วันจันทร์ที่ 26 พฤษภาคม พ.ศ. 2557

กองพลทหารราบที่ 11 จังหวัดฉะเชิงเทรา จัดตั้งศูนย์ประสานงานรักษาความสงบเรียบร้อยในพื้นที่จังหวัดฉะเชิงเทรา

กองพลทหารราบที่ 11 ค่ายสมเด็จพระนั่งเกล้า บูรณาการร่วมกับจังหวัดฉะเชิงเทรา  กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดฉะเชิงเทรา จัดตั้งศูนย์ประสานงานรักษาความสงบเรียบร้อยในพื้นที่จังหวัดฉะเชิงเทรา  ณ  กองพลทหารราบที่ 11 ค่ายสมเด็จพระนั่งเกล้า  อำเภอเมืองฉะเชิงเทรา  เพื่อให้เกิดความสงบเรียบร้อยในพื้นที่จังหวัดฉะเชิงเทรา โดยมี พ.อ. ณรงค์  พฤกษารุ่งเรือง  รองผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 11 ประชุมชี้แจงแนวทางการประชาสัมพันธ์เพื่อประสานงานและให้ความช่วยเหลือประชาชน ในพื้นที่จังหวัดฉะเชิงเทรา  โดยมีนาย อุทิศ วงศ์มาก ประชาสัมพันธ์จังหวัดฉะเชิงเทรา   นายปริญญาพล  อุทยาภรณ์  ป้องกันจังหวัดฉะเชิงเทรา  พ.อ.วุฒิชัย เจริญรื่น หัวหน้ากลุ่มงานข่าว กอ.รมน.ฉะเชิงเทรา  ตำรวจภูธรจังหวัดฉะเชิงเทรา และผู้เกี่ยวข้อง เข้าร่วมประชุม เพื่อรับทราบแนวทางในการประชาสัมพันธ์ข้อมูลข่าวสารให้ประชาชนได้รับทราบ

พ.อ. ณรงค์  พฤกษารุ่งเรือง  รองผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 11 กล่าวว่า เพื่อเป็นการรักษาความสงบเรียบร้อย ให้ประชาชนสามารถดำเนินชีวิตและประกอบอาชีพได้ตามปกติ ในสถานการณ์ดังกล่าวภายหลังการประกาศกฎอัยการศึก กองพลทหารราบที่ 11 จึงได้จัดตั้งศูนย์ประสานงานรักษาความสงบเรียบร้อยในพื้นที่จังหวัดฉะเชิงเทรา  ณ  กองพลทหารราบที่ 11 ค่ายสมเด็จพระนั่งเกล้า  อำเภอเมืองฉะเชิงเทรา  เพื่อให้เป็นศูนย์ประชาสัมพันธ์เพื่อประสานงานและช่วยเหลือประชาชน ในกรณีต่าง ๆ ที่ประชาชนไม่ได้รับความสะดวก  ทั้งนี้ สามารถติดต่อประสานงานและขอรับการช่วยเหลือ ได้ที่ กองพลทหารราบที่ 11 ค่ายสมเด็จพระนั่งเกล้า  ศูนย์ประสานงานรักษาความสงบเรียบร้อยในพื้นที่จังหวัดฉะเชิงเทรา โทรศัพท์ 038-981702 และ038- 981707 โดยสามารถติดต่อประสานงานได้ จนกว่าสถานการณ์จะกลับเข้าสู่ภาวะปกติ



ชาญณรงค์/ข่าว
ธนภัทร/ภาพ
ส.ปชส.ฉะเชิงเทรา

ธ.ก.ส.ฉะเชิงเทรา เร่งจ่ายเงินชาวนาที่ยังคงค้างตามคำสัง คสช.

ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตรจังหวัดฉะเชิงเทรา พร้อมจ่ายเงินโครงการจำนำข้าวปี 25576/57 ภายใต้คำสั่ง ค.ส.ช.ให้แก่เกษตรกรจังหวัดฉะเชิงเทรา ที่ยังไม่ได้รับเงินจากโครงการรับจำนำข้าวจำนวน 1,335 ราย เป็นเงิน 308,875,217 บาท

นายชัยชนะ วาระเพียง ผู้อำนวยการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ฉะเชิงเทรากล่าวว่าธนาคาร ธ.ก.ส. ได้จัดสรรเงินงบประมาณให้กับสำนักงาน ธ.ก.ส. จังหวัดฉะเชิงเทราจำนวน 70 ล้านบาท เพื่อจ่ายให้กับเกษตรกรชาวนาที่ยังไม่ได้รับเงินตามโครงการรับจำนำข้าว ปี 2556/57 ซึ่งสำนักงาน ธ.ก.ส. จังหวัดฉะเชิงเทรามียอดค้างจ่ายอยู่ทั้งสิ้น 1,335 ราย เป็นจำนวนเงินทั้งสิ้น 308,875,217 บาท โดย โดยวันนี้เป็นวันแรกในการเริ่มดำเนินการจัดสรรเงินให้กับธนาคาร ธ.ก.ส. ในสังกัด 5 สาขาที่ยังมีเงินค้างจ่ายกับเกษตรอยู่ โดยเงินงบประมาณชุดแรก 70 ล้านนี้ จะดำเนินเร่งให้ธนาคาร ธ.ก.ส. สาขาต่างๆจ่ายให้เกษตรกรเสร็จให้หมดภายในวันที่ 28 พฤษภาคม 2557

นายชัยชนะ วาระเพียง ผู้อำนวยการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร ฉะเชิงเทรา กล่าวเพิ่มเติมว่า เกษตรกรที่ไปติดต่อขอรับเงินค่าจำนำข้าววันนี้มีความพึงพอใจอย่างมากและขอขอบคุณคณะรักษา ความสงเรียบร้อยแห่งชาติในการดำเนินการจัดสรรเงินงบประมาณมาให้ โดยเกษตรกรที่มาติดต่อรับเงิน นั้นจะได้นำไปเป็นค่าใช้จ่ายในการทำนา ฤดูกาลใหม่ และค่าใช้จ่ายในครอบครัวต่างๆ และ สำหรับเกษตรที่ยังไม่ได้รับเงินจากโครงการรับจำนำข้าวที่เหลือ ธนาคาร ธ.ก.ส. จังหวัดฉะเชิงเทรา จะเร่งดำเนินการจ่ายให้แล้วเสร็จภายในสิ้นเดือน มิถุนายน 2557



ส.ปชส.ฉะเชิงเทรา

ประกาศจังหวัดระยอง เรื่อง ข้อยกเว้นการห้ามออกนอกเคหะสถานของผู้ที่ทำงานเป็นห้วงเวลาหรือเป็นผลัดและผู้ส่งสินค้าทางเกษตรและประมง ที่อาจทำให้เกิดเสียหาย ตามประกาศของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ

นายวิชิต ชาตไพสิฐ ผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง เปิดเผยว่า ตามที่ได้มีประกาศห้ามบุคคลออกนอกเคหะสถาน ตามประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ฉบับที่ ๓/๒๕๕๗ และฉบับที่ ๘/๒๕๕๗ ลงวันที่ ๒๒พฤษภาคม พุทธศักราช ๒๕๕๗ ซึ่งกำหนดไว้ในห้วงเวลา ๒๒.๐๐ น. ถึง ๐๕.๐๐ น. นั้น

เพื่อบรรเทาผลกระทบต่อการประกอบอาชีพในห้วงเวลาที่ห้ามออกนอกเคหะสถานซึ่งกำหนดไว้ในห้วงเวลา ๒๒.๐๐ น. ถึง ๐๕.๐๐ น. จึงให้หน่วยงาน/องค์กร ดำเนินการดังนี้

 ๑. ผู้ที่ต้องปฏิบัติงานในสถานประกอบการ ที่ต้องปฏิบัติเป็นห้วงเวลาหรือเป็นผลัด ให้ผู้ประกอบการออกเอกสารรับรองการทำงานในห้วงเวลาการห้ามมิให้บุคคลออกนอกเคหะสถานดังกล่าวแก่พนักงาน เพื่อใช้แสดงตนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่หากมีการตรวจสอบ

๒. ผู้ที่ต้องขนส่งสินค้าทางการเกษตรหรือประมง ที่มีอายุจำกัดและอาจเกิดความเสียหาย ให้แจ้งข้อมูลการขนส่งสินค้าดังกล่าว ณ. สำนักงานเกษตรอำเภอหรือสำนักงานประมงอำเภอต้นทางแล้วแต่กรณี เพื่อใช้แสดงต่อพนักงานเจ้าหน้าที่หากมีการตรวจสอบ

ทั้งนี้ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป
ประกาศ ณ. วันที่ ๒๓ พฤษภาคม ๒๕๕๗
นายวิชิต ชาตไพสิฐ
ผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง

ตร.สภ.เพ รวบแก๊งชาวเขมรเอเย่นค้ายาบ้า

เมื่อเวลา 17.00 น.วันที่ 26 พ.ค.ที่ สภ.เพ อ.เมืองระยอง พล.ต.ต.สมนึก บุรมิ ผบก.ภ.ระยอง พร้อมด้วย พ.ต.อ.อภิชาติ ไชยบุญเรือง ผกก.สภ.เพ พ.ต.ท.ชัยพงษ์ แสงพงษ์ชัย รอง ผกก.สส.สภ.เพ พ.ต.ท.ไพทูรย์ ปาปะคัง รอง ผกก.ป.สภ.เพ และพ.ต.ท.อำนาจ ภูษิต สว.สส.สภ.เพ แถลงข่าวจับกุมแก๊งค้ายาบ้าชาวกัมพูชาเอเย่นค้ายาบ้าในพื้นที่ ได้ผู้ต้องหา 3 ราย ประกอบด้วย นางดา ไม่มีนามสกุล อายุ 39 ปี นายเก้า ไม่มีนามสกุล อายุ 40 ปี และนายเซ่งตรวน ไม่มีนามสกุล อายุ 53 ปี พร้อมของกลางยาบ้า 8,150 เม็ด รถจักรยานยนต์ หมายเลขทะเบียน ขธก 875 ระยอง ปืนปากกาไทยประดิษฐ์ จำนวน 2 กระบอก และเครื่องกระสุนขนาด.22จำนวน 36 นัด และ.38 จำนวน 14 นัด

ทั้งนี้สืบเนื่องจาก เมื่อเวลา 14.00 น.วันที่ 26 พ.ค.พ.ต.ท.ชัยพงษ์ แสงพงษ์ชัย รอง ผกก.สส.สภ.เพพ.ต.ท.ไพทูรย์ ปาปะคัง รอง ผกก.ป.สภ.เพ และพ.ต.ท.อำนาจ ภูษิต สว.สส.สภ.เพ พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนจำนวนหนึ่ง ได้ร่วมกันจับกุมนางดา ไม่มีนามสกุล ชาวกัมพูชา พร้อมของกลางยาบ้า จำนวน 5 เม็ด หลังลักลอบนำยาบ้ามาจำหน่ายในพื้นที่ สภ.เพ จึงนำตัวมาสอบสวนขยายผล และรับว่ารับยาบ้ามาจากนายเก้า คนสัญชาติเดียวกัน จึงได้ติดต่อล่อซื้อ จากนายเก้าโดยนัดหมายให้นายเก้ามาส่งยาบ้าให้ที่ห้องเช่าหลังอู่ตาดำ ม.5 ต.เพ จำนวน 50 เม็ด เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงแสดงตัวจับกุมได้พร้อมของกลางยาบ้า 100 เม็ด ก่อนจะนำตัวไปค้นห้องพัก ที่บ้านเช่าไม่มีเลขที่ ต.ปากน้ำ อ.เมืองระยอง พบเห็นนายเซ็งตรวน อยู่ในห้องเช่าดังกล่าว และได้ตรวจยึดยาบ้าอีกจำนวน 8,000 เม็ด พร้อมของกลางปืนปากกา รถจักรยานยนต์ และเครื่องกระสุนปืนไว้เป็นหลักฐาน

สอบสวนผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า รับยาบ้าจำนวนดังกล่าวมาจากเครือข่ายชาวกัมพูชาด้วยกัน โดยจะลำเลียงมาทางเรือ ก่อนจะลักลอบจำหน่ายให้กับวัยรุ่นให้กับวัยรุ่น และแรงงานภาคประมงด้วยกันในพื้นที่ อ.เมืองระยอง ในราคาเม็ดละ 120 บาท เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งข้อหา "พยายามจำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1(ยาบ้า) โดยผิดกฎหมาย และร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1(ยาบ้า) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย และมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต” ส่งตัวให้พนักงานสอบสวน สภ.เพ ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป



วฐิต กลางนอก/ข่าว

ระยอง น่าจะเป็นน้ำเสียจากโรงงานแห่งนี้ที่แอบปล่อยช่วงที่มีฝนตกเมื่อวานนี้

หน่วยงานที่เกี่ยวข้องในจังหวัดระยอง เก็บตัวอย่างน้ำเสียไปตรวจพิสูจน์ หลังได้รับการร้องเรียนว่าโรงงานแห่งหนึ่งในพื้นที่ ต.หนองบัว อ.บ้านค่าย ลักลอบปล่อยน้ำเสียลงคลองสาธารณะ วันที่ 27 พ.ค. 57  นายอารยะ เนตรวงศ์ นายสราวุธ พรทิพย์ วิศวกรประจำสำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดระยอง นายทิวัตน์ รัตนเกตุ สาธารณสุขอำเภอบ้านค่าย จังหวัดระยอง นายสำเริง บุรุษโชติ สมาชิกองค์การบริหารส่วนตำบลหนองบัว หมู่ 2 นายเสนาะ บุญปลื้ม ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 2 และผู้แทนจากฝ่ายสิ่งแวดล้อม องค์การบริหารส่วนตำบลหนองบัว จังหวัดระยอง ได้เข้าเก็บตัวอย่างน้ำเสียในโรงงานไทยเปเปอร์มิลล์ จำกัด (โรงงานรีไซเคิลกระดาษ)

ซึ่งตั้งอยู่ที่ 66 หมู่ 3 ตำบลหนองบัว อำเภอบ้านค่าย จังหวัดระยอง ที่บริเวณปลายท่อระบบบำบัดน้ำเสีย 1 จุด และ ที่บริเวณหน้าฝายของโรงงานดังกล่าว เพื่อนำไปตรวจพิสูจน์ที่ศูนย์วิจัยและพัฒนาสิ่งแวดล้อมภาคตะวันออกของกรมโรงงาน หลังได้รับการร้องเรียนจากชาวบ้านว่าโรงงานแอบปล่อยน้ำเสียช่วงฝนตกเมื่อวานนี้ จนน้ำในคลองใหญ่ ที่ไหลผ่านชุมชนบ้านหนองกรับหมู่ 2 – 3 ตำบลหนองบัว อำเภอบ้านค่าย ขุ่นมีสีดำ และมีกลิ่นเหม็น โดยมีนายวีระ ศรีรัตนโช ผู้จัดการฝ่ายบุคคลของโรงงานกระดาษแห่งหนึ่งที่ถูกระบุว่าปล่อยน้ำเสีย ร่วมสังเกตการณ์ นายสำเริง บุรุษโชติ สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนตำบลหนองบัว เปิดเผยว่า ตั้งแต่ช่วงเช่าของวันนี้ (23 พฤษภาคม) ได้รับการร้องเรียนจากชาวบ้านหมู่ 2 - 3 และพบว่าน้ำในคลองใหญ่ช่วงหลังวัดหนองกรับซึ่งเป็นคลองสาธารณะที่ชาวบ้านใช้อุปโภคบริโภคและการเกษตร มีลักษณะขุ่นดำและมีกลิ่นเหม็นรบกวนจนชาวบ้านในพื้นที่เดือดร้อนไม่สามารถนำน้ำในคลองไปใช้ และโดยเฉพาะอย่างยิ่งคลองแห่งนี้เป็นต้นน้ำที่นำมาผลิตน้ำประปาในจังหวัดระยอง น่าจะเป็นน้ำเสียจากโรงงานแห่งนี้ที่แอบปล่อยช่วงที่มีฝนตกเมื่อวานนี้              

ทางด้านนายอารยะ เนตรวงศ์ วิศวกรประจำสำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดระยอง เปิดเผยว่า ทางเจ้าหน้าที่ยังไม่สามารถจะระบุชัดได้ว่าโรงงานแห่งนี้เป็นต้นเหตุของน้ำในคลองดำ เนื่องจากต้องรอผลการพิสูจน์หาค่าของตัวอย่างน้ำเสียที่เก็บมาจากโรงงานก่อน คาดว่าจะใช้เวลาสักระยะหนึ่ง อย่างไรก็ตามหลังจากที่ได้ดำเนินการเก็บตัวอย่างน้ำเป็นที่เรียบร้อย ผู้เกี่ยวข้องทั้งหมดได้ร่วมทำบันทึกข้อเท็จจริงการเก็บตัวอย่างน้ำไว้เป็นหลักฐานทั้ง 2 จุด โดยนายวีระ ศรีรัตนโช ผู้จัดการฝ่ายบุคคลของโรงงาน กล่าวว่า ในเบื้องต้นคงต้องให้ความเป็นธรรมแก่โรงงาน และขอให้รอผลตรวจสอบค่าขอน้ำก่อนที่จะหาว่าโรงงานเป็นต้นเหตุ




วฐิต /ข่าว

ศูนย์อนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 1 จังหวัดระยอง เตรียมจัดงานวันทะเลโลก ประจำปี 2557 มุ่งเน้นให้ประชาชนตระหนักหวงแหน และอนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเล

วันที่ 27 พ.ค.2557 นายภุชงค์ สฤษฎีชัยกุล ผู้อำนวยการศูนย์อนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 1 จังหวัดระยอง เป็นประธานในการประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เตรียมจัดงานวันทะเลโลก ประจำปี 2557 ซึ่งงานวันดังกล่าวจะจัดขึ้นในวันที่ 8 มิถุนายนนี้ ณ บริเวณลานเอนกประสงค์ท่าเรียบเรือและศูนย์บริการนักท่องเที่ยวเทศบาลบ้านเพ อ.เมืองระยอง โดยงานจะเริ่มตั้งเวลา 08.00 น.เป็นต้นไป ภายในงานจะจัดให้มีกิจกรรมที่เกี่ยวกับการอนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเล ประกอบด้วย การดำน้ำเก็บขยะ เก็บขยะชายหาด ปล่อยปูทะเล ปล่อยพันธุ์สัตว์น้ำ มอบพันธุ์กล้าไม้ ทำหญ้าเทียม มอบทุ่นผูกเรือ มอบโล่ชุมชนอนุรักษ์ต้นแบบ และนิทรรศการจากหน่วยงานราชการและภาคเอกชน ที่เกี่ยวกับการอนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเล

นายภุชงค์ กล่าว กิจกรรมที่จัดขึ้นในเนื่องวันทะเลโลกดังกล่าว นอกจากศูนย์อนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 1 จังหวัดระยอง ที่เป็นแม่งานหลักแล้ว ยัง มีหน่วยงานเข้าร่วมกิจกรรมอีกหลายหน่วยงานประกอบด้วย ศูนย์วิจัยและพัฒนาทรัพยากรทะเลและชายฝั่งอ่าวไทยตะวันออก ศูนย์วิจัยและพัฒนาประมงอ่าวไทยฝั่งตะวันออก ศูนย์วิจัยและพัฒนาประมงชายฝั่งระยอง สถานีวิจัยและพัฒนาประมงชายฝั่งระยอง อุทยานแห่งชาติเขาแหลมหญ้า เกาะเสม็ด สวนพฤกษาศาสตร์ระยอง และบ้านเพ ทั้งนี้งานที่จัดขึ้นมุ่งเน้นให้ผู้เข้าร่วมงานประชาชน ชาวประมงในพื้นที่ได้ตระหนักหวงแหนและการอนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเล





วฐิต /ข่าว

จ.ตราด จัดกิจกรรมปฏิบัติธรรมถวายเป็นพุทธบูชา เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

(25  พ.ค. 57) นางสาวเบญจวรรณ  อ่านเปรื่อง ผู้ว่าราชการจังหวัดตราด พร้อมด้วยนายวิเชียร  ทรัพย์เจริญ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดตราด นำพุทธศาสนิกชนหลายร้อยคนที่เข้าร่วมกิจกรรมปฏิบัติธรรมถวายเป็นพุทธบูชาเนื่องในวันวิสาขบูชาและเฉลิมพระเกียรติพระบาทมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ร่วมทำบุญตักบาตร ข้าวสาร อาหารแห้ง ปัจจัย ซึ่งเป็นอีกกิจกรรมหนึ่งของกิจกรรมปฏิบัติธรรมถวายเป็นพุทธบูชา จัดขึ้นที่ที่พุทธมณฑลตราด

พระบุรพเขตธรรมคณี เจ้าคณะจังหวัดตราด กล่าวว่า การจัดกิจกรรมปฏิบัติธรรมในครั้งนี้คณะสงฆ์จังหวัดตราดร่วมกับจังหวัดตราด องค์การบริหารส่วนจังหวัดตราด ร่วมกันจัดขึ้น เพื่อถวายเป็นพุทธบูชาเนื่องในวันวิสาขบูชา ประจำปี 2557  และร่วมถวายเป็นพระราชกุศลแด่ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ซึ่งมีทั้งพระภิกษุสงฆ์ อุบาสกอุบาสิกา ทั้งจากจังหวัดตราดและจังหวัดอื่น ๆ เข้าร่วมปฏิบัติธรรมรวม 2 วันหลายร้อยคน ทั้งนี้ก็เพื่อให้พุทธศาสนิกชน คนไทยทุกหมู่เหล่า ได้ทำความดีอย่างเหมาะสมในเทศกาลสำคัญสากล รวมถึงได้แสดงความจงรักภักดีต่อสถาบันพระมาหกษัตริย์อีกด้วย

วิทยาลัยชุมชนตราด เชิญชวนผู้สนใจร่วมงาน “วิทยานิทรรศน์ @ วิทยาลัยชุมชนตราด” ครั้งที่ 2

( 25 พ.ค. 57 ) นางกรรณิกา  สุภาภา ผู้อำนวยการวิทยาลัยชุมชนตราด เปิดเผยว่า วิทยาลัยชุมชนตราด กำหนดจัดงาน "วิทยานิทรรศน์ @ วิทยาลัยชุมชนตราด” ครั้งที่ 2 ขึ้น ในวันอาทิตย์ที่ 29 มิถุนายน 2557 ณ วิทยาลัยชุมชนตราด ถนนสุขุมวิท (ช่วงตราด – คลองใหญ่) ตำบลเนินทราย อำเภอเมืองตราด ทั้งนี้เพื่อแสดงผลงานการศึกษาค้นคว้า สิ่งประดิษฐ์ที่เกิดจากผลึกแห่งความรู้ ความคิดสร้างสรรค์ ของนักศึกษาวิทยาลัยชุมชนตราดเพื่อเผยแพร่ผลงานสู่ชุมชน และประชาชน และสามาราถนำไปปรับใช้ให้เป็นประโยชน์ นอกจากนี้ยังมีกิจกรรม การประกวด และการแข่งขันต่าง ๆ อาทิ การแซววาที การประกวดแฟชั่นโชว์ชุดอาเซียน การประกวดการแสดงความสามารถพิเศษ การประกวดโครงงานวิทยาศาสตร์ การแข่งขันครอสเวิร์ด และการนำเสนอสินค้าชุมชน เป็นต้น  วิทยาลัยชุมชนตราดจึงขอเชิญชวนประชาชน เยาวชนผู้สนใจร่วมงานในวันดังกล่าวตั้งแต่เวลา 09.00 น. เป็นต้นไป

ผู้แทน ผบ.ทบ. รดน้ำศพ พร้อมให้ความช่วยเหลือครอบครัว อาสาสมัครทหารพรานนิวิกโยธินที่เสียชีวิตจากการปฏิบัติหน้าที่ด้านความมั่นคง ในพื้นที่จังหวัดตราด

(26 พ.ค. 57) ที่ศาลาการเปรียญ วัดไผ่ล้อม อำเภอเมืองตราด พลตรี กนิษฐ์ ชาญปรีชญา จากกรมทหารราบที่ 21 รักษาพระองค์ ในฐานะผู้แทนผู้บัญชาการทหารบก พร้อมด้วย พลเรือตรี สานนท์ ผะเอม รองผู้บัญชการป้องกันชายแดนจันทบุรีและตราด นางสาวเบญจวรรณ อ่านเปรื่อง ผู้ว่าราชการจังหวัดตราด ตลอดจนกำลังหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินตราด ชุดควบคุมทหารพรานนาวิกโยธินที่ 1 ร่วมกันประกอบพิธีรดน่ำศพอาสาสมัครทหารพราน วุฒินันท์ ศรีประสิทธิ์ อาสามัครจากชุดควบคุมทหารพรานนิวิกโยธินที่ 1 ซึ่งเสียชีวิตเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา จากเหตุประทะกับคนร้ายคดี ด้านความมั่นคงในพื้นที่ ในพื้นที่หมู่ที่ 3 ตำบลประณีต อำเภอเขาสมิง จังหวัดตราด ท่ามกลางบรรยากาศที่โศกเศร้าของเพื่อนร่วมงาน

ทั้งนี้เหตุดังกล่าวเกิดขึ้นขณะที่กำลังเจ้าหน้าที่ทหารล้อมจับผู้ต้องหาคดีด้านความมั่นคง ในกรณีเหตุปาระเบิด และยิงถล่มเวที กปปส.ตราด ที่ตลาดสด ยิ่งเจริญ ตำบลแสนตุ้ง โดยคนร้ายปาระเบิดและใช้อาวุธปืนยิงเข้าใส่เวทีชุมนุม เวที กปปส.จังหวัดตราด ถูกเมื่อคืนวันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2557 ทำให้มีผู้เสียชีวิต 3 ราย และบาดเจ็บหลายสิบราย ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ได้สืบทราบว่าผู้ต้องหาได้มาหลบซ่อนตัวที่ตำบลประณีต จึงได้ล้อมเข้าจับกุมจนกระทั่งอาสาสมัครทหารพราน วุฒินันท์ ศรีประสิทธิ์ เสียชีวิตจากเหตุการณ์ดังกล่าว อย่างไรก็ตามทางหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้อง ได้เร่งให้ความช่วยเหลือครอบครัวของ อาสาสมัครทหารพรานที่เสียชีวิตรายนี้แล้ว

ศูนย์ราชการุณย์สภากาชาดไทย เขาล้าน จังหวัดตราด จัดงานวันสถาปนาศูนย์ราชการุณย์ฯ ครบ 35 ปี

(26 พ.ค. 57) นายสุรพงษ์ ลิ้มพานิช ผู้ช่วยเหรัญญิกสภากาชาดไทย เป็นประธานในการบำเพ็ญกุศลครบรอบ 35 ปี วันสถาปนาศูนย์ราชการุณย์ สภากาชาดไทย เขาล้าน โดยมีนางสาวเบญจวรรณ อ่านเปรื่อง ผู้ว่าราชการจังหวัดตราด พร้อมด้วยส่วนราชการ และประชาชนในพื้นที่เข้าร่วม ที่อาคารรสสุคนธ์ ภายในศูนย์ราชการุณย์สภากาชาดไทยเขาล้าน จังหวัดตราด

ผู้ช่วยเหรัญญิกสภากาชาดไทย กล่าวว่า ศูนย์ราชการุณย์สภากาชาดไทย ถือกำเนิดเมื่อวันที่ 26 พฤษภาคม 2522 โดยพระราชเสาวนีย์ของสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินีนาถ สภานายิกาสภากาชาดไทย ที่ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณพระราชทานความช่วยเหลือแก่ชาวกัมพูชาที่อพยพเข้ามาจำนวนนับแสนคน เพื่อหนีภัยสงครามภายในประเทศกัมพูชาเข้ามาพึ่งพระบรมโพธิสัมภาร โดยในทุกๆ ปี สภากาชาดไทยได้จัดให้มีการบำเพ็ญกุศล เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลและระลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ท่าน โดยนอกจากการบำเพ็ญกุศลแล้ว ยังมีกิจกรรมการจัดแสดงนิทรรศการถาวรพระราชกรณียกิจของสมเด็จพระนางเจ้าฯ เมื่อครั้งเสด็จเยี่ยมผู้อพยพชาวกัมพูชาในสมัยนั้นอีกด้วย

ทอดผ้าป่ามหากุศล สมทบการจัดสร้างพระพุทธเมตตาวัดเทพประทาน อ.สอยดาว

องคมนตรีเป็นประธานนำข้าราชการ พ่อค้า ประชาชนร่วมทอดผ้าป่ามหากุศลสมทบการจัดสร้างพระสมเด็จองค์ปฐม พระพุทธเมตตา วัดเทพประทาน อำเภอสอยดาว จังหวัดจันทบุรี

เมื่อวานนี้ ( 25 พ.ค.57 )ที่วัดเทพประทาน อำเภอสอยดาว จังหวัดจันทบุรี พลอากาศเอก ชลิต พุกผาสุก องคมนตรี ประธานคณะกรรมการจัดสร้าง พระพุทธรูปสมเด็จองค์ปฐม พระพุทธเมตตา ได้เป็นประธานทอดผ่าปามหากุศล เพื่อรวบรวมปัจจัยสมทบการจัดสร้างพระสมเด็จองค์ปฐม น้อมเกล้าถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ โดยมีคณะกรรมการจากภาครัฐและเอกชน รวมทั้งผู้มีจิตศรัทธา ร่วมพิธีจำนวนมาก อาทิ ข้าราชการกระทรวงมหาดไทยนำโดยนายเกรียงเดช เข็มทอง ผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรี นายอภินันท์ จันทรังษี อธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ กองทัพอากาศ กองทัพเรือ สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย สมาคมสถาบันอุดมศึกษาเอกชนแห่งประเทศไทย ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และร่วมบริจาคทรัพย์เพื่อเป็นปัจจัยสมทบการจัดสร้างพระสมเด็จองค์ปฐม พระพุทธเมตตา นิลรัตนะ ขนาดหน้าตักกว้าง  29 เมตร สูง 45 เมตรที่จะประดิษฐาน ณ วัดเทพประทานพร อำเภอสอยดาว จังหวัดจันทบุรีเพื่อสืบอายุพระพุทธศาสนา ปกป้องคุ้มครองประเทศชาติให้มีความสงบสุขร่มเย็นรวมทั้งเป็นอนุสรณ์สถิตอยู่เคียงคู่กับอาคาร ปฏิบัติธรรมเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์โดยมียอดเงินร่วมสมทบทั้งสิ้น 9,632,144 บาท  ทั้งนี้การทอดผ้าป่านับเป็นประเพณีทั่วไปของชาวพุทธนิยมจัดเพื่อให้พุทธศาสนิกชนสามารถรวมตัวกันทำงานบุญกุศลร่วมกันได้ทั้งปี ผิดกับการจัดทอดกฐินที่สามารถจัดได้เพียงปีละ 1 ครั้ง จึงเป็นที่นิยมในการร่วมทำบุญมหากุศลเพื่อสาธารณะประโยชน์ของวัดและทำนุบำรุงพระพุทธศาสนาให้วัฒนาสถาพรสืบไป  



จรัล/ภาพ/ข่าว ( 26 พ.ค.57 ) 
                           ธเนศ เธียรนันทน์/ตรวจข่าว


   
   

อำเภอสอยดาว จ.จันทบุรี จัดงานส่งเสริมประเพณีบุญบั้งไฟ

ชาวบ้านอำเภอสอยดาวร่วมงานประเพณีบุญบั้งไฟ อย่างคึกคัก เป็นการส่งเสริมประชาสัมพันธ์ประเพณีวัฒนธรรมชาวอีสานรวมทั้งบูชาพญาแถนขอให้ฝนตกต้องตามฤดูกาล

ในช่วงก่อนเข้าพรรษาของทุกปี ในพื้นที่ตำบลทุ่งขนาน อำเภอสอยดาว จังหวัดจันทบุรี ที่มีชาวอีสานอพยพมาทำกินจำนวนมากและชาวบ้าน ร่วมกับ อบจ.สภาวัฒนธรรมอำเภอ และที่ว่าการอำเภอสอยดาวจังหวัดจันทบุรี จะจัดงานส่งเสริมประเพณีบุญบั้งไฟ เป็นงานประจำปีต่อเนื่องมาหลายปีเพื่อเป็นการประชาสัมพันธ์งานบุญประเพณีที่ดีงามของชุมชนชาวอีสานที่อพยพมาทำกินในพื้นที่อำเภอสอยดาว จังหวัดจันทบุรี อนุรักษ์ภูมิปัญญาชาวบ้าน ส่งเสริมความรักความสามัคคีของคนในชุมชน รวมทั้งบูชาพญาแถนตามความเชื่อก่อนที่จะเข้าช่วงเทศกาลเข้าพรรษาหรือฤดูฝน ให้ฝนตกต้องตามฤดูกาลสร้างความชุ่มชื้นและบำรุงผลผลิตพืชสวน พืชไร่ ของชาวบ้านโดยปีนี้งานบุญบั้งไฟของชุมชนชาวอีสานที่อพยพมาอยู่ในอำเภอสอยดาวจังหวัดจันทบุรีได้รับการสนับสนุนจากองค์การบริหารส่วนจังหวัดจันทบุรี ที่ว่าการอำเภอสอยดาว และสภาวัฒนธรรมโดยมี ร้อยเอกหญิงสมจิต จึงตระกูล เป็นประธานการจัดงาน มีการแห่บั้งไฟไปในพื้นที่ 5 ตำบลของอำเภอสอยดาว รวมทั้งจัดแข่งขันจุดบั้งไฟ 2 วัน คือที่ฐานบ้านซับตารี ตำบลทุ่งขนาน และที่ฐานจุดบ้านสะตอน ตำบลทุ่งขนาน อำเภอสอยดาว มีชาวบ้านในพื้นที่ ประชาชน นักท่องเที่ยวรวมทั้งชาวกัมพูชาร่วมงานกันอย่างคับคั่งท่ามกลางความสนุกสนานของงานบุญประเพณี และปีนี้ได้จัดให้มีการประกวดบั้งไฟสวยงาม การประกวดรำเซิ้ง การแข่งขันจุดบั้งไฟขึ้นสูง การโชว์จุดบั้งไฟแสน แข่งขันบั้งไฟ 2 นิ้ว และบั้งไฟ 3 นิ้ว




จรัล/ภาพ/ข่าว ( 26 พ.ค.57 )
                            ธเนศ เธียรนันทน์/ตรวจข่าว 

ทหารเข้มชายแดนหวั่นแกนนำก่อความไม่สงบหลบหนีออกนอกประเทศ

กองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรีและตราด สนธิกำลังทหาร ตำรวจ พลเรือน ตรวจเข้มแนวชายแดน พร้อมนำรูป 13 แกนนำ นปช.ติดประตูป้องกันการหลบหนีออกนอกประเทศ ตามคำสั่ง คสช.

ในพื้นที่จังหวัดจันทบุรี ถนนสายต่าง ๆ ที่จะมุ่งหน้าออกชายแดนของจังหวัดจันทบุรี มีทหารจากกองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรีและตราด สนธิกำลังร่วมกับตำรวจภูธร  ตชด.11 และฝ่ายปกครอง ตรวจเข้มผู้ที่ใช้เส้นทางผ่านไป - มา โดยเฉพาะที่จุดผ่านแดนถาวรตลาดบ้านแหลม ตำบลเทพนิมิต อำเภอโป่งน้ำร้อน จังหวัดจันทบุรี เส้นทางผ่านที่จะออกไปประเทศเพื่อนบ้านมีการตรวจเข้มทุกจุดตรวจ ทั้งที่ด่านตรวจ ร้อย. ทพ.นย. 525 บ้านแหลม ทหารพรานตรึงกำลังตรวจเข้มในการผ่านเข้าออกของประชาชนรวมทั้งแรงงานชาวกัมพูชาป้องกันการซุกซ่อนอาวุธสงครามและสิ่งผิดกฎหมายเข้าราชอาณาจักร ที่จุดผ่านแดนถาวรตลาดบ้านแหลม เจ้าหน้าที่ได้นำรูปถ่ายของแกนนำ นปช.รวม 13 คนมาติดเพื่อให้เจ้าหน้าที่ทหารจากกองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรีและตราดเป็นข้อสังเกตในการป้องกันกลุ่มแกนนำ นปช.จะหลบหนีออกนอกประเทศเป็นไปตามคำสั่งของ คสช. ส่วนบรรยากาศการค้าขายทั่วไปที่จุดผ่านแดนทั้ง 5 จุดของจังหวัดจันทบุรียังคึกคัก ตามปกติ โดยเฉพาะผลไม้ สินค้าเครื่องอุปโภค บริโภค เครื่องนุ่งห่ม อุปกรณ์กันฝนและสินค้าทางการเกษตรมีชาวกัมพูชามาเลือกซื้อไปรับประทานจำนวนมาก แต่ยังไม่พบการกักตุนสินค้าแต่อย่างใด



จรัล/ภาพ/ข่าว ( 26 พ.ค.57 ) 
                           ธเนศ เธียรนันทน์/ตรวจข่าว

   

ศูนย์ ปภ. เขต 17 จันทบุรี จัดประชุมประชาคม อปพร.ระดับกลุ่มจังหวัดภาคตะวันออก

วันจันทร์ที่ 26 พฤษภาคม 2557 ศูนย์ อปพร.เขต 17 จันทบุรี จัดประชุมประชาคม อปพร.ระดับกลุ่มจังหวัดภาคตะวันออก โดย หม่อมหลวง ปนัดดา ดิศกุล รองปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานพิธี ณ ห้องตำหนักน้ำ ชั้น 3โรงแรมชลอินเตอร์ จ.ชลบุรี มีคณะกรรมการ อปพร.จังหวัดตราด จันทบุรี ระยองและชลบุรี เข้าร่วมประชุม และรับฟังบรรยายพิเศษ กว่า 120 คน

ปัจจุบันกิจการ อปพร. ได้มีการขยายตัวและมีความเจริญก้าวหน้ามากยิ่งขึ้น มีประชาชนให้ความสนใจ และสมัครเข้ารับการฝึกอบรมสมาชิก อปพร.ตามนโยบายของกระทรวงมหาดไทย ที่กำหนดให้องค์การปกครองส่วนท้องถิ่นทั่วประเทศ มีกำลัง อปพร.เพื่อช่วยเหลือในการป้องกนและบรรเทาสาธรารณภัยในพื้นที่ ไม่น้อยกว่า 2 ของจำนวนประชากร และในการปฏิบัติงานด้านการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยของสมาชิก อปพร.จะเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ เป็นระบบและมีทิศทางเดียวกัน จำเป็นต้องมีการรวมกลุ่ม และดำเนินกิจกรรมระหว่างกันอย่างต่อเนื่อง มีการขยายเครือข่ายความร่วมมือระหว่างศูนย์ อปพร.ในแต่ละจังหวัด กับหน่วยงานและองค์กรอาสาสมัครที่เกี่ยวข้อง รวมถึงการให้สมาชิก อปพร.ในสังกัดศูนย์ อปพร.ทุกแห่ง ได้รับทราบข้อมูลข่าวสารความเคลื่อนไหว เกี่ยวกับงาน อปพร.ตลอดจนร่วมมือกันพัฒนาศูนย์ อปพร.ให้มีมาตรฐานในการบริหารจัดการที่มีประสิทธิภาพ

การจัดการประชุมประชาคม อปพร.ระดับเขต ประจำปี 2557 ของศูนย์ ปภ.เขต 17 จันทบุรีและสำนักงาน ปภ. จังหวัดในเขตครั้งนี้ ถือว่าเป็นกิจกรรมที่สำคัญยิ่งที่คณะกรรมการประสานศูนย์ อปพร. สมาชิก อปพร. และศูนย์ อปพร. จะได้มีความสัมพันธ์ระหว่างกันมากยิ่งขึ้น รวมทั้งได้มีส่วนร่วมในการแสดงข้อคิดเห็น แนวทางแก้ไขปัญหาและการปฏิบัติงานของสมาชิก อปพร. การบรรยายให้ความรู้ เรื่องสิทธิ อปพร. ตาม พรบ.ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย โดยผู้เชี่ยวชาญ จากสำนักมาตรการป้องกันสาธารณภัย และบรรยายพิเศษเกี่ยวกับบทบาท อปพร.กับการปกป้องสถาบัน โดยหม่อมหลวง ปนัดดา ดิศกุล รองปลัดกระทรวงมหาดไทย ซึ่งจะเป็นปัจจัยที่เสริมสร้างความเข้มแข็งให้กับกิจการ อปพร. และเกิดเครือข่ายความร่วมมือในการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ส่งผลให้ประชาชนมีสวัสดิ์ภาพ ในความปลอดภัยมากยิ่งขึ้น



คมศักดิ์ หล่อเถิน/ข่าว/ภาพ

สวนนงนุชพัทยา คว้ารางวัลเหรียญทอง เชลซีฟลาวเวอร์โชว์ 2014 ติดต่อ 5 ปีซ้อน

สวนนงนุชพัทยาคว้ารางวับลเหรียญทองในงานเชลซีฟลาวเวอร์โชว์ 2014 ที่ประเทศอังกฤษ โดยในปีนี้ได้รับพระเกียรติจาก เอลิซาเบธ อะเล็กซานดรา สมเด็จพระราชินีนาถ เอลิซาเบธที่ 2 แห่งสหราชอาณาจักรอังกฤษ เสด็จชื่นชมการจัดสวนของประเทศไทย และคณะกรรมการตัดสินการจัดสวน ได้ตัดสินให้ สวนนงนุชพัทยา ในนามของประเทศไทย ได้รับรางวัล เหรียญทอง หรือ GOLD MEDAL ซึ่งถือว่าประเทศไทยครองแชมป์เหรียญทองมาเป็นปีที่ 5 ติดต่อกัน ได้สร้างความภาคภูมิใจให้กับ กรมการท่องเที่ยว กระทรวงท่องเที่ยวและกีฬาเมืองพัทยา และในนามของสวนนงนุชพัทยา ที่เป็นตัวแทนของประเทศไทย เข้าร่วมการประกวดจัดสวนในปีนี้

ด้านนายอิทธิพล คุณปลื้ม นายกเมืองพัทยา กล่าวว่า ก่อนเดินทางไปประกวดครั้งนี้ คุณภาษิต พุ่มชูศรี รองอธิบดีกรมการท่องเที่ยว แลนายกัมพล ตันสัจจา ผู้อำนวยการสวนนงนุชพัทยา ได้ร่วมทำพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือระหว่างเมืองพัทยา กรมการท่องเที่ยว และสวนนงนุชพัทยา ในการเข้าร่วมประกวดจัดสวนงานเชลซีฟลาวเวอร์โชว์ 2014 ระหว่างวันที่ 19 ถึง 24 พ.ค.57 ณ กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ โดยมี ท่านกิตติ วสีนนท์ อดีตเอกอัครราชทูตไทยประจำกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ นายภวัต เลิศมุกดา นายอำเภอสัตหีบ นางศิริพร ปิ่นล่ม นายกเทศมนตรีเทศบาลเกล็ดแก้ว ตลอดจน ผู้แทนหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น มาร่วมเป็นสักขีพยานในการลงนามบันทึกข้อตกลง

นายกัมพล ตันสัจจา ผู้อำนวยการสวนนงนุชพัทยา  กล่าวว่า นับเป็นความภาคภูมิใจอย่างมาก ที่ได้ทราบข่าวว่า สวนนงนุชพัทยา สามารถ คว้าชัยได้รับรางวัลเหรียญทองเป็นปีที่ 5 ติดต่อกัน ซึ่งในปีนี้ สวนนงนุชพัทยา ได้รับเกียรติจากเมืองพัทยา กรมการท่องเที่ยว กระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา ร่วมกันใช้แนวความคิด THAILAND: Our Pride,Our Monarch ,Our Cultural Heritage ซึ่งสื่อให้เห็นถึงความเชื่อมโยงระหว่างพระมหากษัตริย์กับประชาชนชาวไทย โดยใช้เส้นสายของดอกไม้แสดงให้เห็นถึงพระราชกรณียกิจต่าง ๆ ของพระองค์ ที่นำความร่มเย็นเป็นสุขมาสู่ประชาชน  และยังสื่อให้เห็นถึงความเจริญสัมพันธ์ไมตรี ระหว่างราชวงศ์ไทย และราชวงศ์  สหราชอาณาจักรอังกฤษ มีความเหนียวแน่นมายาวนาน ผลสำเร็จครั้งนี้ ได้สร้างความภาคภูมิใจให้กับคนไทย และนำมาซึ่งชื่อเสียงมาสู่ประเทศไทย อีกด้วย



ปริญญา/ข่าว/ภาพ

ชาวชลบุรี ร่วมบริจาคน้ำดื่มเพื่อเป็นขวัญและกำลังใจให้ทหาร

วันอาทิตย์ที่ 25 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 ชาวชลบุรี พร้อมทั้งพ่อค้าตลาดวัดลาง ตลาดทรัพย์สิน และตลาดใหม่ ได้นำน้ำดื่ม กาแฟ มาม่า ของแห้งอาหารทะเล  และเงินจำนวน 20,000 กว่าบาท มามอบให้กับทหารเพื่อเป็นขวัญและกำลังใจ โดยมีพันเอกคม วิริยะเวชกุล ผู้แทนจากค่ายมณฑลทหารบกที่ 14 พร้อมคณะได้อออกมารับสิ่งของ ณ วัดอุทยานนธี อำเภอเมือง จังหวัดชลบุรี

นอกจากนี้ในพื้นที่จังหวัดชลบุรี มณฑลทหารบกที่ 14 ได้ตั้ง บก.ติดตามสถานการณ์ / อำนวยความสะดวก ณ อาคารกีรติสิริโยธิน ประชาชนท่านใดมีขอส่งสัยให้สอบถามได้ที่หมายเลขโทรศัพท์  038 - 203534 , 038 - 279007 และ 098 - 9205719  บริการอนุญาตเดินทางออกนอกเคหะเวลาเคอร์ฟิวส์ ด้วย



ปริญญา/ข่าว/ภาพ

ตำรวจพัทยา รวบหนุ่มใต้-กะเทย เปิดห้องค้ายาไอซ์-ยาบ้า

ร.ต.อ.เนติธร รัตนสุชานันท์ รอง สวป. สภ.เมืองพัทยา จังหวัดชลบุรี พร้อมกำลัง ร่วมกันจับกุมเอเย่นต์ยาเสพติดในพื้นที่เมืองพัทยาจำนวน 2 ราย ประกอบด้วยนายอลงกรณ์ หรือแอฟ แสงสันต์ อายุ 18 ปี ชาวจังหวัดศีรษะเกษ เป็นสาวประเภทสอง ของกลางยาไอซ์ 1 ถุง น้ำหนัก 1.12 กรัม และนายประมูล หรือซัน แซ่ตั้ง อายุ 34 ปี ชาวจังหวัดสงขลา พร้อมของกลางยาบ้า 10 เม็ด ยาไอซ์ 13 ถุง น้ำหนักรวม 8.49 กรัม

สืบเนื่องจาก ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจ ออกตรวจในพื้นที่ ระหว่างนั้นพบนายอลงกรณ์ หรือแอฟ ซึ่งเป็นสาวประเภทสอง ขับขี่รถจักรยานยนต์มีท่าทางพิรุธ ตำรวจจึงเรียกขอตรวจค้นพบยาไอซ์ 1 ถุง โดยรับสารภาพว่ายาไอซ์ดังกล่าวเพิ่งไปซื้อมาจากนายประมูล หรือซัน เอเย่นต์ยาเสพติด ทางตำรวจจึงให้นายอลงกรณ์ หรือแอฟ ติดต่อขอล่อซื้อยาไอซ์จำนวน 1 ถุง โดยนัดหมายส่งของบริเวณหน้าหอพัก ไม่มีชื่อ ย่านเทพประสิทธิ์

ต่อมาตำรวจได้รับสัญญาณมือ จากนายอลงกรณ์ หรือแอฟ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจซึ่งดักซุ่มดูพฤติกรรมอยู่ใกล้เคียงบริเวณดังกล่าว จึงทำการเข้าจับกุมทันที จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้คุมตัวไปค้นในห้องพัก ก็พบยาไอซ์จำนวน 10 กว่าถุง พร้อมทั้งยาบ้า ซุกซ่อนอยู่ในห้องพัก จึงคุมตัวส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดี พร้อมสืบสวนขยายผลจับกุมผู้ร่วมขบวนการยาเสพติดรายนี้ต่อไป   



ปริญญา/ข่าว/ภาพ

ตร.พัทยา ล่อซื้อยาไอซ์ เอเย่นต์ในพื้นที่ ยึดของกลางยาไอซ์ 34.25 กรัม คาห้องน้ำปั้มน้ำมัน

ร.ต.อ.เนติธร รัตนสุชานันท์ รอง สวป. สภ.เมืองพัทยา จังหวัดชลบุรี พร้อมกำลัง ร่วมกันจับกุมตัวเอเย่นต์ยาเสพติดในพื้นที่เมืองพัทยา ได้ผู้ต้องหา 1 ราย คือนายณัฐพล นงนุช อายุ 30 ปี อยู่บ้านเลขที่ 23/16 หมู่1 ตำบลหนองปรือ อำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี พร้อมของกลาง ยาไอซ์จำนวน 18 ถุง ชั่งน้ำหนักรวม 34.25 กรัม และธนบัตรรัฐบาลไทย ฉบับละ 1,000 บาท ใช้ในการล่อซื้อจำนวน 3 ฉบับ สามารถจับกุมได้บริเวณหน้าห้องน้ำชาย ปั้มน้ำมันบางจาก ถนนพัทยาเหนือ

ร.ต.อ.เนติธร เปิดเผยว่า ก่อนเกิดเหตุตำรวจได้สืบทราบว่า นายณัฐพล ผู้ต้องหา มีพฤติกรรมจำหน่ายยาเสพติดในพื้นที่ จึงนำธนบัตรจำนวน 3,000 บาท ลงบันทึกประจำวัน ที่สภ.เมืองพัทยา เพื่อเป็นหลักฐานในใช้ล่อซื้อยาไอซ์ ก่อนนำธนบัตรให้สายลัยติดต่อขอล่อซื้อ โดยนัดหมายส่งของบริเวณหน้าห้องน้ำชาย ปั้มน้ำมันบางจาก ถนนพัทยาเหนือ ตำรวจจึงได้ซุ่มแฝงตัวบริเวณใกล้เคียงจุดเหตุ ต่อมา นายณัฐพล ได้ขับขี่รถจักรยานยนต์จอดบริเวณจุดนัดพบ จากนั้นเมื่อสายลัยส่งสัญญาณให้ตำรวจ จึงทำการเข้าจับกุมตัว ตรวจค้นพบยาไอซ์จำนวนดังกล่าว ซุกซ่อนอยู่ในกระเป๋ากางเกง ส่วนธนบัตรใช้ในการล่อซื้อ กำอยู่ในมือข้างขวา จึงคุมตัวมาโรงพัก

เบื้องต้น นายณัฐพล ผู้ต้องหา ให้การยอมรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา ตำรวจจึงนำตัวส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดี พร้อมกับสืบสวนขยายผลจับกุมผู้ร่วมขบวนการยาเสพติดรายนี้ต่อไป



ปริญญา/ข่าว/ภาพ

วันพฤหัสบดีที่ 22 พฤษภาคม พ.ศ. 2557

อุตสาหกรรมจังหวัดฉะเชิงเทราจัด “โครงการอุตสาหกรรมสีเขียว Green Industry ”

วันนี้ (22 พ.ค.57)  นายไพศาล  วิมลรัตน์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทราเป็นประธานในพิธีเปิดการสัมมนาชี้แจงแนวทางการดำเนินงาน โครงการอุตสาหกรรมสีเขียว Green  Industry  ณ โรงแรม      แกรนด์รอยัล พลาซ่า อำเภอเมืองฉะเชิงเทรา โดยมีนาย ประกอบ วิวิธจินดา อุตสาหกรรมจังหวัดฉะเชิงเทรา  กล่าวรายงาน พร้อมด้วย หัวหน้าส่วนราชการและผู้ที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมพิธีเปิดโครงการฯ   มีผู้ประกอบการโรงงานอุตสาหกรรมจำนวนกว่า 200 คน เข้าร่วมสัมมนา

สำหรับการจัดสัมมนาดังกล่าวมีวัตถุประสงค์เพื่อสนับสนุนให้ภาคอุตสาหกรรมประกอบกิจการด้วยความรับผิดชอบต่อสังคม ชุมชน และสิ่งแวดล้อม ส่งเสริมการมีส่วนร่วมทั้งภาครัฐ ชุมชน และอุตสาหกรรม มุ่งสู่การพัฒนาอย่างยั่งยืน ส่งเสริมสนับสนุนให้ภาคอุตสาหกรรมเกิดการพัฒนาอย่างต่อเนื่องตามระดับการพัฒนาอุตสาหกรรมสีเขียว 5 ระดับ รวมทั้งส่งเสริมให้โรงงานอุตสาหกรรมนำเกณฑ์ของอุตสาหกรรมสีเขียวไปปฏิบัติและได้รับการรับรองการเลื่อนระดับอุตสาหกรรมสีเขียว การพัฒนาสถานประกอบการสู่โครงการอุตสาหกรรมสีเขียวและเพื่อจัดทำช่องทางและเครื่องมือในการสื่อสารการดำเนินโครงการอุตสาหกรรมสีเขียวผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์แก่สถานประกอบการและผู้ที่สนใจทั่วไปโดยในปี 2557 มีเป้าหมายส่งเสริมสถานประกอบการในพื้นที่จังหวัดฉะเชิงเทราเข้าสู่ระบบอุตสาหกรรมสีเขียวให้ได้จำนวน 152 ราย



ชาญณรงค์/ข่าว
ธนภัทร/ภาพ

สนง. เกษตร จ.ตราด จัดแข่งขันกวนทุเรียนลีลาประกอบเพลง สร้างสีสันให้กับงานวันระกำหวาน ฯ ท่ามกลางความสนใจของนักท่องเที่ยว

(22 พ.ค. 57) บริเวณบ้านท่าจอด อ. เขาสมิง ซึ่งเป็นสถานที่จัดงานวันระกำหวาน ผลไม้ และของดีเมืองตราด ประจำปี 2557 สำนักงานเกษตรจังหวัด จัดกิจกรรมแข่งขันกวนทุเรียนลีลา ประกอบเพลง ซึ่งเป็น 1 ในกิจกรรมของงานวันระกำหวาน ผลไม้และของดีเมืองตราด ประจำปี 2557 โดยมีกลุ่มแม่บ้านและชุมชนต่าง ๆ ในจังหวัดตราดสนใจเข้าร่วมแข่งขัน 10 ทีม โดยมีประชาชนและนักท่องเที่ยวสนใจชมกรแข่งขันในบรรยากาศที่สนุกสนาน

นายนเรศ ฝีปากเพราะ เกษตรจังหวัดตราด กล่าวว่า การจัดแข่งขันครั้งนี้เป็นสร้างสีสันให้กับการจัดงานวันระกำหวาน ผลไม้ และของดีเมืองตราด ทั้งยังเป็นการประชาสัมพันธ์ผลไม้คุณภาพของจังหวัดให้เป็นที่รู้จักแก่ประชาชนและนักท่องเที่ยว สำหรับผู้เข้าแข่งขันแบ่งเป็นทีมละ 6 คน เป็นผู้กวนทุเรียน 2 คน และเป็นหางเครื่อง 4 คน ใช้เวลาแข่งขันประมาณ 60 นาที ทั้งนี้ผู้เข้าแข่งขันในแต่ละทีม ต่างแบ่งหน้าที่กันทำ ทั้งการเตรียมเนื้อทุเรียนมาก่อนให้สุกประมาณ 60 เปอร์เซนต์ โดยการให้คะแนนจะดู รสชาดของทุเรียนกวน ความสะอาด ความรวดเร็ว ลีลาสนุกสนาน และความสามัคคีภายในทีม ซึ่งระหว่างแข่งขันจะมีการเปิดเสียงเพลง เพื่อเพิ่มความสนุกสนานในการกวนทุเรียน สำหรับผลการแข่งขันปรากฏว่าทีมแม่บ้านจากเกาะกูด อำเภอเกาะกูด สามารถคว้าตำแหน่งชนะเลิศจากรสชาติ และลีลาในการแข่งขันกวนทุเรียนลีลาในครั้งนี้ไป

กรมโยธาธิการและผังเมือง เปิดเวทีรับฟังความคิดเห็นการออกแบบและศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อมเขื่อนป้องกันการกัดเซาะชายฝั่งทะเล พื้นที่ตำบลแหลมกลัด อ.เมืองตราด หลังพบปัญหาค่อนข้างรุนแรง

(22 พ.ค. 57) นายพยัคฆพันธุ์ โพธิ์แก้ว รองผู้ว่าราชการจังหวัดตราด เปิดเวทีรับฟังความคิดเห็นโครงการออกแบบและศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อมเขื่อนป้องกันการกัดเซาะชายฝั่งทะเล ในพื้นที่ตำบลแหลมกลัด อำเภอเมืองตราด ครั้งที่ 1 ซึ่งกรมโยธาธิการและผังเมือง โดยกลุ่มบริษัมที่ปรึกษาโครงการฯ จัดขึ้นที่ห้องประชุมองค์การบริหารส่วนตำบลแหลมกลัด อำเภอเมืองตราด โดยมีประชาชนในพื้นที่ตำบลแหลมกลัดรวมทั้งหน่วยงานภาครัฐ ผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย กับโครงการเข้าร่วมเวทีครั้งนี้

นายสุมล เกียงแก้ว วิศวกรโยธา ชำนาญการพิเศษ กรมโยธาธิการและผังเมือง กล่าวว่า พื้นที่หมู่ที่ 1 และหมู่ที่ 10 ตำบลแหลมกลัด เป็นอีกพื้นที่หนึ่งที่ประสบปัญหาการกัดเซาะชายฝั่ง ดังนั้นเพื่อเป็นการป้องกันทรัพย์สินของประชาชนและทรัพย์สินของทางราชการที่ได้รับผลกระทบ กรมโยธาธิการและผังเมืองจึงได้ว่าจ้างกลุ่มบริษัมที่ปรึกษา ประกอบด้วย บริษัทเอส ที เอส เอ็นจิเนียริ่ง คอนซัลแตนท์ จำกัด และบริษัท แมคโครคอนซัลแตนท์ จำกัด ดำเนินการดำเนินการออกแบบและศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อมเขื่อนป้องกันการกัดเซาะชายฝั่งทะเล ความยาว 1,600 เมตร เพื่อให้ครอบคลุมแนวชายฝั่งที่ประสบปัญหาการกัดเซาะ โดยมีระยะเวลาดำเนินการ 450 วัน โดยเริ่มปฏิบัติงานระหว่างวันที่ 22 พฤศจิกายน 2556 กำหนดแล้วเสร็จภายในวันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2558 ดังนั้นเพื่อเป็นการคำนึงถึงการมีส่วนร่วมของประชาชน ที่จะเอื้อประโยชน์สูงสุดในการดำเนินโครงการ และสอดคล้องกับระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการรับฟังความคิดเห็นของประชาชน พ.ศ.2548 จึงได้กำหนดจัดเวทีรับฟังความคิดเห็นของประชาชน ครั้งที่ 1 เพื่อเป็นการประชาสัมพันธ์โครงการ แนะนำโครงการฯ ทั้งนี้เพื่อเปิดโอกาสให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกภาคส่วน ได้รับทราบรายละเอียด การดำเนินโครงการ และการศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อม พร้อมทั้งรับฟังข้อคิดเห็นและข้อเสนอแนะจึงได้มีการจัดเวทีในครั้งนี้ขึ้น

ด้าน นายประดิษฐ์ คุ้มชนม์ นายกองค์การบริหารส่วนตำบลแหลมกลัด กล่าวว่า พื้นที่ตำบลแหลมกลัดมีหาดทรายยาว 22 กิโลเมตร เกิดปัยหากัดเซาะชายฝั่งค่อนข้างรุนแรง โดยในบางปีพื้นที่ดินถูกกัดเซาะชายฝั่งนับ 100 ไร่ จึงเป็นสิ่งที่ดีที่ภาครัฐให้ควาสำคัญในการแก้ไขปัยหากัดเซาะชายฝั่งให้กับประชาชน

รองผู้ว่าฯตราด แนะ สภาวัฒนธรรมเป็นแกนนำในการสร้างรากฐานวัฒนธรรมให้เข้มแข็งเพื่อรับการเปลี่ยนแปลงในการเข้าสู่ประชาคมอาเซียน

(22 พ.ค. 57) นายณรงค์ ธีรจันทรงกูร รองผู้ว่าราชการจังหวัดตราด กล่าวต้อนรับพร้อมบรรยายาพิเศษ "วัฒนธรรมกับประชาคมอาเซียน” ให้กับคณะกรรมการสภาวัฒนธรรมจังหวัดปราจีนบุรี ที่นำโดยนางจิตร ภุมมะกาญจนะ ประธานสภาวัฒนธรรมจังหวัดปราจีนบุรี ในโอกาสเดินทางเข้ามาศึกษาดูงานด้านการอนุรักษ์วัฒนธรรมในพื้นที่จังหวัดตราด ว่า สังคมไทยเป็นสังคมที่พึ่งพากันและกันจึงทำให้ระบบวัฒนธรรมนั้นสัมพันธ์อยู่กับความคิดหกด้านที่สำคัญ คือ ความคิดเรื่องการอยู่ร่วมกันของคนกับธรรมชาติ ความคิดเรื่องความคาดหวังอุดมสมบูรณ์ร่วมกัน ความร่วมมือเพื่ออยู่รอด การแบ่งปันอย่างยุติธรรม ความคิดเรื่องความเคารพผู้อาวุโส และกลไกลการสลายความตึงเครียดในประเพณี / พิธีกรรม จึงทำให้วัฒนธรรมมีส่วนสำคัญในชีวิตจริง และการดำรงชีวิตของผู้คนที่ทำให้สังคมไทยอยู่รอดมาได้เนิ่นนาน แต่ความเปลี่ยแปลงของวัฒนธรรมไทยเริ่มเกิดขึ้นเมื่อมีการขยายตัวทางการท่องเที่ยว ที่มีการตัดแบ่งประเพณี / พิธีกรรมมาเป็นการแสดง เพื่อขายนักท่องเที่ยว ซึ่งเป็นเพียงเปลือกนอกของประเพณี / พิธีกรรม เท่านั้น ประกอบกับปัจจุบันมีการเกิดขึ้นของวัฒนธรรมใหม่ในสังคมที่เป็นวัฒนธรรมเฉพาะกลุ่ม เฉพาะชั้นมากขึ้น ซึ่งเป็นระบบความหมายที่จำกัดเฉพาะกลุ่ม / ชั้นของตนเท่านั้น อย่างไรก็ตามหลังจากประเทศในภูมิภาคอาเซียน ซึ่งรวมตัวเป็นประชาคมเดียวกัน ในปีหน้าเป็นต้นไป คาดว่าหลังทศวรรต 2560 การเคลื่อนย้ายไหลเวียนของคนในอาเซียนจะมีมากขึ้น โดยเฉพาการย้านถิ่นฐานเข้ามไปทำงานตามประเทศต่าง ๆ ซึ่งจะเกิดวัฒนธรรมย่อยของกลุ่มคนในสังคมแยกย่อยจะขยายตัวมากขึ้น หรือเกิดวัฒนธรรมใหม่จากการผสมมผสานทางวัฒนธรรม ดังนั้นเพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมในการเข้าสู่ประชาคมอาเซียน โดยเฉพาะเสาหลักด้านประชาสังคมและวัฒนธรรม ซึ่งเป็นหนึ่งใน 3 เสาหลักของประชาคมอาเซียน สภาวัฒนธรรมซึ่งนับเป็นเวทีกลางในการแลกเปลี่ยนความคิด และเป็นศูนย์กลางในการดำเนินงานด้านวัฒนธรรมทั้งในระดับตำบล อำเภอ และจังหวัด จึงควรที่จะเลือกส่งเสริมวัฒนธรรมให้สอดคล้องกับวิถีชีวิตในการเปลี่ยนแปลงของสังคมที่ถูกต้อง และเหมาะสมต่อสภาวการณ์นั้น ๆ รวมทั้งการสร้างรากฐานวัฒนธรรมให้เข้มแข็งเพื่อรับการเปลี่ยนแปลงที่กำลังจะมาถึง

รองผู้ว่าฯตราด แนะ สภาวัฒนธรรมเป็นแกนนำในการสร้างรากฐานวัฒนธรรมให้เข้มแข็งเพื่อรับการเปลี่ยนแปลงในการเข้าสู่ประชาคมอาเซียน

(22 พ.ค. 57) นายณรงค์ ธีรจันทรงกูร รองผู้ว่าราชการจังหวัดตราด กล่าวต้อนรับพร้อมบรรยายาพิเศษ "วัฒนธรรมกับประชาคมอาเซียน” ให้กับคณะกรรมการสภาวัฒนธรรมจังหวัดปราจีนบุรี ที่นำโดยนางจิตร ภุมมะกาญจนะ ประธานสภาวัฒนธรรมจังหวัดปราจีนบุรี ในโอกาสเดินทางเข้ามาศึกษาดูงานด้านการอนุรักษ์วัฒนธรรมในพื้นที่จังหวัดตราด ว่า สังคมไทยเป็นสังคมที่พึ่งพากันและกันจึงทำให้ระบบวัฒนธรรมนั้นสัมพันธ์อยู่กับความคิดหกด้านที่สำคัญ คือ ความคิดเรื่องการอยู่ร่วมกันของคนกับธรรมชาติ ความคิดเรื่องความคาดหวังอุดมสมบูรณ์ร่วมกัน ความร่วมมือเพื่ออยู่รอด การแบ่งปันอย่างยุติธรรม ความคิดเรื่องความเคารพผู้อาวุโส และกลไกลการสลายความตึงเครียดในประเพณี / พิธีกรรม จึงทำให้วัฒนธรรมมีส่วนสำคัญในชีวิตจริง และการดำรงชีวิตของผู้คนที่ทำให้สังคมไทยอยู่รอดมาได้เนิ่นนาน แต่ความเปลี่ยแปลงของวัฒนธรรมไทยเริ่มเกิดขึ้นเมื่อมีการขยายตัวทางการท่องเที่ยว ที่มีการตัดแบ่งประเพณี / พิธีกรรมมาเป็นการแสดง เพื่อขายนักท่องเที่ยว ซึ่งเป็นเพียงเปลือกนอกของประเพณี / พิธีกรรม เท่านั้น ประกอบกับปัจจุบันมีการเกิดขึ้นของวัฒนธรรมใหม่ในสังคมที่เป็นวัฒนธรรมเฉพาะกลุ่ม เฉพาะชั้นมากขึ้น ซึ่งเป็นระบบความหมายที่จำกัดเฉพาะกลุ่ม / ชั้นของตนเท่านั้น อย่างไรก็ตามหลังจากประเทศในภูมิภาคอาเซียน ซึ่งรวมตัวเป็นประชาคมเดียวกัน ในปีหน้าเป็นต้นไป คาดว่าหลังทศวรรต 2560 การเคลื่อนย้ายไหลเวียนของคนในอาเซียนจะมีมากขึ้น โดยเฉพาการย้านถิ่นฐานเข้ามไปทำงานตามประเทศต่าง ๆ ซึ่งจะเกิดวัฒนธรรมย่อยของกลุ่มคนในสังคมแยกย่อยจะขยายตัวมากขึ้น หรือเกิดวัฒนธรรมใหม่จากการผสมมผสานทางวัฒนธรรม ดังนั้นเพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมในการเข้าสู่ประชาคมอาเซียน โดยเฉพาะเสาหลักด้านประชาสังคมและวัฒนธรรม ซึ่งเป็นหนึ่งใน 3 เสาหลักของประชาคมอาเซียน สภาวัฒนธรรมซึ่งนับเป็นเวทีกลางในการแลกเปลี่ยนความคิด และเป็นศูนย์กลางในการดำเนินงานด้านวัฒนธรรมทั้งในระดับตำบล อำเภอ และจังหวัด จึงควรที่จะเลือกส่งเสริมวัฒนธรรมให้สอดคล้องกับวิถีชีวิตในการเปลี่ยนแปลงของสังคมที่ถูกต้อง และเหมาะสมต่อสภาวการณ์นั้น ๆ รวมทั้งการสร้างรากฐานวัฒนธรรมให้เข้มแข็งเพื่อรับการเปลี่ยนแปลงที่กำลังจะมาถึง

กปช.จต.เชิญผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรี ตราด หารือแนวทางปฏิบัติหลังประกาศกฏอัยการศึก

ผู้บัญชาการป้องกันชายแดนจันทบุรีและตราด เชิญผู้ว่าราชการจังหวัด หัวหน้าส่วนราชการ หารือข้อราชการสร้างความเข้าใจแนวทางปฏิบัติหลังประกาศกฎอัยการศึก

บ่ายวันนี้ ( 22 พ.ค.57 ) ที่ห้องประชุมกองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรี – ตราด พลเรือโทสนธยา น้อยฉายา ผู้บัญชาการป้องกันชายแดนจันทบุรี – ตราด ได้เชิญผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรี ผู้ว่าราชการจังหวัดตราด หน่วยงานด้านความมั่นคงในพื้นที่จันทบุรีและตราดหารือ สร้างความเข้าใจในแนวทางปฏิบัติหลังประกาศใช้กฎอัยการศึกทั่วประเทศ ซึ่งไม่มีผลกระทบต่อการดำเนินชีวิตของประชาชนตามปกติ อีกทั้งที่ผ่านมาจังหวัดจันทบุรี และจังหวัดตราด ซึ่งเป็นพื้นที่ชายแดน ส่วนใหญ่มีการประกาศกฎอัยการศึกในพื้นที่อยู่แล้ว ยกเว้นเขตด้านในที่ถือเป็นการประกาศเพิ่มเติม  อย่างไรก็ตาม ผู้บัญชาการป้องกันชายแดนจันทบุรีและตราดขอความร่วมมือทุกภาคส่วนทั้งข้าราชการพลเรือน ตำรวจ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ผู้นำท้องที่ สื่อมวลชน และประชาชนให้ความร่วมมือและปฏิบัติตามประกาศของกองอำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อยและช่วยกันป้องกันและปราบปรามพร้อมทั้งสกัดกั้นการเคลื่อนย้ายอาวุธเข้าไปสนับสนุนการก่อเหตุความรุนแรงในพื้นที่ชั้นในกรุงเทพมหานคร รวมทั้งติดตามความเคลื่อนไหวของแกนนำกลุ่มพลังมวลชนต่าง ๆ ไม่ให้มีการเคลื่อนย้ายกลุ่มมวลชนเข้าไปร่วมชุมนุมเพื่อร่วมกันสร้างความสงบสุขให้เกิดขึ้นในบ้านเมืองตามปกติดังเดิม 



จรัล/ภาพ/ข่าว ( 22 พ.ค. 57 )
ธเนศ เธียรนันทน์/ตรวจข่าว 

คณะกรรมการ TO BE NUMBER ONE ระดับประเทศ ลงพื้นที่ตรวจประเมินผล ในพื้นที่ภาคกลางและภาคตะวันออก จังหวัดชลบุรี

วันพฤหัสบดีที่ 22 พฤษภาคม 2557 คณะกรรมการตัดสินการประกวด TO BE NUMBER ONE ได้เดินทางมาที่จังหวัดชลบุรี เพื่อเยี่ยมชม และติดตามประเมินผลการดำเนินงานในพื้นที่จริง ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการประกวดจังหวัด TO BE NUMBER ONE ระดับประเทศ  โดยมี นายวุฒิไกร ศักดิ์สุรกานต์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดชลบุรี  และคณะหัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้องให้การต้อนรับและชี้แจงแนวทางการปฏิบัติงาน  ณ ห้องประชุมพระพิพิธโภไคย ศาลากลางจังหวัดชลบุรี

จังหวัดชลบุรีได้ดำเนินงานโครงการ TO BE NUMBER ONE มาอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่ปี 2546 ได้รับรางวัลชนะเลิศ ระดับประเทศ เมื่อปี 2553 มีเป้าหมายที่จะก้าวสู่ระดับเพชร ในปี 2561 ด้านบริหารจัดการอย่าง บูรณาการด้วยรูปแบบของคณะกรรมการและคณะทำงานที่ชัดเจน กำหนดโครงสร้างบทบาทหน้าที่ ครอบคลุมทั้งสถานศึกษา สถานประกอบการและชุมชน เชื่อมโยงทุกระดับ ได้แก่จังหวัด อำเภอ และเครือข่ายชุมชน ได้ประกาศให้ TO BE NUMBER ONE เป็นโครงการหลัก ในการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด ต่อยอด นโยบายในการส่งเสริมสนับสนุนการพัฒนาชมรม TO BE NUMBER ONE สู่ความเข้มแข็งเยาวชน โดยมุ่งสร้างและพัฒนาเครือข่ายอย่างต่อเนื่อง ในปี 2556 ขยายเครือข่าย การจัดตั้งชมรม เชิงรุกและมีกิจกรรมอย่างต่อเนื่อง ทั้งในสถานศึกษา และชุมชนสังกัดองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น 79 แห่งในสถานประกอบการและสถานบันเทิง 109 แห่ง เพิ่มขึ้น 188 เครือข่าย จากนโยบายที่ชัดเจนต่อเนื่อง ส่งผลสู่ความสำเร็จทุกยุทธศาสตร์ เกิดผลงานเด่น และนวตกรรม มากมาย

ผลการจัดกิจกรรมอย่างต่อเนื่องทำให้เยาวชน จังหวัดชลบุรี เกิดการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรม ที่ถูกต้อง มีความมั่นใจ เกิดความเข้มแข็งทางใจมีความสุข และมีคุณภาพชีวิตที่ดีกว่าเดิม จังหวัดชลบุรี ทุกภาคีเครือข่าย ขอน้อมนำพระปณิธานและแนวทางขององค์ประธานโครงการฯ ในการดำเนินการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด และใช้โครงการ TO BE NUMBER ONE เป็นเครื่องมือในการบริหารงานแบบบูรณาการ ติดตามงาน โดยใช้เวทีการประกวด ให้การสนับสนุน สร้างขวัญ และกำลังใจแก่ผู้ปฏิบัติงาน ให้มีผลงานก้าวหน้าเป็นที่ประจักษ์ เพื่อบรรลุเป้าหมายสูงสุด ให้เยาวชนชลบุรีห่างไกลยาเสพติด มีภูมิคุ้มกัน ทางจิต เห็นคุณค่าตนเอง เกิดความภาคภูมิใจเป็นหนึ่ง โดยไม่พึ่งยาเสพติด ภายใต้ยุทธศาสตร์โครงการ TO BE NUMBER ONE อย่างต่อเนื่อง



คมศักดิ์/ข่าว/ภาพ

วันพุธที่ 21 พฤษภาคม พ.ศ. 2557

ผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว เรียกประชุมหัวหน้าส่วน เพื่อรับมอบนโยบายและแนวทางการปฏิบัติราชการ สร้างความเข้าใจกรณีการประกาศ พ.ร.บ.กฎอัยการศึก

เช้านี้ ( 21 พ.ค.) ที่ประชุมบูรพา ชั้น 4 ศาลากลางจังหวัดสระแก้ว นายภัครธรณ์ เทียนไชย ผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว เป็นประธานการประชุมเพื่อรับมอบนโยบายและแนวทางการปฏิบัติราชการในจังหวัดสระแก้ว กรณีการประกาศ พ.ร.บ.กฎอัยการศึก โดยมีรองผู้ว่าราชการจังหวัด อัยการจังหวัด ผู้บัญชาการกองกำลังบูรพา ผู้บังคับการทหารบกจังหวัดสระแก้ว ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัด หัวหน้าส่วนราชการทุกส่วน หัวหน้าหน่วยงานรัฐวิสาหกิจ นายอำเภอทุกอำเภอ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด นายกเทศมนตรีทุกแห่ง เข้าร่วมรับฟัง

ผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว กล่าวว่า ภายหลังจากที่มี การประกาศ พ.ร.บ.กฎอัยการศึก คุมพื้นที่ทั่วราชอาณาจักร เพื่อควบคุมสถานการณ์ความไม่สงบ มีผลตั้งแต่วันที่ 20 พ.ค. 2557 ตั้งแต่เวลา 03.00 น. เป็นต้นไป ทังนี้ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก ในฐานะผู้อำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อย (ผอ.กอ.รส.) ได้เชิญผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัด เข้าร่วมประชุมรับทราบนโยบาย เมื่อช่วงบ่ายวันที่ 20 พ.ค. ที่ผ่านมา ผู้ว่าฯ แจ้งว่า จุดประสงค์ของการประกาศกฎอัยการศึกก็เพื่อทำให้เกิดความสงบเรียบร้อยขึ้นในบ้านเมือง เพราะสถานการณ์รุนแรงขึ้นเรื่อยๆ ผู้ที่มีต้องการจะก่อความรุนแรงให้ยุติการกระทำ ขอความร่วมมือผู้ใดหรือหน่วยงานใดที่มีการปลุกปั่น ยุยง ชักชวนให้เกิดความวุ่นวายหรือก่อให้เกิดเหตุเผชิญหน้า การใช้สื่อใดๆ ไม่ควรเลือกข้าง ไม่แบ่งฝัก แบ่งฝ่าย ให้เกิดความเข้าใจที่ผิด สังคมควรหันหน้าเข้าหากัน ขอให้ทุกฝ่ายประนีประนอมกัน คนไทยเหมือนกัน และไม่ควรดึงสถาบันพระมหากษัตริย์เข้ามาเกี่ยวข้อง

ผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว กล่าวต่อ ในส่วนตัวสนับสนุนการประกาศใช้กฎอัยการศึกครั้งนี้ ยังเป็นโอกาสที่ข้าราชการจะได้ปฏิรูปประเทศด้วย ขอให้หัวหน้าส่วนราชการทั้งหลายที่มาประชุมวันนี้ กลับไปสร้างความเข้าใจให้แก่ประชาชน ได้รับทราบซึ่งการประกาศใช้กฎอัยการศึกครั้งนี้ เป็นการรักษาความสงบเรียบร้อยและนำความสงบสุขกลับมาสู่ประชาชนทุกฝ่ายโดยเร็ว ประชาชนยังใช้ชีวิตได้ตามปกติ



(ดุลยศักดิ์/ส.ปชส.สระแก้ว/ภาพ-ข่าว)

วันนัดพบแรงงานจังหวัดสระแก้ว

วันนี้ (21 พ.ค.) ที่ห้างสรรพสินค้า บิ๊กซี จังหวัดสระแก้ว  สำนักงานจัดหางานจังหวัดสระแก้ว จัดงานวันนัดพบแรงงาน สำหรับผู้ว่างงาน ผู้ต้องการเปลี่ยนงานสระแก้ว โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ผู้ประสงค์หางานทำ ผู้ว่างงาน ผู้สำเร็จการศึกษาได้มีโอกาสสมัครงานกับนายจ้างโดยตรง และลดปัญหาขาดแคลนแรงงาน การว่างงาน ซึ่งในงานนอกจากจะมีตำแหน่งงานว่างสำหรับผู้ว่างงานในทุกระดับการศึกษา โดยมีผู้ประกอบการมารับสมัครเองโดยตรงพร้อมกับตำแหน่งงานว่างมากมาย

สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ สำนักงานจัดหางานจังหวัดสระแก้ว ชั้น 2 ศาลากลางจังหวัด โทร. 037-425020-2 ในวันและเวลาราชการ

“สนทนายามเช้า สภากาแฟ ” จังหวัดฉะเชิงเทรา

วันนี้ ( 21 พ.ค.57)   นายอนุกูล ตังคณานุกูลชัย ผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทรา  เป็นประธานในกิจกรรม เพิ่มประสิทธิภาพการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์การพัฒนาจังหวัด และการติดตามประเมินผลการดำเนินการงานตามแผนปฏิบัติราชการ ประจำปี พ.ศ. 2557 : การพัฒนาบุคคลากร( สภากาแฟ) ณ  ห้องประชุมโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาเขื่อนบางปะกง อำเภอเมืองฉะเชิงเทรา  พร้อมด้วย  นายบัณฑิตย์  เทวีทิวารักษ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัด  นาย ไพศาล วิมลรัตน์   รองผู้ว่าราชการจังหวัด  ตลอดจนส่วนราชการ  หน่วยงานรัฐวิสาหกิจ  ภาคเอกชน และผู้ที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมพบปะสนทนาระหว่างหน่วยงานต่างๆ เพื่อแลกเปลี่ยนเรียนรู้ประสบการณ์  รับฟังความคิดเห็น ข้อเสนอแนะ สร้างสัมพันธ์อันดีต่อกัน และส่งเสริมการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วนในการบูรณาการร่วมกัน  เพื่อเป็นประโยชน์ในการพัฒนาจังหวัดฉะเชิงเทราในทุกด้าน

สำหรับการจัดกิจกรรม "สนทนายามเช้า สภากาแฟ ” จังหวัดฉะเชิงเทรา มีการจัดขึ้นเป็นประจำในทุกเดือน  โดยในเดือนพฤษภาคมนี้ ทางหน่วยงานในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดฉะเชิงเทรา ร่วมเป็นเจ้าภาพในการจัดกิจกรรม  ภายในงานจัดบรรยากาศแบบเป็นกันเอง แลกเปลี่ยนประสบการณ์ในเชิงสร้างสรรค์ เปิดมุมมองใหม่ๆ ทั้งนี้เพื่อให้เกิดองค์ความรู้ใหม่ๆ ในการพัฒนาจังหวัดฉะเชิงเทราร่วมกัน



ชาญณรงค์/ข่าว
ธนภัทร/ภาพ
ส.ปชส.ฉะเชิงเทรา

ชื่นมชมเด็ก ป.5 เก็บสร้อยคอทองคำหนัก 2 บาท ส่งคืนเจ้าของ

ชื่นชม เด็ก ป.5 เก็บสร้อยคอทองคำ หนัก 2 บาท คืนเจ้าของ เมื่อเวลา 10.00 น.วันที่ 21 พ.ค.ที่ศาลาสร้างสุข ม.2 ต.พนานิคม อ.นิคมพัฒนา จ.ระยอง นายวิชิต ชาตไพสิฐ ผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง นายปรีชา จิตบรรจงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดระยอง มอบเงินสด 4,000 บาท และเกียรติบัตรให้กับ ด.ช.พงศธร เสืออ่วม และ ด.ช.อิทธิ ทรัพย์สะอาด เด็กนักเรียนชั้น ป.5 โรงเรียนนิคมสร้างตนเองจังหวัดระยอง 9 ซึ่งเป็นผู้ที่มีคุณธรรม จริยธรรม มีความซื่อสัตย์สุจริตและกระทำความดีต่อสังคม หลังเด็กนักเรียนทั้ง 2 คน เก็บสร้อยคอทองคำหนัก 2 บาท 1 เส้น พร้อมพระเลี่ยมทอง 1 องค์ ส่งคืนเจ้าของ เพื่อเป็นการแสดงความชื่นชม เชิดชู และยกย่องในคุณงามความดีที่ ได้กระทำ และเพื่อเป็นแบบอย่างที่ดีแสดงให้แก่เยาวชนเด็กนักเรียนได้เห็น จึงได้มีการมอบเงินรางวัลและเกียรติบัตรดังกล่าวให้

ทั้งนี้สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 22 เม.ย.ที่ผ่านมา ด.ช.พงศธร เสืออ่วม และ ด.ช.อิทธิ ทรัพย์สะอาด ได้เก็บสร้อยคอทองคำ พร้อมพระเลี่ยมทองดังกล่าวได้ภายในบริเวณวัดเจริญศรีราษฎร์ ม.1 ต.พนานิคม ขณะทั้ง 2 คน ได้ติดตามผู้ปกครองไปทำบุญที่วัด หลังเก็บได้จึงได้นำมาให้ผู้ปกครอง เพื่อประกาศหาเจ้าของ จนกระทั่งทราบว่านางนาตยา สุขพงษ์ไทย ชาว ต.แสนภูดาษ อ.บางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา คือเจ้าของ จึงนำส่งคืนให้ สร้างความปราบปลื้มให้กับนางนาตยา เจ้าของ เป็นอย่างมาก โดยได้มอบเงินเป็นรางวัลให้กับเด็กทั้ง 2 คน เป็นจำนวนเงิน 1,000 บาท เพื่อเป็นการแสดงความมีน้ำใจ และชมเชยในความดีของเด็กทั้ง 2 คนไปก่อนหน้านี้แล้ว

ระยอง ออกหน่วยบริการเคลื่อนที่บริการประชาชนพื้นที่ห่างไกล

ระยอง นำหน่วยบริการเคลื่อนที่ให้บริการประชาชนฟรี ตามโครงการ "หน่วยบำบัดทุกข์บำรุงสุข สร้างรอยยิ้มให้กับประชาชน” พร้อมรับทราบปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนในพื้นที่

 เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 21 พ.ค. ที่ศาลาสร้างสุข ม.2 ต.พนานิคม อ.นิคมพัฒนา จ.ระยอง นายวิชิต ชาตไพสิฐ ผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง เป็นประธานเปิดนำหน่วยบริการเคลื่อนที่จากส่วนราชการต่างๆ ตามโครงการ"บำบัดทุกข์ บำรุงสุข สร้างรอยยิ้มให้กับประชาชน" ร่วมกับองค์การบริหารส่วนจังหวัดระยอง โดยนายปิยะ ปิตุเตชะ นายก อบจ.ระยอง ที่ได้นำหน่วย อบจ.เคลื่อนที่ ออกให้บริการประชาชนด้วย มีนายทรรศนะ วิชัยธนพัฒน์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง นางสุปราณี ชาตไพสิฐ นายกเหล่ากาชาดจังหวัดระยอง ผู้นำ อปท.และผู้นำชุมชนในพื้นที่ ร่วมเป็นเกียรติฯ โดยหน่วยบริการเคลื่อนที่ดังกล่าว มีการให้บริการหลายด้านด้วยกัน เช่น แจกถุงยังชีพผู้ยากไร้ มอบทุนการศึกษา อุปกรณ์กีฬา แว่นตา บริการรักษาพยาบาลเบื้องต้น วัดความดันโลหิต อุดฟัน ถอนฟัน ตัดผม เสริมสวย ฉีดวัคซีนสุนัข แมว แจกจักรยานให้เด็กนักเรียน แจกจ่ายพันธุ์ไม้ พันธุ์ปลา นิทรรศการความรู้ด้านต่างๆ และจำหน่ายสินค้าหนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์จากกลุ่มแม่บ้านในพื้นที่ ทั้งนี้การนำหน่วยเคลื่อนที่มาบริการฟรีแก่ประชาชนครั้งนี้ ถือเป็นการลดค่าใช้จ่าย และอำนวยความสะดวกแก่ประชาชนในพื้นที่ห่างไกล นายวิชิต เปิดเผยว่า การออกหน่วยเคลื่อนที่ ให้บริการประชาชนในโครงการ"บำบัดทุกข์ บำรุงสุข สร้างรอยยิ้มให้กับประชาชน" ในครั้งนี้ นอกจากจะมีการให้บริการฟรีหลายอย่างแล้ว ส่วนราชการยังได้มารับทราบปัญหาความต้องการ ความเดือดร้อนของประชาชนในพื้นที่ เพื่อนำกลับไปจัดทำแผนงบประมาณให้การช่วยเหลือต่อไปอีกด้วย

ระยอง จัดโครงการคลินิกเกษตรเคลื่อนที่ในพระราชานุเคราะห์ฯ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ

เมื่อเวลา 09.00 น. ที่ศาลาสร้างสุข ม.2 ต.พนานิคม อ.นิคมพัฒนา จ.ระยอง นายวิชิต ชาตไพสิฐ ผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง เป็นประธานเปิดโครงการคลินิกเกษตรเคลื่อนที่ในพระราชานุเคราะห์ฯ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร เนื่องในวันคล้ายวันประสูติพระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าทีปังกรรัศมีโชติ โดยมีนายทรรศนะ วิชัยธนพัฒน์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง นายปิยะ ปิตุเตชะ นาย อบจ.ระยอง นายสายหยุด อาบสุวรรณ เกษตรจังหวัดระยอง หัวหน้าส่วนราชการจังหวัดระยอง ผู้นำองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ร่วมเป็นเกียรติในพิธีเปิด และพี่น้องประชาชนในพื้นที่ เข้าร่วมงานจำนวนมาก

ซึ่งการจัดโครงการคลินิกเกษตรเคลื่อนที่ในพระราชานุเคราะห์ฯ ดังกล่าว จัดขึ้นโดยสำนักงานเกษตรจังหวัดระยอง ภายในงานมีการให้บริการจากหน่วยงานสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ คลินิกพืช คลินิกดิน คลินิกสัตว์ คลินิกประมง คลินิกสหกรณ์ คลินิกบัญชี คลินิกชลประทาน คลินิกกฏหมายปฎิรูปที่ดิน คลินิกเกษตรและสหกรณ์ คลินิกศูนย์เมล็ดพันธุ์ข้าวชลบุรี คลินิกหม่อนไหม และคลินิกกองทุนสงเคราะห์การทำสวนยางพารา นอกจากนี้ยังได้จัดให้มีกิจกรรมสนับสนุนโครงการสายใยรักแห่งครอบครัวฯ นิทรรศการของทุกหน่วยงานในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ด้วย

นายสายหยุด อาบสุวรรณ เกษตรจังหวัดระยอง กล่าวว่า โครงการคลินิกเกษตรเคลื่อนที่ในพระราชานุเคราะห์ฯ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร จัดขึ้นเพื่อให้บริการแก่เกษตรกร ในการแก้ไขปัญหาด้านการเกษตร ได้อย่างรวดเร็ว และสอดคล้องกับความต้องการของเกษตรกร ซึ่งมีการบูรณาการความร่วมมือกัน ระหว่างหน่วยงานวิชาการ หน่วยงานส่งเสริม และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมพัฒนาฟื้นฟูเกษตรกร ให้สามารถทำการผลิตทางการเกษตรได้อย่างมีประสิทธิภาพ และยั่งยืนต่อไป

ตรวจสอบเรือลากจูงแก๊งลักรถจักรยานยนต์ ส่งขายประเทศกัมพูชา บริเวณหน้าด่านเกาะเสม็ด พบรถจักรยานยนต์เพิ่มอีก 2 คัน ซุกซ่อนอยู่ใต้ท้องเรือ มีกระสอบน้ำตาลทรายปิดทับตบตาเจ้าหน้าที่ตำรวจคลิกเพื่อบอก Gmail ว่าการสนทนานี้สำคัญ

จากกรณีที่ พ.ต.ท.ชัยพงษ์ แสงพงษ์ชัย รอง ผกก.ป สภ.เพ พร้อมด้วย พ.ต.ท.เจตนพัฒน์ แจ่มแจ้ง สวป.สภ.เพ ประจำตู้ยามเกาะเสม็ด อ.เมืองระยอง ได้นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจจำนวนหนึ่ง เข้าจับกุมแก๊งลักรถจักรยานยนต์ ที่บริเวณหน้าด่านท่าเทียบเรือเกาะเสม็ด เมื่อวันที่ 19 พ.ค.ที่ผ่านมา โดยได้ซุกซ่อนรถจักรยานยนต์มาในเรือลากจูง ชื่อ"เรือโชคสนธิชัย 3” โดยใช้กระสอบที่บรรจุน้ำตาลทราย ปิดทับไว้ตบตาเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้ผู้ต้องหา 2 คน คือนายพงษ์พันธ์ สนธิชัย อายุ 41 ปี อยู่บ้านเลขที่ 39/1 ม.5 ต.เชียงราก อ.สามโคก จ.ปทุมธานี และนายสุรสิทธิ์ จูกลิ่น อายุ 37 ปี อยู่บ้านเลขที่ 32 ม.3 ต.หนองราชวัตร อ.หนองหญ้าใส จ.สุพรรณบุรี พร้อมของกลางรถจักรยานยนต์ 4 คัน เป็นรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า 3 คัน และยี่ห้อยามาฮ่า 1 คัน ซึ่งจากการสอบสวนผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า รถจักรยานยนต์ทั้ง 4 คัน ได้รับซื้อมาจากเครือข่ายแก๊งโจรกรรมรถจักรยานยนต์ในพื้นที่ สภ.พระสมุทรเจดีย์ จ.สมุทรปราการ ในราคาคันละ 3,000 บาท โดยจะนำไปจำหน่ายให้เครือข่ายประเทศกัมพูชาในราคา คันละ10,000 บาท ทั้งนี้ก่อนถูกจับกุมได้นำรถจักรยานยนต์ขนลงเรือมาจาก จ.สมุทรปราการ ลอยลำมาทางทะเล ใช้เส้นทางเดินเรือผ่าน จ.ระยอง และผ่านน่านน้ำไทยฝั่ง จ.ตราด ก่อนจะเข้าสู่ประเทศกัมพูชาต่อไป ซึ่งขณะลอยลำ และจอดเรือพักบริเวณหน้าด่านท่าเทียบเรือเกาะเสม็ด ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เพ พบพิรุธ และขอตรวจค้น จนพบของกลางจักรยานยนต์ที่โจรกรรมมาซุกซ่อนอยู่ในเรือ ความคืบหน้าล่าสุด

วันนี้ (21 พ.ค.) เวลา 13.30 น.ที่บริเวณท่าเทียบเรือเกาะเสม็ด พ.ต.ท.ชัยพงษ์ แสงพงษ์ชัย รอง ผกก.ป สภ.เพ และพ.ต.ท.อำนาจ ภูษิต สวส.สภ.เพ ได้รับแจ้งจากนายชุมพร ข่าวผ่อง และนายสมชาย อินทนานนท์ เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติเขาแหลมหญ้า – เกาะเสม็ด ว่า ยังพบรถจักรยานยนต์ ซุกซ่อนอยู่ในเรืออีก จึงนำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนฯ ไปตรวจสอบ พบรถจักรยานยนต์ จำนวน 2 คัน ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นพีซีเอ็ก 150 สีดำแดง ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน และรุ่นเวฟ 125 สีบอร์น-ดำ ไม่ติดแผ่นทะเบียนเช่นเดียวกัน ซุกซ่อนอยู่ใต้ท้องเรือบริเวณห้องเครื่องเรือ โดยมีกระสอบบรรจุน้ำตาลทรายปิดทับไว้ เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้ยึดไว้เป็นหลักฐาน เพื่อนำไปตรวจสอบหาเจ้าของ พร้อมกับสอบสวนผู้ต้องหา และประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.พระสมุทรเจดีย์ จ.สมุทรปราการ เพื่อให้ติดตามจับกุมเพื่อนร่วมแก๊งต่อไป... เอกสารแนบ 4 ฉบับ — ดาวน์โหลดเอกสารแนบทั้งหมด ดูรูปภาพทั้งหมด แชร์ข้อความทั้งหมด


วฐิต/ข่าว

เหล่ากาชาดจังหวัดตราด ร่วมโรงพยาบาลตราดจัดหน่วยรับบริจาคโลหิต ที่เทศบาลตำบลหนองเสม็ด ขณะที่กำลังพลทหารจากฐานอัคนิรุธ แจ้งความประสงค์บริจาคโลหิตคึกคัก

(21 พ.ค. 57) นางสาวเบญจวรรณ อ่านเปรื่อง ผู้ว่าราชการจังหวัดตราด และนายกเหล่ากาชาดจังหวัดตราด มอบหมายให้คณะกรรมการเหล่ากาชาดจังหวัดตราด พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลตราด จัดหน่วยออกรับบริจาคโลหิตเคลื่อนที่ที่เทศบาล ต.หนองเสม็ด เพื่อเก็บสำรองไว้กับโรงพยาบาลตราด เนื่องจากในช่วงนี้ เกิดพบว่ามีการขาดแคลนโลหิต ขณะเดียวกันทหารหน่วยกองร้อยทหารปืนใหญ่ที่ 1 กองพันทหารปืนใหญ่ ที่มีที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ ตำบลหนองเสม็ด เดินทางมาร่วมบริจาคโลหิตกันอย่างคึกคักด้วย

สำหรับการจัดหน่วยออกรับบริจาคโลหิตในครั้งนี้ทางคณะกรรกมารเกล่ากาชาดจังหวัดตราดได้ออกรับบริจาคอย่างต่อเนื่อง พร้อมกันนี้ได้มีการแจกคู่มือ เรื่อง ใครสามารถบริจาคโลหิตได้บ้าง ที่ ระบุว่า ผู้บริจาคโลหิต ต้องมีน้ำหนัก 45 กิโลกรัมขึ้นไป มีอายุระหว่าง 17 ถึง 60 ปี สุขภาพแข็งแรง ไม่มีโรคประจำตัว ไม่อย่างระหว่างไม่สบายหรือกำลังรับประทานยาใด ไม่มีพฤติกรรมเสี่ยงทางเพศ หรือติดยาเสพติด สตรีที่จะบริจาคโลหิต ต้องไม่อยู่ในระหว่างตั้งครรภ์ หรือให้นมบุตร และไม่มีการคลอดบุตรหรือแท้งบุตรภายใน 6 เดือนที่ผ่านมา ผู้บริจาคโลหิตจะได้รับเข็มที่ระลึกในการบริจาคครั้งแรกและได้รับเข็มที่ระลึกเมื้อบริจาคเลือดครบจำนวนครั้ง เช่น 36 ครั้ง 48 ครั้ง 60 ครั้งและ 72 ครั้ง เป็นต้น รวมทั้งได้เหรียญกาชาดสมานาคุณตามที่ศูนย์บริจาคโลหิตแห่งชาติกำหนด และหากบริจาคเลือดครบ 100 ครั้งก็จะได้รับการชักชวนให้เข้าเป็นสมาชิกชมรมผู้บริจาคโลหิต 100 ครั้งและร่วมทำกิจกรรมอันเป็นประโยชน์สังคมต่อไป

ด้าน เรือเอกกรัชพล สหนาวิน ผู้บังคับกองร้อยทหารปืนใหญ่ที่ 1 ฐานอัคนิรุธ กองพันทหารปืนใหญ่ กองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรีและตราด ซึ่งที่ตั้งฐานอยู่ในพื้นที่ ตำบลหนองเสม็ด ได้นำกำลังพลร่วมบริจาคโลหิตจำนวนมาก โดยระบุว่า การนำกำลังเข้าร่วมบริจาคโลหิตครั้งนี้ เป็นการเปิดโอกาสให้กำลังพลได้ร่วมทำบุญด้วยการบริจาคโลหิต เพื่อให้โลหิตเหล่านี้ได้มามีส่วนช่วยเหลือประชาชนที่เจ็บป่วย หรือประสบอุบัติเหตุ และต้องการต้องการโลหิตใช้ในการรักษาตัว

ขนส่งจังหวัดตราด ย้ำ ผู้โดยสารรถสาธารณะปฏิบัติตามกฎหมายคาดเข็มขัดนิรภัยทุกครั้ง

(21 พ.ค. 57) นางแสงจันทร์ จวบความสุข ขนส่งจังหวัดตราด เปิดเผยว่า ตามกรมการขนส่งทางบกได้กำหนดให้รถโดยสารสาธารณะทุกคันต้องติดตั้งเข็มขัดนิรภัยทุกที่นั่งตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน ที่ผ่านมา ดังนั้น เพื่อให้สามารถกำกับดูแลให้ผู้โดยสารจะต้องคาดเข็มขัดนิรภัยเพื่อให้เกิดความปลอดภัยในการใช้บริการรถโดยสารสาธารณะ รวมทั้งเพื่อให้ผูประกอบการขนส่ง และพนักงานขับรถกำกับดูแลให้ผู้โดยสารปฏิบัติตามข้อกำหนดดังกล่าวอย่างเคร่งครัด กรมการขนส่งทางบกจึงได้เสนอให้มีการออกกฎกระทรวง กำหนดความปลอดภัยและความสงบเรียบร้อยที่ผู้โดยสารต้องปฏิบัติในระหว่างการโดยสาร พ.ศฐ. 2557 กำหนดให้ผู้โดยสารรถสาธารณะจะต้องคาดเข็มขัดนิรภัยตลอดเวลาที่อยู่ระหว่างการโดยสาร โดยมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 11 พฤษภาคม ที่ผ่านมา ผู้ฝ่าฝืนมีความผิดต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 5,000 บาท ทั้งนี้เนื่องจากผลการวิจัยทางวิชาการที่ระบุไว้ว่า ผู้ที่ไม่คาดเข็มขัดนิรภัยมีความเสี่ยงที่จะเสียชีวิตเนื่องจากอุบัติเหตุทางรถยนต์มากกว่าผู้ที่คาดเข็มขัดนิรภัยถึง 1.52 เท่า และพบว่าการคาดเข็มขัดนิรภัยสามารถช่วยลดจำนวนผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุจากทางรถยนต์ได้ถึงร้อยละ 34 หรือมีผู้ที่คาดเข็มขัดนิรภัยสามารถรอดชีวิตจากอุบัติเหตุจราจรได้ 34 ราย จาก 100 ราย นอกจากนี้ยังมีงานวิจัยหลายชิ้นในต่างประเทศที่ยืนยันว่าเข็มขัดนิรภัยเป็นอุปกรณ์ที่มีประสิทธิภาพ สามารถบรรเทาความรุนแรงที่จะเกิดขึ้นกับผู้โดยสารรถยนต์กรณีที่เกิดอุบัติเหตุได้ ดังนั้นสำนักงานขนส่งจังหวัดตราดจึงขอให้ประชาชนที่ใช้บริการรถยนต์โดยสารสาธารณะปฏิบัติตามกฎหมายดังกล่าวทุกครั้ง หากไม่ปฏิบัติตามจะมีความผิดตามกฎหมาย

เกษตรกรจังหวัดตราด นำผลผลิต เงาะพันธุ์บาบาลู ที่ทดลองปลูกในพื้นที่ออกแสดงและจำหน่ายในงานวันระกำหวาน ผลผไม้ และของดีเมืองตราด

(21 พ.ค. 57) ตามที่จังหวัดตราด ได้จัดงานวันระกำหวาน ผลไม้ และของดีเมืองตราด ประจำปี 2557 ขึ้นระหว่างวันที่ 21 -25 พฤษภาคม นี้ ณ บริเวณบ้านท่าจอด ตำบลแสนตุ้ง อำเภอเขาสมิง จังหวัดตราด ทั้งนี้เป็นการประชาสัมพันธ์ผลผลิตผลไม้ของจังหวัดให้เป็นที่รู้จักของประชาชน และนักท่องเที่ยว โดยมีมีกิจกรรมที่หลากหลาย อาทิ การประกวดผลไม้ 8 ชนิด การออกร้านจำหน่ายผลไม้ ซึ่งหนึ่งในจำนวนนั้น คือการแสดงและจำหน่ายเงาะพันธุ์บาบาลู จากอินโดนิเซีย ที่เกษตรกรจังหวัดตราดนำมาทดลองปลูกในพื้นที่มื่อหลายปีที่แล้ว จนให้ผลผลิตแล้วในปัจจจุบัน

นางจิรารักษ์ คณาญาติ เจ้าของเงาะพันธุ์ " บาบาลูก " อายุ 59 ปี อยู่บ้านตกตัก ตำบลสะตอ อำเภอเขาสมิง จังหวัดตราด ที่นำเงาะพันธุ์บาบาลูกมาวางจำหน่าย กล่าวว่านับว่าเป็นเงาะพันธุ์แปลกใหม่ที่ถูกนำมาวางขายเป็นครั้งแรกของงานวันระกำหวานผลไม้และของดีเมืองตราด หรือเรียกว่า หลายคนแทบจะไม่เคยพบเห็นเงาะพันธุ์นี้มาก่อนเลย ก่อนหน้านี้ได้นำพันธุ์เงาะบาบาลูมาจทดลองปลูกในพื้นที่ตำบลสะตอประมาณ 100 ต้น โดยนำพันธุ์มาจากงานพืชสวนโลก ที่จังหวัดเชียงใหม่ เมื่อหลายปีก่อน โดยเงาะพันธุ์นี้ตนได้ลองถูกลองผิดในการปลูก จนปัจจุบันให้ผลประมาณ 50 ต้น จึงทดลองมาทำตลาดโดยจำหน่ายในราคากิโลกรัมละ 100 บาท สำหรับเงาะพันธุ์นี้มีผลรูปทรงค่อนข้างกลมอ้วนใหญ่กว่าเงาะโรงเรียน เปลือกหนา มีขนค่อนข้างแข็ง เนื้อเงาะมีรสชาตินุ่มหอมหวาน เนื้อร่อน เงาะพันธุ์บาบาลู เป็นเงาะที่น่าส่งเสริมให้มีการปลูกมากขึ้น แม้ว่าจะให้ผลผลิตค่อนข้างยาก แต่หากมีการส่งเสริมอย่างจริงจังน่าจะเป็นพืชทางเลือกใหม่อีกชนิดที่น่าสนใจ

งานวันระกำหวาน ผลไม้ และของดีเมืองตราด ประจำปี 2557 นำเกษตรกรชาวสานผลไม้มาจำหน่ายในโดยตรงจากสวนถึงผู้บริโภคในราคาประหยัด

(21 พ.ค. 57) บรรยากาศการจัดงานวันระกำหวาน ผลไม้ และของดีเมืองตราด ประจำปี 2557 ที่จัดขึ้นระหว่างวันที่ 21 – 25 พฤษภาคม 2557 บริเวณบ้านท่าจอด อ. เขาสมิง โดยงานดังกล่าวมีวัตถุประสงค์เพื่อให้เกษตรกรได้นำผลผลิตผลไม้ภายในสวนของตัวเองออกมาจำหน่าย ให้นักท่องเที่ยวและผู้คนโดยทั่วไปได้จับจ่ายซื้อหาไปรับประทานและเป็นผลไม้นำไปฝากญาติมิตรพี่น้อง ทั้งเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวของจังหวัดตราด และกระจายรายได้ให้กับเกษตรกรชาวสวนผลไม้ และส่งเสริมการแปรรูปผลไม้ สำหรับราคาผลไม้ในงานวันระกำหวานผลไม้และของดีเมืองตราด ประจำปี 2557 ที่บ้านท่าจอด อ.เขาสมิง ได้เปิดโอกาสให้เกษตรกรชาวสวนผลไม้ นำผลไม้จากสวนมาจำหน่ายให้กับผู้บริโภคโดยตรง ในราคาประหยัด ประกอบด้วย เงาะโรงเรียน กิโลกรัมละ 32 -34 บาท ทุเรียนหมอนทองกิโลกรัมละ 40 -50 บาท มังคุด ผลใหญ่ กิโลกรัมละ 50 บาท ผลเล็กเกรดต่ำลงมา 30 กิโลกรัม 100 บาท ลองกองซึ่งเป็ช่วงต้นฤดูราคากิโลกรัมละ 50 บาท กระท้อนกิโลกรัมละ 20 บาท สละพันธุ์สุมาลีกิโลกรัมละ 90 บาท ส่วนพันธุ์เนินวง 40 – 50 บาท ขณะที่ระกำหวานผลไม้ประจำจังหวัดตราด ปีนี้ก็ยังคงมีจำหน่ายในราคากิโลกรัมละ 30 บาท นอกจากนี้ยังมีผลไม้อื่น ๆ ให้เลือกซื้อเลือกชิมอย่างครบครัน รวมทั้งผลิตภัณฑ์แปรรูปทางการเกษตรจากลุ่มวิสาหกิจชุมชน สินค้า OTOP การแสดงนิทรรศการทางการเกษตรก การประกวดผลิตผลทางการเกษตร อาทิ ไก่ชน สุนัขพันธุ์ไทยหลังอาน เป็นต้น

งานวันระกำหวาน ผลไม้ และของดีเมืองตราด ประจำปี 2557 เริ่มขึ้นแล้วอย่างเป็นทางการ

(21 พ.ค. 57) นางสาวเบญจวรรณ อ่านเปรื่อง ผู้ว่าราชการจังหวัดตราด เป็นประธานเปิดงานวันระกำหวาน ผลไม้ และของดีเมืองตราด ประจำปี 2557 ซึ่งจังหวัดตราด ร่วมกับทุกอำเภอ และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่ร่วมกันจัดขึ้นบริเวณด่านบ้านท่าจอด ตำบลแสนตุ้ง อำเภอเขาสมิง โดยมีประชาชนและนักท่องเที่ยวสนใจร่วมชมงาน

ผู้ว่าราชการจังหวัดตราด กล่าวว่า งานนี้จัดขึ้น ระหว่างวันที่ 21 – 25 พฤาภาคม 2557 มีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นการประชาสัมพันธ์เผยแพร่ชื่อเสียงผลไม้ที่มีคุณภาพของจังหวัด อีกทั้งเป็นการส่งเสริมทางด้านการตลาดให้กับเกษตรกรชาวสวนผลไม้ ผู้ผลิตสินค้าชุมชน และท้องถิ่นของจังหวัดตราด ตลอดจนเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวให้กับจังหวัด การจัดงานนี้ภายในงานมีกิจกรรมที่หลากหลาย ประกอบด้วย การประกวดผลไม้ ทั้งระกำหวาน ทุเรียนพันธุ์หมอนทอง ลองกอง สับปะรดพันธุ์ตราดสีทอง มังคุด และเงาะโรงเรียน การเปิดตลาดนัดผลไม้คุณภาพราคาถูก การประกวดอาหารพื้นบ้าน การประกวดไก่ชน และสุนัขพันธุ์ไทยหลังอาน อย่างไรก็ตามหลังการเปิดงานในครั้งนี้ยังมีการประกอบอาหาร คือ การปรุงข้าวผัดน้ำพริกระกำกระทะยักษ์ รับประทานร่วมกับแกงเลียงผักปลอดภัยจากสารพิษไว้เลี้ยงผู้เข้าร่วมงานอีกด้วย

จ.จันทบุรี แถลงข่าวงานสุดยอดของดีเมืองจันท์ มหัศจรรย์ทุเรียนโลก 2557

จังหวัดจันทบุรีแถลงข่าวงานเทศกาลของดีเมืองจันท์ มหัศจรรย์ทุเรียนโลก 30 พฤษภาคมถึง 8 มิถุนายนพิธีเปิด 31 พฤษภาคม ยิ่งใหญ่ย้อนประวัติศาสตร์จันทบูร ตื่นตาสุดยอดของดีเมืองจันท์ โชว์ทุเรียนสีทอง มหัศจรรย์ของธรรมชาติ 

วันนี้ ( 21 พ.ค.57 ) ที่ห้องส่งสถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย สำนักประชาสัมพันธ์เขต 7 จังหวัดจันทบุรี สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดจันทบุรีได้จัดแถลงข่าว การจัดงานสุดยอดของดีเมืองจันท์ มหัศจรรย์ทุเรียนโลก ประจำปี 2557โดยก่อนแถลงข่าวผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรีได้โชว์ตำส้มตำทุเรียน อาหารพื้นเมืองที่รับประทานได้เฉพาะช่วงฤดูผลไม้ หลังจากนั้นนายเกรียงเดช เข็มทอง ผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรี พร้อมด้วยนายอาชว์ชัยชาญ เลี้ยงประยูร เกษตรจังหวัด นางสาวอภิรดี ศิริวิจิตรกุล ประธานสภาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวจังหวัดจันทบุรีและนายธำรง กนะกาศรัย ตัวแทนสำนักงานจังหวัดจันทบุรีได้ร่วมกันแถลงข่าว มีการนำทุเรียนสีทองของสวนทิดดำ อำเภอนายายอาม มาตั้งแสดงโชว์ ซึ่งเป็นทุเรียนแปลกที่มีสีสันต์สวยงามเหลืองทองอร่ามทั้งลูก

สำหรับงานเทศกาลของดีเมืองจันท์ มหัศจรรย์ทุเรียนโลก ประจำปี 2557 ซึ่งเป็นงานประจำปีของจังหวัดจันทบุรีที่จัดขึ้นในช่วงฤดูผลไม้เพื่อเป็นการส่งเสริมและประชาสัมพันธ์ของดีเมืองจันท์ สร้างรายได้เกษตรกร รวมทั้งส่งเสริมการท่องเที่ยวกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยปีนี้กำหนดจัดงานในช่วงที่ผลไม้ของเกษตรกรออกสู่ตลาดจำนวนมาก ระหว่างวันที่ 30 พฤษภาคม ถึง 8 มิถุนายน 2557 ณ บริเวณโดยรอบสวนสาธารณะทุ่งนาเชย และสนามกีฬากลาง รูปแบบของงานมุ่งเน้นประชาสัมพันธ์เชิญชวนให้นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในจังหวัดจันทบุรี OUT SIDE IN  สร้างภาพลักษณ์และความประทับใจแก่ผู้มาเยือน เน้นประชาสัมพันธ์คุณภาพผลผลิตทางการเกษตร ผลไม้จากสวน รวมทั้งผลิตภัณฑ์แปรรูปผลผลิต ยกระดับรายได้เกษตรกร ภายในงานจะมีการจัดแสดงแพผลไม้ประดับไฟ นิทรรศการของดีเมืองจันท์ 10 อำเภอ การออกร้านจำหน่ายสินค้าของดีเมืองจันท์โดยเฉพาะผลไม้คุณภาพของกลุ่มแม่บ้านเกษตรกร และสหกรณ์การเกษตร นิทรรศการความรู้ทางการเกษตร การประกวดผลผลิตและผลิตภัณฑ์แปรรูปทางการเกษตร ถนนผลไม้ แข่งกินผลไม้ แข่งกินอาหารทะเล การจำหน่ายอัญมณีและเครื่องประดับ การจัดแสดงและจำหน่ายสินค้า OTOP การออกร้านอาหารพื้นเมืองและอาหารทะเล ประกวดธิดาชาวสวน การแสดงบนเวทีตลอด 10 คืน กิจกรรมพานักท่องเที่ยวชมและชิมผลไม้สดจากต้นในสวนผลไม้ ทั้งนี้พิธีเปิดงาน สุดยอดของดีเมืองจันท์ มหัศจรรย์ทุเรียนโลก ประจำปี 2557 กำหนดเปิดงานในเย็นวันเสาร์ที่ 31 พฤษภาคม 2557 ณ เวทีกลาง อาคารเฉลิมพระเกียรติฯ เทศบาลเมืองจันทบุรี ( อาคารกระต่าย ) ชมริ้วขบวนประวัติศาสตร์เทิดพระเกียรติฯ อลังการสุดยอดของดีเมืองจันท์


 
จรัล/ภาพ/ข่าว ( 21 พ.ค.57 )
                ธเนศ เธียรนันทน์/ตรวจข่าว


  

   

อบจ.ชลบุรี จัดโครงการ อบจ.สัญจร

องค์การบริหารส่วนจังหวัดชลบุรี จัดโครงการ อบจ.สัญจร พบปะผู้นำท้องถิ่น และเผยแพร่ให้ความรู้ด้านการกีฬาสู่มวลชนและเยาวชนท้องถิ่นจังหวัดชลบุรี ณ โรงเรียนพลูตาหลวง อำเภอสัตหีบ เพื่อตอกย้ำการเป็น “เมืองชล คนกีฬา” อย่างแท้จริง

ณ ห้องประชุมโรงเรียนชุมชนบ้านคลองพลู อำเภอหนองใหญ่ จังหวัดชลบุรี นายวิทยา คุณปลื้ม นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดชลบุรี เป็นประธานในพิธีเปิดโครงการ อบจ.ชลบุรี สัญจร เพื่อการมีส่วนร่วมในการพัฒนาจังหวัดชลบุรี ประจำปี 2557 ตามนโยบายหลักในการพัฒนาจังหวัดชลบุรี ภายใต้แนวคิด "พัฒนาเมืองชล สร้างคน สร้างเศรษฐกิจ" นโยบายข้อที่ 1 ด้านความสัมพันธ์และการประสานงานท้องถิ่น โดยมีวัตถุประสงค์การจัดโครงการฯ เพื่อส่งเสริมการมีส่วนร่วมของประชาชนในการปกครองท้องถิ่น กับองค์กรภาครัฐ เพื่อส่งเสริมกระบวนการเรียนรู้ พัฒนาศักยภาพของผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น สมาชิกสภาท้องถิ่น บุคลากรของ อปท. ผู้นำชุมชน ผู้ปกครองท้องที่ หน่วยงานภาครัฐ ทุกภาคส่วนเข้ามามีบทบาท และการมีส่วนร่วมในการสร้างความเข้มแข็งชุมชน เพื่อทราบปัญหาในการพัฒนาท้องถิ่น โดยมีกลุ่มเป้าหมายประกอบด้วย นายอำเภอ หัวหน้าส่วนราชการประจำอำเภอ คณะผู้บริหารท้องถิ่น สมาชิกสภาท้องถิ่น ผู้ปกครองท้องที่ ผู้นำชุมชนกลุ่มต่างๆ จำนวน 299 คน และในเวลา 16.00 น. นายกวิทยา คุณปลื้ม นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดชลบุรี เป็นประธานในพิธีเปิดโครงการส่งเสริมเผยแพร่และให้ความรู้ด้านการกีฬาสัญจรสู่มวลชนท้องถิ่น จังหวัดชลบุรี ประจำปีงบประมาณ 2557 (Sports Clinic) ซึ่งได้มีการมอบอุปกรณ์ด้านการกีฬา แก่หน่วยงานที่ร่วมโครงการฯ และกิจกรรมการแข่งขันกีฬาฟุตบอลกระชับความสัมพันธ์ระหว่างทีมอาวุโส วี.ไอ.พี.องค์การบริหารส่วนจังหวัดชลบุรี กับ ทีมอาวุโส วี.ไอ.พี.ผู้นำท้องถิ่น อ.สัตหีบ ผลการแข่งขันในครั้งนี้ วี.ไอ.พี.องค์การบริหารส่วนจังหวัดชลบุรี เอาชนะ ทีมอาวุโส วี.ไอ.พี. ผู้นำท้องถิ่น อำเภอสัตหีบ 2 : 0

นายวิทยา คุณปลื้ม นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดชลบุรี เปิดเผยว่า “อบจ.ชลบุรี ได้จัดโครงการ อบจ.สัญจร เพื่อการมีส่วนร่วมในการพัฒนาจังหวัดชลบุรี และการฝึกอบรมส่งเสริมเผยแพร่และให้ความรู้ด้านการกีฬาสัญจรสู่มวลชนท้องถิ่นจังหวัดชลบุรี จำนวน 11 ครั้ง ในช่วงเดือน พฤษภาคม-สิงหาคม 2557 โดยแบ่งกิจกรรมออกเป็น 2 ส่วน คือ การพบปะพูดคุยกับผู้นำท้องถิ่น ในพื้นที่ต่างๆ ทุกอำเภอของจังหวัดชลบุรี  และบรรยายพิเศษ เรื่องการมีส่วนร่วมในการพัฒนาท้องถิ่น  พร้อมกับกิจกรรมแข่งขันฟุตบอลกระชับความสัมพันธ์ของทีมอาวุโส วีไอพี ของ อบจ.ชลบุรีและท้องถิ่นนั้นๆ ส่วนกิจกรรมที่ 2 จะเป็นกิจกรรม sport clinic ให้ความรู้ด้านกีฬาแก่เยาวชนในพื้นที่ เพื่อเป็นการเสริมทักษะการกีฬา และให้เยาวชนได้ใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์  ซึ่งได้รับการตอบรับจากนักกีฬาฟุตบอลของทีมชลบุรีเอฟซี ในการเข้าร่วมกิจกรรมนี้ เพื่อร่วมสร้างแรงบันดาลใจให้กับเยาวชน ที่เข้าร่วมโครงการ ในการพัฒนาให้เป็นนักกีฬาอาชีพ เพื่อตอกย้ำการเป็น “เมืองชล คนกีฬา” อย่างแท้จริง พร้อมกับการมอบอุปกรณ์กีฬาให้กับโรงเรียนที่ร่วมโครงการ



ปริญญา/ข่าว/ภาพ

สมิติเวชศรีราชาจัดซ้อมแผนรองรับอุบัติภัยหมู่ทางทะเลภายใต้โครงการเสริมสร้างศักยภาพการช่วยเหลือผู้ประสบภัยทางทะเล ครั้งที่ 1

รพ.สมิติเวชศรีราชา บูรณาการร่วมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดซ้อมแผนรองรับอุบัติภัยหมู่ทางทะเลภายใต้โครงการเสริมสร้างศักยภาพการช่วยเหลือผู้ประสบภัยทางทะเล ครั้งที่ 1 หวังพัฒนาระบบการรักษาพยาบาลและระบบการส่งต่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด และการเพิ่มขึ้นของผู้ป่วยและอุบัติเหตุทางทะเล

โรงพยาบาลสมิติเวช ศรีราชาได้จัดให้มีการจัดซ้อมแผนรองรับอุบัติภัยหมู่ทางทะเล ภายใต้โครงการเสริมสร้างศักยภาพการช่วยเหลือผู้ประสบภัยทางทะเล ครั้งที่ 1 ประจำปี 2557 ณ บริเวณท่าเทียบเรือเกาะลอย อำเภอศรีราชาจังหวัดชลบุรี โดยได้รับความมือจากอำเภอศรีราชา, เทศบาลเมืองศรีราชา,เทศบาลนครเจ้าพระยาสุรศักดิ์,กองกำกับการตำรวจน้ำศรีราชา,กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กระทรวงมหาดไทย,ท่าเรือแหลมฉบังการท่าเรือแห่งประเทศไทย, สมาคมพุทธมามกสว่างประทีปธรรมสถานศรีราชา และพุทธสมาคมเพียวเยี้ยงไท้ศรีราชา ทั้งนี้ได้มีการจำลองสถานการณ์เรือโดยสารท่องเที่ยวแบบเช่าเหมาลำที่ได้บรรทุกนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติจำนวน 10 คนเดินทางไปกราบไหว้ขอพรองค์เจ้าพ่อเขาใหญ่ อำเภอเกาะสีชัง แต่ระหว่างเดินทางกลับฝั่งศรีราชา ได้เกิดพายุฝนและน้ำได้เข้าเรือจนเป็นเหตุให้เรือล่มกลางทะเลและหนึ่งในนักท่องเที่ยว ได้โทรศัพท์ขอความช่วยเหลือจากญาติในอำเภอศรีราชาก่อนประสานขอความช่วยเหลือจากโรงพยาบาลสมิติเวชศรีราชและโรงพยาบาลฯ ได้ขอความช่วยเหลือจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อช่วยเหลือนักท่องเที่ยวที่ได้รับบาดเจ็บขึ้นฝั่งและนำตัวส่งโรงพยาบาล โดยการซ้อมแผนในครั้งนี้ใช้เจ้าหน้าที่จากหน่วยงานต่างๆบูรณาการร่วมกันจำนวน 40 คน

ด้านนายจักรพงษ์ รัชนีกุล ปลัดอาวุโสอำเภอเมืองศรีราชา กล่าวถึงภาพรวมของการจัดซ้อมแผนฯว่า เป็นการฝึกอบรมทั้งภาคทฤษฎีและปฏิบัติ โดยผู้เข้าอบรม สามารถปฏิบัติตามลำดับขั้นตอนผ่านได้ด้วยดี ทั้งนี้หากมีสถานการณ์จริงเกิดขึ้น จะทำให้การประสานงานช่วยเหลือ และส่งต่อผู้บาดเจ็บส่งถึงโรงพยาบาล จะเป็นได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

ขณะที่นายแพทย์นพดล นพคุณ ผู้อำนวยการ โรงพยาบาลสมิเวชศรีราชา กล่าวถึงการจัดการซ้อมแผนฯครั้งนี้ว่า เนื่องจากที่ผ่านมาได้เกิดอุบัติภัยหมู่ทางทะเลในหลายๆครั้ง ทั้งในประเทศและต่างประเทศ ตลอดจนเหตุการณ์เรือล่มบริเวณแหล่งท่องเที่ยวทางทะเลในพื้นที่จังหวัดชลบุรี และหลายครั้งมีการสูญเสียชีวิตในที่เกิดเหตุก่อนนำส่งโรงพยาบาลด้วยเหตุนี้โรงพยาบาลสมิติเวช ศรีราชา จึงขอเป็นส่วนหนึ่งในการแสดงความรับชอบต่อสังคมในการจัดทำแผนซ้อมรองรับอุบัติภัยหมู่ทางทะเลนี้ขึ้น เพื่อการพัฒนาระบบการรักษาพยาบาลและระบบการส่งต่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดรองรับการเพิ่มขึ้นของจำนวนผู้ป่วยและอุบัติเหตุทางทะเล ลดอัตราการเสียชีวิตต่อไป



ปริญญา/ข่าว/ภาพ

วันจันทร์ที่ 12 พฤษภาคม พ.ศ. 2557

จังหวัดสระแก้ว เดินหน้าจัดประชุมยุทธศาสตร์สระแก้วเมืองแห่งความสุขภายใต้ 4 ดี วิถีพอเพียง


เมื่อ 7 พ.ค. 57 ที่สวนพฤกษศาสตร์วังน้ำเย็น อำเภอวังน้ำเย็น จังหวัดสระแก้ว ได้เปิดโครงการประชุมเชิงปฏิบัติการจัดทำยุทธศาสตร์สระแก้วเมืองแห่งความสุขภายใต้ 4 ดี วิถีพอเพียง (SA Kaeo Happiness Model ) จังหวัดสระแก้ว ปี 2557- 2561 มีนายภัครธรณ์ เทียนไชย ผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว เป็นประธาน ทั้งนี้นายสมยศ ศรีจารนัย นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดสระแก้ว กล่าวรายงานว่า จากการเปลี่ยนแปลงสภาพแวดล้อมปัจจุบัน ส่งผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตของชาวสระแก้วในหลายด้าน จำเป็นต้องร่วมกันแก้ไขปัญหาแบบบูรณาการครอบคลุมทุกมิติไปพร้อมกัน โดยร่วมกับภาคีเครือข่าย องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น จัดทำข้อตกลง จัดทำโครงการสระแก้วเมืองแห่งความสุขภายใต้ 4 ดี วิถีพอเพียง ประกอบด้วย คนดี สุขภาพดี รายได้ดี และสิ่งแวดล้อมดี นำร่องอำเภอละ ตำบล สำหรับจุดประสงค์ในการประชุมครั้งนี้เพื่อให้ทุกภาคส่วนได้ มีส่วนร่วม ระดมความคิดเห็น เพื่อจะได้มียุทธศาสตร์สระแก้วเมืองแห่งความสุขภายใต้ 4 ดีวิถีพอเพียง บรรจุไว้ในแผนพัฒนาจังหวัด ต่อไป พร้อมทั้งได้รับการสนับสนุนจากผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้วให้ขับเคลื่อนอย่างเป็นรูปธรรมต่อไป

นายภัครธรณ์ เทียนไชย ผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว กล่าวว่า โครงการสระแก้วเมืองแห่งความสุขภายใต้ 4 ดี วิถีพอเพียง ได้เกิดกระแสทั้งในระดับจังหวัด อำเภอ ตำบล และหมู่บ้าน หวังจะเกิดผลเป็นรูปธรรมโดยเร็ว จุดเด่นโครงการคือยึดเอาความสุขของประชาชนเป็นเป้าหมายร่วมกัน คุณภาพชีวิตชาวบ้านไม่สามารถพัฒนาได้ด้วยหน่วยงานใดหน่วยงานหนึ่ง จำเป็นต้องบูรณาการกันไปทุกมิติ ต้องทำต่อเนื่อง โดยใช้พลังความรู้ ความรักและความสามัคคี จากทุกภาคส่วน


(ดุลยศักดิ์/ภาพ/ข่าว)

คณะกรรมการธรรมาภิบาลจังหวัดสระแก้ว ร่วมสังเกตการณ์โครงการพัฒนาจังหวัดประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2557

คณะกรรมการธรรมาภิบาลจังหวัดสระแก้วร่วมสังเกตการณ์โครงการพัฒนาจังหวัดประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2557 นายกำไร วงษ์ศรี รองประธานกรรมการธรรมาภิจังหวัดสระแก้วนำคณะลงพื้นที่ตาพระยาเพื่อร่วมสังเกตการณ์สอดส่องการดำเนินโครงการตามแผนพัฒนาจังหวัด ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2557 ในเขตพื้นที่ ตาพระยา จำนวน 1 โครงการ ในวันที่ 8 พ.ค.2557 ที่ผ่านมา นายกำไร วงษ์ศรี รองประธานกรรมการธรรมาภิจังหวัดสระแก้ว เปิดเผยว่าคณะกรรมการธรรมาภิบาลจังหวัดสระแก้วได้ลงพื้นที่สังเกตการณ์โครงการพัฒนาจังหวัดประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2557ในครั้งนี้ เป็นระยะที่ 2ในเงินงบประมาณพัฒนาจังหวัด กว่า 20 ล้านบาท ในวันนี้ได้ลงพื้นที่สังเกตการณ์ โครงการชลประทานในพื้นที่ตาพระยา 1.โครงการขุดลอกแก้มลิงรัฒนโกสินทร์ ระยะ ที่ 2 หมู่ที่ 5 บ้านรัฒน ต.ทัพไทย อ.ตาพระยา และ โครงการขุดลอกแก้มลิงหนองทิ้งกับ หมู่ที่ 4 ต.ทัพไทย อ.ตาพระยา จากการลงพื้นที่ดูงานการดำเนินงานก็อยู่ในระยะ 80% ในการทำป้ายของโครงการก่อสร่าง และการถมดินเพื่อกักเก็บน้ำเพื่อให้ชาวบ้านทำการเกษตรในหน้าแล้ง ซึ่งผู้ตรวจสำนักนายกได้มอบหมายให้คณะกรรมการธรรมาภิบาลจังหวัดสระแก้วสอดส่องสังเกตการณ์ให้คำเนะนำต่อเจ้าของโครงการ

สำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงานเปิดรับสมัครคณะกรรมการผู้ใช้พลังงานประจำเขต(คพข.)

นายกวิน ทังสุพานิช เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน แจ้งกับ ประชาสัมพันธ์จังหวัดระยอง ว่า ด้วยสำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน(สำนักงาน กกพ.) จะเปิดรับสมัครผู้แทนผู้ใช้พลังงานเข้าเป็นคณะกรรมการผู้ใช้พลังงานประจำเขต(คพข.) เพื่อเป็นกลไกลดำเนินงานในการคุ้มครองผู้ใช้พลังงานให้กับกรรมการกำกับกิจการพลังงาน(กกพ.) ตามพระบัญญัติการประกอบกิจการพลังงาน พ.ศ. ๒๕๕๐

ในการนี้ สำนักงาน กกพ. ใคร่ประกาศประชาสัมพันธ์เรื่องนี้ เพื่อให้ผู้ใช้พลังงานที่สนใจสามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับคุณสมบัติ วาระการดำรงตำแหน่ง อำนาจหน้าที่ และจำนวน คพข. ที่จะมีในแต่ละจังหวัดรวมทั้งดาวน์โหลด ใบสมัคร ได้ที่ www.erc.or.th(ใบสมัครทางไปรษณีย์ลงทะเบียนตอบรับมาที่ สำนักงาน กกพ. ระหว่างวันที่ ๙-๓๐ พฤษภาคม ๒๕๕๗) หรือโทรศัพท์สอบถามเพิ่มเติมที่ ฝ่ายคุ้มครองสิทธิประโยชน์ สำนักงาน กกพ. โทร. ๐๒ ๒๐๗๓๕๙๙ ต่อ ๘๙๐-๑ ในวันและเวลาราชการ

จังหวัดระยอง ขอเชิญร่วมเป็นเจ้าภาพกองผ้าป่าพุทธมณฑลในนามจังหวัดระยอง

นายวิชิต ชาตไพสิฐ ผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง แจ้งกับ ประชาสัมพันธ์จังหวัดระยอง ว่า ด้วยพุทธมณฑล เป็นพุทธศาสนสถานที่สำคัญของชาติ มีการจัดกิจกรรมสำคัญทางพระพุทธศาสนาอย่างต่อเนื่องอยู่เสมอ จำเป็นต้องใช้ทุนเป็นจำนวนมาก คณะกรรมการอำนวยการอนุรักษ์และพัฒนาพุทธมณฑล ฝ่ายฆราวาส ซึ่งมีนายกรัฐมนตรีเป็นประธานตามความเห็นชอบของเถรสมาคม ได้มีมติจัดทอดผ้าป่าพุทธมณฑล ในวันวิสาขบูชาของทุกปี สำหรับปีนี้ตรงกับวันอังคารที่ ๑๓ พฤษภาคม ๒๕๕๗

จังหวัดระยอง จึงขอเชิญร่วมเป็นเจ้าภาพกองผ้าป่าพุทธมณฑลในนามจังหวัดระยอง เพื่อทอดผ้าป่าพุทธมณฑล ในวันอังคารที่ ๑๓ พฤษภาคม ๒๕๕๗ เวลา ๑๖.๐๐ น. ณ. พุทธมณฑล โดยสามารถบริจาคเงิน ได้ที่ สำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดระยอง หรือ บริจาคสมทบทุนกองทุนผ้าป่าพุทธมณฑล โดยตรง ทางธนาณัติสั่งจ่ายในนามผู้อำนวยการสำนักงานพุทธมณฑล ปทจ. พุทธมณฑล อำเภอพุทธมณฑล จังหวัดนครปฐม ๗๓๑๗๐

จ.ตราด เดินหน้าส่งเสริมการใช้จุลินทรีย์ในสวนผลไม้ชนิดมังคุดและทุเรียน เตรียมความพร้อมเกษตรกรก่อนเข้าสู่ประชาคมอาเซียน

(12 พ.ค. 57) นางสาวเบญจวรรณ อ่านเปรื่อง ผู้ว่าราชการจังหวัดตราด เปิดงานวันสาธิตการใช้จุลินทรีย์ในสวนผลไม้ชนิดมังคุดและทุเรียน ที่สวนมังคุด ของนายสมศักดิ์ บำรุงศิลป์ เกษตรกรชาวสวนมังคุด หมู่ที่ 5 ตำบลเขาสมิง อำเภอเขาสมิง และสวนทุเรียนของนายธนชิต พลอยสิริ เกษตรกรสวนทุเรียน หมู่ที่ 10 ตำบลประณีต อำเภอเขาสมิง ซึ่งสำนักงานเกษตรจังหวัดตราดดำเนินการ ภายใต้งบประมาณพัฒนาจังหวัดตราด

ผู้ว่าราชการจังหวัดตราด กล่าวว่า การจัดวันสาธิตการใช้จุลินทรีย์ในสวนผลไม้ ประเภท มังคุด และทุเรียนในครั้งนี้เป็นการดำเนินการภายใต้โครงการส่งเสริมและพัฒนาการผลิตสินค้าเกษตรปลอดภัยและได้มาตรฐาน จังหวัดตราด ประจำปีงบประมาณ 2557 โดยดำเนินการสนับสนุนจุลินทรีย์และปุ๋ยอินทรีย์เพื่อทดแทนการใช้สาเคมิ ตลอดจนเป็นการส่งเสริมการเลี้ยงชันโรง เพื่อช่วยผสมเกสรเงาะในการเพิ่มผลผลิต ทั้งนี้เพื่อเป็นการพัฒนาให้เกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการมีความรู้เรื่องการผลิตตามระบบการจัดการคุณภาพ GAP พืชชนิดไม้ผล เป็นการรองรับการเข้าสู่ประชาคมอาเซียน ซึ่งจะมีผลผไม้จากต่างประเทสจำนวนมากเขามาสู่ตาดในประเทศ ดังนั้นหากเกษตรกรสามารถผลิตผลไม้ ได้มาตรฐาน GAP และปลอดจากสารเคมี เป็นการยกระดับราคาให้ผลไม้เข้าสู่ตลาดกลุ่มผู้บริโภคผลไม้คุณภาพ ช่วยไม่ให้เกิดปัญหาด้านการตลาดให้กับเกษตรกร อย่างไรก็ตามนอกจากการการส่งเสริมให้ใช้จุลินทรีย์ในสวนผลไม้แล้ว ยังเป็นการสาธิตการใช้ระบบการตรวจวัดความเป็นกรดเป็นด่างในพื้นดินในสวนผลไม้มาใช้ เพื่อให้เกษตรกรได้ทราบถึงแนวทางในการปรับปรุงดินให้เหมาะสมกับผลไม้แต่ละชนิดอีกด้วย

ครูสอนดีจังหวัดจันทบุรีแสดงผลงานความสำเร็จ

กลุ่มครูสอนดีจังหวัดจันทบุรีแสดงผลงาน ชุมชนย่อยที่ 10 เนินเอฟเอ็มที่ได้รับการยอมรับเป็นชุมชนต้นแบบขยายผลแก่เด็ก เยาวชน นอกพื้นที่    

ค่ำวานนี้ ( 11 พ.ค.57 ) ที่โรงเรียนสฤษดิเดช อำเภอเมือง จังหวัดจันทบุรี กลุ่มครูสอนดีในพื้นที่จังหวัดจันทบุรี ได้จัดกิจกรรมแสดงผลงานของครูและนักเรียนชุมชนย่อยที่ 10 เนินเอฟเอ็ม โดยมีนายเกรียงเดช เข็มทอง ผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรีเป็นประธาน กล่าวเปิดงานและเยี่ยมชมผลงานทางวิชาการของครูสอนดี เด็ก และเยาวชน โดยนายวิวัฒน์ เพชรศรี ผู้ทรงคุณวุฒิทางวิชาการ ผู้รับผิดชอบโครงการยกระดับการพัฒนาการเรียนรู้ของเด็กและเยาวชนในจังหวัดจันทบุรี กล่าวว่าผลงานของครูสอนดีที่จัดการเรียนการสอนในชุมชนย่อยที่ 10 เทศบาลเมืองจันทบุรีหรือเนินเอฟเอ็ม ถือเป็นผลงานต้นแบบการพัฒนาคุณภาพการศึกษาของจังหวัดจันทบุรีที่จะช่วยเหลือเด็ก เยาวชน ผู้ด้อยโอกาส กลุ่มเสี่ยงที่ครอบครัวมีฐานะยากจนให้เข้าถึงระบบการศึกษาเหมือนเด็กปกติทั่วไป ที่กลุ่มครูผู้เสียสละในจังหวัดจันทบุรีร่วมกันคิดจัดทำโครงการและดำเนินการต่อเนื่องมาหลายปี จนเป็นที่ยอมรับและส่งผลให้สำนักงานส่งเสริมสังคมแห่งการเรียนรู้และคุณภาพเยาวชนคัดเลือกจังหวัดจันทบุรีเป็นจังหวัดต้นแบบ 1 ใน 10 แห่งทั่วประเทศ ที่จะขยายผลไปสู่ชุมชนอื่นปรับเปลี่ยนพฤติกรรมผู้ปกครอง เด็ก และเยาวชนกลุ่มเสี่ยงให้เข้าถึงการเรียนรู้ มีอนาคตทางการศึกษา เป็นกำลังสำคัญของชาติต่อไปในอนาคต

โดยการแสดงผลงานครั้งนี้ได้รับความสนใจจากครู นักเรียน ผู้ปกครองและประชาชน ร่วมชมผลงานและการแสดงของเด็ก เยาวชนจำนวนมาก


 

จรัล/ภาพ/ข่าว ( 12 พ.ค.57 )
                ธเนศ เธียรนันทน์/ตรวจข่าว

ชาวบ้านปิดถนนประท้วงการประปาน้ำไม่ไหล เร่งแก้ปัญหา

ชาวบ้านตำบลท่าช้าง อำเภอเมือง จังหวัดจันทบุรีปิดถนนประท้วงการประปาส่วนภูมิภาคจันทบุรีเร่งแก้ปัญหาน้ำไม่ไหลเดือดร้อนไม่มีน้ำกิน น้ำใช้มายาวนาน

ที่หน้าสำนักงานการประปาส่วนภูมิภาค จังหวัดจันทบุรี ชาวบ้านในพื้นที่ตำบลท่าช้างอำเภอเมือง จังหวัดจันทบุรีได้รวมตัวกันแต่งชุดดำ ประท้วงปิดถนนบริเวณหน้าสำนักงานการประปาส่วนภูมิภาคจังหวัดจันทบุรี พร้อมนำโลงศพจำลองมาตั้งไว้อาลัยแสดงความไม่พอใจที่ระบบการประปาในพื้นที่ตำบลท่าช้าง ที่ไหลบ้าง ไม่ไหลบ้าง สร้างความเดือดร้อนแก่ชาวบ้านมายาวนานโดยนายเฉลิมพล ศักดิ์คำ นายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองท่าช้าง เป็นตัวแทนชาวบ้านเข้าเจรจากับเจ้าหน้าที่การประปาส่วนภูมิภาคจังหวัดจันทบุรี เพื่อหาแนวทางแก้ไขบรรเทาความเดือดร้อนของชาวบ้านในพื้นที่ประมาณ 25,000 ครัวเรือนที่ได้รับผลกระทบจากการใช้น้ำประปาและเป็นพื้นที่สูงระบบจ่ายน้ำจึงไม่สมบูรณ์เพียงพอความต้องการของประชาชนชุมชนที่มีความหนาแน่นและขยายตัวเพิ่มมากขึ้นซึ่งที่ผ่านมาทางเทศบาลเมืองท่าช้างต้องแบกรับภาระนำรถน้ำออกแจกจ่ายแก่ชาวบ้านมายาวนาน ทั้งนี้ผลการเจรจาเบื้องต้นการประปาส่วนภูมิภาคจังหวัดจันทบุรีจะเร่งแก้ปัญหาระบบการส่งน้ำจากสถานีกักเก็บน้ำเขาโป่งลาง หมู่ที่ 5 ตำบลท่าช้าง ตามความต้องการของชาวบ้านคือจะจัดระบบจ่ายน้ำเป็นเวลาและมีคณะกรรมการตัวแทนชาวบ้านเป็นผู้ช่วยดูแลโดยในช่วงเช้าตั้งแต่เวลา 06.00 น.ถึง 12.00 น.จะเปิดระบบจ่ายน้ำให้ชาวบ้านในพื้นที่หมู่บ้านศิริการ การเคหะ และบริเวณใกล้เคียงที่เป็นชุมชนใหญ่มีประชากรหนาแน่น ส่วนหลังจากช่วงบ่ายไปจะเปิดระบบจ่ายน้ำทั้งหมดซึ่งจะทำให้บริเวณรอบนอกได้รับบริการอย่างทั่วถึง

อย่างไรก็ตาม นายประสิทธิ์ เจริญลาภ หัวหน้างานผลิตการประปาส่วนภูมิภาคจังหวัดจันทบุรี กล่าวถึงการแก้ไขระยะยาวโดยการประปาส่วนภูมิภาคจังหวัดจันทบุรีได้ทำเรื่องขอรับการสนับสนุนงบประมาณจากส่วนกลางในการปรับปรุงแก้ไขสถานีจ่ายน้ำเขาโป่งลาง และระบบส่งน้ำในพื้นที่เขตเทศบาลเมืองท่าช้างทั้งระบบเพื่อให้ประชาชน ผู้ใช้น้ำได้รับความสะดวกเพิ่มขึ้นโดยตั้งงบประมาณไว้ 500 ล้านบาท จะดำเนินการแล้วเสร็จสมบูรณ์ภายใน 2 ปี


 

จรัล/ภาพ/ข่าว ( 12 พ.ค.57 )
                                ธเนศ เธียรนันทน์/ตรวจข่าว
   
   
   
   
   

   

อบจ. จัดโครงการปฐมนิเทศ นักศึกษาจีน มหาวิทยาลัยยูนาน รุ่น 17

วันจันทร์ที่ 12 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 รศ.เชาวน์ มณีวงษ์ ที่ปรึกษานายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดชลบุรี เป็นประธานเปิดการอบรมโครงการปฐมนิเทศ นักศึกษาจีน มหาวิทยาลัยยูนาน ณ ห้องประชุมแก้วเจ้าจอม องค์การบริหารส่วนจังหวัดชลบุรี

องค์การบริหารส่วนจังหวัดชลบุรี จัดโครงการความร่วมมือไตรภาคีทางการศึกษา เป็นความร่วมมือระหว่างองค์การบริหารส่วนจังหวัดชลบุรี มหาวิทยาลัยบูรพา มหาวิทยาลัยยูนาน และมหาวิทยาลัยต้าลี่ ประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน โดยการนำคณะนักศึกษาจากมหาวิทยายูนาน จำนวน 50 คน และคณะนักศึกษาจากต้าลี่ จำนวน 4 คน ซึ่งรุ่นนี้เป็นรุ่นที่ 17 แล้ว เพื่อทำการฝึกสอนภาษาจีนในสถานศึกษาจังหวัดชลบุรี

สำหรับการนำนักศึกษาจากมหาวิทยาลัยยูนาน จำนวน 50 คน เข้าฝึกสอนภาษาจีนระหว่างเดือนพฤษภาคม ถึงเดือนกันยายน 2557 รวม 5 เดือน 1 เทอมการศึกษา ส่วนนักศึกษาจากมหาวิทยาลัยต้าลี่ จำนวน 4 คน เข้าฝึกสอนภาษาจีนระหว่างเดือน พฤษภาคม 2557 ถึงเดือน กุมภาพันธ์ 2558 รวม 10 เดือน 2 เทอมการศึกษา โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเพิ่มโอกาสทางการศึกษาในด้านภาษาต่างประเทศ และเป็นการเปิดโลกทัศน์ทางการศึกษาให้แก่นักเรียนในจังหวัดชลบุรี เป็นแนวทางการจัดการเรียนการสอนภาษาจีนให้กับครู และนักเรียนในสถานศึกษาจังหวัดชลบุรี เป็นการสนับสนุนการพัฒนาทางด้านวัฒนธรรมระหว่างประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีนกับประเทศไทย และเพื่อติดตาม และประเมินผลการจัดการเรียนการสอนของนักศึกษาฝึกสอนจีนต่อไป

รศ.เชาวน์ มณีวงษ์ ที่ปรึกษานายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดชลบุรี กล่าวว่า โครงการปฐมนิเทศ นักศึกษาจีน มหาวิทยายาลัยยูนาน ตามโครงการความร่วมมือไตรภาคีทางการศึกษา รุ่น 17 ได้จัดการอบรมระหว่างวันที่ 12 – 14 พฤษภาคม 2557 โดยในการอบรมครั้งนี้ได้มีการบรรยายในหัวข้อเรื่อง การฝึกสอนของนิสิตชาวจีนในประเทศไทย และบรรยายเรื่อง ระบบการศึกษา หลักสูตร และแนวทางการจัดการเรียนการสอนในประเทศ โดย ดร.มณเทียน ชมดอกไม้ จากนั้นอาจารย์ทรงวุฒิ อยู่เอี่ยม บรรยายเรื่อง จิตวิทยาการเรียนการสอน จากนั้นเป็นการบรรยายเรื่องแนวทางการประเมินผลการฝึกสอนและวัฒนธรรมการทำงานในโรงเรียน 




ปริญญา/ข่าว/ภาพ

วันเสาร์ที่ 10 พฤษภาคม พ.ศ. 2557

ประชาชนชาวตราด ร่วมเดินวิ่งสมาธิ วิสาขะ พุทธบูชา ถือศีลห้า ลด ละอบายมุข เนื่องในวันวิสาขบูชา

วันนี้ ( ๑๐ พฤษภาคม ๒๕๕๗ ) เวลา ๐๗.๓๐ น. ที่บริเวณอ่างเก็บน้ำวังปลาหมอ ตำบลเขาสมิง อำเภอเขาสมิง จังหวัดตราด มีพิธีเปิดกิจกรรมเดินวิ่งสมาธิ วิสาขะ พุทธบูชา ถือศีลห้า ลด ละอบายมุข ประจำปี ๒๕๕๗ โดยชมรมเดินวิ่งเพื่อสุขภาพไทย สาขาตราด จากการริเริ่มของสมาพันธ์ชมรมเดิน วิ่งเพื่อสุขภาพไทย ภายใต้การสนับสนุนของกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ(สสส.) มีนายพยัคฆพันธุ์ โพธิ์แก้ว รองผู้ว่าราชการจังหวัดตราดเป็นประธานในพิธีเปิด และมีผู้เข้าร่วมกิจกรรมจำนวนมาก

นายพยัคฆพันธุ์ โพธิ์แก้ว รองผู้ว่าราชการจังหวัดตราด กล่าวในการเปิดกิจกรรมครั้งนี้ ว่า กิจกรรมเดินวิ่งสมาธิ วิสาขะ พุทธบูชา นับว่าเป็นกิจกรรมที่เน้นความสัมพันธ์ของกายและจิต จิตที่แข็งแกร่ง คนๆ นั้น ต้องมีร่างกายที่แข็งแรงสมบูรณ์ จิตจะแข็งแกร่งต้องมีความสงบนิ่ง และร่างกายที่แข็งแรงต้องมีการเคลื่อนไหวออกกำลังกาย ควรทำให้เป็นปกติ ใครก็ทำคนนั้นก็ได้ ไม่สามารถจะทำแทนกันได้ ที่สำคัญผู้ที่มาร่วมกิจกรรมยังจะได้ปฏิบัติตนเพื่อถวายเป็นพุทธบูชาเนื่องในวันวิสาขบูชาอีกด้วย

หลังจากการกล่าวเปิดงานแล้ว รองผู้ว่าราชการจังหวัดตราดได้นำผู้ร่วมกิจกรรมร้องเพลงสดุดีมหาราชา และร่วมเดินวิ่งบนสันอ่างเก็บน้ำวังปลาหมอ เป็นระยะทาง ๓.๕ กิโลเมตร และเมื่อเสร็จสิ้นการเดินวิ่งแล้วได้มีการมอบเหรียญและรางวัลประเภทต่างๆ ให้กับผู้เข้าร่วมกิจกรรมทุกคน

จ.จันทบุรี เชิญเที่ยวงานสุดยอดของดีเมืองจันท์ มหัศจรรย์ทุเรียนโลก 2557

จังหวัดจันทบุรีเชิญร่วมงานเทศกาลของดีเมืองจันท์ มหัศจรรย์ทุเรียนโลก ประจำปี 2557 30 พฤษภาคม ถึง 8 มิถุนายน 2557 พิธีเปิดยิ่งใหญ่ย้อนประวัติศาสตร์จันทบูร ตื่นตาสุดยอดของดีเมืองจันท์

นายเกรียงเดช เข็มทอง ผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรี กล่าวถึงงานเทศกาลของดีเมืองจันท์ มหัศจรรย์ทุเรียนโลก ประจำปี 2557 ซึ่งเป็นงานประจำปีของจังหวัดจันทบุรีที่จัดขึ้นในช่วงฤดูผลไม้เพื่อเป็นการส่งเสริมและประชาสัมพันธ์ของดีเมืองจันท์ สร้างรายได้เกษตรกร รวมทั้งส่งเสริมการท่องเที่ยวกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยปีนี้กำหนดจัดงานในช่วงที่ผลไม้ของเกษตรกรออกสู่ตลาดจำนวนมาก ระหว่างวันที่ 30 พฤษภาคม ถึง 8 มิถุนายน 2557 ณ บริเวณโดยรอบสวนสาธารณะทุ่งนาเชย และสนามกีฬากลาง รูปแบบของงานมุ่งเน้นประชาสัมพันธ์เชิญชวนให้นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในจังหวัดจันทบุรี OUT SIDE IN  สร้างภาพลักษณ์และความประทับใจแก่ผู้มาเยือน เน้นประชาสัมพันธ์คุณภาพผลผลิตทางการเกษตร ผลไม้จากสวน

รวมทั้งผลิตภัณฑ์แปรรูปผลผลิต ยกระดับรายได้เกษตรกร ภายในงานจะมีการจัดแสดงแพผลไม้ประดับไฟ นิทรรศการของดีเมืองจันท์ 10 อำเภอ การออกร้านจำหน่ายสินค้าของดีเมืองจันท์โดยเฉพาะผลไม้คุณภาพของกลุ่มแม่บ้านเกษตรกร และสหกรณ์การเกษตร นิทรรศการความรู้ทางการเกษตร การประกวดผลผลิตและผลิตภัณฑ์แปรรูปทางการเกษตร ถนนผลไม้ แข่งกินผลไม้ แข่งกินอาหารทะเล การจำหน่ายอัญมณีและเครื่องประดับ การจัดแสดงและจำหน่ายสินค้า OTOP การออกร้านอาหารพื้นเมืองและอาหารทะเล ประกวดธิดาชาวสวน การแสดงบนเวทีตลอด 10 คืน กิจกรรมพานักท่องเที่ยวชมและชิมผลไม้สดจากต้นในสวนผลไม้ ทั้งนี้พิธีเปิดงาน สุดยอดของดีเมืองจันท์ มหัศจรรย์ทุเรียนโลก ประจำปี 2557 กำหนดเปิดงานในเย็นวันเสาร์ที่ 31 พฤษภาคม 2557 ณ เวทีกลาง อาคารเฉลิมพระเกียรติฯ เทศบาลเมืองจันทบุรี ( อาคารกระต่าย ) ชมริ้วขบวนประวัติศาสตร์เทิดพระเกียรติฯ อลังการสุดยอดของดีเมืองจันท์



จรัล/ภาพ/ข่าว ( 10 พ.ค.57 )
                           ธเนศ เธียรนันทน์/ตรวจข่าว




   
   
   
   

   

วันศุกร์ที่ 9 พฤษภาคม พ.ศ. 2557

ชมรมวิ่งเพื่อสุขภาพไทย สาขาตราด เชิญชวนประชาชนร่วม เดิน-วิ่ง วิสาขะ พุทธบูชา เฉลิมพระเกียรติ ในหลวง พระราชินี ณ อ่างเก็บน้ำวังปลาหมอ

(8 พ.ค. 57) นางสาวสนธยา จงพันธนิมิตร ประธานชมรมวิ่งเพื่อสุขภาพไทย สาขาตราด เปิดเผยว่า ชมรมวิ่งเพื่อสุขภาพไทยสาขาตราด ได้รับมอบหมายจากสมาพันธ์ชมรมวิ่งเพื่อสุขภาพไทย ให้จัดงานเดิน-วิ่ง วิสาขะ พุทธบูชา ประจำปี 2557 ภายใต้การสนับสนุนของสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ ขึ้น ในวันเสาร์ที่ 10 พฤษภาคม นี้ ตั้งแต่เวลา 06.30 น. เป็นต้นไป ณ อ่างเก็บน้ำวังปลาหมอ หมู่ที่ 9 ตำบลเขาสมิง อำเภอเขาสมิง จังหวัดตราด ทั้งนี้นอกจากถวายเป็นพุทธบูชาพุทธบูชาแล้ว ยังเป็นการเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงเจริญพระชนมพรรษา 87 พรรษา วันที่ 5 ธันวาคม 2557 และในโอกาสที่สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงเจริญพระชนมพรรษา 82 พรรษา ในวันที่ 12 สิงหาคม 2557 เป็นการส่งเสริมการออกกำลังกาย ใจ ให้ห่างไกลยาเสพติด มีสุขภาพที่แข็งแรง สำหรับการจัดกิจกรรมนี้ประกอบด้วยการจัด เดิน – วิ่ง เพื่อสุขภาพ ระยะทางประมาณ 3.5 กิโลเมตร ในเส้นทางถนนรอบอ่างเก็บน้ำวังปลาหมอ ผู้สนใจสามารถลงทะเบียนเข้าร่วมกิจกรรมโดยเสียค่าลงทะเบียน 100 บาท จะได้รับเสื้อยืดคอกลม 1 ตัว พร้อมทั้งพระพุทธนวราชบพิตรเนื้อผง 1 องค์ หรือสามารถเข้าร่วมกิจกรรมโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ทั้งนี้ผู้ที่เดิน – วิ่ง เข้าเส้นชัย 300 คน แรกจะได้รับพระพุทธนวราชบพิตรเนื้อผง 1 องค์และเหรียญรางวัลจำนวน 300 เหรียญ ผู้สนใจสามารถสมัครเข้าร่วมกิจกรรมนี้สามารถสอบถามรายละเอียดได้ที่ ชมรมวิ่งเพื่อสุขภาพไทย สาขาตราด หมายเลขโทรศัพท์ 081-074-1378 , 087- 140-6584

จ.ตราด กำหนดฝึกทดสอบแผนเผชิญเหตุและการฝึกซ้อมการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยการอพยพประชาชนทางทะเล 14 – 16 พฤษภาคม นี้

(8 พ.ค. 57) นายพยัคฆพันธุ์ โพธิ์แก้ว รองผู้ว่าราชการจังหวัดตราด กล่าวระหว่างการประชุมเตรียมการฝึกทดสอบแผนเผชิญเหตุและการฝึกซ้อมการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยการอพยพประชาชนทางทะเล ระดับจังหวัด ว่า จังหวัดตราด โดยสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดร่วมกับร่วมกับศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เขต 17 จันทบุรี หน่วยทหารในพื้นที่ ตลอดจนหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้องกำหนดจัดเตรียมการฝึกทดสอบแผนเผชิญเหตุและการฝึกซ้อมการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยการอพยพประชาชนทางทะเล ระดับจังหวัด ขึ้น ในระหว่างวันที่ 14 – 16 พฤษภาคม นี้ โดยจะมีการจำลองสถานการณ์การประทะกันระหว่างหน่วยทหารกับกองกำลังต่างชาติตามแนวชายแดนด้านอำเภอคลองใหญ่ ที่จะต้องมีการอพยพประชาชน รวมทั้งเคลื่อนย้ายผู้บาดเจ็บสู่พื้นที่ปลอดภัยในอำเภอเมืองตราดโดยใช้การอพยพทางเรือ หลังจากที่มีการทำลายสะพานสำคัญต่าง ๆ ที่เป็นเส้นทางคมนาคมทางถนน นอกจากนี้ยังพบอุปสรรคจากระบบการสื่อสาร และระบบไฟฟ้า ประปาถูกตัดขาด จึงต้องมีการะดมกำลังจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการแก้ไขสถานการณ์ ทั้งการอพยพประชาชน การจัดตั้งศูนย์พักพิง การให้ความช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ การจัดตั้งระบบสื่อสารขึ้นทดแทนระบบการสื่อสารหลัก

รวมทั้งการประชาสัมพันธ์ไม่ให้ประชาชนเกิดความตื่นตระหนก ทั้งนี้เพื่อให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องสามารถดำเนินการแก้ไขปัญหาได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยจะมีการฝึกซ้อมทั้งเฉพาะหน้าที่ (Functional Exercise) และการฝึกซ้อมแผนเต็มรูปแบบ (Full Scale Exercise) ทสำหรับการฝึกซ้อมดังกล่าวจะมีการฝึกซ้อมเฉพาะหน้าที่ ที่บังคับการที่วัดคลองมะขาม อำเภอคลองใหญ่ ในวันที่ 14 – 15 พฤษภาคม และจะมีการฝึกซ้อมเต็มรูปแบบ ในวันที่ 16 พฤษภาคม โดยใช่ท่าเทียบเรือในการอพยพประชาชนที่ท่าเทียบเรือของภาคเอกชน ประกอบด้วย ท่าเทียบเรือชลาลัย ท่าเทียบเรือกัลปังหา และท่าเทียบเรือ ส.กฤตรวัณ ทั้งนี้เพื่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้องสามารถดำเนินการแก้ไขปัญหาได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมทั้งประชาชนสามารถอพยพสู่ที่ปลอดภัยได้ย่างเป็นขั้นเป็นตอนปราศจากความสูญเสีย โดยมุ่งเน้นให้ความสำคัญต่อการมีระบบบัญชาการเป็นหนึ่งเดียว ในกรอบกฎหมายที่เกี่ยวข้อง และบัญชีทรัพยากรต่างๆ ที่พร้อมนำมาใช้ในเชิงป้องกัน และแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นได้อย่างทันท่วงทีและมีประสิทธิภาพหากเกิดสถานการณ์ขึ้นจริง

จ.ตราด มอบเมล็ดพันธุ์ข้าวขาวดอกมะลิ 105 โครงการส่งเสริมและพัฒนาการผลิตข้าว (การปลูกข้าวพันธุ์ดี) จังหวัดตราด ปี 2557 ให้กับเกษตรกรนำไปปลูกทดแทนพันธุ์ข้าวเดิม

(8 พ.ค. 57) นางสาวเบญจวรรณ อ่านเปรื่อง ผู้ว่าราชการจังหวัดตราด เป็นประธานในพิธีมอบเมล็ดพันธุ์ข้าวขาวดอกมะลิ 105 โครงการส่งเสริมและพัฒนาการผลิตข้าว (การปลูกข้าวพันธุ์ดี) จังหวัดตราด ปี 2557 ให้กับตัวแทนเกษตรกรจากศูนย์ข้าวชุมชน กลุ่มเกษตกรผู้ปลูกข้าว จำนวน 9 กลุ่ม ของอำเภอเมืองตราด กลุ่มเกษตรกรผู้ปลูกข้าวของอำเภอเขาสมิง อำเภอบ่อไร่ และอำเภอแหลมงอบ อำเภอละ 1 กลุ่ม รวมจำนวน 400 ราย ปริมาณเมล็ดพันธุ์ข้าว 60,000 กิโลกรัม ที่วัดโคก ตำบลหนองเสม็ด อำเภอเมือง จังหวัดตราด

นายนเรศ ฝีปากเพราะ เกษตรจังหวัดตราด กล่าวว่า โครงการส่งเสริมและพัฒนาการผลิตข้าว (การปลูกข้าวพันธุ์ดี) จังหวัดตราด ปี 2557 มีวัตถุประสงค์เพื่อให้เกษตรกรมีข้าวข้าวพันธุ์ดี มีความแข็งแรง ไม่มีข้าววัชพืชปลอมปน เพื่อให้เกษตรกรมีเมล็ดข้าวพันธุ์ดีไปใช้ทดแทนเมล็ดพันธุ์ข้าวที่เก็บไว้ทำพันธุ์เกิน 3 ปี และเหมาะสมกับสภาพพื้นที่ และเพื่อเพิ่มปริมาณผลผลิตต่อไร่ให้สูงขึ้น ข้าวมีคุณภาพขายได้ราคาตรงกับความต้องการของตลาด ทางด้านผู้ว่าราชการจังหวัดตราด กล่าวว่า ปัจจุบันจังหวัดตราด มีการผลิตข้าวโดยการทำนาดำและนาหว่าน แต่ผลผลิตยังไม่สูงนัก ไม่มีการเปลี่ยนพันธุ์ข้าวเป็นระยะเวลานานกว่า 3 ปี ต้นทุนการผลิตค่อนข้างสูง อีกทั้งราคาผลผลิตข้าวก็ตกต่ำ ส่งผลให้เกษตรกรได้ค่าตอบแทนจากการจำหน่ายข้าวไม่คุ้มค่าต่อการลงทุน อย่างไรก็ตามเกษตรกรผู้ทำนาจะต้องมีความเข้าใจ เอาใจใส่และดูรักษาข้าวอย่างถูกวิธี เพื่อให้ได้ผลผลิตที่คุ้มค่า ในขณะเดียวกันต้องหาวิธีลดต้นทุนการผลิตลง เพื่อให้ได้กำไรจากการผลิตข้าว หากเกษตรกรสามารถปฎิบัติได้ตามวิธีการที่กล่าวมาแล้วนั้น คุณภาพชีวิตและความเป็นอยู่ก็จะดีขึ้นตามไปด้วย

ป.ป.ส.ภาค 2 เผย ปัญหาการแพร่ระบาดของยาเสพติดในพื้นที่ 8 จังหวัดภาคตะวันออก เกิดจาก 3 อัตลักษณ์ที่สำคัญ ระบุ การสร้างครัวเรือนสีขาวยังเป็นแนวทางในการป้องกันปัญหายาเสพติด

(9 พ.ค. 57) นายธงชัย ไชยพรหม ผู้อำนวยการ สำนักงาน ป.ป.ส. ภาค 2 กล่าวระหว่างร่วมเวทีเสวนาเครือข่ายสื่อมวลชนภาคตะวันออกเพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด ซึ่งส่วนยุทธศาสตร์และอำนวยการ สำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติดภาค 2 (ป.ป.ส.ภาค 2 ) ร่วมกับสำนักประชาสัมพันธ์เขต 7 ร่วมกันจัดขึ้นที่ โรงแรมจอมเทียนการ์เด้นท์ รีสอร์ท จ.ชลบุรี ว่า สถานการณ์ยาเสพติดในพื้นที่ 8 จังหวัดภาคตะวันออกในปัจจุบัน เกิดขึ้นจากอัตลักษณ์ของภาคตะวันออก ที่มีผลต่อสถานการณ์ยาเสพติด ใน 3 ด้าน คือ 1. เป็นสถานที่ท่องเที่ยวระดับชาติ โดยเฉพาะ พัทยา ตลาดโรงเกลือ เกาะช้าง ทำให้มีประชากรเดินเข้าออก มาในพื้นที่มากกว่า 10 ชาติ นับเป็นปัจจัยเสี่ยงที่กลุ่มผู้ค้าจะปะปนมากับกลุ่มนักท่องเที่ยว 2. เป็นแหล่งการเกษตร โดยเฉพาะสวนผลไม้ ยางพารา และเป็นแหล่งอาชีพการประมง ที่มีกลุ่มแรงงานต่างด้าวนับเป็นกลุ่มเสี่ยงในการนำยาเสพติดเข้ามาใช้ และ 3.ภาคตะวันออกเป็นพื้นที่ ที่มีนิคมอุตสาหกรรมขนาดใหญ่รวมถึง 26 แห่ง จึงมีจำนวนผู้ใช้แรงงานจากทั่วประเทศเดินทางเข้ามาทำงาน จึงเป็นการเพิ่มความเสี่ยงในการนำยาเสพติดมาใช้ในกลุ่มผู้ใช้แรงงาน อัตลักษณ์ทั้ง 3 จึงเป็นสิ่งดึงดูดกลุ่มผู้ค้านำยาเสพติดเข้ามาในพื้นที่ภาคตะวันออก เพื่อจำหน่ายให้กับกลุ่มผู้ใช้แรงงาน หรือกลุ่มแรงงานต่างด้าวที่ใช้ยาเสพติด

ดังนั้นการทำให้สังคมไทยปลอดจากยาเสพติด ทาง ป.ป.ส.ภาค 2 จึงได้เร่งดำเนินการตามยุทธศาสต์ 2 ในการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด ที่ประกอบด้วย การสร้างชุมชนให้เข้มแข็งโดยใช้พลังของภาคประชาชน ที่มุ่งสร้างให้ครัวเรือนทุกครัวเรือนเป็นครัวเรือนสีขาวมีความเข้มแข็ง ผ่านกระบวนการคัดแยก กลุ่มผู้ค้า ผู้เสพ ยาเสพติด ออกจากครัวเรือนที่ปลอดจากยาเสพติด พร้อมดำเนินการตามกระบวนการบำบัดฟื้นฟู หรือดำเนินการตามกฎหมาย โดยมุ่งเน้นให้ครัวเรือนแต่ละครัวเรือยคงสถานเป็นครัวเรือนสีขาว ส่วนขาที่สองในการดำเนินการ คือ กลไกล การดำเนินของหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้อง ในการบังคับใช้กฎหมายที่เกี่ยวข้องจัดการกับกลุ่มผู้เสพ และผู้ค้ายาเสพติด

อย่างไรก็ตามจากฐานข้อมูลด้านผู้เสพยาเสพติด 10 ปีที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบัน จำนวน ผู้เสพ ผู้ติดยาเสพติด ที่เข้าสู่กระบวนการบำบักรักษา เป็นผู้เสพรายใหม่ถึงร้อยละ 70 ส่วนผู้ที่ผ่านกระบวนการบำบัดแล้วกลับมาเสพซ้ำมีประมาณร้อยละ 30 และจากการตรวจสอบผู้ที่เข้าสู่กระบวนการบำบัด คัดแยกตามอายุพบว่าผู้เสพหน้าใหม่มีอายุน้อยลง เมื่อเทียบกับหลายปีที่ผ่านมา ดังนั้นกระบวนการป้องกันผู้เสพยาเสพติดหน้าใหม่ โดยเฉพาะในกลุ่มเยาวชน จึงนับเป็นอีกประเด็นที่สำคัญในการดำเนินงาน ซึ่งครอบครัวนับเป็นหน่วยเล็กที่สุดของสังคมที่สำคัญในการป้องกันปัญหายาเสพติดเข้าสู่กลุ่มเยาวชน ดังนั้นกระบวนการสร้างครัวเรือนสีขาวปลอดยาเสพติดจึงเป็นสิ่งสำคัญในการป้องกันปัญหายาเสพติดให้กับสังคมไทย

วันพฤหัสบดีที่ 8 พฤษภาคม พ.ศ. 2557

ชลบุรี จัดการประชุมการฝึกซ้อมแผนป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ด้านการระงับอัคคีภัยในอาคารสูง

วันพฤหัสบดีที่ 8 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 นายเชาวลิตร แสงอุทัย ปลัดจังหวัดชลบุรี เป็นประธานประชุมคณะทำงานฝึกซ้อมแผนป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดชลบุรี ประจำปี 2557  ด้านการระงับอัคคีภัยในอาคารสูง ณ ห้องประชุมชลบุรี ศาลากลางจังหวัดชลบุรี อำเภอเมือง จังหวัดชลบุรี

อัคคีภัยหรือภัยที่เกิดจากเพลิงไหม้ เป็นสาธารณภัยประเภทหนึ่งที่มีโอกาสเกิดขึ้นได้ตลอดเวลาก่อให้เกิดความสูญเสียต่อชีวิต ทรัพย์สิน และเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศ ปัจจุบันสถานการณ์อัคคีภัยในพื้นที่จังหวัดชลบุรีนับวันเป็นสาธารณภัยที่สำคัญมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะพื้นที่เมืองพัทยา อำเภอบางละมุงเป็นเมืองท่องเที่ยวที่สำคัญของจังหวัดชลบุรี มีการเจริญเติบโตทางด้านเศรษฐกิจ สังคม การค้า และการลงทุน เป็นต้น ทำให้มีการพัฒนาด้านโครงการสร้างพื้นฐาน ได้แก่ บ้านพักอาศัยในชุมชน อาคารสูง ศูนย์การค้า สถานบันเทิง และโรงมหรสพ ซึ่งสถานที่ต่างๆ เหล่านี้มักมีการใช้พลังงานไฟฟ้า พลังงานเชื้อเพลิง พลังงานความร้อน และอื่นๆซึ่งมีความเสียงต่อการเกิดอัคคีภัย

จังหวัดชลบุรี โดยสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดจังหวัดชลบุรี ได้เล็งเห็นความสำคัญและตระหนักถึงความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน นักท่องเที่ยว ได้จัดทำโครงการฝึกซ้อมแผนป้องกันและบรรเทาสาธารณจังหวัดชลบุรี ประจำปี 2557 ด้านการระงับอัคคีภัยในอาคารสูง ขึ้น ในวันที่ 5 มิถุนายน 2557 ณ โรงแรมเดอะซายน์ พัทยา อำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี  ตั้งแต่เวลา 10.00 น. เป็นต้นไป เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมในการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย และเป็นการพัฒนาขีดความสามารถของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการอำนวยการ การควบคุ้มสั่งการ การประสานการปฏิบัติในสถานการณ์ฉุกเฉินต่อไป

สำหรับการซ้อมแผนในครั้งได้แบบออกเป็น 4 รูปแบบ โดยรูปแบบที่หนึ่งเป็นการประชุมคณะทำงานฝึกซ้อมแผนป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดชลบุรี ส่วนรูปแบบที่สองเป็นการฝึกซ้อมแบบบนโต๊ะ (Table Top Exercise : TTX) และการฝึกซ้อมเฉพาะหน้าที่ (Functional Exercises : FEX) ส่วนรูปแบบที่สามเป็นฝึกอบรมให้ความรู้กับพนักงานโรงแรม เดอะซายน์ พัทยา และรูปแบบที่สี่ เป็นฝึกซ้อมแผนแบบเต็มรูปแบบ (Full-scale Exercises : FSX) โดยใช้โรงแรม เดอะซายน์ พัทยา หลังจากฝึกอบรมเสร็จทำการประเมินการฝึกซ้อมแผน ณ ห้องประชุมโรงแรม เดอะซายน์ พัทยาต่อไป



ปริญญา/ข่าว/ภาพ