วันอังคารที่ 29 เมษายน พ.ศ. 2557

ตร.พัทยา รวบแก๊งค้ายารายใหญ่ เครือข่ายคุกพัทยา

ที่ สภ.เมืองพัทยา พล.ต.ต.คัชชา ธาตุศาสตร์ ผบก.ภ.จว.ชลบุรี แถลงผลงาน พ.ต.อ.ศุภชัย ผุยแก้วคำ ผกก. สภ.เมืองพัทยา พร้อมกำลังจับกุมแก๊งค้ายาเสพติดเครือข่ายเรือนจำพิเศษพัทยา ได้ผู้ต้องหา 2 คน ประกอบด้วยนายวรรณพงษ์ หรือเอก ธรรมชาติ อายุ 23 ปี ชาวจังหวัดระยอง และนายประเสริฐสิทธิ์ หรือตั้ม หันเสมอ อายุ 20 ปี ชาวจังหวัดสระแก้ว พร้อมของกลางยาบ้า 10,000 เม็ด ยาไอซ์น้ำหนักชั่งได้ 33.96 กรัม และรถกระบะ 4 ประตู ยี่ห้อมาสด้า บีที 50 สีดำ ทะเบียน บน 447 พะเยา จับกุมได้ที่คลาสสิค อินน์ ถนนเทพประสิทธิ์ หมู่12 ตำบลหนองปรือ อำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี

พ.ต.อ.ศุภชัย เปิดเผยว่า ก่อนเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งจากสายลับว่าจะมีการมั่วสุ่มยาเสพติด และส่งมอบยาเสพติดกัน โดยจะมีชายไทยสองคน ที่สังเกตใช้รถยนต์กระบะยี่ห้อมาสด้า สีดำ ทะเบียน บน 447 พะเยา จึงทำการสืบสวนจนทราบว่า ผู้ต้องหาเปิดห้องพักรายย่านเทพประสิทธิ์ ไว้กบดาน นำกำลังไปตรวจสอบ พบผู้ต้องทั้งสองคน กำลังมั่วสุ่มเสพยาบ้าในห้องพัก จากการตรวจค้นพบยาบ้าและยาไอซ์จำนวนดังกล่าว ซุกซ่อนอยู่ใต้โซฟาในห้องพัก จึงยึดไว้เป็นหลักฐาน

สอบสวน ผู้ต้องหา อ้างว่า ได้รับการว่าจ้างจากนายนัท (ไม่ทราบชื่อ-สกุลจริง) จำคุกที่เรือนจำพิเศษพัทยา คดีจำหน่ายยาเสพติด ได้โทรศัพท์ติดต่อให้ไปเอารถกระบะมาสด้า จากนายกานต์ ที่ตลาดไร่วนาสินธุ์ ซอยสยามคันทรีคลับ เพื่อใช้เป็นยานพาหนะไปรับยาบ้าและยาไอซ์ ซึ่งจะมีผู้นำยาบ้าและไอซ์มาวางให้ที่ข้างถนนสาย7 ขาเข้าพัทยา หลังจากผู้ต้องหาทั้งสองไปรับยาเสพติดตามที่นัดหมาย ได้มาเปิดห้องพักรายวันเพื่อกบดาน เพื่อรอจะได้ไปส่งให้กับนายเจมส์ ที่จังหวัดขอนแก่น ตามที่นายนัท ผู้ต้องขังในเรือนจำสั่งการ โดยใช้วิธีการนั่งรถโดยสารประจำทางของบริษัทชาญทัวร์ เพื่อไปส่งยาเสพติดที่จังหวัดขอนแก่น ซึ่งเคยรับจ้างส่งยาเสพติดมาแล้ว 5-6 ครั้ง โดยได้รับค่าจ้างแต่ละครั้งจำนวน 20,000 - 30,000 บาท



ปริญญา/ข่าว/ภาพ

เมืองพัทยา จัดประชุมยุทธศาสตร์เพื่อการยกระดับความปลอดภัยทางน้ำ “พัทยาโมเดล”

นายรณกิจ เอกะสิงห์ รองนายกเมืองพัทยา เป็นประธานการประชุมยุทธศาสตร์เพื่อการยกระดับความปลอดภัยทางน้ำ พร้อมด้วย นายเรวัต โพธิ์เรียง ผู้อำนวยการกรมเจ้าท่าพัทยา นายธงชัย พงษ์วิชัย ผู้อำนวยการสำนักมาตรฐานเรือ เจ้าหน้าที่จากส่วนป้องกันภัยพิบัติ สำนักปลัดเมืองพัทยา และผู้ที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมประชุม ณ ห้องประชุม 231 ศาลาว่าการเมืองพัทยา

เมืองพัทยาร่วมกับกรมเจ้าท่า และสำนักมาตรฐานเรือ จัดประชุมยุทธศาสตร์เพื่อการยกระดับความปลอดภัยทางน้ำ “พัทยาโมเดล” โดยกำหนดมาตรการกำกับดูแลในการจัดระเบียบพื้นที่ทางน้ำ 5 มาตรการ ดังนี้ 1.มาตรการจัดระเบียบพื้นที่ทางน้ำ 2.มาตรการกำกับดูแลและควบคุมการจราจรทางน้ำ 3.มาตรการบูรณาการความร่วมมือระหว่างหน่วยงานรัฐและเอกชน 4.มาตรการสร้างจิตสำนึกด้านความปลอดภัย และ 5.มาตรการปฏิรูปกฎหมายให้สอดคล้องกับการพัฒนา ซึ่งมาตรการจัดระเบียบพื้นที่ทางน้ำดังกล่าวเป็นการแบ่งพื้นที่การใช้งานกิจกรรมทางน้ำและการจราจรบริเวณหาดพัทยา-เกาะล้าน เช่น พื้นที่สำหรับจอดเรือ เขตว่ายน้ำ เขตดำน้ำ พื้นที่สำหรับเจ็ทสกี สปีดโบ๊ท บานาน่าโบ๊ทและเส้นทางสำหรับการเดินเรือ โดยการวางทุ่นและสัญลักษณ์กำหนดขอบเขตพื้นที่สำหรับกิจกรรมต่างๆเพื่อสร้างความปลอดภัยแก่ประชาชนและนักท่องเที่ยวรวมถึงรักษาภาพลักษณ์ของเมืองพัทยา โดยเมืองพัทยาจะนำมาตรการทั้ง 5 ข้อ ไปหารือกับผู้ประกอบการที่เกี่ยวข้องต่อไป



ปริญญา/ข่าว/ภาพ

4 คนร้าย สวมไอ้โม่งใช้ไฟแก๊สตัดตู้เอทีเอ็มธนาคารไทยพานิชย์ขโมยเงินนับล้าน

เมื่อเวลา 04.00 น. วันที่ 29 เม.ย. 57 ร.ต.อ. จีระศักดิ์ แอบแฝง ร้อยเวรสอบสวน สภ.หนองปรือ จังหวัดชลบุรี รับแจ้งว่าที่บริเวณตู้เอทีเอ็มธนาคารไทยพานิชย์ย ซึ่งตั้งอยู่ริมถนนสุขุมวิท ฝั่งขาเข้า อำเภอสัตหีบ หน้าบริษัท เอส.คอน คอนกรีต หมู่12 ตำบลหนองปรือ อำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี ถูกคนร้ายใช้ไฟแก๊สตัดกุญแจประตูด้านหลังตู้เอทีเอ็ม และช่องเก็บเงินได้และได้ขโมยช่องเก็บเงินไป 2 ใบ หลังรับแจ้งจึงรุดไปตรวจสอบพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน

ที่เกิดเหตุพบตู้เอทีเอ็ม ของธนาคารไทยพานิชย์ ถูกคนร้ายใช้ไฟแก๊สเป่ากุญแจด้านหลังและตกในที่เกิดเหตุ ภายในถูกคนร้ายใช้ไฟแก๊สเป่าที่ช่องเก็บเงินจนเสียหายและได้ยกเอาช่องในเงิน ไปจำนวน 2 ช่อง ในที่เกิดเหตุยังพบคนร้ายใช้ไม้ดันกล้องวงจรปิดของหน้าบริษัทจนแหงนขึ้น เพื่อไม่ให้จับภาพในการก่อเหตุได้ สอบสวนนายไพฑูรย์ สุทธิประภา อายุ 42 ปี เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของบริษัท เอส.คอน คอนรีต ให้การว่าขณะที่เดินตรวจตราอยู่ภายในบริษัท ตนได้กลิ่นเหม็นไหม้ จึงได้เดินสำรวจหาที่มาของกลิ่นจนเดินมาถึงด้านหน้าติดถนนสุขุมวิท และพบคนร้ายจำนวน 4 คนสวมชุดดำสวมหมอกไหมพรมปิดบังใบหน้า โดยมี 1 คนนั่งอยู่ในรถ 2 คนอยู่ด้านนอกส่วนอีก 1 คน กำลังจึงกล่องเงินออกมา ตอนแรกคิดว่าเป็นช่างซ่อมจึงได้เดินเข้าไปถามว่าพี่ทำอะไร แต่เห็นท่าไม่ดีจึงได้รีบไปแจ้งหัวหน้า รปภ.ทราบ ก่อนที่ทั้งหมดจะรีบพากันหลบหนีไปทางสัตหีบอย่างรวดเร็ว โดยใช้รถยนต์กระบะแวน ยี่ห้ออี๊ซูซุสีดำ ทะเบียนเห็นแต่ ว.แหวน ตัวเดียวเท่านั้น

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบและสอบสวนในที่เกิดเหตุอย่างละเอียดแล้วจึงได้ถ่าย ภาพลงบันทึกไว้เป็นหลักฐาน พร้อมทั้งได้กันบริเวณที่เกิดเหตุไว้ในเบื้องต้นเพื่อรอเจ้าหน้าที่กอง พิสูจน์หลักฐานมาทำการตรวจสอบหารอยนิ้วมือแฝงในที่เกิดเหตุและกล้องงจรปิด ภายในบริษัทว่าสามารถจับภาพคนร้ายได้หรือไม่ ในส่วนของเงินที่คนร้ายได้ไปยังไม่ทราบจำนวนที่แท้จริงแต่คาดว่าน่าจะเป็น หลักล้าน..



ปริญญา/ข่าว/ภาพ

อบจ.ชลบุรี จัดโครงการวันอบอุ่น กรุ่นไอรักผู้สูงวัย

วันอังคาร ที่ 29 เมษายน 2557 นายวิทยา คุณปลื้ม นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดชลบุรี เป็นประธานพิธีเปิดโครงการวันอบอุ่น กรุ่นไอรักผู้สูงวัย ณ องค์การบริหารส่วนจังหวัดชลบุรี โดยมีเหล่าข้าราชการ องค์การบริหารส่วนจังหวัดชลบุรี แขกผู้มีเกียรติ และผู้สูงอายุ ในส่วนของ องค์การบริหารส่วนจังหวัดชลบุรี ทั้ง 11 อำเภอ เข้าร่วมงาน จำนวน 700 คน

อาจารย์เอกรัตน์  เมนะคงคา ในนามรองประธานผู้สูงอายุ องค์การบริหารส่วนจังหวัดชลบุรี กล่าวรายงานว่า ในปีพุทธศักราช ๒๕๒๕ องค์การอนามัยโลกได้กำหนดให้เป็นปีรณรงค์ เพื่อส่งเสริมสุขภาพของผู้สูงอายุ โดยกำหนดคำขวัญว่า “Add  Life  to  year”  ทั้งนี้ ทางองค์การอนามัยโลกต้องการให้ประเทศต่างๆ ทั่วโลก ช่วยกันส่งเสริมสถานะของผู้สูงอายุ โดยกำหนดคำขวัญว่า “ให้ความรัก พิทักษ์อนามัย ผู้สูงวัยอายุยืน” จากการประชุมองค์การสหประชาชาติ ในปีพุทธศักราช ๒๕๒๕ ว่าด้วยเรื่องของผู้สูงอายุ ส่งผลให้คณะรัฐมนตรีได้ลงมติเมื่อวันที่ ๑๔ ธันวาคม ๒๕๒๕ อนุมัติให้วันที่ ๑๓ เมษายน ของทุกปีเป็นวันผู้สูงอายุแห่งชาติ เพื่อเป็นการส่งเสริมและสนับสนุนให้หน่วยงานภาครัฐ เอกชน ท้องถิ่น ชุมชน และครอบครัว มีส่วนร่วมในการจัดกิจกรรม ตลอดจนส่งเสริมให้ผู้สูงอายุได้มีส่วนร่วมในกิจกรรมที่เป็นประโยชน์ต่อตนเอง ครอบครัว และสังคม องค์การบริหารส่วนจังหวัดชลบุรีได้จัดงานโครงการวันอบอุ่น กรุ่มไอรักผู้สูงวัย ให้แก่ ชมรมผู้สูงอายุองค์การบริหารส่วนจังหวัดชลบุรี ในวันอังคารที่ ๒๙ เมษายน ๒๕๕๗ ขึ้น เพื่อรณรงค์ให้สังคมตระหนักถึงคุณค่าและความสำคัญของผู้สูงอายุ ยกย่องเชิดชูคุณค่าของผู้สูงอายุ ส่งเสริมให้ครอบครัว สังคม หันมาดูแลเอาใจใส่ผู้สูงอายุให้มากขึ้น และเป็นการสืบสานวัฒนธรรมไทย

นายวิทยา คุณปลื้ม นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดชลบุรี กล่าวว่า ผู้สูงอายุ หรือผู้สูงวัย ถือเป็นทรัพยากรบุคคลที่มีความสำคัญ เป็นคลังปัญญาต่อสังคมและประเทศชาติ เพราะทุกท่านล้วนมีประสบการณ์ชีวิต ผ่านร้อนผ่านหนาว สร้างคุณประโยชน์ให้แก่ครอบครัว สังคม และประเทศชาติมาแล้วมากมายเมื่ออยู่ในวัยทำงาน ผู้สูงอายุทั้งหลายจึงเปรียบเสมือนร่มโพธิ์ร่มไทร เป็นที่พึ่งทางใจ สร้างความอบอุ่น ให้คำแนะนำในการดำเนินชีวิต การปฏิบัติงานที่ถูกต้องเหมาะสมแก่ลูกหลาน แก่หน่วยงานต่างๆ นับเป็นการสร้างความเข้มแข็งอย่างยั่งยืนแก่ประเทศชาติอีกทางหนึ่ง  ด้วยตระหนักถึงความสำคัญของผู้สูงอายุ รัฐบาลจึงกำหนดให้วันที่ ๑๓ เมษายน ซึ่งเป็นวันสงกรานต์และวันปีใหม่ไทย เป็นวันผู้สูงอายุด้วย กิจกรรมที่สำคัญก็คือ การรดน้ำขอพรผู้สูงอายุ ซึ่งถือเป็นขนบธรรมเนียมประเพณีที่เป็นแบบแผนอันดีงามของไทยที่ปฏิบัติสืบทอดมายาวนาน และเพื่อรณรงค์ให้สังคมตระหนักถึงคุณค่าและความสำคัญของผู้สูงอายุ ยกย่องเชิดชูคุณค่าของผู้สูงอายุ ส่งเสริมให้ครอบครัว สังคม หันมาดูแลเอาใจใส่ผู้สูงอายุให้มากขึ้น และเป็นการสืบสานวัฒนธรรมไทย อีกด้วย

ภายในงานมีกิจกรรมหลักๆ ๔ กิจกรรม ได้แก่ กิจกรรมการมอบโล่ สำหรับผู้สนับสนุนชมรมผู้สูงอายุองค์การบริหารส่วนจังหวัดชลบุรี กิจกรรมรดน้ำขอพรผู้อาวุโส ซึ่งเป็นตัวแทนผู้สูงอายุจากชมรมผู้สูงอายุองค์การบริหารส่วนจังหวัดชลบุรี กิจกรรมการโชว์ตัวผู้ที่ได้รับการคัดเลือกโดยการคัดสรรจากผู้เชี่ยวชาญด้านการแต่งกาย หล่อสมวัย-สวยสมวัย ตามประเพณี และกิจกรรมสันทนาการ(รำวงย้อนยุค)  มีผู้เข้าร่วมกิจกรรม ประกอบด้วย สมาชิกชมรมผู้สูงอายุองค์การบริหารส่วนจังหวัดชลบุรี จาก ๑๑ อำเภอ ข้อราชการ และพนักงานจ้างองค์การบริหารส่วนจังหวัดชลบุรี รวมประมาณ 700 คน ผู้สูงอายุที่มาร่วมงานจะได้รับของที่ระลึก เพื่อเป็นการแสดงความเคารพนับถือผู้สูงวัยจากองค์การบริหารส่วนจังหวัดชลบุรี



คมศักดิ์ ข่าว/ภาพ

ทสจ.ตราด เชิญชวนประชาชนร่วมบริจาคเศษวัสดุอะลูมิเนียม เพื่อจัดทำขาเทียมพระราชทาน

(29 เม.ย. 57) นายไพศาล ธนะเพิ่มพูล ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดตราด เปิดเผยว่า ตามที่กรมควบคุมมลพิษ ร่วมกับมูลนิธิขาเทียมในสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี ดำเนินโครงการเรียกคืนวัสดุอะลูมิเนียม เพื่อจัดทำขาเทียมพระราชทาน เพื่อมอบให้กับผู้พิการ รวมทั้งเป็นการสร้างความร่วมมือในการคัดแยกขยะระหว่างองค์กรภาครัฐ ภาคเอกชน สถาบันการศึกษา และประชาชน เพื่อดูแลรักษาสิ่งแวดล้อมของประเทศและลดปริมาณขยะ รวมทั้งเป็นการสร้างจิตสำนึกในการรักษาสิ่งแวดล้อม ด้วยการประหยัดและใช้ทรัพยากรอย่างรู้คุณค่า ดังนั้นเพื่อเป็นการสนับสนุนในการดำเนินโครงการดังกล่าว ทางสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดลิ้มจังหวัดตราด( ทสจ.ตราด) จึงขอเชิญชวนประชาชน หน่วยงานต่าง ๆ ร่วมกันนำเศษวัสดุอะลูมิเนียม บริจาคสมทบเข้าร่วมโครงการนี้ โดยสามารถรวบรวมมาใส่กล่องรับบริจาคอะลูมิเนียมได้ที่ สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดตราด สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ส่วนสิ่งแวดล้อม หมายเลขโทรศัพท์ 0-3951-157 ซึ่งเมื่อรวบรวมวัสดุอะลูมิเนียมได้แล้วทางสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจะได้รวบรวมส่งให้กรมควบคุมมลพิษดำเนินการต่อไป

จ.ตราด กำหนดจัดงานวันแรงงานแห่งชาติ พร้อมรณรงค์ต่อต้านยาเสพติดในกลุ่มผู้ใช้แรงงาน

(29 เม.ย. 57) นายณรงค์ ธีรจันทรางกูร รองผู้ว่าราชการจังหวัดตราด เปิดเผยว่า จังหวัดตราดโดยหน่วยงานในสังกัดกระทรวงแรงงาน และสภาอุตสาหกรรมจังหวัดตราด กำหนดจัดงานวันแรงงานแห่งชาติและรณรงค์ต่อต้านยาเสพติด ประจำปี 2557 จังหวัดตราด ขึ้น ในวันพฤหัสบดีที่ 1 พฤษภาคม 2557ตั้งแต่เวลา 09.00 น. เป็นต้นไป ณ วัดไผ่ล้อม ตำบลบางพระ อำภเอเมืองตราด โดยมีวัตถุประสงค์ในการส่งเสริมให้ผู้ใช้แรงงานได้ผ่อนคลายความเครียดจากการทำงาน เป็นการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างนายจ้าง ลูกจ้าง และนายจ้างกับนายจ้าง ลูกจ้างกับลูกจ้างต่างสถานประกอบกิจการ ตลอดจนส่งเสริมความร่วมมือองค์กรไตรภาคีด้านแรงงานของจังหวัดตราด สำหรับการจัดงานวันแรงงานแห่งชาติจังหวัดตราดในปีนี้ได้มีการเน้นจัดรณรงค์ต่อต้านยาเสพติดในกลุ่มผู้ใช้แรงงาน โดยมีกิจกรรมการกล่าวถวายสัตย์ปฎิญาณไม่ยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด โดยผู้ใช้แรงงาน และนายจ้างสถายประกอบการ เพื่อเป็นการส่งเสริมการดำเนินงานตามนโยบายสถานประกอบการสีขาวในพื้นที่จังหวัดตราด รวมทั้งยังมีการทำบุญถวายภัตตาหารเพลเพื่ออุทิศส่วนกุศลให้กับผู้ล่วงลับ รวมทั้งกิจกรรมการปลูกต้นไม้และบำเพ็ญสาธารณกุศลร่วมกันภายในวัดไผ่ล้อมเนื่องในโอกาสวันแรงงานแห่งชาติอีกด้วย

จังหวัดตราด ขับเคลื่อนการเตรียมความพร้อมของฝ่ายปกครองสู่ประชาคมอาเซียน

(29 เม.ย. 57) นายสมศักดิ์ อิทธิวรกุล ปลัดจังหวัดตราด เปิดเวทีประชุมคณะทำงานขับเคลื่อนการเตรียมความพร้อมของฝ่ายปกครองสู่ประชาคมอาเซียน ซึ่งที่ทำการปกครองจังหวัดตราดในฐานะเลขานุการคณะทำงานฯจัดขึ้น โดยมีปลัดอำเภอจากทุกพื้นที่ในจังหวัดตราดเข้าร่วมเพื่อดำเนนการกำหนดแผนงาน / โครงการ และจัดทำแผนแม่บทเตรียมความพร้อมของฝ่ายปกครองสู่ประชาคมอาเซียนของจังหวัด (Province Master plan) ปีงบประมาณ 2557 – 2559

ปลัดจังหวัดตราด กล่าวว่า ตามที่กรมการปกครองได้จัดทำแผนแม่บทกรมการปกครองต่อประชาคมอาเซียน (DOPA’S Master plan on ASEAN Community) เพื่อใช้เป็นกรอบแนวทางในการเตรียมความพร้อมของฝ่ายปกครองรอบรับเข้าสู่ประชาคมอาเซียน พร้อมทั้งขอความร่วมมือจังหวัดในการขับเคลื่อนแผนแม่บทดังกล่าว ทางจังหวัดจึงได้ตั้งคณะทำงานขับเคลื่อนการเตรียมความพร้อมของฝ่ายปกครองสู่ประชาคมอาเซียน ขึ้นเพื่อเตรียมความพร้อมรับมือกับผลกระทบทั้งในทางบวกและทางลบของการเข้าสู่ประชาคมอาเซียนที่เกี่ยวข้องกับฝ่ายปกครองโดยตรง ซึ่งประกอบด้วยปัญหาความมั่นคงในรูปแบบใหม่ เช่นปัยหายาเสพติด อาชญากรรมข้ามชาติ การลักลอบเคลื่อนย้ายยาเสพติดหรือสิ่งผิดกฎหมาย ที่อาจแอบแฝงมากับการลงทุนหรือการทำการค้า นอกจากนี้ยังมีในเรื่องของการบริหารงานทะเบียนราษฎร จากการเคลื่อยนย้ายแรงงานวิชาชีพเสรี ใน 7 วิชาชีพ คือ แพทย์ ทันตแพทย์ พยาบาล วิศวกรรม สถาปัตยากรรม บัญชี และการสำรวจ ดังนั้นงานทะเบียนที่เกี่ยวกับบุคลภายใต้ความรับผิดชอบของกระทรวงมหาดไทยจึงอาจได้รับผลกระทบในแง่ของการบังคับใช้ให้เป็นไปตาม นอกจากนี้ยังมีเรื่องอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง อาทิ การขัดการความขัดแย้งและการอำนวยความเป็นธรรม การประกอบอาชีพของประชาชน การส่งเสริมประชาธิปไตยและสิทธิมนุษยชน การสื่อสารสร้างความเข้าใจ ความเหลื่อมล้ำทางสังคม รวมทั้งในเรื่องอขงภาษาต่างประเทศ เป็นต้น ดังนั้นเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองจึงต้องเตรียมความพร้อมตอ่การเปลี่ยนแปลงดังกล่าว ผ่านแผนงานโครงการผ่านการขับเคลื่อนการเตรียมความพร้อมของฝ่ายปกครองสู่ประชาคมอาเซียน

สนง.เศรษฐกิจการเกษตร เขต 6 ชลบุรี ร่วมกับ สนง.เกษตรและสหกรณ์ จ.ตราด ลงพื้นที่สำรวจข้อมูลการผลิตลำไยในพื้นที่ จ.ตราด

(29 เม.ย. 57) สำนักงานเกษตรและสหกรณ์จังหวัดตราด ร่วมกับ สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร เขต 6 ชลบุรี ลงพื้นที่สำรวจการผลิตลำไยของเกษตรกรในพื้นที่จังหวัดตราด ซึ่งมีการปลูกอยู่ในพื้นที่ 4 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองตราด อำเภอเขาสมิง อำเภอแหลมงอบ และอำเภอบ่อไร่ รวมพื้นที่ปลูก 2,274 ไร่ ซึ่งจากการสำรวจที่อำเภอเขาสมิง 4 ตำบล 8 หมู่บ้าน และอำเภอบ่อไร่ 3 ตำบล 4 หมู่บ้าน พบว่า เกษตรกรมีการปลูกเพิ่มขึ้นเท่าตัว มีการเหมาสวนตั้งแต่เริ่มออกดอก โดยเฉพาะที่ สวนของ

นายพูลเกียรติ พูลกสิศรี เลขที่ 126 ม.6 ต.ทุ่งนนทรี อ.เขาสมิง เจ้าของสวนลำไยจำนวน 22 ไร่ อายุลำไย 12 ปี ปลูกระยะ 6x6 เมตร จะเก็บเกี่ยวผลผลิตประมาณต้นเดือนพฤษภาคม จำนวน 60 ตัน ผลผลิตเพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว 15 ตัน โดยมีพ่อค้าจากจังหวัดจันทบุรีเหมาสวนในราคากิโลกรัมละ 39 บาท นายธนนท์ แสงทรงธรรม เจ้าหน้าที่จากสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรเขต 6 ชลบุรี กล่าวว่า การสำรวจข้อมูลในครั้งนี้เพื่อทราบแนวโน้มการผลิต/จำนวนผลผลิตเพิ่มขึ้นมากน้อยเพียงใด เพื่อใช้ในการวางแผนสนับสนุนส่งเสริมเกษตรกร ส่วนใหญ่เกษตรกรมีการขึ้นทะเบียนเกษตรกรกับสำนักงานเกษตรจังหวัด ในพื้นที่และมีการใช้ปุ๋ยอินทรีย์ร่วมกับปุ๋ยเคมีในการผลิตเพื่อลดต้นทุน ในปีที่คาดว่าจังหวัดตราดจะมีผลผลิตลำไยออกสู่ตลาดประมาณ 2,800ตัน

กรมกิจการชายแดนทหาร กองบัญชาการกองทัพไทย จัดประชุมกองอำนวยการปฏิบัตินโยบายชายแดนไทยกับประเทศเพื่อนบ้าน (กอ.นชท.) สัญจร ด้านกัมพูชา ที่ จ.ตราด

(29 เม.ย. 57) พลโท บุญชู เกิดโชค เจ้ากรมกิจการชายแดนทหาร กองบัญชาการกองทัพไทย ในฐานะเลขานุการกองอำนวยการปฏิบัตินโยบายชายแดนไทยกับประเทศเพื่อนบ้าน พร้อมด้วยนายพยัคฆพันธุ์ โพธิ์แก้ว รองผู้ว่าราชการจังหวัดตราดในฐานะรองผู้อำนวยการศูนย์สั่งการชายแดนไทยกับประเทศเพื่อนบ้านด้านกัมพูชา จังหวัดตราด ร่วมกันเปิดประชุมกองอำนวยการปฏิบัตินโยบายชายแดนไทยกับประเทศเพื่อนบ้าน สัญจร (กอ.นชท.สัญจร) ครั้งที่ 1 / 2557 ด้านกัมพูชา ที่ห้องประชุมโรงแรมบ้านปูรีสอร์ท อำเภอเมืองตราด โดยมีผู้แทนส่วนราชการ ตลอดจนภาคเอกชน จากจังหวัดตราด จันทบุรี และสระแก้ว เข้าร่วม

เจ้ากรมกิจการชายแดนทหาร กองบัญชาการกองทัพไทย กล่าวว่า การประชุมครั้งนี้มีวัตถุประสงค์หลักเพื่อบูรณาการการทำงานของส่วนราชการระดับนโยบายกับศูนย์สั่งการชายแดนจังหวัดและหน่วยงานด้านความมั่นคง รวมทั้งภาคเอกชนในพื้นที่ เพื่อร่วมหารือประเด็นปัญหา และหาแนวทางแก้ไขที่เกี่ยวกับการปฏิบัตินโยบายชายแดนไทยกับประเทศเพื่อนบ้าน สำหรับการประชุม กอ.นชท.สัญจร ด้านกัมพูชา จังหวัดตราด ตังหวัดจันทบุรี และจังหวัดสระแก้ว ในครั้งนี้มีผู้แทนกระทรวงต่าง ๆ ตลอดจนส่วนราชการในกองบัญชาการกองทัพไทย ร่วมลงพื้นที่ชายแดนไทย – กัมพูชา ด้าน 3 จังหวัดของไทย ซึ่งจะมีการายงานผลการประชุมไปยังกองบัญชาการกองทัพไทย เพื่อเป็นการทดสอบเชื่อมต่อระบบการประชุมทางไกล ระหว่างกองบัญชาการกองทัพไทย กับกระทรวงมหาดไทย เป็นการประสานการปฏิบัติระหว่างกันให้มีความแน่นแฟ้นยิ่งขึ้น

อย่างไรก็ตามการประชุมในครั้งนี้ในที่ประชุมได้ร่วมกันพิจารณาแนวทางส่งเสริมความสัมพันธ์อันดีระหว่างไทยกับกัมพูชา เพื่อให้ประชาชนตามแนวชายแดนของทั้งสองประเทศอยู่ดีกินดี มีความอเป็นอยู่อย่างฉันท์มิตรและความมั่นคงปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน ในประเด็นต่าง ๆ อาทิ การจ้างแรงงานในภาคเกษตรกรรมและภาคอุตสาหกรรม การยกระดับจุดผ่อนปรนทางการค้าเป็นจุดผ่านแดนถาวร และการส่งเสริมการไปมาหาสู่กันของภาคประชาชน เป็นต้น

รองผู้ว่าฯฉะเชิงเทรา รับมอบอุปกรณ์กีฬาจากบริษัทยสยามสปอร์ต ซินดิเคท( จำกัดมหาชน)


วันนี้ (29 เม.ย. 57 ) ที่บริเวณหน้าศาลากลางจังหวัดฉะเชิงเทรา นายบัณฑิตย์ เทวีทิวารักษ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทรา เป็นตัวแทนรับมอบอุปกรณ์กีฬาจาก จากบริษัท สยามสปอร์ต ซินดิเคท( จำกัดมหาชน) โดยมีคุณธาริณี เลิศพุทธรักษ์ เป็นตัวแทนบริษัท สยามสปอร์ต ซินดิเคท จำกัด (มหาชน) เป็นผู้มอบอุปกรณ์กีฬา ได้แก่ ลูกฟุตบอล, ฟุตซอล, บาสเกตบอล , วอลเลย์บอล ฯลฯ จำนวน 291 ลูก และหนังสือ 40 ปี ภาพนี้มีเรื่องเล่า จำนวน 400 ชุด

ทั้งนี้ บริษัท สยามสปอร์ต ซินดิเคท จำกัด (มหาชน) ได้จัดกิจกรรมคืนกำไรสู่ชุมชนและสังคม ในโครงการ 40 ปี สยามสปอร์ต พลานุภาพกีฬาโลก ฉลองวาระครบ 40 ปี ของการก่อตั้งบริษัท เพื่อสร้างแรงบันดาลใจให้กับเยาชนไทยที่มีฝันและอยากเดินตามรอยนักกีฬาฮีโร่ เติบโตสู่การเป็นนักกีฬาอาชีพที่ประสบความสำเร็จ โดยมี บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) เป็นผู้สนับสนุนหลักร่วมด้วย รถยนต์โตโยต้า ไอ-โมบาย รถจักรยานยนต์ฮอนด้า เอสซีจีและเอฟบีที ร่วมสนับสนุนโดยประเดิมจัดกิจกรรมแรกของโครงการด้วย "คนกีฬาเติมฝัน..มอบความสุข 77 จังหวัดทั่วไทย” เดินทางมอบหนังสือ 40 ปี ภาพนี้มีเรื่องเล่า และอุปกรณ์กีฬา เช่น ลูกฟุตบอล ฟุตซอล บาสเก็ตบอส วอลเลย์บอล ฯลฯ ให้แก่ โรงเรียน และสถานศึกษาใน 77 จังหวัดทั่วประเทศไทยในระหว่างวันที่ 1 เมษายน – 12 พฤษภาคม 2557



ส.ปชส.ฉะเชิงเทรา