วันจันทร์ที่ 15 กันยายน พ.ศ. 2557

มาแปลก โจรเมืองระยอง ตระเวนขโมยลอกเปลือกต้นอินทรีย์หรือต้นเสม็ด ที่ขึ้นอยู่ตามสวนผลไม้ ทำให้ชาวสวนได้รับความเสียหายแล้วในหลายพื้นที่ บางสวนถูกโจรย่องขโมยทุกปี ซึ่งคาดว่า น่าจะเอาเปลือกของต้นอินทรีย์ หรือต้นเสม็ด ไปใช้ดองแมงกะพรุน

มาแปลก โจรเมืองระยอง ตระเวนขโมยลอกเปลือกต้นอินทรีย์หรือต้นเสม็ด ที่ขึ้นอยู่ตามสวนผลไม้ ทำให้ชาวสวนได้รับความเสียหายแล้วในหลายพื้นที่ บางสวนถูกโจรย่องขโมยทุกปี ซึ่งคาดว่า น่าจะเอาเปลือกของต้นอินทรีย์ หรือต้นเสม็ด ไปใช้ดองแมงกะพรุน เมื่อเวลา 10.00 น.วันที่ 15 ก.ย.ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีชาวสวนผลไม้ในตำบลนาตาขวัญ ตำบลบ้านแลง และตำบลตะพง อ.เมืองระยอง ได้รับความเดือดร้อนจากหัวขโมยที่ออกอาละวาด ตระเวรขโมยลอกเปลือกต้นอินทรีย์ หรือต้นเสม็ดที่ขึ้นตามธรรมชาติในสวนผลไม้ของเกษตรกรชาวสวนผลไม้ โดยเฉพาะ ท้องร่อง ขอบบ่อน้ำ โดยพบว่า ต้นอินทรีย์ หรือต้นเสม็ด ทุกต้น จะถูกขโมยลอกเปลือกจนรอบ ส่งผลให้ต้นอินทรีย์ หรือต้นเสม็ด หลายต้นต้องยืนต้นตาย ทั้งนี้บางสวนพบว่า ถูกโจรแสบแอบย่องมาขโมยทุกปี ในช่วงฤดูฝน

นายพิมพ์ วิเศษศรี อายุ 86 ปี ชาวสวนผลไม้ในตำบลนาตาขวัญ บอกว่า ต้นอินทรีย์ ที่ขึ้นอยู่ ริมบ่อน้ำ ในสวนผลไม้ มักจะถูกขโมย ลอกเปลือก เพื่อนำไปดองแมงกะพรุน ทุกๆ ปี เนื่องจากมีรสชาติฝาด และมีคุณสมบัติดึงน้ำออกจากตัวแมงกะพรุนได้เป็นอย่างดี จึงเป็นที่นิยมในช่วงฤดูฝนนี้ แต่ในปีนี้สถานการณ์รุนแรงมาก เพราะได้ข่าวมาว่า มีแมงกะพรุน ขึ้นเยอะมาก ทำให้หัวขโมย พากันแอบเข้ามาในสวนช่วงกลางคืน แล้วทำการลอกเปลือกต้นอินทรีย์ หรือต้นเสม็ดแดง เกือบทุกต้น และลอกเปลือกจนรอบต้น ทำให้ต้นอินทรีย์ หรือต้นเสม็ดแดงยืนต้นตายไปหลายต้น ทั้งนี้รู้สึกเสียดาย เพราะต้นอินทรีย์ หรือต้นเสม็ดแดง ที่ใช้งานได้ ล้วนมีอายุนับสิบปี เมื่อถูกลอกเปลือกไปแล้ว หากต้นยังไม่ตายกว่าจะมีเปลือกขึ้นมาใหม่ ต้องใช้เวลาหลายปี หรืออาจจะไม่มีเปลือกขึ้นมาอีกเลยก็เป็นได้ ซึ่งต้นอินทรีย์ หรือต้นเสม็ดแดง ยังนำมาเลื่อยเป็นไม้แปรรูปได้ นอกจากนี้หัวขโมยที่เข้ามาขโมยลอกเปลือกต้นอินทรีย์แล้ว ยังสร้างความเสียหาย ให้กับไม้ผลอื่นๆ ในสวนด้วย เช่น มังคุด ทุเรียน ลองกอง บางครั้ง ก็ลักสายไฟ และลักมาตรวัดน้ำอีกด้วย

 ด้านนางจิดาภา ชัยรัตนทรงพร อายุ 58 ปี แพทย์แผนไทย ปราชญ์ชาวบ้าน หมู่ 14 ต.ตะพง กล่าวว่า สำหรับต้นอินทรีย์ หรือเรียกอีกอย่างว่า ต้นเสม็ดแดง และเสม็ดขาว จะขึ้นตามป่าชายเลน ที่มีน้ำกร่อย หรือบริเวณท้องร่อง และขอบบ่อน้ำ ในสวนผลไม้ มีสรรพคุณทางยา เช่น นำเปลือกมาต้มเป็นยา แก้ท้องอืด ท้องเฟ้อ ท้องเสีย และเคล็ดขัดยอก นอกจากนี้ยังมีคุณสมบัติพิเศษที่ชาวประมง และชาวบ้านถิ่นแถบทะเล จะทราบกันดีมาแต่โบราณว่า เปลือกของมัน สามารถนำมาดองกะพรุนได้ โดยจะนิยมเฉพาะต้นเสม็ดแดงเท่านั้น เปลือกจะมีรสชาติฝาด เมื่อใช้ดองจะสามารถดึงน้ำที่ตัวแมงกะพรุนออกได้เป็นอย่างดี รวมทั้งจะทำให้แมงกะพรุนมีความกรอบ และเก็บรักษาไว้ได้นานอีกด้วย




 วฐิต กลางนอก/ ข่าว

เกิดเหตุรถพ่วงติดตั้งถังแก๊สเอ็นจีวี เป็นเชื้อเพลิง เฉี่ยวชนกับรถเก๋ง ทำให้ถังแก๊สระเบิดไฟลุกไหม้ท่วมรถพ่วง หวิดย่างสดคนขับ

เกิดเหตุรถพ่วงติดตั้งถังแก๊สเอ็นจีวี เป็นเชื้อเพลิง เฉี่ยวชนกับรถเก๋ง ทำให้ถังแก๊สระเบิดไฟลุกไหม้ท่วมรถพ่วง หวิดย่างสดคนขับ

เมื่อเวลา 06.00 น.วันที่ 15 ก.ย. 57เกิดอุบัติเหตุรถพ่วงเทเลอร์ ยี่ห้อฮีโน สีขาวหมายเลขทะเบียน 82-8518 ระยอง ติดตั้งถังแก็สเอ็นจีวีจำนวน 8 ลูก เป็นเชื้อเพลิง มีนายกิตติศักดิ์ วิเชียรรัตน์ อายุ 32 ปี อยู่บ้านเลขที่ 80/2 ม. 3 ต.พังราด อ.แกลง เป็นคนขับ เฉี่ยวชนกับรถเก๋ง ยี่ห้อมิตซูมิชิ เลนเซอร์ สีขาว ทะเบียนญว 7781 กรุงเทพมหานคร มี น.ส.ณัฐมน วงษ์แก้ว อายุ 29 ปี อยู่บ้านเลขที่ 35/46 ต.บางหญ้าแพรก อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ เป็นคนขับ เหตุเกิดบนถนนสายสุขุมวิท บริเวณสี่แยกบ้านสองพี่น้อง ขาเข้าตัวเมืองระยอง หลัก กม.257 ม.5 ต.สองสลึง อ.แกลง จ.ระยอง ซึ่งจากการเฉี่ยวชนทำให้รถเก๋ง เสียหลักตกลงร่องกลางถนนกระจกหน้าและหลังรถแตก สภาพตัวรถ พังยับทั้งคัน ส่วนคนขับได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย ขณะที่รถพ่วงเสียหลักพุ่งชนเสาไฟฟ้าข้างทาง ขาดไป 2 ต้น พลิกตะแคงร่องน้ำริมถนน เป็นเหตุให้ถังแก๊สเอ็นจีวี ที่เป็นเชื้อเพลิงติดอยู่ด้านหลังตัวรถพ่วง ได้ระเบิดไฟลุกไหม้ท่วมรถพ่วงเทเลอร์ เจ้าหน้าที่ดับเพลิงเทศบาลตำบลสองสลึง ได้ระดมฉีดน้ำดับไฟ 20 นาที จึงควบคุมไว้ได้ ส่วนคนขับหนีออกจากตัวรถได้ทัน โดยได้รับบาดเจ็บไฟลวกตามแขนและลำตัวเล็กน้อย
สอบสวนทราบว่า น.ส.ณัฐมน วงษ์แก้ว ขับรถเก๋ง ออกจากสี่แยก เพื่อขึ้นถนนสุขุมวิท ไม่ทันระวัง เป็นจังหวะเดียวกันกับรถพ่วงเทเลอร์ของนายกิติตศักดิ์ กำลังจะนำสินค้าไปส่งที่ท่าเรือแหลมฉะบัง จ.ชลบุรี ขับมาถึงที่เกิดเหตุพอดี ทำให้เกิดการเฉี่ยวชนกัน จนเป็นเหตุให้เกิดอุบัติเหตุดังกล่าว เบื้องต้นตำรวจสถานีตำรวจภูธรแกลง ได้ลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน ก่อนจะเชิญตัวคนขับรถทั้ง 2 คน ไปสอบสวนหาสาเหตุการเฉี่ยวชนกันครั้งนี้ อย่างละเอียดต่อไป



วฐิต กลางนอก/ข่าว

สภ.เมืองตราด แถลงจับสาวใหญ่ค้ายาเสพติด พร้อมของกลางยาบ้าและไอซ์

(15 ก.ย. 57) พ.ต.อ.บุญส่ง ปีกขุนทด ผกก.สภ.เมืองตราด พ.ต.อ.สุรเจตน์ บัวหลวง พนักงานสอบสวนผู้ทรงคุณวุฒิ สภ.เมืองตราด พ.ต.ท.ชาญเดช มณีวรสิทิ์ รอง ผกก.ป.สภ.เมืองตราด พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการปราบปรามยาเสพติดได้ร่วมกันแถลงข่าวการจับกุมนางสาวธันยาภรณ์ หรือหน่อย ชวาลา อายุ 47 ปี อยู่บ้านเลขที่ 1 หมู่ 3 ต.หนองเสม็ด อ.เมือง จ.ตราด พร้อมของกลางยาบ้าจำนวน 560 เม็ด และไอซ์ 35.5 กรัม
พ.ต.อ.บุญส่ง กล่าวว่า การจับกุมครั้งนี้เป็นการขยายผลจากผู้ต้องหารายที่จับได้ก่อนหน้านี้ โดยนางสาวธันยาภรณ์ เป็นผู้ค้ารายสำคัญในจังหวัดตราด และเป็นผู้กระจายยาเสพติดให้กับนักค้ายาเสพติดอีกทอดหนึ่ง ขณะที่ยาบ้าและ ไอซ์ทั้งหมด พบซุกซ่อนอยู่ภายในกล่องถุงยางอนามัย ภายกระเป๋าถือที่ซุกซ่อนภายในตู้เก็บของในห้องนอน ซึ่งนางสาวธันยาภรณ์ ยอมรับว่าเป็นของตนเอง

ด้าน พ.ต.ท.สนิท นิลบุตร สวป. สภ.เมืองตราด กล่าวว่า ได้ทำการจับผู้ค้ายาเสพติดมาแล้วหลายราย ได้มีการขยายผลมาหลายทอด จนกระทั่งมาถึงรายของนางสาวธันยาภรณ์ ชวาลา ที่น่าจะเป็นรายใหญ่ที่สุด อย่างไรก็ตาม ระยะนี้มีการจับกุมยาบ้าได้บ่อยครั้ง รู้สึกเป็นห่วงลูกหลานที่อาจจะตกเป็นทาสยาเสพติด ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจจะพยายามกวาดล้างให้ลดลง จนหมดไป

จังหวัดตราด เดินหน้าขับเคลื่อนการพัฒนาศักยภาพระบบการดูแลเด็กและครอบครัวที่อยู่ในภาวะยากลำบาก

(15 ก.ย. 57) นายณรงค์ ธีรจันทรางกูร รองผู้ว่าราชการจังหวัดตราด เปิดประชุมคณะทำงานพัฒนาศักยภาพระบบการดูแลเด็กและครอบครัวที่ตกอยู่ในภาวะยากลำบาก จังหวัดตราด ซึ่งจังหวัดตราดร่วมกับสำนักงานส่งเสริมสังคมแห่งการเรียนรู้และคุณภาพเยาวชนโดยสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดตราด จัดขึ้นที่ห้องประชุมวัดหนองเสม็ด

นางสาวมนิดา ลิ่มนิจสรกุล พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จังหวัดตราดกล่าวว่า ที่ผ่านมาทีมสหวิชาชีพในจังหวัดตราด ได้ร่วมกันดำเนินโครงการพัฒนาหน่วยจัดการรายกรณี เพื่อป้องกันแก้ไขปัญหาเด็กด้อยโอกาสนอกระบบการศึกษา และเด็กกลุ่มเสี่ยงในระบบการศึกษาในระดับท้องถิ่นมาตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2554 จนถึงต้นปี 2557 ทำให้เกิดรูปแบบการช่วยเหลือเด็กได้เป็นอย่างรูปธรรมและสามารถป้องกันและแก้ไขปัญหาเด็กและเยาวชนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ในรูปแบบของหน่วยจัดการดูแลรายกรณี (Case Management Unit) โดยสามารถดูและเด็กและเยาวชนจำนวน 75 คน จาก 4 พื้นที่ 6 โรงเรียนได้แก่ โรงเรียนตราดสรรเสริญวิทยาคม โรงเรียนบ่อไร่วิทยาคม โรงเรียนอ่างกระป่อง โรงเรียนคลองใหญ่วิทยาคม และโรงเรียนอนุบาลคลองใหญ่ ซึ่งเด็กกลุ่มเป้าหมายได้รับการดูแลตามประเด็นปัญหา ได้แก่ ปัญหาแม่วัยรุ่น ปัญหาออกโรงเรียนกลางคัน การใช้สารเสพติด ติดเกมและบกพร่องทางการเรียนรู้เป็นต้น ดังนั้นเพื่อเป็นการขับเคลื่อนในภาพรวมในการดำเนินการในเรื่องดังกล่าวในปีงบประมาณ 2558 ภายใต้การสนับสนุนงบประมาณ 2 ล้านบาท จากองค์การบริหารส่วนจังหวัดตราด ทางสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดตราดจึงได้จัดประชุมครั้งนี้ขึ้น ชี้แจงแนวทางการดำเนินงาน แนวทางการสำรวจ การวางแผน การสงเคราะห์ การคุ้มครองสวัสดิภาพ สามารถที่จะแก้ไขปัญหาให้กับเด็กและเยาวชนในแต่ละกรณีได้สอดคล้องและเหมาะสม เป็นการ เพื่อเดินหน้าพัฒนาศักยภาพระบบการดูแลเด็กและครอบครัวที่ตกอยู่ในภาวะยากลำบากจังหวัดตราด ด้วยการขยายผลการดำเนินการในเรื่องนี้ ทั้งในระดับพื้นที่ ระดับอำเภอ และระดับจังหวัด ให้เกิดผลเป็นรูปธรรมต่อไป

ปศุสัตว์จังหวัดตราด ออกตรวจป้องปรามโรงฆ่าสัตว์ที่ไม่ได้ขอนุญาตดำเนินการจากภาครัฐ

(15 ก.ย. 57) นางสาวเยาวนิตย์ บุรีรักษา ปศุสัตว์จังหวัดตราด พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ด่านกักสัตว์ตราด ออกตรวจป้องปรามโรงฆ่าสัตว์ที่ไม่ได้ขออนุญาตประกอบการในพื้นที่อำเภอเข้าสมิง โดยเข้าตรวจสอบโรงฆ่าสัตว์ (เป็ด) ที่ซอยชุมแสงล่าง หมู่ที่ 6 ตำบลเขาสมิง อำเภอเขาสมิง จังหวัดตราด ซึ่งพบว่าโรงฆ่าสัตว์ดังกล่าวไม่ได้มีการขอนุญาตในการจัดตั้งให้ถูกสุขลักษณะที่กรมปศุสัตว์กำหนดไว้ จึงให้ผู้ประกอบการลงนามในบันทึกให้ปากคำ

ปศุสัตว์จังหวัดตราด กล่าวว่า การออกตรวจป้องปรามในครั้งนี้ ทางสำนักงานปศุสัตว์ดำเนินการตามนโยบายของกรมปศุสัตว์ ในการจัดระเบียบให้ผู้ประกอบการดำเนินการตามกฎหมาย ทั้งนี้จาการตรวจสอบพบว่าดรงฆ่าสัตว์แห่งนี้กำลังจะหยุดดำเนินการ เนื่องจากหากต้องมีการปรับปรุงตามสุขลักษณะที่กฎหมายกำหนดเป็นการเพิ่มต้นทุน ซึ่งผู้ประกอบการยืนยันว่าจะยุติดำเนินการฆ่าสัตว์ ในส่วนของการเลี้ยงเป็ดเนื้อ ผู้ประกอบการจะดำเนินการขายแบบมีชีวิต เนื่องจากต้องกรปหยุดดำเนินกิจการ เนื่องจากต้นทุนจากค่าอาหาร และค่าแรงงานค่อนข้างสูง จึงไม่คุ้มทุน

ปศุสัตว์จังหวัดตราด ยังกล่าวอีกว่า ปัจจุบันในจังหวัดตราดมีโรงฆ่าสัตว์ที่ถูกสุขลักษณะ ประมาณ 20 แห่ง ซึ่งได้มีการตออกตรวจสอบอย่างต่อเนื่องให้ผู้ประกอบการปฏิบัติตาม อย่างไรก็ตามนอกจากการตรวจป้องปรามเช่นครั้งนี้แล้ว สำนักงานปศุสัตว์จังหวัดตราดยังได้มีโครงการเขียงสะอาดที่ได้รับการสนับสนุนงบประมาณจากทางจังหวัดในการรณรงค์ให้ผู้ประกอบการจำหน่าเนื้อสัตว์ ดำเนินการสุขลักษณะ รวมทั้งการสุ่มตรวจหาสารปนเปื้อนในเนื้อสัตว์ เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับผู้บริโภค อีกด้วย

ตำรวจน้ำคลองใหญ่ สนธิกำลังจำกุมขบวนการลักลอบนำรถจักรยานยนต์ส่งประเทศเพื่อนบ้าน

(15 ก.ย. 57) พ.ต.ต.อนุรักษ์ ปริญญาสถิรกุล สารวัตรสืบสวนสอบสวน ตำรวจน้ำอำเภอคลองใหญ่สนธิกำลังร่วมกับ น.ท.สรุศักดิ์ ศรีเผือก ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธิน 182 แถลงข่าวหลังจับกุม ขบวนการลักลอบนำรถจักรยานยนต์เพื่อเตรียมส่งออกยังประเทศกัมพูชา หลังจากรับแจ้งว่าจะมีการขนรถจักรยายนต์เพื่อเตรียมส่งออก ในเวลา 00.30 น. ของคืนที่ ผ่านมา จึงนำกำลังเข้าตรวจค้นและจับกุม ได้ผู้ต้องหา 2 คน คือนายเมา ไม่มีนามสกุล อายุ 24 ปี เป็นชาวกัมพูชา และนายกิต ไม่มีนามสกุล อายุ 17 ปี ชาวกัมพูชา พร้อมของกลางเป็นรถจักรยานยนต์ จำนวน 8 คัน จึงได้ตรวจยึดและจับกุมในข้อหาร่วมกันพยายามนำหรือพาของที่ยังมิได้เสียค่าภาษี หรือของต้องจำกัดหรือของต้องห้าม หรือของที่ยังมิได้ผ่านพิธีการศุลกากรส่งออกไปนอกราชณาจักรไทย โดยมิได้รับอนุญาตและเป็นบุคคลต่างด้าวหลบหนีเข้ามาและอาศัยอยู่ในราชอาณาจักรไทยไม่ได้รับอนุญาต โดยจับกุมได้บริเวณกลางทะเลห่างจากฝั่ง 2 ไมล์ทะเล ตรงข้ามท่าเทียบเรือเอนกประสงค์ บ้านสวนมะพร้าว หมู่ 7 ต.คลองใหญ่ อ.คลองใหญ่ จ.ตราด

จากการสอบสวนผู้ต้องหารับจ้างขนรถจักรยานยนต์เพื่อส่งออกไปยังประเทศกัมพูชาเป็นจำนวนเงิน 500 บาท เพื่อนำส่งไปยังตำบลสะมัดเมียนเจย กรุงเขมะภูมินทร์ จังหวัดเกาะกง ประเทศกัมพูชา โดยมีนางแป้นชาวกัมพูชาเป็นผู้ว่าจ้าง ในชั้นการจับกุมผู้ต้องหาทั้งสองคนรับสารภาพทุกข้อกล่าวหา และดำเนินการส่งผู้ต้องหาทั้งสองคน พร้อมของกลางส่งไปยังพนักงานสอบสวนของ สภ.คลองใหญ่เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

กองทุนพัฒนาบทบาทสตีจังหวัดตราด จัดโครงการพัฒนาสตรี แม่ดีมีทุกบ้าน

(15 ก.ย . 57) นางสาวเบญจวรรณ อ่านเปรื่อง ผู้ว่าราชการจังหวัดตราด เปิดโครงการพัฒนาสตรี แม่ดีมีทุกบ้าน ซึ่งกองทุนพัฒนาบทบาทสตรีจังหวัดตราดร่วมกับองค์กรชุมชนคนตราด และเครือข่ายผู้หญิงไทยจังหวัดตราด ร่วมกันจัดขึ้นที่ศาลาประชาคมจังหวัดตราด มีกลุ่มสตรีจากทุกอำเภอในจังหวัดตราดรวมทั้งครอบครัว จำนวนมากเข้าร่วมโครงการ

นางกรศิริ สง่าศิลป์ ประธานกรรมการกองทุนพัฒนาบทบาทสตรีจังหวัดตราด กล่าวว่า โครงการพัฒนาสตรี แม่ดีมีทุกบ้าน เป็นการส่งเสริมการสร้างความเข้มแข็งในสถาบันครอบครัว ซึ่งเป็นสถาบันหลักของชุมชน โดยได้ดำเนินการค้นหา รวบรวม และเชิดชูเกียรติสตรีที่เป็นแม่ ในการสร้างสรรค์สถาบันครอบครัวให้เข้มแข็งในพื้นที่ 7 อำเภอ 37 ตำบลของจังหวัดตราด พร้อมจัดให้มีการมอบใบประกาศเกียรติคุณให้กับแม่ผู้เป็นตัวอย่างผืทำหน้าที่แม่ดีในชุมชนจากทั้ง 37 ตำบล ในจังหวัดตราดรวมทั้งสิ้น 258 คน เพื่อยกย่องและเชิดชูเกียรติ แม่ดีในทุกหมู่บ้านของจังหวัดตราด อย่างไรก็ตามการจัดโครงการในครั้งนี้ยังได้มีการเปิดรับสมัครและขึ้นทะเบียนสมาชิกกองทุนพัฒนาบทบาทสตรีให้กับกลุ่มสตรีที่เป็นแม่ที่อยู่ในชุมชนต่าง ๆ อีกด้วย

ผู้ว่าจันทบุรี นำคณะเยือนไพลิน – พระตะบอง ยกระดับ MOU เตรียมพร้อมประชาคมอาเซียน

ผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรีนำคณะฝ่ายปกครอง เสริมสร้างความสัมพันธ์ ระดับเจ้าหน้าที่ ไพลิน – พระตะบอง – เสียมเลียบ กระชับสัมพันธไมตรี ยกระดับ MOU ความสัมพันธ์ฉันท์มิตร เตรียมพร้อมประชาคมอาเซียน

เมื่อวันที่ 12 ถึง 14 กันยายน ที่ผ่านมา นายสามารถ ลอยฟ้า ผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรี พร้อมด้วยนายสมหมาย วิเชียรฉันท์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรีได้นำคณะเจ้าหน้าที่ปกครองจากจังหวัดและอำเภอต่าง ๆ ในจังหวัดจันทบุรี เดินทางไปเสริมสร้างความสัมพันธ์ ระดับเจ้าหน้าที่ กับเจ้าหน้าที่ของจังหวัดไพลิน – จังหวัดพระตะบอง และจังหวัดเสียมเลียบ ประเทศกัมพูชา เพื่อต่อยอด ยกระดับ บันทึกความเข้าใจว่าด้วยความสัมพันธ์ฉันท์มิตรระหว่างจังหวัดจันทบุรี จังหวัดพระตะบอง และจังหวัดไพลิน ที่ได้ลงนามความร่วมมือ MOU ไว้ตั้งแต่ปี 2553 ที่ผ่านมาส่งผลให้ความสัมพันธ์ของประชาชนในจังหวัดจันทบุรีกับประชาชนชาวกัมพูชาเพื่อนบ้านมีความสัมพันธ์ที่ดีอย่างแนบแน่น ทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม วัฒนธรรม และความมั่นคง โดยการเดินทางของคณะจังหวัดจันทบุรีครั้งนี้นอกจากส่วนราชการฝ่ายปกครองแล้ว ยังมีผู้แทนของภาคเอกชนที่ประกอบธุรกิจการส่งออกสินค้าชายแดนร่วมคณะไปด้วย อาทิ ด็อกเตอร์ อิสิวุฒิ ตั้งเกียรติ์ นายกสมาคมการค้าและการท่องเที่ยวชายแดนบ้านแหลม จังหวัดจันทบุรี นายอำนาจ จันทรส นายกสมาคมชาวสวนลำไย จังหวัดจันทบุรี

และที่จังหวัดไพลิน คณะของจังหวัดจันทบุรีได้พบ หารือ แลกเปลี่ยนข้อมูลความคิดเห็นความร่วมมือด้านความมั่นคง ด้านเศรษฐกิจ และการแลกเปลี่ยนเรียนรู้สังคม วัฒนธรรม กับคณะของผู้บริหารจังหวัดไพลินที่มี นาย เกิด สุเธียร์ ผู้ว่าราชการจังหวัดไพลิน ประเทศกัมพูชาเป็นหัวหน้าคณะ ก่อนที่จะเดินทางศึกษาวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของชาวกัมพูชาในจังหวัดไพลิน พร้อมทั้งเข้าไหว้ขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิที่ชาวกัมพูชาให้ความนับถือ ที่วัดมณีหยาด โดยทางเมืองไพลินมีความประสงค์ต้องการให้จังหวัดจันทบุรีสนับสนุน ปรับปรุงสะพานข้ามแดน ที่จุดผ่านแดนถาวรบ้านผักกาดให้มีความแข็งแรง ปลอดภัย พร้อมทั้งขอ
หลังจากนั้น ผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรีนายสามารถ ลอยฟ้า ได้นำคณะของจังหวัดจันทบุรีเดินทางไปยังจังหวัดพระตะบอง เพื่อกระชับความสัมพันธ์ไมตรีระดับเจ้าหน้าที่และภาคธุรกิจเอกชนโดยได้เข้าพบหารือกับ ผู้ว่าราชการจังหวัดพระตะบอง นายจันท์ สุพร และคณะโดยการเจรจามุ่งเน้นความสัมพันธ์ตามบันทึก MOU ความสัมพันธ์ฉันท์มิตร ที่ทั้ง 2 ฝ่ายปฏิบัติมาอย่างดีต่อเนื่องและได้มีการยกระดับความสัมพันธ์เตรียมพร้อมสำหรับการเปิดประชาคมอาเซียน ซึ่งถือว่าทั้ง 3 จังหวัด คือจันทบุรี – ไพลิน และพระตะบอง ประชาชนมีความตื่นตัวและพร้อมสำหรับการเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้นภายหลังเปิดประตูสู่อาเซียนในปี พ.ศ.2558 ทั้งด้าน ความมั่นคง เศรษฐกิจ และวัฒนธรรม ปัจจุบันชีวิตความเป็นอยู่ของชาวบ้านที่อาศัยอยู่บริเวณชายแดนมีวิถีชีวิตที่กลมกลืนกัน ต่างพึ่งพาอาศัยซึ่งกันและกัน มีการแลกเปลี่ยนเรียนรู้เทคโนโลยี ศิลปะ วัฒนธรรม และความร่วมมือด้านต่าง ๆ อย่างดีเสมอมา และในช่วงเดือน ตุลาคม นี้จังหวัดจันทบุรีจะมีการหารือ แลกเปลี่ยนข้อมูลความคิดเห็น กระชับสัมพันธไมตรีระหว่างหัวหน้าส่วนราชการ ผู้แทนองค์กรภาคเอกชน คณะใหญ่ เพื่อยกระดับความสัมพันธ์ของประชาชนทั้ง 3 จังหวัดให้มีความแน่นแฟ้นยิ่งขึ้น

โอกาสเดียวกันนี้ ผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรีได้นำคณะเดินทางไปศึกษา เรียนรู้ ศิลปะ วัฒนธรรม วิถีชีวิต ข้อมูลความพร้อมด้านการบริการนักท่องเที่ยวของเมืองเสียมเลียบ ซึ่งที่เป็นที่ตั้งของ นครวัด - นครธม 1 ใน สิ่งมหัศจรรย์ของโลก ที่ปัจจุบันมีนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกหลั่งไหลมาเที่ยวชมอย่างคับคั่ง เพื่อเป็นแนวทางเชื่อมโยงการท่องเที่ยวของจังหวัดจันทบุรีกับเมืองเสียมเลียบโดย ด็อกเตอร์ อิสิวุฒิ์ ตั้งเกียรติ กล่าวว่าในการเปิดประชาคม อาเซียน ปี 2558 ประเทศไทยมีความได้เปรียบเนื่องจากเป็นศูนย์กลางของการคมนาคมและระบบโลจิสติกที่ผ่านมาสถิติการส่งสินค้าออกและการเดินทางของนักท่องเที่ยวที่ผ่านจังหวัดจันทบุรีสู่ประเทศกัมพูชามีอัตราขยายตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ปัจจุบันถนนเลียบชายแดนและเส้นทางเชื่อมโยงเมืองต่าง ๆ ในฝั่งกัมพูชามีความพร้อม สะดวกสบายมากขึ้นคนกัมพูชาที่มีฐานะจะเป็นคนฟุ่มเฟือย อีกทั้งชอบซื้อหาความสุขเติมเต็มให้แก่ครอบครัว ที่ผ่านมานิยมเดินทางเข้ามาช็อปปิ้งและท่องเที่ยวในจังหวัดจันทบุรี จึงเป็นโอกาสดีของจันทบุรีที่จะขยายตลาดการท่องเที่ยว การส่งออกสินค้าอุปโภค บริโภค สินค้าทางการเกษตร รวมทั้งการบริการสาธารณสุข สู่กัมพูชา ซึ่งจะสร้างรายได้เข้าประเทศไทยอย่างมหาศาลและหากเป็นไปได้อยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ส่งเสริม ผลักดันการค้าการท่องเที่ยวชายแดนจันทบุรีให้เป็นสะดวกยิ่งขึ้น อาทิส่งเสริมการบริการรถโดยสารสาธารณะระหว่างเมือง จันทบุรี – ไพลิน – พระตะบอง – เสียมเลียบ เพิ่มความสะดวกแก่นักท่องเที่ยว รวมทั้งลูก - หลานชาวจันทบุรีต้องตื่นตัวและพัฒนาการเรียนรู้เรื่องภาษารองรับการเปิดประชาคมอาเซียนซึ่งจันทบุรีถือเป็นจังหวัดที่มีศักยภาพและมีโอกาสที่ดีกว่า ขึ้นอยู่กับชาวจันทบุรีจะตักตวงโอกาสนั้นหรือไม่      




จรัล บรรยงคเสนา /ภาพ/ข่าว ( 15 ก.ย. 57 ) 
               ธเนศ เธียรนันทน์/ตรวจ


   

จ.จันทบุรี แจ้งเตือนประชาชนระวังผลกระทบจากฝนตกหนัก

จังหวัดจันทบุรีแจ้งเตือนประชาชนระวังผลกระทบจากสภาวะฝนตกหนัก เตือนประชาชนระวังน้ำป่าไหลหลาก ดินโคลนถล่ม น้ำท่วมฉับพลัน และน้ำล้นตลิ่ง  ช่วงวันนี้ ถึง 18 กันยายน

นายสามารถ ลอยฟ้า ผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรี กล่าวว่า จากการพยากรณ์สภาวะอากาศของกรมอุตุนิยมวิทยา ที่คาดการณ์ว่าในช่วงตั้งแต่วันนี้ จนถึงวันพฤหัสบดีที่ 18 กันยายน ล่องมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ยังคงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย และมีกำลังค่อนข้างแรง ลักษณะเช่นนี้จะทำให้พื้นที่บริเวณภาคตะวันออกได้รับผลกระทบ มีฝนตกชุกเพิ่มมากขึ้น และในห้วงเวลาที่ผ่านมาจังหวัดจันทบุรีมีปริมาณฝนตกสะสมหลายวัน จึงส่งผลให้ปริมาณน้ำในลำคลองต่าง ๆ เพิ่มสูงขึ้น ซึ่งการที่จะมีฝนตกเพิ่มขึ้นอาจจะส่งผลกระทบทำให้บางพื้นที่เกิดน้ำป่าไหลหลาก น้ำล้นตลิ่งได้ โดยเฉพาะผู้ที่อาศัยอยู่ริมฝั่งแม่น้ำจันทบุรี ลุ่มน้ำวังโตนด ลุ่มน้ำเวฬุ คลองพระพุทธ และแม่น้ำสาขาต่าง ๆ ในจังหวัดจันทบุรี

ขณะที่ประชาชนที่อาศัยอยู่บริเวณที่ราบลุ่มริมเขาสระบาป เขาคิชฌกูฏ เขาสอยดาว และพื้นที่เชิงเขาต่าง ๆ ในจังหวัดจันทบุรีขอให้เฝ้าระวังผลกระทบจากสภาวะฝนตกหนัก น้ำป่าไหลหลาก และดินโคลนถล่ม ขณะที่คลื่นลมในอ่าวไทยมีกำลังแรง นักท่องเที่ยวต้องระมัดระวังในการลงเล่นน้ำทะเล เรือเล็กควร งดออกจากฝั่ง ในช่วงวัน สองวันนี้

ทั้งนี้ขอให้ประชาชนชาวจังหวัดจันทบุรีติดตามสถานการณ์ และประกาศของทางราชการ หน่วยงานองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ผู้นำท้องที่ในพื้นที่อย่างใกล้ชิด เฝ้าระวังอย่างมีสติ ไม่ต้องตื่นกลัว อย่างไรก็ตามทางจังหวัดได้เตรียมบุคคลกร เจ้าหน้าที่เฝ้าระวังสภาวะ จุดเสี่ยงไว้อย่างครอบคลุมแล้ว และหากเกิดเหตุการณ์จะสามารถเข้าช่วยเหลือประชาชนได้อย่างทันท่วงที  





จรัล บรรยงคเสนา /ภาพ/ข่าว ( 15 ก.ย. 57 )
                                ธเนศ เธียรนันทน์/ตรวจ
   

กระทรวงพลังงานจังหวัดชลบุรี จัดการประชุม ครั้งที่ 2 โครงการบูรณาการแผนยุทธศาสตร์พลังงานระดับกลุ่มจังหวัดตามยุทธศาสตร์ประเทศ

วันนี้ (วันที่ 15 กันยายน 2557) กระทรวงพลังงานจังหวัดชลบุรี จัดการประชุม ครั้งที่ 2 โครงการบูรณาการแผนยุทธศาสตร์พลังงานระดับกลุ่มจังหวัดตามยุทธศาสตร์ประเทศ โดยมี นายวรวิทย์. สายสุพัฒน์ผล  รองผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี  เป็นประธานเปิดการประชุม  ณ ห้องแคริบเบี้ยน โรงแรมเดอะไทด์ รีสอร์ท บางแสน จังหวัดชลบุรี

การประชุมในวันนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อให้การดำเนินงานในการรวบรวม และจัดทำข้อมูลประกอบการจัดทำร่างแผนยุทธศาสตร์พลังงานระดับกลุ่มจังหวัดและแผนปฏิบัติการด้านพลังงานระดับจังหวัดให้เป็นไปตามเป้าประสงค์ของโครงการฯ รวมถึงการรายงานสรุปผลการประชุม ครั้งที่ 1 ที่ผ่านมาเพื่อให้ทางกลุ่มบริษัทและหน่วยงานส่วนราชการที่เกี่ยวข้องที่เข้าร่วมโครงการได้ทราบถึงแนวปฏิบัติ และให้การประสานและประชาสัมพันธ์สร้างความรู้ความเข้าใจแผนยุทธศาสตร์พลังงานระดับกลุ่มจังหวัดและแผนปฏิบัติการด้านพลังงานระดับจังหวัดให้ประชาชนทราบต่อไป



นายคมศักดิ์  หล่อเถิน/ข่าว/ภาพ
15 กันยายน 2557

การแข่งขัน TO BE NUMBER ONE TEEN DANCERCISE CHONBURI CHAMPIONSHIP 2015 และการแข่งขัน TO BE NUMBER ONE IDOL รอบชิงชนะเลิศ ระดับจังหวัด

นางรุ่งธิวา  พาณิชสุโข  รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดชลบุรี เป็นประธาน เปิดงาน กิจกรรมการแข่งขัน TO BE NUMBER ONE TEEN DANCERCISE CHONBURI CHAMPIONSHIP 2015 และการแข่งขัน TO BE NUMBER ONE IDOL รอบชิงชนะเลิศ ระดับจังหวัด โดยมีนายศรชัย  อินทรวิชัย ผู้จัดการทั่วไป ศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซา ชลบุรี กล่าวให้การต้อนรับ  ณ ลานกิจกรรม ชั้น 1 ศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซา จังหวัดชลบุรี 

นางรุ่งธิวา  พาณิชสุโข  กล่าวว่า กิจกรรมการแข่งขัน TO BE NUMBER ONE TEEN DANCERCISE CHONBURI CHAMPIONSHIP 2015 และการแข่งขัน TO BE NUMBER ONE IDOL รอบชิงชนะเลิศ ระดับจังหวัดจัดขึ้นเพื่อส่งเสริม และสนับสนุน เยาวชนชาวชลบุรี ได้รับทราบและตระหนักถึงการดำเนินโครงการ TO BE NUMBER ONE เป็นโครงการรณรงค์ป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดนูลกระหม่อมหญิง อุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี กิจกรรมของโครงการ ซึ่งล้วนแล้วแต่ส่งเสริม  ให้เด็กและเยาวชน และวัยรุ่น ได้แสดงความสามารถในสิ่งที่ตนถนัด ในแนวทางที่ถูกต้องเหมาะสม  รวมถึงเป็นกำลังใจให้กับเด็กและเยาวชนคนรุ่นใหม่ได้หมั่นฝึกฝน และพัฒนาความสามารถมุ่งสู่ความเป็นหนึ่งโดยไม่พึ่งยาเสพติด การแข่งขันในวันนี้ จึงแสดงให้เห็นว่า เด็กๆ เยาวชนรุ่นใหม่ในจังหวัดชลบุรีมีความสามารถและความมุ่งมั่นสู่ความเป็นหนึ่งเช่นเดียวกัน  โดยมีผู้เข้าร่วมแข่งขัน Dancercise จำนวน ทั้งสิ้น 24 ทีม การแข่งขัน 3 รุ่น คือ รุ่น Junior อายุระหว่าง 6-9 ปี จำนวน 6 ทีม  รุ่น Pre - Teenage อายุระหว่าง 10-13 ปี จำนวน 7 ทีม และรุ่น Teenage อายุระหว่าง 14-24 ปี จำนวน 11 ทีม   การแข่งขันเป็นการออกกำลังกายที่เน้นความคิดสร้างสรรค์กับการประยุกต์ท่าทางการเต้น ที่เป็นประโยชน์ต่อการบริหารร่างกายด้วยจังหวะดนตรี ซึ่งได้รับความอนุเคราะห์ จากกรรมการผู้เชี่ยวชาญการเต้น มาเป็นผู้ตัดสิน และยังมีการประกวดการแข่งขัน TO BE NUMBER ONE IDOL จำนวน 26  คน

สำหรับการแข่งขันในวันนี้จะเป็นการค้นหา ตัวแทนเยาวชนต้นแบบเก่งและดี ในระดับจังหวัด เพื่อเข้าแข่งขันรอบชิงชนะเลิศระดับภาคกลางและภาคตะวันออก ในเดือน ธันวาคม 2557 ณ เซ็นทรัล เฟสติวัลพัทยาบีช ต่อไป




นายคมศักดิ์  หล่อเถิน/ข่าว/ภาพ
15 กันยายน 2557