(21 มี.ค. 57) นายณรงค์ ธีรจัทรางกูร รองผู้ว่าราชการจังหวัดตราด เปิดการประชุมคณะกรรมการและคณะทำงานจัดกิจกรรมจัดแสดงและจำหน่ายสินค้า OTOP งาน "สุดยอด OTOP สีสันตะวันออกและของดี 4 ภาค ครั้งที่ 6” ซึ่งจังหวัดตราดโดยสำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดร่วมกับเครือข่ายผู้ผลิตสินค้า OTOP กำหนดจัดขึ้นระหว่างวันที่ 3 – 7เมษายน 2557 ณ บริเวณสวนรุกขชาติจังหวัดตราด
นางสาวอัธยา ธเนศนิรัตศัย พัฒนาการจังหวัดตราด กล่าวว่า การจัดงานดังกล่าวเป็นการสร้างรายได้ ขยายโอกาสและประชาสัมพันธ์ด้านการตลาดให้กว้างขวางแก่กลุ่มอาชีพในระดับชุมชนประกอบกับช่วงนี้เริ่มเข้าสู่ฤดูกาลท่องเที่ยวจึงเป็นโอกาสดีที่ผู้ผลิตผู้ประกอบการจะได้นำผลิตภัณฑ์มาเผยแพร่สู่สาธารณชนและ ขยายผลไปสู่ระดับภาคและระดับประเทศสำหรับการจัดงานดังกล่าวจะมีสินค้ามาจำหน่ายจากทุกภาคของประเทศไทยรวมทั้งสิ้นกว่า 150 บูธ ประกอบด้วย กลุ่มผู้ผลิตสินค้า OTOP ของจังหวัดตราด ประมาณ 30 บูธ และสินค้าที่มีคุณภาพได้มาตรฐานระดับ 3-5 ดาวตลอดจนของดี 4 ภาค อาทิ หมูยอ แคปหมู กุนเชียงน้ำพริก ไข่มุกอันดามันจากภูเก็ตข้าวเกรียบปลาจากสงขลา ผ้าไหม-ผ้าฝ้าย เครื่องประดับนิล เครื่องเงิน อัญมณีพลอย กระเป๋าหนัง รองเท้าหนัง เฟอร์นิเจอร์ไม้สัก นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมการแสดงบนเวที การประกวดร้องเพลงลูกทุ่ง OTOP ทั้งประเภทประชาชน และเยาวชน การประกวดวงสตริง อย่างไรก็ตามการจัดงานดังกล่าวปีที่ผ่านมาสามารถสร้างรายได้ให้กับผู้ประกอบการกว่า 5 ล้านบาท สำหรับการจัดงานในปีนี้คาดว่าจะมียอดจำหน่ายมากกว่าปีที่ผ่านมาจึงขอเชิญชวนประชาชนและนักท่องเที่ยวเตรียมร่วมซื้อสินค้าและชมมหรสพที่น่าสนใจได้ตลอดงาน
วันศุกร์ที่ 21 มีนาคม พ.ศ. 2557
ปศุสัตว์จังหวัดตราด เดินหน้าโครงการเขียงสะอาดในชุมชน สร้างความมั่นใจแก่ผู้บริโภคในการเลือกซื้อเนื้อสัตว์คุณภาพ
(21 มี.ค. 57) นางสาวเบญจวรรณ อ่านเปรื่อง ผู้ว่าราชการจังหวัดตราด เปิดโครงการอบรมเขียงสะอาดในชุมชน ประจำปี 2557 ซึ่งสำนักงานปสุสัตว์จัดขึ้น โดยมีผู้ประกอบการจำหน่ายเนื้อสัตว์ หรือเขียงจำหน่ายเนื้อสัตว์ จากอำเภอต่าง ๆ ในจังหวัดตราดรวม 20 ราย เข้าร่วมโครงการ ที่ห้องประชุมตราดสีทอง ศาลากลางจังหวัดตราด
นางสาวเยาวนิตย์ บุรีรักษา ปศุสัตว์จังหวัดตราด กล่าวว่า โครงการเขียงสะอาดในชุมชนเป็นโครงการตามแผนยุทธศาสตร์กลุ่มจังหวัดภาคตะวันออก ด้านความปลอดภัยอาหารในและอาหารศึกษา ที่ให้ความสำคัญกับความปลอดภัยของอาหารสินค้าปสุสัตว์ตลอดห่วงโซ่อาหาร ให้มีความปลอดภัยต่อผู้บริโภค โดยการจัดโครงการนี้มุ่งให้เกิดการพัฒนาสถานที่จำหน่ายเนื้อสัตว์ ที่มีคุณภาพปลอดภัยได้มาตรฐาน โดยเฉพาะการเลือกหาเนื้อสัตว์ที่มีความปลอดภัยมาจำหน่ายแก่ผู้บริโภค เป็นการสร้างความมมั่นใจในการบริโภคเนื้อสัตว์ให้กับประชาชน อย่างไรก็ตามนอกจาการพัฒนาศักยภาพของผู้ประกอบการจำหน่ายเนื้อสัตว์แล้วสำนักงานปสุสัตว์จังหวัดตราดได้ร่วมเข้าไปพัฒนาสินค้าปสุสัตว์คุรภาพตังแต่ต้นน้ำ ได้แก่ในฟาร์มเลี้ยงให้ได้มาตรฐาน จนถึงการพัฒนาโรงฆ่าสัตว์ โรงพักสัตว์ ที่มีการตรวจสอบคูณภาพและความปลอดภัยในระยะกลางน้ำ และการพัฒนาเขียงจำหน่ายเนื้อสัตว์ ก่อนที่เนื้อสัตว์คุณภาพจะถึงมือผู้บริโภคในด้านปลายน้ำอย่างครบวงจรคุณภาพ
นางสาวเยาวนิตย์ บุรีรักษา ปศุสัตว์จังหวัดตราด กล่าวว่า โครงการเขียงสะอาดในชุมชนเป็นโครงการตามแผนยุทธศาสตร์กลุ่มจังหวัดภาคตะวันออก ด้านความปลอดภัยอาหารในและอาหารศึกษา ที่ให้ความสำคัญกับความปลอดภัยของอาหารสินค้าปสุสัตว์ตลอดห่วงโซ่อาหาร ให้มีความปลอดภัยต่อผู้บริโภค โดยการจัดโครงการนี้มุ่งให้เกิดการพัฒนาสถานที่จำหน่ายเนื้อสัตว์ ที่มีคุณภาพปลอดภัยได้มาตรฐาน โดยเฉพาะการเลือกหาเนื้อสัตว์ที่มีความปลอดภัยมาจำหน่ายแก่ผู้บริโภค เป็นการสร้างความมมั่นใจในการบริโภคเนื้อสัตว์ให้กับประชาชน อย่างไรก็ตามนอกจาการพัฒนาศักยภาพของผู้ประกอบการจำหน่ายเนื้อสัตว์แล้วสำนักงานปสุสัตว์จังหวัดตราดได้ร่วมเข้าไปพัฒนาสินค้าปสุสัตว์คุรภาพตังแต่ต้นน้ำ ได้แก่ในฟาร์มเลี้ยงให้ได้มาตรฐาน จนถึงการพัฒนาโรงฆ่าสัตว์ โรงพักสัตว์ ที่มีการตรวจสอบคูณภาพและความปลอดภัยในระยะกลางน้ำ และการพัฒนาเขียงจำหน่ายเนื้อสัตว์ ก่อนที่เนื้อสัตว์คุณภาพจะถึงมือผู้บริโภคในด้านปลายน้ำอย่างครบวงจรคุณภาพ
จังหวัดตราด พัฒนาประสิทธิภาพการปฏิบัติงานของอาสาสมัครดูแลผู้สูงอายุที่บ้าน เตรียมความพร้อมสู่สังคมผู้สูงอายุอย่างมีคุณภาพ
(21 มี.ค. 57) นายสมศักดิ์ อิทธิวรกุล ปลัดจังหวัดตราด เปิดโครงการอบรมเสริมความรู้และเสริมสร้างประสิทธิภาพการดำเนินงานอาสาสมัครดูแลผู้สูงอายุที่บ้าน ประจำปี 2557 ซึ่งจังหวัดตราดโดยสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดตราดเป็นเจ้าภาพดำเนินการจัดขึ้น ที่ห้องประชุมวัดหนองเสม็ด อำเภอเมืองตราด โดยมีเจ้าหน้าที่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ทั้ง 43 แห่งในจังหวัดตราด ประธานกรรมการบริหารศูนย์พัฒนาคุณภาพชีวิตและส่งเสริมอาชีพผู้สูงอายุ 7 ศูนย์ ตลอดจนอาสาสมัครดูแลผู้สูงอายุ รวมทั้งสิ้น 100 คน เข้าร่วมโครงการนี้
นางสาวมนิดา ลิ่มนิจสรกุล พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดตราด กล่าวว่า ปัจจุบันสถานการณ์ผู้สูงอายุในสังคมไทยมีสัดส่วนสูงขึ้นถึงกว่าร้อยละ 12.59 ซึ่งถือว่ามากที่สุดในกลุ่มประเทศอาเซียน จากผลของความก้าวหน้าทางการแพทย์และสาธารณสุข รวมทั้งอัตราการเกิดน้อยลงแต่ประชากรมีอายุยืนยาวมากขึ้น คาดว่าในอีก 20 ปีข้างหน้า ประเทศไทยจะเป็นสังคมผู้สูงอายุอย่างเต็มรูปแบบหรือมีอัตราสัดส่วนผู้สูงอายุในสังคมอยู่ถึงร้อยละ 20 ในส่วนของจังหวัดตราดปัจจุบันผู้จำนวนผู้สูงอายุเกือบ 30,000 คน หรือคิดเป็นร้อยละ 13.10 ซึ่งนับว่าเป็นตัวเลขที่สูงกว่าภาพรวมของประเทศ ทางจังหวัดโดยสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดตราดได้ดำเนินการสร้างอาสาสมัครดูแลผู้สูงอายุที่บ้านมาตั้งแต่ปี 2549 จนถึงปัจจุบันจังหวัดตราดมีอาสาสมัครดูแลผู้สุงอายุ อยู่ในทุกตำบลอย่าน้อยตำบลละ 5 คน มียอดรวมทั้งสิ้น 349 คน ดังนั้นเพื่อเป็นการพัฒนาศักยภาพในการปฏิบัติงานของอาสาสมัครดุแลผู้สูงอายุที่บ้านตามชุมชนต่างจึงได้มีการจัดโครงการนี้ขึ้น โดยมีวิทยากรจากโรงพยาบาลตราดร่วมให้ความรู้แก่ผู้เข้าร่วมโครงการ ทั้งนี้เพื่อให้ระบบงานดูแลผู้สูงอายุของจังหวัดตราดมีประสิทธิภาพ มีความเข้มแข็ง เป็นการเตรียมความพร้อมสู่สังคมผู้สูงอายุอย่างมีคุณภาพ
นางสาวมนิดา ลิ่มนิจสรกุล พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดตราด กล่าวว่า ปัจจุบันสถานการณ์ผู้สูงอายุในสังคมไทยมีสัดส่วนสูงขึ้นถึงกว่าร้อยละ 12.59 ซึ่งถือว่ามากที่สุดในกลุ่มประเทศอาเซียน จากผลของความก้าวหน้าทางการแพทย์และสาธารณสุข รวมทั้งอัตราการเกิดน้อยลงแต่ประชากรมีอายุยืนยาวมากขึ้น คาดว่าในอีก 20 ปีข้างหน้า ประเทศไทยจะเป็นสังคมผู้สูงอายุอย่างเต็มรูปแบบหรือมีอัตราสัดส่วนผู้สูงอายุในสังคมอยู่ถึงร้อยละ 20 ในส่วนของจังหวัดตราดปัจจุบันผู้จำนวนผู้สูงอายุเกือบ 30,000 คน หรือคิดเป็นร้อยละ 13.10 ซึ่งนับว่าเป็นตัวเลขที่สูงกว่าภาพรวมของประเทศ ทางจังหวัดโดยสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดตราดได้ดำเนินการสร้างอาสาสมัครดูแลผู้สูงอายุที่บ้านมาตั้งแต่ปี 2549 จนถึงปัจจุบันจังหวัดตราดมีอาสาสมัครดูแลผู้สุงอายุ อยู่ในทุกตำบลอย่าน้อยตำบลละ 5 คน มียอดรวมทั้งสิ้น 349 คน ดังนั้นเพื่อเป็นการพัฒนาศักยภาพในการปฏิบัติงานของอาสาสมัครดุแลผู้สูงอายุที่บ้านตามชุมชนต่างจึงได้มีการจัดโครงการนี้ขึ้น โดยมีวิทยากรจากโรงพยาบาลตราดร่วมให้ความรู้แก่ผู้เข้าร่วมโครงการ ทั้งนี้เพื่อให้ระบบงานดูแลผู้สูงอายุของจังหวัดตราดมีประสิทธิภาพ มีความเข้มแข็ง เป็นการเตรียมความพร้อมสู่สังคมผู้สูงอายุอย่างมีคุณภาพ
จ.ตราด เชิญชวนประชาชนร่วมพิธีทำบุญเมือง เนื่องในงานวันตราดรำลึก ในเย็นวันพรุ่งนี้ (22 มี.ค. 57)
(21 มี.ค. 57) นางสาวเบญจวรรณ อ่านเปรื่อง ผู้ว่าราชการจังหวัดตราด เปิดเผยว่า ตามที่จังหวัดตราดร่วมกับหน่วยงานต่าง ๆ ร่วมกันจัดงาน "วันตราดรำลึก ครบรอบ 108 ปี” ขึ้นระหว่างวันที่ 23 – 25 มีนาคม นี้ ณ บริเวณสนามหน้าศาลากลางจังหวัด เพื่อเป็นการรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของ พระบาทสมเด็จพระพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ที่ทรงดำเนินวิเทโสบายทางการเมืองนำเมืองตราดรอดพ้นจากการปกครองของฝรั่งเศส ที่ทรงนำเมืองพระตะบอง เมืองศรีโสภณ และเมืองเสียมราฐ แลกกับเมืองตราด เมื่อวันที่ 23 มีนาคม 2449 ซึ่งการจัดงานตราดรำลึกจะเริ่มตั้งแต่ช่วงเย็นวันพรุ่งนี้ (22 มี.ค. 57) ตั้งแต่เวลา 15.59 น. เป็นต้นไป จะได้มีการประกอบพิธีพิธีทำบุญเมือง บริเวณปะรำพิธี ศาลา 100 ปี ตราดรำลึก หน้าศาลากลางจังหวัดตราด ซึ่งทางเทศบาลเมืองตราดได้จัดให้มีการโยงสายสิญจน์ไปรอบเขตเทศบาลเมืองตราด จึงขอขอเชิญชวนประชาชนเข้าร่วมพิธีในครั้งนี้
ศูนย์อบรมเด็กก่อนเกณฑ์วัดไผ่ล้อม จ.ตราด จัดกิจกรรมตลาดนัดพอเพียง มุ่งส่งเสริมให้เด็กและเยาวชนน้อมนำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมาประยุกต์ใช้
(21 มี.ค. 57) ที่ศูนย์อบรมเด็กก่อนเกณฑ์วัดไผ่ล้อม ถนนหลักเมือง ตำบลบางพระ อำเภอเมืองตราด นางสาวมยุรี อภิวาท ผู้อำนวยการศูนย์อบรมเด็กก่อนเกณฑ์วัดไผ่ล้อม พร้อมด้วยคณะครู อาจารย์ ได้จัดกิจกรรมตลาดนัดพอเพียงขึ้น โดยมีเด็กนักเรียนก่อนปฐมวัยอายุตั้งแต่ 2 -4 ขวบ กว่า 300 คน ตลอดจนผู้ปกครอง และครูอาจารย์ เข้าร่วม
นางสาวโยษิตา แซ่เซียว รองผู้อำนวยการศูนย์อบรมเด็กก่อนเกณฑ์วัดไผ่ล้อม ฝ่ายบริหารทั่วไป กล่าวว่า วัตถุประสงค์ของการจัดกิจกรรมครั้งนี้ เพื่อเป็นการส่งเสริมให้เด็กและเยาวชนน้อมนำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มาประยุกต์ใช้ ให้สอดคล้องกับตลาดนัดพอเพียง เป็นการฝึกความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต เป็นการนำกระบวนการต่าง ๆ ไปใช้ในการดำเนินชีวิตประจำวัน การเรียนรู้ด้วยตนเอง และการเรียนรู้อย่างต่อเนื่องให้กับเยาวชน และเป็นการการสร้างเสริมความสัมพันธ์อันดีระหว่างเด้ก ผู้ปกครอง และครู อาจารย์ ทั้งยังเป็นการส่งเสริมให้เด็กรู้จักหลีกเลี่ยงพฤติกรรมไม่พึงประสงค์ที่ส่งผลกระทบต่อตนเองและผู้อื่น ด้วยการปฏิบัติจริงในศูนย์การเรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียง ทางกลุ่มโครงงานตลาดนัดพอเพียง เคียงคู่คุณธรรม นำภูมิปัญญา พัฒนาชีวิต เศรษฐกิจยั่งยืนจึงได้มีการจัดกิจกรรมครั้งนี้ขึ้น
นางสาวโยษิตา แซ่เซียว รองผู้อำนวยการศูนย์อบรมเด็กก่อนเกณฑ์วัดไผ่ล้อม ฝ่ายบริหารทั่วไป กล่าวว่า วัตถุประสงค์ของการจัดกิจกรรมครั้งนี้ เพื่อเป็นการส่งเสริมให้เด็กและเยาวชนน้อมนำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มาประยุกต์ใช้ ให้สอดคล้องกับตลาดนัดพอเพียง เป็นการฝึกความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต เป็นการนำกระบวนการต่าง ๆ ไปใช้ในการดำเนินชีวิตประจำวัน การเรียนรู้ด้วยตนเอง และการเรียนรู้อย่างต่อเนื่องให้กับเยาวชน และเป็นการการสร้างเสริมความสัมพันธ์อันดีระหว่างเด้ก ผู้ปกครอง และครู อาจารย์ ทั้งยังเป็นการส่งเสริมให้เด็กรู้จักหลีกเลี่ยงพฤติกรรมไม่พึงประสงค์ที่ส่งผลกระทบต่อตนเองและผู้อื่น ด้วยการปฏิบัติจริงในศูนย์การเรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียง ทางกลุ่มโครงงานตลาดนัดพอเพียง เคียงคู่คุณธรรม นำภูมิปัญญา พัฒนาชีวิต เศรษฐกิจยั่งยืนจึงได้มีการจัดกิจกรรมครั้งนี้ขึ้น
ศูนย์อบรมเด็กก่อนเกณฑ์วัดไผ่ล้อม จ.ตราด จัดกิจกรรมตลาดนัดพอเพียง มุ่งส่งเสริมให้เด็กและเยาวชนน้อมนำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมาประยุกต์ใช้
(21 มี.ค. 57) ที่ศูนย์อบรมเด็กก่อนเกณฑ์วัดไผ่ล้อม ถนนหลักเมือง ตำบลบางพระ อำเภอเมืองตราด นางสาวมยุรี อภิวาท ผู้อำนวยการศูนย์อบรมเด็กก่อนเกณฑ์วัดไผ่ล้อม พร้อมด้วยคณะครู อาจารย์ ได้จัดกิจกรรมตลาดนัดพอเพียงขึ้น โดยมีเด็กนักเรียนก่อนปฐมวัยอายุตั้งแต่ 2 -4 ขวบ กว่า 300 คน ตลอดจนผู้ปกครอง และครูอาจารย์ เข้าร่วม
นางสาวโยษิตา แซ่เซียว รองผู้อำนวยการศูนย์อบรมเด็กก่อนเกณฑ์วัดไผ่ล้อม ฝ่ายบริหารทั่วไป กล่าวว่า วัตถุประสงค์ของการจัดกิจกรรมครั้งนี้ เพื่อเป็นการส่งเสริมให้เด็กและเยาวชนน้อมนำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มาประยุกต์ใช้ ให้สอดคล้องกับตลาดนัดพอเพียง เป็นการฝึกความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต เป็นการนำกระบวนการต่าง ๆ ไปใช้ในการดำเนินชีวิตประจำวัน การเรียนรู้ด้วยตนเอง และการเรียนรู้อย่างต่อเนื่องให้กับเยาวชน และเป็นการการสร้างเสริมความสัมพันธ์อันดีระหว่างเด้ก ผู้ปกครอง และครู อาจารย์ ทั้งยังเป็นการส่งเสริมให้เด็กรู้จักหลีกเลี่ยงพฤติกรรมไม่พึงประสงค์ที่ส่งผลกระทบต่อตนเองและผู้อื่น ด้วยการปฏิบัติจริงในศูนย์การเรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียง ทางกลุ่มโครงงานตลาดนัดพอเพียง เคียงคู่คุณธรรม นำภูมิปัญญา พัฒนาชีวิต เศรษฐกิจยั่งยืนจึงได้มีการจัดกิจกรรมครั้งนี้ขึ้น
นางสาวโยษิตา แซ่เซียว รองผู้อำนวยการศูนย์อบรมเด็กก่อนเกณฑ์วัดไผ่ล้อม ฝ่ายบริหารทั่วไป กล่าวว่า วัตถุประสงค์ของการจัดกิจกรรมครั้งนี้ เพื่อเป็นการส่งเสริมให้เด็กและเยาวชนน้อมนำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มาประยุกต์ใช้ ให้สอดคล้องกับตลาดนัดพอเพียง เป็นการฝึกความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต เป็นการนำกระบวนการต่าง ๆ ไปใช้ในการดำเนินชีวิตประจำวัน การเรียนรู้ด้วยตนเอง และการเรียนรู้อย่างต่อเนื่องให้กับเยาวชน และเป็นการการสร้างเสริมความสัมพันธ์อันดีระหว่างเด้ก ผู้ปกครอง และครู อาจารย์ ทั้งยังเป็นการส่งเสริมให้เด็กรู้จักหลีกเลี่ยงพฤติกรรมไม่พึงประสงค์ที่ส่งผลกระทบต่อตนเองและผู้อื่น ด้วยการปฏิบัติจริงในศูนย์การเรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียง ทางกลุ่มโครงงานตลาดนัดพอเพียง เคียงคู่คุณธรรม นำภูมิปัญญา พัฒนาชีวิต เศรษฐกิจยั่งยืนจึงได้มีการจัดกิจกรรมครั้งนี้ขึ้น
บัณฑิตวิทยาลัย ม.ขอนแก่น จัดการประชุมวิชาการเสนอผลงานวิจัย ระดับบัณฑิตศึกษา ครั้งที่ ๑๕ วันศุกร์ที่ ๒๘ มีนาคม ๒๕๕๗
ผู้ช่วยศาสตราจารย์อัญชลี ตัตตะวะศาสตร์ รองคณบดีฝ่ายวิชาการ ม.ขอนแก่น แจ้งกับประชาสัมพันธ์จังหวัดระยอง ว่า ด้วยบัณฑิตวิทยาลัย จัดการประชุมวิชาการเสนอผลงานวิจัย ระดับบัณฑิตศึกษา ครั้งที่ ๑๕ ๕๐ ปี มข. แห่งการอุทิศเพื่อสังคม ในวันศุกร์ที่ ๒๘ มีนาคม ๒๕๕๗ เวลา ๐๘.๑๕ น.-๑๘.๐๐ น. ณ วิทยาลัยการปกครองท้องถิ่น มหาวิทยาลัยขอนแก่น โดยจะมีการบรรยายพิเศษ เรื่อง "การพัฒนาผลงานวิจัยบัณฑิตศึกษา เพื่อสร้างคุณค่าและการใช้ประโยชน์” โดย รศ.ดร.วีระพงษ์ แพสุวรรณ ปลัดกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เวลา ๐๙.๒๐ น. ณ ห้องประชุมใหญ่ ชั้น ๑ วิทยาลัยการปกครองท้องถิ่น มหาวิทยาลัยขอนแก่น และมีการนำเสนอผลงานวิจัย แบบบรรยายและแบบโปสเตอร์ จากสถาบันอุดมศึกษาทั้งภาครัฐและเอกชนในประเทศไทย กว่า ๔๐๐ เรื่อง ดูรายละเอียด ได้ที่ http://gs.kku.ac.th/gradresearch15/ หรือโทรศัพท์ ๐๔๓ ๒๐๒๔๒๐ โทรศัพท์มือถือ ๐๘๘ ๐๖๒๐๑๓๓ โทร.ภายใน มข. ๔๒๔๒๓
เพื่อเป็นการเปิดโอกาสให้นักศึกษาระดับบัณฑิตศึกษาทุกคนเข้าร่วมกิจกรรมดังกล่าว บัณฑิตวิทยาลัยจึงใคร่ประชาสัมพันธ์ให้อาจารย์และนักศึกษาได้ทราบโดยทั่วกัน
เพื่อเป็นการเปิดโอกาสให้นักศึกษาระดับบัณฑิตศึกษาทุกคนเข้าร่วมกิจกรรมดังกล่าว บัณฑิตวิทยาลัยจึงใคร่ประชาสัมพันธ์ให้อาจารย์และนักศึกษาได้ทราบโดยทั่วกัน
สำนักงานศาลยุติธรรมจัดโครงการ ค่ายเยาวชนต้นกล้าตุลาการ รุ่นที่ ๔
นางวัฒนพร คชภูมิ ผู้อำนวยการกองสารนิเทศและประชาสัมพันธ์ กล่าวกับ ประชาสัมพันธ์จังหวัดระยอง ว่า กองสารนิเทศและประชาสัมพันธ์ สำนักงานศาลยุติธรรม เชิญชวนเยาวชนระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย หรือเทียบเท่า เข้าร่วมโครงการเยาวชนต้นกล้าตุลาการ รุ่นที่ ๔ ระหว่างวันที่ ๒๘ เมษายน – ๒ พฤษภาคม ๒๕๕๗ เพื่อเปิดโอกาสให้เยาวชนได้เพิ่มพูนประสบการณ์การเรียนรู้ และเตรียมความพร้อมทางด้านกฎหมาย เพื่อปูทางสู่การเป็น ผู้พิพากษา ในอนาคต เยาวชนที่สนใจสามารถสมัครได้ตั้งแต่บัดนี้ ถึงวันที่ ๓๑ มีนาคม ๒๕๕๗ ผ่านทาง http://app.coj.go.th/judkid ประกาศผลการคัดเลือก ๒๑ เมษายนศกนี้ สอบถามรายละเอียดที่ ๐๒ ๕๑๒๓๖๒๕ และ ๐๒ ๔๑๒๒๓๒๙
“สนทนายามเช้า สภากาแฟ ”จังหวัดฉะเชิงเทรา
วันนี้ (21 มี.ค.57) นายบัณทิตย์ เทวีทิวารักษ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทรา เป็นประธานเปิดโครงการแลกเปลี่ยนเรียนรู้สร้างเครือข่ายความร่วมมือเพื่อพัฒนาองค์การและการปฏิบัติราชการ พ.ศ. 2557หรือ สภากาแฟจังหวัดฉะเชิงเทรา ประเดือนมีนาคม ณ บริษัทโตโยต้า มอเตอร์ (ประเทศไทย) อำเภอบ้านโพธิ์ จังหวัดฉะเชิงเทรา โดยมีไพศาล วิมลรัตน์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทรา หัวหน้าส่วนราชการ ภายในจังหวัดฉะเชิงเทรา เข้าร่วมพบปะสนทนาระหว่างหน่วยงานต่างๆ เพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลปัญหาความต้องการและข้อเสนอแนะ โดยมีการบูรณาการร่วมกัน เพื่อประโยชน์ในการบริหารจัดการพัฒนาจังหวัด และสร้างสัมพันธ์อันดีต่อกัน ทั้งนี้เพื่อให้บุคลากรของจังหวัดฉะเชิงเทรามีการดำเนินการจัดการความรู้ได้สอดคล้องกับภารกิจและวิสัยทัศน์ของจังหวัด สร้างเครือข่ายความร่วมมือเพื่อพัฒนาองค์การและการปฏิบัติราชการ โดยการจัดกิจกรรมในครั้งนี้ หน่วยงาน สังกัดกระทรวงการคลัง กระทรวงพาณิชย์ อุตสาหกรรม หอการค้าจังหวัดฉะเชิงเทรา สภาอุตสาหกรรมจังหวัดฉะเชิงเทราร่วมเป็นเจ้าภาพ
กิจกรรม"สภากาแฟ”จังหวัดฉะเชิงเทรา จัดขึ้นเป็นประจำทุกเดือน โดยจะมีหน่วยงานต่างๆสลับหมุนเวียนเปลี่ยนกันเป็นจ้าภาพในแต่ละเดือนในครั้งต่อไปหน่วยงานที่เป็นเจ้าภาพได้แก่ สำนักงานอัยการจังหวัดฉะเชิงเทรา ตำรวจจังหวัดฉะเชิงเทรา และ หน่วยงานสังกัดกระทรวงยุติธรรมภายในจังหวัดฉะเชิงเทรา ร่วมเป็นเจ้าภาพในครั้งต่อไป
กิจกรรม"สภากาแฟ”จังหวัดฉะเชิงเทรา จัดขึ้นเป็นประจำทุกเดือน โดยจะมีหน่วยงานต่างๆสลับหมุนเวียนเปลี่ยนกันเป็นจ้าภาพในแต่ละเดือนในครั้งต่อไปหน่วยงานที่เป็นเจ้าภาพได้แก่ สำนักงานอัยการจังหวัดฉะเชิงเทรา ตำรวจจังหวัดฉะเชิงเทรา และ หน่วยงานสังกัดกระทรวงยุติธรรมภายในจังหวัดฉะเชิงเทรา ร่วมเป็นเจ้าภาพในครั้งต่อไป
ส.ปชส.ฉะเชิงเทรา
รองผู้ว่าฯฉะเชิงเทรา เปิดงานวันสตรีสากลและสมัชชาสตรีจังหวัดฉะเชิงเทรา ประจำปี 2557
วันนี้ (21 มี.ค. 57) นายไพศาล วิมลรัตน์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทรา เป็นประธานเปิดงานวันสตรีสากลและสมัชชาสตรีจังหวัดฉะเชิงเทรา โดยมี นางวิภวา อุดมรัตน์ พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดฉะเชิงเทราผู้แทนองค์กรสตรี ผู้แทนองค์กรหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาสังคม กว่า 200 คน เข้าร่วมงาน ณ โรงแรมแกรนด์รอยัล พลาซ่า อำเภอเมืองจังหวัดฉะเชิงเทรา
รองผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทรากล่าวว่าองค์การสหประชาชาติได้กำหนดให้วันที่ ๘ มีนาคม ของทุกปี เป็นวันสตรีสากล และเชิญชวนให้ประเทศสมาชิกจัดกิจกรรมเพื่อร่วมเฉลิมฉลองและรำลึกถึงการต่อสู้ของสตรีเพื่อให้ได้มาซึ่งสิทธิ ความเสมอภาค สันติสุข และการพัฒนา สำหรับประเทศไทย ถึงแม้สตรีจะได้รับการยกย่องยอมรับให้มีบทบาทสำคัญในการพัฒนาประเทศมากขึ้น แต่ในความเป็นจริงแล้ว สตรียังประสบปัญหาความเลื่อมล้ำในเรื่องสิทธิ โอกาส และการถูกกระทำความรุนแรงในรูปแบบต่างๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสตรีในท้องถิ่นที่ยังมีปัญหาในเรื่องคุณภาพชีวิตได้รับบริการไม่ทั่วถึง ถูกเอารัดเอาเปรียบถูกละเมิดสิทธิ จังหวัดฉะเชิงเทรา จึงตั้งใจและมุ่งหวังที่จะขจัดการเลือกปฏิบัติต่อสตรี ส่งเสริมสิทธิ โอกาส ความก้าวหน้าของสตรีไทย โดยเชื่อว่า การรวมพลังของสตรี และบุรุษ นำไปสู่การขจัดความไม่เท่าเทียมทางเพศให้หมดสิ้นไป และหากสังคมไทยตระหนักถึงความสำคัญของสิทธิ และความเสมอภาค ก็ จะส่งผลให้สตรีสามารถเข้าถึงทรัพยากร และแหล่งทุนต่างๆ ได้รับสิทธิทางกฎหมาย ได้รับโอกาสแสดงศักยภาพได้อย่างเต็มที่ มีคุณภาพชีวิตที่ดี สามารถร่วมสร้างสรรค์ ประเทศไทยให้พัฒนาอย่างมีความเสมอภาค
ด้านพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดฉะเชิงเทรา กล่าวว่า ประเทศไทยได้เริ่มจัดงานวันสตรีสากลอย่างเป็นทางการเมื่อปี พ.ศ. 2532 ปีนี้จึงนับเป็นปีที่ 26 ของการเฉลิมฉลอง สำนักงานพัฒนาความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดฉะเชิงเทราจึงร่วมกับสำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัดฉะเชิงเทราจัดงานวันสตรีสากลและสมัชชาสตรีจังหวัดฉะเชิงเทรา ประจำปี 2557 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อกระตุ้นให้ทุกภาคส่วนตระหนักถึงความสำคัญของวันสตรีสากลสนับสนุนและร่วมจัดกิจกรรมเนื่องในวันสตรีสากล,ส่งเสริมและสนับสนุนให้หน่วยงานองค์กรเครือข่ายมีส่วนร่วมในการจัดกิจกรรมที่มีประโยชน์ต่อชุมชน,ส่งเสริมให้สตรีและบุรุษมีส่วนร่วมในกิจกรรมทุกด้านและทุกระดับในสังคม, เสริมสร้างเจตคติของสังคมในการคำนึงถึงศักดิ์ศรีและคุณค่าความเป็นมนุษย์,ส่งเสริมศักยภาพและพิทักษ์คุ้มครองสิทธิมนุษยชนของสตรีและเสริมสร้างความเสมอภาคระหว่างหญิงชายอีกทั้งยังเป็นการนำเสนอนโยบายยุทธศาสตร์และแนวทางการส่งเสริมและพัฒนาศักยภาพสตรีตลอดจนส่งเสริมความเสมอภาคของหญิงชายภายในจังหวัด โดยมีแนวคิดการจัดงานในประเด็น "การเสริมสร้างความเข้มแข็งของเครือข่ายพัฒนาสตรีและครอบครัว” สำหรับกิจกรรมภายในงานประกอบด้วยการเสวนา การจัดนิทรรศการองค์ความรู้เกี่ยวกับสตรีของหน่วยงานองค์กรต่างๆที่ปฏิบัติงานด้านการพัฒนาสตรีและการส่งเสริมความเสมอภาคระหว่างหญิงและชาย
รองผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทรากล่าวว่าองค์การสหประชาชาติได้กำหนดให้วันที่ ๘ มีนาคม ของทุกปี เป็นวันสตรีสากล และเชิญชวนให้ประเทศสมาชิกจัดกิจกรรมเพื่อร่วมเฉลิมฉลองและรำลึกถึงการต่อสู้ของสตรีเพื่อให้ได้มาซึ่งสิทธิ ความเสมอภาค สันติสุข และการพัฒนา สำหรับประเทศไทย ถึงแม้สตรีจะได้รับการยกย่องยอมรับให้มีบทบาทสำคัญในการพัฒนาประเทศมากขึ้น แต่ในความเป็นจริงแล้ว สตรียังประสบปัญหาความเลื่อมล้ำในเรื่องสิทธิ โอกาส และการถูกกระทำความรุนแรงในรูปแบบต่างๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสตรีในท้องถิ่นที่ยังมีปัญหาในเรื่องคุณภาพชีวิตได้รับบริการไม่ทั่วถึง ถูกเอารัดเอาเปรียบถูกละเมิดสิทธิ จังหวัดฉะเชิงเทรา จึงตั้งใจและมุ่งหวังที่จะขจัดการเลือกปฏิบัติต่อสตรี ส่งเสริมสิทธิ โอกาส ความก้าวหน้าของสตรีไทย โดยเชื่อว่า การรวมพลังของสตรี และบุรุษ นำไปสู่การขจัดความไม่เท่าเทียมทางเพศให้หมดสิ้นไป และหากสังคมไทยตระหนักถึงความสำคัญของสิทธิ และความเสมอภาค ก็ จะส่งผลให้สตรีสามารถเข้าถึงทรัพยากร และแหล่งทุนต่างๆ ได้รับสิทธิทางกฎหมาย ได้รับโอกาสแสดงศักยภาพได้อย่างเต็มที่ มีคุณภาพชีวิตที่ดี สามารถร่วมสร้างสรรค์ ประเทศไทยให้พัฒนาอย่างมีความเสมอภาค
ด้านพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดฉะเชิงเทรา กล่าวว่า ประเทศไทยได้เริ่มจัดงานวันสตรีสากลอย่างเป็นทางการเมื่อปี พ.ศ. 2532 ปีนี้จึงนับเป็นปีที่ 26 ของการเฉลิมฉลอง สำนักงานพัฒนาความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดฉะเชิงเทราจึงร่วมกับสำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัดฉะเชิงเทราจัดงานวันสตรีสากลและสมัชชาสตรีจังหวัดฉะเชิงเทรา ประจำปี 2557 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อกระตุ้นให้ทุกภาคส่วนตระหนักถึงความสำคัญของวันสตรีสากลสนับสนุนและร่วมจัดกิจกรรมเนื่องในวันสตรีสากล,ส่งเสริมและสนับสนุนให้หน่วยงานองค์กรเครือข่ายมีส่วนร่วมในการจัดกิจกรรมที่มีประโยชน์ต่อชุมชน,ส่งเสริมให้สตรีและบุรุษมีส่วนร่วมในกิจกรรมทุกด้านและทุกระดับในสังคม, เสริมสร้างเจตคติของสังคมในการคำนึงถึงศักดิ์ศรีและคุณค่าความเป็นมนุษย์,ส่งเสริมศักยภาพและพิทักษ์คุ้มครองสิทธิมนุษยชนของสตรีและเสริมสร้างความเสมอภาคระหว่างหญิงชายอีกทั้งยังเป็นการนำเสนอนโยบายยุทธศาสตร์และแนวทางการส่งเสริมและพัฒนาศักยภาพสตรีตลอดจนส่งเสริมความเสมอภาคของหญิงชายภายในจังหวัด โดยมีแนวคิดการจัดงานในประเด็น "การเสริมสร้างความเข้มแข็งของเครือข่ายพัฒนาสตรีและครอบครัว” สำหรับกิจกรรมภายในงานประกอบด้วยการเสวนา การจัดนิทรรศการองค์ความรู้เกี่ยวกับสตรีของหน่วยงานองค์กรต่างๆที่ปฏิบัติงานด้านการพัฒนาสตรีและการส่งเสริมความเสมอภาคระหว่างหญิงและชาย
ภูมินทร์/ข่าว/ภาพ
กกต.ฉะเชิงเทรา จัดเวทีกลางเพื่อเปิดโอกาสให้ผู้สมัครรับการเลือกตั้งสมาชิกวุฒิสภาของจังหวัดฉะเชิงเทราได้หาเสียงต่อประชาชน
นายสุขสันต์ วนะภูติ กรรมการเลือกตั้งประจำจังหวัดฉะชิงเทราและ ในฐานะผู้จัดเวทีหาเสียง โดยการสนับสนุนของรัฐ กล่าวว่า เนื่องจากสมาชิกวุฒิสภาครบวาระการดำรงตำแหน่งเมื่อวันที่ 1 มีนาคม 2557 และมี พระราชกฤษฎีกาให้มีการเลือกตั้งสมาชิกวุฒิสภา เป็นการเลือกตั้งทั่วไปในวันที่ 30 มีนาคม2557 ตามประกาศคณะกรรมการการเลือกตั้ง เรื่อง กำหนดวิธีการสนับสนุน การหาเสียงเลือกตั้งสมาชิกวุฒิสภา พ.ศ.2551 หมวดที่ 3 ข้อ 13 ให้สำนักงานคณะกรรมกรการเลือกตั้งประจำจังหวัดจัดให้มีสถานที่โฆษณาหาเสียงหรือเวทีกลาง เพื่อให้ผู้สมัครใช้โฆษณาหาเสียงอย่างน้อย 1 แห่ง โดยสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัด อาจจัดให้มีการแสดงหรือการดำเนินการอื่นใดเพื่อจูงใจให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งมาฟังการโฆษณาหาเสียงด้วยก็ได้ แต่ต้องมิใช่เป็นการจัดให้มีเพื่อสนับสนุนผู้สมัครผู้ใดโดยเฉพาะ สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดฉะเชิงเทรา
จึงได้จัดเวทีกลางหาเสียงให้กับผู้สมัครสมาชิกวุฒิสภาของจังหวัดฉะเชิงเทราได้โฆษณาหาเสียงโดยเท่าเทียมกันประกอบกับฟังดนตรีจากนักเรียน ที่ผ่านการประกวด และได้รับรางวัลจากรายการชิงช้าสวรรค์ สลับคั่นการปราศรัยของผู้สมัครในแต่ละท่าน ณ บริเวณสนามหน้าศาลาจัตุรมุข ศาลากลางจังหวัดฉะเชิงเทรา โดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อให้ผู้สมัครสมาชิกวุฒิสภา(ส.ว.)โฆษณาหาเสียงอย่างเท่าเทียมกัน รวมทั้งเพื่อให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งได้ทราบประวัติผลงานของผู้สมัคร เพื่อเป็นแนวทางในการตัดสินใจลงคะแนนและเพื่อเป็นการกระตุ้นเตือนให้ประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้งเข้าร่วมกิจกรรมและไปใช้สิทธิลงคะแนนเสียงเลือกตั้งเพิ่มมากขึ้นสำหรับผู้ใช้สิทธิเลือกตั้งล่วงหน้าในวันอาทิตย์ที่ 23 มีนาคม 2557 และสำหรับผู้ใช้สิทธิเลือกตั้งปกติในวันอาทิตย์ที่ 30 มีนาคม 2557 โดยพร้อมเพรียงกัน
จึงได้จัดเวทีกลางหาเสียงให้กับผู้สมัครสมาชิกวุฒิสภาของจังหวัดฉะเชิงเทราได้โฆษณาหาเสียงโดยเท่าเทียมกันประกอบกับฟังดนตรีจากนักเรียน ที่ผ่านการประกวด และได้รับรางวัลจากรายการชิงช้าสวรรค์ สลับคั่นการปราศรัยของผู้สมัครในแต่ละท่าน ณ บริเวณสนามหน้าศาลาจัตุรมุข ศาลากลางจังหวัดฉะเชิงเทรา โดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อให้ผู้สมัครสมาชิกวุฒิสภา(ส.ว.)โฆษณาหาเสียงอย่างเท่าเทียมกัน รวมทั้งเพื่อให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งได้ทราบประวัติผลงานของผู้สมัคร เพื่อเป็นแนวทางในการตัดสินใจลงคะแนนและเพื่อเป็นการกระตุ้นเตือนให้ประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้งเข้าร่วมกิจกรรมและไปใช้สิทธิลงคะแนนเสียงเลือกตั้งเพิ่มมากขึ้นสำหรับผู้ใช้สิทธิเลือกตั้งล่วงหน้าในวันอาทิตย์ที่ 23 มีนาคม 2557 และสำหรับผู้ใช้สิทธิเลือกตั้งปกติในวันอาทิตย์ที่ 30 มีนาคม 2557 โดยพร้อมเพรียงกัน
ชาญณรงค์/ข่าว-ภาพส.ปชส.ฉะเชิงเทรา
เหล่ากาชาดจังหวัดฉะเชิงเทรา เป็นเจ้าภาพจัดการประชุมคณะกรรมการเหล่ากาชาดจังหวัด ภาค3 ครั้ง2/2557
วันนี้ (21 มีนาคม 2557) นาย แผน วรรณเมธี เลขาธิการสภากาชาดไทย เป็นประธานในพิธีเปิดการประชุมคณะกรรมการเหล่ากาชาดจังหวัด ภาค 3ครั้ง2/2557 โดยมี นาย อนุกูล ตังคณานุกูลชัย ผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทรา นางมารยาท ตังคณานุกูลชัย นายกเหล่ากาชาดจังหวัดฉะเชิงเทรา พร้อมด้วยนางสาวจิตรา พรหมชุติมา นายกเหล่ากาชาดจังหวัดปราจีนบุรี กรรมการสภากาชาดผู้แทนภาค 3และกิ่งกาชาดอำเภอ คณะกรรมการและสมาชิกเหล่ากาชาด ภาค3ทั้ง 7 จังหวัด หัวหน้าส่วนราชการ และผู้ที่เกี่ยวข้อง จำนวน 353 คน เข้าร่วมประชุมอย่างพร้อมเพรียง ณ ห้องเทพราช โรงแรมซันธารา เวลเนส รีสอร์ท อำเภอเมืองฉะเชิงเทรา
นางสาวจิตรา พรหมชุติมา นายกเหล่ากาชาดจังหวัดปราจีนบุรี กรรมการสภากาชาดผู้แทนภาค 3กล่าวว่า เหล่ากาชาดจังหวัดภาค3 ประกอบด้วย 7 จังหวัดภาคตะวันอออก ได้แก่ จังหวัดฉะเชิงเทรา /ชลบุรี/ระยอง/จันทบุรี/ตราด/สระแก้วและปราจีนบุรี นอกจากนี้ยังมีอีก 6 กิ่งกาชาดอำเภอ คือ กิ่งอำเภอสอยดาว/กิ่งอำเภอบางละมุง/กิ่งอำเภอสัตหีบ/กิ่งอำเภอคลองใหญ่ และกิ่งอำเภออรัญประเทศ ซึ่งเป็นหน่วยงานสำคัญอีกหน่วยงานของสภากาชาดไทยในการปฏิบัติภารกิจของสภากาชาดไทยในส่วนภูมิภาค มีบทบาทสำคัญในการให้ความช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ที่ได้รับความทุกข์ยาก ตามหลักการกาชาดสากล และดำเนินงานตามยุทธศาสตร์ 5 ด้าน ประกอบด้วย การบริการทางการแพทย์และสาธารณสุขที่เป็นเลิศและครบวงจร/การช่วยเหลือผู้ประสบภัยอย่างรวดเร็ว/การพัฒนาและขยายบริการโลหิตผลิตภัณฑ์จากพลาสมาและเซลส์ต้นกำเนิดเม็ดโลหิต/การพัฒนาและส่งเสริมคุณภาพชีวิตประชาชน/และการพัฒนาระบบบริหารจัดการแบบบูรณาการเชิงรุก
สำหรับการประชุมคณะกรรมการเหล่ากาชาดจังหวัด ภาค 3 ได้จัดขึ้นตามระเบียบข้อบังคับสภากาชาดไทยที่กำหนดให้มีการประชุมคณะกรรมการเหล่ากาชาดจังหวัดและกิ่งกาชาดอำเภอภายในภาค ปีหนึ่งไม่น้อยกว่า ๓ ครั้ง เพื่อให้คณะกรรมการและสมาชิกเหล่ากาชาดจังหวัด ตลอดจนกิ่งกาชาดอำเภอ ได้รับการพัฒนา เพิ่มพูนทักษะ และสร้างความรู้ความเข้าใจในการปฏิบัติหน้าที่ และที่สำคัญที่สุดคือการได้แลกเปลี่ยนประสบการณ์ในการช่วยเหลือทั้งผู้ด้อยโอกาส และผู้ประสบภัย ให้สามารถดำรงชีวิตอยู่ในสังคมได้อย่างเป็นปกติสุข
ทั้งนี้ เหล่ากาชาดจังหวัด ภาค 3จะบูรณาการการทำงานร่วมกันให้สอดคล้องกับวัตถุประสงค์ของสภากาชาดไทยที่ตั้งไว้ เพื่อให้การปฏิบัติงานในการช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ที่ตกทุกข์ได้ยากให้พ้นจากทุกข์ภัย มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดี ส่งผลให้ครอบครัวเข้มแข็ง ชุมชนเข้มแข็ง และสามารถให้ประชาชนพึ่งพาตนเองได้อย่างยั่งยืนต่อไป
นางสาวจิตรา พรหมชุติมา นายกเหล่ากาชาดจังหวัดปราจีนบุรี กรรมการสภากาชาดผู้แทนภาค 3กล่าวว่า เหล่ากาชาดจังหวัดภาค3 ประกอบด้วย 7 จังหวัดภาคตะวันอออก ได้แก่ จังหวัดฉะเชิงเทรา /ชลบุรี/ระยอง/จันทบุรี/ตราด/สระแก้วและปราจีนบุรี นอกจากนี้ยังมีอีก 6 กิ่งกาชาดอำเภอ คือ กิ่งอำเภอสอยดาว/กิ่งอำเภอบางละมุง/กิ่งอำเภอสัตหีบ/กิ่งอำเภอคลองใหญ่ และกิ่งอำเภออรัญประเทศ ซึ่งเป็นหน่วยงานสำคัญอีกหน่วยงานของสภากาชาดไทยในการปฏิบัติภารกิจของสภากาชาดไทยในส่วนภูมิภาค มีบทบาทสำคัญในการให้ความช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ที่ได้รับความทุกข์ยาก ตามหลักการกาชาดสากล และดำเนินงานตามยุทธศาสตร์ 5 ด้าน ประกอบด้วย การบริการทางการแพทย์และสาธารณสุขที่เป็นเลิศและครบวงจร/การช่วยเหลือผู้ประสบภัยอย่างรวดเร็ว/การพัฒนาและขยายบริการโลหิตผลิตภัณฑ์จากพลาสมาและเซลส์ต้นกำเนิดเม็ดโลหิต/การพัฒนาและส่งเสริมคุณภาพชีวิตประชาชน/และการพัฒนาระบบบริหารจัดการแบบบูรณาการเชิงรุก
สำหรับการประชุมคณะกรรมการเหล่ากาชาดจังหวัด ภาค 3 ได้จัดขึ้นตามระเบียบข้อบังคับสภากาชาดไทยที่กำหนดให้มีการประชุมคณะกรรมการเหล่ากาชาดจังหวัดและกิ่งกาชาดอำเภอภายในภาค ปีหนึ่งไม่น้อยกว่า ๓ ครั้ง เพื่อให้คณะกรรมการและสมาชิกเหล่ากาชาดจังหวัด ตลอดจนกิ่งกาชาดอำเภอ ได้รับการพัฒนา เพิ่มพูนทักษะ และสร้างความรู้ความเข้าใจในการปฏิบัติหน้าที่ และที่สำคัญที่สุดคือการได้แลกเปลี่ยนประสบการณ์ในการช่วยเหลือทั้งผู้ด้อยโอกาส และผู้ประสบภัย ให้สามารถดำรงชีวิตอยู่ในสังคมได้อย่างเป็นปกติสุข
ทั้งนี้ เหล่ากาชาดจังหวัด ภาค 3จะบูรณาการการทำงานร่วมกันให้สอดคล้องกับวัตถุประสงค์ของสภากาชาดไทยที่ตั้งไว้ เพื่อให้การปฏิบัติงานในการช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ที่ตกทุกข์ได้ยากให้พ้นจากทุกข์ภัย มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดี ส่งผลให้ครอบครัวเข้มแข็ง ชุมชนเข้มแข็ง และสามารถให้ประชาชนพึ่งพาตนเองได้อย่างยั่งยืนต่อไป
ชาญณรงค์/ข่าว
ธนภัทร-ภาพ
ส.ปชส.ฉะเชิงเทรา
กองกำลังบูรพาปลูกป่าอาเซียนเชื่อมผืนป่า 2 ประเทศ ไทย-กัมพูชา
ที่บริเวณบ้านทับทิมสยาม 03 ตำบลทัพไทย อำเภอตาพระยา จังหวัดสระแก้ว พลตรีกู้เกียรติ ศรีนาคา ผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 2 รักษาพระองค์ เป็นประธานปลูกป่าอาเซียน บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ตามนโยบายผู้บัญชาการทหารบกและแม่ทัพภาคที่ 1 ในการดำเนินโครงการปลูกป่าอาเซียนในพื้นที่ชายแดนพร้อมด้วยหน่วยทหารเพื่อนบ้านเพื่อรองรับการเปิดประชาคมอาเซียนและสร้างแหล่งทรัพยากรในอนาคต เชื่อมโยงผืนป่าของทั้ง 2 ประเทศเข้าด้วยกัน สร้างความสัมพันธ์อันดีและส่งเสริมความเข้าใจตลอดจนมีทัศนคติที่ดีต่อกันระหว่างเจ้าหน้าที่บริเวณชายแดน
โครงการปลูกป่าอาเซียนในพื้นที่จังหวัดสระแก้วจะปลูกใน 4 พื้นที่ด้วยกัน ได้แก่ บ้านทับทิมสยาม 03 ต.ทัพไทย อ.ตาพระยา บ้านหนองปรือ อ.อรัญประเทศ บ้านเขาดิน อ.คลองหาดและบ้านทับทิมสยาม05 ต.คลองไก่เถื่อน อ.คลองหาด รวมพื้นที่ทั้ง 2เทศ จำนวน 226 ตารงกิโลเมตร โดยกิจกรรมในวันนี้ได้มีการแสดง ศิลปวัฒนธรรมไทย มอบพันธ์กล้าไม้ให้กับเจ้าหน้าที่ฝั่งไทยและกัมพูชาและหลังจากนั้นได่ร่วมกันปลูกป่าในพื้นที่บริเวณดังกล่าว
โครงการปลูกป่าอาเซียนในพื้นที่จังหวัดสระแก้วจะปลูกใน 4 พื้นที่ด้วยกัน ได้แก่ บ้านทับทิมสยาม 03 ต.ทัพไทย อ.ตาพระยา บ้านหนองปรือ อ.อรัญประเทศ บ้านเขาดิน อ.คลองหาดและบ้านทับทิมสยาม05 ต.คลองไก่เถื่อน อ.คลองหาด รวมพื้นที่ทั้ง 2เทศ จำนวน 226 ตารงกิโลเมตร โดยกิจกรรมในวันนี้ได้มีการแสดง ศิลปวัฒนธรรมไทย มอบพันธ์กล้าไม้ให้กับเจ้าหน้าที่ฝั่งไทยและกัมพูชาและหลังจากนั้นได่ร่วมกันปลูกป่าในพื้นที่บริเวณดังกล่าว
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)