการให้ที่ยิ่งใหญ่”

(25 ส.ค. 57) นางยุคลฉัตร อิทธิวรกุล รองนายกเหล่ากาชาจังหวัดตราด พร้อมด้วยคณะกรรมการเหล่ากาชาดจังหวัดตราด พร้อมเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลตราด จัดหน่วยออกรับบริจาคโลหิตเคลื่อนที่ ตามโครงการ "ปันน้ำใจ ด้วยการให้ที่ยิ่งใหญ่” ออกรับบริจาคโลหิตจากพนักงานสยามแม็คโคร สาขาตราด และประชาชน บริเวณภายในห้างสรรพสินค้าแม็คโครสาขาตราด

นายสมนึก แก้วสุขศรี ผู้จัดการทั่วไป สยามแม็คโครสาขาตราด กล่าวว่า การจัดโครงการปันน้ำใจ ดพ้วยการให้ที่ยิ่งใหญ่ เป็นอีกโครงการหนึ่งที่ดำเนินการพร้อมกันทั่วประเทศ เพื่อเปิดโอกาสให้พประชาชน พนักงาน ได้ร่วมบริจาคโลหิต 1,000,000 ซี.ซี. เพื่อนำโลหิตที่ได้ไปช่วยเหลือผู้ป่วย และผู้ประสบอุบัติเหตุที่ต้องการโลหิต เนื่องจากปัจจุบันมีโรงพยาบาลชุมชนหลายแห่งกำลังขาดแคลนโลหิตในเกือบทุกหมู่เลือด อย่างไรก็ตามหากประชาชนที่ไม่สามารถเข้าร่วมบริจาคโลหิตในครั้งนี้ได้ ยังสามารถแสดงความจำนงร่วมบริจาคโลหิตโดยสามารถติดต่อบริจาคได้ที่ โรงพยาบาลทุกแห่ง ทุกวันในเวลาราชการ

เรือนจำจังหวัดตราด รวบมือรับจ้างโยนโทรศัพท์มือถือเข้าเรือนจำ สารภาพถูกข่มขู่บังคับและว่าจ้างให้นำมาโยน หวั่นครอบครัวเดือดร้อนจึงรับงาน

(25 ส.ค. 57) เจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจ สภ.เมืองตราด นำโดย ร.ต.ต.ไพศาล สอนสำโรง ร้อยเวร 20 สภ.เมืองตราด ได้รับแจ้งจาก นางสาวอธิชา เขียวเซ็น ผู้บัญชาการเรือนจำจังหวัดตราดว่า ทางเรือนจำจังหวัดตราดสามารถจับกุมตัวผู้ต้องสงสัยพยายามก่อเหตุโยนวัตถุต้องสงสัยเข้าไปในเรือนจำจังหวัดตราดได้จำนวน 2 คน พร้อมด้วยรถจักรยานยนต์ยี่ห้อยามาฮ่าฟีโน่ สีม่วงขาวชมพู ป้ายแดง เลขทะเบียน 14-005 สภ.เมืองตราด และของกลางวัตถุต้องสงสัยบรรจุอยู่ในกระป๋องแป้ง ซึ่งสันนิษฐานว่า น่าจะมีสิ่งของผิดกฎหมายและยาเสพติดอยู่ข้างใน หลังจาก นายขันติ ระกะยาน หัวหน้าฝ่ายการศึกษาและพัฒนาจิตใจเรือนจำจังหวัดตราด พร้อมด้วย นายสราวุธ แรงสูงเนิน นายวีระพงษ์ แก้วใส ผู้คุมเรือนจำจังหวัดตราด และเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของเรือนจำจังหวัดตราด ได้ร่วมทำการจับกุมตัว 2 ชายหญิง ที่ร่วมกันพยายามโยนวัตถุต้องสงสัยเข้าไปในเรือนจำจังหวัดตราด ขณะขับขี่รถจักรยานยนต์เวียนรอบรั้วกำแพงเรือนจำถึง 2 รอบ

หลังรับแจ้งจึงพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจ สภ.เมืองตราด และเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนปราบปราม สภ.เมืองตราด เดินทางไปตรวจสอบ เมื่อไปถึงเรือนจำจังหวัดตราด พบผู้ต้องสงสัยจำนวน 2 คน ทราบชื่อคือ นายประพฤติ เจริญรุ่งเรือง อายุ 20 ปี พักอาศัยอยู่ ต.บ่อ อ.ขลุง จ.จันทบุรี และ นางสาวจามรี เดิมสมบูรณ์ อายุ 22 ปี อยู่บ้านเลขที่ 27/2 ม.5 ต.บ่อ อ.ขลุง จ.จันทบุรี สอบสวน นายประพฤติ เจริญรุ่งเรือง รับว่า ตนเองได้รับการว่าจ้างให้นำสิ่งของมาโยนเข้าเรือนจำจังหวัดตราดจริง โดยได้ค่าจ้างจำนวน 5,000 บาท โดยผู้ว่าจ้างได้ทำการข่มขู่บังคับให้นำมาส่ง ซึ่งหากไม่ทำตนเองและครอบครัวจะเดือดร้อน ส่วน นางสาวจามรี เดิมสมบูรณ์ ที่มาด้วยกัน ตนเองอาศัยให้เป็นผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์มาส่ง เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ผู้คุมเรือนจำจังหวัดตราด ได้ทำการแกะกระป๋องแป้งดังกล่าวออกดู พบโทรศัพท์มือถือยี่ห้อโนเกีย รุ่น 206 จำนวน 2 เครื่อง พร้อมแบตเตอรี่จำนวน 2 ก้อน อุปกรณ์ชาร์จแบต สายสมอลทอร์ค และแบตเตอรี่ต่างขนาดอีกจำนวน 2 ก้อน จึงได้ดำเนินการตรวจยึดไว้เป็นหลักฐาน พร้อมกับนำตัวผู้ต้องหาทั้ง 2 คน พร้อมด้วยของกลางตามรายการดังกล่าว มาทำการสอบปากคำเพิ่มเติมที่ สภ.เมืองตราด ก่อนนำตัวส่ง ร.ต.ท.อดุลย์ศักดิ์ แว่นใหญ่ พนักงานสอบสวน สภ.เมืองตราด ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ตำรวจภูธร ชลบุรี รวบ 2 คนร้ายร่วมกันทำร้ายร่างกายคนอื่นจนเป็นเหตุให้ถึงแก่ความตาย

วันนี้ (วันที่ 26 สิงหาคม 2557) ตำรวจภูธร เมืองชลบุรี ได้จับกุมตัวผู้กระทำความผิด ที่ร่วมกันทำร้ายร่างกายนายเอกลักษณ์ เจริญวัย อายุ 27 ปี จนถึงแก่ความตาย และทำร้ายนายอำนาจ สงค์เจริญ อายุ 25 ปี จนได้รับบาดเจ็บ  ที่ สถานีตำรวจเมืองชลบุรี  และจากการสืบสวนจนทราบว่าผู้ร่วมกระทำผิดในคดีนี้มี จำนวน 4 คน คือ นายสาธิต หรือบอล อ่วมศรี อายุ 28 ปี นายสมยศ หรือกั๊ก ศรีสุโขทัย อายุ 29 ปี นายชยากรณ์ หรือไบร์ มาตศรี อายุ 20 ปี และนายกฤษฎา หรืออาร์ม นิลคำแหง อายุ 18 ปี

พ.ต.อ. สุรพงษ์ ไทยประเสริญ ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรเมืองชลบุรี กล่าวว่า ได้ทำการจับกุมตัวผู้กระทำความผิด ที่ร่วมกันทำร้ายร่างกายนายเอกลักษณ์ เจริญวัย อายุ 27 ปี จนถึงแก่ความตาย และทำร้ายนายอำนาจ สงค์เจริญ อายุ 25 ปี จนได้รับบาดเจ็บ ในวันที่ 25 สิงหาคม 2557 เวลาประมาณ 17.00 น. ที่ผ่านมาซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้สืบทราบว่านายสาธิตฯ ได้มาพักอยู่ที่บ้านพักศูนย์เครื่องจักรกลชลบุรี12 หมู่.2 ต.หนองไม้แดง อ.เมือง จ.ชลบุรี และนายสมยศ หรือกั๊ก ศรีสุโขทัย หลบมาพักอาศัยอยู่ที่บ้านเลขที่ 50/1 ม.1 ตำบลหนองไม้แดง จังหวัดชลบุรี  เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้เดินทางไปตรวจสอบ สถานที่ดังกล่าว พบผู้ต้องหา คือนาย สาธิตฯ ยืนอยู่หน้าบ้านพักศูนย์เครื่องจักรกลชลบุรี 12 และพบนายสมยศ หรือกั๊ก ศรีสุโขทัย พักอยู่ที่บ้านดังกล่าวจริง เจ้าหน้าที่ จึงได้ทำการเชิญตัว ผู้ต้องหา มาที่ สภ.เมืองชลบุรี จากการสอบถามนายสาธิตฯ และนายสมยศฯ ให้การรับว่าได้ร่วมกับพวกรุมทำร้ายร่างกายนายเอกลักษณ์ เจริญวัย จนถึงแก่ความตาย และทำร้ายร่างกายนายอำนาจ สงค์เจริญ จนได้รับบาดเจ็บจริง 

จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจะได้รวบรวมพยานหลักฐาน  เพื่อนำส่งพนักงานสอบสวนเพื่อขออนุญาตศาลออกหมายจับ ผู้ต้องหาดังกล่าวในข้อหาร่วมทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้ผู้นั้นถึงแก่ความตาย  เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้แสดงหมายจับ และได้ทำการจับกุมตัวพร้อมของกลาง คือไม้เบสบอล พร้อมรถยนต์กระบะ ยี่ห้อเซฟโรเลต สีน้ำตาล ทะเบียนป้ายแดง ข - 7929  กรุงเทพมหานคร ซึ่งใช้ในการก่อเหตุในครั้งนี้ นำส่งพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดีต่อไป ส่วนผู้ต้องหา อีก 2 คนที่อยู่ระหว่างการหลบหนี คือ นายชยากรณ์ หรือไบร์ มาตศรี และนายกฤษฎา หรืออาร์ม นิลคำแหง ทางตำรวจจะทำการเร่งจับกุมเพื่อนำตัวมาดำเนินคดีต่อไป



คมศักดิ์ หล่อเถิน/ข่าว/ภาพ

บริษัท ฟูจิ ซีร็อกซ์ (ประเทศไทย) จำกัด จัดงาน “DocuWorld – Smarter Communication for Smart Business” ในพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมอีสเทิร์นซีบอร์ด

นางสาวฐิติรัตน์ ศรีธีระวิโรจน์ ประชาสัมพันธ์จังหวัดชลบุรี เปิดเผยว่า จังหวัดชลบุรี เป็นจังหวัดที่มีศักยภาพในหลายด้าน เช่น การเกษตร การท่องเที่ยว และอุตสาหกรรม โดยเฉพาะด้านอุตสาหกรรม จังหวัดชลบุรี มีนิคมอุตสาหกรรม 5 แห่ง มีโรงงานอุตสาหกรรมนับพันโรง รวมไปถึงจังหวัดระยอง จันบุรี และตราดอีกด้วย บริษัท ฟูจิ ซีร็อกซ์ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้นำด้านผลิตภัณฑ์การพิมพ์และโซลูชั่นสำหรับการจัดการงานเอกสารอย่างครบวงจร ได้เล็งเห็นความสำคัญในเรื่องนี้ จึงได้จัดงาน “DocuWorld – Smarter Communication for Smart Business ณ พัฒนา กอล์ฟ คลับ แอนด์ สปอร์ต รีสอร์ท จังหวัดชลบุรี เป็นงานที่รวบรวมเทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่ๆ ของการบริหารจัดการงานเอกสารสำหรับองค์กรธุรกิจต่างๆ มาจัดแสดงอย่างครบครัน

สำหรับภายในงานนี้ ได้รับเกียรติจากนายพิเชฐ ลำเพาเลิศ,Solution Support Manager บริษัท ฟูจิ ซีร็อกซ์ (ประเทศไทย) จำกัด บรรยายพิเศษในหัวข้อ “การทำงานที่สมาร์ทกว่า ด้วย ฟูจิ ซีร็อกซ์ คลาวด์ LCT โซลูชั่น ซึ่ง Light Communication Tools (LCT) คือ โซลูชั่นแพ็คเกจที่รวมการทำงานของซอฟแวร์ และการบริการไว้ด้วยกัน เพื่อลดกระบวนการทำงานในแต่ละวันลง เพิ่มความสะดวกและรวดเร็วในการบริหารจัดการเอกสารอย่างเป็นระบบ ประกอบด้วย 1) โปรแกรมจัดการเอกสารยอดนิยมอย่าง Docuworks 2) ระบบจัดเก็บข้อมูลบนคลาวด์ที่ได้รับความไว้ใจมากที่สุดในขณะนี้ อย่าง “Working Folder” 3) บริการแปลภาษาบนคลาวด์ผ่านเครื่องมัลติฟังก์ชั่น เสมือนการถ่ายเอกสาร “Scan Translation” และ 4) การบริการบำรุงรักษาเครื่องมัลติฟังก์ชั่นอัตโนมัติอย่าง “EP-BB”

นอกจากนี้ภายในงาน DocuWorld – Smarter Communication for Smart Business ผู้เข้าร่วมงานยังได้ชมการสาธิตการแสดงเทคโนโลยีของเครื่องพิมพ์มัลติฟังก์ชั่น และระบบจัดการเอกสารต่างๆ เช่น ระบบการจัดการเอกสารด้วยการแสกน (OCR) ให้เป็น Microsoft Word หรือ Microsoft Excel, ระบบช่วยแปลเอกสารภาษาต่างประเทศบนคลาวด์ ผ่านเครื่องมัลติฟังก์ชั่น หรือการแชร์ข้อมูลผ่านคลาวด์, ระบบการรับแฟ็กซ์ในรูปแบบเอกสารดิจิตอล และกระจายส่งต่อไปยังปลายทางโดยอัตโนมัติ,ระบบสนับสนุนการจัดการเอกสารอย่างมีประสิทธิภาพ, ระบบจัดการและรักษาความปลอดภัยของงานพิมพ์ และระบบการจัดการงานพิมพ์ใบแจ้งหนี้รูปแบบใหม่ (Planet Press Suite) เป็นต้น” ซึ่งการจัดงานครั้งนี้ได้รับความสนใจจากลูกค้าในพื้นที่แถบนิคมอุตสาหกรรมอีสเทิร์นซีบอร์ด เข้าร่วมงานเป็นจำนวนมากอีกด้วย



ปริญญา/ข่าว/ภาพ

สถาบันวิชาการป้องกันประเทศ จัดประชุมบทบาทของกองทัพในการส่งเสริมความมั่นคงระดับอาเซียน

วันอังคารที่ 26 สิงหาคม พ.ศ. 2557 พลเอกวุฒินันท์ ลีลายุทธ ผู้บัญชาการสถาบันวิชาการป้องกันประเทศ เป็นประธานเปิดการประชุมระดับอาเซียนในหัวข้อบทบาทของกองทัพในการส่งเสริมความมั่นคงของมนุษย์ ณ โรงแรมเอ-วัน เดอะ รอยัล ครูส พัทยา

ศูนย์ศึกษายุทธศาสตร์ สถาบันวิชาการป้องกันประเทศ ได้จัดการประชุมระดับอาเซียนในหัวข้อ บทบาทของกองทัพในการส่งเสริมความมั่นคงของมนุษย์ (The Role of ASEAN in Enhancing Human Security) ระหว่างวันที่ 25 – 28 สิงหาคม 2557 เพื่อเป็นเวทีสำหรับผู้เชี่ยวชาญจากชาติอาเซียน 10 ประเทศ ได้นำเสนอแนวทางในการสร้างความร่วมมือเพื่อรองรับปัญหาความมั่นคงของมนุษย์

ศูนย์ศึกษายุทธศาสตร์ สถาบันวิชาการป้องกันประเทศ ได้ตระหนักถึงความจำเป็นที่ทุกภาคส่วนของประเทศต้องเข้ามามีส่วนร่วมในการรับมือกับปัญหาความมั่นคงของมนุษย์ และในฐานะที่กองทัพเป็นหน่วยงานหลักด้านความมั่นคงมีส่วนร่วมอย่างไร นอกจากนี้อาเซียนจะสร้างความร่วมมือในเรื่องนี้อย่างไร จึงเป็นที่มาของการจัดประชุมในครั้งนี้ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อต้องการให้เป็นเวทีของผู้เชี่ยวชาญจากชาติสมาชิกอาเซียนในการร่วมกันนำเสนอบทบาทของกองทัพในการส่งเสริมความมั่นคงของมนุษย์ และแนวทางการเสริมสร้างความร่วมมือของอาเซียน ภายใต้บรรยากาศแห่งมิตรภาพ

สำหรับการประชุมครั้งนี้มีผู้เข้าร่วมประชุม ประกอบด้วยผู้แทนจากเครือข่ายทางวิชาการ Track ll Network of ASEAN Defence and Security Institutions (NADI) จากชาติสมาชิกอาเซียน 10 ประเทศ จำนวน 33 คน โดยมีการบรรยายพิเศษเรื่อง บทบาทของแรงงานข้ามชาติในประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน จากศาสตราจารย์ ดร.พิริยะ ผลพิรุฬห์ รองคณะบดีวิทยาลัยนานชาติ สถาบันบัณฑิตพัฒนาบริหารศาสตร์ จากนั้นเป็นการนำเสนอเรื่อง บทบาทของกองทัพในการส่งเสริมความมั่นคงของมนุษย์ โดยพลตรี ดร.ไชยอนันต์ จันทคณานุรักษ์ ผู้อำนวยการศูนย์ศึกษายุทธศาสตร์ และจากนั้นเป็นการนำเสนอจากผู้แทนสมาชิกอาเซียน 10 ประเทศในหัวข้อ บทบาทของกองทัพในการส่งเสริมความมั่นคงของมนุษย์ เพื่อการเสริมสร้างความร่วมมือในอาเซียน

ภายหลังการประชุมในครั้งนี้ ศูนย์ศึกษายุทธศาสตร์ สถาบันวิชาการป้องกันประเทศ จะได้รายงานผลการประชุมต่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เพื่อนำหารือแนวทางการเสริมสร้างความร่วมมือในที่ประชุมรัฐมนตรีกลาโหมอาเซียน (ASEAN Cefence ministers Meeting: ADMM) และแจ้งไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐและพลเรือนเพื่อนำไปใช้ประโยชน์ต่องานด้านการเสริมสร้างความมั่นคงของมนุษย์ อันจะนำไปสู่ความผาสุกของประชาชนและความมั่นคงของชาติต่อไป




ปริญญา/ข่าว/ภาพ 

วันอังคารที่ 12 สิงหาคม พ.ศ. 2557

สระแก้วจัดงานเฉลิมพระพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 82 พรรษา 12 สิงหาคม 2557

ที่บริเวณศาลากลางจังหวัดสระแก้ว  เวลา 07.00 น. นายภัครธรณ์ เทียนไชย ผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว เป็นประธาน พร้อมด้วยนางสุภาพร  เทียนไชย นายกเหล่ากาชาดจังหวัดสระแก้ว ในพิธีตักบาตรข้าวสารอาหารแห้ง พระสงฆ์จำนวน 83 รูป เพื่อเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ และเมื่อ 08.10 น. ที่หอประชุมปางสีดา ศาลากลางจังหวัดสระแก้ว ได้จัดให้มีพิธีถวายพระพรชัยมงคลและลงนามถวายพระพรเพื่อสดุดีเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เนื่องในโอกาสเฉลิมพระชนมพรรษา 12 สิงหาคม 2557 และพิธีมอบทุนการศึกษาโดยเหล่ากาชาดสระแก้วจำนวน 200 ทุน เป็นจำนวนเงินทั้งสิ้น 553,000 บาท  การมอบทุนการศึกษาแก่เด็กนักเรียนผู้ด้อยโอกาสทางการศึกษา เพื่อเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษา (12 ส.ค.57) เพื่อให้ความอนุเคราะห์ สนับสนุนเยาวชนผู้ยากไร้ในจังหวัดสระแก้ว ให้มีโอกาสทางการศึกษา มีอนาคตที่ดีสามารถประกอบอาชีพมีรายได้ช่วยเหลือครอบครัวและพัฒนาคุณภาพชีวิตให้ดีขึ้นหลังจากนั้นเป็นการมอบเข็มตราสัญลักษณ์ "กองทุนแม่ของแผ่นดิน”ให้กับหมู่บ้าน/ชุมชนกองทุนแม่ของแผ่นดินในการดำเนินงานป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดมาอย่างต่อเนื่องยาวนานครบ 1 ทศวรรษกองทุนแม่ของแผ่นดิน โดยมอบให้กับหมู่บ้านชุมชนกองทุนแม่ของแผ่นดิน จำนวน 191 กองทุน และในช่วงเย็นได้จัดพิธีถวายเครื่องราชสักการะ และจุดเทียนชัยถวายพระพร โดยพร้อมเพรียงกัน

พ่อเมืองแปดริ้วนำประชาชนชาวฉะเชิงเทรา ทำบุญตักบาตร ถวายเป็นพระราชกุศล แด่ “สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ

วันนี้ (12 ส.ค. 57)  เวลา 07.00 น.  ณ บริเวณหน้าศาลากลางจังหวัดฉะเชิงเทรา  นาย อนุกูล ตังคณานุกูลชัย   ผู้ว่าราชจังหวัดฉะเชิงเทรา   พร้อมด้วย  นาง มารยาท ตังคณานุกูลชัย    นายกเหล่ากาชาดจังหวัดฉะเชิงเทรา   นายบัณฑิตย์  เทวีทิวารักษ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทรา  นาย ไพศาล วิมลรัตน์  รองผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทรา  หัวหน้าส่วนราชการ และประชาชนชาวฉะเชิงเทรา พร้อมใจทำบุญตักบาตร  ข้าวสารอาหารแห้ง  พระสงฆ์ จำนวน 83รูป   เพื่อถวายเป็นพระราชกุศล แด่สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์  พระบรมราชินีนาถ เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคล  เฉลิมพระชนมพรรษา 82  พรรษา 12 สิงหาคม 2557



 ชาญณรงค์/ ข่าว-ภาพ
 ส.ปชส.ฉะเชิงเทรา

จ.ฉะเชิงเทราจัดกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคล เฉลิมพระชนมพรรษา 82 พรรษา 12 สิงหาคม 2557

วันนี้ (12 ส.ค.57) นายอนุกูล ตังคณานุกูลชัย  ผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทรา นำหัวหน้าส่วนราชการ  ข้าราชการ  ทหาร ตำรวจ  พ่อค้า  ประชาชน และ พสกนิกรทุกหมู่เหล่า ร่วมประกอบพิธี ถวายราชสดุดีเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์  พระบรมราชินีนาถ เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคล  เฉลิมพระชนมพรรษา 82 พรรษา 12 สิงหาคม 2557   ณ  ศาลาจัตุรมุข  หน้าศาลากลางจังหวัดฉะเชิงเทรา  โดยผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทรา ประธานในพิธีได้ลงนามถวายพระพร   เปิดกรวยดอกไม้  และอ่านคำถวายราชสดุดีเฉลิมพระเกียรติถวายพระพรชัยมงคล  เพื่อเป็นการแสดงออกถึงความจงรักภักดี และน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ ต่อพระองค์ท่านที่ทรงบำเพ็ญพระราชกรณียกิจ เป็นคุณประโยชน์แก่ประเทศชาติ และประชาชนชาวไทยนานับปการ

นอกจากนี้  ผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทรา ประธานในพิธีได้มอบเกียรติบัตรแม่ดีเด่นและสตรีไทยดีเด่น ในโอกาสวันแม่แห่งชาติประจำปี 2557  จำนวน 3 ราย จากนั้น ผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทรา พร้อมด้วย ข้าราชการ  ทหาร ตำรวจ ร่วมมอบทุนการศึกษาแก่นักเรียน นักศึกษาจำนวน24  ทุน จำนวนเงินทั้งสิ้น 49,000 บาท เพื่อเฉลิมพระเกียรติและถวายเป็นพระราชกุศลฯ

ในโอกาสเดียวกันนี้ ผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทราและคณะข้าราชการได้ร่วมกันปล่อยพันธุ์สัตว์น้ำ ได้แก่ กุ้งก้ามกราม  ปลายี่สก  ปลาตะเพียน  ปลาสลิด  รวมจำนวน 82,0000 ตัว (แปดแสนสองหมื่นตัว) ลงสู่แม่น้ำบางปะกง  เพื่อถวายเป็นพระราชกุศล ฯ  ณ ท่าน้ำบ้านพักผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทรา   และในภาคค่ำ เวลา 19.19 น.  ณ บริเวณศาลาจัตุรมุข  หน้าศาลากลางจังหวัดฉะเชิงเทรา ผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทรา จะนำประชาชนทุกหมู่เหล่าถวายเครื่องราชสักการะ และจุดเทียนถวายพระพรชัยมงคล



ชาญณรงค์ /ข่าว-ภาพ
ส.ปชส.ฉะเชิงเทรา

พสกนิกรชาวฉะเชิงเทราพร้อมใจใส่เสื้อสีฟ้าร่วมจุดเทียนชัยถวายพระพร สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ

วันนี้ (12 ส.ค. 57) เวลา 19.19 น. ณ ศาลาจัตุรมุข หน้าศาลากลางจังหวัดฉะเชิงเทรา นาย อนุกูล ตังคณานุกูลชัย  ผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทรา นำคณะข้าราชการ ทหาร ตำรวจ พ่อค้า นักเรียน นักศึกษา และพสกนิกรจังหวัดฉะเชิงเทราหมู่เหล่า ถวายเครื่องราชสักการะ พานพุ่มเงิน พุ่มทอง และ จุดเทียนชัยถวายพระพรสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์  พระบรมราชินีนาถ เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคล  เฉลิมพระชนมพรรษา 82  พรรษา 12 สิงหาคม 2557   จากนั้นผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทรากล่าวถวายราชสดุดีเฉลิมพระเกียรติและถวายพระพรชัยมงคลต่อหน้าพระบรมฉายาลักษณ์ และร่วมกันร้องเพลงสรรเสริญพระบารมี สดุดีมหาราชา โดยพสกนิกรจังหวัดฉะเชิงเทราพร้อมใจกันเปล่งเสียงทรงพระเจริญอย่างกึกก้อง

พ่อเมืองระยอง นำประชาชนตักบาตรข้าวสาร อาหารแห้งแด่พระภิกษุสงฆ์ ถวายเป็นพระราชกุศล และลงนามถวายพระพรสมเด็จพระนางสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา82 พรรษา

พ่อเมืองระยอง นำประชาชนตักบาตรข้าวสาร อาหารแห้งแด่พระภิกษุสงฆ์ ถวายเป็นพระราชกุศล และลงนามถวายพระพรสมเด็จพระนางสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา82 พรรษา เมื่อเวลา 07.30 น.วันที่ 12 ส.ค.57 ที่บริเวณสวนศรีเมืองระยอง อำเภอเมืองระยอง

 นายธานี สามารถกิจ ผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง เป็นประธานนำข้าราชการ ตำรวจ ทหาร พ่อค้า และประชาชนทุกหมู่เหล่า ทำบุญตักบาตรข้าวสาร อาหารแห้งแด่พระภิกษุสงฆ์ ถวายเป็นพระราชกุศลสมเด็จพระนางสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 82 พรรษา วันที่ 12 สิงหาคม 2557 ที่ได้เวียนมาบรรจบครบรอบอีกวาระหนึ่ง ก่อนที่นายธานี สามารถกิจ ผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง จะเป็นประธานในพิธีลงนามถวายพระพรชัยมงคลฯ วางพานพุ่มเงิน พุ่มทอง และนำกล่าวสดุดีเทิดพระเกียรติสมเด็จพระนางสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ที่หอประชุมศูนย์ราชการจังหวัดระยอง ส่วนในช่วงเย็น เวลาประมาณ 19.00 น.ผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง จะเป็นประธานประกอบพิธีถวายเครื่องราชสักการะพานพุ่มเงิน-พุ่มทอง และจุดเทียนชัยถวายพระพรชัยมงคล ร่วมร้องเพลงสรรเสริญพระบารมี ณ สวนศรีเมืองระยอง

ชุมชนหนองเสือพัฒนา เทศบาลเมืองตราด จัดกิจกรรม เฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เนื่องในโอกาสทรงเจริญพระชนมพรรษา 82 พรรษา วันที่ 12 สิงหาคม 2557

(11 ส.ค. 57) บริเวณชุมชนหนองเสือพัฒนา เทศบาลเมืองตราด อำเภอเมืองตราด นางเสาวลักษณ์ รักความสุข ประธานกรรมการชุมชนหนองเสือพัฒนา เป็นประธานเปิดกรวยถวายพระพรต่อหน้าพระบรมฉายาลักษณ์ สมเด็จนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ พร้อมร่วมร้องเพลงสรรเสริญพระบารมี เพลงใครหนอ และเพลงค่าน้ำนม ร่วมกับชาวบ้านในชุมชนหนองเสือพัฒนา

นางเสาวลักษณ์ รักความสุข ประธานกรรมการชุมชนหนองเสือพัฒนา กล่าวว่า กิจกรรมที่ทางชุมชนหนองเสือพัฒนา ร่วมกันจัดขึ้นในครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อถวายความจงรักภักดีต่อสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ รวมทั้งเพื่อเทิดพระเกียรติและสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ เนื่องในวโรกาสทรงเจริญพระชนมพรรษา 82 พรรษา วันที่ 12 สิงหาคม 2557 ทั้งยังเพื่อเป็นการปลูกจิตสำนึกในความเป็นคนไทย โดยแสดงออกถึงความจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ สำนึกถึงบุญคุณของแม่ ที่ต้องเลี้ยงดูลูกด้วยความยากลำบากกว่าลูกจะโตมาได้ ซึ่งบุญคุณแม่นั้นใหญ่หลวงยิ่งนัก แม่คนเดียวเลี้ยงลูกได้หลายคน แต่ลูกหลายคนจะเลี้ยงแม่คนเดียวได้หรือไม่

เกาะช้างคึกคักวันหยุดยาวเทศกาลวันแม่แห่งชาติ นักท่องเที่ยวจำนวนมากเดินทางมาพักผ่อน

(11 ส.ค. 57) บริเวณท่าเทียบเรือเฟอร์รี่(เรือข้ามฝาก) ฝั่งด้านพื้นที่เกาะช้าง อ.เกาะช้าง จ.ตราด ท่าเทียบเรือทั้ง 2 แห่งบนเกาะช้างยังคงมีนักท่องเที่ยวจำนวนมากเดินทางมาพักผ่อนในช่วงวันหยุดติดต่อกัน ซึ่งบรรยากาศวันนี้ยงมีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติเดินทางโดยใช้รถยนต์ส่วนตัวและนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาด้วยรถปรับอากาศได้ทยอยลงเรือเฟอร์รี่ข้ามฟากเพื่อเดินทางมายังเกาะช้างจำนวนมากโดยพบว่าเรือเฟอร์รี่ที่ให้บริการนั้นจะบรรทุกรถยนต์ข้ามฝากเต็มลำเรือทุกเที่ยวคาดว่ามีรถยนต์กว่า 1,500 คันลงพื้นที่เกาะช้าง

นายจักรพรรดิ์ ตะเวทีกุล นายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยว จ.ตราด เปิดเผยว่า ในช่วงวันหยุดยาวเทศกาลวันแม่แห่งชาติปีนี้ จากการสอบถามไปยังผู้ประกอบการโรงแรม-รีสอร์ท-โฮมสเตย์ ทั้งบนเกาะช้าง,เกาะหมาก,เกาะกูด และแหล่งท่องเที่ยวทางทะเล พบว่ามีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติเดินทางมากันเป็นจำนวนมาก มียอดการจองที่พักล่วงหน้าบนเกาะช้างและเกาะอื่นๆ กว่าร้อยละ 80 ขณะเดียวกันยังทราบว่าทางกรมอุทยานฯได้เปิดโอกาสให้คนไทยที่มากันเป็นครอบครัวไม่เกิน 5 คนได้พาแม่เข้าไปเที่ยว ตามแหล่งท่องเที่ยวในเขตอุทยานทั้งทางบกและทางทะเลได้อีกด้วย

พุทธศาสนิกชนชาวตราด ร่วมกันเจริญจิตตภาวนา ถวายเป็นพระราชกุศล แด่สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เนื่องในโอกาสทรงเจริญพระชนมพรรษา 82 พรรษา

(12 ส.ค. 57) บริเวณศาลาการเปรียญ วัดไผ่ล้อม อำเภอเมืองตราด ข้าราชการ พ่อค้า ประชาชน ชาวตราดต่างร่วมใจเข้าร่วมพิธีเจริญพระพุทธมนต์ ตักบาตรพระสงฆ์ และเจริญจิตตภาวนา ถวายเป็นพระราชกุศล แด่สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 82 พรรษา วันที่ 12 สิงหาคม 2557

สำหรับการจัดพิธีเจริญพระพุทธมนต์ ตักบาตรพระสงฆ์ และเจริญจิตตภาวนาในวันนี้ เพื่อร่วมถวายเป็นพระราชกุศล แด่องค์แม่ของแผ่นดิน เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 82 พรรรษา จึงมีข้าราชการ ประชาชนจำนวนมากเข้าร่วมพิธีกันอย่างล้นหลาม ในจำนวนนี้มีพุทธศาสนิกชนชาวตราดจำนวนมาก ร่วมกันปฏิบัติธรรม เพื่อร่วมถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระองค์ท่านให้ทรงมีพระพลานมัยแข็งแรงอีกด้วย

พสกนิกรจังหวัดตราด พร้อมใจกันทำบุญตักบาตร ถวายเป็นพระราชกุศลแด่ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษา 12 สิงหา มหาราชินี

(12 ส.ค. 57) บริเวณหน้าศาลากลางจังหวัดตราด นางสาวเบญจวรรณ อ่านเปรื่อง ผู้ว่าราชการจังหวัดตราด นำคณะข้าราชการ พ่อค้า ประชาชนจำนวนมาก ร่วมพิธีทำบุญตักบาตรข้าวสารอาหารแห้งแด่พระภิกษุสงฆ์ จำนวน 83 รูป เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เนื่องในโอกกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 82 พรรษา มหาราชินี วันที่ 12 สิงหาคม 2557

สำหรับการจัดพิธีทำบุญตักบาตรเนื่องในโอกาสมหามงคลปีนี้ มีประชาชนจำนวนมากพร้อมใจกันสวมเสื้อสีฟ้าเข้าร่วมเป็นเครื่องแสดงให้เห็นถึงความจงรักภักดีต่อสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ องค์แม่ของแผ่นดิน ที่ทรงประกอบพระราชกรณียกิจมากมายในการช่วยพัฒนาความเป็นอยู่ของประชาชน โดยเฉพาะโครงการศิลปาชีพพิเศษซึ่งเป็นการสร้างอาชีพ สร้างรายได้ให้กับประชาชนผู้ยากไร้ หรือพระราชเสาวนีย์ของพระองค์ท่านในเรื่องของการการแลรักษาสภาพแวดล้อม และการปลูกป่าเพื่อช่วยลดภาวะโลกร้อน อย่างไรก็ตามในช่วงสายของวันเดียวกันเหล่าข้าราชการ และประชาชนชาวตราดจะได้ร่วมกันจัด พิธีเฉลิมพระเกียรติถวายพระพรชัยมงคลและลงนามถวายพระพรแด่พระองค์ท่านส่วนในช่วงค่ำจะได้มีการร่วมกันจุดเทียนชัยเพื่อถวายพระพรและจุดพลุเฉลิมพระเกียรติเนื่องโอกาสมหามงคลในครั้งนี้ ณ บริเวณศาลาประชาคมจังหวัดตราด

จ.ตราดจัดพิธีเฉลิมพระเกียรติถวายพระพรชัยมงคล เนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ

(12 ส.ค. 57) นางสาวเบญจวรรณ อ่านเปรื่อง ผู้ว่าราชการจังหวัดตราด พร้อมด้วยข้าราชการ พ่อค้า ประชาชน ร่วมกันประกอบพิธีเฉลิมพระเกียรติ ถวายพระพรชัยมงคล เนื่องในวโรกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษาสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 82 พรรษา 12 สิงหาคม 2557 โดยมีข้าราชการ ประชาชน ร่วมลงนามถวายพระพร และกล่าวสดุดีเฉลิมพระเกียรติต่อหน้าพระบรมฉายาลักษณ์สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ นอกจากนี้ยังมีการกล่าวคำสดุดีเฉลิมพระเกียรติและถวายพระพรชัยมงคล โดยการจัดพิธีในครั้งนี้มีข้าราชการเข้าร่วมแสดงความจงรักภักดีจำนวนมากเข้าร่วมที่ศาลาประชาคมจังหวัดตราด

ผู้ว่าราชการจังหวัดตราด กล่าวสดุดีเฉลิมพระเกียรติฯ ว่า ข้าราชการ ประชาชนชาวตราดล้วนสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของสมเด็จพระนางฯ พระบรมราชินีนาถ ที่ทรงพระวิริยะอุตสาหะ ปฏิบัติพระราชกรณียกิจน้อยใหญ่ เพื่อให้ประชาชนได้อยู่ดี มีสุข โดยเฉพาะโครงการศิลปชีพพิเศษ ที่สามารถยกฐานะความเป็นอยู่ของประชาชนในชนบทให้ดีขึ้น นอกจากนี้ในด้านการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม พระองค์ท่านทรงริเริ่มโครงการบ้านเล็กในป่าใหญ่ โครงการป่ารักน้ำ โครงการปลูกป่าเฉลิมพระเกียรติ เพื่อให้คนอยู่ร่วมกับป่าอย่างเป็นสุขพร้อมทั้งช่วยลดภาวะโลกร้อน นอกจากนี้ในขณะที่บ้านเมืองประสบปัญหาวิกฤตทางเศรษฐกิจ ประชาชนจำนวนมากได้รับความเดือดร้อน พระองค์ทรงพระราชทานความเมตตา พระราชทานทรัพย์ให้สภาสังคมสงเคราะห์แห่งประเทศไทย ดำเนินโครงการน้ำพระทัยพระราชทาน เป็นกองทุนอาหารกลางวันอนุเคราะห์แด่ผู้ว่างงาน ที่กล่าวมานี้ล่วงเป็นเพียงส่วนหนึ่งในพระราชกรณียกิจของพระองค์ท่านที่ประชาชนชาวไทยทุกคนล้วนซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ท่าน

 อย่างไรก็ตามการจัดพิธีในครั้งนี้ยังได้มีการมอบประกาศเกียรติคุณแม่ดีเด่นของจังหวัดตราด สตรีไทยดีเด่นจังหวัดตราด เยาวสตรีไยดีเด่นจังหวัดตราด และลูกกตัญญูอย่างสูงต่อแม่จังหวัดตราดรวมทั้งสิ้น 11 คนอีกด้วย

พสกนิกรจ.ตราด พร้อมใจกันวางพานพุ่มถวายราชสักการะ และจุดเทียนชัยถวายพระพร เนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษามหาราชินี

(12 ส.ค. 57) นางสาวเบญจวรรณ อ่านเปรื่อง ผู้ว่าราชการจังหวัดตราด เป็นประธานพิธีถวายเครื่องราชสักการะ และจุดเทียนชัยถวายพระพร สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เนื่องในโอกาส ทรงเจริญชนมพรรษา 82 พรรษา วันที่ 12 สิงหาคม 2557 การจัดพิธีในครั้งนี้ข้าราชการ พ่อค้า ประชาชน ตลอดจนนักเรียน นักศึกษา จำนวนมาก คนต่างพร้อมใจกันใส่เสื้อสีฟ้าเข้าร่วมพิธีเพื่อร่วมกันแสดงความจงรักภักดีต่อแม่ของแผ่นดินของชาวไทย โดยจัดขึ้นที่ศาลาประชาคมจังหวัดตราด

สำหรับการจัดพิธีครั้งนี้ประกอบด้วย พิธีวางการวางพานพุ่มถวายราชสักการะ จากหน่วยงานราชการ ภาคเอกชน องค์กรชุมชนต่าง ๆ การจุดเทียนชัยถวายพระพร พร้อมร่วมกันร้องเพลงสดุดีมหาราชา และเพลงสรรเสริญพระบารมี พร้อมกันนี้ผู้เข้าร่วมพิธีทุกคนยังได้ร่วมกันกล่าวคำปฏิญาณตนว่าจะเดินตามรอยเบื้องพระยุคลบาท พร้อมทั้งร่วมกันสร้างความรักสามัคคีให้เกิดขึ้นในสังคม การจัดพิธีครั้งนี้ทางจังหวัดยังได้จัดให้มีการจุดพลุเพื่อร่วมเฉลิมฉลองในโอกาสมหามงคลดังกล่าวพร้อมทั้งฉายภาพยนตร์เฉลิมพระเกียรติอีกด้วย อย่างไรก็ตามการจัดพิธีถวายเครื่องราชสักการะ และจุดเทียนชัยถวายพระพร สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ปรากฎว่าประชาชนชาวตราดจำนวนมากเข้าร่วมพิธีอันเป็นการแสดงออกถึงความจงรักภักดี จนล้นศาลาประชาคมจังหวัดตราด

บรรยากาศวันแม่ที่จันทบุรีคึกคัก

วันแม่จันทบุรีคึกคัก ผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรีนำพสกนิกรทุกหมู่เหล่าร่วมทำบุญตักบาตรและลงนามถวายพระพรสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ในวโรกาสเฉลิมพระชนมพรรษา 82 พรรษา 12 สิงหาคม 2557

วันนี้ ( 12 ส.ค.57 ) ที่บริเวณถนนเทศบาลสาย 3 หน้าอาคารเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช เทศบาลเมืองจันทบุรี ผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรี นายสามารถ ลอยฟ้า ได้นำพสกนิกรทุกหมู่เหล่าในจังหวัดจันทบุรีร่วมพิธีทำบุญ ตักบาตร ข้าวสารอาหารแห้งแด่พระภิกษุสงฆ์จำนวน 83 รูป เพื่อถวายเป็นพระราชกุศล สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชินีนาถ เนื่องในวโรกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 82 พรรษา 12 สิงหาคม 2557  หลังจากนั้น ภายในอาคารเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช เทศบาลเมืองจันทบุรี ผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรีได้นำข้าราชการ ทหาร ตำรวจ กลุ่มพลังมวลชน นักเรียน นิสิต นักศึกษา และประชาชน ร่วมในพิธีถวายพระพรชัยมงคล ถวายราชสดุดีเฉลิมพระเกียรติฯ ต่อพระฉายาลักษณ์ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชินีนาถ เนื่องในวโรกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 82 พรรษา 12 สิงหาคม 2557 พระภิกษุสงฆ์เจริญชัยมงคลคาถา กองเกียรติยศตำรวจภูธรจังหวัดจันทบุรียิงสลุตเฉลิมพระเกียรติ 21 นัด โอกาสนี้จังหวัดจันทบุรีได้จัดให้มีพิธีมอบเกียรติบัตรยกย่องเชิดชูเกียรติ แม่ดีเด่น ระดับจังหวัด คือ นางภรภัทร ประภากร และ นางทองดี แทนทด แม่ดีเด่นประเภทผู้บำเพ็ญประโยชน์ต่อสังคมและประเทศชาติ ส่วนแม่ดีเด่นที่เป็นตัวแทนของจังหวัดจันทบุรีเข้ารับประทานรางวัลจาก พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุ คือ นางมิ่งขวัญ ธีรเศรษฐ์ธำรง แม่ผู้มีความานะอดทน ขยันหมั่นเพียร

ส่วนในภาคค่ำตั้งแต่เวลา 17.00 น.เป็นต้นไป ที่ลานอเนกประสงค์ศูนย์ราชการองค์การบริหารส่วนจังหวัดจันทบุรี ตำบลท่าช้าง อำเภอเมือง ผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรี นายสามารถ ลอยฟ้าจะนำพสกนิกรทุกหมู่เหล่าในจังหวัดจันทบุรีร่วมพิธี ถวายเครื่องราชสักการะ พานพุ่มเงิน พุ่มทอง และพิธีจุดเทียน ถวายพระพรชัยมงคล สำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ มีการแสดงมหรสพเฉลิมพระเกียรติ รำถวายพระพรของนักศึกษาวิทยาลัยนาฏศิลป์จังหวัดจันทบุรี การแสดงพลุ ดอกไม้ไฟเฉลิมพระเกียรติฯ




จรัล บรรยงคเสนา /ภาพ/ข่าว ( 12 ส.ค.57 )
                 ธเนศ เธียรนันทน์/ตรวจ 

พิธีถวายเครื่องราชสักการะพานพุ่มดอกมะลิ เฉลิมพระเกียรติ

วันอังคารที่ 12 สิงหาคม 2557 จังหวัดชลบุรี จัดพิธีถวายเครื่องราชสักการะพานพุ่มดอกมะลิ และจุดเทียนชัยถวายพระพรเฉลิมพระเกียรติแด่สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ  เนื่องในโอกาสที่ทรงเจริญ พระชนมพรรษาครบ 82 พรรษา ในวันที่ 12 สิงหาคม 2557 โดยมีนายคมสัน เอกชัย ผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี เป็นประธานในพิธี ณ บริเวณสนามหน้าศาลากลางจังหวัดชลบุรี   

นายคมสัน เอกชัย ผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี เป็นประธาน พิธีถวายเครื่องราชสักการะพานพุ่มดอกมะลิ และจุดเทียนชัยถวายพระพร เฉลิมพระเกียรติแด่สมเด็จพระนางเจ้าฯ  พระบรมราชินีนาถ เนื่องในโอกาสที่ทรงเจริญพระชนมพรรษาครบ 82 พรรษา ในวันที่  12  สิงหาคม 2557 โดยมีหัวหน้าส่วนราชการ สมาชิกวุฒิสภาจังหวัดชลบุรี สมาชิกเหล่ากาชาดจังหวัดชลบุรี องค์กรเอกชน นิสิต นักศึกษา และประชาชนชาวจังหวัดชลบุรี ทุกหมู่เหล่าต่างแสดงออกถึงความจงรักภักดี ต่อใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาท ที่เวียนมาบรรจบอีกวาระหนึ่ง และเป็นการสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ อันสุดจะหาสิ่งใดมาเปรียบพรรรณาได้ในพระราชภารกิจที่ทรงปฏิบัติ เสียสละความสุขส่วนพระองค์ ซึ่งตลอดระยะที่ทรงดำรงพระอิสริยศักดิ์ สมเด็จพระบรมราชินีคู่พระบารมีแห่งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ผู้ทรงพระคุณอันประเสริฐใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาท ได้ทรงตรากตรำพระวรกาย บำเพ็ญพระราชกรณียกิจน้อยใหญ่ ทรงส่งเสริมอาชีพ และด้านการศึกษาในถิ่นทุรกันดาร ทรงห่วงใยในงานอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมและทรัพยากรธรรมชาติ มีการฟื้นฟูสภาพป่าเสื่อมโทรม และปลูกป่าขึ้นใหม่ ด้วยพระปรีชาสามารถ กอปรทั้งทรงมีเมตตาธรรมและพระจริยธรรมที่ล้ำเลิศ จนเป็นที่เลื่องลือตลอดถึงนานาอารยประเทศ พระมหากรุณาธิคุณนี้จารึกอยู่ในดวงใจของชาวไทยทั้งมวล ดังนั้นชาวจังหวัดชลบุรีต่างสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ  จึงได้จัดพิธีถวายเครื่องราชสักการะพานพุ่มดอกมะลิ และจุดเทียนชัยถวายพระพร เฉลิมพระเกียรติแด่สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เนื่องในโอกาสที่ทรงเจริญพระชนมพรรษาครบ 82 พรรษา ในวันที่ 12  สิงหาคม 2557 ขึ้น  



ปริญญา/ข่าว/ภาพ

กาชาด เปิดรับบริจาคโลหิต ถวายเป็นพระราชกุศล เฉลิมพระชนมพรรษา 12 สิงหาคม 2557

วันอังคารที่ 12 สิงหาคม พ.ศ. 2557 นางบุศราวดี เอกชัย นายกเหล่ากาชาดจังหวัดชลบุรี พร้อมด้วย นายพงษ์ศักดิ์ ปรีชาวิทย์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี นำคณะกรรมการกาชาดจังหวัดชลบุรี ได้จัดกิจกรรมรับบริจาคโลหิต เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เนื่องในวโรกาสเฉลิมพระชนมพรรษา 82 พรรษา 12 สิงหาคม 2557 ณ สำนักงานเหล่ากาชาดจังหวัดชลบุรี

เหล่ากาชาดจังหวัดชลบุรี ร่วมกับภาคบริการโลหิตแห่งชาติที่ 3 จังหวัดชลบุรี สภากาชาดไทย จัดกิจกรรมรับบริจาคโลหิตเพื่อแสดงความจงรักภักดี แด่สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ สำหรับการจัดกิจกรรมในวันนี้ ได้มีทหาร ตำรวจ นักเรียน นักศึกษา พร้อมทั้งพ่อค้าประชาชน ได้มาร่วมบริจาคโลหิตกันเป็นจำนวนมาก

นอกจากนี้ นายกเหล่ากาชาดจังหวัดชลบุรี ขอเชิญข้าราชการ ทหาร ตำรวจ นักเรียน นักศึกษา และพ่อค้าประชาชนทุกหมู่เหล่า ร่วมบริจาคโลหิตได้ตลอดเดือนสิงหาคม 2557 นี้ และได้ดำเนินการออกหน่วยเคลื่อนที่รับบริจาคโลหิต ตลอดเดือนสิงหาคม 2557 สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ภาคบริการโลหิตแห่งชาติที่ 3 จังหวัดชลบุรี สภากาชาดไทย โทรศัพท์ 038 – 278905038 – 278905 หรือ 085 – 1116199085 – 1116199



ปริญญา/ข่าว/ภาพ

จังหวัดชลบุรี จัดพิธีเจริญพระพุทธมนต์ถวายพระพรชัยมงคล

วันอังคารที่ 12 สิงหาคม พ.ศ. 2557 นายคมสัน เอกชัย ผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี เป็นประธานในพิธีถวายพระพรชัยมงคลเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 82 พรรษา 12 สิงหาคม 2557 ณ ศาลาเฉลิมพระเกียรติ

นายคมสัน เอกชัย ผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี พร้อมด้วยข้าราชการทุกฝ่าย และพสกนิกรจังหวัดชลบุรีทุกหมู่เหล่า มีความปลาบปลื้มปีติเป็นล้นพ้นที่ได้มาร่วมชุมนุมกัน ณ บริเวณมณฑลพิธีแห่งนี้ เพื่อแสดงความจงรักภักดีโดยพร้อมเพียงกันน้อมเกล้าน้อมกระหม่อม ถวายพระพรชัยมงคล เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 82 พรรษา 12 สิงหาคม 2557 แห่งไต้ฝ่าละอองธุลีพระบาทที่เวียนมาบรรจบครบรอบปีอีกวาระหนึ่ง ขอพระราชทานน้อมเกล้าน้อมกระหม่อม ถวายพระพรชัยมงคลขอคุณพระศรีรัตนตรัยและสรรพสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในสากล โปรดอภิบาลบันดาลดลให้สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน ทรงพระเกษมสำราญ พระเกียรติคุณแผ่ไพศาลมีพระประสงค์จำนงใดของจงสัมกฤทธิ์ผล สถิตเป็นพระมิ่งขวัญคู่พระบารมีพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ทรงเป็นร่มโพธิ์ทองของพสกนิกรโดยทั่วถ้วนตราบกาลนิรันดร์   



ปริญญา/ข่าว/ภาพ

ชาวชลบุรี ร่วมกันทำบุญตักบาตรเพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ จำนวนมาก

วันอังคารที่ 12 สิงหาคม พ.ศ. 2557 นายคมสัน เอกชัย ผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี พร้อมด้วยนายพงษ์ศักดิ์ ปรีชาวิทย์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี นำคณะข้าราชการ ทหาร ตำรวจ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น คณะกาชาดจังหวัด และพ่อค้าประชาชนทุกหมู่เหล่าทำบุญตักบาตร เนื่องในวันเป็นวันเฉลิมพระชนมพรรษา 82 พรรษา สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์  พระบรมราชินีนาถ ณ บริเวณหอพระพุทธสิหิงค์

เนื่องในวันที่ 12 สิงหาคมของทุกปี เป็นวันเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์  พระบรมราชินีนาถ นายคมสัน เอกชัย ผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี พร้อมด้วย ข้าราชการ ตำรวจ ทหาร องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และพ่อค้าประชาชนทุกหมู่เหล่า พร้อมใจกันตักบาตรข้าวสารอาหารแห้ง แด่พระภิกษุสงฆ์ จำนวน 83 รูป เพื่อถวายเป็นพระราชกุศล และเป็นการแสดงความจงรักภักดีแด่สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ในวโรกาสวนเฉลิมพระชนมพรรษา 82 พรรษา เพื่อแสดงถึงความจงรักภักดีต่อสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ องค์แม่ของแผ่นดิน ที่ทรงประกอบพระราชกรณียกิจมากมายในการช่วยพัฒนาความเป็นอยู่ของประชาชน โดยเฉพาะโครงการศิลปาชีพพิเศษ ซึ่งเป็นการสร้างอาชีพ สร้างรายได้ให้กับประชาชนผู้ยากไร้ หรือพระราชเสาวนีย์ของพระองค์ท่านในเรื่องของการการแลรักษาสภาพแวดล้อม และการปลูกป่าเพื่อช่วยลดภาวะโลกร้อน

สำหรับสิ่งของที่ประชาชนใส่บาตรในวันนี้ คณะสงฆ์จะนำไปถวายแด่พระภิษุสงฆ์ที่อาพาสต่างโรงพยาบาลต่างๆ ในจังหวัดชลบุรี อีกส่วนนำไปมอบให้กับผู้สูงอายุ ผู้ด้วยโอกาส และผู้ยากไร้ต่อไป




ปริญญา/ข่าว/ภาพ

วันอังคารที่ 5 สิงหาคม พ.ศ. 2557

ระยองเชิญชวนร่วมพิธีปล่อยพันธุ์สัตว์น้ำ เพื่อเป็นการเฉลิมพระเกียรติ ถวายความจงรักภักดี และถวายเป็นพระราชกุศล แด่สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ เจริญพระชนมพรรษา 82 พรรษา 12 สิงหาคม 2557

ระยองเชิญชวนร่วมพิธีปล่อยพันธุ์สัตว์น้ำ เพื่อเป็นการเฉลิมพระเกียรติ ถวายความจงรักภักดี และถวายเป็นพระราชกุศล แด่สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ เจริญพระชนมพรรษา 82 พรรษา 12 สิงหาคม 2557

นายมาโนช โอสถเจริญ ได้รับแจ้งจากสำนักงานประมงจังหวัดระยองว่า ด้วยในวันที่ 12 สิงหาคม 2557 เป็นวันเฉลิมพระชนมพรรษาสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชินีนาถ เนื่องในโอกาสที่สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ เจริญพระชนมพรรษา 82 พรรษา จังหวัดระยองโดยสำนักงานประมงจังหวัดระยอง กำหนดจัดพิธีปล่อยพันธุ์สัตว์น้ำ เพื่อเป็นการเฉลิมพระเกียรติ ถวายความจงรักภักดี และถวายเป็นพระราชกุศล แด่สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 82 พรรษา 12 สิงหาคม 2557 ณ บริเวณอ่างเก็บน้ำดอกกราย ตำบลแม่น้าคู้ อำเภอปลวกแดง จังหวัดระยอง ในวันที่ 7 สิงหาคม 2557 เวลา 09.00 น

จึงขอเชิญชวนร่วมพิธีดังกล่าวโดยทั่วกัน



สวรส/ข่าว

ระยอง จัดโครงการน้ำพระทัยพระราชทาน เลี้ยงอาหารกลางวันแก่ผู้ตกงาน และผู้ประสบความทุกข์ยาก เพื่อน้อมเกล้าฯ ถวายเป็นพระราชกุศลแด่สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ

ระยอง จัดโครงการน้ำพระทัยพระราชทาน เลี้ยงอาหารกลางวันแก่ผู้ตกงาน และผู้ประสบความทุกข์ยาก เพื่อน้อมเกล้าฯ ถวายเป็นพระราชกุศลแด่สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ

เมื่อวันที่ 4 ส.ค. ที่ศูนย์ฟื้นฟูสมรรถภาพคนงาน ภาคตะวันออก จ.ระยอง จังหวัดระยอง ได้จัดพิธีโครงการน้ำพระทัยพระราชทาน เพื่อน้อมเกล้าฯ ถวายเป็นพระราชกุศล สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ โดยสภาสังคมสงเคราะห์แห่งประเทศไทยฯ ร่วมกับจังหวัดระยอง สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จ.ระยอง สำนักงานเหล่ากาชาด จ.ระยอง ชมรมแม่บ้านมหาดไทย จ.ระยอง และชมรมแม่ดีเด่นแห่งชาติประจำ จ.ระยอง โดยมีนางสุพรรณี สามารถกิจ นายกเหล่ากาชาด จ.ระยอง ประธานในพิธีฯ โดยได้จัดกิจกรรมเลี้ยงอาหารกลางวัน และมอบสิ่งของ ยาเวชภัณฑ์ แก่ผู้ตกงาน และผู้ประสบความทุกข์ยากเดือดร้อนในจังหวัดระยอง

สำหรับวัตถุประสงค์การจัดกิจกรรมเลี้ยงอาหารกลางวันผู้ตกงาน และผู้ประสบความทุกข์ยากเดือดร้อนในจังหวัดระยองครั้งนี้นั้น เกิดขึ้นเนื่องจากโครงการน้ำพระทัยพระราชทาน สภาสังคมสงเคราะห์แห่งประเทศไทยฯ ดำเนินงานมาเป็นปีที่ 15 สภาสังคมสงเคราะห์แห่งประเทศไทยฯ จึงถือโอกาสนี้ ร่วมกับสมาคมส่งเสริมวัฒนธรรมหญิงจังหวัด เหล่ากาชาดจังหวัดทั่วประเทศ รวม 76 จังหวัด จัดกิจกรรมโครงการน้ำพระทัยพระราชทานเลี้ยงอาหารกลางวันแก่ผู้ตกงาน และผู้ประสบความทุกข์ยากเดือดร้อนและกิจกรรมอื่นๆ ตามความเหมาะสมในช่วงเดือนสิงหาคม 2557 เพื่อน้อมเกล้าฯ ถวายเป็นพระราชกุศลแด่สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ




วฐิต/ข่าว

ระยองเตรียมจัดงานเฉลิมพระเกียรติฯ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถเนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 82 พรรษา 12 สิงหาคม 2557

นายธานี สามารถกิจ ผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง เปิดเผยว่า ด้วยจังหวัดระยอง กำหนดจัดกิจกรรรมเฉลิมพระเกียรติฯ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถเนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 82 พรรษา 12 สิงหาคม 2557 ในวันที่ 12สิงหาคม 2557 ณ บริเวณสวนศรีเมือง และหอประชุมศูนย์ราชการจังหวัดระยอง อำเภอเมือง จังหวัดระยอง เพื่อเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถและเป็นการร่วมกิจกรรมที่แสดงออกถึงความจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์และร่วมบำเพ็ญคุณงามความดีถวายเป็นพระราชกุศลสร้างความสมานฉันท์ให้เกิดแก่ประชาชนในชาติ เนื่องในวโรกาสที่สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงเจริญพระชนมพรรษา 82 พรรษา ในวันอังคารที่ 12 สิงหาคม 2557 โดยมีกำหนดการดังนี้

ภาคเช้า เวลา 07.00 น. พิธีทำบุญตักบาตรเพื่อถวายเป็นพระราชกุศล(ข้าวสารอาหารแห้ง) จำนวน 83 รูป ณ สนามสวนศรีเมือง -เวลา 09.30 น. พิธีลงนามถวายพระพรชัยมงคล และลงนามถวายพระพร ณ ศูนย์หอประชุมศูนย์ราชการจังหวัดระยอง การแต่งกาย ข้าราชการ เครื่องแบบปกติขาว หรือ เครื่องแบบปฏิบัติการแขนยาวโดยอนุโลม ประชาชน ชุดไทยพระราชทาน ชุดผ้าไทยเลยหรือชุดสุภาพ ,นักเรียนนักศึกษาและกลุ่มพลังมวลชนต่างๆ เครื่องแบบตามสังกัด และ

ภาคค่ำ เวลา 17.30 น.เป็นต้นไป พิธีถวายเครื่องราชสักการะ และพิธีจุดเทียนชัยถวายพระพรชัยมงคลและถวายสดุดีเฉลิมพระเกียรติ ณ สนามสวนศรีเมือง การแต่งกายชุดสุภาพ จึงขอเชิญข้าราชการและประชาชนทุกหมู่เหล่า ไปร่วมงานเฉลิมพระเกียรติฯ 12 สิงหามหาราชินี ตามวันเวลาและสถานที่ดังกล่าวโดยพร้อมเพรียงกัน



ข่าว/พิมพ์ สวรส รูปแก้ว

ผู้นำท้องถิ่นใน จ.ตราด จัดแข่งขันฟุตบอลในกีฬาสานสัมพันธ์กำนันผู้ใหญ่บ้านจังหวัดตราด ใช้กีฬาฟุตบอลสร้างความปรองดองสมานฉันท์

สนามกีฬาในร่มฟุตบอล 7 คน หน้าองค์การบริหารส่วนตำบลวังกระแจะ อำเภอเมืองตราด นางสาวเบญจวรรณ อ่านเปรื่อง ผู้ว่าราชการจังหวัดตราด เปิดการแข่งขันฟุตบอลนัดพิเศษ ระหว่าง ทีมสตรีส่วนราชการศาลากลางจังหวัด เอฟซี พบกับทีมกำนันผู้ใหญ่บ้านสตรีจังหวัดตราด ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการแข่งขันฟุตบอลในกีฬาสานสัมพันธ์กำนันผู้ใหญ่บ้านจังหวัดตราด ซึ่งทางชมรมกำนัน ผู้ใหญ่บ้านจังหวัดตราด ดำเนินการจัดขึ้น โดยได้รับการสนับสนุนจากองค์การบริหารส่วนจังหวัดตราด สำหรับการแข่งขันฟุตบอลในรายการนี้จัดขึ้นเพื่อเป็นการเปิดโอกาสให้ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้นำท้องถิ่นในจังหวัดตราดได้มีโอกาสออกกำลังกาย รวมทั้งเป็นการสร้างความปรองดองสมานฉันท์ ความรักสามัคคี ให้เกิดขึ้นในกลุ่มผู้นำท้องถิ่นในจังหวัดตราด โดยใช้กีฬาฟุตบอลเป็นสื่อ สำหรับการแข่งขันฟุตบอลรายการนี้ได้จัดให้มีการจัดแข่งขันฟุตบอลคู่พิเศษ เพื่อเป็นการสร้างความสนุกสนานเสริมสร้างความสามัคคีเสริมสีสันในการแข่งขันกีฬาในรายการนี้

จัดหางานจังหวัดตราด ย้ำเตือนนายจ้างที่มารับบริการศูนย์บริการจดทะเบียนแรงงานต่างด้าวแบบเบ็ดเสร็จ (One Stop Service) เตรียมเอกสารมาให้พร้อมแจ้งขยายเวลาการดำเนินการของศูนย์ฯ

(3 ส.ค. 57) นางรัตนาภรณ์ วัชโรทัย จัดหางานจังหวัดตราด เปิดเผยว่า ตามที่ประกาศของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ฉบับที่ 117/2557 เรื่อง การจัดตั้งศูนย์บริการจดทะเบียนแรงงานต่างด้าวแบบเบ็ดเสร็จ (One Stop Service) เพิ่มเติม ลงวันที่ 21 กรกฎาคม 2557 เรื่องให้ขยายระยะเวลาการดำเนินงานของศูนย์บริการจดทะเบียนแรงงานต่างด้าวแบบเบ็ดเสร็จ (One Stop Service) จังหวัดตราดออกไปอีกจนถึงวันที่ 31 มีนาคม 2558 และให้ใบอนุญาตทำงานที่ศูนย์บริการจดทะเบียนแรงงานต่างด้าวแบบเบ็ดเสร็จ (One Stop Service) ที่ออกให้แก่แรงงานต่างด้าวใช้จนถึงวันที่ 31 มีนาคม 2558 เพื่อให้แรงงานต่างด้าวเข้าสู่กระบวนการตรวจสอบสัญชาติเพื่อการออกใบอนุญาตให้ทำงานอยู่ในราชอาณาจักรเป็นการชั่วคราวและใบอนุญาตทำงานตามที่กฎหมายกำหนดต่อไป เพื่อให้การดำเนินการเป็นไปตามประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติ จึงขอให้นายจ้างที่ยื่นแบบบัญชีรายชื่อแรงงานต่างด้าวไว้กับสำนักงานจัดหางานจังหวัดตราด และได้รับการแจ้งนัดทางโทรศัพท์ไปดำเนินการตามวันและเวลาที่กำหนด ณ ศูนย์บริการแรงงานแรงงานต่างด้าวแบบเบ้ดเสร็จ (One Stop Service) จังหวัดตราด ภายในศาลากลางจังหวัดตราดชั้น 1 โดยมีเอกสารที่ต้องเตรียม ดังนี้ แบบกรอกข้อมูลทะเบียนประวัติของคนไม่มีสัญชาติไทย 1คน/1 ฉบับ สำเนาแบบบัญชีรายชื่อแรงงานต่างด้าว (แบบ 1) ที่แจ้งกับสำนักงานจัดหางานจังหวัดตราด และหนังสือมอบอำนาจให้ญาติมาดำเนินการ กรณีนายจ้างไม่ได้ไปด้วยตนเอง (พร้อมสำเนาบัตรประชาชนผู้รับมอบอำนาจ) ค่าธรรมเนียมการอนุญาตถึงวันที่ 31 มีนาคม 2558 บ่างเป็นค่าทำบัตร 80 บาท ค่าตรวจดรค 500 บาท ค่าบัตรประจำตัวสุขภาพ 1,600 บาท และค่าใบอนุญาตทำงาน 900 บาท รวมเป็นเงิน 3,080 บาทต่อคน หากมีข้อสงสัยสามารถติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ สำนักงานจัดหางานจังหวัดตราด ศาลากลางจังหวัด ตำบลบางพระ อำเภอเมือง จังหวัดตราด โทรศัพท์. 0-3953-0841 , 0-3952-0218 และ 08-8928-2270 ในวันและเวลาราชการ

จังหวัดตราดเตรียมจัดงาน “เกษตรรวมใจบริการประชาชน เทิดไท้องค์ราชินี” ภายใต้โครงการเกษตรสมานฉันท์

(4 ส.ค. 57 ) นายนุวัตร แพงเรือน เกษตรและสหกรณ์จังหวัดตราด เปิดประชุมเตรียมความพร้อมในการจัดงาน "เกษตรรวมใจบริการประชาชน เทิดไท้องค์ราชินี” โดยมีส่วนราชการสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์และหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุม ที่ห้องประชุมตราดสีทอง ศาลากลางจังหวัดตราด

นายนุวัตร แพงเรือน เกษตรและสหกรณ์จังหวัดตราด กล่าวว่า กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้มอบหมายให้สำนักงานเกษตรและสหกรณ์จังหวัดตราด จัดงานเกษตรบริการประชาชนภายใต้โครงการเกษตรสมานฉันท์ร่วมกันพัฒนาตามแนวทางปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง เพื่อเทิดไท้องค์ราชินี เพื่อบริการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของเกษตรกรในพื้นที่ ทั้งนี้ที่ประชุมได้กำหนดจะจัดงานขึ้นในวันที่ 19 สิงหาคม 2557 เวลา 08.30 – 16.00 น. ณ บริเวณศาลาประชาคมจังหวัดตราด สำหรับการจัดงานดังกล่าวมีกิจกรรมที่หลากหลาย อาทิ การออกร้านค้าเกษตรกร การเปิดศูนย์ให้บริการด้านปศุสัตว์ ด้านพืช ด้านประมง และการแสดงดนตรี คาดว่าจะมีเกษตรกรและประชาชนทั่วไปเข้าร่วมงานนี้มากกว่า 400 คน

ททท. ดัน จังหวัดจันทบุรีแ ละจังหวัดตราด เป็น 2 ใน 10 “เมืองต้องห้าม...พลาด” ทำตลาดการท่องเที่ยวปี 58

(4 ส.ค. 57 ) นายกฤษฎา รัตนพฤกษ์ ผู้อำนวยการกองตลาดภาคตะวันออก การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กล่าวระหว่างบรรยายการส่งเสริมตลาดการท่องเที่ยว ปี 2558 ของ ททท. ในเวที "ฝ่าวิกฤตการท่องเที่ยวจังหวัดตราด” ว่า ในปี 2558 การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย หรือ ททท. ได้มีโครงการส่งเสริมการท่องเที่ยวเมืองทางเลือก โดยการนำเสนอ 10 แหล่งท่องเที่ยวใหม่ที่น่าสนใจทั่วประเทศ เพื่อกระจายการท่องเที่ยวสู่จังหวัดท่องเที่ยวทางเลือกที่มีเอกลักษณ์ และมีศักยภาพในการรองรับนักท่องเที่ยว ภายใต้แนวคิด "เมืองต้องห้าม...พลาด” ซึ่งจังหวัดตราดเป็น 1 ใน 10 ของเมืองต้องห้าม...พลาด ทั้งนี้ในภาคตะวันออกมีจังหวัดจันทบุรีและตราด เป็น 2 เมืองต้องห้าม...พลาด โดยจังหวัดจันทบุรีมีจุดขายอยู่ที่ สวนสวรรค์ร้อยพันธุ์ผลไม้ และจังหวัดตราดมีจุดขายอยู่ที่เป็นเมืองเกาะในฝัน อย่างไรก็ตามในภาคตะวันออกนับเป็นอีกภาคหนึ่งที่มีศักยภาพในการรองรับการท่องเที่ยวโดยมีมิติเด่น 4 ด้าน คือ 1. ทะเลตะวันออก 2.เป็นประตูสู่นครวัด นครธมทางถนน 3.มีสถานที่ประชุม สัมนา ที่อยู่ใกล้กรุงเทพฯ และ 4. มีสนามกอล์ฟที่ได้มาตรฐาน ซึ่งนับเป็นจุดเด่นที่เป็นปัจจัยให้นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศ จำนวนไม่น้อยเดินทางเข้ามาพักผ่อนในพื้นที่ภาคตะวันออก

จ.ตราด เปิดเวที“ฝ่าวิกฤตการท่องเที่ยวจังหวัดตราด”เดินหน้าเชื่อมโยงแหล่งท่องเที่ยวทางทะเลกับการท่องเที่ยวชุมชน

(4 ส.ค. 57) นางสาวเบญจวรรณ อ่านเปรื่อง ผู้ว่าราชการจังหวัดตราด กล่าวระหว่างการบรรยายพิเศษนโยบายการท่องเที่ยวของจังหวัดตราด ในเวทีการประชุมวิสามัญ ครั้งที่ 1 / 2557 ของสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดตราด "ฝ่าวิกฤตการท่องเที่ยวจังหวัดตราด” ว่า จังหวัดตราดนับเป็นจังหวัดที่มีศักยภาพในการองรับการท่องเที่ยว เห็นได้จากตัวเลขแต่ละปีมีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศเดินทางเข้ามาเยือนนับล้านคน ทั้งนี้จังหวัดตราดมีความโชคดีที่มีแหล่งท่องเที่ยวที่หลากหลายไว้รองรับนักท่องเที่ยวทั้งธรรมชาติทางทะเล เกาะต่าง ๆ รวมทั้งยังมีแหล่งท่องเที่ยวชุมชนที่มีศักยภาพในการองรับนักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบการท่องเที่ยวเชิงนิเวศ เช่น ชุมชนบ้านน้ำเชี่ยว ชุมชนบ้านสลักคอก ชุมชนห้วยแร้ง ชุมชนบ้านช้างทูน เป็นต้น อย่างไรก็ตามการที่มีแหล่งท่องเที่ยวชุมชนที่มีศักยภาพนำมาเป็นจุดขาย แต่ในเรื่องของการบริหารจัดการการท่องเที่ยว โดยเฉพาะการเชื่อมโยงการท่องเที่ยวระหว่างแหล่งท่องเที่ยวหลักกับแหล่งท่องเที่ยวชุมชนจะต้องอาศัยความร่วมมือผู้ประกอบการด้านธุรกิจการท่องเที่ยวที่ประกอบธุรกิจในเชิงพาณิชย์ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นสมาชิกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดตราด และมีประสบการด้านการตลาดมากกว่ากลุ่มท่องเที่ยวในชุมชน หาการท่องเที่ยวทั้งสองเกิดการเชื่อมโยงการท่องเที่ยวระหว่างกัน จะเป็นการสร้างจุดแข็งให้กับการท่องเที่ยวของจังหวัดตราด ที่สามารถตอบสนองความต้องการของนักท่องเที่ยวกลุ่มต่าง ๆ ได้อย่างหลากหลายขึ้น เกิดความยั่งยืนในการพัฒนาการท่องเที่ยวของจังหวัดตราด

จังหวัดตราด เปิดศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดตราด ให้บริการรับเรื่องร้องเรียน ร้องทุกข์ นำสู่การแก้ไขปัญหาให้กับประชาชน

(4 ส.ค. 57) นางสาวเบญจวรรณ อ่านเปรื่อง ผู้ว่าราชการจังหวัดตราด เป็นประธานเปิดศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดตราด ซึ่งทางจังหวัดได้ดำเนินการปรับปรุงและพัฒนาศูนย์ดำรงธรรมที่มีอยู่เดิม โดยจัดตั้งศูนย์ดังกล่าวขึ้นที่สำนักงานจังหวัดตราด ชั้น 3 อาคารศาลากลางจังหวัดตราด ในการทำหน้าที่รับเรื่องร้องเรียน ร้องทุกข์ ความเดือดร้อนจากประชาชน นำสู่การแก้ไขโดยใช้กลไกลภาครัฐ

ผู้ว่าราชการจังหวัดตราด กล่าวว่า ตามที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติ ได้ออกประกาศฉบับที่ 96 / 2557 เรื่องการจัดตั้งศูนย์ดำรงธรรมเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารงานระดับจังหวัด สามรถให้บริการประชาชนได้อย่างเสมอภาค มีคุณภาพ รวดเร็ว ลดขั้นตอนการปฏิบัติงาน อย่างไรก็ตามแม้ก่อนหน้านี้ทางจังหวัดได้จัดตั้งศูนย์ดำรงธรรม มาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2545 แล้ว ทางจังหวัดได้ดำเนินการปรับปรุงพัฒนาการดำเนินของศูนย์ในครั้งนี้ โดยเฉพาะการตั้งหน่วยงานภาครัฐที่มีส่วนเกี่ยวข้องในการให้บริการประชาชนร่วมเป็นคณะกรรมการศูนย์ ในการปฏิบัติงานของศูนย์ฯมี อัยการจังหวัด อัยการจังหวัดคดีเยาวชนและครอบครัว และอัยการคุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือประชาชนทางกฎหมายและการบังคับคดี เป็นกรรมการที่ปรึกษา โดยมีส่วนงานหลักประกอบด้วย ส่วนงานรับเรื่องร้องเรียน ส่วนงานบริการข้อมูลข่าวสาร ส่วนงานบริการประชาชน รวมทั้งศูนย์ดำรงธรรมอำเภอ ซึ่งได้เตรียมความพร้อมในการให้บริการประชาชน ซึ่งได้มีการเปิดรับเรื่องร้องเรียนโดยตรงที่ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัด ผ่านทางโทรศัพท์ ทางสื่ออนไลน์อย่างเฟสบุ๊ค เพื่อให้สามารถแก้ไขปัญหาให้กับประชาชนได้อย่างเป็นรูปธรรม รวดเร็ว เป็นธรรม

เหล่ากาชาดจังหวัดจันทบุรีมอบบ้านแก่ผู้ยากไร้ ผู้ด้อยโอกาส บรรเทาความเดือดร้อน

สำนักงานเหล่ากาชาดจังหวัดจันทบุรี ร่วมกับนักธุรกิจกลุ่มทุนมังกรสร้างบ้านให้แก่ผู้ยากไร้ ด้อยโอกาส มอบช่วยเหลือบรรเทาความเดือดร้อนแก่ผู้ยากไร้ในพื้นที่อำเภอแหลมสิงห์

วันนี้ ( 5 ส.ค.57 ) พระศรีศาสนโสภณ รองเจ้าคณะจังหวัดจันทบุรี เจ้าอาวาสวัดโค้งสนามเป้า พร้อมด้วยนายสามารถ ลอยฟ้า ผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรี นางรัชนี ลอยฟ้า นายกเหล่ากาชาดจังหวัดจันทบุรี นายเฉลิมพล ศักดิ์คำ ตัวแทนนักธุรกิจชาวจันท์กลุ่มทุนมังกร ได้นำสมาชิกคณะกรรมการเหล่ากาชาดและนักธุรกิจกลุ่มทุนมังกรร่วมกันมอบบ้านโครงการบ้านกาชาดเฉลิมพระเกียรติ ประจำปี 2557 ให้แก่ผู้ยากไร้ ผู้ด้อยโอกาสและยากจนในพื้นที่อำเภอแหลมสิงห์จังหวัดจันทบุรีเพื่อเป็นการแบ่งเบาภาระช่วยเหลือสังคม สร้างที่อยู่อาศัยถาวรให้ครอบครัวผู้ยากไร้ได้อยู่อาศัยอย่างอบอุ่น โดยมีนายอำเภอแหลมสิงห์ ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กำนัน – ผู้ใหญ่บ้าน คณะกรรมการชุมชนร่วมเป็นสักขีพยานในการมอบบ้าน   สำหรับครั้งนี้เป็นการมอบบ้านที่สร้างแล้วเสร็จจำนวน 3 หลัง ให้แก่ นางฉะอ้อน สุขคง บ้านเลขที่ 18 หมู่ที่ 7 ตำบลปากน้ำแหลมสิงห์  นายจำลอง สมัครพรรณ บ้านเลขที่ 28 หมู่ 8 ตำบลปากน้ำแหลมสิงห์ และ บายบุญเที่ยง สมุดไทย บ้านเลขที่ 4/1 หมู่ที่ 10 ตำบลพลิ้ว อำเภอแหลมสิงห์  



จรัล บรรยงคเสนา/ภาพ/ข่าว (  5 ส.ค. 57 )
                       ธเนศ  เธียรนันทน์/ตรวจข่าว

จังหวัดจันทบุรี ตั้งชุดปฏิบัติการ ทำทันที สนับสนุนการดำเนินงานศูนย์ดำรงธรรม

จังหวัดจันทบุรีจัดตั้งชุดปฏิบัติการ ทำทันที สนับสนุนการดำเนินการของศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดจันทบุรี รวดเร็ว ทันใจ เรียกง่าย ใช้คล่อง ไม่ต่อรอง ไม่มีผลประโยชน์

นายสามารถ ลอยฟ้า ผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรี กล่าวว่า ตามที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติได้ออกประกาศเรื่องการจัดตั้งศูนย์ดำรงธรรมเพื่อขับเคลื่อนงานการบริหารบ้านเมืองที่ดีให้บังเกิดผลเป็นรูปธรรม มีประสิทธิภาพและประสิทธิผล บูรณาการหน่วยงานต่าง ๆ ให้มีความเป็นเอกภาพเป็นศูนย์บริการร่วมตามมาตรา 32 แห่งพระราชกฤษฎีกา และเพื่อให้การดำเนินงานเป็นไปอย่างคล่องตัวเกิดประโยชน์แก่ประชาชน จังหวัดจันทบุรีจึงได้แต่งตั้งชุดปฏิบัติการ ทำทันที หรือ ททท.จังหวัดจันทบุรีขึ้น เพื่อสนับสนุนการดำเนินการของศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดจันทบุรีให้รวดเร็ว ทันใจ เรียกง่าย ใช้คล่อง ไม่ต่อรอง ไม่มีผลประโยชน์

ทั้งนี้ศูนย์ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดจันทบุรีจะทำหน้าที่ในการรับเรื่องร้องเรียน ร้องทุกข์ ให้บริการข้อมูลข่าวสาร ให้คำปรึกษา แก้ปัญหา ความต้องการและข้อเสนอแนะของประชาชน และทำหน้าที่เป็นศูนย์บริการร่วมตามมาตรา 32 แห่งพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการบริหารบ้านเมืองที่ดี พ.ศ.2546 โดยประชาชนสามารถติดต่อขอรับบริการจากศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดจันทบุรีได้ที่ชั้น 3 อาคารศาลากลางจังหวัดจันทบุรี หมายเลขโทรศัพท์ 039 – 328333 หรือ สายด่วน 1567



จรัล บรรยงคเสนา/ภาพ/ข่าว (  5 ส.ค. 57 )
                       ธเนศ  เธียรนันทน์/ตรวจข่าว 

มูลนิธิอาสาเพื่อพึ่ง (ภาฯ) ยามยาก สภากาชาดไทย จัดการประกวดประกอบอาหารพื้นเมืองจากเดียว และอาหารจานหวานทั่วประเทศ

วันอังคารที่ 5 สิงหาคม พ.ศ. 2557 พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุ ทรงพระกรุณาโปรดให้ พลอากาศเอก อนุพันธ์ สนิทวงศ์ ณ อยุธยา รองประธานมูลนิธิอาสาเพื่อนพึ่ง (ภาฯ) ยามยาก สภากาชาดไทย เป็นผู้แทนพระองค์ฯ มอบโล่ผู้ชนะการประกวดประกอบอาหารและของหวานที่ทำจากข้าไรซ์เบอร์รี่ ระดับเขต ในกิจกรรม “อิ่มสุข ไรซ์เบอร์รี่ คุกกิ้ง คอนเทสต์” ณ เวทีการประกาศผลการประกวดประกอบอาหารและของหวานที่ทำจากข้าวไรซ์เบอร์รี่ ระดับเขต ในกิจกรรม “อิ่มสุข ไรซ์เบอร์รี่ คุกกิ้ง คอนเทสต์” ณ เซ็นทรัลพลาซาชลบุรี จังหวัดชลบุรี

พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุ นายกกิตติมศักดิ์ตลอดชีพมูลนิธิอาสาเพื่อนพึ่ง (ภาฯ) ยามยาก สภากาชาดไทย มีพระประสงค์ที่ให้มูลนิธิฯ ช่วยเหลือการฟื้นฟูอาชีพชาวนา ผู้ประสบอุทกภัยอย่างยั่งยืนโดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่มีอาชีพชาวนา

มูลนิธิอาสาเพื่อนพึ่ง (ภาฯ) ยามยาก สภากาชาดไทย ร่วมกับธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตเกษตรชาวนา โดยการผลิตอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูง (ข้าว Rice Berry) สำหรับบริโภค และสร้างรายได้เพื่อยกระดับสู่การขยายช่องทางการตลาด และบริโภค ด้วยการส่งเสริมใช้ข้าว  Rice Berry เป็นส่วนผสมในการประกอบอาหาร และอาหารหวาน ที่ทำจากข้าว Rice Berry ให้หลากหลายอันจะนำไปสู่การเพิ่มอุปสงค์ ยังผลให้ข้าว Rice Berry มีความต้องการมากยิ่งขึ้น

นายนิยม รัตนเย็นใจ รองผู้อำนวยการฝ่ายกิจการสาขาภาคตะวันออก กล่าวว่า มูลนิธิอาสาเพื่อนพึ่ง (ภาฯ) ยามยาก สภากาชาดไทย ร่วมกับธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ดำเนินการจัดประกวดอาหารจากข้าวไรซ์เบอร์รี่ ในระดับภูมิภาครวม 9 ภาค โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมให้ผู้บริโภค หันมาบริโภคบำบัดมากมาย มากยิ่งขึ้น สนับสนุนและส่งเสริมให้ชาวนาปรับเปลี่ยนมาปลูกข้าวไรซ์เบอร์รี่ที่มีมูลค่ามากกว่าข้าทั่วไป ซึ่งส่งผลให้ชาวนามีรายได้เพิ่มขึ้น และสนับสนุนส่งเสริมภูมิปัญญาการประกอบอาหารพื้นเมืองโดยประยุกต์ใช้ข้าวไรซ์เบอร์รี่พัฒนาเป็นเมนูอาหารใหม่ๆ ที่มีคุณค่าทางโภชนาการต่อไป

สำหรับการประกวดในครั้งนี้ เป็นการจัดประกวดของเขตพื้นที่ ฝ่ายกิจการสาขาภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน และฝ่ายกิจการสาขาภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ส่วนรางวัลการประกวดผู้ได้รับรางวัลการประกวดทั้ง 2 ประเภท ได้รับเงินรางวัล 3,000 บาท พร้อมโล่รางวัล ผู้ที่ได้รับรางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1 ทั้ง 2 ประเภท ได้รับเงินรางวัล 2,000 บาท พร้อมใบประกาศนียบัตร และผู้ที่ได้รับรางวัลรองชนะเลิศอันดับ 2 ทั้ง 2 ประเภท ได้รับเงินรางวัล 1,000 บาท พร้อมใบประกาศนียบัตร ซึ่งผู้ที่ได้รับรางวัลชนะเลิศและรองชนะเลิศอันดับ 1 ของแต่ละเขตพื้นที่ ได้สิทธิ์เข้าร่วมการแข่งขันประกวดอาหารระดับประเทศ ที่กรุงเทพฯ ในงาน 12 สิงหาคม 2557 “เพื่อนพึ่ง (ภาฯ) อิ่มสุข ไรซ์เบอร์รี่ ออร์แกนิก แฟร์” เพื่อชิงถ้วยประทานจากพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุ นายกกิตติมศักดิ์ตลอดชีพมูลนิธิอาสาเพื่อนพึ่ง (ภาฯ) ยามยาก สภากาชาดไทย



ปริญญา/ข่าว/ภาพ

สำนักงานการค้าภายในจังหวัดชลบุรี จัดการประชุมเชื่อมโยงตลาดลำไยคุณภาพสูงสู่ตลาดปลายทาง ระหว่างผู้ผลิตและผู้ค้าปลายทาง

วันนี้ (วันที่ 5 สิงหาคม 2557) นางวิชชุดา  กันตีวงศ์ สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร เขต 1 เป็นประธาน การประชุมเชื่อมโยงตลาดลำไยคุณภาพสูงสู่ตลาดปลายทาง ระหว่างผู้ผลิตและผู้ค้าปลายทาง จังหวัดชลบุรี ตามโครงการยกระดับการแข่งขันสินค้าเกษตรให้ได้มาตรฐานและมูลค่าเพิ่ม ณ โรงแรมรัตนชลบุรี อำเภอเมือง จังหวัดชลบุรี โดยมีตัวแทนผู้ผลิต ผู้ประกอบการในเขตพื้นที่จังหวัดชลบุรี และหัวหน้าส่วนราชการ เข้าร่วมการประชุม

นางวิชชุดา  กันตีวงศ์  กล่าวว่า การประชุมเชื่อมโยงตลาดลำไยคุณภาพสูงสู่ตลาดปลายทาง ระหว่างผู้ผลิตและผู้ค้าปลายทาง จังหวัดชลบุรี ตามโครงการยกระดับการแข่งขันสินค้าเกษตรให้ได้มาตรฐานและมูลค่าเพิ่ม เพื่อเป็นการเชื่อมโยงระหว่างภาค ผู้ผลิต กับผู้ประกอบการได้มาทำธุรกิจตลาดการค้าร่วมกัน โดยฝ่ายผู้ผลิตจะได้นำเสนอสิ้นค่าผลิตภัณฑ์ แปรรูปที่ทำมาจาก ลำไย อาทิเช่น สินค้าแปรรูปลำไยอบแห้งสีทอง ลำไยกระป๋อง สินค้าลำไยอบกรอบ  ชาลำไย  ไวน์ลำไย เค้กลำไย  ตลอดจนผลิตภัณฑ์แปรรูปต่างๆ ซึ่งทำมาจากลำไย  โดยมีกระบวนการผลิต และขั้นตอนการผลิตลำไยที่ได้รับมาตรฐาน GAP (Good Agricultural Practics) คือ การไม่ใช้สารเคมีที่ต้องห้าม และการใช้สารเคมีอื่นๆอยู่ในระดับที่ปลอดภัย มีการรับรองแปลงจากกรมวิชาการเกษตรในพื้นที่ และมาตรฐาน Organic Thailand จากกรมวิชาการเกษตร  กระทรวงเกษตรและสหกรณ์  กระบวนการผลิตต้องสะอาด ปลอดภัย ไม่มีการใช้สารเคมีในทุกขั้นตอน  อีกด้วย ซึ่งจะช่วยรับประกันในคุณภาพของสิ้นค้าและผลิตภัณฑ์ เพื่อให้ผู้ประกอบการในจังหวัดชลบุรีที่สนใจและมั่นใจในผลิตภัณฑ์ต่างๆที่ทำมาจากลำไย สามารถนำไปจำหน่ายให้กับผู้บริโภคต่อไปอีกด้วย




คมศักดิ์ หล่อเถิน/ข่าว

ชลบุรี จัดการประชุมการมีส่วนร่วมในการสร้างทางหลวง 344

วันอังคารที่ 5 สิงหาคม 2557 นายคมสัน เอกชัย ผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี เป็นประธานประชุมการมีส่วนร่วมของประชาชนในโครงการก่อสร้างทางหลวงหมายเลข 344 ตอน ชลบุรี – อำเภอบ้านบึง ณ ห้องประชุมองค์การบริหารส่วนตำบลหนองรี อำเภอเมือง จังหวัดชลบุรี

ทางหลวงหมายเลข 344 ตอน ชลบุรี – อำเภอบ้านบึง มีจุดเริ่มต้นจาก กม.0+000 ถึง กม.13.721 เป็นเส้นทางหลวงที่มีความสำคัญของจังหวัดชลบุรี โดยเฉพาะด้านการสัญจรของประชาชนในพื้นที่ การเชื่อมโยงระบบคมนาคมขนส่งทั้งในพื้นที่อำเภอเมือง อำเภอบ้านบึง จังหวัดชลบุรี การขนส่งสินค้าจากนิคมอุตสาหกรรม รวมทั้งสามารถเชื่อมต่อโครงข่ายทางหลวงที่รองรับการเดินทางจากทางหลวงพิเศษหมายเลข 7 ซึ่งปัจจุบันเส้นทางหลวงดังกล่าวข้างต้นเป็นทางหลวงขนาด 4 ช่องจราจร มีปริมาณการจราจรเฉลี่ยรายวัน (AADT) 52,539 คันต่อวัน คิดเป็นเปอร์เซ็นต์รถบรรทุกหนัก 29 % และยังจำเป็นต้องมีการพัฒนาแนวเส้นทางดังกล่าวเพื่อให้สามารถรองรับการพัฒนาทางเศรษฐกิจและการค้าระหว่างภูมิภาคและยังเป็นประโยชน์ต่อประเทศต่อไป

นายคมสัน เอกชัย ผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี กล่าวว่า คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ได้อนุมัติงบประมาณจำนวน 4,200 กว่าล้านบาท ดำเนินการซ่อมบำรุงทาง 6 เส้นทางหลักในพื้นที่จังหวัดชลบุรีเป็นระยะเวลา 3 ปี หนึ่งในจำนวนนี้ คือทางหลวงหมายเลข 344 เพื่อขยายช่องจราจรจากเดิม 4 ช่องจราจร เป็น 6 ช่องทางจราจร เพื่อเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพของการคมนาคมขนส่ง ให้มีความสะดวกปลอดภัยและมีความรวดเร็วในการเดินทาง รวมถึงเพิ่มขีดความสามารถในการรองรับปริมาณการจราจรและขนส่งที่เพิ่มขึ้น

สำหรับทางหลวงหมายเลข 344 ตอน ชลบุรี – อำเภอบ้านบึง ระหว่าง กม.2+500 – กม.12+700 ระยะทางรวมประมาณ 10.200 กิโลเมตร อยู่ในเขตพื้นที่ ตำบลบ้านสวน – ตำบลหนองรี อำเภอเมือง จังหวัดชลบุรี และตำบลหนองซ้ำซาก – ตำบลบ้านบึง อำเภอบ้านบึง จังหวัดชลบุรี โดยจะเริ่มดำเนินการก่อสร้างประมาณ เดือนตุลาคม 2557 ระยะเวลาก่อสร้างประมาณ 24 เดือน ขอให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นดังกล่าว อำนวยความสะดวกโดยการติดป้ายบอกเส้นทาง พร้อมให้บริการประชาชนในการสัญจรไปมา

และในวันนี้ได้จัดการประชุมประชาชนในพื้นที่เพื่อให้ประชาชนได้รับทราบข้อมูลข่าวสาร พร้อมขอให้ประชาชนหลีกเลียงเส้นในช่วงเวลาดังกล่าว เพื่อเป็นการเผยแพร่ประชาสัมพันธ์โครงการให้ประชาชนได้รับทราบ โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่อาศัยอยู่สองข้างทางในบริเวณพื้นที่โครงการและผู้ใช้เส้นทาง หากมีข้อสงสัยประการใดสามารถติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ แขวงการทางชลบุรี เลขที่ 213 หมู่2 ตำบลหนองไม้แดง อำเภอเมือง จังหวัดชลบุรี โทรศัพท์ 038 – 758538 – 40 ในวันและเวลาราชการ




ปริญญา/ข่าว

จังหวัดชลบุรี จัดงาน “กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ร่วมใจ คืนความสุขสู่ประชาชน ครั้งที่ 2 ”

สำนักงานสหกรณ์จังหวัดชลบุรี นำโดยนายสนิท ตันสมบัติ ผู้อำนวยการกลุ่มส่งเสริมสหกรณ์ 3 นำข้าราชการ และพนักงานราชการ ซึ่งเป็นผู้ดูแล ให้คำแนะนำ และส่งเสริมสหกรณ์การเกษตรบางละมุง จำกัด เข้าร่วมการประชุมใหญ่สามัญประจำปี ของสหกรณ์ และเป็นประธานในการประชุม พร้อมจัดงานกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ร่วมใจ คืนความสุขสู่ประชาชน ครั้งที่2

การประชุมในครั้งนี้ นายมานพ ศิริมาก ประธานกรรมการสหกรณ์การเกษตรบางละมุง จำกัด เปิดเผยว่า ตลอดระยะเวลา 2 ปี ที่เข้ามาบริหารสหกรณ์แห่งนี้ มีความรู้สึกเข้าใจถึงบทบาท หน้าที่ และความสำคัญของการบริหารงาน อีกทั้งการร่วมกันแก้ไขปัญหาด้วยวิธีการทางสหกรณ์โดยการช่วยเหลือซึ่งกันและกันตามหลักการสหกรณ์ คณะกรรมการดำเนินงานมีความพยามยามทำหน้าที่จากที่ประชุมใหญ่ด้วยความมุ่งมั่นและต้องการเห็นการเปลี่ยนแปลงของสหกรณ์ไปในทิศทางที่ดีขึ้น และร่วมแรงร่วมใจ เสียสละให้กับการปฎิบัติงาน ทำให้ในปีนี้สหกรณ์มีผลประกอบการดีขึ้น และขอยืนยันว่า สหกรณ์การเกษตรบางละมุง จำกัด ได้บริหารงานด้วยความโปร่งใส ยึดหลักการมีส่วนร่วมของมวลสมาชิก และสามารถตรวจสอบการดำเนินงานได้ สำหรับวาระการประชุมที่สำคัญ เช่น การดำเนินงานของสหกรณ์ฯ ปี 2556, พิจารณาเลือกตั้งคณะกรรมการดำเนินการและผู้ตรวจสอบกิจการ, แผนการดำเนินงานและประมาณการรับ-จ่ายประจำปี, กำหนดวงเงินกู้ยืม, และกำหนดค่าตอบแทน เป็นต้น

สำหรับการประชุมใหญ่สามัญประจำปีของสหกรณ์การเกษตรบางละมุง จำกัด ในครั้งนี้มีการจัดงาน กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ร่วมใจ คืนความสุขสู่ประชาชน ครั้งที่ 2 และสหกรณ์การเกษตรบางละมุง คืนความสุขสู่สมาชิก โดยใช้ขบวนการสหกรณ์เป็นพลังขับเคลื่อน ซึ่งงานดังกล่าวมีกิจกรรม เพื่อสร้างความสุขให้กับประชาชนและผู้ที่สนใจมาร่วมงาน อาทิ การนำสินค้าอุปโภคบริโภค ที่จำเป็น เช่น ไข่ไก่ น้ำมันพืช และสินค้าอื่นๆ จากสหกรณ์และกลุ่มเกษตรกรที่จำเป็นต่อการครองชีพ ตลอดจนสินค้าจากกลุ่มอาชีพในสังกัดสหกรณ์และกลุ่มเกษตรกรมาจำหน่ายให้กับประชาชนผู้บริโภคโดยตรง ในราคายุติธรรม เพื่อสร้างขวัญกำลังใจให้ประชาชนให้มีโอกาสซื้อสินค้าคุณภาพในราคาพิเศษอย่างทั่วถึงและเท่าเทียมกัน รวมทั้งเป็นการช่วยส่งเสริมความเข้มแข็งให้แก่สมาชิกสหกรณ์และกลุ่มเกษตรอีกด้วย



ปริญญา/ข่าว/ภาพ

ทหารตำรวจสัตหีบ รวบเครือข่ายยาบ้า เรือนจำชลบุรี

พ.ต.อ.ชนพัฒน์ นวลักษณ์ ผกก.ส.ภ.สัตหีบ น.อ.คมพันธ์ อุปลานนท์  ผู้อำนวยการยุทธการและการข่าว ฐานทัพเรือสัตหีบ  น.ท.อัศวิน จอดสมุทร พ.ต.ท.ปวัชร์ชัย สุดสาคร รอง ผ.กก.สส.สภ.สัตหีบและตำรวจชุดสืบสวน แถลงผลการจับกุมผู้จำหน่ายยาเสพติดและเสพยาเสพติด ได้ผู้ต้องหารวม 9 ราย ของกลางยาบ้า 936 เม็ด รถจักรยานยนต์ 1 คัน โทรศัพท์มือถือ 3เครื่อง และเงินสดอีกจำนวนหนึ่ง สำหรับผู้ต้องหาที่ จำหน่ายยาเสพติด ประกอบด้วย นายมนตรี หรือมอส ใจก๋ง อายุ 19 ปี ยาบ้าจำนวน 780 เม็ด (สวมเสื้อ สีฟ้า) นายวิริยะ หรือคอส ทองเอม อายุ 19 ปี ยาบ้าจำนวน 78 เม็ด( สวมเสื้อตอกลมสีดำ) นาย ศรันย์ หรือโจ งามสุวรรณ อายุ 18 ปี ยาบ้าจำนวน78เม็ด (สวมเสื้อคอปกสีน้ำตาล) ดำเนินมียาเสพติดไว้เพื่อจำหน่ายและจำหน่าย   ส่วนอีก 6 คน พบปัสสาวะเป็นสีม่วง เสพสารเสพติด

พ.ต.ท.ปวัชร์ชัย สุดสาคร รอง ผ.กก.สส.สภ.สัตหีบกล่าว่า ก่อนการจับกุมผู้ต้องหาทั้ง3รายนี้เจ้าหน้าที่ได้จับกุมผู้เสพยาเสพติดได้จำนวน6รายจากการขยายผลได้ข้อมูลว่านายคอส หรือนายวิริยะ ทองเอมได้จำหน่ายยาบ้าอยู่ชุมชนบ้านบางสเร่จึงสนธิกำลังทหารตำรวจออกสืบสวนพบตัวอยู่ที่สะพานปลาเพทาย หมู่4 ตำบลบางสเร่ อำเภอสัตหีบจึงเข้าตรวจค้นตัวพบยาบ้าจำนวน78เม็ดขยายผลต่อจนทราบว่านายคอสได้รับยาบ้ามาจากนายสมชายและนายมอสจึงติดตามและพบตัวนายมอสที่ริมหาดบางสเร่ใกล้ร้านอาหารเรือนทะเล ค้นตัวพบยาบ้าจำนวน 780เม็ด ซึ่งนายมอสให้การว่ายาบ้าดังกล่าวเป็นของนายสมชายหรือนายต้นให้ตนเก็บรักษาไว้ จากนั้นได้ขยายผลทราบว่านายศรันย์ หรือโจ งามสุวรรณ ซึ่งมีพฤติการณ์รับจ้างนำยาบ้าไปส่งให้ลูกค้า โดยรับใบสั่งมาจากนายกอล์ฟ หรือเอก ผู้ต้องขังในเรือนจำแห่งหนึ่ง จึงร่วกันสืบสวนติดตามจนพบตัวนาย ศรันย์ ที่บริเวณวัดเทพปราสาท ในขณะที่รอส่งยาบ้าให้ลูกค้า ตรวจค้นภายในตัวพบยาบ้าจำนวน78เม็ดให้การว่ากำลังจะส่งยาบ้าให้ลูกค้า ตามคำสั่งของนายกอล์ฟ ซึ่งสั่งการมาทางโทรศัพท์ มาจากในเรือนจำชลบุรี จึงแจ้งข้อกล่าวหา มียาเสพติดให้โทษประเภทที่1 (ยาบ้าหรือเมทแอมเฟตามีน) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฏหมาย และดำเนินคดีตามกฎหมายบ้านเมืองต่อไป



ปริญญา/ข่าว/ภาพ