วันอังคารที่ 25 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

ตำรวจท่องเที่ยวเมืองพัทยาจับหนุ่มไนจีเรียแอบซุกยาไอซ์ในทวารหนัก สารภาพธุรกิจส่งออกเสื้อผ้าเจ๊งเลยหันมายึดอาชีพค้ายาเสพติด

ขณะที่ พ.ต.ท.อรุณ พร้อมพันธุ์ สว.ส.ทท.4 กก.2 บก.ทท. นำกำลังตำรวจท่องเที่ยวเมืองพัทยา ออกตรวจตรารักษาความสงบเรียบร้อยและดูแลรักษาความปลอดภัยให้กับนักท่อง เที่ยวภายในเมืองพัทยา จนไปถึงบริเวณถนนพัทยาสาย 3 ตัดถนนพัทยากลาง พบชายชาวต่างชาติขับรถ จยย.ผ่านมาท่าทางมีพิรุธ จึงเรียกให้จอดเพื่อเพื่อขอตรวจค้น

สอบสวนทราบชื่อต่อมาคือนายกูดวิน ชิโนดู อัฟกาลักวี (Mr.Godwin Chinedu Abgarakwe) อายุ 35 ปี ชาวไนจีเรีย จากการตรวจค้นพบของกลางยาไอซ์ น้ำหนักรวม 4 กรัม ซุกซ่อนอยู่ในทวารหนัก จึงยึดไว้เป็นหลักฐาน จากการสอบปากคำให้การรับสารภาพว่า เดินทางเข้ามาในเมืองไทยได้ประมาณ 1 ปีเศษและประกอบธุรกิจซื้อเสื้อผ้าย่านประตูน้ำส่งออกไปขายยังประเทศบ้านเกิด แต่ระยะหลังประสบภาวะขาดทุนจึงหันมายึดอาชีพขายยาไอซ์ โดยจะติดต่อขอซื้อมาจากเอเย่นต์คนหนึ่งในกรุงเทพฯ ก่อนนำมาขายให้กับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติในเมืองพัทยา

ด้าน พ.ต.ท.อรุณ พร้อมพันธุ์ เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบหนังสือเดินทางของนายกูดวิน พบว่าเดินทางเข้ามาประเทศไทยเมื่อวันที่ 8 กันยายน 2555 และอนุญาตให้อยู่ถึงวันที่ 6 ธันวาคม 2555 ถ้านับเวลาถึงปัจจุบันจึงถือว่าหนุ่มไนจีเรียรายนี้อยู่เกินเวลาที่กำหนด หรือโอเวอร์สเตย์ เบื้องต้นจึงแจ้งข้อกล่าวหาว่ามียาเสพติดให้โทษประเภท1 (ยาไอซ์) ไว้ในครอบครอง และอยู่ในราชอาณาจักรไทยเกินกำหนดที่ได้รับอนุญาต ก่อนคุมตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองพัทยา ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป



ปริญญา/ข่าว/ภาพ

ยายวัย70 ใจเด็ด! ฮึดสู้คว้ามีดดาบฟันโจรกลางกะบาลเลือดอาบ

พ.ต.อ.สุทธิศักดิ์ วันที ผกก. สภ.หนองปรือ จังหวัดชลบุรี ได้รับแจ้งเหตุหญิงวัยชราเจ้าชองบ้าน ใช้อาวุธมีดฟันคนร้ายเข้ามาก่อเหตุชิงทรัพย์ได้รับบาดเจ็บ เหตุเกิดภายในบ้านพักเลขที่ 101/9 อยู่ในซอย 13 ทุ่งกลมตาลหมัน หมู่8 ตำบลหนองปรือ อำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี หลังรับแจ้งจึงรุดไปตรวจสอบพร้อมด้วยหน่วยกู้ภัยมูลนิธิสว่างบริบูรณ์ เมืองพัทยา

เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุเป็นบ้านพัก 1 ชั้น ครึ่งปูนครึ่งไม้ ซึ่งแบ่งเปิดเป็นร้านขายของชำ บริเวณตู้แช่เครื่องดื่ม พบร่างคนร้ายนอนจมกองเลือด ในสภาพถูกอาวุธมีดฟันเข้ากลางศีรษะ1 ที่บาดแผลยาว 3 เซนติเมตร ลึกกว่า 1 เซนติเมตร ทราบชื่อต่อมาคือนายอภิชาติ จันแดง อายุ 15 ปี อาชีพรับจ้างเป็นช่างฝ้าเพดาน เจ้าหน้าที่กู้ภัยฯจึงปฐมพยาบาลเบื้องต้น ก่อนเคลื่อนย้ายส่ง รพ.บางละมุง

ส่วนนางสาวสุรีย์ สุพรรณปัฏ อายุ 70 ปี หญิงวัยชราเจ้าของร้าน อยู่ในอาการตกใจและผวากับเหตุการณ์ดังกล่าว ซึ่งหลังใช้อาวุธมีดดาบฟันคนร้ายแล้วก็ไม่ได้หลบหนีไปไหน ยืนรอให้การกับเจ้าหน้าที่ หลังจากปิดร้านช่วงหัวค่ำได้นอนพักผ่อนอยู่ในบ้านปกติ จนช่วงกลางดึกคนร้ายได้ปีนมุดช่องระบายอากาศบริเวณหลังบ้านเข้ามาก่อเหตุ ก่อนจะใช้มือปิดปากขณะหลับอยู่บนเตียงเตียงนอน พอรู้สึกตัวยายไม่ยอมขัดขืนลุกขึ้นมาสู้กับคนร้าย จนข้าวของในร้านกระจัดกระจาย จากนั้นนางมาลินี กรีมละ อายุ 24 ปี หลานสาว บ้านอยู่ติดกันได้ยินเสียงวิ่งเข้ามาช่วยเหลือ แต่สู้แรงคนร้ายไม่ไหวยายจึงคว้าดาบซุกไว้ใต้เตียงฟันศีรษะคนร้ายจนลงไปกองฟุบกับพื้น และโทรเรียกตำรวจมาตรวจสอบดังกล่าว

ด้าน พ.ต.อ.สุทธิศักดิ์ เปิดเผยว่า จากการสอบสวนนายอภิชาติ ผู้ก่อเหตุ ยังให้การวกไปวนมาคล้ายคนเมาอะไรบางอย่าง ซึ่งยอมรับเข้ามาก่อเหตุครั้งนี้ เพื่อประสงค์ต่อชิงทรัพย์สิน โดยอ้างว่าต้องการหาเงินไปรับแฟนสาวซึ่งอยู่ในกรุงเทพ หลังสอบสวนทางตำรวจยังไม่ปักใจในคำให้การของผู้ก่อเหตุ อย่างไรก็ตามตำรวจจะอายัดตัวนายอภิชาติ ผู้ก่อเหตุที่โรงพยาบาลก่อน จากนั้นจะสอบสวนอย่างละเอียดอีกครั้ง  



ปริญญา/ข่าว/ภาพ

เอกอัครราชทูตจีนประจำประเทศไทย เยี่ยมชมมาตรการส่งเสริมการท่องเที่ยว เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับนักท่องเที่ยวชาวจีน

เอกอัครราชฑูตจีนประจำประเทศไทย เดินทางเข้าพบผู้บริหารเมืองพัทยา ดูมาตรการส่งเสริมการท่องเที่ยวและความปลอดภัยของเมืองพัทยา เพื่อสร้างความมั่นใจในการเดินทางของนักท่องเที่ยวจีนในอนาคต ด้านภาคธุรกิจเอกชนระบุถือเป็นแนวโน้มที่ดีต่อการชี้แจงสถานการณ์การท่องเที่ยว

ที่ศาลาว่าการเมืองพัทยา จังหวัดชลบุรี นายรณกิจ เอกะสิงห์ รองนายกเมืองพัทยา พร้อมด้วยนายบัณฑิต ศิริตันหยง รองประธานสภาวัฒนธรรมไทย-จีน และส่งเสริมความสัมพันธ์ นายศักดิ์ชัย แตงฮ่อ นายอำเภอบางละมุง นายปรเมศวร์ งามพิเชษฐ์ อดีต ส.ส.ชลบุรี พร้อมหัวหน้าส่วนราชการ ตัวแทนองค์กรภาคธุรกิจเอกชน ร่วมให้การต้อนรับ มร.หนิง ฟูกุ่ย (Ning Fukui) เอกอัครราชฑูตสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำประเทศไทย พร้อมคณะ ในโอกาสที่เดินทางมาเยือนเมืองพัทยาอย่างเป็นทางการ เพื่อร่วมประชุมหารือเกี่ยวกับปัญหาด้านการท่องเที่ยว โดยเฉพาะกรณีของมาตรกาความปลอดภัยของนักท่องเที่ยวในพื้นที่เมืองพัทยา ซึ่งมีกำหนดการในระหว่างวันที่ 21-23 กุมภาพันธ์ศกนี้

ในการนี้ตัวแทนจากเมืองพัทยาได้ร่วมชี้แจง บรรยายสรุปถึงสถานการณ์การท่องเที่ยวในภาพรวมรวมทั้งการพัฒนาทางด้านเศรษฐกิจและสังคม  และมาตรการในการรักษาความปลอดภัยของเมืองพัทยา ซึ่งถือว่าเข้มข้นและได้รับความร่วมมือจากหน่วยงานภาคต่างๆ เพื่อดูแลและอำนวยความสะดวกแก่นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างประเทศอย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งการท่องเที่ยวทางบกและทะเล โดยมีแผนในการจัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการร่วมเพื่อดูแลนักท่องเที่ยวอย่างเป็นรูปธรรม บริเวณชายหาดพัทยาใต้ ซึ่งปัจจุบันอยู่ในขั้นตอนของการว่าจ้างผู้รับเหมาเข้ามาดำเนินการ และการจัดตั้งศาลเพื่อดูแลนักท่องเที่ยวเป็นการเฉพาะกิจ ซึ่งปัจจุบันได้เปิดดำเนินการอย่างเป็นทางการไปแล้ว

ในขณะเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างเมืองพัทยากับทางประเทศจีนนั้นในอดีตที่ผ่านมา มีการกระชับความสัมพันธ์และเดินทางไปมาหาสู่กันอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะกรณีของการลงนามเป็นบ้านพี่เมืองน้อง ระหว่างเมืองพัทยากับเมืองชิงเต่า ซึ่งถือว่าเกิดประโยชน์ต่อด้านเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวระหว่างกันอย่างต่อ เนื่อง โดยจะเห็นได้จากปัจจุบันเมืองพัทยามีนักท่องเที่ยวชาวจีนเดินทางเข้ามาพัก ผ่อนในอัตราปีละไม่ต่ำกว่า 1.2 ล้านคนทั้งนี้ มร.หนิง ฟูกุ่ย เอกอัคราชฑูตสาธารณรัฐจีนประจำประเทศไทย กล่าวว่า เมืองพัทยาถือเป็นเมืองท่องเที่ยวที่มีศักยภาพสูง ทำให้ชาวจีนสนใจเดินทางมาท่องเที่ยวในแต่ละปีเป็นจำนวนมาก อย่างไรก็ตาม มาตรการด้านความปลอดภัยถือเป็นสิ่งสำคัญต่อเมืองท่องเที่ยว จึงอยากให้กำหนดแนวนโยบายและวางมาตรการที่รัดกุมเพื่อลดปัญหาที่เกิดขึ้น ส่วนกรณีที่ประเทศไทยมีสถานการณ์ทางการเมืองจนส่งผลกระทบให้นักท่องเที่ยวลดลงนั้น ในฐานะที่เป็นฑูตประจำประเทศไทย ก็จะส่งข้อมูลรวมทั้งประชาสัมพันธ์และชี้แจงผ่านไปยังประเทศจีนว่าเมืองพัทยามีความพร้อมและไม่มีปัญหาใดๆเกิดขึ้น

ขณะที่นายธเนศ ศุภรสหัสรังสี ที่ปรึกษาสมาคมนักธุรกิจและการท่องเที่ยวเมืองพัทยา กล่าวว่า กรณีนี้ถือเป็นโอกาสอันดีที่มีข้าราชการระดับสูงของประเทศจีนเดินทางมาเยือนเมืองพัทยา เพื่อให้เห็นถึงข้อเท็จจริงในด้านความปลอดภัยในพื้นที่ ที่สามารถรองรับการท่องเที่ยวได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยปัจจุบันสถานการณ์ด้านการท่องเที่ยวในส่วนของประเทศจีนนั้นยังอยู่ในระดับแดง แต่หากมีการชี้แจงข้อมูลที่ถูกต้องและเห็นภาพความสวยงาม และความพร้อมอย่างเป็นรูปธรรม ก็คงจะส่งผลให้สถานการณ์การท่องเที่ยวของเมืองพัทยาดีขึ้นในอนาคตอย่างแน่นอน



ปริญญา/ข่าว/ภาพ

เทศบาลตำบลเขตรอุดมศักดิ์ จัดโครงการรณรงค์ป้องกันไข้เลือดออก

นายไพโรจน์ มาลากุล ณ อยุธยา ได้มาเป็นประธานในพิธี โครงการรณรงค์ป้องกันไข้เลือดออก ณ เทศบาลตำบลเขตรอุดมศักดิ์ อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี โดยมีคณะผู้บริหาร หัวหน้าส่วนราชการ ประธานกรรมการชุมชน อาสาสมัครสาธารณสุข ร่วมให้การต้อนรับ

ในพื้นที่เทศบาลตำบลเขตรอุดมศักดิ์พบผู้ป่วยด้วยโรคไข้เลือดออกจำนวนมาก ซึ่งถือว่าเป็นสถานการณ์โรคที่ไม่น่าไว้วางใจที่ทุกภาคส่วนทั้งภาครัฐ เอกชน และภาคประชาชนจะต้องเข้ามามีส่วนร่วมในการป้องกันและควบคุมโรค ร่วมมือกันทำลายและควบคุมแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลายอย่างจริงจังและต่อเนื่อง ทั้งในหน่วยราชการ โรงเรียน วัด และอาคารบ้านเรือน ทุกชุมชนทุกหมู่บ้านเพื่อลดความรุนแรงการระบาดของโรคไข้เลือดออกลง

นายไพโรจน์ มาลากุล ณ อยุธยา ได้มาเป็นประธานในพิธี กล่าวว่าในโอกาสนี้ขออันเชิญกระแสพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวที่พระราชทาน ณ พระราชวังไกลกังวล หัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขีนธ์ เมื่อวันที่ 28 สิงหาคม 2548 แก่ผู้ที่มีหน้าที่เกี่ยวกับการป้องกันโรคไข้เลือดออก เพื่อเตือนสติให้ทุกท่านได้ตระหนักถึงภารกิจในการป้องกันโรคไข้เลือดออกร่วมกัน ใจความกระแสพระราชดำรัสมีดังนี้ “โครงการ ปราบยุงลายคั้งค้างมานานแล้ว และอันตรายยังมีอยู๋มาก อยากให้ปราบปรามอย่างจริงจัง อันตรายจากโรคไข้เลือดออกจะได้ทุเลาลง”ดังนั้นในการจัดกิจกรรมในวันนี้ก็ เพื่อระดมความร่วมมือจากทุกภาคส่วนเข้ามามีส่วนร่วมในการควบคุมโรคไข้เลือด ออกต้องขอขอบคุณผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทุกท่านที่ได้ร่วมกันจัดกิจกรรมควบคุม และป้องกันโรคไข้เลือดออกในวันนี้และต่อจากนี้ไปขอให้ทุกท่านได้ไปดำเนิน กิจกรรมการควบคุมป้องกันโรคไข้เลือดออกทั้งในหน่วยงาน โรงเรียน วัดและอาคารบ้านเรือนทุกชุมชนทุกหมู่บ้านต่อไป


ปริญญา/ข่าว/ภาพ

แถลงข่าว เปิดตัวสโมสรพัทยา อารีน่า ฟุตซอล คลับ

นายอิทธิพล คุณปลื้ม นายกเมืองพัทยา พร้อมด้วยนายชาญยุทธ เฮงตระกูล เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ นายนิพิชฌน์ เกตน์พงศ์พัทธ ผู้บริหารเมืองจำลอง พัทยา ในฐานะประธานสโมสรพัทยาอารีน่า ฟุตซอลคลับ ร่วมแถลงข่าวเปิดตัวสโมสรพัทยาอารีน่า ฟุตซอล คลับ อย่างเป็นทางการ โดยมีสมาชิกสภาเมืองพัทยา ที่ปรึกษานายกเมืองพัทยา ผู้สนับสนุนและสื่อมวลชนแขนงต่างๆ เข้าร่วมงานแถลงข่าว ณ อาคารกรีฑาในร่มเมืองพัทยา ศูนย์กีฬาแห่งชาติภาคตะวันออก ซอยชัยพฤกษ์ 2

สโมสรพัทยา อารีน่า ฟุตซอลคลับ ได้จัดตั้งขึ้นเมื่อปี 2556 ได้ส่งทีมฟุตซอลเดินสายแข่งขัน ในรายการต่างๆ ทั่วประเทศ อาทิเช่น รายการแคทริจินอล 2010 - 2011 สามารถคว้ารางวัลได้ที่ 2 ในระดับภาคและได้อันดับ 4 ในระดับประเทศ และในช่วง ปี2011 - 2012 ได้เข้ารอบ 16 ทีม สุดท้ายในรายการยูเมะพลัส FA CUP สำหรับสโมสรพัทยาอารีน่า ฟุตซอลคลับ มีคณะผู้บริหารทีมนำโดย นายสนธยา คุณปลื้ม รักษาการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม ประธานที่ปรึกษากิตติมศักดิ์ นายอิทธิพล คุณปลื้ม นายเมืองพัทยา ในฐานะที่ปรึกษาสโมสรฯ นายชาญยุทธ เฮงตระกูล ที่ปรึกษาสโมสร นายนิพิชฌน์ เกตน์พงศ์พัทธ ประธานสโมสร นายวรรพต พงษ์มาลี เลขานุการสโมสร นายสิทธิพล อุบลรัตน์ ผู้จัดการทีม นายพัทยา เปี่ยมคุ้ม ประธานเทคนิค และนายประเสริฐ อินนุ้ย เฮดโค้ช “พัทยาอารีน่า ฟุตซอลคลับ ถือเป็นทีมฟุตซอล หรือสิงห์โต๊ะเล็กของเมืองพัทยา ที่หลากหลายองค์กรในท้องถิ่นได้ร่วมกันสนับสนุนเพื่อสร้างความแข็งแกร่งให้ทีมสู้ศึกในรายการลีกฟุตซอลไทย เป็นการเริ่มต้นจากทีมเล็กๆ จนพัฒนาสู่เวทีการแข่งขันระดับชาติ

นายอิทธิพล คุณปลื้ม นายกเมืองพัทยา ในฐานะที่ปรึกษาสโมสรพัทยาอารีน่า ฟุตซอลคลับ เผยว่าการเปิดตัวทีมพัทยาอารีน่าในครั้งนี้ เพื่อจะร่วมแข่งขันในรายการฟุตซอลไทยแลนด์พรีเมียร์ลีก 2014 อันจะเป็นการผลักดันและพัฒนานักเตะระดับเยาวชนท้องถิ่นของเมืองพัทยาให้มีมาตรฐานไปสู่ระดับอาชีพ เป็นการส่งเสริมให้เยาวชนและประชาชนสนใจในกิจกรรมกีฬาระดับชาติ ซึ่งจะต่อยอดไปสู่การพัฒนาเศรษฐกิจท้องถิ่นให้มีความคึกคัก และจะใช้อาคารกรีฑาในร่มแห่งนี้เป็นสนามเหย้าในการเปิดบ้านรับคู่แข่งที่จะมาจากที่อื่นๆ ด้วยเช่นกัน

เมืองพัทยาขอเชิญ ร่วมชม ร่วมเชียร์ และส่งกำลังใจแก่นักกีฬาที่เข้าร่วมการแข่งขันในรายการฟุตซอลไทยแลนด์พรีเมียร์ลีก 2014 ณ อาคารกรีฑาในร่มเมืองพัทยา ศูนย์กีฬาแห่งชาติภาคตะวันออก ซอยชัยพฤกษ์ 2 หรือสอบถามข้อมูลตารางการแข่งขันได้ที่ http://www.pattayaarenafs.com



ปริญญา/ข่าว/ภาพ

ส.ปชส.จบ. พาสื่อท้องถิ่นศึกษาดูงานโครงการพระราชดำริฯ จ.เพชรบุรี

สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดจันทบุรี จัดกิจกรรมเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์ นำสื่อมวลชนศึกษาดูงานโครงการตามพระราชดำริฯ ในพื้นที่อำเภอบ้านแหลม และอำเภอท่ายาง จังหวัดเพชรบุรี

เมื่อวันที่ 20 ถึง 21 ก.พ. 57  สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดจันทบุรี นำคณะสื่อมวลชนร่วมกิจกรรมตามโครงการประชาสัมพันธ์เทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์ โดยมีสื่อมวลชนทุกแขนงรวมทั้งสิ้น 30 คน ไปศึกษาดูงานโครงการตามพระราชดำริหรือศูนย์เรียนรู้ตามปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง  โดยมีกำหนดการเดินทาง 2 วัน 1 คืน ศึกษาดูงาน 2 แห่ง คือ วันพฤหัสบดีที่ 20 กุมภาพันธ์ 2557 นำคณะสื่อมวลชนศึกษาดูงานโครงการศึกษาวิจัยและพัฒนาสิ่งแวดล้อมแหลมผักเบี้ย อันเนื่องมาจากพระราชดำริ อำเภอบ้านแหลม จังหวัดเพชรบุรี และเข้าพักค้างคืน ณ วนอุทยานแห่งชาติปราณบุรี อำเภอปราณบุรี จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ต่อมาวันศุกร์ที่ 21 กุมภาพันธ์ 2557 นำคณะสื่อมวลชนศึกษาดูงานโครงการชั่งหัวมัน ตามพระราชดำริ อำเภอท่ายาง จังหวัดเพชรบุรี ทั้งนี้เพื่อเป็นการเผยแพร่โครงการพระราชดำริและศูนย์การเรียนรู้ตามปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง และเพื่อเปิดโอกาสให้สื่อมวลชนได้เพิ่มพูนความรู้ ทักษะ เกี่ยวกับโครงการพระราชดำริและศูนย์การเรียนรู้ตามปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง  สามารถนำมาปรับใช้ในชีวิตประจำวันได้ และสามารถนำเผยแพร่สู่สาธารณชนให้เป็นที่รู้จักได้อย่างกว้างขวางต่อไป

กกต.ตราด ย้ำประชาชนแจ้งยื่นคำขอลงทะเบียนหรือเปลี่ยนแปลงหรือยกเลิกการลงทะเบียนการใช้สิทธิเลือกตั้งนอกเขตจังหวัด เตรียมเลือกตั้ง ส.ว. ภายใน 28 ก.พ. นี้

(25 ก.พ. 57) นายปิติฉัตร ธนนวนนท์ ผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำจังหวัดตราด เปิดเผยว่า ตามที่สมาชิกวุฒิสภาที่มาจากการเลือกตั้งเป็นการทั่วไปเมื่อวันที่ 2 มีนาคม 2551 จะครบวาระการดำรงตำแหน่งในวันที่ 1 มีนาคม 2557 ซึ่งรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.28550 แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2554 มาตรา 118 ให้กำหนดวันเลือกตั้งภายใน 30 วัน นับตั้งแต่วันที่วาระของวุฒิสภาซึ่งมาจากการเลือกตั้งสิ้นสุดลง ดังนั้นเพื่อให้การจัดการเลือกตั้งสมาชิกวุฒิสภา กรณีครบวาระการดำรงตำแหน่งในวันที่ 1 มีนาคม 2554 เป็นไปด้วยความเรียนบร้อย มีประสิทธิภาพ สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดตราดจึงได้กำหนดให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งยื่นคำร้องขอลงทะเบียนขอใช้สิทธิเลือกตั้งล่วงหน้านอกเขตจังหวัด หรือยื่นคำขอเปลี่ยนแปลง หรือยกเลิกการลงทะเบียนการใช้สิทธิเลือกตั้งนอกเขตจังหวัด ณ สำนักทะเบียนอำเภอหรือสำนักทะเบียนท้องถิ่น ที่ตนเองมีชื่ออยู่หรือที่ตนเองมีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้าน แล้วแต่กรณี ภายในวันที่ 28 กุมภาพันธ์ นี้ ทั้งนี้สามารดาวน์โหลดคำขอลงทะเบียนหรือเปลี่ยนแปลงหรือยกเลิกการลงทะเบียนการใช้สิทธิเลือกตั้งนอกเขตจังหวัด (ส.ส.42) ได้ที่เว็บไซด์ www.ect.go.th สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ งานการมีส่วนร่วม สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดตราด หมายเลขโทรศัพท์ 0-3952-0499 , 0-3952-5526 – 7 ต่อ 51 – 52

ปภ.ตราด เสริมสร้างศักยภาพชุมชนด้านการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยให้กับ 4 ชุมชนของตำบลห้วยแร้ง

(25 ก.พ. 57) นายวิรัต อสัมภินาวงศ์ นายอำเภอเมืองตราด เปิดโครงการเสริมสร้างศักยภาพชุมชนด้านการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ให้กับประชาชนหมู่ที่ 1 บ้านเกาะขวาง หมู่ที่ 6 บ้านฉางเกลือ หมู่ที่ 7 บ้านแหลมตอง และหมู่ที่ 8 บ้านบางปรือ ของตำบลห้วยแร้ง อำเภอเมืองตราด ที่ห้องประชุมองค์การบริหารส่วนตำบลห้วยแร้ง โดยมีประชาชนจากทั้ง 4 หมู่บ้านรวม 50 คนเข้าร่วมโครงการ

นายฐิตนันท์ อุดมสุข หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดตราด กล่าวว่า ในอดีตรูปแบบการดำเนินการจัดการภัยพิบัติ คือ การตั้งรับโดยเมื่อเกิดภัยพิบัติแล้วจึงเข้าไปจัดการแก้ไขปัญหาที่ตามมา ซึ่งจะส่งผลให้เกิดความสูญเสียที่มากมาย แต่การดำเนินการโครงการนี้เป็นแนวคิดในการจัดการภัยพิบัติแผนใหม่ คือ การดึงประชาชนในชุมชนเข้ามามีส่วนร่วมในการป้องกันและแก้ไขปัญหาภัยพิบัติ โดยการให้ประชาชนเข้ามาคิดเองจัดการเองว่าในหมู่บ้านของตนมาสิ่งแวดล้อมอย่างไรภัยพิบัติที่เสี่ยงต่อหมู่บ้านของตนมีอะไรบ้าง จากนั้นประชาชนจะได้ร่วมกันจัดทำแผนที่ชุมชนว่าพื้นที่ตรงไหนของหมู่บ้านเป็นจุดเสี่ยงภัย หรือพื้นที่ตรงไหนเป็นพื้นที่ปลอดภัย จากนั้นจึงให้ประชาชนร่วมจำลองสถานการณ์ที่เกิดภัยพิบัติในหมู่บ้านของตน พร้อมทั้งเรียงลำดับความสำคัญในการแก้ไขปัญหา โดยมีส่วนราชการที่เกี่ยวข้องเป็นพี่เลี้ยงดำเนินการ อย่างไรก็ตามการดำเนินการในครั้งนี้ได้มีการคัดเลือก 4 หมู่บ้านของตำบลห้วยแร้งดำเนินการ เนื่องจากเป็นพื้นที่เสี่ยงภัยจากปัญหาน้ำป่าไหลหลาก และน้ำท่วมขังจากน้ำล้นตลิ่ง ทั้งนี้เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมของประชาชนในชุมชน พร้อมทั้งสร้างระบบเตือนภัยในชุมชน และมีการจัดตั้งทีมกู้ภัยประจำชุมชน ซึ่งเมื่อเกิดปัญหาแล้ว ประชาชนในชุมชนดังกล่าวสามารถขนย้ายทรัพย์สิน และเอาตัวรอดจากเหตุการณ์โดยไม่ได้รับอันตราย

สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 9 (ชลบุรี) สร้างเครือข่ายราษฎรอาสาสมัครพิทักษ์ป่า (รสทป.) ในพื้นที่จังหวัดตราด

(25 ก.พ. 57) นายสมศักดิ์ อิทธิวรกุล ปลัดจังหวัดตราด เปิดโครงการฝึกอบรมราษฎรอาสาสมัครพิทักษ์ป่า (รสทป.) รุ่นที่ 1 / 2557 ในพื้นที่จังหวัดตราด ซึ่งสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 9 (ชลบุรี) ดำเนินการจัดขึ้น โดยมี ผู้นำชุมชน ประชาชน ในพื้นที่จังหวัดตราดจำนวน 100 คนเข้าร่วมโครงการรวมระยะเวลา 3 วัน ที่อุทยานแห่งชาติน้ำตกคลองแก้ว ตำบลบ่อพลอย อำเภอบ่อไร่ จังหวัดตราด

นายสมคิด แก้วไทรหงวน ผู้อำนวยการสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 9 (ชลบุรี) กล่าวว่า สถานการณ์ป่าไม้ในปัจจุบันกรมป่าไม้ดูแลพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ จำนวน 1,221 ป่า คิดเป็นเนื้อที่ 73.7 ล้านไร่ ในภาพรวมยังพบการบุกรุกตัดไม้ทำลายป่า โดยมีกลุ่มนายทุนหรือผู้มีอิทธิพลอยู่เบื้องหลัง จนสภาพป่าไม้หลายแห่งของประเทศอยู่ในภาวะวิกฤติ ปัญหาเหล่านี้จึงต้องมีความจำเป็นในการเฝ้าระวังไม่ให้มีการบุกรุกทรัพยากรป่าไม้ ในพื้นที่ป่าอนุรักษ์และป่าสงวนแห่งชาติเพิ่มขึ้นอีก เพื่อให้การแก้ไขปัญหาดังกล่าวเกิดเป็นรูปธรรม โดยการเปิดโอกาสให้ประชาชนในท้องถิ่นได้มีส่วนร่วมในการดูแลทรัพยากรป่าไม้ ทางสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 9 (ชลบุรี) จึงได้จัดโครงการฝึกอบรมราษฎรอาสาสมัครพิทักษ์ป่า (รสทป.) รุ่นที่ 1 / 2557 ในพื้นที่จังหวัดตราด ขึ้น เพื่อถ่านทอดพระราชปณิธาน และความห่วงใยในพสกนิกรปวงชนชาวไทยทุกหมู่เหล่าของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าฯ แก่ราษฎรในพื้นที่ให้มีความเข้าใจและซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณ ร่วมกันดูแลรักษาป่าถวายเป็นพระราชสักการะ ทั้งยังเป็นการจิตสำนึกและอุดมการณ์ร่วมกันในการป้องกันและรักษาป่าระหว่างเจ้าหน้าที่ของรัฐกับราษฎรในพื้นที่ให้เกิดเป็นรูปธรรม เป็นการจัดตั้งองค์กรราษฎรอาสาสมัครพิทักษ์ป่า (รสทป.) ในชุมชน ที่อยู่ในและรอบพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ ในการเป็นเครือข่ายป้องกันรักษาป่ารวมทั้งการควบคุมปัยหาไฟป่า ให้เกิดผลเป็นรูปธรรมอีกด้วย

ประชาชนชาวนตราดจำนวนมากเริ่มซื้อหากล้วยไม้หลากหลายสายพันธุ์ ในงาน “วันรักษ์กล้วยไม้เมืองตราด ครั้งที่ 1”

(25 ก.พ. 57) นายบรรจง กนะกาศัย นายอำเภอเขาสมิง จังหวัดตราด กล่าวหลังตรวจความพร้อมในการเตรียมงาน "วันรักษ์กล้วยไม้เมืองตราด ครั้งที่ 1” บริเวณหน้าองค์การบริหารส่วนตำบลเขาสมิง ว่า งานดังกล่าวอำเภอเขาสมิง โดยองค์การบริการส่วนตำบลเขาสมิง และกลุ่มรักษ์กล้วยไม้ไทยบ้านวังตัก ร่วมกันจัดขึ้นในระหว่างวันที่ 26 กุมภาพันธ์ – 2 มีนาคม 2557 ทั้งนี้เพื่อเป็นการสนับสนุนการเพาะเลี้ยงกล้วยไม้พื้นเมืองตราดเพื่อการอนุรักษ์ ทั้งยังเป็นการเสริมสร้างให้เกิดอาชีพแก่ชุมชน เนื่องจากกลุ่มวิสาหกิจชุมชนกลุ่มรักษ์กล้วยไม้ไทยบ้านวังตัก มีความเข้มแข็งในการดำเนินการอนุรักษ์กล้วยไม้ นอกจากนี้การจัดงานดังกล่าวยังเป็นการปลูกฝังจิตสำนึกของประชาชนในการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติสิ่งแวดล้อม และพรรณพืชท้องถิ่นอีกด้วย

สำหรับการจัดงานนี้มีกิจกรรมที่หลากหลาย ประกอบด้วย การประกวดและแสดงกล้วยไม้หลากหลายสายพันธุ์ การประกวดสับปะรดพันธุ์ตราดสีทองและปัตตาเวีย การแข่งขันปอกและกินสับปะรด ตลอดจนการออกร้านจำหน่ายพันธุ์กล้วยไม้ และวัสดุทางการเกษต อย่างไรก็ตามการเตรียมการจัดงานในวันนี้ซึ่งเป็นวันก่อนเริ่มงานปรากฎว่าได้รับความสนใจจากประชาชนชาวตราดจำนวนมากต่างมาเลือกซื้อหากล้วยไม้นานาสายพันธุ์ ส่วนในวันพรุ่งนี้คาดว่าจะมีประชาชนสนใจร่วมชมงานจำนวนมากเนื่องจากเป็นวันจัดประกวดกล้วยไม้สายพันธุ์ต่าง ๆ ทางอำเภอเขาสมิงจึงขอเชิญชวนประชาชน และนักท่องเที่ยวร่วมชมงานดังกล่าว