วันจันทร์ที่ 21 เมษายน พ.ศ. 2557

สัมมนาโครงการส่งเสริมการสร้างโรงงานไฟฟ้าชีวมวลชุมชนต้นแบบจังหวัดสระแก้ว

วันนี้ (21 เม.ย. 57) ที่ ห้องประชุมบูรพา ศาลากลางจังหวัดสระแก้ว นายชัยภัทร หิรัณยเลขา รองผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้วเป็นประธานเปิดการสัมมนาเผยแพร่ผลการดำเนินงานโครงการส่งเสริมการสร้างโรงไฟฟ้าชีวมวลชุมชนต้นแบบ จังหวัดสระแก้ว โดยสำนักงานจังหวัดสระแก้วและสถาบันค้นคว้าและพัฒนาผลิตผลทางการเกษตรและอุตสาหกรรมการเกษตร มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ สัมมนาในหัวข้อ "ผลการศึกษาศักยภาพและแนวทางการพัฒนาจังหวัดสระแก้วเป็นเมืองพืชพลังงาน”และ "ความเป็นไปได้ของโรงงานไฟฟ้าชีวมวลชุมชนต้นแบบจังหวัดสระแก้ว”

นายชัยภัทร หิรัณยเลขา รองผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว เปิดเผยว่า จังหวัดสระแก้ว กำหนดยุทธศาสตร์ให้เป็นเมืองแห่งพืชพลังงาน โดยมุ่งเน้นการพัฒนาผลผลิตทางการเกษตรเป็นพลังงานทดแทน ซึ่งจังหวัดสระแก้วมีโครงสร้างทางเศรษฐกิจขึ้นอยู่กับภาคเกษตรกรเป็นหลัก โดยมีพื้นที่การเกษตร จำนวน 2,340,093 ไร่คิดเป็นร้อยละ 52 ของพื้นที่ทั้งจังหวัด ซึ่งมีพืชเศรษฐกิจหลักได้แก่ ข้าว มันสำปะหลัง ข้าวโพด อ้อย ปาล์มน้ำมันและพืชโตเร็วมากมาย ซึ่งทำให้จังหวัดสระแก้วมีศักยภาพในการพัฒนาเป็นเมืองพืชพลังงาน เพื่อนำสู่เมืองพลังงานจึงต้องทำการศึกษาหาแนวทางพัฒนาให้เหมาะสมโดยพิจารณาถึงผลกระทบในทุกๆด้าน ทั้งทางด้านเศรษฐกิจ สังคมและสิ่งแวดล้อมให้เกิดความสมดุลพร้อมกับดำเนินการส่งเสริมการสร้างโรงไฟฟ้าชีวมวลชุมชนต้นแบบจังหวัดสระแก้วควบคู่ไปกับการส่งสริมให้เกษตรกรปลูกป่าไม้โตเร็วและมีศูนย์รวบรวมวัสดุชีวมวลในชุมชนเพื่อป้อนให้แกโรงไฟฟ้าไปด้วยเพื่อเป็นการลดช่องว่างระหว่างรายได้ของเกษตรกรโดยเป็นการเพิ่มรายได้ให้แก่เกษตรกรรายย่อยจากพืชผลผลิตที่เหลือใช้ทางการเกษตรและจะได้นำแผนการพัฒนาบรรจุเข้าเป็นแผนพัฒนาจังหวัดและแผนปฏิบัติราชการต่อไป

คณะกรรมการโครงการ “สานใจไทย สู่ใจใต้” ตรวจเยี่ยมเยาวชนและครอบครัวอุปถัมภ์ ที่อ.บางน้ำเปรี้ยว จ.ฉะเชิงเทรา

วันนี้ (  21 เม.ย. 57)  พลตำรวจโท อมรรักษ์ หุวะนันท์   กรรมการดำเนินโครงการ "สานใจไทย สู่ใจใต้ ”   พร้อมคณะเดินทางลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมเยาวชนและครอบครัวอุปถัมภ์ ในพื้นที่ตำบลสิงโตทอง   อำเภอบางน้ำเปรี้ยว  จังหวัดฉะเชิงเทรา  โดยมีนาย บัณฑิตย์ เทวีทิวารักษ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทรา  และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้การต้อนรับ และนำเยี่ยมกิจกรรมโครงการ "สานใจไทย สู่ใจใต้ ” พร้อมมอบเงิน สิ่งของ เครื่องอุปโภคและบริโภคให้กับเยาวชนและครอบครัวอุปถัมภ์ ด้วย

สำหรับโครงการ "สานใจไทย สู่ใจใต้ ”  เป็นโครงการที่เกิดขึ้นจากดำริของ พลเอกเปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ ได้รับการสนับสนุนจากคณะกรรมการมูลนิธิรัฐบุรุษพลเอกเปรม  ติณสูลานนท์   มูลนิธิรักษ์ไทย  และมูลนิธิพิทักษ์อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ร่วมกับกระทรวงศึกษาธิการ   กระทรวงมหาดไทย  และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง  โดยพลเอกสุรยุทธ์ จุลานนท์  เป็นประธานคณะกรรมการดำเนินการฯ มีวัตถุประสงค์เพื่อให้เยาวชนมุสลิมในพื้นที่ 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ได้มีโอกาสเสริมสร้างทักษะเรียนรู้ วิสัยทัศน์ ประสบการณ์ชีวิต และพัฒนาแนวคิดให้สามารถปฎิบัติตนเป็นผู้นำที่ดีของชุมชนในอนาคต ก่อให้เกิดความคิดเชิงบวก มีความหวงแหนต่อแผ่นดินเกิดและยอมรับการอยู่ร่วมกันอย่างสันติบนความหลากหลายของเชื้อชาติ ศาสนา ภาษา และวัฒนธรรม ซึ่งจะช่วยส่งผลต่อการแก้ปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้อย่างยั่งยืนต่อไปในอนาคต

ทั้งนี้จังหวัดฉะเชิงเทราเป็นจังหวัดหนึ่งที่มีส่วนร่วมกับโครงการฯ  ครั้งนี้เป็นรุ่นที่ 21 ระหว่างวันที่ 2 เมษายน - 2 พฤษภาคม 2557  จำนวน 20 คน อยู่ร่วมกับครอบครัวอุปถัมภ์ ครอบครัวละ 2 คน รวม 10 ครอบครัว  ครอบครัวอุปถัมภ์ ของจังหวัดฉะเชิงเทราอยู่ในพื้นที่ของตำบลสิงโตทองอำเภอบางน้ำเปรี้ยว  นอกจากเยาวชนที่มาจะมีการใช้ชีวิตประจำวันทั้งการอยู่อาศัย  การร่วมประกอบอาชีพ  การร่วมกิจกรรมต่างๆกับครอบครัวอุปถัมภ์แล้วจังหวัดฉะเชิงเทรายังได้จัดกิจกรรมนำคณะเยาวชนและครอบครัวอุปถัมภ์ไปศึกษาดูงาน ณ ศูนย์ศึกษาการพัฒนาเขาหินซ้อนอันเนื่องมาจากพระราชดำริ อำเภอพนมสารคาม อีกด้วย



ชาญณรงค์ /ข่าว
ธนภัทร/ภาพ
ส.ปชส.ฉะเชิงเทรา

กรมการขนส่งทางบก โดย สำนักงานขนส่งจังหวัดระยอง เปิดรับคำขอรับการจัดสรรเงินค่าอุปกรณ์ช่วยเหลือผู้พิการ

นายอรุณ วิชกิจ ขนส่งจังหวัดระยอง เปิดเผยกับประชาสัมพันธ์จังหวัดระยอง ว่า กรมการขนส่งทางบกโดยอธิบดีกรมการขนส่งทางบก ได้ออกประกาศกำหนดการขอรับจัดสรรเงินกองทุนเพื่อความปลอดภัยในการใช้รถใช้ถนน ประจำปีงบประมาณ ๒๕๕๗ โดยกำหนดหลักเกณฑ์เกี่ยวกับการยื่นคำขอรับการจัดสรรเงินค่าอุปกรณ์ช่วยเหลือผู้พิการดังกล่าวไว้ ดังนี้

คุณสมบัติของผู้ขอรับจัดสรรเงินค่าอุปกรณ์ช่วยเหลือผู้พิการ ต้องเป็นผู้พิการเนื่องมาจากการประสบภัยที่เกิดจากการใช้รถใช้ถนน ต้องไม่เคยได้รับการช่วยเหลือจากกองทุนเพื่อความปลอดภัยในการใช้รถใช้ถนนมาก่อน หรือเคยได้รับความช่วยเหลือมาแล้วไม่น้อยกว่า ๕ ปี

อุปกรณ์ช่วยเหลือผู้พิการที่สามารถขอรับจัดสรรได้มีดังนี้ แขนเทียม ขาเทียม รถนั่งสำหรับผู้พิการ ไม้เท้า และไม้ค้ำยัน อุปกรณ์อื่นๆ ได้แก่ เบาะรองนั่งป้องกันแผลกดทับ เตียงนอนธรรมดา ๓ ไกร ที่นอนลมป้องกันแผลกดทับ รถสามล้อโยก เครื่องช่วยหายใจ และเครื่องดูดเสมหะ ทั้งนี้จะพิจารณาตามความเหมาะสมกับสภาพความพิการ และสภาพการใช้งานของผู้พิการเป็นรายๆ ไป

ผู้พิการที่ประสงค์ขอรับจัดสรรเงินเป็นค่าอุปกรณ์ช่วยเหลือผู้พิการ ให้ยื่นคำร้องขอ ได้ที่ สำนักงานกองทุนเพื่อความปลอดภัยในการใช้รถใช้ถนน กรมการขนส่งทางบก และสำนักงานขนส่งจังหวัดระยอง ได้ตั้งแต่วันที่ ๒๑ เมษายน ๒๕๕๗ ถึงวันที่ ๒ พฤษภาคม ๒๕๕๗

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม ได้ที่ สำนักงานกองทุนเพื่อความปลอดภัยในการใช้รถใช้ถนน โทร. ๐๒ ๒๗๑๘๗๐๖ สำนักงานขนส่งจังหวัดระยอง โทร. ๑๕๘๔, ๐๓๘ ๖๑๖๗๙๒, ๐๓๘ ๙๖๗๓๒๓ และ สำนักงานขนส่งจังหวัดระยอง สาขาอำเภอแกลง โทร. ๐๓๘ ๖๗๑๙๐๔, ๐๓๘ ๖๗๑๐๔๗

ระยอง ดึงผู้นำชุมชน เยาวชน เข้าร่วมโครงการปลูกฝังสำนึกรักสามัคคีและเสริมสร้างความปรองดอง เพื่อความสมานฉันท์ของคนในชาติ

เมื่อเวลา 09.30 น.  วันที่ 21 เม.ย. 57  ที่ห้องประชุมเทศบาลตำบลทับมา อ.เมืองระยอง นายวิชิต ชาตไพสิฐ ผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง เป็นประธานเปิดโครงการปลูกฝังสำนึกรักสามัคคีและเสริมสร้างความปรองดอง ซึ่งจัดขึ้นโดยที่ทำการปกครองจังหวัดระยอง ระหว่างวันที่ 21-22 เม.ย.นี้ โดยมีผู้นำชุมชน ผู้นำท้องถิ่น และกลุ่มเยาวชน จำนวน 80 คน จากอำเภอเมืองระยอง อำเภอบ้านค่าย อำเภอบ้านฉาง และอำเภอนิคมพัฒนา เข้าร่วมโครงการ โดยมีนายวราวุธ ปิ่นเงิน รองผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง นายธีรวัฒน์ สุดสุข ปลัดจังหวัดระยอง นายประเสริฐ วงษ์ศรี นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลทับมา และนายอดุลย์ บำรุงสุนทร นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลหนองตะพาน อ.บ้านค่าย ร่วมเป็นเกียรติฯ นายธีรวัฒน์ สุดสุข ปลัดจังหวัดระยอง กล่าวว่า จังหวัดระยอง ได้จัดทำโครงการปลูกฝังสำนึกรักสามัคคีและเสริมสร้างความปรองดอง ประจำปี 2557 ขึ้นเป็นปีที่ 3 แล้ว ตามนโยบายของกระทรวงมหาดไทย เพื่อขับเคลื่อนนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาล ด้านการเสริมสร้างความปรองดองสมานฉันท์ของคนในชาติและฟื้นฟูประชาธิปไตยในระดับพื้นที่โดยมีหลักการที่สำคัญในการดำเนินของโครงการฯ คือ การสร้างกระบวนการเรียนรู้ ประกอบด้วย หลัก 3 ร่วม เพื่อ 3 สร้าง คือ ร่วมกันคุย เพื่อสร้างความสามัคคีร่วมกันคิด เพื่อสร้างพลังและร่วมกันทำ เพื่อสร้างสังคมปรองดอง โดยนำกลุ่มเป้าหมาย ผู้นำชุมชน ผู้นำท้องถิ่น และกลุ่มเยาวชน มาพบปะพูดคุยกัน ทำให้เกิดเครือข่ายความร่วมมือระหว่างเยาวชนผู้นำและเจ้าหน้าที่ เกิดการบูรณาการความรัก ความสามัคคีในอันที่จะสร้างสังคมปรองดองให้เกิดขึ้นในพื้นที่ ซึ่งโครงการดังกล่าว มีวัตถุประสงค์ เพื่อให้ผู้เข้าร่วมโครงการฯ ได้ร่วมพูดคุยแลกเปลี่ยนเรียนรู้เพื่อสร้างสามัคคี โดยกระบวนการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ เสริมสร้างความรักสามัคคี เสริมสร้างการเรียนรู้เชิงสร้างสรรค์ โดยร่วมทำกิจกรรมเพื่อส่งเสริมความปรองดอง ตลอดจนเพื่อจงรักภักดีต่อสถาบันชาติ ศาสนา และหระมหากษัตริย์ อันที่จะสร้างสังคมปรองดองให้เกิดขึ้นในพื้นที่ ทั้งนี้กิจกรรมที่จัดขึ้น ประกอบด้วย การบรรยาย "การน้อมนำพระบรมราโชวาทตามแนวทางเศรษฐกิจพอเพียง เรื่องคุณธรรม รู้รักสามัคคี” "การปูพื้นฐานแนวคิดและอุดมการณ์ประชาธิปไตยตามแนวทางการปกครองระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข” และการจัดเวทีอภิปรายเพื่อแลกเปลี่ยนเรียนรู้ของกลุ่มผู้นำและเยาวชน ในหัวข้อ "การเมืองเรื่องผลประโยชน์ของใคร”โดยเป็นการเปิดโอกาสให้ได้แสดงความคิดเห็นทางการเมืองการปกครองและแลกความรู้อันจะทำให้เกิดเครือข่ายที่เข้มแข็งในการพัฒนาประชาธิปไตยภายใต้บรรยากาศที่สร้างสรรค์

คณะกรรมการกลางการสอบแข่งขันพนักงานส่วนท้องถิ่น(กสถ.) แจ้งเตือนผู้สมัครสอบแข่งขันบุคคลเพื่อบรรจุและแต่งตั้งเป็นข้าราชการหรือพนักงานส่วนท้องถิ่น ให้ร่วมป้องกันการทุจริตการสอบแข่งขัน

นายทรรศนะ วิชัยธนพัฒน์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง เปิดเผยกับประชาสัมพันธ์จังหวัดระยอง ว่า ตามที่คณะกรรมการการสอบแข่งขันพนักงานส่วนท้องถิ่น(กสถ.) ได้ประกาศการสอบแข่งขันเพื่อบรรจุบุคคลเข้ารับราชการเป็นข้าราชการหรือพนักงานส่วนท้องถิ่น ลงวันที่ ๒๐ พฤศจิกายน ๒๕๕๖ กำหนดรับสมัครระหว่างวันที่ ๔-๒๖ ธันวาคม ๒๕๕๖ และกำหนดให้มีการสอบแข่งขันในวันที่ ๒๗ เมษายน ๒๕๕๗ นั้น

ปรากฏว่ามีผู้แอบอ้างแสวงหาผลประโยชน์(ตกเบ็ด) จากผู้สมัครสอบเป็นจำนวนมาก โดยเสนอว่าสามารถช่วยผู้สอบ ให้สอบได้ โดยใช้วิธีการต่างๆ เช่น กล่าวอ้างว่ารู้จักข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ที่สามารถช่วยผู้สมัครสอบให้สอบได้ จะหาคนเข้าสอบแทนผู้สมัครสอบ มีข้อสอบที่ใช้ในการสอบ สามรถส่งสัญญาณโดยใช้อุปกรณ์ต่างๆ หรือช่วยผู้สอบในขณะสอบให้ทำข้อสอบได้ ฯลฯ

กรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่น ขอเรียนว่า ในการดำเนินการสอบของคณะกรรมการกลางการสอบแข่งขันพนักงานส่วนท้องถิ่น(กสถ.) มีนโยบายและวัตถุประสงค์ ให้การสอบเป็นไปด้วยความบริสุทธิ์ ยุติธรรม เพื่อให้ได้คนดี มีความรู้ ความสามารถ มีคุณธรรม อย่างแท้จริงมาปฏิบัติงานใน อปท. ขอให้ผู้สมัครสอบอย่าได้หลงเชื่อตกเป็นเหยื่อของผู้แอบอ้างดังกล่าว หากพบเห็นหรือทราบพฤติกรรมที่มีการแอบอ้างดังกล่าว

ขอให้แจ้งศูนย์ดำรงธรรม กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น หมายเลขโทรศัพท์ ๐๒ ๒๔๑๙๐๑๔ หรือ ๐๒ ๒๔๑๙๐๐๐ ต่อ ๑๒๖๔ หรือเว็บไซต์ www.dla.go.th หรือ E-mail : som.mao@hotmail.com กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น จะดำเนินการทางกฎหมายอย่างเคร่งครัด และดำเนินการทางวินัย(กรณีเป็นข้าราชการหรือพนักงานส่วนท้องถิ่น) ต่อผู้แอบอ้าง นั้น

จังหวัดตราด เตรียมความพร้อมทุกภาคส่วนในการเข้าสู่ประชาคมอาเซียน

(21 เม.ย. 57) นายณรงค์ ธีรจันทรางกูร รองผู้ว่าราชการจังหวัดตราด กล่าวระหว่างบรรยายสรุปการเตรียมความพร้อมของจังหวัดตราดในการเข้าสู่ประชาคมอาเซียน แก่คณะศึกษาดูงานโครงการพัฒนาสมรรถนะเพื่อประสิทธิผลการบริหารงาน สำนักงานจังหวัดอุดรธานี และสำนักยุทธศาสตร์กลุ่มจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ตอนบน 1 ว่า ในการเตรียมความพร้อมการเข้าสู่ปราคมอาเซียนในปีหน้า ทางจังหวัดโดยหน่วยงานภาครัฐ เอกชน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นได้มีการดำเนินการตามแผนงงานของทางจังหวัดโดยได้มีการจัดตั้งศูนย์ประสานงานอาเซียน จังหวัดตราด ขึ้นที่สำนักงานจังหวัดตราด นอกจากนี้ในส่วนของความะพร้อมของบุคลากรภาครัฐ ได้มีการพัฒนาขีดความสามารถโดยเฉพาะในด้านภาษาสากล อย่างภาษษอังกฤษ รวมทั้งภาษาของประเทศเพื่อนบ้าน ในส่วนของการเตรียมความพร้อมด้านการศึกษา สถาบันการศึกษาทั้งในระดับวิทยาลัยต่ำกว่าปริญญาตรีอย่าง วิทยาลัยชุมชน ระดับอาชีวศึกษา มัธยมศึกษา และประถมศึกษา ได้มีการจัดการศึกษาในด้านภาษา รวมทั้งเพิ่มพูนความรู้ในเรื่องของประเทศทั้ง 10 ที่จะร่วมเข้าสู่ประชาคมอาเซียน ให้กับนักเรียน และนักศึกษา นอกจากนี้ยังมีการเตรียมความพร้อมในด้านต่าง ๆ อาทิ ด้านการเกษตร ที่มีการผลักดันให้สินค้าเกษตรของจังหวัดตราด มีคุณภาพที่มีมาตรฐาน (GAP) รวมทั้งการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต ในด้านอุตสาหกรรม และด้านแรงงาน มีการเตรียมความพร้อมเพื่อการปรับตัวให้กับผู้ประกอบการ ผู้ใช้แรงงาน ด้านการค้า มีการเสริมสร้างความรู้ถึงผลกระทบทั้งด้านบวก และด้านลบ ให้กับประชาชนและผู้ประกอบการ ด้านโครงสร้างพื้นฐาน ทางจังหวัดได้จัดสรรงบประมาณทั้งงบยุทธศาสตร์จังหวัดประจำงบประมาณ และงบยุทธศาสตร์กลุ่มจังหวัด ในการพัฒนาระบบโครงสร้างพื้นฐาน ด้านการคมนาคม ด้านการศุลกากร โดยเฉพาะการพัฒนาถนนสุขุมวิท ช่วงตราด – หาดเล็ก ซึ่งอยู่ในแนวเส้นทางสายเลียบชายฝั่งทะเล ( R 10 ) ซึ่งเชื่อมโยงระหว่างจังหวัดตราด– เกาะกง – สะแรอัมเบิล – กัมปอต – ฮาเตียง – คาเมา – น้ำคาน รวมทั้งการพัฒนาการขนส่งทางน้ำที่ทางกรมเจ้าท่า กำลังดำเนินการก่อสร้างท่าเทียบเรือน้ำลึกคลองใหญ่ ทั้งนี้การดำเนินโครงการื่อเตรียมความพร้อมเข้าสู่ประชาคมอาเซียนของจังหวัดจะอยู่ภายใต้การพัฒนา 3 เสาหลักของประชาคมอาเซียน คือ ด้านการเมืองและความมั่นคง รวม 40 โครงการ ด้านเศรษฐกิจ 24 โครงการ และด้านสังคมและวัฒนธรรม 38 โครงการ ซึ่งนับเป็นการเตรียมความพร้อมของทุกภาคส่วนให้เกิดผลเป็นรูปธรรม ก่อนเข้าสู่ประชาคมอาเซียนของจังหวัดตราดที่สภาพพื้นที่ ที่นับเป็นประตูสู่ประเทศเพื่อนบ้าน

จ.ตราด ย้ำเชิญส่งชื่อลูกที่มีความกตัญญูกตเวทีอย่างสูงต่อแม่เข้ารับการพิจารณาคัดเลือกเพื่อรับรางวัลโล่เกียรติคุณในโอกาสวันแม่แห่งชาติประจำปี 2557

(21 เม.ย. 57) นางสาวเบญจวรรณ อ่านเปรื่อง ผู้ว่าราชการจังหวัดตราด เปิดเผยว่า สภาสังคมสงเคราะห์แห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ได้กำหนดจัดงานวันแม่แห่งชาติ ประจำปี 2557 เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษาสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ในวันที่ 12 สิงหาคม 2557 โดยได้จัดกิจกรรมเพื่อเทิดทูนและเผยแพร่พระเกียรติคุณสมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินีนาถ พระคุณและบทบาทของแม่ที่มีต่อครอบครัว สังคม และประเทศชาติรวมทั้งหน้าที่ของลูกที่มีต่อแม่เข้ารับการคัดเลือกเป็นลูกที่มีความกตัญญูกตเวทีอย่างสูงต่อแม่ในโอกาสวันแม่แห่งชาติปี 2557 ดังนั้นทางจังหวัดจึงขอเชิญชวนหน่วยงาน องค์การและผู้สนใจส่งเรื่องจริงของผู้มีคุณสมบัติเป็นลูกที่มีความกตัญญูกตเวทีอย่างสูงต่อแม่ รวม 5 ประเภท คือ นักเรียน นักศึกษา , ข้าราชการ พนักงานรัฐวิสาหกิจ , นักร้อง นักแสดง ศิลปิน , สื่อมวลชน และประชาชนทั่วไป เข้ารับการพิจารณาคัดเลือกเพื่อรับรางวัลโล่เกียรติคุณในโอกาสวันแม่แห่งชาติประจำปี 2557 โดยผู้สนใจสามารถส่งเรื่องจริงของผู้มีคุณสมบัติเป็นลูกที่ที่มีความกตัญญูกตเวทีอย่างสูงต่อแม่เข้ารับการพิจารณาคัดเลือก พร้อมประวัติ รายละเอียดจำนวน 6 ชุด พร้อมรูปถ่ายหน้าตรงขนาด 2 นิ้วจำนวน 4 รูป มาที่ กลุ่มการพัฒนาสังคม สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดตราด ชั้น 1 อาคารศาลากลางจังหวัดตราดภายในวันที่ 10 พฤษภาคม 2557 หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ 0-3951-1588 ในวันและเวลาราชการ

กระทรวงทรัพยาธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม วางมาตรการแก้ไขปัญหาช้างป่าบุกรุกที่เกษตรกรรมของประชาชนในภาพรวมอย่างเป็นระบบ

(21 เม.ย. 57) นายวิเชษฐ์ เกษมทองศรีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเปิดเผยระหว่างการเดินทางมาตรวจราชการในพื้นที่จังหวัดตราด ว่า ตามที่ในหลายจังหวัดพบปัญหาช้างป่าบุกรุกเข้ามาหากินในพื้นที่เกษตรกรรม รวมทั้งพื้นที่อยู่อาศัยของประชาชน ส่งผลกระทบต่อความเป็นอยู่ของประชาชน รวมทั้งทรัย์สิน พืชผลทางการเกษตร ทางกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจึงได้เตรียมดำเนนการตามาตรการป้องกันและแก้ไขปัญหาช้างป่าบุกรุกที่ของประชาชน ทั้งในระยะสั้นและระยะยาว โดยใน ระยะสั้นได้ขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการสำรวจเพื่อสร้างแนวคูกันช้างในจุดที่มีปัญหาระหว่างเขตแนวป่ากับเขตพื้นที่เกษตรกรรม หรือที่อยู่อาศัยของประชาชน ส่วนการแก้ไขปัยหาในระยะยาวจะต้องมีการสำรวจปริมาณช้างเทียบอัตราส่วนกับพื้นที่หากิน หากพบว่าจุดดังกล่าวมีความหนาแน่นของประชากรช้างป่าจะต้องมีการเคลื่อนย้ายช้าง ไปยังเขตพื้นที่อุทยานที่มีจำนวนประชากรช้างน้อย นอกจากนี้ทางกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพรรณพืช ยังได้เตรียมที่อยู่ของช้างหรือบ้านช้าง ไว้ที่ เขาตะกรุบ ซึ่งเป็นเขตรอยต่อระหว่างจังหวัดฉะเชิงเทรากับจังหวัดสระแก้ว มีเนื้อที่กว่า 4,200 ไร่ มีลักษณะเป็นภูเขาล้อมรอบ 3 ด้าน ส่วนอีกด้านหนึ่งจะมีการขุดคูกันช้าง พร้อมทั้งมีแนวลวดหนามกั้นอีกชั้นหนึ่ง ภายในจะมีแหล่งน้ำและแหล่งอาหารสำหรับช้างไว้พร้อม อย่างไรก็ตามการเคลื่อนย้ายช้างป่าจะต้องเกิดจากความร่วมมือของหน่วยงานหลายหน่วยงาน ทั้งกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเอง หน่วยงานภาคเอกชนที่พร้อมที่จะสนับสนุน หรือแม้แต่ทางกองทัพ ที่มีเครื่องมือ หรือยานพาหนะที่พร้อม

ผลการแข่งรถบังคับวิทยุชิงแชมป์ประเทศไทยสนามจันทบุรี

สมาคมรถบังคับวิทยุแห่งประเทศไทยร่วมกับชมรมรถบังคับวิทยุจังหวัดจันทบุรีจัดแข่งขันรถบังคับวิทยุชิงแชมป์ประเทศไทยหาผู้ชนะเป็นตัวแทนแข่งระดับนานาชาติ

ที่สนามแข่งรถบังคับวิทยุ โอเอซีส เรสซิ่ง แท็กซ์ ถนนพระยาตรัง อำเภอเมือง จังหวัดจันทบุรีสมาคมรถบังคับวิทยุแห่งประเทศไทยร่วมกับชมรมรถบังคับวิทยุจังหวัดจันทบุรีได้จัดให้มีการแข่งขันรถบังคับวิทยุชิงแชมป์ประเทศไทยเพื่อหาผู้ชนะเป็นตัวแทนประเทศไทยเข้าแข่งรถบังคับวิทยุระดับนานาชาติ IF MAR ( อีฟ ม่า ) เวิล์ดแชมป์เปี้ยนชิพ 2014ในเดือนพฤศจิกายน พ.ศ.2557 ที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันที่กรุงเทพมหานคร  

โดยการแข่งขันครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรกของสมาคมฯที่จัดการแข่งขันในต่างจังหวัด โดยสนามโอเอซีส เรสซิ่ง แท็กซ์เป็นสนามที่ได้มาตรฐานสากลมีนักแข่งรถบังคับวิทยุมืออาชีพเข้าร่วมแข่งขันจำนวนมากทั้งประเภททีมและประเภทบุคคล อาทิ ทีมแม็กซีม่ากรุงเทพมหานคร ทีม PRCพัทยา ทีมไนท์วู๊ท ทีม NCRระยอง ทีมโอเอซีสจันทบุรี วชิระพันธุ์ วัฒนพงษ์ สุริกาญจน์ ชัยเดชสุริยะ น้องเกมส์ น้องตริน น้องเจมส์ นักแข่งรถบังคับวิทยุระดับชาติ ร่วมแข่งขันท่ามกลางกองเชียร์ที่สนุกสนาน โดยผลการแข่งขัน รถบังคับวิทยุแบบน้ำมัน Scaie 1/8 ชนะเลิศได้แก่ น้องเกมส์จากทีมแม็กซีม่า รุ่น Touring Car 1/10 ทางเรียบชนะเลิศได้แก่น้องเจมส์จากทีม PRC พัทยา RC เพาว์เว่อร์โบท รุ่นรถไฟฟ้า Formula One ชนะเลิศได้แก่คุณเก่ง ทีมRC ซิสตี้ดอนเมืองกรุงเทพฯ รุ่นรถสปอต No Boost 13.5 T หรือรถสปอตไฟฟ้า 2 ประตูชนะเลิศได้แก่สุริกาญจน์ ชัยเดชสุริยะทีมฮิ้ว กรุงเทพมหานคร และรุ่น Open Boost หรือรถสปอตไฟฟ้า 4 ประตูชนะเลิศได้แก่น้องเจมส์ทีม PRC พัทยา RC เพาว์เว่อร์โบท



จรัล/ภาพ/ข่าว ( 21  เม.ย. 57 )
ธเนศ เธียรนันทน์/ตรวจข่าว

เทศบาลเมืองอ่างศิลา จังหวัดชลบุรี จัดงาน สืบสานงานประเพณีสงกรานต์และวันผู้สูงอายุ ประจำปี 2557

วันที่ 21 เมษายน 2557  นายคมสัน เอกชัย ผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี เป็นประธาน เปิดงานสืบสานงานประเพณีสงกรานต์และวันผู้สูงอายุ เทศบาลเมืองอ่างศิลา ประจำปี 2557 ณ ลานวัฒนธรรมไทยสายใยชุมชนเทศบาลเมืองอ่างศิลา (พระตำหนักราชินี) อำเภอเมือง จังหวัดชลบุรี โดยมีผู้สูงอายุ และข้าราชการบำนาญเข้าร่วมพิธีกันเป็นจำนวนมาก

โดยมี นายทวีป กรณียกิจ นายกเทศมนตรีเมืองอ่างศิลา กล่าวรายงาน  ถึงวัตถุประสงค์ของการจัดงาน ซึ่งทางเทศบาลเมืองอ่างศิลา ได้เล็งเห็นในการบำรุงพระพุทธศาสนา ศิลปวัฒนธรรม จารีตประเพณี และภูมิปัญญาท้องถิ่น พร้อมทั้งให้ความความสำคัญถึงประเพณีสงกรานต์ ซึ่งถือได้ว่าเป็นวันขึ้นปีใหม่ของไทย ที่เป็นประเพณีอันดีงามที่คนไทย ถือปฏิบัติสืบทอดกันมาเป็นเวลาช้านาน    

ในการจัดงานในครั้งนี้ ได้มีกิจกรรมประกอบไปด้วย พิธีสรงน้ำพระสงฆ์ การรดน้ำผู้สูงอายุ การปล่อยพันธุ์ปลากะพงขาว การแข่งขันกีฬาพื้นบ้าน โดยมีประชาชนในตำบลอ่างศิลา  ตำบลเสม็ด  ตำบลห้วยกะปิ  เข้าร่วมงานกว่า  700  คน  และเพื่อเป็นการส่งเสริม และอนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรม ขนบธรรมเนียมประเพณีอันดีงามของไทยให้คงอยู่ ตลอด จนเป็นการเสริมสร้างให้เกิดความรัก ความสามัคคีของประชาชนตำบลอ่างศิลา นอกจากนั้นเพื่อให้เด็กและเยาวชน ประชาชนได้แสดงออกถึงความกตัญญูต่อผู้สูงอายุและผู้มีพระคุณ อีกด้วย



คมศักดิ์/ข่าว/ภาพ

ไทยเป็นเจ้าภาพ จัดการประชุมเจ้าหน้าที่อาวุโสอาเซียน-จีน ครั้งที่ 20 และการประชุมเจ้าหน้าที่อาวุโสอาเซียน-จีน ว่าด้วยการปฏิบัติตามปฏิญญาว่าด้วยการปฏิบัติของภาคีในทะเลจีนใต้ ครั้งที่ 7

วันที่ 21 เมษายน 2557  ประเทศไทย จัดการประชุมเจ้าหน้าที่อาวุโสอาเซียน-จีน ครั้งที่ 20 และการประชุมเจ้าหน้าที่อาวุโสอาเซียน-จีน ว่าด้วยการปฏิบัติตามปฏิญญาว่าด้วยการปฏิบัติของภาคีในทะเลจีนใต้ ครั้งที่ 7 โดยมี        นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว ปลัดกระทรวงการต่างประเทศ พร้อมดัวย นายหลิว เจิ้นหมิน รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศจีน  เป็นประธานกล่าวเปิดงานการประชุม ณ โรงแรมดุสิตธานี พัทยา จังหวัดชลบุรี

นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว ปลัดกระทรวงการต่างประเทศ  กล่าวว่า จัดการประชุมเจ้าหน้าที่อาวุโสอาเซียน-จีน มีวัตถุประสงค์ เพื่อติดตามความก้าวหน้าของความร่วมมือในกรอบอาเซียน -จีนในรอบปีที่ผ่านมา ผลักดันผลการประชุมสุดยอดอาเซียน-จีน ครั้งที่ 16 เมื่อเดือนตุลาคม 2556 ให้นำไปสู่การปฏิบัติที่เป็นรูปธรรม รวมทั้งหารือและแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับทิศทางและแนวทางการส่งเสริมความร่วมมืออาเซียน-จีน ในฐานะหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ เพื่อผลประโยชน์ ร่วมกัน เช่นการส่งเสริมการค้าการลงทุน การยกระดับความตกลงเขตการค้าเสรี อาเซียน - จีน การส่งเสริมบทบาทของจีนในการพัฒนาความเชื่อมโยงในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ การขยายความร่วมมือทางทะเลและการจัดกิจกรรมเพื่อเฉลิมฉลองปีแห่งการแลกเปลี่ยนของวัฒนธรรมอาเซียน-จีน

ส่วนการประชุมเจ้าหน้าที่อาวุโสอาเซียน-จีน ว่าด้วยการปฏิบัติตามปฏิญญาว่าด้วยการปฏิบัติของภาคีในทะเลจีนใต้ ครั้งที่ 7 ต่อยอดจากการประชุมครั้งที่ 6 ที่ เมืองซูโจว ซึ่งอาเซียน และจีน ได้เริ่มหารือเรื่องการจัดทำแนวปฏิบัติในทะเลจีนใต้ ( Code of Conduct in South China Sea : COC ) อย่างเป็นทางการ มีวัตถุประสงค์เพื่อพิจารณาผลการประชุมคณะทำงานร่วมอาเซียน-จีน ว่าด้วยการปฏิบัติตามปฏิญญาว่าด้วยการปฏิบัติของภาคีในทะเลจีนใต้ ครั้งที่ 10 เมื่อเดือนมีนาคม 2557 ที่สิงคโปร์ รวมทั้งมอบนโยบายในการทำงานแก่คณะทำงานร่วมฯ เกี่ยวกับการปฏิบัติตาม ปฏิญญาฯ เพื่อให้บรรลุแผนงานประจำปี 2557 และผลักดันการจัดทำแนวปฏิบัติในทะเลจีนใต้ให้มีความคืบหน้า ต่อไปอีกด้วย



คมศักดิ์/ข่าว/ภาพ