วันพุธที่ 9 กรกฎาคม พ.ศ. 2557

ชลบุรี จัดเวทีเสวนาเพื่อรวบรวมข้อมูลการปฏิรูป

วันพุธที่ 9 กรกฎาคม พ.ศ. 2557 นายคมสัน เอกชัย ผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี เป็นประธานเปิดเวทีเสวนาเพื่อรวบรวมข้อมูลการปฏิรูปการเมืองไทย ณ ห้องตำหนักน้ำ โรงแรมชลอินเตอร์ อำเภอเมือง จังหวัดชลบุรี

จังหวัดชลบุรี ร่วมกับมณฑลทหารบกที่14 จัดเวทีเสวนาเพื่อรวบรวมข้อมูลการปฏิรูป โดยให้ทุกภาคส่วน เช่น ข้าราชการ ทหาร ตำรวจ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น รัฐวิสาหกิจ ภาคเอกชน และภาคประชาชน ร่วมกันระดมความคิดเห็นเพื่อรวบรวมข้อมูลในปฏิรูปการเมือง โดยใช้กลไกการตรวจสอบถ่วงดุลอำนาจจากฝ่ายต่างๆ 

ตามที่กรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย ได้แจ้งแนวทางในการเก็บรวบรวมข้อมูลการปฏิรูปจากศูนย์ปรองดองสมานฉันท์เพื่อการปฏิรูป จังหวัดชลบุรี ตามนโยบายของคณะรัฐมนตรีรักษาความสงบแห่งชาติ เพื่อสร้างความปรองดองสมานฉันท์ ในทุกระดับ และก่อนการจัดเวทีเสวนา นายคมสัน เอกชัย ผู้ว่าราชการจังหวัด พร้อมด้วย พลตรี ณัฐ อินทรเจริญ ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 14 ได้บรรยายเรื่อง แนวคิดในการสร้างความปรองดองสมานฉันท์เพื่อการปฏิรูป

สำหรับกิจกรรมภายในงานประกอบด้วยการแบ่งกลุ่มอภิปรายแลกเปลี่ยนและเสนอแนวทางการปฏิรูป จำนวน 5 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มข้าราชการและรัฐวิสาหกิจ จำนวน 73 คน กลุ่มภาคประชาชน จำนวน 47 คน กลุ่มแกนนำทางการเมือง จำนวน 65 คน กลุ่มภาคธุรกิจเอกชน จำนวน 49 คน และกลุ่มภาคประชาสังคม จำนวน 48 คน ในประเด็นที่กำหนด จำนวน 10 ประเด็น ได้แก่ แนวทางปฏิรูปการเมือง แนวทางการสร้างมาตรฐานทางจริยธรรมของผู้บริหารประเทศ แนวทาการปฏิรูปกระบวนการยุติธรรม แนวทางการปฏิรูปกระบวนยุติธรรม แนวทางการปฏิรูปการบริหารราชการแผ่นดิน แนวทางการปฏิรูปการทุจริต คอรัปชั่น แนวทางการปฏิรูปการศึกษา แนวทางการปฏิรูปโครงสร้างเศรษฐกิจ แนวทางการปฏิรูปด้านข้อมูลข่าวสาร แนวทางการปฏิรูปความเหลื่อมล้ำทางการเมือง เศรษฐกิจและสังคม และแนวทางการปฏิรูปอื่นๆ ได้แก่ การจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เป็นต้น และส่งเสริมให้เกิดภาพลักษณ์ที่ดีของประเทศไทยและสังคมโลก เวทีเสวนา ประกอบด้วยประชาชน จาก 11 อำเภอ ทุกสาขาอาชีพ คือ ภาคประชาชน ราชการ รัฐวิสาหกิจ แกนนำทางการเมือง เปิดฟังความคิดเห็นประชาชน ทุกฝ่ายก่อนที่จะสรุป เพื่อวิเคราะห์กำหนดแนวทางในการแก้ปัญหาความขัดแย้งของคนในชาติ สร้างความรัก ความสามัคคี ความปรองดอง สมานฉันท์ คืนความสุขให้คนไทยทั้งชาติต่อไป



ปริญญา/ข่าว/ภาพ

จ.จันทบุรี จัดงานเกษตรร่วมใจคืนความสุขประชาชน

สหกรณ์จังหวัดจันทบุรีจัดงาน "กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ร่วมใจ คืนความสุขสู่ประชาชน”จำหน่ายสินค้าราคาถูก สินค้าเกษตร ผลไม้แปรรูป ผักพื้นบ้าน อาหารพื้นเมืองพร้อมแจกปุ๋ยและน้ำหมักชีวภาพแก่เกษตรกร ฟรี

บ่ายวันนี้ ( 9 ก.ค.57 ) ที่สหกรณ์การเกษตรมะขาม จำกัด จังหวัดจันทบุรี  หน่วยงานในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ที่ปฏิบัติราชการในจังหวัดจันทบุรีได้ร่วมกันจัดงาน "กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ร่วมใจคืนความสุขสู่ประชาชน” โดยมีนายกล้าณรงค์  พงษ์เจริญ รองผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรี เป็นประธานเปิดงาน  ภายในงานมีกิจกรรมต่าง ๆ มากมาย อาทิ นิทรรศการให้ความรู้จากหน่วยงานในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์  การแสดงดนตรีและกิจกรรมบนเวทีเพื่อสร้างความสุขแก่ประชาชน การจัดจำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภค สินค้าเกษตร ผลไม้แปรรูป ผักพื้นบ้าน อาหารพื้นเมือง อาหารสำเร็จรูป และสินค้าที่จำเป็นอื่น ๆ รวมทั้งยังจะได้รับแจกปุ๋ยและน้ำหมักชีวภาพฟรี นอกจากนี้สมาชิกสหกรณ์ยังสามารถกู้เงินซื้อปัจจัยการผลิตโดยไม่ต้องเสียดอกเบี้ย ทั้งนี้ภายในงานได้เปิดจำหน่ายไข่ไก่ ราคาถูก มีประชาชน เกษตรกรให้ความสนใจเลือกซื้อไข่ไก่เบอร์ 0 แผงละ 70 บาทจำนวนมาก

อย่างไรก็ตาม งาน "เกษตรและสหกรณ์ร่วมใจคืนความสุขสู่ประชาชน” ยังได้มีกำหนดการที่จะจัดหมุนเวียนไปตามสถานที่ตั้งของสหกรณ์การเกษตรต่าง ๆ อีกหลายแห่ง  ดังนี้  วันที่ 14 - 15 กรกฎาคม 2557 ณ  สหกรณ์การเกษตรเขาคิชกูฏ,    วันที่ 16 - 17กรกฎาคม 2557   ณ  สหกรณ์การเกษตรท่าใหม่,   วันที่ 18 - 19 กรกฎาคม 2557  ณ  สหกรณ์การเกษตรแหลมสิงห์, และ วันที่ 28 - 29 กรกฎาคม 2557  ณ  สหกรณ์การเกษตรเมืองจันทบุรี   จึงขอเชิญชวนเครือข่ายสมาชิกสหกรณ์และประชาชนทั่วไปเที่ยวชมงานและเลือกซื้อสินค้าคุณภาพดีราคาประหยัดได้ภายในงานดังกล่าวโดยทั่วกัน



จรัล บรรยงคเสนา/ภาพ/ข่าว (  9 ก.ค. 57 ) 
                                 ธเนศ เธียรนันทน์/ตรวจข่าว  

จังหวัดจันทบุรี เปิดขายสลากกินแบ่งรัฐบาล ใบละ 80 บาท ตามนโยบาย คสช.

จังหวัดจันทบุรีเปิดจำหน่ายสลากกินแบ่งรัฐบาล ใบละ 80 บาท ประชาชนและข้าราชการที่ปฏิบัติงานในศาลากลางแห่ซื้อกันอย่างเนื่องแน่น

วันนี้ (9 ก.ค. 57) ที่บริเวณห้องโถงศาลากลางจันทบุรี  ได้เปิดจำหน่ายสลากกินแบ่งรัฐบาลในราคาใบละ 80 บาท ตามแนวทางการแก้ปัญหาสลากเกินราคา ของ คสช. โดยนายสามารถ ลอยฟ้า ผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรี ตลอดจน นายสมหมาย วิเชียรฉันท์ และ นายกล้าณรงค์ พงษ์เจริญ รองผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรี ได้นำข้าราชการ และประชาชน ร่วมซื้อสลากฯที่นำมาจำหน่ายจากแม่ค้า-พ่อค้า จนแน่นที่บริเวณจุดจำหน่าย

อย่างไรก็ตาม บรรยากาศการจำหน่ายสลากกินแบ่งรัฐบาล ในเขตตัวเมืองจันทบุรี งวดนี้ไม่ค่อยคึกคักเท่าที่ควร บางแผงยังจำหน่ายในราคาใบละ 90 บาท โดยผู้ขายอ้างว่ารับมาจากยี่ปั๊ว มีต้นทุนสูง ซึ่งการแก้ปัญหาทางเจ้าหน้าที่ได้ชะลอการใช้มาตรการจับกุมไปก่อนแต่ได้มีการตักเตือนผู้ค้ารายย่อยให้ขายในราคา ที่ คสช.กำหนด



จรัล บรรยงคเสนา/ภาพ/ข่าว (  9 ก.ค. 57 )
                  ธเนศ เธียรนันทน์/ตรวจข่าว

เกษตรร่วมใจคืนความสุขประชาชน

จังหวัดจันทบุรีขอเชิญชวนเที่ยวชมและเลือกซื้อสินค้าคุณภาพดี ภายในงาน "กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ร่วมใจ คืนความสุขสู่ประชาชน”

นายธนิต  จันทร์ประทีป สหกรณ์จังหวัดจันทบุรี เปิดเผยว่า หน่วยงานในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ที่ปฏิบัติราชการในจังหวัดจันทบุรีได้ร่วมกันจัดงาน "กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ร่วมใจคืนความสุขสู่ประชาชน” ระหว่างวันที่ 9 – 10 กรกฎาคม 2557  ณ  บริเวณหน้าสำนักงานสหกรณ์การเกษตรมะขาม จำกัด อำเภอมะขาม จังหวัดจันทบุรี  โดยในนี้ เวลา 14.00น. นายกล้าณรงค์  พงษ์เจริญ รองผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรี จะเป็นประธานเปิดงาน  ภายในงานจะมีกิจกรรมต่าง ๆ มากมาย อาทิ นิทรรศการให้ความรู้จากหน่วยงานในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์  การแสดงดนตรีและกิจกรรมบนเวทีเพื่อสร้างความสุขแก่ประชาชน การจัดจำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภค สินค้าเกษตร ผลไม้แปรรูป ผักพื้นบ้าน อาหารพื้นเมือง อาหารสำเร็จรูป และสินค้าที่จำเป็นอื่น ๆ รวมทั้งยังจะได้รับแจกปุ๋ยและน้ำหมักชีวภาพฟรี นอกจากนี้สมาชิกสหกรณ์ยังสามารถกู้เงินซื้อปัจจัยการผลิตโดยไม่ต้องเสียดอกเบี้ย อีกด้วย

สหกรณ์จังหวัดจันทบุรี กล่าวอีกว่างาน "กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ร่วมใจคืนความสุขสู่ประชาชน” ดังกล่าว ยังได้มีกำหนดการที่จะจัดหมุนเวียนไปตามสถานที่ตั้งของสหกรณ์การเกษตรต่าง ๆ อีกหลายแห่ง  ดังนี้  วันที่ 14 - 15 กรกฎาคม 2557 ณ  สหกรณ์การเกษตรเขาคิชกูฏ,    วันที่ 16 - 17กรกฎาคม 2557   ณ  สหกรณ์การเกษตรท่าใหม่,   วันที่ 18 - 19 กรกฎาคม 2557  ณ  สหกรณ์การเกษตรแหลมสิงห์, และ วันที่ 28 - 29 กรกฎาคม 2557  ณ  สหกรณ์การเกษตรเมืองจันทบุรี   จึงขอเชิญชวนเครือข่ายสมาชิกสหกรณ์และประชาชนทั่วไปเที่ยวชมงานและเลือกซื้อสินค้าคุณภาพดีราคาประหยัดได้ภายในงานดังกล่าวโดยทั่วกัน




จรัล/ภาพ/ข่าว (  9 ก.ค. 57 )
                           ธเนศ เธียรนันทน์/ตรวจข่าว
   
   

จังหวัดตราด ประชุมหน่วยงานป้องกันและปราบปรามการตัดไม้ทำลายป่า ตามประเด็นนโยบายของ คสช.

วันนี้ ( ๙ กรกฎาคม ๒๕๕๗) ที่ห้องประชุมตราดสีทอง ศาลากลางจังหวัดตราด นายพัคฆพันธุ์ โพธิ์แก้ว รองผู้ว่าราชการจังหวัดตรา เป็นประธานการประชุมคณะอนุกรรมการป้องกันและปราบปรามการตัดไม้ทำลายป่า ระดับจังหวัด มีผู้แทนจากหน่วยงานต่างๆ เข้าร่วมประชุม

นายพยัคฆพันธุ์ โพธิ์แก้ว รองผู้ว่าราชการจังหวัดตราด แจ้งให้ที่ประชุมทราบว่า การป้องกันและปราบปรามการตัดไม้ทำลายป่า เป็นข้อนโยบายเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมและสิ่งแวดล้อมของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ในคำสั่งที่ ๖๔/๒๕๕๗ และ คำสั่งที่ ๖๖/๒๕๕๗ ว่าด้วยการหยุดการตัดไม้ทำลายป่า เพื่อเป็นการดำเนินงานให้สอดคล้องกับคำสั่งของ คสช.ดังกล่าว คณะอนุกรรมการระดับจังหวัด จึงต้องซักซ้อมความเข้าใจในการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง นอกจากนี้ ยังให้อนุกรรมการได้ทราบถึงบทบาทหน้าที่ของตน ทั้งการเร่งรัด ประสานงาน กำกับดูแลและตรวจสอบ ติดตามการปฏิบัติงานของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการป้องกันและปราบปรามการตัดไม้ทำลายป่าในพื้นที่จังหวัด

รองผู้ว่าราชการจังหวัดตราด กล่าวด้วยว่า สภาพการณ์ปัจจุบัน ในพื้นที่จังหวัดตราดพบการบุกรุก ตัดไม้ทำลายป่า จำนวนน้อย ทั้งนี้เป็นเพราะเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายดำเนินการอย่างเข้มแข็ง โดยเฉพาะฝ่ายทหารตามแนวชายแดนที่นอกจากปฏิบัติงานในพื้นที่อย่างเต็มที่ ต่อเนื่องแล้ว ยังได้มีการประสานความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่เพื่อนบ้านตามแนวชายแดน อย่างไรก็ตาม ได้มีการกำชับเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายได้ร่วมกันปฏิบัติอย่างต่อเนื่องต่อไป เพื่อความคงอยู่ของทรัพยากรที่สำคัญของชาติต่อไป

จังหวัดตราด เตรียมความพร้อมศูนย์บริการจดทะเบียนแรงงานต่างด้าวแบบเบ็ดเสร็จ( one stop service) รองรับการกลับมาทำงานของแรงงานต่างด้าว

วันนี้ (๙ กรกฎาคม ๒๕๕๗ ) เวลา ๐๙.๐๐ น. ที่ห้องประชุมธารมะยม ศาลากลางจังหวัดตราด นางสาวเบญจวรรณ อ่านเปรื่อง ผู้ว่าราชการจังหวัดตราด เป็นประธานในการประชุมเพื่อเตรียมความพร้อมของศูนย์บริการจดทะเบียนแรงงานต่างด้าวแบบเบ็ดเสร็จ( one stop service) เพื่อเตรียมให้บริการกับนายจ้างและแรงงานต่างด้าวที่จะกลับเข้ามาทำงานในพื้นที่จังหวัดตราด มีหัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุม

นางสาวเบญจวรรณ อ่านเปรื่อง ผู้ว่าราชการจังหวัดตราด กล่าวว่า การตั้งศูนย์บริการจดทะเบียนแรงงานต่างด้าวแบบเบ็ดเสร็จ( one stop service) เป็นไปตามประกาศของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (ศสช) เรื่องมาตรการชั่วคราวในการแก้ไขปัญหาแรงงานต่างด้าวและการค้ามนุษย์ เพื่อทำหน้าที่ออกใบอนุญาตทำงานชั่วคราวให้คนต่างด้าวและจัดระเบียบแรงงานต่างด้าว โดยกระทรวงมหาดไทยเป็นหน่วยงานหลัก และปฏิบัติงานร่วมกับกระทรวงแรงงาน กระทรวงสาธารณสุข สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองและหน่วยงานอื่นๆที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้การดำเนินการของศูนย์บริการจดทะเบียนแรงงานต่างด้าวแบบเบ็ดเสร็จ( one stop service) ของจังหวัดตราด เป็นไปด้วยความเรียบร้อย จึงได้มีการประชุมเพื่อซักซ้อมความเข้าใจในขั้นตอนการให้บริการ ให้เป็นไปด้วยความสะดวกสบาย มีความเรียบร้อย ซึ่งศูนย์ฯ นี้จะตั้งขึ้นที่บริเวณศาลา ๑๐๐ ปี ตราดรำลึกและโรงพยาบาลตราด จะสามารถรองรับจำนวนแรงงานต่างด้าวจดทะเบียนได้มากถึง ๕๐๐ คน ต่อวัน

โรงงานอุตสาหกรรมในจังหวัดระยอง จับมือกับชาวบ้านวัดบ้านแลง อ.เมืองระยอง ซ่อมแซมพระปรางค์เก่าแก่ของวัด ซึ่งเชื่อว่ามีอายุ 270 ปี สมัยกรุงศรีอยุธยา เพื่อให้มีสภาพสมบูรณ์เป็นสมบัติคู่วัด และชาวบ้านสืบไป

โรงงานอุตสาหกรรมในจังหวัดระยอง จับมือกับชาวบ้านวัดบ้านแลง อ.เมืองระยอง ซ่อมแซมพระปรางค์เก่าแก่ของวัด ซึ่งเชื่อว่ามีอายุ 270 ปี สมัยกรุงศรีอยุธยา เพื่อให้มีสภาพสมบูรณ์เป็นสมบัติคู่วัด และชาวบ้านสืบไป

เมื่อเวลา 10.00 น.วันที่ 9 ก.ค.ที่วัดบ้านแลง อ.เมืองระยอง นายสุกฤตย์ สุรบลโสภณ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บ.ไออาร์พีซีจำกัด(มหาชน) ได้ส่งมอบพระปรางค์เก่าแก่ของวัดบ้านแลง อ.เมืองระยอง ซึ่งเชื่อว่ามีอายุ 270 ปี สมัยกรุงศรีอยุธยา ให้กับทางวัดบ้านแลงอย่างเป็นทางการ โดยมี นายวราวุธ ปิ่นเงิน รองผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง นายปิยะ ปิตุเตชะ นายสายัณฑ์ ศรีเผือก นายก อบต.บ้านแลง และพี่น้องประชาชนชาวบ้านแลง ร่วมรับมอบ หลังจากบริษัทไออาร์พีซีฯ ได้จัดสรรงบประมาณ จำนวน 2.2 ล้านบาท ได้ร่วมกับชาวบ้าน ลงมือซ่อมแซมบูรณะปฎิสังขรณ์พระปรางค์ดังกล่าว ที่มีสภาพสึกกร่อนและชำรุดทรุดโทรมไปตามกาลเวลา เพื่อให้มีสภาพสมบูรณ์เป็นสมบัติคู่วัดบ้านแลง และชาวบ้านสืบไปสำหรับวัดบ้านแลง หรือ วัดแลง ตั้งขึ้นเป็นสำนักสงฆ์ในสมัยกรุงศรีอยุธยา ประมาณปีพุทธศักราช 2285 มีพระนาคหรือหลวงนาคเป็นผู้ก่อสร้าง โดยตั้งชื่อวัดว่า วัดจันทร์สุวรรณโพธิธาราม ต่อมามีคนเรียกสั้นว่าว่า วัดบ้านแลง หรือวัดแลง ซึ่งพระปรางค์องค์นี้ มีอายุประมาณ 270 ปีแล้ว เป็นทรงแบบขอม โดยเป็นลักษณะแบบก่ออิฐฉาบปูน มีขนาดความสูง 17.08 เมตร ฐานสี่เหลี่ยม วัดโดยรอบยาว 20.50 เมตร สันนิษฐานว่าสร้างมาพร้อมกับวัด จากการสำรวจของกรมศิลปากร ทั่วทั้งภาคตะวันออก มีปรากฏอยู่เพียงแห่งเดียวที่วัดบ้านแลงแห่งนี้เท่านั้น


วฐิต/ข่าว

วิทยาลัยสารพัดช่างระยอง เปิดศูนย์ซ่อมสร้างเพื่อชุมชน ทั้งนี้เพื่อลดภาระรายจ่ายในการซ่อมแซม และยืดอายุการใช้งานของเครื่องมือประกอบอาชีพ เครื่องใช้ไฟฟ้า และเครื่องจักรกลการเกษตรของประชาชนในชุมชน

วิทยาลัยสารพัดช่างระยอง เปิดศูนย์ซ่อมสร้างเพื่อชุมชน ทั้งนี้เพื่อลดภาระรายจ่ายในการซ่อมแซม และยืดอายุการใช้งานของเครื่องมือประกอบอาชีพ เครื่องใช้ไฟฟ้า และเครื่องจักรกลการเกษตรของประชาชนในชุมชน

วันที่ 9 ก.ค.ที่ศูนย์การเรียนรู้ชุมชนชนมาบชะลูด ต.ห้วยโป่ง อ.เมืองระยอง นายธานี สามารถกิจ ผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง เป็นประธานในพิธีเปิด "โครงการขยายบทบาทศูนย์ซ่อมสร้างเพื่อชุมชน (Fix it Center)” ซึ่งจัดขึ้นโดยวิทยาลัยสารพัดช่างระยอง มีนายอภิชาติ กุลธานี ผู้อำนวยการวิทยาลัยสารพัดช่างระยอง คณะผู้บริหาร ครู เจ้าหน้าที่ และนักเรียนนักศึกษาของวิทยาลัย นำบริการศูนย์ซ่อมสร้างเพื่อชุมชน มาบริการฟรีแก่ประชาชนในชุมชนมาบชลูดและชุมชนใกล้เคียง นายอภิชาติ กล่าวว่า โครงการขยายบทบาทศูนย์ซ่อมสร้างเพื่อชุมชน หรือ Fix It Center มุ่งหวังเพื่อลดภาระรายจ่ายในการซ่อมแซม และยืดอายุการใช้งานของเครื่องมือประกอบอาชีพ เครื่องใช้ไฟฟ้า และเครื่องจักรกลการเกษตรของประชาชนในชุมชน ทั้งยังเป็นการสนับสนุนให้นักศึกษา ได้เรียนรู้คู่กับการปฏิบัติจริงด้วย นอกจากนี้ทางวิทยาลัยสารพัดช่างระยอง ยังได้มีการสาธิต และแนะนำการทำอาชีพเสริมให้ประชาชนในชุมชนอีกด้วยนายอภิชาต กล่าวด้วยว่า"โครงการดังกล่าว เป็นประโยชน์ต่อสังคมอย่างยิ่ง ซึ่งจะช่วยถ่ายทอดความรู้ให้แก่ประชาชนในการดูแล รักษา และพัฒนาทักษะ ให้สามารถซ่อมบำรุงเครื่องมือ อุปกรณ์ประกอบอาชีพ และเครื่องใช้ในครัวเรือนได้ด้วยตัวเอง ทั้งนี้ วิทยาลัยสารพัดช่างระยอง ยืนยันว่า จะเสริมสร้างและพัฒนาคุณภาพนักเรียนนักศึกษา ให้มีความเชื่อมั่น และจรรยาบรรณวิชาชีพ มีความรับผิดชอบ เสียสละต่อสังคม เพื่อจะนำประเทศไปสู่การพัฒนาต่อไป”



วฐิต/ข่าว

เทศบาลตำบลสุนทรภู่จัดกิจกรรมโครงการปรองดองสมานฉันท์สร้างความสุขอย่างยั่งยืน

ด้วยเทศบาลตำบลสุนทรภู่ ได้จัดกิจกรรมโครงการปรองดองสมานฉันท์สร้างความสุขอย่างยั่งยืน โดยการจัดกิจกรรมแห่เทียนพรรษา ส่งเสริมขนบธรรมเนียมประเพณีท้องถิ่น จึงขอเชิญทุกท่าน เข้าร่วมกิจกรรม ฯ ดังกล่าว ในวันที่ ๑๐ กรกฎาคม ๒๕๕๗
เวลา ๑๐.๐๐ น. หน้าโรงเรียนวัดพลงไสว (ถวายเทียนพรรษา ณ วัดพลงไสว)
เวลา ๑๔.๐๐ น. หน้าโรงเรียนวัดกลางกร่ำ(ถวายเทียนพรรษา ณ วัดป่ากร่ำ)



ส.ปชส.ระยอง/ข่าว 

ผู้ว่าฯระยอง เปิดโครงการอบรมผู้ประสานพลังแผ่นดินเอาชนะยาเสพติดและการปรองดองสมานฉันท์

วันที่ 6 ก.ค.57 เวลา 10.00 น  ที่ อบต.ตะพง อ.เมือง จ.ระยอง นายธานี สามารถกิจ ผวจ.ระยอง ประธานเปิดโครงการอบรมผู้ประสานพลังแผ่นดินเอาชนะยาเสพติดและการปรองดองสมานฉันท์ โดยมี นายนิพนธ์ เลิศศรีสุวัฒนา นายอำเภอเมืองระยอง กล่าวรายงาน นายประทีป แสงกระจ่าง กล่าวต้อนรับ พร้อมด้วย กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และผู้ประสานพลังแผ่นดินอำเภอเมืองระยอง จำนวน 950 คน เพื่อรับทราบเจตนารมย์ของ คสช.และแนวทางในการแก้ไขปัญหายาเสพติดในหมู่บ้านชุมชน ตระหนักถึงความสำคัญและมีความจงรักภักดีในสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และเป็นแกนนำขับเคลื่อนการสร้างความปรองดองสมานฉันท์ในหมู่บ้านชุมชนต่อไป ทั้งนี้อำเภอเมือง จ.ระยอง มีทั้งหมด 84 หมู่บ้าน 11 ตำบล



สวรส/ข่าว

จ.ฉะเชิงเทรา จัดงานมหกรรมหมู่บ้านเศรษฐกิจพอเพียงสร้างสรรค์

วันนี้ (9 ก.ค.57)  ที่บริเวณสนามหน้าศาลากลางจังหวัดฉะเชิงเทรา  อำเภอเมืองฉะเชิงเทรา  นายอนุกูล  ตังคณานุกูลชัย  ผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทรา เป็นประธานในพิธีเปิดงานมหกรรมหมู่บ้านเศรษฐกิจพอเพียงสร้างสรรค์   โดยมีนายอรชุน  ธิวรรณลักษณ์  พัฒนาการจังหวัดฉะเชิงเทรา   พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการ  ประชาชนทั่วไป และสื่อมวลชน เข้าร่วมงานอย่างคับคั่ง    ทั้งนี้งานดังกล่าวจัดขึ้นระหว่างวันที่ 9-10 กรกฏาคม  2557  กิจกรรมภายในงานประกอบด้วย การจัดประชุมกลุ่มผู้นำและเจ้าหน้าที่แลกเปลี่ยนเรียนรู้ผลสำเร็จ ของการขับเคลื่อนกิจกรรมฯ จำนวน 57 หมู่บ้าน การจัดแสดงนิทรรศการของหมู่บ้านเศรษฐกิจพอเพียงต้นแบบ จำนวน44 หมู่บ้าน การสาธิตอาชีพและเรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียงจากหน่วยงานราชการต่าง ๆ  การแสดงและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ OTOP และผลผลิตของหมู่บ้านเศรษฐกิจพอเพียง และการแสดงศิลปวัฒนธรรมบนเวที  มีวัตถุประสงค์เพื่อให้หมู่บ้านเศรษฐกิจพอเพียงต้นแบบได้แสดงศักยภาพการพัฒนาหมู่บ้านตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบัน และเกิดการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ ด้านปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง นำไปสู่การยกระดับการพัฒนาหมู่บ้านในอนาคต

นายอนุกูล  ตังคณานุกูลชัย ผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทรา  กล่าวว่าการจัดงาน "มหกรรมหมู่บ้านเศรษฐกิจพอเพียงสร้างสรรค์”ในครั้งนี้เป็นการส่งเสริมการพัฒนาหมู่บ้าน ตามแนวปรัชญาเศรษฐกิจของหมู่บ้านต้นแบบ และขยายผลการดำเนินงานเศรษฐกิจพอเพียงในพื้นที่ต่อเนื่อง ตามโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริแนวปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ในการส่งเสริมการดำเนินชีวิตให้เข้มแข็ง อย่างมีเหตุผล ลดรายจ่าย ส่งเสริมอาชีพเพิ่มรายได้ แก่ประชาชนฐานราก ให้อยู่อย่างมีภูมิคุ้มกัน อยู่เย็นเป็นสุขตลอดไป

จังหวัดฉะเชิงเทราจึงขอเชิญประชาชนและผู้ที่สนใจเข้าชมงาน "มหกรรมหมู่บ้านเศรษฐกิจพอเพียงสร้างสรรค์ " ระหว่างวันที่ 9-10  กรกฏาคม  2557  ตั้งเวลา 09 .00 น. เป็นต้นไป  ณ บริเวณสนามหน้าศาลากลางจังหวัดฉะเชิงเทรา 



ชาญณรงค์/ข่าว
ธนภัทร/ภาพ
ส.ปชส.ฉะเชิงเทรา

จังหวัดสระแก้ว จัดโครงการสัปดาห์วันอาสาฬหบูชา และวันเข้าพรรษา สานสัมพันธไมตรีมิติพระพุทธศาสนา ระหว่าง ไทย – กัมพูชา เพื่อสร้างความสามัคคีและความสัมพันธ์ที่ดี

เช้าวันนี้ (9 ก.ค.) ที่วัดหนองปรือ ตำบลผ่านศึก อำเภออรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว นายสมเกียรติ พันธรรม วัฒนธรรมจังหวัดสระแก้ว ประธานในพิธี พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการ ทหาร ตำรวจ องค์การปกครองส่วนท้องถิ่น ประชาชนชาวอำเภออรัญประเทศ และพระสงฆ์ ประชาชน และนักศึกษา ชาวกัมพูชานำโดยนางณิน พวก รองนายอำเภอมาลัย พันตรีเฮือน สุพาด รองหัวหน้าหน่วยประสานงานกัมพูชา – ไทย นายเดิม สุข กำนันตำบลมาลัย ตำบลมาลัย อำเภอมาลัย จังหวัดบันเตียเมียนเจย ประเทศกัมพูชา ร่วมทำบุญตักบาตร หล่อเทียนพรรษา และถวายเทียนพรรษา ในโครงการสัปดาห์วันอาสาฬหบูชา และวันเข้าพรรษา สานสัมพันธไมตรีมิติพระพุทธศาสนา ระหว่าง ไทย – กัมพูชา ซึ่งจัดขึ้นโดยกระทรวงวัฒนธรรม ร่วมกับจังหวัดสระแก้ว ทั้งนี้เพื่อเป็นการสร้างความสามัคคีและส่งเสริมความร่วมมือ ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศไทย – กัมพูชา และความสัมพันธไมตรีระหว่างเมืองคู่ขนาน ซึ่งมีชายแดนติดต่อกัน รวมทั้งความสัมพันธ์ระดับประชาชนสู่ประชาชน โดยใช้มิติทางพุทธศาสนาและวัฒนธรรมเป็นแกนกลาง

นายสมเกียรติ พันธรรม วัฒนธรรมจังหวัดสระแก้ว กล่าวว่า จังหวัดสระแก้วมี มีกำหนดจัดกิจกรรม 4 ครั้ง ตามอำเภอที่มีพื้นที่ติดแนวชายแดน ได้แก่ วันที่ 8 กรกฎาคม ที่วัดตาพระยา อำเภอตาพระยา วันนี้( 9 ก.ค.) ที่วัดหนองปรือ ตำบลผ่านศึก อำเภออรัญประเทศ วันที่ 10 กรกฎาคม ที่วัดคลองหาด อำเภอคลองหาด และวันที่ 11 กรกฎาคม ที่วัดหนองจาน อำเภอโคกสูง

นางโส เพีย ชาวบ้านภูมิทะไม ตำบลมาลัย อำเภอมาลัย จังหวัดบันเตียเมียนเจย กล่าวว่า รู้สึกดีใจที่ได้เข้าร่วมกิจกรรมในครั้งนี้ มีความประทับใจเป็นอย่างมาก ในการต้อนรับของคนไทย และอยากให้ประชาชนของทั้งสองประเทศมีความรัก ความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันตลอดไป


(ดุลยศักดิ์/ภาพ/ข่าว)