ผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรีนำคณะฝ่ายปกครอง เสริมสร้างความสัมพันธ์ ระดับเจ้าหน้าที่ ไพลิน – พระตะบอง – เสียมเลียบ กระชับสัมพันธไมตรี ยกระดับ MOU ความสัมพันธ์ฉันท์มิตร เตรียมพร้อมประชาคมอาเซียน
เมื่อวันที่ 12 ถึง 14 กันยายน ที่ผ่านมา นายสามารถ ลอยฟ้า ผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรี พร้อมด้วยนายสมหมาย วิเชียรฉันท์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรีได้นำคณะเจ้าหน้าที่ปกครองจากจังหวัดและอำเภอต่าง ๆ ในจังหวัดจันทบุรี เดินทางไปเสริมสร้างความสัมพันธ์ ระดับเจ้าหน้าที่ กับเจ้าหน้าที่ของจังหวัดไพลิน – จังหวัดพระตะบอง และจังหวัดเสียมเลียบ ประเทศกัมพูชา เพื่อต่อยอด ยกระดับ บันทึกความเข้าใจว่าด้วยความสัมพันธ์ฉันท์มิตรระหว่างจังหวัดจันทบุรี จังหวัดพระตะบอง และจังหวัดไพลิน ที่ได้ลงนามความร่วมมือ MOU ไว้ตั้งแต่ปี 2553 ที่ผ่านมาส่งผลให้ความสัมพันธ์ของประชาชนในจังหวัดจันทบุรีกับประชาชนชาวกัมพูชาเพื่อนบ้านมีความสัมพันธ์ที่ดีอย่างแนบแน่น ทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม วัฒนธรรม และความมั่นคง โดยการเดินทางของคณะจังหวัดจันทบุรีครั้งนี้นอกจากส่วนราชการฝ่ายปกครองแล้ว ยังมีผู้แทนของภาคเอกชนที่ประกอบธุรกิจการส่งออกสินค้าชายแดนร่วมคณะไปด้วย อาทิ ด็อกเตอร์ อิสิวุฒิ ตั้งเกียรติ์ นายกสมาคมการค้าและการท่องเที่ยวชายแดนบ้านแหลม จังหวัดจันทบุรี นายอำนาจ จันทรส นายกสมาคมชาวสวนลำไย จังหวัดจันทบุรี
และที่จังหวัดไพลิน คณะของจังหวัดจันทบุรีได้พบ หารือ แลกเปลี่ยนข้อมูลความคิดเห็นความร่วมมือด้านความมั่นคง ด้านเศรษฐกิจ และการแลกเปลี่ยนเรียนรู้สังคม วัฒนธรรม กับคณะของผู้บริหารจังหวัดไพลินที่มี นาย เกิด สุเธียร์ ผู้ว่าราชการจังหวัดไพลิน ประเทศกัมพูชาเป็นหัวหน้าคณะ ก่อนที่จะเดินทางศึกษาวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของชาวกัมพูชาในจังหวัดไพลิน พร้อมทั้งเข้าไหว้ขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิที่ชาวกัมพูชาให้ความนับถือ ที่วัดมณีหยาด โดยทางเมืองไพลินมีความประสงค์ต้องการให้จังหวัดจันทบุรีสนับสนุน ปรับปรุงสะพานข้ามแดน ที่จุดผ่านแดนถาวรบ้านผักกาดให้มีความแข็งแรง ปลอดภัย พร้อมทั้งขอ
หลังจากนั้น ผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรีนายสามารถ ลอยฟ้า ได้นำคณะของจังหวัดจันทบุรีเดินทางไปยังจังหวัดพระตะบอง เพื่อกระชับความสัมพันธ์ไมตรีระดับเจ้าหน้าที่และภาคธุรกิจเอกชนโดยได้เข้าพบหารือกับ ผู้ว่าราชการจังหวัดพระตะบอง นายจันท์ สุพร และคณะโดยการเจรจามุ่งเน้นความสัมพันธ์ตามบันทึก MOU ความสัมพันธ์ฉันท์มิตร ที่ทั้ง 2 ฝ่ายปฏิบัติมาอย่างดีต่อเนื่องและได้มีการยกระดับความสัมพันธ์เตรียมพร้อมสำหรับการเปิดประชาคมอาเซียน ซึ่งถือว่าทั้ง 3 จังหวัด คือจันทบุรี – ไพลิน และพระตะบอง ประชาชนมีความตื่นตัวและพร้อมสำหรับการเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้นภายหลังเปิดประตูสู่อาเซียนในปี พ.ศ.2558 ทั้งด้าน ความมั่นคง เศรษฐกิจ และวัฒนธรรม ปัจจุบันชีวิตความเป็นอยู่ของชาวบ้านที่อาศัยอยู่บริเวณชายแดนมีวิถีชีวิตที่กลมกลืนกัน ต่างพึ่งพาอาศัยซึ่งกันและกัน มีการแลกเปลี่ยนเรียนรู้เทคโนโลยี ศิลปะ วัฒนธรรม และความร่วมมือด้านต่าง ๆ อย่างดีเสมอมา และในช่วงเดือน ตุลาคม นี้จังหวัดจันทบุรีจะมีการหารือ แลกเปลี่ยนข้อมูลความคิดเห็น กระชับสัมพันธไมตรีระหว่างหัวหน้าส่วนราชการ ผู้แทนองค์กรภาคเอกชน คณะใหญ่ เพื่อยกระดับความสัมพันธ์ของประชาชนทั้ง 3 จังหวัดให้มีความแน่นแฟ้นยิ่งขึ้น
โอกาสเดียวกันนี้ ผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรีได้นำคณะเดินทางไปศึกษา เรียนรู้ ศิลปะ วัฒนธรรม วิถีชีวิต ข้อมูลความพร้อมด้านการบริการนักท่องเที่ยวของเมืองเสียมเลียบ ซึ่งที่เป็นที่ตั้งของ นครวัด - นครธม 1 ใน สิ่งมหัศจรรย์ของโลก ที่ปัจจุบันมีนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกหลั่งไหลมาเที่ยวชมอย่างคับคั่ง เพื่อเป็นแนวทางเชื่อมโยงการท่องเที่ยวของจังหวัดจันทบุรีกับเมืองเสียมเลียบโดย ด็อกเตอร์ อิสิวุฒิ์ ตั้งเกียรติ กล่าวว่าในการเปิดประชาคม อาเซียน ปี 2558 ประเทศไทยมีความได้เปรียบเนื่องจากเป็นศูนย์กลางของการคมนาคมและระบบโลจิสติกที่ผ่านมาสถิติการส่งสินค้าออกและการเดินทางของนักท่องเที่ยวที่ผ่านจังหวัดจันทบุรีสู่ประเทศกัมพูชามีอัตราขยายตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ปัจจุบันถนนเลียบชายแดนและเส้นทางเชื่อมโยงเมืองต่าง ๆ ในฝั่งกัมพูชามีความพร้อม สะดวกสบายมากขึ้นคนกัมพูชาที่มีฐานะจะเป็นคนฟุ่มเฟือย อีกทั้งชอบซื้อหาความสุขเติมเต็มให้แก่ครอบครัว ที่ผ่านมานิยมเดินทางเข้ามาช็อปปิ้งและท่องเที่ยวในจังหวัดจันทบุรี จึงเป็นโอกาสดีของจันทบุรีที่จะขยายตลาดการท่องเที่ยว การส่งออกสินค้าอุปโภค บริโภค สินค้าทางการเกษตร รวมทั้งการบริการสาธารณสุข สู่กัมพูชา ซึ่งจะสร้างรายได้เข้าประเทศไทยอย่างมหาศาลและหากเป็นไปได้อยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ส่งเสริม ผลักดันการค้าการท่องเที่ยวชายแดนจันทบุรีให้เป็นสะดวกยิ่งขึ้น อาทิส่งเสริมการบริการรถโดยสารสาธารณะระหว่างเมือง จันทบุรี – ไพลิน – พระตะบอง – เสียมเลียบ เพิ่มความสะดวกแก่นักท่องเที่ยว รวมทั้งลูก - หลานชาวจันทบุรีต้องตื่นตัวและพัฒนาการเรียนรู้เรื่องภาษารองรับการเปิดประชาคมอาเซียนซึ่งจันทบุรีถือเป็นจังหวัดที่มีศักยภาพและมีโอกาสที่ดีกว่า ขึ้นอยู่กับชาวจันทบุรีจะตักตวงโอกาสนั้นหรือไม่
จรัล บรรยงคเสนา /ภาพ/ข่าว ( 15 ก.ย. 57 )
ธเนศ เธียรนันทน์/ตรวจ