วันอังคารที่ 6 พฤษภาคม พ.ศ. 2557

กอ.รมน.ฉะเชิงเทราจัดฝึกอบรมทบทวนอาสาพัฒนาและป้องกันตนเอง(อพป.)ในพื้นที่อำเภอสนามชัยเขต

วันนี้ (6 พ.ค.57)  พล.ต.องอาจ  ชวาลวิวัฒน์  รองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัดฉะเชิงเทรา  เป็นประธานในพิธีเปิดโครงการฝึกอบรมทบทวนอาสาพัฒนาและป้องกันตนเอง(อพป.) หมู่บ้านชายแดนตอนใน  ณ ศาลาประชาคม วัดคลองเตย หมู่ที่ 21 ตำบลท่ากระดาน อำเภอสนามชัยเขต จังหวัดฉะเชิงเทราโดยมี พ.อ.วุฒิชัย เจริญรื่น หัวหน้ากลุ่มงานข่าว กอ.รมน.ฉะเชิงเทรา  พ.อ.สุรินทร์ เจริญชีพ  รองหัวหน้ากลุ่มงานกิจการมวลชน กอ.รมน.ฉะเชิงเทรา  และส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง  เข้าร่วมพิธีอย่างพร้อมเพรียง 

รองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัดฉะเชิงเทรา   กล่าวว่า การฝึกอบรมทบทวนอาสาพัฒนาและป้องกันตนเอง(อพป.) ในครั้งนี้ หมู่บ้านคลองเตยจะมีความเข้มแข็งขึ้น ประชาชนมีจิตสำนึกที่จะพัฒนาชุมชนมีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหาของชุมชนโดยเฉพาะเรื่องความมั่นคงภายในชุมชน การป้องกันปัญหายาเสพติด  ปัญหาการบุกรุกทำลายทรัพยากรธรรมชาติป่าไม้ ปัญหาความยากจน ตลอดจนปัญหาอื่นๆทั้งนี้เพื่อให้ประชาชนมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น

สำหรับการจัดโครงการฝึกอบรมทบทวนฯ  มีผู้เข้ารับการอบรมประกอบด้วย ราษฎรอาสา บ้านคลองเตย  หมู่ที่ 21 ตำบลท่ากระดาน อำเภอสนามชัยเขต  จำนวน 40  คน  ระยะเวลาอบรมระหว่างวันที่ 5-13  พฤษภาคม 2557  มีวิทยากรทหารจากกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัดฉะเชิงเทรามาเป็นผู้ฝึกอบรมให้ความรู้ทั้งภาคทฤษฎีและภาคปฏิบัติประกอบด้วยวิชาหลักได้แก่อุดมการณ์ความรักชาติ  การปกป้องเทิดทูน สถาบันหลักของชาติ การเฝ้าระวัง การแจ้งเตือนภัยยุทธศาสตร์พระราชทานรู้รักสามัคคีและการฝึกวิชาทหารเบื้องต้น  โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อฝึกทบทวนประชาชนในหมู่บ้าน อพป.ให้มีศักยภาพและจิตสำนึกในการสร้างชุมชนให้เข้มแข็งมีความรักถิ่นฐานเห็นแก่ประโยชน์ของชาติและส่วนร่วมเป็นที่ตั้งรวมทั้งเพื่อผลักดันและจูงใจให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการพัฒนาและป้องกันตนเองในการแก้ไขปัญหาต่างๆที่มีผลกระทบต่อความมั่นคงของชาติและเพื่อสนองนโยบายของผอ.รมน.ในการจัดตั้งเครือข่ายข่าวภาคประชาชนในการรักษาความมั่นคงและความสงบเรียบร้อยภายในโดยการแจ้งข้อมูลข่าวสารภัยคุกคามความมั่นคงทุกรูปแบบ



ชาญณรงค์/ข่าว-ภาพ
ส.ปชส.ฉะเชิงเทรา

ระยอง ประกอบพิธีถวายราชสดุดี เนื่องในวันฉัตรมงคล

เมื่อเวลา 08.30 น.วันที่ 5 พ.ค. ที่หอประชุมศูนย์ราชการจังหวัดระยอง นายวิชิต ชาตไพสิฐ ผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง เป็นประธานนำข้าราชการ ประชาชน และกลุ่มพลังมวลชนต่างๆ ในจังหวัดระยอง ประกอบพิธีถวายราชสดุดี เนื่องในวันฉัตรมงคล ได้นำถวายเครื่องราชสักการะ พานพุ่มทอง-พานพุ่มเงิน และนำกล่าวคำถวายอาศิรวาทราชสดุดี พร้อมร้องเพลงสรรเสริญพระบารมีต่อหน้าพระบรมสาทิสลักษณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

ทั้งนี้ วันฉัตรมงคล เป็นวันที่รำลึกถึงพระราชพิธีบรมราชาภิเษก เป็นพระมหากษัตริย์ รัชกาลที่ 9 แห่งราชวงศ์จักรี และราชอาณาจักรไทย ของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช หลังจากที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ได้เสด็จขึ้นเถลิงถวัลยราชสมบัติ ต่อจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอานันทมหิดล เมื่อวันที่ 9 มิถุนายน พ.ศ. 2489 และดำรงพระอิสริยยศเป็น "สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช"เนื่องจากยังมิได้ทรงผ่านพระราชพิธีบรมราชาภิเษก ก็เสด็จพระราชดำเนินไปทรงศึกษาอยู่ ณ ทวีปยุโรป จนกระทั่งทรงบรรลุนิติภาวะ จึงได้เสด็จนิวัติประเทศไทย ดังนั้นรัฐบาลไทยและ พสกนิกร จึงได้น้อมเกล้าน้อมกระหม่อม จัดงานพระราชพิธีฉลองพระเศวตฉัตร หรือรัฐพิธีฉัตรมงคล หรืออาจเรียกว่าพระราชพิธีฉัตรมงคล ซึ่งกระทำในวันบรมราชาภิเษก ถวายเมื่อวันที่ 5 พฤษภาคม พ.ศ. 2493 ทั้งนี้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ได้มีพระปฐมบรมราชโองการในพระราชพิธีบรมราชาภิเษกนั้นว่า "เราจะครองแผ่นดินโดยธรรม เพื่อประโยชน์สุขแห่งมหาชนชาวสยาม" ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา พสกนิกรชาวไทยจึงได้ถือเอาวันที่ 5 พฤษภาคม ของทุกปีเป็นวันฉัตรมงคล





วฐิต/ข่าว

ระยองคุมเข้ม ไม่ให้พ่อค้าฉวยโอกาสตัดทุเรียนอ่อน ทำลายเกษตรกร

เมื่อเวลา 13.00 น.วันที่ 5 พ.ค. นายสายหยุด อาบสุวรรณ เกษตรจังหวัดระยอง และนายทวีป แสงกระจ่าง นายกองค์การบริหารส่วนตำบลตะพง ได้ลงพื้นที่สำรวจสวนผลไม้ของเกษตรกร ใน ต.ตะพง อ.เมืองระยอง โดยเฉพาะสวนที่ปลูกทุเรียน โดยได้ประชาสัมพันธ์ให้เกษตรกรทราบอย่างทั่วถึง อย่างหลงเชื่อพ่อค้าคนกลางโดยเด็ดขาด ที่มาหลอกตัดทุเรียนที่ยังไม่สุกเต็มที่ หรือ ทุกเรียนอ่อนแล้วจะให้ราคาดี ซึ่งการกระทำดังกล่าวจะเป็นการทำลายเกษตรกรเอง และจะทำให้ราคาตกต่ำ ผลผลิตล้นตลาด ไม่ใครกล้าซื้อไปรับประทาน

นายทวีป กล่าวว่า ตำบลตะพงเป็นพื้นที่ที่มีการปลูกทุเรียนมากเป็นอันดับหนึ่งของเมืองระยอง ขณะนี้ทุเรียนรุ่นแรกเริ่มออกสู่ตลาดแล้ว โดยในพื้นที่ตำบลตะพงมีการจัดตั้งกลุ่มของเกษตรกรดูแลผลผลิตทุเรียน ไปจนถึงการเก็บเกี่ยว เพื่อไม่ให้พ่อค้าฉวยโอกาสตัดทุเรียนอ่อน เพราะจะส่งผลกระทบทำให้ราคาทุเรียนตกต่ำ โดยเฉพาะทุเรียนพันธ์หมอนทองซึ่งมีการตรวจติดตามอยู่เป็นประจำ ในภาพรวมเป็นที่น่าพอใจ ซึ่งจากการตรวจติดตามตามสวนทุเรียน แผง หรือล้ง (แผงที่ทำส่งนอก) ต่างๆ ไม่พบว่ามีทุเรียนอ่อนแต่ประการใด คาดว่าในปีนี้ทุเรียนในอำเภอเมืองระยองจะไม่มีทุเรียนอ่อนหลุดออกไป อย่างไรก็ตามทุเรียนรุ่นที่ 2 กำลังจะเริ่มแก่และออกสู่ตลาดในช่วงวันที่ 25 พฤษภาคม นี้ ซึ่งทางองค์การบริหารส่วนตำบลตะพงรวมกับกลุ่มเกษตรกรกำลังเฝ้าติดตาม พร้อมขอความร่วมมือให้เกษตรกรชาวสวนทุเรียนทำการตัดทุเรียนรุ่นที่ 2 นี้หลังวันที่ 25 พฤษภาคมทุกราย เพื่อป้องกันทุเรียนด้อยคุณภาพจะออกสู่ตลาด โดยคาดว่าผลผลิตผลไม้ในช่วงนี้ซึ่งเป็นช่วงจัดงานเทศกาลผลไม้และของดีจังหวัดระยอง ทุเรียนจะมีจำนวนรวมประมาณกว่า 2 ,000 ตัน และมังคุดที่มีนี้มีจำนวนหลายรุ่น มั่นใจว่าจะไม่มีปัญหาเพราะมีการติดตามดูแลกันอย่างใกล้ชิด คงมีปัญหากังวลใจเรื่องของเงาะที่จะออกมากว่า 4,000 ตัน ขณะนี้ทาง อบต.ตะพง ได้จัดสรรงบประมาณ 4 ล้านบาทเตรียมรับซื้อในราคาประกันตามกลไกของตลาดแล้ว

ด้านนายสายหยุด อาบสุวรรณ เกษตรจังหวัดระยอง กล่าวว่า ปัญหาทุเรียนอ่อน ในอนาคตเราจะเน้นเรื่องคุณภาพ ซึ่งนายวิชิต ชาตไพสิฐ ผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง ได้เน้นย้ำนโยบายว่าทำอย่างไรไม่ให้มีทุเรียนอ่อน ซึ่ง อบต.ตะพง ให้ความสนใจตั้งจุดตรวจ ทุกอำเภอก็จะมีคณะกรรมการตรวจสอบทุเรียนอ่อน ประกอบด้วย เกษตรอำเภอ ปลัดอำเภอ และ อส.

เพราะฉะนั้นฝากไปยังเกษตรกรว่าถ้ายังไม่มีความมั่นใจก็อย่าเพิ่งตัด นำทุเรียนไปตรวจสอบที่สำนักงานเกษตรอำเภอได้ทุกแห่ง พร้อมแนะวิธีดูทุเรียนอ่อน เบื้องต้นให้จับขั้วยกทุเรียนจะมีความรู้สึกว่ามีน้ำหนัก และจะยกไม่ค่อยขึ้น นั่นคือ ทุเรียนอ่อน ผิดกับทุเรียนแก่จะมีน้ำหนักเบากว่าสามารถจับขั้วทุเรียนยกได้อย่างสบาย









วฐิต/ข่าว

พบเต่ากระตายเกยอ่าวลุงดำ เกาะเสม็ด



เมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 5 พฤษภาคม 2557 ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่ศูนย์อนุรักษ์ทางทะเลและชายฝั่งที่ 1 พบเต่ากระนอนตายเกยตื้นที่บริเวณริมชายหาดอ่าวลุงดำ เกาะเสม็ด ในเขตอุทยานแห่งชาติเขาแหลมหญ้า-หมู่เกาะเสม็ด ต.เพ อ.เมือง จ.ระยอง จึงได้รุดไปตรวจสอบพร้อมด้วยนายภุชงค์ สฤษฎีชัยกุล ผู้อำนวยการศูนย์อนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 1 นายสุวัฒน์ ลาภผล หัวหน้างานส่งเสริมอนุรักษ์ และเจ้าหน้าที่ศูนย์อนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 1 จำนวนหนึ่ง เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุเป็นเต่ากระเพศผู้น้ำหนักประมาณ 60 กก. ตายมาแล้วไม่ต่ำกว่า 3 วัน กลิ่นเหม็นตลบอบอวล เจ้าหน้าที่จึงได้นำมายังศูนย์วิจัยและพัฒนาทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งอ่าวไทยฝั่งตะวันออก เพื่อนำไปผ่าพิสูจน์สาเหตุของการตาย

นายภุชงค์ สฤษฎีชัยกุล ผู้อำนวยการศูนย์อนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 1 กล่าวว่า เต่าที่พบนั้นเป็นเต่ากระเพศผู้นำหนักประมาณ 50-60 กก. ที่ตายและถูกคลื่นทะเลพัดมาอยู่ริมชายหาดบริเวณอ่าวลุงดำที่เกาะเสม็ด ซึ่งสาเหตุนั้นมีหลายสาเหตุเช่นอาจจะกินถุงพลาสติกที่ลอยอยู่ในทะเลที่เต่าคิดว่าเป็นแมงกะพรุนจึงได้กัดกินและไปติดในกระเพาะอาหารจนตายก็ได้ หรือเต่าอาจเกิดอาการป่วย หรืออาจจะติดอวนของชาวประมง เป็นต้น อย่างไรก็ต้องส่งซากเต่าไปผ่าพิสูจน์เพื่อหาสาเหตุการตายครั้งนี้ที่ศูนย์วิจัยและพัฒนาทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งอ่าวไทยฝั่งตะวันออก และเมื่อวันที่ 3 พฤษภาคมที่ผ่านมา ก็มีชาวประมงพบเต่าตนุตายในทะเลห่างจากชายฝั่งประมาณ 20 ไมล์ทะเล น้ำหนักประมาณ 10-20 กก. เช่นกัน ซึ่งเจ้าหน้าที่ศูนย์วิจัยและพัฒนาทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งอ่าวไทยฝั่งตะวันออก นำไปผ่าพิสูจน์เช่นกัน อย่างไรก็ตามเต่า เป็นสัตว์สงวนและหายาก ซึ่งอยากฝากให้เครือข่ายกลุ่มประมงช่วยดูแลเพื่อให้เต่านั้นได้ดำรงและสืบพันธ์ในทะเลต่อไป


วฐิต/ข่าว








เกษตร จ.ระยอง แนะวิธีการดูทุเรียนด้วยตนเอง ส่วนชาวสวนไม่มั่นใจว่าทุเรียนแก่หรืออ่อนเอาไปตรวจสอบที่สำนักงานเกษตรอำเภอได้

นายสายหยุด อาบสุวรรณ เกษตจรจังหวัดระยอง เปิดเผยว่า จังหวัดระยองได้ดำเนินการปราบปรามและมีมาตรการป้องกันเรื่องการจำหน่ายทุเรียนอ่อนอยู่แล้ว ซึ่งในอนาคตจะส่งเสริมให้เกษตรกรชาวสวนทุเรียนเน้นในเรื่องของคุณภาพ และจะทำอย่างไรก็ได้ไม่ให้มีเรื่องทุเรียนอ่อนในจังหวัดระยอง โดยในขณะนี้ได้ส่งเสริมผลักดันให้เกษตรกรหลายสวนติดสติกเกอร์ไว้ที่ผลทุเรียนหรือที่บรรจุภัณฑ์เพราะเมื่อมีปัญหาจะได้ทราบถึงที่มาของผลผลิตได้ง่ายขึ้น โดยในปีนี้มีการแจ้งความเพื่อดำเนินคดีกับพ่อค้าที่จำหน่ายทุเรียนอ่อนไปแล้วเพียง 1 ราย โดยเกษตรกรชาวสวนรายใดยังไม่มั่นใจว่าทุเรียนของตนนั้นแก่หรืออ่อน ก็สามารถนำผลทุเรียนไปตรวจหาเปอร์เซนต์แป้งได้ที่สำนักงานเกษตรอำเภอทุกแห่ง โดยทุเรียนหมอนทองจะต้องมีเปอร์เซ็นต์แป้งอยู่ที่ 32 เปอร์เซ็นต์ ส่วนชะนีจะอยู่ที่ 30 เปอร์เซนต์

ส่วนผู้บริโภคก็สามารถดูทุเรียนว่าอ่อนหรือแก่ในเบื้องต้นด้วยตนเองด้วยวิธีง่ายๆ คือ ทุเรียนสุกดูหนามจะอ้า ก้านขั้วแข็ง เวลาจับสามารถยกลูกทุเรียนขึ้นได้ โดยขั้วทุเรียนที่ติดกับลูกสังเกตขั้วส่วนล่างล่างที่ติดกับผลทุเรียนจะสากๆ และมีปมที่ข้อต่อก้าน ส่วนทุเรียนอ่อนหนามจะถี่ ขั้วทุเรียนจะอ่อนไม่สามารถยกผลทุเรียนขึ้นได้ และขั้วล่างที่ติดกับผลทุเรียนก็จะลื่นแต่ที่สำคัญคือควรซื้อทุเรียนกับแม่ค้าพ่อค้าเจ้าประจำ เพราะเมื่อมีปัญหาจะได้พูดคุยกันได้

คนร้ายยิงถล่มบ้านพัก จนท.เครื่องส่ง ททบ.5 เขายายดา จ.ระยอง

เมื่อเวลา 07.00 น. วันที่ 6 พฤษภาคม 2557 นี้ ร.ต.อ.วิรัตน์ ยอดเสา ร้อยเวร สภ.เพ ได้รับแจ้งมีเหตุยิงถล่มบ้านพักเลขที่ 92/23 ซ.โขดกลาง ม.3 ต.เพ อ.เมือง จ.ระยอง จึงได้รายงานให้ผู้บังคับบัญชารับทราบและรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมด้วย พ.ต.ท.ชัยพงษ์ แสงพงษ์ชัย รอง ผกก.สส.สภ.เพ ที่เกิดเหตุเป็นบ้านทาวน์เฮ้าส์ชั้นเดียว จึงเข้าตรวจสอบพบหน้าบ้านบริเวณหน้าต่างและประตูมีรอยถูกอาวุธปืนยิงเป็นรูโหว่ และในที่เกิดเหตุพบหัวกระสุนปืนขนาด 11 มม. จำนวน 3 หัว จึงได้เก็บไว้เป็นหลักฐาน

นางจริยา กุลเกษรสิทธิ์ อายุ 44 ปี เจ้าของบ้าน เล่าว่า ตนเองและสามีชื่อนายบุญมี กุลเกษรสิทธิ์ อายุ 57 ปี ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ดูแลเครื่องส่งสัญญาณสถานีโทรทัศน์กองทัพบกช่อง 5 เขายายดา ขณะเกิดเหตุสามีได้เข้าเวรอยู่ที่บนเขายายดา ส่วนตนเองได้นอนพักอยู่ภายในบ้านกับนางสาวชญาดา ศรีสนธ์ อายุ 20 ปี นางสาวธันชนก รื่นภิรมย์ อายุ 21 ปี ลูกสะใภ้ และเด็กหญิงวรกมล กุลเกษรสิทธิ์ อายุ 3 ขวบ หลานสาว ขณะนั้นได้มีคนร้ายใช้อาวุธปืนยิงเข้ามาในบ้านเสียงดังสนั่น ตนเองตกใจนอนหมอบลงกับพื้น พอสิ้นเสียงปืนจึงได้ออกมาดูพบว่าหน้าบ้านมีรอยกระสุนปืน และนางสาวธันชนก รื่นภิรมย์ ลูกสะใภ้เห็นรถจักรยานยนต์ของคนร้ายยี่ห้อยามาฮ่า รุ่นฟีโน่สีชมพู ไม่ทราบทะเบียน ขับออกไปด้วยความเร็ว คาดว่าน่าจะเป็นคนร้ายที่นำอาวุธปืนมายิงถล่มบ้าน และยังพบว่าภายในหลุมเสาข้างบ้านมีรอยเท้าของคนร้ายที่เหยียบย่ำด้วย

ด้าน พ.ต.ท.ชัยพงษ์ แสงพงษ์ชัย รอง ผกก.สส.สภ.เพ กล่าวว่า เบื้องต้นตำรวจ ได้กระจายข่าวเพื่อออกติดตามคนร้ายที่ก่อเหตุยิงถล่มบ้านของเจ้าหน้าที่ดูแลเครื่องส่งสถานีโทรทัศน์กองทัพบกช่อง 5 เขายายดาดังกล่าวแล้ว ส่วนสาเหตุคาดว่าน่าจะเป็นคู่อริของลูกชายเจ้าของบ้านชื่อนายภานุพงษ์ กุลเกษรสิทธิ์ อายุ 23 ปี ซึ่งปลดประจำการทหารเกณฑ์ออกมาแต่ยังไม่ได้ประกอบอาชีพเป็นหลักแหล่ง โดยจะได้เรียกนายภานุพงษ์ มาสอบสวนอย่างละเอียด และสอบสวนผู้ที่อยู่ในบ้านพักทั้งหมดด้วย

ไฟไหม้บ้านเสี่ยรับเหมาก่อสร้างและรับซื้อยางแผ่น วอดทั้งหลัง เสียหายกว่า 10 ลบ.

เมื่อเวลา 07.30 น. วันที่ 6 พฤษภาคม 2557 ร.ต.ท.นันทกร คำพร ร้อยเวร สภ.แกลง จ.ระยอง ได้รับแจ้งมีเหตุไฟไหม้บ้านเลขที่ 62/1-3 ถ.เทศบาลซอย 1 เขตเทศบาล ต.เมืองแกลง อ.แกลง จ.ระยอง จึงได้รายงานให้ผู้บังคับบัญชารับทราบ ก่อนจะเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมด้วยนายสิทธิชัย สวัสดิ์แสน นายอำเภอแกลง นายบัญญัติ เศียรเขียว ปลัดฝ่ายความมั่นคงอำเภอแกลง นายสันติชัย ตังสวานิช นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลเมืองแกลง ที่เกิดเหตุเป็นบ้านไม้สองชั้น 4 คูหา พบกลุ่มควันไฟสีดำพวยพุ่งลอยอยู่เต็มท้องฟ้าชาวบ้านใกล้เคียงแตกตื่นวิ่งหนีกันอลหม่าน จากนั้นได้ประสานรถดับเพลิงที่อยู่ใกล้เคียงจำนวนกว่า 10 คัน มาระดมฉีดน้ำ ใช้เวลากว่า 1 ชั่วโมง เพลิงจึงสงบ

สอบถามนายวรพงษ์ เตียวัฒนสิน อายุ 55 ปี เจ้าของบ้านที่เกิดเหตุ เล่าว่า ตนมีอาชีพรับเหมาก่อสร้างและรับซื้อยางพาราแผ่น เมื่อเช้าได้พาครอบครัว ไปไหว้เจ้าที่โรงเจสมาคมพุทธศาสตร์สงเคราะห์ อ.แกลง ห่างจากบ้านพัก ประมาณ 500 เมตร ขณะเกิดเหตุเพลิงไหม้ ได้มีน้องชายโทรศัพท์มาบอกว่าไฟไหม้บ้าน จึงได้วิ่งกลับมาดู เห็นเพลิงลุกไหม้บริเวณชั้น 2 ที่เป็นบ้านไม้และชั้นล่างเป็นที่แขวนยางพาราที่รับซื้อมาจากชาวบ้านและเป็นเชื้อเพลิงอย่างดี เพลิงได้ลุกไหม้อย่างรวดเร็ว จนไฟไหม้วอดทั้งหลัง สาเหตุน่าจะเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจร เนื่องจากสายไฟฟ้าในบ้านมีสภาพเก่ามาก
ทั้งนี้ตำรวจ สันนิษฐานว่าน่าจะเกิดไฟฟ้าลัดวงจรจากชั้น 2 ของบ้าน และลุกไหม้ทั้งหลัง และไม่มีรายงานผู้ใดได้รับบาดเจ็บ อย่างไรก็ตามจะสอบสวนนายวรพงษ์ เจ้าของบ้าน เพื่อหาสาเหตุในการเกิดเพลิงลุกไหม้อีกครั้ง พร้อมกับจะประสานตำรวจพิสูจน์หลักฐานจังหวัดระยอง เข้ามาตรวจสอบอีกครั้ง เพื่อหาสาเหตุอย่างละเอียดต่อไป เบื้องต้นตำรวจ ประเมินค่าความเสียหายประมาณ 10 ลบ.

สลด ฟ้าผ่าคนตกปลา เสียชีวิตคากระท่อมปลายนา 3 ราย บาดเจ็บสาหัส 1 ราย คาดใช้โทรศัพท์มือถือขณะฝนฟ้าคะนอง

เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 6 พฤษภาคม 2557 พ.ต.ท.อนุรักษ์ ทองโต พนักงานสอบสวน สภ.บ้านค่าย จ.ระยอง ได้รับแจ้งมีผู้เสียชีวิตถูกฟ้าผ่าในกระท่อมข้างคันนาคลองขุด บ้านหนองตาเสี่ยง ม.5 ต.หนองละลอก อ.บ้านค่าย จ.ระยอง จึงได้รายงานให้ผู้บังคับบัญชารับทราบ ก่อนเดินทางไปตรวจสอบ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญู เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุพบชาวบ้านยืนอยู่ริมคลองเป็นจำนวนมาก จึงเข้าตรวจสอบพบกระท่อมข้างคันนามุงกระเบื้องอยู่ใต้ต้นมะกอก บนแคร่พบศพนายชัชพล นาอินทร์ อายุ 17 ปี ที่พื้นข้างแคร่พบศพนายศุภโชค ประจวบสุข อายุ 18 ปี เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ สภาพศพใบหน้าและลำตัวเขียวช้ำมีเลือดออกปากและจมูก ตรวจสอบในกระเป่ากางเกงนายศุภโชค พบโทรศัพท์ยี่ห้อซัมซุง รุ่นดูโอ 1 เครื่องสภาพถูกฟ้าผ่าไหม้เกรียม และในกระเป๋ากางเกงขาสั้นนายชัชพล นาอินทร์ พบโทรศัพท์มือถือ ยี่ห้อไอโฟน 4 ที่ปิดเครื่องไว้และมีสายชาร์ตแบตเตอรี่ ยี่ห้อไอโฟน 4 อยู่ด้วย เจ้าหน้าที่จึงได้เก็บไว้เป็นหลักฐาน นอกจากนี้ยังมีคนได้รับบาดเจ็บสาหัส ถูกนำส่ง รพ.บ้านค่าย 2 คน ทราบชื่อนายวิทยา คมขำ อายุ 46 ปี และนายวินัย วงศ์มณีใส อายุ 36 ปี แต่นายวิทยา ทนพิษบาดแผลไม่ไหวเสียชีวิตระหว่างทาง สอบสวนทราบว่า ทั้ง 4 คน ได้ออกมาตกปลาอยู่ที่คลองขุดขณะเกิดเหตุฝนได้ตกลงมาอย่างหนัก และมีฟ้าร้อง ฟ้าแลบตลอดเวลา ทั้ง 4 คน จึงได้วิ่งเข้าไปหลบฝนในกระท่อมข้างต้นมะกอก จู่ๆ ได้เกิดฟ้าผ่าเปรี้ยงลงมายังบริเวณกระท่อมทำให้ทั้ง 4 กระเด็นไปคนละทิศละทาง จนเป็นเหตุให้เสียชีวิต และได้รับบาดเจ็บสาหัสดังกล่าว

ด้านพ.ต.ท.อนุรักษ์ ทองโต พนักงานสอบสวน สภ.บ้านค่าย กล่าวว่า เบื้องต้นสันนิษฐานว่า ทั้งหมดได้มานั่งตกปลาแล้วฝนตกหนัก จึงได้เข้ามาหลบฝนในกระท่อมข้างคันนาที่เกิดเหตุ คาดว่าฟ้าน่าจะผ่าลงมาในขณะที่นายศุภโชค ประจวบสุข นั้นเปิดโทรศัพท์มือถือหรือฟังเพลงทางโทรศัพท์มือถือ ซึ่งอาจจะมีคลื่นสัญญาณหรือสื่อสัญญาณทำให้ฟ้าผ่าลงมายังกระท่อมดังกล่าว

อย่างไรก็ตามต้องให้ผู้เชี่ยวชาญเข้ามาตรวจสอบให้แน่ชัดว่าจะเกี่ยวกับระบบสัญญาณโทรศัพท์มือถือที่ทำให้เกิดฟ้าผ่าในครั้งนี้หรือไม่ ทั้งนี้ได้นำศพไปเก็บไว้ที่ รพ.บ้านค่าย เพื่อตรวจสอบหาสาเหตุอย่างละเอียดอีกครั้ง และจะติดต่อให้ญาติมารับศพไปบำเพ็ญกุศลศพตามประเพณีต่อไป


วฐิต/ข่าว

วันหยุดต่อเนื่องนักท่องเที่ยวจำนวนมากเดินทางสู่เกาะช้าง ทำให้ท่าเรือทั้ง 2 แห่ง มีบรรยากาศคึกคัก พบส่วนใหญ่เป็นชาวไทยที่เดินทางเป็นครอบครัว

(4 พ.ค. 57) นักท่องเที่ยวถือโอกาสในช่วงวันหยุดต่อเนื่องวันฉัตรมงคล ทยอยเดินทางสู่เกาะช้าง ทำให้ท่าเรือเฟอร์รี่ทั้ง 2 แห่ง มีบรรยากาศคึกคัก โดยท่าเรือเฟอร์รี่เซ็นเตอร์พอยท์ อ.แหลมงอบ นักท่องเที่ยวเริ่มทยอยเดินทางมาเป็นระยะ ทำให้บรรยากาศที่ท่าเรือเป็นไปอย่างคึกคัก

จากการสอบถามผู้จัดการท่าเรือเฟอร์รี่เซ็นเตอร์พอยท์ กล่าวว่า ทางท่าเรือจัดเจ้าหน้าที่มาคอยอำนวยความสะดวกให้แก่นักท่องเที่ยวตั้งแต่ช่วงเช้า โดยมีรถทยอยมาเป็นระยะ และเมื่อเรือเต็มก็จะออกเรือในทันที พร้อมกันนี้ยังได้ประสานกับทางเจ้าหน้าตำรวจ สภ. เกาะช้าง ในการจัดแยกรถนักท่องเที่ยวในวันที่เดินทางกลับลงมายังท่าเรือ อย่างไรก็ตามนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาในวันนี้ส่วนใหญ่เดินทางมาเป็นครอบครัว ส่วนการดูแลด้านความปลอดภัยให้แก่นักท่องเที่ยวพบว่าทางท่าเรือได้เตรียมเสื้อชูชีพ ถังดับเพลิง และจะแยกนักท่องเที่ยวกับรถออกจากกัน โดยจะให้รถลงเรือก่อน

ส่วนที่ท่าเรือเฟอร์รี่อ่าวธรรมชาติ ก็มีบรรยากาศที่คึกคักเช่นกัน โดยมีรถนักท่องเที่ยวเข้าคิวรอลงเรือเป็นจำนวนมาก ส่วนใหญ่เป็นชาวไทยและเดินทางมาเป็นครอบครัว เช่นกัน ไป แต่ยังสามารถระบายรถลงเรือได้ทันเวลา ทำให้ยังไม่มีปัญหาจราจรสู่ถนนภายนอกท่าเรือ อย่างไรก็ตามในวันนี้ที่นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่เดินทางลงเกาะช้างจะมีการตีเรือเปล่าจากท่าเรือเกาะช้างมารับนักท่องเที่ยวที่ฝั่งอำเภอแหลมงอบ

ปภ.ตราด เผย ฝนที่ตกลงมาอย่างต่อเนื่องช่วงที่ผ่านมาช่วยลดระดับความรุนแรงของปัญหาภัยแล้งได้เป็นอย่างดี

(4 พ.ค. 57) นายฐิตนันท์ อุดมสุข หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดตราด เปิดเผยว่า ตามที่จังหวัดตรดาได้ประกาศเขตประสบภัยพิบัติจากภัยแล้งแล้วในทุกอำเภอ พร้อมทั้งมีการจัดตั้งศูนย์เฉพาะกิจป้องกันและแก้ไขปัญหาภัยแล้งทั้งในระดับจังหวัดและระดับอำเภอ ซึ่งหน่วยงานต่าง ๆ ในระดับอำเภอ และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นได้เร่งดำเนินการแก้ไขปัญหาการขาดแคลนน้ำให้กับประชาชนโดยเฉพาะสวนผลไม้ของเกษตรกร ผ่านโครงการต่าง ๆ อาทิ โครงการขุดลอกเปิดทางน้ำ โครงการจัดหาดินสร้างทำนบดินชั่วคราว โครงการจัดหาวัสดุท่อส่งน้ำ PVC โครงการซ่อมแซมระบบประปาและโครงการเป่าล้างบ่อบาดาล การดำเนินการใช้งบประมาณเป็นค่าใช้จ่ายน้ำมันเชื้อเพลิงในการสูบน้ำ เป็นต้น

อย่างไรก็ตามจากอิทธิพลของความกดอากาศสูง กับอิทธิพลของลมมรสุมตะวันออกฉียงใต้ที่พักเข้ามาตั้งแต่ช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ทำให้ในพื้นที่จังหวัดตราดมีฝนตกมากขึ้นเกือบทุกพื้นที่ทำให้สถานการณ์ภัยแล้งที่ประสบอยู่ลกระดับความรุนแรงลงไป อย่างไรก็ตามทางสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยยังได้กำชับขอความร่วมมือองค์กรปกครองส่วนท้องุถิ่นและหน่วยทหารที่มีเครื่อมือ เครื่องจักรเตรียมความพร้อมในการให้ความช่วยเหลือประชาชน โดยเฉพาะสวนผลไม้ของเกษตรกรที่ช่วงนี้อยู่ระหว่างติดผล มีความต้องการน้ำจำนวนมาก ทั้งนี้หากประชาชนได้รับความเดือดร้อนจากปัญหาดังกล่าวสามารถแจ้งขอความช่วยเหลือได้ที่ สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดตราด หมายเลขโทรศัพท์ 0-3952-5730

เกษตรและสหกรณ์จังหวัดตราด เตือนเกษตรกรชาวสวนทุเรียนระวังภัยพิบัติจากหนอนเจาะผลทุเรียน

(5 พ.ค. 57) นายนุวัตร แพงเรือน เกษตรและสหกรณ์จังหวัดตราด กล่าวว่า ในช่วงนี้ทุเรียนในบางพื้นที่ของจังหวัดตราด อยู่ระยะการพัฒนาของผล ศัตรูที่สำคัญที่เกษตรกรควรระมัดระวัง คือ หนอนเจาะผลทุเรียน โดยผีเสื้อจะวางไข่ที่ผิวเปลือกทุเรียน เมื่อฟักออกจากไข่เป็นตัวหนอนจะแทะกินอยู่ตามผิวเปลือกผลทุเรียนเมื่อโตขึ้นจึงเจาะกินเข้าไปในผล และเข้าดักแด้อยู่ระหว่างหนามของผลทุเรียนโดยใช้ใยและมูลของหนอนหุ้มตัวแล้วจึงฟักออกเป็นผีเสื้อ ในบางครั้งหนอนจะเจาะเข้าไปกินภายในจนถึงเนื้อทุเรียน ทำให้บริเวณที่ หนอนเจาะเน่าและร่วงได้เนื่องจากมีเชื้อราเข้าทำลายซ้ำ ผลทุเรียนที่อยู่ชิดติดกันจะถูกหนอนเข้าทำลายมากว่าผลที่อยู่เดี่ยว ๆ เพราะหนอนที่ฟัก ออกจากไข่ใหม่ ๆ ชอบอาศัยอยู่ที่รอยสัมผัสของผลทุเรียนดังนั้นสำนักงานเกษตรและสหกรณ์จังหวัดตราด

จึงขอเตือนเกษตรกรชาวสวนทุเรียนหมั่นตรวจดูผลทุเรียนเมื่อพบรอยที่หนอนทำลาย ให้ใช้ไม้หรือลวดแข็งเขี่ยตัวหนอนออกมาทำลาย หรือควรตัดแต่งผลทุเรียนไม่ให้มีมากหรือชิดติดกันเกินไป หรืออาจใช้วัสดุ เช่น กาบมะพร้าว หรือเศษไม้กั้นระหว่างผลเพื่อป้องกัน ไม่ให้ตัวเต็มวัย วางไข่หรือตัวหนอนหลบอาศัยอยู่ หรือควรใช้กับดักแสงไฟ เพื่อดูประชากรของตัวเต็มวัย แล้วนำมาทำลาย เมื่อพบการระบาดมากจึงใช้สารเคมี ทั้งนี้ขอให้งดพ่นสารเคมีก่อนเก็บเกี่ยว 14 วันและหากพบผลทุเรียนที่เน่าและร่วงเพราะถูกหนอนทำลายควรเก็บทำลายโดยเผาเพื่อตัดวงจรชีวิตของหนอนเจาะผลทุเรียน ทั้งนี้หากเกษตรกรต้องการข้อมูลเพิ่มเติมสามารถติดต่อได้ที่ สำนักงานเกษตรอำเภอทุกพื้นที่ หรือสำนักงานเกษตรจังหวัดตราด

เงาะห้วงน้ำขาวอ.เมือง จ.ตราด ที่เคยออกผลผลิตก่อนฤดูกาลปีนี้ออกล่าเกือบ 1 เดือนส่งผลราคาตกจาก 120 หลือ 30 บาท

(5 พ.ค. 57) นางวันเพ็ญ แดงตนุ อายุ 70 ปี เลขที่ 65 ม.5 บ้านคันนา ต.ห้วงน้ำขาว อ.เมือง จ.ตราด ที่ปลูกอยู่กับสวนผลไม้ทั้งมังคุด และ เงาะในพื้นที่ 20 ไร่ กล่าวว่า ตนได้ปลูกเงาะตราดสีทอง ไว้จำนวน 200 ต้น ในแต่ละปีตำบลห้วงน้ำขาว จะสามารถเก็บผลผลิตได้เร็วตั้งแต่ต้นเดือนเมษายนในรุ่นแรก ๆ และจะหมดในต้นเดือนพฤษภาคม ซึ่งในช่วงเวลาดังกล่าว จะทำให้ชาวสวนใน ต.ห้วงน้ำขาว สามารถขายเงาะได้กิโลกรัมละ 100-120 บาท แต่ปีนี้เงาะออกช้ามากทำให้ขายได้ในราคากิโลกรัมละ 30-50 บาทเท่านั้น โดยจะมีพ่อค้าคนกลางมาติดต่อและรับซื้อถึงที่บ้านเลย ซึ่งเงาะที่เก็บตอนนี้ ทยอยเก็บมาแต่ปลายเดือน 2-3 รุ่นแล้ว โดยจะเก็บวัน เว้นวัน "เงาะสุกน้อย ต้นละ 5-10 ลูก ตอนนี้ใช้แรงงานคนในบ้านช่วยกันออกไปเก็บ ซึ่งสามารถเก็บได้วันละ 100-120 กิโลกรัม ตนก็จะคัดแยกใส่ตะกร้าไว้ให้ตะกร้าละ 18 กิโลกรัม คนที่รับซื้อก็จะมารับถึงบ้าน เพื่อนำไปส่งขายที่กรุงเทพฯ ส่วนจะนำไปขายกิโลกรัมละเท่าไรนั้นตนไม่ทราบ”

นางวันเพ็ญ กล่าวถึงปัญหาเงาะที่ออกมาล่าช้ากว่าทุกปี เพราะช่วงที่เงาะติดดอก ได้เกิดฝนตกลงมา ทำให้ดอกของเงาะร่วงหล่น และแตกใบอ่อนใหม่ และติดดอกอีกรอบ ซึ่งปีนี้เงาะติดดอกถึง 3 ครั้งจึงจะติดลูกให้เก็บเกี่ยว ซึ่งไม่ได้เกิดทุกสวน บางสวนก็ไม่เจอฝนตกใส่ทำให้เงาะติดลูกได้เร็ว

พสกนิกรจ.ตราด จำนวนมาก พร้อมใจกันร่วมพิธีฉัตรมงคลถวายความจงรักภักดีแด่ในหลวง

(5 พ.ค. 57) ที่ศาลาประชาคมจังหวัดตราด นายพยัคฆพันธุ์ โพธิ์แก้ว รองผู้ว่าราชการจังหวัดตราด เป็นประธานในพิธีวันฉัตรมงคล โดยมีข้าราชการและประชาชนจำนวนมากเข้าร่วมพิธี ที่ประกอบด้วยการวางพานพุ่มถวายราชสักการะต่อหน้าพระบรมฉายาลักษณ์ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่ ตามด้วยการกล่าวถวายราชสดุดี พร้อมทั้งประกอบพิธีสงฆ์เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่ในหลวงของปวงชนชาวไทย

รองผู้ว่าราชการจังหวัดตราด กล่าวว่า ทางจังหวัดจัดพิธีในครั้งนี้ขึ้น เพื่อเป็นการเฉลิมพระเกียรติและน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในวโรกาสทรงเสด็จเถลิงถวัลยราชสมบัติ ทางจังหวัดจึงจัดพิธีถวายราชสักการะในครั้งนี้ขึ้น เพื่อเปิดโอกาสให้ ส่วนราชการ หน่วยงาน สถาบันการศึกษา หน่วยงานภาคเอกชน และประชาชน ร่วมกันวางพานพุ่ม ต่อพระบรมฉายาลักษณ์ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โดยเข้าร่วมพิธีวางพานพุ่มถวายราชสักการะ และร่วมขับร้องเพลงสรรเสริญพระบารมี และสดุดีมหาราชา ต่อหน้าพระบรมฉายาลักษณ์ ขององค์พ่อของแผ่นดินพร้อมกันนี้ทางจังหวัดได้ขอเชิญชวนประชาชนทุกหมู่เหล่าร่วมทำความดีและสร้างความรักสามัคคีถวายแด่พระองค์ท่านเนื่องโอกาสมหามงคลดังกล่าว

ศูนย์วิจัยและพัฒนาประมงชายฝั่งตราดร่วมประชาชนบ้านคันนาปล่อยพันธุ์กุ้งห้าแสนตัวลงสู่ทะเลถวายในหลวงเนื่องในโอกาสมหามงคลวันฉัตรมงคล

(5 พ.ค. 57) นายเกรียงศักดิ์ เผด็จภัย ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยและพัฒนาประมงชายฝั่งตราดมอบให้นางสาวสุภาพร ตั้งสิทธิวัฒน์ นักวิชาการประมงปฏิบัติการ ศูนย์วิจัยและพัฒนาประมงชายฝั่งตราด ร่วมกับประชาชนบ้านคันนา ตำบลห้วงน้ำขาวอำเภอเมืองตราด ร่วมกันปล่อยพันธุ์กุ้งกุลาดำจำนวน 500,0000 ตัว ลงสู่ทะเลคืนสู่ธรรมชาติ เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลวันฉัตรมงคล ประจำปี พ.ศ. 25557 โดยมีประชาชน เยาวชน บ้านคันนาจำนวนมากเข้าร่วมกิจกรรม

นางสาวสุภาพร ตั้งสิทธิวัฒน์ กล่าวว่า การจัดกิจกรรมในครั้งนี้นอกจากร่วมถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวแล้ว ยังเป็นการเพิ่มทรัพยากรสัตว์น้ำสู่แหล่งน้ำธรรมชาติในทะเลจังหวัดตราด และพื้นที่อนุรักษ์ของชุมชนประมง แล้ว ยังเป็นการสร้างจิตสำนึกในการทำประมงพื้นบ้าน และเชิงพาณิชย์ ในการอนุรักษ์และเพิ่มประชากรสัตว์น้ำชายฝั่งเพื่อการประมงอย่างยั่งยืน ซึ่งลูกพันธุ์กุ้งที่ปล่อยในครั้งนี้จะได้เป็นแหล่งอาหาร และรายได้ที่ยั่งยืนของชุมชนประมงพื้นบ้าน บ้านคันนาแห่งนี้ อย่างไรก็ตามนอกจาการจัดกิจกรรมในครั้งนี้แล้ว ทางศูนย์วิจัยและพัฒนาประมงชายฝั่งตราด ยังได้จัดกิจกรรมในลักษณะนี้ในพื้นที่ต่าง ๆ ผ่านความต้องการตามโอกาส และกิจกรรมต่างๆของชุมชน ภายใต้โครงการพัฒนาจังหวัด "โครงการเพิ่มทรัพยากรสัตว์น้ำชายฝั่งตามชุมชนและท้องถิ่นโดยการมีส่วนรวมและคืนความสมดุลสู่แหล่งน้ำธรรมชาติ” อีกด้วย

จันทบุรี ประชุมเตรียมพร้อมจัดงานสุดยอดของดีเมืองจันท์ มหัศจรรย์ทุเรียนโลก 2557

จังหวัดจันทบุรีประชุมเตรียมพร้อมการจัดงานเทศกาลของดีเมืองจันท์ มหัศจรรย์ทุเรียนโลก 2557 กำหนดจัดงาน 30 พฤษภาคม ถึง 8 มิถุนายน 2557 พิธีเปิดยิ่งใหญ่ย้อนประวัติศาสตร์จันทบูร ตื่นตาสุดยอดของดีเมืองจันท์

วันนี้ ( 6 พ.ค.57 ) ที่ห้องประชุม 4 ศาลากลางจังหวัดจันทบุรี นายเกรียงเดช เข็มทอง ผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรีพร้อมด้วยนายกล้าณรงค์ พงษ์เจริญ รองผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรีได้เรียกประชุมหัวหน้าส่วนราชการและองค์กรภาคเอกชนที่เกี่ยวข้องเพื่อหารือการจัดงานเทศกาลของดีเมืองจันท์ มหัศจรรย์ทุเรียนโลก ประจำปี 2557 ซึ่งเป็นงานประจำปีของจังหวัดจันทบุรีที่จัดขึ้นในช่วงฤดูผลไม้เพื่อเป็นการส่งเสริมและประชาสัมพันธ์ของดีเมืองจันท์ สร้างรายได้เกษตรกร รวมทั้งส่งเสริมการท่องเที่ยวกระตุ้นเศรษฐกิจของจังหวัดจันทบุรี โดยปีนี้กำหนดจัดงานในช่วงที่ผลไม้ของเกษตรกรออกสู่ตลาดจำนวนมาก ระหว่างวันที่ 30 พฤษภาคม ถึง 8 มิถุนายน 2557 ณ บริเวณโดยรอบสวนสาธารณะทุ่งนาเชย และสนามกีฬากลาง รูปแบบของงานมุ่งเน้นประชาสัมพันธ์เชิญชวนให้นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในจังหวัดจันทบุรี OUT SIDE IN  สร้างภาพลักษณ์และความประทับใจแก่ผู้มาเยือน เน้นประชาสัมพันธ์คุณภาพผลผลิตทางการเกษตร ผลไม้จากสวน รวมทั้งผลิตภัณฑ์แปรรูปผลผลิต ยกระดับรายได้เกษตรกร

ภายในงานจะมีการจัดแสดงแพผลไม้ประดับไฟ นิทรรศการของดีเมืองจันท์ 10 อำเภอ การออกร้านจำหน่ายสินค้าของดีเมืองจันท์โดยเฉพาะผลไม้คุณภาพของกลุ่มแม่บ้านเกษตรกร และสหกรณ์การเกษตร นิทรรศการความรู้ทางการเกษตร การประกวดผลผลิตและผลิตภัณฑ์แปรรูปทางการเกษตร ถนนผลไม้ แข่งกินผลไม้ สาธิตการแปรรูปผลผลิตทางการเกษตร แข่งกินอาหารทะเล การจำหน่ายอัญมณีและเครื่องประดับ การจัดแสดงและจำหน่ายสินค้า OTOP การออกร้านอาหารพื้นเมืองและอาหารทะเล ประกวดธิดาชาวสวน การแสดงบนเวทีตลอด 10 คืน กิจกรรมพานักท่องเที่ยวชมและชิมผลไม้สดจากต้นในสวนผลไม้ ทั้งนี้พิธีเปิดงาน สุดยอดของดีเมืองจันท์ มหัศจรรย์ทุเรียนโลก ประจำปี 2557 กำหนดเปิดงานในเย็นวันเสาร์ที่ 31 พฤษภาคม 2557 ณ เวทีกลาง อาคารเฉลิมพระเกียรติฯ เทศบาลเมืองจันทบุรี ( อาคารกระต่าย ) ชมริ้วขบวนประวัติศาสตร์เทิดพระเกียรติฯ อลังการสุดยอดของดีเมืองจันท์




จรัล/ภาพ/ข่าว ( 6 พ.ค.57 )
                              ธเนศ เธียรนันทน์/ตรวจข่าว

  
   
   
   
   
   
   

   

พัฒนากอล์ฟคลับแอนด์รีสอร์ท เปิดสโมสรฟุตบอล

วันอังคารที่ 6 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 นางสาวรุจิพรรณ จึงรุ่งเรือกิจ รองประธานสนามกอล์ฟคลับแอนด์รีสอร์ท เป็นประธานแถลงข่าวเปิดสโมสรฟุตบอล ภายใต้ชื่อ พัฒนา เอฟซี ณ ห้องทาวเวอร์ทู สนามพัฒนากอล์ฟคลับแอนด์รีสอร์ท อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี

นางสาวรุจิพรรณ จึงรุ่งเรือกิจ รองประธานสนามกอล์ฟคลับแอนด์รีสอร์ท เปิดเผยว่า สนามพัฒนากอล์ฟคลับแอนด์รีสอร์ท เป็นสนามกอล์ฟที่มี 27 หลุมที่มีชื่อเสียงของจังหวัดชลบุรีแล้ว ยังมีสนามฟุตบอลฟุตบอลได้มาตรฐานภายใต้ชื่อ เดอะ พัฒนา สเตเตี่ยม ซึ่งใช้เป็นสนามแข่งขันระดับภูมิภาครายการ ฟุตบอลสีสันตะวันออก อุตสาหกรรมคัพ ยังได้จัดการแข่งขันฟุตบอลเพื่อเยาวชน 2 รายการ ได้แก่ การแข่งขันฟุตบอล พัฒนา ยูธ คัพ และพัฒนา จูเนียร์ คัพ ทำให้ทีมงานคณะผู้บริหารได้เกิดแนวคิดให้จัดตั้ง สโมสร พัฒนา เอฟซี โดยใช้ยุทธศาสตร์ในการสร้างกีฬาฟุตบอลสู่ความเป็นเลิศ เพื่อสอดคล้องกับนโยบายและสิสันทัศน์ของรัฐบาล ที่มุ่งสู่สังคมที่เข้มแข็ง มีคุณภาพ มีชีวิตที่ดี มีระเบียบวินัย และมีสุขภาพดีตามแผนพัฒนา เพราะเยาวชนเป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาประเทศชาติต่อไป

สำหรับการจัดตั้ง สโมสร พัฒนา เอฟซี เพื่อการสร้างกีฬาฟุตบอลสู่ความเป็นเลิศ ในยุทธศาสตร์กำหนดให้มีการพัฒนานักกีฬาอย่างเป็นระบบและครบวงจรส่งเสริมสนับสนุนการมีส่วนร่วมในระดับชุมชน โรงเรียน ให้กีฬาฟุตบอลเป็นสื่อกลาง และยังกำหนดให้จัดตั้งสถาบันการเรียนรู้ การฝึกสอนเทคนิคการเล่นกีฬาฟุตบอลอย่างมืออาชีพ ภายใต้ชื่อ พัฒนา ฟุตบอล อคาเดมี่ และยังจัดให้มีการเพิ่มพูนความรู้ทางด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีการกีฬาในรูปแบบต่างๆ โดยยึด “คน” เป็นศูนย์กลางการพัฒนาอีกด้วย



ปริญญา/ข่าว/ภาพ

จังหวัดชลบุรี จัดพิธีถวายราชสดุดีเนื่องในวโรกาส วันฉัตรมงคล

วันจันทร์ที่ 5 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 จังหวัดชลบุรี จัดพิธีถวายราชสดุดีเนื่องในวโรกาส วันฉัตรมงคล ณ ศาลาเฉลิมเกียรติ อำเภอเมือง จังหวัดชลบุรี โดยมีนายคมสัน เอกชัย ผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี เป็นประธาน

เนื่องในมหามงคลสมัยวันฉัตรมงคล ได้เวียนมาบรรจบอีกวาระหนึ่งในวันที่ 5 พฤษภาคม 2556 นายคมสัน เอกชัย ผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี ในนามของข้าราชการพลเรือน ทหาร ตำรวจ ตุลาการ อัยการ สมาชิกวุฒิสภาจังหวัดชลบุรี สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดชลบุรี สมาชิกองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น สมาชิกเหล่ากาชาดจังหวัดชลบุรี นักเรียน นักศึกษา และประชาชนชาวจังหวัดชลบุรีทุกหมู่เหล่า ได้พร้อมใจกันมาร่วมชุมนุม ณ ที่นี่ เพื่อสำนักในพระมหากรุณาธิคุณที่ไต้ฝ่าละอองธุลีพระบาท ที่มีต่อพสกนิกรเป็นล้นเกล้าล้นกระหม่อมสุดจะพรรณา ใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาทได้ทรงประกอบพระราชภารกิจอันหนักยิ่ง นับแต่วันเถลิงถวัลย์ราชสมบัติ ตราบจนปัจจุบันกาลเวลาได้พิสูจน์ให้มหาชนประจักษ์แล้วว่า ใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาท ได้ทรงปฏิบัติตามพระบรมราชปณธาน ในพระปฐมบรมราชโองการโดยสม่ำเสมอตลอดมา พระบรมราชปณานดังกล่าว คือ เราจะครองแผ่นดินโดยธรรม เพื่อประโยชน์สุขแห่งมหาชนชาวสยาม พระบรมราชปณิธานที่อัญเชิญมาข้างต้น เป็นแนวคิดอันอุดมด้วยคุณค่า สุดที่จะประมาณได้ เป็นประหนึ่งดวงประทีปที่ส่องแนวทางในการพัฒนาชาติบ้านเมืองไปสู่ความเจริญรุ่งเรือง และในวโรกาสอันเป็นมหามงคลนี้ ขอถวายสัจจะปฏิญาณในอันที่จะสนองพระมหากรุณาธิคุณ ด้วยความจงรักภักดี จะพยายามจนสุดความสามารถที่จะพัฒนาตนเองและประเทศชาติ ให้เป็นไปตามแนวแห่งพระบรมราชปณิธานตลอดไป



ปริญญา/ข่าว/ภาพ

อบรมการฝึกนายทหารใหม่

ที่ห้องอเนกประสงค์ อาคารกิรติสิริโยธิน ค่ายนวมินทราชินี อำเภอเมือง จังหวัดชลบุรี  หม่อมหลวงปนัดดา ดิศกุล รองปลัดกระทรวงมหาดไทย ได้บรรยายพิเศษ ในหลักสูตร  “สถาบันกษัตริย์กับการพัฒนาชาติไทย” ซึ่งกรมทหารราบที่ 21 รักษาพระองค์ฯ ได้รับมอบภารกิจให้ทำการฝึกนายทหารใหม่ ของโรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้าฯ (ห้วงที่1) ในหลักสูตร “ผู้นำทางทหาร” ระยะเวลา 2 สัปดาห์ โดยทำการฝึกตั้งแต่วันที่ 24 เมษายนถึง 7  พฤษภาคม 2557 นายทหารใหม่ที่เข้ารับการฝึกอบรม จำนวนทั้งสิ้น 194 นาย เนื้อหาวิชาที่ทำการฝึกอบรมมีเนื้อหาที่เกี่ยวกับ อุดมการณ์ความรักชาติ และรักสถาบันพระมหากษัตริย์ ดังนั้นกรมทหารราบที่ 21 รักษาพระองค์ฯ จึงได้เชิญหม่อมหลวงปนัดดา ดิศกุล รองปลัดกระทรวงมหาดไทย ให้ไปบรรยายพิเศษในหลักสูตร “สถาบันกษัตริย์กับการพัฒนาชาติไทย” เพื่อให้นายทหารใหม่ ได้มีความรู้ ความเข้าใจในการที่ปฏิบัติหน้าที่ รวมทั้งให้มีความรักชาติ และรักสถาบันพระมหากษัตริย์มากยิ่งขึ้น



ปริญญา/ข่าว/ภาพ

เปิดการประชุมสถานศึกษาวิชาทหาร

พลตรี ณัฐ อินทรเจริญ ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 14 เป็นประธาน เปิดการประชุมสถานศึกษาวิชาทหาร ซึ่งมณฑลทหารบกที่ 14 จะเปิดรับนักศึกษาวิชาทหารใหม่ มณฑลทหารบกที่ 14 เปิดการประชุมสถานศึกษาวิชาทหาร เพื่อสร้างความมั่นใจในการผลิตกำลังพลสำรอง

ที่ห้องประชุมแหล่งชุมนุมค่ายนวมินทราชินี อำเภอเมือง จังหวัดชลบุรี  พลตรี ณัฐ  อินทรเจริญ ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 14 เป็นประธาน เปิดการประชุมสถานศึกษาวิชาทหาร ซึ่งมณฑลทหารบกที่ 14 จะเปิดรับนักศึกษาวิชาทหารใหม่ และเพื่อให้สถานศึกษาวิชาทหารได้รับทราบ นโยบายการฝึกนักศึกษาวิชาทหาร  และเพื่อรับฟังคำชี้แจง ระเบียบ ข้อกำหนด การรับสมัครและรายงานตัวนักศึกษาวิชาทหาร ให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย รับทราบปัญหาข้อขัดข้อง  ข้อเสนอแนะจากสถานศึกษา และนำไปพิจารณาปรับปรุงแก้ไข เพื่อให้สถานศึกษาสามารถทำหน้าที่ได้ครบถ้วนสมบูรณ์ สามารถสนับสนุนให้การผลิตกำลังพลสำรองของกองทัพ มีประสิทธิภาพ และมีแนวทางการปฏิบัติอย่างชัดเจน และเป็นรูปธรรม โดยจัดให้มีการชี้แจงของฝ่ายอำนวยการของศูนย์การฝึกนักศึกษาวิชาทหารที่เกี่ยวข้อง และการดำเนินงานของชมรมผู้กำกับนักศึกษาวิชาทหาร มณฑลทหารบกที่ 14 ที่ผ่านมา และโครงการที่จะทำในปีการศึกษา  2557 ต่อไปด้วย



ปริญญา/ข่าว/ภาพ

การแสดงพลังมวลชนปกป้องและเทินทูนสถาบันพระมหากษัตริย์

พ.อ.เจริญชัย หินเธาร์ ผู้บังคับการกรมทหารราบที่ 21 รักษาพระองค์ฯ เป็นประธาน เปิดการจัดกิจกรรมการแสดงพลังมวลชนปกป้องและเทินทูนสถาบันพระมหากษัตริย์ เนื่องในวันฉัตรมงคล ณ ศาลาเฉลิมพระเกียรติ ตำบลบางทราย อำเภอเมือง จังหวัดชลบุรี กรมทหารราบที่ 21 รักษาพระองค์ฯ ร่วมกับเทศบาลตำบลบางทราย จัดกิจกรรม การแสดงพลังมวลชนปกป้องและเทินทูนสถาบันพระมหากษัตริย์ เนื่องในวันฉัตรมงคล

ที่ศาลาเฉลิมพระเกียรติตำบลบางทราย อำเภอเมือง จังหวัดชลบุรี พ.อ.เจริญชัย หินเธาร์ ผู้บังคับการกรมทหารราบที่ 21 รักษาพระองค์ฯ เป็นประธาน เปิดการจัดกิจกรรมการแสดงพลังมวลชนปกป้องและเทินทูนสถาบันพระมหากษัตริย์ เนื่องในวันฉัตรมงคล เพื่อเป็นการน้อมรำลึกถึงวันสำคัญ ที่ตรงกับวันที่ 5 พฤษภาคม ของทุกปี ซึ่งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุยเดช ได้มีพระปฐมบรมราชโองการ ในราชพิธีบรมราชาภิเษกว่า เราจะครองแผ่นดินโดยธรรม เพื่อประโยชน์สุขแห่งมหาชาวสยาม โดยใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาทได้ทรงปฎิบัติตามพระราชปณิธานตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา

สำหรับการจัดกิจกรรมดังกล่าว ได้มีมวลชนในพื้นที่ต่าง ๆ ในจังหวัดชลบุรี มาเข้าร่วมแสดงพลัง ประกอบไปด้วย ประชาชนในเขตเทศบาลตำบลบางทราย เทศบาลเมืองบ้านสวน  เทศบาลตำบลหนองไม้แดง เทศบาลตำบลนาป่า เทศบาลตำบลมาบไผ่ องค์การบริหารส่วนตำบลคลองกิ่ว พร้อมร่วมกันปฎิญาณตนว่า จะประพฤติตนเป็นพลเมืองดี มีความซื่อสัตย์สุจริต  และจะปฎิบัติตน ตามรอยเบื้องพระยุคลบาทอีกด้วย



ปริญญา/ข่าว/ภาพ

ขอเชิญร่วมสร้างมหาเจดีย์ วัดนามะตูม

อาจารย์ขวัญชัย เจ้าอาวาสวัดนามะตูม ได้มีแนวคิดที่จะดำเนินการ ก่อสร้างพระมหาเจดีย์ บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ เพื่อเป็นพุทธบูชา และสืบทอดอายุพระพุทธศาสนาให้ยั่งยืนสืบไป ให้ชนรุ่นหลังได้กราบสักการะบูชา

ขอเชิญชาวพุทธศาสนิกชนผู้มีจิตศรัทธา ร่วมกันสร้างมหากุศลในครั้งนี้ ทางผู้จัดทำจึงขออนุโมทนาบุญกุศลในการสร้างมหากุศลในครั้งนี้ด้วยและขอให้ ทุกท่านมีอายุ วรรณะ สุขะ พละ ปฏิภาณ ธนสารสมบัติ ตลอดกาลนานเทอญ

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ 089 – 7531225 วัดนามะตูม อำเภอพนัสนิคม จังหวัดชลบุรี



ปริญญา/ข่าว