วันจันทร์ที่ 17 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

ผู้ตรวจราชการ สำนักนายกฯ ติดตามโครงการตามแผนปฏิบัติราชการประจำปีของจังหวัดชลบุรี

วันจันทร์ 17 กุมภาพันธ์ 2557 นายอำนวย โชติสกุล ผู้ตรวจราชการสำนักนายกรัฐมนตรี เขต9 ได้เดินทางมาติดตามโครงการตามแผนปฏิบัติราชการประจำปีของจังหวัด ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2556 และโครงการของผู้ตรวจราชการสำนักนายกรัฐมนตรี เขต9 ณ ห้องพระพิพิธโภไคย ศาลากลางจังหวัดชลบุรี

นายอำนวย โชติสกุล ผู้ตรวจราชการสำนักนายกรัฐมนตรี เขตตรวจราชการที่ 9 ได้เดินทางมาตรวจสอบราชการตามแผนการปฏิบัติราชการแบบบูรณาการ การติดตามผลการดำเนินงานของจังหวัดชลบุรี ในการประชุมคณะรัฐมนตรีนอกสถานที่ โดยมีนายพงษ์ศักดิ์ ปรีชาวิทย์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี นำหัวหน้าส่วนราชการในสังกัดกระทรวงต่าง ๆ เข้าร่วมประชุมและรายงานความคืบหน้าในโครงการต่างๆ เช่น โครงการฝึกอบรมผู้ประกอบการอาหารไทยรองรับครัวไทยสู่ครัวโลก และติดตามนโยบายการดำเนินการก่อนเข้าสู่การเป็นประชาคมอาเซียน ปี 2558

ส่วนในช่วงบ่ายผู้ตรวจราชการสำนักนายกรัฐมนตรี ได้นำคณะกรรมาธิการระดับจังหวัดเดินทางตรวจเยี่ยมโครงการพัฒนาแหล่งน้ำตื้นเขิน ที่อำเภอศรีราชา ซึ่งอำเภอศรีราชามีพื้นที่การปกครอง 643 ตารางกิโลเมตร มีประชากรตามข้อมูลงานทะเบียนเกิน 200,000 คน มีชาวต่างชาติอาศัยอยู่เป็นจำนวนมากและประมาณการว่ามีประชากรแฝงกว่าในพื้นที่อำเภอกว่า 500,000 คน ในขณะที่หมู่บ้าน ที่อยู่ห่างจากอำเภอที่สุดมีระยะทางมากกว่า 30 กิโลเมตร พื้นที่อำเภอมีทั้งส่วนที่เป็นทะเลและเป็นภูเขา ไม่มีแม่น้ำไหลผ่านแต่มีนิคมอุตสาหกรรมในพื้นที่ถึง 5 แห่ง มีสนามกอล์ฟและสถานที่ท่องเที่ยวหลายแห่งและยังมีท่าเรือแหลมฉบังซึ่งเป็นท่าเรือระดับโลกซึ่งมีตู้คอนเทนเนอร์เข้าออกปีละกว่า 5 ล้านตู้ เหตุปัจจัยที่กล่าวมาทั้งหมดทำให้อำเภอศรีราชาประสบปัญหาเรื่องน้ำเป็นอย่างยิ่ง จากการจัดทำแผนพัฒนาอำเภอทำให้อำเภอวางแผนระยะสั้นในการแก้ไขปัญหาคือการขุดลอดคลองห้วย สระน้ำ ให้สามารถรองรับน้ำได้และปลูกหญ้าแฝกยึดดินริมตลิ่งไว้

นอกจากนี้ได้เดินทางไปตรวจเยี่ยมโครงการปรับปรุงสวนสุขภาพตำบลหนองขาม เพื่อให้ประชาชนได้มีโอกาสใช้ชิวิตอยู่กับธรรมชาติ เป็นสถานที่ออกกำลังกาย และผักผ่อนหย่อนใจอันเป็นส่วนหนึ่งทำให้คุณภาพชีวิตดีขึ้นอีกด้วย



ปริญญา/ข่าว/ภาพ                 

กาชาดจังหวัดจันทบุรี ช่วยเหลือผู้ประสบปัญหาทางสังคมครอบครัวป่วยทั้งบ้าน

กาชาดจังหวัดจันทบุรี ร่วมกับท้องถิ่นลงพื้นที่ช่วยเหลือผู้ประสบปัญหาทางสังคม มีฐานะยากจนและมีโรคประจำตัวทั้งบ้าน อาศัยสวนยางผู้ใจบุญเป็นที่ซุกหัวนอน

วันนี้ ( 17 ก.พ.57 ) ที่ ซอยป่ายางข้างหมู่บ้านเพิ่มทรัพย์ ตำบลท่าช้าง อำเภอเมือง จังหวัดจันทบุรี  นายเกรียงเดช เข็มทอง ผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรีพร้อมด้วยคณะกรรมการเหล่ากาชาดจังหวัดจันทบุรี ผู้บริหารเทศบาลเมืองท่าช้าง กำนันตำบลท่าช้าง พัฒนาสังคมจังหวัด และกลุ่มทุนมังกรจังหวัดจันทบุรีได้เดินทางไปเยี่ยมปลอบขวัญให้กำลังใจแก่ครอบครัวผู้ยากไร้ที่ประสบปัญหาทางสังคม ที่ป่วยกันทั้งครอบครัวโดยผู้ที่แข็งแรงที่สุดของครอบครัวเป็นหลานสาว ที่ติดเชื้อเอดส์จากมารดาตั้งแต่อยู่ในครรภ์แต่รอดชีวิตมาได้จนกระทั่งปัจจุบันมีอายุได้ 18 ปีต้องกินยาต้านไวรัส  HIV อย่างต่อเนื่อง

ส่วนมารดาและบิดาเสียชีวิตไปแล้ว อาศัยอยู่กับตา – ยาย ซึ่งเป็นคนต่างจังหวัดได้ผู้ใจบุญ เจ้าของสวนยาง อนุเคราะห์ให้ปลูกกระต๊อบเป็นที่อาศัย พักพิง ส่วนตามีอาชีพรับจ้างทั่วไป ไม่มีสวัสดิการทางสังคมเนื่องจากเป็นคนไทยที่ไม่มีบัตรประชาชน ส่วนยาย 2 คน อาศัยอยู่ในบ้านทำงานไม่ได้เนื่องจากคนหนึ่งป่วยเป็นโรคมะเร็งที่ต่อมไทรอย อีกคนหนึ่งเป็นโรคความดันและเบาหวานเดินเหินไม่สะดวก ต้องอยู่ตามยถากรรม เป็นที่เวทนาของผู้พบเห็นซึ่งท้องถิ่นและส่วนราชการที่เกี่ยวข้องได้ยื่นมือเข้าช่วยเหลือแล้วระดับหนึ่งแต่ก็เป็นเพียงการช่วยเหลือเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนเบื้องต้นเท่านั้น ซึ่งครอบครัวของผู้ป่วยอนาถานี้ต้องการพันธุ์ไก่ไข่เพื่อเลี้ยงและประกอบเป็นอาชีพสร้างรายได้เข้าครอบครัว โดยกลุ่มทุนมังกรได้รับที่จะระดมทุนมาช่วยเหลือต่อไป โอกาสนี้ทางสำนักงานเหล่ากาชาดจังหวัดจันทบุรีได้สนับสนุนทุนในการซ่อมปรับปรุงบ้านพักอาศัยให้มีความมั่นคง แข็งแรงยิ่งขึ้น พร้อมทั้งได้มอบเงินทุนเพื่อใช้ในการประกอบอาชีพรวม 3,000 บาท พร้อมทั้งถุงยังชีพ และเวชภัณฑ์ยาสามัญประจำบ้าน



จรัล/ภาพ/ข่าว

สำนักงานพัฒนาธุรกิจการค้าจังหวัดตราดเชิญชวนผู้ประกอบการ ผู้สนใจร่วมเวที “เปิดโลกธุรกิจเมืองตราด เจาะตลาด AEC”

(16 ก.พ. 57) นางมณัฐษสลิล ประเสริฐสุด นักวิชาการพาณิชย์ชำนาญการ รักษาการ หัวหน้าสำนักงานพัฒนาธุรกิจการค้าจังหวัดตราด เปิดเผยว่า ตามประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้กำลังจะเข้าเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (ASEAN Economic Community : AEC) ในปี พ.ศ. 2558 ซึ่งจะก่อให้เกิดความเปลี่ยนแปลงภายในภูมิภาคอย่างกว้างขวาง โดยเฉพาะในด้านการค้า การลงทุน และการบริการระหว่างประเทศ ดังนั้นเพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมให้กับผู้ประกอบการ และผู้สนใจทั่วไป ทางสำนักงานพัฒนาธุรกิจการค้าจังหวัดตราดจึงกำหนดจัดเวทีสัมมนาเรื่อง "เปิดโลกธุรกิจเมืองตราด เจาะตลาด AEC” ขึ้นในวันพฤหัสบดีที่ 13 มีนาคม 2557 ระหว่างเวลา 09.00 – 12.00 น. ณ ห้องประชุมราชาวดี บ้านปูรีสอร์ท แอนด์ สปาร์ จังหวัดตราด ทั้งนี้เพื่อเป็นการเปิดโอกาสให้ผู้เข้าร่วมโครงการได้รับความรู้ในเรื่องระเบียบและกฎหมายภาษีอากร เป็นการเปิดโลกทัศน์ แลกเปลี่ยนมุมมอง และเพิ่มโอกาสทางการตลาดให้กับธุรกิจในจังหวัดตราดต่อการเปิดตลาด AEC หรือการรวมเป็นประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน สำนักงานพัฒนาธุรกิจการค้าจังหวัดตราด จึงขอเชิญชวนผู้สนใจเข้าร่วมโครงการสามารถสำรองที่นั่งเข้าร่วมเวทีดังกล่าว โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย หรือขอทราบรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ สำนักงานพัฒนาธุรกิจการค้าจังหวัดตราด หมายเลขโทรศัพท์ 0-3951-1530 ในวันและเวลาราชการ 

ผู้บริหารธนาคารออมสินตราด ยอมรับมีผู้มาถอนเงินและปิดบัญชีจริง เผย ส่วนใหญ่เข้าใจหลังได้รับคำชี้แจง ระบุ วันนี้ลูกค้าเดินทางมาใช้บริการมาก เหตุหยุด 3 วัน

(17 ก.พ. 57) นายประยุทธ กระทอง ผู้จัดการธนาคารออมสิน จำกัด สาขาตราด เปิดเผยว่า จากกรณีที่ธนาคารออมสินปล่อยสินเชื่อแบบอินเตอร์แบงค์ให้กับธนาคารเกษตรและสหกรณ์การเกษตรจำนวน 5,000 ล้านบาทตามที่ปรากฏเป็นข่าวออกไป แต่ปรากฏว่ามีการนำไปเชื่อมโยงกับการเมือง และมีการเรียกร้องจากกลุ่มผู้ชุมนุมว่า ให้ประชาชนไปถอนเงินจากธนาคารออมสินทั่วประเทศนั้น จากการที่ได้สอบถามไปยังสาขาต่างๆในจ.ตราดรวม 4 แห่งในช่วงเช้าที่ผ่านมา ปรากฏว่ามีลูกค้าจำนวนหนึ่งที่เดินทางมาถอนเงินออกไป แต่ทางพนักงานได้ชี้แจงให้ทราบถึงเหตุที่มีการกู้เงินว่าไม่ได้ปล่อยกู้เพื่อนำไปใช้ในโครงการรับจำนำข้าวหลายรายก็เข้าใจไม่ถอนเงินหรือปิดบัญชี ทั้งนี้ ทางธนาคารยืนยันว่าธนาคารออมสินในจังหวัดตราดไม่มีปัญหาในเรื่องนี้ขณะที่บรรยากาศที่ธนาคารออมสิน จำกัด สาขาตราด ปรากฎว่าตั้งแต่เช้ามีลูกค้าธนาคารเดินทางมาใช้บริการ จำนวนมาก ทั้งทำการถอนเงินและฝากเงิน

ด้านนายณรงค์ หงษ์สุทธิ ผู้ช่วยผู้จัดการธนาคารออมสิน จำกัด สาขาตราด กล่าวว่า ที่ธนาคารออมสิน จำกัดสาขาตราดทุกวันจะมีชาวตราดมาใช้บริการมากเหมือนทุกวันแต่วันนี้มีมากขึ้นเนื่องจากมีวันหยุดเพิ่ม 3 วันที่ผ่านมา ทำให้มีลูกค้ามาใช้บริการมาก ซึ่งมีทั้งการฝากการถอนตามปกติทุกวัน ส่วนในเรื่องการถอนเงินจำนวนมากหรือปิดบัญชียอมรับว่ามีบ้าง แต่ส่วนใหญ่ทางพนักงานได้ชี้แจงให้ลูกค้าได้ทราบถึงข้อเท็จจริง และส่วนใหญ่ก็เข้าใจและไม่ถอนเงินออกไป ทั้งนี้ส่วนสาขาอื่น ๆ พบว่ามีลูกค้ามาใช้บริการตามปกติและมีที่มาสอบถามและมาขอเบิกเงินและปิดบัญชีแต่ได้มีการชี้แจงข้อเท็จจริงไป ส่วนใหญ่จะเข้าใจในสิ่งที่ธนาคารได้ปฏิบัติ เรื่องดังกล่าวเป็นการปล่อยกู้ระหว่างธนาคาร ที่เป็นเรื่องปกติเพื่อเสริมสภาพคล่องของธนาคารเท่านั้น และเป็นการปล่อยกู้ระยะสั้นเพียงเดือนเดียวเท่านั้น เป็นเรื่องปกติของธนาคารแต่ละแห่งเท่านั้น อย่างไรก็ตามมีลูกค้าธนาคารเกือบ 10 รายที่แจ้งถึงความประสงค์ว่าจะปิดบัญชี และถอนเงินออกไปจากธนาคารออมสินสาขาตราด แม้พนักงานจะได้ชี้แจงเหตุผลให้แล้วแต่ทุกคนยืนยัยที่จะเบิกเงินไป โดยลูกค้ารายที่ปิดบัญชีระบุว่าจะถอนเงินไปปลูกบ้าน ส่วนอีกคนบอกว่าจะไปซื้อที่ดิน

ชาวประมงพื้นบ้าน ต.ไม้รูด พบเต่าตนุว่ายน้ำอ่อนแรงอยู่กลางทะเลนำขึ้นเหลือช่วยเหลือเบื้องต้น ขณะศูนย์วิจัยและพัฒนาทรัพยากรทางทะเลฯ จ.ระยอง รับตัวไปตรวจและดูแลแล้ว

(17 ก.พ. 57) เครือข่ายช่วยชีวิตสัตว์ทะเลหายาก ต.ไม้รูด อ.คลองใหญ่ จ.ตราด ได รับเต่าตนุ เพศเมีย ความยาวกระดอง 79 ซ.ม. ความกว้างกระดอง 71 เซนติเมตร จากชาวประมงพื้นบ้าน หมู่ 1 ต.ไม้รูด และเป็นสมาชิกเครือข่าย หลังออกทำประมงแล้วพบว่ายน้ำอย่างเชื่องช้าอยู่กลางทะเล จากการตรวจสอบสภาพของเต่าตนุไม่พบบาดแผลภายนอก นายกฤตภาส ระบุว่า ชาวประมงพื้นบ้านที่เป็นสมาชิก ได้นำเรือประมงเล็กออกจากฝั่งเพื่อวางอวนและลอบปูที่ห่างจากฝั่งประมาณ 1,000 เมตร พบเต่าตนุตัวดังกล่าวว่ายน้ำอยู่ แต่ผิดปกติที่ว่ายได้ช้ามาก และไม่หลบหนีเมื่อเรือเข้าไปใกล้ คาดว่าเต่าตนุอาจเจ็บป่วย จึงได้เข้าช่วยเหลือนำขึ้นเรือแล้วนำเข้ามายังฝั่งพร้อมแจ้งให้ศูนย์วิจัยและพัฒนาทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งอ่าวไทยฝั่งตะวันออกทำการช่วยเหลือ โดยทางสมาชิกช่วยกันทำบ่อโดยใช้ผ้าใบรองและใส่น้ำไว้ จากนั้นนำเต่าตนุลงไปแช่ไว้และใช้ผ้าห่มชุบน้ำคลุมกระดองเต่าไว้ให้ชุ่มชื้นตลอดเวลา

ต่อมาช่วงบ่ายของวันเดียวกัน เจ้าหน้าที่จากศูนย์วิจัยและพัฒนาทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งอ่าวไทย จ.ระยอง ได้เดินทางมาเพื่อตรวจสอบ พบว่าสภาพของเต่าตนุโดยทั่วไปมีอาการปกติ แต่ยังไม่ทราบอาการบาดเจ็บภายในจะมีหรือไม่ ต้องนำเต่าไปทำการตรวจโดยละเอียดโดยผู้เชี่ยวชาญ ซึ่งผลเป็นอย่างไรก็จะแจ้งให้ทางเครือข่ายฯได้รับทราบ

สมาชิกเครือข่ายหนี้สินชาวนาในภาคตะวันออก ชุมนุมเรียกร้องให้สหกรณ์แหลมงอบ โอนหนี้เกษตรกรใน จ.ตราด ให้กองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร

(17 ก.พ. 57) บริเวณหน้าศาลากลางจังหวัดตราด กลุ่มสมาชิกเครือข่ายหนี้สินชาวนาในภาคตะวันออก นำโดยนายชุมพร จิตนาวสาร ประธานองค์กรรวมน้ำใจเป็นหนึ่งเดียวจังหวัดตราด พร้อมด้วยสมาชิกเครือข่ายฯ ประมาณ 100 คน รวมตัวกันชุมนุมปราศรัยโจมตีการทำงานของสหกรณ์แหลมงอบ สหกรณืเมืองตราด และสหกรณ์แหลมกลัด ที่ไม่ยอมโอนหนี้สินของเกษตรกรจำนวน 4 ราย คือ นายบพิตร พัตรสงวน นายล้วน แสงนิล นายชิงชัย ชาติกุล และนายสุภัค อัศวภูม ให้กับกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร (กฟก.) โดยเฉพาะกรณีของของนายบพิตร พัตรสงวน ที่ที่ดินกำลังจะถูกขายทอดตลาด ทางจังหวัดนำโดยนายณรงค์ ธีระจันทรางกูร รองผู้ว่าราชการจังหวัดตราด พร้อมด้วยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจึงได้เชิญตัวแทนเครือข่ายหนี้สินชาวนามาหารือเพื่อหาทางออกร่วมกับผู้แทนจากสหกรณ์แหลมงอบ แต่ยังไม่สามารถหาทางออกของปัยหากรณีการเตรียมขายทอดตลาดของนายบพิตร พัตรสงวน ได้ โดยผู้แทนสหกรณ์ได้ระบุว่าเป็นมติของคณะกรรมการสหกรณ์ที่ให้ขายทอดตลาดที่ดินแปลงดังกล่าว อีกทั้งลูกหนี้รายนี้ติดค้างการชำระหนี้มาแล้ว 4 – 5 ปี และที่ผ่านมาไม่ยอมจ่ายส่วนต่าง ดอกเบี้ย ให้กับทางสหกรณ์ก่อนการโอนหนี้ให้กับ กฟก.

อย่างไรก็ตาม ต่อมา รองผู้ว่าราชการจังหวัดตราด จึงได้เรียกประชุมคณะกรรมการสหกรณ์แหลมงอบ เป็นกรณีพเศษ เพื่อขอให้มีการยกเลิกมติขายทอดตลาดที่ดินแปลงดังกล่าว ซึ่งผลจากการประชุมคณะกรรมการสหกรณ์แหลมงอบมีมติให้ยอมโอนหนี้ของเกษตรกรให้กับ กฟก. และจะยกเลิกการขายทอดตลาด แต่เกษตรกรลูกหนี้จะต้องจ่ายเงินส่วนต่าง ดอกเบี้ยจำนวนครึ่งหนึ่งของทั้งหมด จนเป็นที่พอใจของผู้ชุมนุม และสลายการชุมนุมไปในที่สุด

กลุ่มจังหวัดภาคตะวันออก ร่วมตำรวจท่องเที่ยว พัฒนาเครือข่ายภาคบริการและความปลอดภัยแก่นักท่องเที่ยว เชื่อมโยงไทย – กัมพูชา – เวียดนาม รองรับ AEC

(17 ก.พ. 57) นายณรงค์ ธีระจันทรางกูร รองผู้ว่าราชการจังหวัดตราด เปิดกิจกรรมพัฒนาบุคลากรเครือข่ายภาคบริการและความปลอดภัยแก่นักท่องเที่ยว กลุ่มจังหวัดภาคตะวันออกเชื่อมโยงไทย – กัมพูชา – เวียดนาม รองรับประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (ASEAN Economic Community : AEC) ประจำปีงบประมาณ 2557 ซึ่งศูนย์ปฏิบัติการกลุ่มจังหวัดภาคตะวันออก มอบหมายให้สำนักงานการท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดตราดร่วมกับสถานีตำรวจท่องเที่ยว 6 กองกำกับการ 2 กองบังคับการตำรวจท่องเที่ยว ร่วมกันจัดขึ้นที่ศูนย์ราชการุณย์ สภากาชาดไทย เขาล้าน จังหวัดตราด

นายฐกัดชัย เกียรติอัมพร ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดตราด กล่าวว่า การพัฒนาบุคลากรเครือข่ายภาคบริการและความปลอดภัยแก่นักท่องเที่ยว กลุ่มจังหวัดภาคตะวันออกเชื่อมโยงไทย – กัมพูชา – เวียดนาม ครั้งนี้ได้รับการสนับสนุนการดำเนินกิจกรรมจากกลุ่มจังหวัดภาคตะวันออก คือ ชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด มีเป้าหมายคือ บุคลากรภาคบริการ และดูแลความปลอดภัยให้กับนักท่องเที่ยว ทั้งอาสาสมัครกู้ภัย อาสาสมัครตำรวจท่องเที่ยว เจ้าหน้าที่จากสถานประกอบการ รวมทั้งสิ้น 250 คน จำนวนนี้มีเครือข่ายภาคบริการการท่องเที่ยวจากกัมพูชา – และเวียดนาม ซึ่งอยู่แนวเส้นทางเส้นทางสายเลียบชายฝั่งทะเล ( R 10 ) ซึ่งเชื่อมโยงระหว่างจังหวัดตราด – เกาะกง – สะแรอัมเบิล – กัมปอต – ฮาเตียง – คาเมา – น้ำคาน เข้าร่วมกิจกรรมนี้ 30 คน สำหรับการจัดกิจกรรมครั้งนี้มีการดำเนินการรวม 2 รุ่น ๆ ละ 3 วันโดยรุ่นนี้เป็นรุ่นแรกของการดำเนินการ

ด้าน รองผู้ว่าราชการจังหวัดตราด กล่าวว่า การพัฒนาศักยภาพบุคลากรเครือข่ายภาคบริการและความปลอดภัยนักท่องเที่ยวนับเป็นเรื่องที่สำคัญ ในการเตรียมความพร้อมเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน เนื่องจากเส้นทางสาย R 10 นับเป็นเส้นทางหลักในการเชื่อมโยงการค้า การลงทุน การท่องเที่ยว ผ่านทั้ง 3 ประเทศ ที่แหล่งท่องเที่ยวทางทะเลที่สำคัญมากมาย 

ฝรั่งเยอรมันนี่เครียดไม่มีเงินใช้ผูกคอดับอนาถใต้ต้นไม้

เมื่อเวลา 08.00 น.วันที่ 17 ก.พ. 57 ร.ต.ท.สันติ ปาการะโภ ร้อยเวร สภ.บ้านกร่ำ อ.แกลง จ.ระยอง ได้รับแจ้งมีชาวต่างชาติผูกคอนอนตายอยู่ใต้ต้นกระถินณรงค์ ในบ้านพักวิลล่าราวาดีรีสอร์ท ริมถนนสายแหลมแม่พิมพ์-บ้านเพ ม. 3 ต.ชากพง อ.แกลง จ.ระยอง จึงได้รายงานให้ผู้บังคับบัญชารับทราบแล้วรุดไปที่เกิดเหตุพร้อมด้วย พ.ต.ท.สุภาพ นาคทอง พนักงานสอบสวนผู้ชำนาญการพิเศษ เจ้าหน้าที่ พิสูจน์หลักฐาน ภ.จว.ระยอง แพทย์เวร รพ.แกลง และหน่วยกู้ภัยพุทธสตร์สงเคราะห์เมืองแกลง ไปตรวจที่เกิดเหตุพบ นายSABLOTTNY อายุ 44 ปี ชาวเยอรมันนี่ สภาพนอนหงายอยู่ใต้กระถินณรงค์ สวมกางเกงขาสั้น3ส่วน ลายแถบขาว น้ำเงิน เสื้อยึดแขนยาวสีน้ำเงิน ใส่รองผ้าใบสีแดง ที่ลำคอมีเชือกไนลอนสีขาวพันอยู่ 2 รอบ ที่มือด้านซ้ายพันหมัดติดอยู่กับเชือกโดยใช้เชือกผูกติดกับต้นไม้สูงประมาณ 2 เมตร และเชือกได้ขาดลงมานอนตายอยู่ในที่เกิดเหตุ ใกล้ๆพบกระเป๋าเป้ใส่เสื้อผ้าของผู้ตายภายในมีหนังสือเดินทาง เงินสด 200 บาท และรถ จยย.ยามาฮ่า สีน้ำเงิน ทะเบียน งพล 415 ชลบุรี ที่เช่ามาจากพัทยา จอดอยู่ 1 คัน จาก        

การสอบถาม รปภ.ของที่พักทราบว่า ผู้ตายได้ขับ รถ จยย.เข้าจอดมา ตั้งแต่ตอนเย็นของวันที่ 16 ก.พ.และบ่นว่าไปกดเงินที่ตู้ เอที่เอ็ม แต่ไม่มีเงินออกมา และป่นว่าให้ภรรยาที่ประเทศเยอรมันนี่ โอนเงินมาให้แต่ไม่มีเงิน จึงเครียด ไปซื้อเบียร์มานั่งดื่นกิน จนดึก ก็หายไป มารุ่งเช้ากลายเป็นศพดังกล่าว

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้ส่งศพไปตรวจที่สถาบันนิติเวชเพื่อหาสาเหตุการเสียชีวิตอีกครั้ง ก่อนจะติดต่อญาติให้มารับศพเพื่อนำไปบำเพ็ญกุศพตามประเพณีต่อไป



มาโนช สนองสุข /ข่าว

ไม่พบความผิดปกติกรณีลูกค้าถอนเงินจากธนาคารออมสินสาขาระยอง ทั้ง 6 สาขา

เมื่อเวลา 11.00 น.วันที่ 17 ก.พ.57 ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศประชาชนที่เข้าไปใช้บริการของธนาคารออมสิน สาขา จ.ระยอ ที่บริเวณถนนตากสินมหาราช ต.ท่าประดู่ อ.เมือง จ.ระยอง มีลูกค้าของธนาคารมาใช้บริการอย่างคึกคัก ต้องนั่งรอคิวจำนวนมาก เจ้าหน้าที่ของธนาคารระบุว่า วันนี้มีลูกค้า มาใช้บริการจำนวนมากเนื่องจากหยุดวันเสาร์และอาทิตย์ สาเหตุที่มีผู้มาใช้บริการจำนวนมากเนื่องจากมาเบิกเงินกองทุนหมู่บ้าน ซึ่งเป็นเรื่องปกติ ประกอบกับธนาคารออมสินสาขาห้างสรรพสินต่างๆค้ายังไม่เปิดบริการ จึงหันมาใช้บริการที่ธนาคารสาขาใหญ่ และจากการตรวจสอบไม่พบว่ามีลูกค้าที่ฝากเงินบัญชีออมทรัพย์รายใหญ่มาถอนเงินออกไปแต่อย่างใด ซึ่งสถานการณ์ยังไม่วิกฤต ลูกค้าส่วนใหญ่มีความเข้าใจ ต้องรอดูสถานการณ์ในวันถัดไป

ขณะที่ธนาคารออมสินสาขา เนินพระ สาขาห้างแหลมทอง และสาขาศูนย์การค้าสตาร์ บรรยากาศเงียบเหงาเช่นกันไม่มีผู้ฝากเงินรายใหญ่มาถอนเงินแม้แต่รายเดียว มีคนบางตาไม่มีคนมาถอนเงินผิดปกติแต่อย่างใด


วฐิต/ข่าว

จ.ฉะเชิงเทรา จัดอบรมโครงการปลูกฝังสำนึกรักสามัคคีและเสริมสร้างความปรองดองประจำปี 2557

วันนี้ ( 17 ก.พ.57)  ที่ นาย อนุกูล ตังคณานุกูลชัย  ผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทรา    เป็นประธานในพิธีเปิดโครงการปลูกฝังสำนึกรักสามัคคีและเสริมสร้างความปรองดอง ประจำปี 2557 " กระบวนการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ 3 ร่วมเพื่อ3 สร้าง” โดยมี นายเริงศักดิ์  มหาวินิจฉัยมนตรี อดีตผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทรา  นายเดชา ใจยะ ปลัดจังหวัดฉะเชิงเทรา  พ.อ.องอาจ   ชวาลวิวัฒน์  รองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัดฉะเชิงเทรา   หัวหน้าส่วนราชการ แ ละผู้ที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมพิธีเปิดการอบรม  ณโรงแรมแกรนด์ รอยัล  พลาซ่า  อำเภอเมืองฉะเชิงเทรา ทั้งนี้มีผู้เข้ารับการอบรมประกอบด้วย กลุ่มเยาวชน แกนนำนักเรียน นักศึกษา ในสถานศึกษา จำนวน 50 คน และกลุ่มผู้นำกลุ่มต่างๆของอำเภอ จำนวน 60 คน รวม 110 คน ระยะเวลาอบรม ระหว่างวันที่ 17-21 กุมภาพันธ์ 2557

นาย อนุกูล ตังคณานุกูลชัย  ผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทรา  กล่าวว่า โครงการปลูกฝังสำนึกรักสามัคคีและเสริมสร้างความปรองดอง เป็นโครงการที่มุ่งให้เกิดกระบวนการมีส่วนร่วมเพื่อเสริมสร้างสังคมประชาธิปไตยสังคมแห่งความปรองดองและรู้รักสามัคคี โดยนำเยาวชนแกนนำนักเรียน นักศึกษาและผู้นำกลุ่มต่างๆจากสถานศึกษาในพื้นที่และอำเภอต่างๆเข้ามาพบปะพูดคุยกันจะทำให้เกิดเครือข่ายความร่วมมือระหว่างเยาวชน ผู้นำ ครูอาจารย์ ผู้ปกครองและเจ้าหน้าที่และเกิดการบูรณาการความร่วมมือที่ผนึกความรัก ความสามัคคีในอันที่จะสร้างสังคมปรองดองให้เกิดขึ้นโดยเฉพาะอย่างเป็นการส่งต่อการถ่ายทอดความคิดประสบการณ์จากผู้นำชุมชนผู้นำกลุ่ม สู่เยาวชน และเวทีอภิปรายแห่งนี้ยังเป็นพื้นที่เปิดรับฟังความคิดเห็นทางการเมืองการปกครองซึ่งกันและกันรวมทั้งเพื่อแลกเปลี่ยนความรู้อันจะทำให้เกิดเครือข่ายที่เข้มแข็งให้กับการพัฒนาประชาธิปไตยในบรรยากาศที่สร้างสรรค์ขึ้นได้

ด้านนาย เดชา ใจยะ ปลัดจังหวัดฉะเชิงเทรา  กล่าวว่า ตามที่กระทรวงมหาดไทย ได้จัดทำโครงการปลูกฝังสำนึกรักสามัคคีและเสริมสร้างความปรองดองประจำปี 2555 และ2556เพื่อขับเคลื่อนนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาล  ดังนั้นเพื่อให้เกิดการขับเคลื่อนนโยบายดังกล่าวเป็นไปอย่างต่อเนื่องและบรรลุตามเป้าหมายที่กำหนด ในปี 2557 นี้ จังหวัดฉะเชิงเทรา จึงได้จัดทำโครงการปลูกฝังสำนึกรักสามัคคีและเสริมสร้างความปรองดอง ประจำปี 2557  ขึ้น เป็นปีที่ 3เพื่อขับเคลื่อนนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาล ด้านการเสริมสร้างความปรองดองสมานฉันท์ของคนในชาติและฟื้นฟูประชาธิปไตยในระดับพื้นที่โดยมีวัตถุประสงค์หรือกลไกลสำคัญในการดำเนินการของโครงการฯคือ การสร้างกระบวนการเรียนรู้ ประกอบด้วย หลัก 3ร่วม เพื่อ 3 สร้าง คือร่วมกันคุย เพื่อสร้างความสามัคคี ร่วมกันคิด เพื่อสร้างพลัง  และร่วมกันทำ เพื่อสร้างสังคมปรองดอง โดยการจัดอบรมดังกล่าวได้รับเกียรติจากนายเริงศักดิ์  มหาวินิจฉัยมนตรี อดีตผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทรา  /กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัดจังหวัดฉะเชิงเทรา /วัฒนธรรมจังหวัดฉะเชิงเทรา/พัฒนาการจังหวัดฉะเชิงเทรา  มาเป็นผู้ฝึกอบรมให้ความรู้นอกจากนี้ยังได้จัดให้มีการศึกษาดูงานตามโครงการพระราชดำริและปราชญ์ชาวบ้านฯ อีกด้วย



ชาญณรงค์/ข่าวธนภัทร/ภาพ

สระแก้ว ถ่ายทอดเทคโนโลยีเพิ่มผลผลิตมันสำปะหลังเป็นเมืองแห่งพืชพลังงาน

ที่หอประชุมอำเภอเมืองสระแก้ว นายชูศักดิ์ ตรีสาร รองผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้วเป็นประธานเปิดการอบรมถ่ายทอดเทคโนโลยีการเพิ่มผลผลิตมันสำปะหลัง โดยสำนักงานเกษตรจังหวัดสระแก้ว โดยนายสามารถ ชื่นวงศา เกษตรจังหวัดสระแก้วเป็นผู้กล่าวถึงวัตถุประสงค์ในการจัดการอบรมครั้งนี้เพื่อให้เกษตรกรได้นำความรู้เทคโนโลยีการผลิตที่เหมาะสมไปพัฒนาเพิ่มผลผลิตแปลงต้นแบบของเกษตรกรภายใต้โครงการที่จังหวัดสระแก้วได้สนับสนุนปัจจัยการผลิตได้แก่ พันธุ์มันสำปะหลังเกษตรศาสตร์ 50และปุ๋ยอินทรีย์ ให้เกษตรกรรายละ 5 ไร่สำหรับการอบรมในวันนี้ประกอบด้วยการชี้แจงรายละเอียดของโครงการ เงื่อนไขการขยายผลในปีต่อไปและเทคโนโลยีการเพิ่มผลผลิตมันสำปะหลัง ซึ่งมีเกษตรกรเข้าร่วมอบรมในวันนี้ 215 คน

นายสามารถ ชื่นวงศา เกษตรจังหวัดสระแก้ว กล่าวเพิ่มเติมว่า  ตามที่จังหวัดสระแก้วสนับสนุนเงินพัฒนาจังหวัด ปี 2557 โดยให้สำนักงานเกษตรจังหวัดสระแก้วดำเนินงานโครงการพัฒนาเพื่อเพิ่มผลผลิตพืชพลังงานจำนวน 2 ชนิด ได้แก่อ้อยโรงงานและมันสำปะหลังซึ่งเป็นเป้าหมายตามยุทธศาสตร์ของจังหวัดในการพัฒนาจังหวัดสระแก้วให้เป็นเมืองพืชพลังงานซึ่งจังหวัดสระแก้วมีศักยภาพของพื้นที่ในการปลูกพืชทั้ง 2 ชนิดนี้ ซึ่งจังหวัดสระแก้วมีพื้นที่ปลูกมันสำปะหลังรวมทั้งสิ้น 430,000 ไร่ ผลผลิตเฉลี่ย 3.5 ตันต่อไร่และมีเกษตรกรเข้าร่วมโครงการ 9 อำเภอ 1,800 คน โดยได้รับความสนใจจากเกษตรกรเพื่อพัฒนาให้จังหวัดสระแก้วเป็นเมืองแห่งพืชพลังงานต่อไปในอนาคต