วันพฤหัสบดีที่ 20 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

ผู้ตรวจสำนักนายกฯ ลงพื้นที่ติดตามงานที่ จ.จันทบุรี

ผู้ตรวจสำนักนายกรัฐมนตรีเขตตรวจราชการที่ 9 พร้อมคณะตรวจติดตามโครงการของรัฐบาลที่จังหวัดจันทบุรี พร้อมประชุมรับทราบปัญหา อุปสรรค คณะกรรมาธิการจังหวัดก่อนลงพื้นที่รับทราบปัญหา อุปสรรคการส่งออกลำไยนอกฤดู

ที่จังหวัดจันทบุรี นายอำนวย โชติสกุล ผู้ตรวจราชการสำนักนายกรัฐมนตรี ประจำเขตตรวจราชการที่ 9 เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการธรรมาภิบาลจังหวัดจันทบุรี หรือ กธจ.จันทบุรี ครั้งที่ 1/2557 เพื่อติดตามผลการดำเนินงานในภาพรวมของโครงการตามแผนปฏิบัติราชการประจำปีของจังหวัดและกลุ่มจังหวัด ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2556 และ 2557 รวมทั้งติดตามตรวจสอบปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนจากการปฏิบัติหน้าที่ของหน่วยงานของรัฐและเจ้าหน้าที่ของรัฐในจังหวัด เพื่อให้เป็นไปตามพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดี พ.ศ. 2546 สำหรับแผนงาน/โครงการตามแผนปฏิบัติราชการประจำปีของจังหวัดและกลุ่มจังหวัด ที่ กธจ.จันทบุรี ได้ตรวจติดตามในครั้งนี้ ได้แก่ โครงการส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพลำไยเพื่อการส่งออก โครงการส่งเสริมการเกษตรอินทรีย์ โครงการพัฒนาศักยภาพด้านการท่องเที่ยวกลุ่มจังหวัดภาคตะวันออก และโครงการส่งเสริมการตลาดด้านการท่องเที่ยว

จากนั้น ผู้ตรวจสำนักนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยคณะ กธจ.จันทบุรี ได้ร่วมกันออกตรวจติดตามโครงการส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพลำไยเพื่อการส่งออกในพื้นที่อำเภอสอยดาว และยังได้ไปตรวจเยี่ยมสถานประกอบการที่รับซื้อลำไย ล้งลำไย เพื่อส่งออกไปต่างประเทศเพื่อรับทราบปัญหา – อุปสรรค ความต้องการของเกษตรกรและผู้ประกอบการซึ่งลำไยนับว่าเป็นพืชเศรษฐกิจที่สำคัญอีกชนิดหนึ่งของจังหวัดจันทบุรี มีพื้นที่ปลูกมากกว่า 125,000 ไร่ ผลผลิตรวมประมาณ 210,000 ตันต่อปี คิดเป็นมูลค่าของผลผลิตที่เกษตรกรขายได้ปีละประมาณ 7 พันกว่าล้าน บาท                                              


จรัล/ภาพ/ข่าว

ตำบลขุนซ่อง อำเภอแก่งหางแมว จ.จันทบุรีรณรงค์ป้องกันไข้เลือดออก

ตำบลขุนซ่องอำเภอแก่งหางแมวจังหวัดจันทบุรีเร่งรณรงค์ป้องกันไข้เลือดออกหลังพบสถิติผู้ป่วยเพิ่มขึ้นปัจจัยเสี่ยงจากการประกอบอาชีพเข้าป่ากรีดยาง

ที่ลานเอนกประสงค์ตลาดนัดวังพง ตำบลขุนซ่อง อำเภอแก่งหางแมว จังหวัดจันทบุรี องค์การบริหารตำบลขุนซ่อง ร่วมกับ รพ.สต.สถานศึกษา กำนัน – ผู้ใหญ่บ้าน ผู้นำชุมชน ได้ร่วมกันจัดกิจกรรมเดินรณรงค์ป้องกันไข้เลือดออกขึ้น โดยมีนายนิวัฒน์ สุภาพ นายอำเภอแก่งหางแมวเป็นประธาน และมีนายเดช จินโนรส นายกองค์การบริหารส่วนตำบลขุนซ่องกล่าวรายงานวัตถุประสงค์การจัดกิจกรรมที่มุ่งหวังป้องกันและลดจำนวนผู้ป่วยไข้เลือดออกในพื้นที่ ที่มีความเสี่ยงสูงเนื่องจากราษฎรมีอาชีพที่ต้องเข้าป่ากรีดยางหารายได้ รวมทั้งการทำสวนผลไม้ มีแหล่งลูกน้ำยุงลายในพื้นที่มาก 

การรณรงค์ครั้งนี้มุ่งหวังกำจัดแหล่งเพาะพันธุ์ลูกน้ำยุงลาย ตามนโยบายของผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรีที่เน้นให้ทำความสะอาด กำจัดแหล่งเพาะพันธุ์ลูกน้ำยุงลายทุกสัปดาห์ รวมทั้งมาตรการ 5 ป 1 ข. คือปิดภาชนะน้ำกิน น้ำใช้ให้มิดชิดป้องกันยุงวางไข่ เปลี่ยนน้ำในแจกันน้ำทุก 7 วันเพื่อตัดวงจรลูกน้ำที่กลายเป็นยุง ปล่อยปลาหางนกยูงหรือปลากินลูกน้ำลงในอ่างบัวหรือภาชนะกักเก็บน้ำที่ไม่มีฝาปิด ปรับเปลี่ยนสิ่งแวดล้อมให้ปลอดโปร่งโล่งสะอาดลมพัดผ่านไม่เป็นที่เกาะพักของยุงลาย ปฏิบัติให้เป็นประจำ เป็นนิสัย พร้อมทั้งขัดภาชนะที่ใช้กักเก็บน้ำเพื่อทำลายไข่ยุงลายที่อาจเกาะติดภาชนะดังกล่าว โดยการรณรงค์ป้องกันไข้เลือดออกครั้งนี้ มีนักเรียน ครู อาจารย์ อสม.กลุ่มพลังมวลชน ท้องถิ่น ท้องที่ กำนัน – ผู้ใหญ่บ้าน กรรมการหมู่บ้าน ร่วมเดินรณรงค์ให้ความรู้แก่ประชาชนไปตามถนนสายต่าง ๆ ในเขตตำบลขุนซ่อง มีการแต่งกายชุดแฟนซีสร้างความสนใจแก่ประชาชนที่ผ่านไปมา


จรัล/ภาพ/ข่าว

ขุนซ่องแก่งหางแมวจันทบุรีแล้งหนัก อบต.เร่งแจกน้ำช่วยชาวบ้าน

ตำบลขุนซ่อง อำเภอแก่งหางแมวจังหวัดจันทบุรีประสบปัญหาภัยแล้งหนักราษฎรขาดน้ำ อบต.เร่งแจกจ่ายน้ำช่วยชาวบ้าน วอนหน่วยงานเกี่ยวข้องเข้าช่วยเหลือ ขณะที่จังหวัดจันทบุรีประกาศพื้นที่ประสบภัยแล้งแล้วทั้งสิ้น 43 ตำบล ใน 8 อำเภอ ได้รับผลกระทบ 389 หมู่บ้าน

ที่หมู่ 16 ตำบลขุนซ่อง อำเภอแก่งหางแมว จังหวัดจันทบุรี นายเดช จินโนรส นายกองค์การบริหารส่วนตำบลขุนซ่อง อำเภอแก่งหางแมว จังหวัดจันทบุรี นำเจ้าหน้าที่เร่งแจกจ่ายน้ำแก่ชาวบ้านที่ประสบปัญหาภัยแล้ง เนื่องจากพื้นที่ตำบลขุนซ่องทั้ง 16 หมู่บ้านได้เกิดปัญหาฝนทิ้งช่วงมายาวนานกว่า 3 เดือน ถึงแม้ปัจจุบันในพื้นที่อำเภออื่น ๆ ของจังหวัดจันทบุรีจะมีฝนตกลงมาบ้างแต่ที่อำเภอแก่งหางแมวกลับไม่มีฝนตกจึงทำให้ราษฎรได้รับผลกระทบอย่างหนัก รวมทั้งพืชสวน พืชไร่เริ่มขาดแคลนน้ำ โดยองค์การบริหารส่วนตำบลขุนซ่องจะนำรถน้ำออกแจกจ่ายน้ำเพื่อใช้ในครัวเรือนวันละ 30,000 ลิตร แต่ก็ยังไม่เพียงพอต่อความต้องการของราษฎรที่ประสบปัญหาที่มีมากถึง 4,500 ครัวเรือน ราษฎรได้รับผลกระทบกว่า 15,000 คน ขณะนี้ได้ทำเรื่องร้องขอความช่วยเหลือไปที่สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณะภัยจังหวัดจันทบุรีแล้วเพื่อให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาช่วยบรรเทาปัญหาความเดือดร้อนของราษฎรอย่างเร่งด่วน ขณะที่ ผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรี นายเกรียงเดช เข็มทอง ได้ประกาศพื้นที่ประสบภัยพิบัติภัยแล้งในจังหวัดจันทบุรีพร้อมแบ่งเขตความรับผิดชอบช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน ภัยแล้ง ครอบคลุม 8 อำเภอ รวม 43 ตำบล 389 หมู่บ้าน เพื่อเร่งให้การช่วยเหลือบรรเทาปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนที่ได้รับผลกระทบมากกว่า 1 แสนราย


จรัล/ภาพ/ข่าว

รองผู้ว่าฯฉะเชิงเทราประชุมหาแนวทางแก้ไขปัญหาภัยแล้งของเกษตรกรอำเภอบางน้ำเปรี้ยวพร้อมวางแผนระบบการบริหารจัดการน้ำเพื่อป้องกันปัญหาภัยแล้งอย่างยั่งยืน

เมื่อวันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2557 นายไพศาล วิมลรัตน์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทรา พร้อมด้วย นายเกรียงศักดิ์ รัตนกุญชลี นายอำเภอบางน้ำเปรี้ยว องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และ ส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ร่วมประชุม แก้ไขปัญหาภัยแล้งในเขตพื้นที่อำเภอบางน้ำเปรี้ยวพร้อมร่วมวางแผนระบบการบริหารจัดการน้ำเพื่อป้องกันปัญหาภัยแล้งอย่างยั่งยืน ณ เทศบาลตำบลดอนเกาะกา อำเภอบางน้ำเปรี้ยว จังหวัดฉะเชิงเทรา

นายไพศาล วิมลรัตน์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทรา กล่าวว่า พื้นที่อำเภอบางน้ำเปรี้ยวของ จังหวัดฉะเชิงเทรา นั้น เป็นพื้นที่ ในฤดูน้ำก็จะประสบปัญหาน้ำท่วมและฤดูแล้งก็จะประสบปัญหาภัยแล้ง จังหวัดฉะเชิงเทราจึงมีแผนในการช่วยเหลือประชาชน 2 ระยะ คือในระยะสั้นที่ประชาชนประสบปัญหาภัยแล้งในขณะนี้จะต้องใช้น้ำจากชลประทานในการบรรเทาทุกข์ของประชาชนไปก่อน ส่วนในระนะยาวนั้นจะมีการดำเนินการในสามระดับ ระดับแรกคือในระดับภูมิภาคจะเป็นหน้าที่ของชลประทานเป็นสำคัญ และในระดับกลางคือระดับพื้นที่ของอำเภอเอง ควรจะมีการพึ่งตัวเองมากขึ้นและระดับล่างสุดคือระดับพื้นที่ของเกษตรกรก็ควรจะมีพื้นที่เก็บกักน้ำเป็นของตัวเองไว้ใช้ในฤดูแล้ง สำหรับในวันนี้ เป็นการประชุมหารือในระดับกลางกับอำเภอและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น โดยมีแนวทางในการวางแผนระบบการบริหารจัดการน้ำเพื่อป้องกันปัญหาภัยแล้ง คือ ในช่วงฤดูน้ำนั้น พื้นที่ของอำเภอบางน้ำเปรียวจะประสบปัญหาน้ำท่วมในทุกๆปี เราจะใช้น้ำจืดที่ท่วมทุกปีนั้นนำมากักเก็บให้ได้มากที่สุดเพื่อเก็บไว้ใช้ในฤดูแล้งโดยท่านผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทราได้มีนโยบายให้ทำแก้มลิงตามธรรมชาติโดยการขยายและการขุดลอกคูคลองในพื้นที่ให้เป็นไปตามหลักวิศวะกรรมเพื่อใช้กักน้ำในช่วงน้ำท่วม โดยให้องค์กรปกครองส่วนพูดคุยกับทางอำเภอในการขุดลอกคูคลองและทำแผนให้ทางจังหวัดทราบโดยเร็วเพื่อที่จังหวัดได้นำมาบูรณาการและดำเนินงานตามยุทธศาสตร์ซึ่งคาดว่าจะลดปัญหาของประชาชนที่ประสบภัยแล้งในทุกๆปีได้



ส.ปชส.ฉะเชิงเทรา

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เปิดงาน “รวมพลัง สร้างคน สร้างงาน :แปดริ้วโมเดล ”

เมื่อวันที่ 19 ก.พ.57    นาย จาตุรนต์ ฉายแสง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการเป็นประธานในพิธีเปิดงาน"รวมพลัง สร้างคน สร้างงาน :แปดริ้วโมเดล ” ซึ่งจังหวัดฉะเชิงเทราร่วมกับหน่วยงานการศึกษา สถาบันอาชีวศึกษาและสถานประกอบการในจังหวัดฉะเชิงเทรา ร่วมกันจัดงานขึ้น โดยมี นาย อนุกูล ตังคณานุกูลชัย  ผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทรา  ผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงศึกษาธิการ ผู้นำท้องถิ่น หัวหน้าส่วนราชการ ผู้ปกครองนักเรียน ผู้บริหารสถานศึกษาและนักเรียน กว่า 1,000 คน เข้าร่วมงาน  ณ อาคารราชนครินทร์  ชั้น5   มหาวิทยาลัยราชภัฏราชนครินทร์    อำเภอเมืองฉะเชิงเทรา

สำหรับการจัดงานดังกล่าวมีวัตถุประสงค์ เพื่อแนะนำ แนะแนว ส่งเสริมและสนับสนุนให้ผู้ปกครองนักเรียน  และนักเรียนชั้นมัธยมศึกษา ปีที่ 3 และชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 เห็นความสำคัญและประโยชน์ของการเรียนต่ออาชีวศึกษา และเพื่อให้สถานประกอบการทั้งภาครัฐและเอกชน ตลอดจนองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นมีส่วนร่วม ในการจัดและสนับสนุนการศึกษาด้านอาชีวศึกษาอย่างเป็นรูปธรรมและยั่งยืน รวมทั้งเพื่อประกันคุณภาพการจัดการด้านอาชีวศึกษาให้ตอบสนองต่อตลาดแรงงานทั้งด้านปริมาณด้านคุณลักษณะที่พึงประสงค์และสร้างความมั่นใจให้แก่นักเรียนและผู้ปกครองด้านสวัสดิภาพและสวัสดิการในระหว่างกำลังเรียนสถาบันการศึกษาและการมีงานทำในอนาคต  การจัดงานในครั้งนี้มีระยะเวลา 2วัน คือวันที่ 19 -20 กุมภาพันธ์ 2557 กิจกรรมภายในงานประกอบด้วย การแนะแนวด้านการศึกษาต่อการสำรวจความต้องการ และความสนใจการศึกษาต่ออาชีวศึกษา  ตลอดจนมีการทดสอบความรู้ความสามารถวัดแววอาชีพ  เกี่ยวกับความถนัดและการเรียนต่ออาชีวศึกษา   การจัดนิทรรศการ 9 เมืองสาขาอาชีพ  การลงนามความเข้าใจและข้อตกลงร่วมกัน(MOU)ระหว่าง สถาบันอาชีวศึกษา กับสถานประกอบการต่างๆ และการเสวนาทางวิชาการเรื่อง"การศึกษา สร้างคน สร้างงาน :แปดริ้วโมเดล ”



ชาญณรงค์/ข่าวภาพส.ปชส.เชิงเทรา

สำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดฉะเชิงเทรา จัดสัมมนา “การจัดการกากอุตสาหกรรม ”

วันนี้ (20 ก.พ.57)  นายไพศาล  วิมลรัตน์   รองผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทราเป็นประธานในพิธีเปิดและอบรมสัมมนาเรื่อง"การจัดการกากอุตสาหกรรม" พร้อมมอบแนวทางการจัดการกากของเสียอุตสาหกรรม  โดยมี นาย ประกอบ วิวิธจินดา อุตสาหกรรมจังหวัดฉะเชิงเทรา  ให้การต้อนรับและกล่าวรายงาน  พร้อมด้วย ผู้แทนจากหน่วยงานราชการ ผู้ประกอบการและผู้ที่เกี่ยวข้อง เข้ารับการสัมมนากว่า 80 คน ณ โรงแรมแกรนด์ รอยัล พลาซ่า อำเภอเมืองฉะเชิงเทรา

นายไพศาล  วิมลรัตน์   รองผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทรา กล่าวว่า จังหวัดฉะเชิงเทราเป็นจังหวัดที่มีโรงงานอุตสาหกรรมประเภทต่างๆ เป็นจำนวนมากประมาณ 1,800 กว่าโรงงานซึ่งส่วนใหญ่เป็นโรงงานอุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์โลหะ รองลงมาเป็นอุตสาหกรรมเกษตร และอุตสาหกรรมขนส่ง  ดังนั้น  จากปัญหามลพิษอุตสาหกรรมอันเกิดจากการลักลอบทิ้งกากอุตสาหกรรมในพื้นที่จังหวัดฉะเชิงเทรา อาจมาจากโรงงานในพื้นที่จังหวัดฉะเชิงเทรา หรือจังหวัดใกล้เคียง การจัดสัมมนาเชิงปฏิบัติการในครั้งนี้จะเป็นประโยชน์ต่อ หน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องต้องช่วยกันบริหารจัดการทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ ตลอดจนการวางแผนดูแลและป้องกันการลักลอบทิ้งกากของเสียอุตสาหกรรม   เป็นไปอย่างถูกต้องเหมาะสมตามหลักวิชาการไม่ก่อให้เกิดปัญหาหรือมลภาวะต่อชุมชนจังหวัดฉะเชิงเทรา

ด้านนายประกอบ  วิวิธจินดา อุตสาหกรรมจังหวัดฉะเชิงเทรา กล่าวว่า ปัจจุบันปัญหาการลักลอบทิ้งกากอุตสาหกรรมได้เกิดขึ้นในหลายพื้นที่ รวมถึงจังหวัดฉะเชิงเทราได้มีการลักลอบทิ้งกากของเสียอุตสาหกรรมในพื้นที่เป็นจำนวนมาก โดยกากอุตสาหกรรมส่วนใหญ่มาจากโรงงานอุตสาหกรรม มีทั้งรูปของเหลวและของแข็งแบบที่เป็นอันตรายและไม่เป็นอันตรายซึ่งส่งผลกระทบต่อประชาชนเป็นจำนวนมากทั้งด้านสุขภาพอนามัย และด้านความเป็นอยู่ของชุมชนในพื้นที่นั้นและจากปัญหามลพิษอุตสาหกรรมที่เกิดจากการลักลอบทิ้งกากอุตสาหกรรมในพื้นที่จังหวัดฉะเชิงเทรา  สำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดฉะเชิงเทราได้ให้ความสำคัญกับเรื่องดังกล่าว ในการให้ความรู้กับทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องตระหนักถึงความอันตรายที่อาจเกิดขึ้นจากกากของเสียอุตสาหกรรม รวมทั้งการบริหารและการจัดการทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ ตลอดจนการวางแผนดูแลและป้องกันการลักลอบทิ้งกากของเสียอุตสาหกรรม



ชาญณรงค์/ข่าวอมรเทพ/ภาพ

จังหวัดฉะเชิงเทรา จัดหน่วยบริการเคลื่อนที่ออกให้บริการบำบัดทุกข์ บำรุงสุข สร้างรอยยิ้มให้ประชาชน

วันนี้ (20 ก.พ. 57)  นายอนุกูล ตังคณานุกูลชัย ผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทรา พร้อมด้วย นายนิคม ไวยรัชพานิช ประธานวุฒิสภา นายบัณฑิตย์ เทวีทิวารักษ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทรา นายเริงศักดิ์มหาวินิจฉัยมนตรี ผู้ชำนาญการด้านการเมืองการปกครองประจำวุฒิสภา หัวหน้าส่วนราชการ หน่วยงานรัฐวิสาหกิจ ภาคเอกชน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และผู้นำชุมชน ออกเยี่ยมเยียนพบปะประชาชนในพื้นที่ห่างไกล ตามโครงการ"หน่วยบำบัดทุกข์ บำรุงสุข สร้างรอยยิ้มให้ประชาชน” (โครงการจังหวัดเคลื่อนที่ ) ณ วัดเทวารุทธาราม ตำบลคลองเขื่อน อำเภอคลองเขื่อน จังหวัดฉะเชิงเทรา พร้อมนำบริการเคลื่อนที่ของหน่วยงานต่าง ๆ ไปให้บริการพี่น้องประชาชนและเพื่อให้ส่วนราชการ ได้มีโอกาสพบปะประชาชนในท้องที่ พร้อมแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนและหาทางช่วยเหลือในเบื้องต้นซึ่งเป็นไปตามนโยบายของรัฐบาลและของจังหวัดฉะเชิงเทรา

โอกาสนี้ผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทราได้นำข้าราชการและประชาชน กล่าวคำปฏิญาณเทิดทูนสถาบันของชาติ ต่อหน้าพระบรมสาทิสลักษณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ พร้อมร่วมร้องเพลงสรรเสริญพระบารมีและสดุดีมหาราชา เพื่อเป็นการแสดงออกถึงความจงรักภักดี พร้อมกันนี้ผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทรา ได้กล่าวฝากถึงแนวทางการดำเนินชีวิตที่จะทำให้เกิดความร่มเย็นเป็นสุขในหมู่บ้าน/ชุมชน คือ ความจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ ความสามัคคี การเคารพนับถือผู้สูงอายุ การสร้างความอบอุ่นแก่ครอบครัว การช่วยกันป้องกันแก้ไขปัญหายาเสพติด การดูแลรักษาสุขภาพให้ปลอดภัยจากโรคภัยไข้เจ็บต่าง ๆ รวมถึงการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม สำหรับโครงการจังหวัดเคลื่อนที่ยังได้จัดประชุมเสวนาเวทีนี้มีคำตอบ เพื่อเป็นการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนให้มีประสิทธิภาพเพิ่มมากขึ้นรวมทั้งได้มีการมอบทุนการศึกษาแก่เด็กนักเรียนยากจน มอบอุปกรณ์กีฬาและหนังสือเผยแพร่ความรู้เกี่ยวกับสหกรณ์ แก่โรงเรียนในพื้นที่ มอบเงินสงเคราะห์ครอบครัวผู้มีรายได้น้อยและไร้ที่พึ่ง มอบถุงยังชีพ เครื่องอุปโภคและบริโภคกับราษฎรที่ยากจน และโอกาสเดียวกันนี้ ผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทรา ประธานวุฒิสภาและหัวหน้าส่วนราชการ ได้ร่วมกันปลูกต้นไม้ และเยี่ยมชมกิจกรรมการให้บริการที่ส่วนราชการต่าง ๆ ได้มาร่วมกันจัดกิจกรรมให้บริการประชาชนอีกด้วย



 ส.ปชส.ฉะเชิงเทรา