วันจันทร์ที่ 24 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

กองทุนพัฒนาไฟฟ้า ร่วมกับ สำนักงาน กกพ. จัดกิจกรรมพบปะสื่อมวลชนท้องถิ่น จังหวัดฉะเชิงเทราและจังหวัดชลบุรี

วันจันทร์ ที่ 24 กุมภาพันธ์ 2557 โดยนางสาวนฤภัทร อมรโฆษิต รองเลขาธิการ สำนักงาน กกพ. กล่าวเปิดพิธี กิจกรรมพบปะสื่อมวลชนท้องถิ่น จังหวัดฉะเชิงเทราและจังหวัดชลบุรีโดยมีหัวข้อการบรรยาย เรื่อง “ความคืบหน้าการดำเนินงานของกองทุนพัฒนาไฟฟ้า” ชึ่งจัดขึ้น ณ โรงแรม The Tide Resortถนนหาดบางแสน ต. แสนสุข อ.เมือง จังหวัดชลบุรี โดยมีผู้สื่อข่าวตลอดจนเคเบิ้ลทีวีท้องถิ่น เข้าร่วมกิจกรรมจำนวนมาก

โดยนางสาวนฤภัทร อมรโฆษิต รองเลขาธิการ สำนักงาน กกพ. กล่าวว่า กองทุนพัฒนาไฟฟ้ามีวัตถุประสงค์หนึ่งในการพัฒนาหรือพื้นฟูท้องถิ่นที่ได้รับผลกระทบจากการดำเนินงานของโรงไฟฟ้า ซึ่งคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.)ได้ให้ความสำคัญกับการมีส่วนร่วมของประชาชนในพื้นที่รอบโรงไฟฟ้าในการบริหารและเงินกองทุนพัฒนาไฟฟ้าโดยชุมชน เพื่อชุมชน ภายใต้การกำกับดูแลของ กกพ. โดยในปี 2555 ได้มีการสรรหาและแต่งตั้งคณะกรรมการพัฒนาชุมชนในพื้นที่รอบโรงไฟฟ้า (คพรฟ.)เพื่อทำหน้าที่บริหารเงินกองทุนพัฒนาไฟฟ้า และได้มีการโอนเงินให้ คพรฟ. เพื่อให้ประชาชนในพื้นที่รอบโรงไฟฟ้า ได้ร่วมเสนอโครงการชุมชนในการพัฒนาท้องถิ่นของตนเอง

กกพ.มุ่งเน้นและให้ความสำคัญของการมีส่วนร่วมของประชาชนโดยในส่วนของการพัฒนาและฟื้นฟูท้องถิ่นรอบโรงไฟฟ้า นั้น กกพ. มีแนวนโยบายให้ กองทุนพัฒนาไฟฟ้า เป็นกองทุนของชุมชน โดยชุมชน เพื่อชุมชน มีธรรมาภิบาล ผ่านการมีส่วนร่วมของชุมชนทุกภาคส่วน เพื่อให้เกิดการพัฒนาคุณภาพชีวิตของชุมชนและสิ่งแวดล้อมในพื้นที่รอบโรงไฟฟ้าอย่างยั่งยืน

ด้าน นายไพรัช สุวรรณรัตน์ ผู้อำนวยการสำนักงาน กกพ.ประจำเขต 9 ดูแลรับผิดชอบกองทุนพัฒนาไฟฟ้าโรงไฟฟ้าบางปะกง กล่าวว่า ที่ผ่านมากองทุนพัฒนาไฟฟ้าโรงไฟฟ้าบางปะกงได้รับการอนุมัติงบประมาณจาก กกพ.ทั้งสิ้น 317 ล้านบาท ในการดำเนินการชุมชนรวม 483 โครงการ ซึ่งคณะกรรมการพัฒนาชุมชนในพื้นที่รอบโรงไฟฟ้า หรือ คพรฟ.ได้กำหนดยุทธศาสตร์การพัฒนา 3 ด้าน คือ ด้าน การพัฒนาคุณภาพชีวิตแบบบูรณาการ ด้านการพัฒนาฟื้นฟูสิ่งแวดล้อม ควบคู่กับการสร้างเศรษฐกิจชุมชนและด้านการพัฒนาสุขภาพและสุขภาวะ

ทั้งนี้กองทุนพัฒนาไฟฟ้าโรงไฟฟ้าบางปะกงได้เสนอแผนงานประจำปี พ.ศ. 2557 และกกพ.ได้พิจารณาอนุมัติให้ดำเนินโครงการชุมชนรวมจำนวน 140 โครงการ ซึ่งงบประมาณทั้งหมดนี้เพื่อนำไปพัฒนาด้านการส่งเสริมคุณภาพชีวิต สุขภาพและสุขภาวะ และการพัฒนาชุมชน การศึกษา วัฒนธรรมและประเพณี ให้แก่ประชาชนในพื้นที่รอบโรงไฟฟ้า อาทิ เช่นโครงการพัฒนาการเรียนการสอนโรงเรียนวัดบางวัว(สายเสริมวิทย์) หมู่ที่ 4 ต.บางวัว โครงการพัมนาทางเดินแหล่งเรียนรู้ธรรมชาติป่าชายเลน ม.13 ต. บางปะกง โครงการขยายเขตบริการน้ำประปาสายท่าแค หมู่ที่ 5 ต. เขาดิน โครงการหน่วยบำบัดทุกข์บำรุงสุข สร้างรอยยิ้มให้ประชาชน และโครงการอื่นๆอีกมากมายซึ่งจะก่อให้เกิดประโยชน์ต่อชุมชนอย่างยั่งยืนต่อไป

จากนั้นได้มีการเปิดโอกาส ให้ผู้บริหาร พบปะ พูดคุย และตอบข้อซักถามสื่อมวลชนท้องถิ่น เพื่อนำไปปฏิบัติ และ จัดทำโครงการที่คาดหวังในอนาคต ต่อไป


คมศักดิ์/ข่าว/ภาพ

ผู้ว่าฯตราด และคณะรุดเยี่ยมผู้บาดเจ็บจากกรณีกลุ่มคนร้ายยิงกราดใส่ฝูงชน กปปส.ตราด

เช้าวันที่ ( 23 กุมภาพันธ์ 2557 ) นางสาวเบญจวรรณ อ่านเปรื่อง ผู้ว่าราชการจังหวัดตราด พร้อมด้วย นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดตราด ปลัดจังหวัดตราด หัวหน้า ปภ.ตราด และเจ้าหน้าที่ สนง.พมจ.ตราด ได้ตรวจเยี่ยมให้กำลังใจผู้ที่ได้รับบาดเจ็บจากกระสุนปืนและสะเก็ดระเบิดจากกรณีกลุ่มคนร้ายปาระเบิดและใช้ปืนยิงกราดเข้าไปในฝูงชน กปปส.ตราด

ที่โรงพยาบาลตราดและโรงพยาบาลกรุงเทพ-ตราด ที่โรงพยาบาลตราด มีผู้บาดเจ็บเข้ารักษา จำนวน 22 คน รวมถึงรายที่มีการส่งต่อไปยังโรงพยาบาลระยอง จำนวน 1 คน และเสียชีวิต 1 ราย คือ เด็กหญิงฬีฬาวัลย์ พรหมชัย อายุ 5 ปี ซึ่งจากการสอบถามพ่อแม่ของเด็กหญิงฬีฬาวัลย์ ทราบว่า เมื่อนำศพออกจากโรงพยาบาลแล้วจะได้นำไปบำเพ็ญกุศลที่วัดแสนตุ้ง เขาสมิง ต่อไป ส่วนที่โรงพยาบาลกรุงเทพ-ตราด ขณะนี้มีผู้บาดเจ็บที่รักษาตัวอยู่ จำนวน 6 คน

โอกาสนี้ ผู้ว่าฯ ตราด ได้สอบถามผู้บาดเจ็บถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยให้กำลังใจให้หายจากอาการบาดเจ็บโดยไว พร้อมกันนี้ ได้มอบเงินปลอบขวัญให้รายละ 2,000 บาท และถุงของขวัญจากกาชาดจังหวัดตราด ให้กับผู้เข้าพักรักษาตัวทุกราย ส่วนกรณีที่เสียชีวิตได้มอบเงินให้ในเบื้องต้น จำนวน 25,000 บาท อย่างไรก็ตาม ผู้ว่าราชการจังหวัดตราด ได้สั่งให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องโดยเฉพาะสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของชีวิตให้ดำเนินการให้ความช่วยอย่างต่อเนื่องตามระเบียบของทางราชการต่อไป

จ.ตราด พัฒนาเครือข่ายภาคบริการและความปลอดภัยแก่นักท่องเที่ยวกลุ่มภาคตะวันออก เชื่อมโยงไทย– กัมพูชา – เวียดนาม รองรับ AEC

(24 ก.พ. 57) ที่ศูนย์ราชการุณย์ สภากาชาดไทย บ้านเขาล้าน อ.เมือง จ.ตราด นางสาวเบญจวรรณ อ่านเปรื่อง ผู้ว่าราชการจังหวัดตราด เปิดโครงการพัฒนาบุคลากรเครือข่ายภาคบริการและความปลอดภัยแก่นักท่องเที่ยว กลุ่มจังหวัดภาคตะวันออกเชื่อมโยงไทย– กัมพูชา – เวียดนาม เพื่อเตรียมพร้อมรองรับการเปิด ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (ASEAN Economic Community : AEC) ประจำปีงบประมาณ 2557 มี ส่วนราชการที่เกี่ยวข้องเข้าร่วม ซึ่งการจัดอบรมให้ความรู้ในครั้งนี้ จะมีเจ้าหน้าที่ตำรวจท่องเที่ยว จากสทท.6 (ตราด) ตำรวจตะเวนชายแดนที่117 สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดตราด ร่วมกันดำเนินการ ซึ่งศูนย์ปฏิบัติการกลุ่มจังหวัดภาคตะวันออก มอบหมายให้สำนักงานการท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดตราด ร่วมกับสถานีตำรวจท่องเที่ยว 6 (ตราด) กก.2 กองบก.ทท. ร่วมกันจัดขึ้นโดยมีผู้เข้ารับการอบที่มาจากพื้นที่ ชลบุรี-ระยอง- จันทบุรี และตราด รวมไปถึงบุคลากรด้านการท่องเที่ยวของประเทศกัมพูชา-เวียดนามเข้าร่วมรวมแล้วกว่า 200 คนควบคุมดูแลประสานงานโดย พ.ต.ท.เสกสรร จินดาพรรณ รองผกก.กก.2 บก.ทท.

นายฐกัดชัย เกียรติอัมพร ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดตราด กล่าวว่า การจัดอบรมเพื่อให้ความรู้เตรียมพร้อมเข้าสู่ประชาคมอาเซียน(AEC) ได้จัดขึ้นเป็น 2 รุ่นด้วยกัน รุ่นแรกระหว่างวันที่ 17-20 ก.พ. 57 ที่ผ่านมา รุ่นที่ 2 ระหว่างวันที่ 24-27 ก.พ. 57 เพื่อเป็นการพัฒนาบุคลากรเครือข่ายภาคบริการและความปลอดภัยแก่นักท่องเที่ยว กลุ่มจังหวัดภาคตะวันออกเชื่อมโยงไทย-กัมพูชา- เวียดนาม โดยได้รับการสนับสนุนการดำเนินกิจกรรมจากกลุ่มจังหวัดภาคตะวันออก คือ ชลบุรีระยอง จันทบุรี และตราด มีเป้าหมายคือ บุคลากรที่เกี่ยวข้องกับภาคบริการ และดูแลความปลอดภัยให้กับนักท่องเที่ยว อาทิเช่น เจ้าหน้าที่จากส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง- อบต-เทศบาล-ตัวแทนจากชุมชน-อาสาสมัครกู้ภัยฯ - อาสาสมัครตำรวจท่องเที่ยว รุ่นละกว่า 200 คน และในจำนวนผู้เข้าร่วมในครั้งนี้ก็มี เจ้าหน้าที่จากกระทรวงมหาดไทย และเจ้าหน้าที่ด้านการท่องเที่ยวของประเทศกัมพูชา – และเวียดนามเข้าร่วมกิจกรรมกว่า 30 คน ส่วนใหญ่ จะปฏิบัติงานอยู่ตามแนวเส้นทางสายเลียบชายฝั่งทะเล ( R 10 ) ซึ่งมีอาณาเขตพื้นที่เชื่อมโยงกันกับ จ.ตราด สำหรับการจัดกิจกรรมครั้งนี้มีการดำเนินการรวม 2 รุ่นๆละ 3 วันโดยมีวิทยากรรับเชิญจากส่วนราชการ และเจ้าหน้าที่ที่มีความสามารถทางด้านภาษามาให้ความรู้ คาดว่าผู้ที่ได้รับการอบรมจะนำไปใช้ประโยชน์ เมื่อมีการเปิดประชาคมอาเซียน (AEC) ในปี 2558 นี้

อธิบดีกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ รุดมอบเงินเยียวยา 100,000 บาทให้กับบิดาของเด็กหญิงฬิฬาวัลย์ ที่เสียชีวิตจากเหตุ คนร้ายกราดยิงและปาระเบิดใส่กลุ่มผู้ชุมนุม กปปส.ตราด

(24 ก.พ. 57) ที่กองบังคับกการตำรวจภูธรจังหฟวัดตราด พล.ต.ต.ถีร์สถัต บูรณะรัช ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดตราด พร้อมเด้วย พ.ต.อ.ดร.ณรัชต์ เศวตนันท์ อธิบดีกรมกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ กระทรวงยุติธรรมร่วมกันมอบเงินช่วยเหลือเยียวยา ตามพระราชบัญญัติค่าตอบแทนผู้เสียหายและค่าทดแทนละค่าใช้จ่ายแก่จำเลยในคดีอาญา พ.ศ. 2544 จำนวน 100,000 บาท ให้กับนายนิพนธ์ พรหมชัย บิดาของ เด็กหญิงฬิฬาวัลย์ พรหมชัย อายุ 5 ปี ที่เสียชีวิตจากกรณีเหตุคนร้ายใช้อาวุธปืนกราดยิงและปาระเบิดใส่กลุ่มผู้ชุมนุม กปปส.จังหวัดตราด บริเวณตลาดยิ่งเจริญ ตำบลแสนตุ้ง อำเภอเขาสมิง เมื่อคืนวันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2557 เวลา 21.30 น. ทำให้เด็กหญิงฬิฬาวัลย์ พรหมชัย เสียชีวิต

อธิบดีกรมกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ กล่าวว่า กรมกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ มีภารกิจในการช่วยเหลือเยียวยาเหยี่ออาชญากรรมตามพระราชบัญญัติค่าตอบแทนผู้เสียหายและค่าทดแทนละค่าใช้จ่ายแก่จำเลยในคดีอาญา พ.ศ. 2544 กรณีตกเป็นเหยื่ออาชญากรรม ถูกยิง ถูกแทง ถูกฆ่า ถูกระเบิด ถูกทำร้ายร่างกายหรือถูกกระทำโดยที่ตนเองไม่ได้มีส่วนร่วมในการกระทำความผิด จึงได้นำเงินเยียวยามามอบให้กับบิดา หรือมารดา ของเด็กหญิงฬิฬาวัลย์ พรหมชัย ในครั้งนี้ อย่างไรก็ตามในระดับพื้นที่กรมคุ้ใมคริองสิทธิและเสรีภาพกระทรวงยุติธรรม มีสำนักงานยุติธรรมจังหวัดตราด ที่คอยตรวจสอบข้อมูลพร้อมประสานงานในการมอบเงินเยียวยาให้กับผู้เสียชีวิต หรือผู้บาดเจ็บจากเหตุดังกล่าวในพื้นที่จังหวัดตราดอยู่แล้ว ทั้งนี้ญาติของผู้บาดเจ็บหรือผู้เสียชีวิต สามารถสอบถามข้อมูลได้ที่ ศูนย์เยียวยาเหยื่ออาชญากรรม โทร 089-967-3403 หรือสายด่วน 1111 กด 77 หรือที่ผู้ประสานงานในพื้นที่จังหวัดตราด 085-136-6445

รอง ผบ.ตร. พร้อมคณะ ลงพื้นที่จังหวัดตราด ติดตามแนวทางการสืบสวนผู้กระทำผิดกรณีคนร้ายขว้างระเบิด พร้อมใช้อาวุธปืนยิงถล่มเวที กปปส.ตราด

(24 ก.พ. 57)  พล.ต.อ.เอก อังสนานนท์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พร้อมด้วย พล.ต.ต.ธวัชชัย เมฆประเสริฐสุข ผู้บัญชการการกองพิสูจน์หลักฐานกลาง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พร้อม พ.ต.อ.กำธร อุ่ยเจริญ ผู้กำกับการกลุ่มงานเก็บกู้และตรวจพิสูจน์วัตถุระเบิด (อีโอดี) และคณะ เดินทางตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุกรณีคนร้ายขว้างระเบิด พร้อมใช้อาวุธปืนยิงถล่มเวที กปปส.ตราด เมื่อคืนวันที่ 22 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา บริเวณหน้าตลาดยิ่งเจริญ ตำบลแสนตุ้ง อำเภอเขาสมิง ทำให้มีผู้บาดเจ็บกว่า 30 ราย เสียชีวิตแล้ว 1 ราย

รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติได้ให้ความสำคัญในการสืบสวน ติดตามคนร้านมาดำเนินคดี เนื่องจากคดีดังกล่าวนับเป็นคดีที่สะเทือนขวัญประชาชน ทั้งนี้ทางตำรวจภูธรภาค 2 ได้ตั้งคณะกรรมการสืบสวนร่วมกับทางตำรวจภูธรจังหวัดตราด เพื่อร่วมกันคลี่คลายคดีนี้ อย่างไรก็ตามจากสถานการณ์การชุมนุมของ กปปส. ทั้งในกรุงเทพฯ และเวทีต่างจังหวัด ที่มีเหตุการณ์ความไม่สงบกับผู้ร่วมชุมนุม ทางผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้สั่งการณ์ให้ผู้รับผิดชอบการปฏิบัติในแต่ละพื้นที่ เพิ่มมาตรการในการป้องกันปัญหา ส่วนในกรณีที่เป็นคดีแล้วได้เร่งดำเนินการสืบสวนจับกุมคนร้ายมาดำเนินคดีโดยเร็วที่สุด โดยเฉพาะกรณที่จังหวัดตราดที่มีการใช้ทั้งอาวุธสงครามและวัตถุระเบิดก่อเหตุกับประชาชน

ด้าน พ.ต.อ.กำธร อุ่ยเจริญ ผู้กำกับการกลุ่มงานเก็บกู้และตรวจพิสูจน์วัตถุระเบิด (อีโอดี) กล่าวว่า จาการตรวจสอบหลักฐานที่มีอยู่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน ในจุดแรก ทั้งจากการตรวจสอบหลุมระเบิดที่พบ กระเดื่อง และเศษสะเก็ดระเบิด ในที่เกิดเหตุ คาดว่าเป็นระเบิดสังหาร ชนิด M 26 A2 ส่วนจุดที่สอง ก็พบทั้งหลุมระเบิด กระเดื่องระเบิด และเศษชิ้นส่วนสะเก็ดระเบิด คาดว่าจะเป็นระเบิดชนิด M 26 ซึ่งในที่เกิดเหตุตัวหมายเลขประจำ ที่ติดอยู่กับกระเดื่องของระเบิดที่พบในที่เกิดเหตุพบว่าถูกขุดออก ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจจะต้องดำเนินการตรวจสอบหาที่ไปที่มาเพื่อสืบหาตัวคนร้ายมาดำเนินคดีต่อไป 

ผู้ว่าฯตราด เป็นประธานรดน้ำศพเด็กหญิงฬิฬาวัลย์ ที่เสียชีวิตจากเหตุคนร้ายกราดยิงและปาระเบิดใส่กลุ่มผู้ชุมนุม กปปส.ตราด ในพื้นที่ อ.เขาสมิง

(24 ก.พ. 57) ที่ศาลาการเปรียญ วัดแสนตุ้ง อ.เขาสมิง นางสาวเบญจวรรณ อ่านเปรื่อง ผู้ว่าราชการจังหวัดตราด พร้อมด้วย น.อ.(พ.)กิตติคุณ นาคสุก รองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัดตราด นายธีระ สลักเพชร อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฏรจังหวัดตราด นายสมศักดิ์ อิทธิวรกุล ปลัดจังหวัดตราด และประชาชน จำนวนมากร่วมพิธีรดน้ำศพ เด็กหญิงฬิฬาวัลย์ พรหมชัย วัย 5 ปี เสียชีวิตจากกรณีเหตุคนร้ายใช้อาวุธปืนกราดยิงและปาระเบิดใส่กลุ่มผู้ชุมนุม กปปส.จังหวัดตราด บริเวณตลาดยิ่งเจริญ ตำบลแสนตุ้ง อำเภอเขาสมิง เมื่อคืนวันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2557 เวลาประมาณ 21.30 น. จากนั้นเด็กหญิงฬิฬาวัลย์ พรหมชัย ได้ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลตราด แต่ทนพิษบาดแผลไม่ไหว ถึงแก่กรรมเมื่อเวลา 03.30 น. ของวันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2557 เนื่องจากเด็กหญิงฬิฬาวัลย์ พรหมชัย ถูกกระสุนเข้าบริเวณศรีษะขณะเกิดเหตุได้วิ่งเล่นกับเพื่อน บริเวณที่มารดาซึ่งเป็นลูกจ้างร้านจ้านของร้านก๋วยเตี่ยวที่คนร้ายก่อเหตุ ยิง และปาระเบิดใส่กลุ่มผู้ชุมนุม กปปส.ตราด ในคืนดังกล่าว

สำหรับการบำเพ็ญกุศลศพของเด็กหญิงฬิฬาวัลย์ พรหมชัย ในคืนแรก วันนี้ ผู้ว่าราชการจังหวัดตราด อำเภอเขาสมิง และชมรมกำนันผู้ใหญ่บ้านอำเภอเขาสมิง ร่วมกันเป็นเจ้าภาพ โดยจะมีการสวดอภิธรรมศพ รวม 3 คืน จากนั้นจะมีการฌาปนกิจศพในวันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2557 เวลา 13.00 น. ณ วัดแสนตุ้ง แห่งนี้ 

แพทย์ รพ.ระยอง เผยอาการเด็กหญิงวัย 5 ขวบ เวที กปปส.ตราด สมองตาย

เมื่่อวันที่ 23 ก.พ. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีเด็กหญิงวัย 5 ขวบ ที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสจากการถูกคนร้ายกราดยิงและปาระเบิดใส่เวทีปราศรัยของกลุ่ม กปปส.ตราด บริเวณตลาดยิ่งเจริญ หมู่ 1 ต.แสนตุ้ง อ.เขาสมิง จ.ตราด เหตุเกิดเมื่อวานนี้ เวลาประมาณ 21.30 น.และถูกส่งตัวมารักษาพยาบาลต่อที่ รพ.ระยอง จึงเดินทางไปตรวจสอบ โดยได้รับการยืนยันจาก นพ.ประสิทธิ์ ทองสดายุ หัวหน้ากลุ่มงานศัลยกรรม รพ.ระยอง ว่า ได้รับเด็กหญิงดังกล่าว มีรักษาตัวจริงอยู่ชั้น 2 ตึกฉัตรแก้ว ทราบชื่อคือเด็กหญิงณัฐชยา รอสูงเนิน อายุ 5 ขวบ ถูกส่งต่อมาจาก รพ.ตราด โดยทางญาติไม่อนุญาตให้ทำข่าวแต่อย่างใด

นพ.วิธชุ ลัทธิวงศกร ศัลยแพทย์ระบบประสาท รพ.ระยอง แพทย์เจ้าของไข้ กล่าวว่า รับตัวเด็กมาเมื่อเวลา 02.00 น.ของวันนี้ โดยเด็กไม่รู้สึกตัว มีบาดแผลถูกยิงที่ท้ายทอยด้านซ้าย กระสุนมาตุงที่ขมับขวา อาการปัจจุบันทรุดหนักลงเรื่อยๆ สมองไม่ตอบสนอง และใช้เครื่องช่วยหายใจตลอดเวลา โดยมีป้าของเด็ก 2 คน คอยเฝ้าดูอาการ ส่วนแม่เด็กยังอยู่จังหวัดตราด ทราบเพียงว่าดูอาการของลูกอีกคนที่ รพ.ตราด อย่างไรก็ตามตอนนี้ทำได้เพียงรักษาตามอาการ และได้แจ้งญาติให้ทำใจแล้ว ซึ่งเขาก็ยอมรับได้แล้ว


วฐิต/ข่าว

บริษัทกลางคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ จำกัด สาขาฉะเชิงเทรา จัดกิจกรรมเชิญชวนผู้ใช้รถจักรยานยนต์ร่วมสร้างวัฒนธรรมความปลอดภัยทางถนน เนื่องในวัน RVP Road Safety Day

วันนี้ (24 ก.พ.57)  ที่บริเวณด้านหน้าบริษัทกลางคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ จำกัด สาขาฉะเชิงเทรา ถนนศรีโสธรตัดใหม่ ได้มีการจัดกิจกรรมเชิญชวนผู้ใช้รถจักรยานยนต์ร่วมสร้างวัฒนธรรมความปลอดภัยทางถนน เนื่องในวัน RVP Road Safety Day โดยการจำหน่ายหมวกนิรภัยแบบมาตรฐาน ในราคา 86 บาท และแจกหมวกนิรภัยฟรีให้กับเด็ก

นางคุณัญญา แย้มสรวล ผู้จัดการบริษัทกลางคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ สาขาฉะเชิงเทรา เปิดเผยว่า  ปัจจุบันอุบัติเหตุทางถนนในประเทศไทยเป็นปัญหาที่สำคัญอย่างมาก เพราะในแต่ละปีประเทศไทยมีผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางถนนมากกว่า 16,000 ราย และบาดเจ็บมากกว่า 500,000 ราย ซึ่งเป็นความสูญเสียที่มิอาจประเมินค่าได้  ซึ่งจากสถิติอุบัติเหตุทางถนนในประเทศไทย ศูนย์ข้อมูลอุบัติเหตุทางถนน พบว่า ทุก 1 ชม.ในประเทศไทย จะมีผู้เสียชีวิตถึง 2 ราย โดยสาเหตุเกิดจากหลายปัจจัย ทั้งจากคน จากรถ สถานภาพถนน และสิ่งแวดล้อม  และหนึ่งสาเหตุในการบาดเจ็บคือการไม่สวมหมวกนิรภัย เมื่อเกิดอุบัติเหตุทำให้บาดเจ็บรุนแรงและเฉียบพลัน  บ้างถึงแก่ชีวิตหรือพิการ  บริษัทกลางฯจึงแสดงปณิธานในการร่วมสร้างวัฒนธรรมความปลอดภัยทางถนน เพื่อร่วมทำให้รถปลอดภัย ถนนปลอดภัย คนไทยปลอดภัย  โดยจัดกิจกรรมการจำหน่ายหมวกนิรภัย 86 พรรษา เพื่อถวายในโครงการ "รักพ่อ รักความปลอดภัย”โดยรายได้จากการจำหน่าย จะนำขึ้นทูลเกล้าฯ โดยเสด็จพระราชกุศลโดยไม่หักค่าใช้จ่าย อีกทั้งยังมีการแจกหมวกนิรภัยสำหรับเด็กฟรีอีกด้วย  ทั้งนี้เพื่อให้ผู้ที่ใช้รถจักรยานยนต์ตระหนักถึงความปลอดภัยทางถนนดังปณิธานของบริษัทกลางฯที่ว่า "อุบัติเหตุลดได้ ต้องเริ่มที่ตัวเราก่อน”



ชาญณรงค์/ข่าว
ธนภัทร/ภาพ