วันเสาร์ที่ 21 มิถุนายน พ.ศ. 2557

จันทบุรี เตือนระวังฝนตกหนัก คลื่นลมแรง

จังหวัดจันทบุรีเตือนประชาชนเฝ้าระวังฝนตกหนัก คลื่นลมแรง แหล่งท่องเที่ยวชายทะเลติดป้ายเตือนอันตรายห้ามลงเล่นน้ำ

ที่จังหวัดจันทบุรีแหล่งท่องเที่ยวชายทะเลบริเวณหาดเจ้าหลาว หาดแหลมเสด็จ อำเภอท่าใหม่ มีคลื่นลมแรง ผู้ประกอบการต้องนำป้ายเตือนห้ามประชาชน และนักท่องเที่ยวลงเล่นน้ำทะเลในระยะนี้ เพื่อความปลอดภัย ส่งผลทำให้บรรยากาศการท่องเที่ยวทางทะเลในช่วงวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ เป็นไปอย่างเงียบเหงาซบเซา มีประชาชนและนักท่องเที่ยวเดินทางมาท่องเที่ยวพักผ่อนบางตาเนื่องจากอยู่ในช่วงฤดูฝน ทั้งนี้สำนักงานอุตุนิยมวิทยาจังหวัดจันทบุรี ได้เปิดเผยถึงสภาพอากาศในพื้นที่ภาคตะวันออก โดยเฉพาะจังหวัดจันทบุรี ว่ามีเมฆมาก กับมีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 60ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณจังหวัดจันทบุรี และตราด อุณหภูมิต่ำสุด24-28 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-35 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 20-35 กม./ชม. สาเหตุมาจากมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางยังคงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย ประกอบกับมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณอ่าวตังเกี๋ย ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณประเทศไทยมีฝนกระจาย ส่วนคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันตอนบน มีคลื่นสูง 2-3 เมตร ขอให้ชาวเรือควรเดินเรือด้วยความระมัดระวังไว้ด้วย

อนึ่งในช่วงวันที่ 22-25 มิถุนายน 2557 มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย มีกำลังแรงขึ้น ประกอบกับหย่อมความกดอากาศต่ำยังคงปกคลุมบริเวณอ่าวตังเกี๋ย ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณประเทศไทยมีฝนเพิ่มมากขึ้น และมีฝนตกหนักบางแห่ง และคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามัน และอ่าวไทยตอนบนมีกำลังแรงขึ้น โดยมีคลื่นสูง 2-4 เมตร ขอให้ชาวเรือควรเดินเรือด้วยความระมัดระวังและเรือเล็กควรงดออกจากฝั่งในช่วงเวลาดังกล่าวไว้ด้วย

      

คณะกรรมการภาพยนตร์และวีดีทัศน์แห่งชาติสนใจเมืองจันท์เป็นที่ถ่ายหนัง

คณะกรรมการภาพยนตร์และวีดีทัศน์แห่งชาติจัดสัมมนากำหนดแนวทางการพิจารณาการอนุญาตสร้างภาพยนตร์ต่างประเทศในไทย พร้อมยกย่องจังหวัดจันทบุรีมีความสมบูรณ์ทางธรรมชาติ เหมาะสมแนะนำกองถ่ายภาพยนตร์มาใช้โลเกชั่น

วันนี้ ( 21 มิ.ย.57 ) ที่ห้องประชุมทอแสงบีชรีสอร์ท หาดเจ้าหลาว ตำบลคลองขุด อำเภอท่าใหม่ จังหวัดจันทบุรี คณะกรรมการภาพยนตร์และวีดีทัศน์แห่งชาติ ได้จัดประชุมคณะกรรมการเพื่อแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็น กำหนดแนวทางการพิจารณาอนุญาต สร้างภาพยนตร์ต่างประเทศในราชอาณาจักร โดยมีนายภาษิต พุ่มชูศรี รองอธิบดีกรมการท่องเที่ยวเป็นประธานและมีคณะกรรมการร่วมประชุมแสดงความคิดเห็นจำนวนมาก ก่อนสรุปความคิดเห็นต่าง ๆ เพื่อวางแนวทาง ระเบียบ ข้อบังคับที่เป็นประโยชน์ต่ออุตสาหกรรมการถ่ายทำภาพยนตร์สร้างรายได้เข้าประเทศทั้งทางตรงและทางอ้อม ประชาสัมพันธ์ภาพลักษณ์ที่ดีงามของไทยโดยเฉพาะด้านความมั่นคง ศิลปะ วัฒนธรรมและสังคมแก่ชาวโลก ถึงแม้ปัจจุบันสถานการณ์บ้านเมืองจะวุ่นวายแต่อุตสาหกรรมการถ่ายทำภาพยนตร์ต่างประเทศ ในประเทศไทยยังได้รับการยอมรับจากกองถ่ายทั่วโลกเดินทางมาผลิตภาพยนตร์ สารคดี โฆษณาอย่างต่อเนื่อง

นายภาษิต พุ่มชูศรี รองอธิบดีกรมการท่องเที่ยว กล่าวเพิ่มเติมว่า ในส่วนของจังหวัดจันทบุรีมีความได้เปรียบเรื่องของแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่มีอย่างหลากหลาย รวมทั้งประเพณี วัฒนธรรม วิถีชีวิตที่สงบเรียบง่ายของชาวสวนผลไม้ถือเป็นจุดเด่นที่กองถ่ายทำภาพยนตร์จะเลือกจันทบุรีเป็นสถานที่ผลิตภาพยนตร์ ทั้งนี้ที่ผ่านจังหวัดจันทบุรีมีกองถ่ายทำภาพยนตร์ต่างประเทศเดินทางมาผลิตภาพยนตร์และโฆษณาอย่างต่อเนื่อง อาทิ โฆษณาสินค้า รถยนต์ เครื่องใช้ไฟฟ้า เทคโนโลยีการสื่อสาร การถ่ายทำภาพยนตร์เยอรมัน อินเดีย เกาหลี รวมทั้งฮอลิวู๊ดของสหรัฐอเมริกาก็เคยมาใช้โลเกชั่นแหล่งท่องเที่ยวของจังหวัดจันทบุรีถ่ายทำ นอกจากนี้ยังมีกองถ่ายสารคดีท่องเที่ยวต่าง ๆ หลายประเทศให้ความสนใจที่จะเดินทางมาถ่ายทำในจังหวัดจันทบุรีซึ่งจะเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวของจังหวัดจันทบุรีและส่งเสริมรายได้แก่คนในพื้นที่



จรัล บรรยงคเสนา/ภาพ/ข่าว ( 21  มิ.ย.57 )
                  ธเนศ  เธียรนันทน์/ตรวจข่าว
   

สภาอุตสาหกรรมจ.ฉะเชิงเทราร่วมกับหอการค้าจ.ฉะเชิงเทราจัดการแข่งขัน "แรลลี่รวมใจคาวบอยไนท์”เส้นทางฉะเชิงเทรา –เขาใหญ่ จ.นครราชสีมา

วันนี้ (21 มิ.ย.57) ที่สนามหน้าศาลากลางจังหวัดฉะเชิงเทรา    นายบัณฑิตย์   เทวีทิวารักษ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทราเป็น เป็นประธานเปิดกิจกรรมการแข่งขัน"แรลลี่รวมใจคาวบอยไนท์” เส้นทางฉะเชิงเทรา สิ้นสุดโรงแรม THE GREENERY RESORT เขาใหญ่  จ.นครราชสีมา  ระหว่างวันเสาร์ 21 มิถุนายนและ วันอาทิตย์ที่ 22  มิถุนายน 2557  ซึ่งจัดโดยสภาอุตสาหกรรมจังหวัดฉะเชิงเทราร่วมกับหอการค้าจังหวัดฉะเชิงเทรา  มีผู้เข้าร่วมการแข่งขัน 50  ทีม จำนวน 110 คน ผู้ชนะในลำดับต่างๆจะได้รับ ถ้วยรางวัล จากผู้ว่าราชการจังหวัด  ประธานสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ รองผู้ว่าราชการจังหวัด  ประธานหอการค้าจังหวัด และประธานสภาอุตสาหกรรมจังหวัดสำหรับการจัดกิจกรรมดังกล่าวมีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างความสามัคคีระหว่างองค์กร  หอการค้า จังหวัดฉะเชิงเทรา  สภาอุตสาหกรรมจังหวัดฉะเชิงเทรา และครอบครัวสมาชิก ตลอดจนห้างร้านบุคคลทั่วไปได้มีส่วนร่วมและเป็นการเสริมสร้างสัมพันธภาพอันดีร่วมกันนอกจากนี้ยังเป็นการหารายได้สนับสนุนการดำเนินงานของหอการค้าจังหวัดฉะเชิงเทราและสภาอุตสาหกรรมจังหวัดฉะเชิงเทรา ทั้งนี้กิจกรรมบันเทิงในช่วงค่ำได้จัดให้มีการประกวดแต่งกายคาวบอยและคาวเกิร์ลประเภทสวยงามอีกด้วย


ชาญณรงค์/ข่าว-ภาพ
ส.ปชส.ฉะเชิงเทรา

วันศุกร์ที่ 20 มิถุนายน พ.ศ. 2557

สระแก้วเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารจัดการการท่องเที่ยวและกีฬา

ที่ โรงแรมทิพปุระ  อำเภอเมือง จังหวัดสระแก้ว นายชูศักดิ์  ตรีสาร รองผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว เป็นประธานเปิดโครงการเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารจัดการท่องเที่ยวและกีฬาโดยสำนักงานการท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดสระแก้ว ซึ่งการจัดโครงการในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นเวทีในการแลกเปลี่ยนความรู้และสร้างเครือข่ายด้านการท่องเที่ยวและกีฬาเพื่อสร้างเครือข่ายด้านการท่องเที่ยวและกีฬาของจังหวัดนำไปพัฒนาและยกระดับคุณภาพชีวิต พร้อมทั้งมีการมอบเงินให้แก่เครือข่ายกีฬาที่ได้สร้างชื่อเสียงให้กับจังหวัดสระแก้ว ได้แก่ โรงเรียนบ้านเหล่าอ้อย ชมรมกีฬาผู้สูงอายุและชมรมครูพลศึกษา
   

สระแก้วประชุมคณะทำงานศูนย์ปรองดองสมานฉันท์เพื่อการปฏิรูป

ที่ห้องประชุมสระแก้ว ศาลากลางจังหวัดสระแก้วนายภัคธรณ์  เทียนไชยผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้วเป็นประธานเปิดการประชุมคณะทำงานศูนย์ปรองดองสมานฉันท์เพื่อการปฏิรูปจังหวัดสระแก้ว ซึ่งทางจังหวัดสระแก้วมีนโยบาย ยึดมั่นในความจงรักภักดี ปกป้องเทิดทูนดำรงไว้ซึ่งสถาบันพระมหากษัตริย์อันเป็นศูนย์รวมจิตใจประชาชนชาวไทยและเน้นการสร้างความเข้าใจและสามัคคีปรองดองสมานฉันท์ของคนในชาติของแต่ละอำเภอ ประชาชนในพื้นที่และการจัดกิจกรรมคืนความสุขให้คนในชาติตามแผนงานโครงการของส่วนราชการต่างๆโดยมีการบูรณาการแลฃะประสานการปฏิบัติอย่างใกล้ชิด

สระแก้วศึกษาระบบภูมิสารสนเทศในการบริหารจัดการจังหวัด

ที่ ห้องประชุมบูรพา ศาลากลางจังหวัดสระแก้ว นายภัครธรณ์  เทียนไชย ผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้วเป็นประธานเปิดการประชุมรับฟังและนำเสนอความต้องการใช้ระบบภูมิสารสนเทศในการบริหารจัดการจังหวัดโดยสำนักพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ(องค์การมหาชน)ซึ่งระบบภูมิสารสนเทศนี้ช่วยในการบริหารจัดการจังหวัดและสร้างขีดความสามารถของประเทศโดยใช้ลักษณะของภาพถ่ายดาวเทียม ซึ่งระบบดังกล่าวนี้จะนำมาช่วยในการบริหารจัดการที่ดีและนำมาประยุกต์ใช้กับงานให้เกิดประโยชน์สูงสุด เช่น ด้านทรัพยากรธรรมชาติ เกษตร ภัยพิบัติ ผังเมือง แผนที่ โดยจะนำข้อมูลภาพที่ได้จากดาวเทียมมาเป็นข้อมูลในการจัดการและพัฒนาจังหวัดให้เกิดประโยชน์สูงสุดของพื้นที่ในจังหวัดเพื่อประโยชน์ของประชาชน

มูลนิธิชัยพัฒนามอบเมล็ดพันธุ์ข้าว เมล็ดพันธุ์ผักและไก่ไข่ในพื้นที่จังหวัดสระแก้ว

วันนี้ (20 มิ.ย.) นายลลิต  ถนอมสิงห์ ผู้ช่วยเลขาธิการสำนักงานมูลนิธิชัยพัฒนาเป็นประธานในพิธีมอบเมล็ดพันธุ์ข้าวหอมมะลิ 105 เมล็ดพันธุ์ผักพื้นบ้านและไก่ไข่ในโครงการให้ความช่วยเหลือฟื้นฟูแก่ราษำรผู้ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยในพื้นที่จังหวัดสระแก้ว ณ โรงเรียนกาสรกสิวิทย์ ต.ศาลาลำดวน อ.เมือง จ.สระแก้ว

สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯสยามบรมราชกุมารีได้พระราชทานเมล็ดพันข้าวหอมมะลิ 105 จำนวน 56,000 กิโลกรัมและได้พระราชทานเมล็ดพันธุ์พื้นบ้าน ประกอบด้วย ผักบุ้ง คะน้า กระเจี้ยบ บวบ มะเขือ จำนวน 400 ชุดและพระราชทานไก่ไข่ จำนวน 385 ตัวโดยมีเกษตรกรเข้าร่วมโครงการทั้งสิ้น 8 อำเภอ ได้แก่  อำเภอโคกสูง อำเภอวัฒนานคร อำเภอตาพระยา อำเภอเขาฉกรรจ์ อำเภอเมืองสระแก้ว อำเภอวังน้ำเย็น อำเภอวังสมบูรณ์และอำเภออรัญประเทศ

หลังจากให้ความช่วยเหลือในระยะแรกแล้วมูลนิธิชัยพัฒนาจะได้ดำเนินระยะต่อไปคือการจัดตั้งกลุ่มอาชีพเสริมต่างๆ รวมถึงการจัดทำพื้นที่ต้นแบบการปรับปรุงบำรุงดินในพื้นที่สาธารณประโยชน์ของหมู่2 ตำบลทัพราช อำเภอตาพระยา จังหวัดสระแก้ว ให้มีสภาพเหมาะสมสำหรับการเกษตรเพื่อเป็นตัวอย่างให้แก่เกษตรกรในพื้นที่ได้เข้ามาเรียนรู้และสามารถดำเนินการในพื้นที่ของตัวเองได้
   

ประเพณีสู่ขวัญควายจังหวัดสระแก้ว

วันนี้ (20 มิ.ย. ) นายภัครธรณ์  เทียนไชย ผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว พร้อมด้วยนายลลิต ถนอมสิงห์ ผู้ช่วยเลขาธิการสำนักงานมูลนิธิชัยพัฒนาได้เป็นประธานเปิดงานฟื้นฟูประเพณีสู่ขวัญควายจังหวัดสระแก้ว ประจำปี 2557  ซึ่งจัดขึ้นที่โรงเรียนกาสรกสิวิทย์ อำเภอเมืองสระแก้ว ซึ่งเป็นการบูรณาการ ร่วมกับหน่วยงานต่างๆ อาทิ สำนักงานมูลนิธิชัยพัฒนา โรงเรียนกาสรกสิวิทย์ ส่วนราชการและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น 

สำหรับวัตถุประสงค์ของการจัดประเพณีสู่ขวัญควายเพื่อเป็นการตอบแทนบุญควาย และอนุรักษ์ฟื้นฟูประเพณีสู่ขวัญมิให้สูญหาย ถ่ายทอดภูมิปัญญาสู่ขวัญควายให้อนุชนรุ่นหลังได้สืบทอด และส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์วัฒนธรรมของจังหวัด โดยมีกิจกรรมที่น่าสนใจ คือ การประกวดธิดากาสร (ธิดาควาย) ซึ่งในปีนี้ธิดากาสรฯได้แก่นางสาวนภัทรศร  สุทธิแพทย์ พร้อมทำหน้าที่ประชาสัมพันธ์ท่องเที่ยวให้กับจังหวัดสระแก้ว 

นอกจากนี้ยังมีพิธีสู่ขวัญควาย การประกวดปั้นควาย การปลูกข้าวโดยวิธีโยน การแข่งขันการเดินโถกเถกการแจกพันธุ์ปลา แจกกล้าไม้และนิทรรศการภูมิปัญญาท้องถิ่น โดยได้รับความสนใจจากผู้สื่อข่าว และประชาชนจำนวนมาก

สำหรับประเพณีสู่ขวัญควาย ถือว่าเป็นการอนุรักษ์และสืบสานประเพณีการสู่ขวัญควายไม่ให้สูญหาย ทั้งนี้ กระบือ หรือควาย ถือเป็นสัตย์ที่อยู่คู่กับชาวไร่ชาวนามาช้านาน เป็นสัตว์ที่ให้คุณ และเป็นกำลังหลักของชาวนาในการปลูกข้าว เลี้ยงผู้คนตลอดมา ซึ่งการจัดงานฟื้นฟูประเพณีสู่ขวัญควาย ก็เพื่อเตือนสติ เตือนจิต เตือนใจ ให้คนมีความกตัญญูกตเวที รำลึกถึงบุญคุณของควายที่ได้ช่วยเหลือเกื้อกูลแก่ชาวนา ชาวนาจึงมีวิธีที่จะตอบแทนบุญคุณ ของควาย และขออโหสิกรรมต่อควาย

สำหรับโรงเรียนกาสรกสิวิทย์จัดตั้งขึ้นตามพระราชกระแสรับสั่งสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เพื่อเป็นโรงเรียนฝึกกระบือ และให้เกษตรกรมาใช้ชีวิตที่เกี่ยวข้องกับกระบือเพื่องานเกษตรกรรม โดยเกษตรกรจะเข้าพักอาศัยตามสภาพแวดล้อมการดำรงชีวิตแบบพอเพียง ไม่ดิ้นรนหาความเดือดร้อน นับเป็นการฝึกกระบือให้ทำการเกษตรได้ดี และฝึกคนให้เข้าใจถึงวิธีการใช้กระบือในการทำเกษตรกรรม

จ.ฉะเชิงเทราจัดอบรมมารยาทไทยสู่บุคลากรทางการศึกษาหวังนำไปถ่ายทอดเยาวชนสืบสานเอกลักษณ์ทางวัฒนธรรมไทยและ เป็นสายใยนำไปสู่ความปรองดองของสังคม

วันนี้ ( 20 มิ.ย.57) สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดฉะเชิงเทรา ร่วมกับ สภาวัฒนธรรมจังหวัดฉะเชิงเทรา  จัดอบรมมารยาทไทย สายใยปรองดอง ประจำปี 2557 โดยมี  นาย เดชา ใจยะ ปลัดจังหวัดฉะเชิงเทรา  ประธานในพิธีเปิดการอบรมฯ  พร้อมด้วย นาย วิรัตน์ วิโรจนุปถัมภ์ วัฒนธรรมจังหวัดฉะเชิงเทรา  นายจิตติน  ตั้งกงพานิช ประธานสภาวัฒนธรรมจังหวัดฉะเชิงเทรา  และ ส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง  เข้าร่วมพิธีอย่างพร้อมเพรียง    มี ครู อาจารย์ บุคลากรทางการศึกษา เครือข่ายวัฒนธรรม  ข้าราชการสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดฉะเชิงเทรา   และคณะกรรมการสภาวัฒนธรรม รวมทั้งสิ้น 150 ราย   เข้ารับการอบรม  ณ ห้องประชุมอาคารพระพรหมคุณาภรณ์ วิทยาลัยสงฆ์พุทธโสธร  มหาวิทยาลัยจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย  อำเภอเมืองฉะเชิงเทรา  

ปลัดจังหวัดฉะเชิงเทรา  กล่าวว่า  มารยาทไทยเป็นคุณลักษณะประจำตัวของบุคคลที่แสดงออกทั้งในด้านกิริยา วาจา ซึ่งมีแบบแผนในการประพฤติ ปฏิบัติ ที่ถือว่าสุภาพ เรียบร้อย อ่อนน้อม สำรวม ถูกกาลเทศะ เป็นสิ่งที่พอเหมาะพองาม ดังนั้นจึงเป็นกรอบแบบแผนที่ควรปฏิบัติหรือละเว้นที่เกี่ยวข้องกับผู้อื่น หรือต่อสังคมส่วนรวมและจำเป็นต่อการอยู่ร่วมกันโดยเฉพาะในยุคของสังคมปัจจุบันที่เกิดปัญหาทางสังคมที่มีความขัดแย้งและขาดหลักที่มีมารยาทต่อกันเกิดความสับสนว่า สิ่งใดควรไม่ควร การจัดอบรมมารยาทไทย สายใยปรองดองครั้งนี้ เป็นการเสริมสร้างบรรยากาศที่ดีในสังคม  การปฏิสัมพันธ์ที่ดีต่อกันในสังคม นอกจากจะเป็นการถ่ายทอดสืบสานเอกลักษณ์ทางวัฒนธรรมไทย แล้ว ยังเป็นจุดเริ่มต้นของการปฏิสัมพันธ์ที่ดีต่อกันด้วยหลักมารยาทไทย เป็นสายใยนำไปสู่ความปรองดองของสังคมอีกด้วย

วัฒนธรรมจังหวัดฉะเชิงเทรา  กล่าวว่า มารยาทไทยถือเป็นเอกลักษณ์สำคัญอันโดดเด่น ที่แสดงให้เห็นถึงความเป็นไทย และเป็นส่วนหนึ่งที่เป็นภาพลักษณ์ที่ดีให้กับประเทศ จนเป็นที่ยอมรับและยกย่องชื่นชมจากชาวต่างชาติมาช้านาน ซึ่งการอบรมในครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อเผยแพร่ความรู้หลักมารยาทไทยที่ควรประพฤติปฏิบัติหรือละเว้นให้คนไทยได้ตระหนักและเห็นคุณค่าและความสำคัญและเพื่อให้ครู อาจารย์ บุคคลากรทางวัฒนธรรม ที่เข้ารับการอบรมปฏิบัติตามแบบแผนมารยาทไทยได้ถูกต้อง เป็นต้นแบบ และสามารถนำไปถ่ายทอดให้เด็ก เยาวชน และประชาชนรู้หน้าที่ มีกาลเทศะ รู้หลักพบปะ ร่วมนำพาสังคมดีต่อไป



ชาญณรงค์/ข่าว
ธนภัทร/ภาพ
ส.ปชส.ฉะเชิงเทรา

ศพนิรนาม ถูกมัดมือเท้า ลอยอืดติดป่าโกงกาง คาดอาจเป็นไต๋เรือ หรือลูกเรือประมง ถูกทำร้ายร่างกายจนเสียชีวิต ก่อนโยนลงทะเล

ศ​พนิรนาม ถูกมัดมือเ​ท้า ลอยอืดติดป่​าโกงกาง คาดอาจเป็น​ไต๋เรือ หรือลูกเรื​อประมง ถูกทำร้ายร่​างกายจนเสี​ยชีวิต ก่อนโยนลงท​ะเล

เมื่อเวลา 15.00 น.ของวันที่ 19 มิ.ย. 57 ร.ต.ท.วุฒินันท์ ขันทองนาค ร้อยเวร สภ.ปากน้ำประแส อ.แกลง จ.ระยอง ได้รับแจ้งจากชาวบ้าน ว่า พบศพลอยติดป่าโกงกางชายทะเล ม. 3 บ้านหัวหิน ต.คลองปูน อ.แกลง จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ ก่อนรุดไปตรวจสอบ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่กู้ภัยมูลนิธิพุทธศาสตร์สงเคราะห์อำเภอแกลง ที่เกิดเหตุเป็นป่าโกงกางชายทะเล ห่างจากฝั่งประมาณ 1 กม. พบศพเป็นชายไม่ทราบชื่อและสัญชาติ ลอยน้ำมาติดกับรากต้นโกงกาง สภาพศพเน่า เนื้อหนังเริ่มหลุด ศีรษะเหลือแต่กะโหลก สวมกางชาวเล สีน้ำเงิน เสื้อยึดแขนยาวสีขาว ตรวจสอบพบ ที่บริเวณกะโหลกศีรษะ ด้านขวาเป็นรู คล้ายถูกของแข็งทุบจนแตก มือและเท้ามีเชือกมัดติดอยู่ ลักษณะถูกมัดมือเท้า เสียมาแล้วไม่ต่ำกว่า 2 สัปดาห์ เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจ สันนิษฐานว่า ผู้ตาย อาจเป็นไต๋เรือ หรือ ลูกเรือประมง อาจไปมีเรื่องทะเลาะวิวาทกับผู้อื่น ถูกทำร้ายร่างกายจนเสียชีวิต ก่อนมัดมือเท้า โยนทิ้งทะเล ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้นำศพส่ง รพ.แกลง ให้แพทย์ชันสูตรศพ และเร่งตรวจสอบว่ามีญาติผู้ตายมีการแจ้งความหายไว้ที่ สภ.ใด หรือไม่





วฐิต/ข่าว

หนุ่มนักศึกษา มหาวิทยาลัยชื่อดัง ยื่นหนังสือถึง คสช. เรียกร้องจัดการ บ.ไออาร์พีซีฯ ถมดินรุกล้ำลำน้ำและคลองสาธารณะ พื้นที่กว่า 100 ไร่

เมื่อวานนี้ (19 มิ.ย.) ที่พัน.ร.6 กรม ร.2 พล.นย.ค่ายมหาสุรสิงหนาท ต.ตะพง อ.เมือง จ.ระยอง นายธีระพล ลายประดิษฐ์ นักศึกษามหาวิทยาลัยราชภัฎราชนครินทร์ เครือข่ายอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม สาขาเครือข่ายประชาชนภาคตะวันออก เข้ายื่นหนังสือร้องเรียนถึงพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ. และหน.คณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) ผ่าน น.ท.พิทักษ์รัฐ นิลพฤกษ์ ผบ.พัน ร.6 แต่ น.ท.พิทักษ์รัฐ ติดราชการ จึงมอบหมายให้ น.ต. อดิเรก สาทำ รองผบ.พัน ร.6 มารับหนังสือพร้อมเอกสารแทนนายธีระพล ลายประดิษฐ์ นักศึกษามหาวิทยาลัยราชภัฎราชนครินทร์ กล่าวว่า เขตประกอบการอุตสาหกรรมบริษัท ไออาร์พีซี จำกัด (มหาชน) ตั้งอยู่ ต.เชิงเนิน อ.เมือง จ.ระยอง ถมดินรุกล้ำลำราง คลองสาธารณะ ใน ต.เชิงเนิน ต.ตะพง และ ต.บ้านแลง รวมเนื้อที่ 117 ไร่เศษ และทางบริษัทได้นำพื้นที่อื่นมาแลกเปลี่ยนกับพื้นที่สาธารณะ ทำให้น้ำเปลี่ยนทิศทาง ท่วมในช่วงน้ำหลาก จึงขอเรียกร้องให้ดำเนินการตามกฎหมายกับเขตประกอบการไออาร์พีซีฯ

น.ต.อดิเรก กล่าวว่า เบื้องต้น จะนำเรื่องเรียน ผบ.พัน ร.6 ให้ทราบโดยเร็วที่สุด พร้อมกับจะเร่งดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริง ว่า พื้นที่.ดังกล่าว เป็นของรัฐหรือของไออาร์พีซีฯ กันแน่ ซึ่งผลการดำเนินการตรวจเป็นอย่างไร จะแจ้งให้ผู้ร้องทราบตามขั้นตอนต่อไป





วฐิต กลางนอก/ข่าว

จ.ตราด ย้ำให้ผู้อาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน หรือวัตถุระเบิด โดยไม่ได้รับอนุญาตหรือที่มีกฏหมายห้ามออกใบอนุญาต นำส่งมอบให้ภาครัฐ ตามประกาศ คสช. ภายใน 25 มิ.ย. นี้

(20 มิ.ย. 57) นางสาวเบญจวรรณ อ่านเปรื่อง ผู้ว่าราชการจังหวัดตราด กล่าวว่า ตามที่ คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ได้ออกประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 62/2557 เรื่อง ให้ผู้ที่มีอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน หรือวัตถุระเบิด โดยไม่ได้รับอนุญาตหรือที่มีกฏหมายห้ามออกใบอนุญาต นำส่งมอบให้กับทางราชการ เนื่องจากอาจมีความเสียงนำมาใช้ในการกระทำความผิดต่างๆ อันเป็นเหตุให้เกิดความเสียหายแก่ชีวิต ร่างกาย และทรัพย์สินของประชาชน ทางจังหวัดจึงขอให้ ผู้ที่มีอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน หรือวัตถุระเบิด โดยไม่ได้รับอนุญาตหรือที่มีกฏหมายห้ามออกใบอนุญาตตามกฏหมายว่าด้วยอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิง และสิ่งเทียมอาวุธปืน นำอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน หรือวัตถุระเบิดหรือที่มีกฏหมายห้ามออกใบอนุญาต ส่งมอบต่อนายทะเบียนท้องที่ตามกฏหมายดังกล่าวภายในวันที่ 25 มิถุนายน 2557 ซึ่งจะไม่ต้องรับโทษทางอาญาตามที่บัญญัติไว้ในกฏหมายว่าด้วยอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิง และสิ่งเทียมอาวุธปืน ผู้ที่ฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามมีความผิดต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่หนึ่งปีถึงสิบปี สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ กลุ่มงานปกครอง ที่ทำการปกครองจังหวัดตราด หมายเลขโทรศัพท์ 0-3951-1005 ในวันและเวลาราชการ

บริษัท กลางคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ จำกัด จัดกิจกรรมกินข้าวเล่าเรื่อง มุ่งประชาสัมพันธ์ผลการดำเนินงานสร้างความปลอดภัยในการใช้รถใช้ถนน

(20 มิ.ย. 57) นายกิตติศักดิ์ ทองอยู่ ผู้จัดการภาคตะวันออก บริษัทกลางคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ จำกัด พร้อมด้วย นางกันยา บุญชากร ผู้จัดการบริษัทกลางคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ สาขาตราด ร่วมกันเปิดกิจกรรมกินข้าวเล่าเรื่อง เพื่อประชาสัมพันธ์การดำเนินงานด้านการคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ และกิจกรรมการรณรงค์เพื่อลดอุบัติเหตุจราจร ของบริษัทกลางคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ จำกัด โดยมีสื่อมวลชนท้องถิ่นในพื้นที่จังหวัดตราดเข้าร่วม

ผู้จัดการภาคตะวันออก บริษัทกลางคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ จำกัด กล่าวว่า การจัดกิจกรรมกินข้าวเล่าเรื่อง มุ่งที่จะประชาสัมพันธ์การดำเนินงานด้านการคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ ในพื้นที่จังหวัดตราด และในระดับประเทศ ทั้งนี้เพื่อการประสานการปฏิบัติงานด้านการคุ้มครองผู้ประสบภัยจากระระหว่างบริษัท กับสื่อมวลชน เพื่อเผยแพร่ข้อมูลดังกล่าวไปสู่ประชาชน ทั้งในเรื่อง การรับคำร้องค่าสินไหมทดแทนตาม พ.ร.บ. คุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ ให้กับประชาชนที่เกิดอุบัติเหตุจากรถ ทั้ง ค่ารักษาพยาบาล ค่าปลงศพ ในกรณีเสียชีวิต หรือทุพพลภาพ ภายใน 7 วัน การจำหน่าย พ.ร.บ.คุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ นอกจากนี้การจัดกิจกรรมครั้งนี้ยังเป็นการแนะนำเว็บไซต์ไทยอาร์ เอส ซี ดอท คอม (ThaiRSC.COM) ที่เป็นเว็บไซต์ศูนย์ข้อมูลอุบัติเหตุ ทั่วทั้งประเทศ สามารถเป็นฐานข้อมูลรณรงค์วัฒนธรรมความปลอดภัยในการใช้รถใช้ถนนให้กับหน้วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องและะประชาชนทั่วไปอีกด้วย

นายกิตติศักดิ์ ทองอยู่ ยังกล่าวอีกว่า แม้จังหวัดตราดนับเป็นพื้นที่ที่ประสบความสำเร็จในการรณรงค์สวมหมวกนิรภัย 100 เปอร์เซนต์ เพื่อลความสูญเสียจากอุบัติเหตุจราจรโดยเฉพาะรถจักรยานยนต์ที่มีความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุจราจรมากที่สุด แต่ยังพบว่าในจังหวัดตราดยังมีรถจักรยานยนต์อีกจำนวนไม่น้อยที่ยังไม่มีการทำประกันตาม พ.ร.บ. คุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ จึงขอประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนที่ใช้ยานพาหนะทุกประเภทร่วมกันทำประกันตาม พ.ร.บ. คุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ เพื่อให้ได้สิทธิคุ้มครองกรณีที่เกิดอุบัติเหตุ ซึ่งสามารถทำได้ในรถทุกประเภท เพียงแคทมีบัตรประชาชน และหมายเลขตัวถังของรถเท่านั้น

จังหวัดตราด เตรียมการป้องกันและแก้ไขปัญหาอุทกภัยและดินโคลนถล่มปี 2557

(20 มิ.ย. 57) นายพยัคฆพันธุ์ โพธิ์แก้ว รองผู้ว่าราชการจังหวัดตราด เป็นประธานในการประชุมเตรียมการป้องกันและแก้ไขปัญหาอุทกภัยและดินโคลนถล่มปี 2557 ซึ่งสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดตราด เป็นเจ้าภาพจัดขึ้น โดยมีหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้องในพื้นที่เข้าร่วม

นายฐิตนันท์ อุดมสุข หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดตราด กล่าวว่า เนื่องจากปัจจุบันได้เข้าสู่ฤดูฝนแล้ว ซึ่งจากข้อมูลของกรมอุตุนิยมวิทยาได้คาดการณ์ว่า ฤดูฝนปีนี้อาจยาวนานไปจนถึงเดือนสิ้นตุลาคม 2556 สำหรับจังหวัดตราด เป็นจังหวัดที่มีปริมาณน้ำฝนมากที่สุดในประเทศไทย และมีความเสี่ยงจังหวัดหนึ่งในการเกิดอุทกภัยและดินโคลนถล่ม โดยเฉพาะพื้นที่ อำเภอเกาะช้าง อำเภอบ่อไร่ และอำเภอเขาสมิง ทางสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดตราดจึงได้ดำเนินการจัดประชุมเพื่อเตรียมการณ์ป้องกันและแก้ไขปัญหาดังกล่าวขึ้น เพื่อตรวจสอบพื้นที่เสี่ยงอุทกภัยดินโคลนถล่ม ประเมินความเสี่ยง จัดทำแผนพื้นที่เสี่ยงภัย จัดทำข้อมูลพื้นที่ปลอดภัยเพื่อรองรับการอพยพ รวมทั้งเตรียทการจัดตั้งศูนย์พักพิงชั่วคราว รวมทั้งแป็นการซักซ้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในทุกระดับในการผยแพร่และประชาสัมพันธ์ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องและประชาชนได้รับทราบเมื่อเกิดปัญหาดังกล่าว ขึ้น อย่างไรก็ตามตั้งแต่ช่วงเข้าส่ฤดูฝนของปีนี้ เป็นต้นมา ในจังหวัดตราดยังไม่พบ ปัญหาดินโคลนถล่ม และอุทกภัยครั้งใหญ่ มีเพียงปัญหาเพียงน้ำท่วมถนนเล็กน้อย

จังหวัดตราด เดินหน้าเปิดค่ายปรับเปลี่ยนพฤติกรรมผู้เสพ ผู้ติดยาเสพติด ตามโครงการใครติดยายกมือขึ้นรุ่นที่ 3

(20 มิ.ย. 57) นางสาวเบญจวรรณ อ่านเปรื่อง ผู้ว่าราชการจังหวัดตราด เปิดค่ายปรับเปลี่ยนพฤติกรรมผู้เสพ ผู้ติดยาเสพติด ตามโครงการใครติดยายกมือขึ้น รุ่นที่ 3 ประจำปี 2557 ซึ่งศูนย์อำนวยการพลังแผ่นดินเอาชนะยาเสพติดจังหวัดตราด ร่วมกับสำนักงานคุมประพฤติจังหวัดตราด กองร้อยตำรวจตะเวนชายแดนที่ 117 ร่วมกันจัดขึ้น โดยนำผู้เสพ ผู้ติดยาเสพติด จำนวน 60 คน เข้าร่วมโครงการโดยสมัครใจ ในระบบโปรแกรม Fast Model ในระยะเวลา 15 วัน ที่โรงเรียนวิวัฒน์พลเมือฝ่ายปกครองจังหวัดตราด กองร้อยอาสารักษาดินแดนจังหวัดตราดที่ 1

ผู้ว่าราชการจังหวัดตราด กล่าวว่า การแก้ไขปัญหายาเสพติดนับเป็นนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาลที่ดำเนินการร่วมกับทุกภาคส่วนร่วมกันป้องกันและแก้ไข การจัดค่ายในครั้งนี้เป็นการมุ่งลดจำนวนผู้เสพยาเสพติดในพื้นที่ ผ่านการดำเนินการฟื้นฟูและพัฒนาสมรรถภาพผู้ติดยาเสพติดโดยใช้กิจกรรมกลุ่มบำบัด การหยุดคิด เพื่อปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของกลุ่มผู้เสพให้หายขาดจากการติดยาเสพติด สามารถกลับมาใช้ชีวิตเช่นคนปกติทั่วไป ทั้งนี้สิ่งสำคัญที่สุดในการเลิกเสพยาเสพติดที่ทางจังหวัดฝากไว้กับผู้เข้าร่วมโครงการนี้คือการเอาชนะใจตนเอง ซึ่งนับเป็นสิ่งที่สำคัญในการไม่ยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดอีก อย่างไรก็ตามทางจังหวัดยังพร้อมที่จะดูแลในเรื่องของการฝึกอาชีพ หาอาชีพที่เหมาะสมให้กับผู้ผ่านกระบวนการบำบัดแล้วหากผู้เข้าร่วมโครงการมีความต้องการ

ท.เมืองจันทบุรี เร่งล้างลอกท่อระบายน้ำเพื่อป้องกันน้ำท่วมขังในช่วงฤดูฝน

เทศบาลเมืองจันทบุรีเร่งทำความสะอาดลอกท่อระบายน้ำ ป้องกันแก้ไขน้ำท่วมขัง ช่วงฤดูฝนบรรเทาความเดือดร้อนของคนในชุมชน  

ที่บริเวณชุมชนริมน้ำจันทบูรณ์ เขตเทศบาลเมืองจันทบุรี นางสุกานดา  สุทธิพัฒนกุล นายกเทศมนตรีเมืองจันทบุรีได้นำคณะผู้บริหารเทศบาล สมาชิกสภาฯ และเจ้าหน้าที่กองช่างสุขาภิบาล เร่งทำความสะอาดล้างลอกท่อระบายน้ำ เพราะช่วงนี้เข้าสู่ฤดูฝน ทำให้บางพื้นที่ในเขตเทศบาลเมืองจันทบุรี เสี่ยงต่อการเกิดน้ำท่วมขัง ประกอบกับมีสิ่งกีดขวางทางน้ำ ทำให้น้ำไหลไม่ดีเท่าที่ควรเมื่อฝนตก น้ำจึงเอ่อล้นขึ้นบนพื้นถนนไหลเข้าท่วมพื้นที่ต่ำ ก่อให้เกิดความเดือดร้อนกับประชาชนในเขตเทศบาลเมืองจันทบุรี เพื่อป้องกันเหตุน้ำท่วมขังบริเวณพื้นที่ลุ่มต่ำ และบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน คณะผู้บริหารเทศบาลเมืองจันทบุรี จึงดำเนินการให้เจ้าหน้าที่กองช่างสุขาภิบาล เทศบาลเมืองจันทบุรี เร่งขุดล้างลอกท่อระบายน้ำ เพื่อกำจัดสิ่งกีดขวางทางน้ำ

ทั้งนี้การทิ้งขยะสิ่งปฏิกูล และกวาดเศษ หิน ดิน ทราย ลงในท่อระบายน้ำ เป็นสาเหตุหลักของท่อระบายน้ำอุดตัน ส่งผลให้ระบบระบายน้ำมีประสิทธิภาพลดลง เทศบาลเมืองจันทบุรี จึงขอความร่วมมือจากประชาชนโปรดทิ้งขยะให้ถูกที่และปลูกฝังเยาวชนให้ใส่ใจรักษาสิ่งแวดล้อม เพื่อสร้างจิตสำนึกที่ดี และเพื่อให้บ้านเมืองสะอาด เป็นเมืองน่าอยู่ที่ยั่งยืนต่อไป



จรัล บรรยงคเสนา/ภาพ/ข่าว ( 20  มิ.ย.57 )
                  ธเนศ  เธียรนันทน์/ตรวจข่าว

ผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรี ประกาศวาระจันทบุรีเมืองแห่งความสุข

ผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรีมอบนโยบายส่วนราชการ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ประกาศวาระจันทบุรีเมืองแห่งความสุข เน้นบริการรวดเร็ว โปร่งใส ทำทันทีที่รู้

เมื่อวานนี้ 19 มิถุนายน ที่ห้องแกรนด์บอลรูม โรงแรมนิวแทรเวิลลอร์ด จังหวัดจันทบุรี นายสามารถ ลอยฟ้า ผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรีได้มอบนโยบายแก่หัวหน้าส่วนราชการ หัวหน้าหน่วยงานรัฐวิสาหกิจ ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ข้าราชการ เจ้าหน้าที่ โดยผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรีได้ประกาศวาระจังหวัด ให้จังหวัดจันทบุรีเป็นเมืองแห่งความสุข สุขทุกวันที่จันทบุรี ซึ่งจากผลการทำโพลของมหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ พบว่าจังหวัดจันทบุรีเป็นเมืองที่มีความสุขเป็นอันดับที่ 6 ของประเทศ แต่อยากจะขอความร่วมมือทุกภาคส่วนทำให้จังหวัดจันทบุรีขยับอันดับขึ้นเป็นที่ 1 – 3 ของประเทศ

ผู้ว่าฯจันท์ นำนักโทษช่วยเกษตรกรเก็บเงาะแก้ปัญหาขาดแคลนแรงงาน

ผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรีนำนักโทษช่วยเกษตรกรเก็บเงาะ หลังพื้นที่ประสบปัญหาขาดแคลนแรงงานเนื่องจากชาวกัมพูชาที่มารับจ้างกลับบ้านหมด

วันนี้ ( 20 มิ.ย.57 ) ที่ สวนผลไม้ของนายสมชาย พุ่มเจริญ เกษตรกรหมู่ที่ 1  ตำบลวังใหม่ อำเภอนายายอาม จังหวัดจันทบุรี นายสามารถ ลอยฟ้า ผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรี พร้อมหัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้องได้เดินทางเข้าเยี่ยมชมสวนให้กำลังใจเกษตรกร พร้อมทั้งนำนักโทษชั้นดี จากเรือนจำจังหวัดจันทบุรีจำนวน 40 คนไปช่วยเก็บผลไม้ช่วยเหลือเกษตรกรที่กำลังประสบปัญหาขาดแคลนแรงงานเนื่องจากแรงงานชาวต่างด้าวชาวกัมพูชาได้ละทิ้งงานกลับบ้านกันหมดจึงทำให้เกษตรกรได้รับผลกระทบขาดแคลนแรงงานและส่งผลต่อผลผลิตที่อาจจะเสียหายหากเก็บเกี่ยวไม่ทัน ทั้งนี้ในช่วงปัจจุบันผลผลิตเงาะ และมังคุดของจังหวัดจันทบุรีกำลังอยู่ในช่วงให้ผลผลิตพร้อมกันหรือเรียกว่าช่วงพี๊กโดยปีนี้สำนักงานเกษตรจังหวัดจันทบุรีคาดการณ์ว่ามีเงาะให้ผลผลิตทั้งสิ้นประมาณ 138,000 ตัน เก็บผลผลิตไปแล้วประมาณ 61,000 ตัน คงเหลือผลผลิตที่จะออกสู่ตลาดอีกประมาณ 77,000 ตัน ราคาที่พ่อค้าคนกลางซื้อจากเกษตรกรกิโลกรัมละ 12 ถึง 14 บาท หากเกษตรกรรายใดประสบปัญหาเรื่องแรงงานสามารถร้องขอจังหวัดจัดกำลังผู้ต้องโทษชั้นดีเข้าช่วยเหลือเก็บผลผลิตได้เพราะผู้ต้องโทษเหล่านี้ได้รับการฝึกฝีมือก่อนพ้นโทษและไม่ทำให้ผลผลิตเสียหาย

โอกาสนี้ผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรีได้กล่าวเชิญชวนให้ประชาชน นักท่องเที่ยวร่วมบริโภคผลไม้ไทยเพื่อช่วยเหลือเกษตรกรให้มีรายได้สูงขึ้น พร้อมทั้งเชิญชวนมาเที่ยวชมสวนผลไม้ เติมเต็มความสุขให้แก่ชีวิตและครอบครัว ที่จังหวัดจันทบุรีชมและเลือกซื้อผลไม้สดจากสวน ท่องเที่ยวตามแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติต่าง ๆ ของจังหวัดจันทบุรีที่มีอยู่มากมาย ตามคำขวัญที่ว่า จันทบุรีเมืองแห่งความสุข สุขทุกวันที่จันทบุรี

วันพฤหัสบดีที่ 19 มิถุนายน พ.ศ. 2557

พ่อเมืองแปดริ้วนำส่วนราชการออกหน่วยเคลื่อนที่ บำบัดทุกข์ บำรุงสุข สร้างรอยยิ้มให้ประชาชนในพื้นที่อำเภอพนมสารคาม

วันนี้ (19 มิ.ย. 57 ) นาย อนุกูล ตังคณานุกูลชัย ผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทรา  พร้อมด้วย นาย บัณฑิตย์ เทวีทิวารักษ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทรา  นาย ไพศาล วิมลรัตน์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทรา นาย กิตติ เป้าเปี่ยมทรัพย์  นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดฉะเชิงเทรา  หัวหน้าส่วนราชการ  หน่วยงานรัฐวิสาหกิจ  ภาคเอกชน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และผู้นำชุมชน  ออกเยี่ยมเยียนพบปะประชาชนในพื้นที่ห่างไกล  ตามโครงการ"หน่วยบำบัดทุกข์ บำรุงสุข สร้างรอยยิ้มให้ประชาชน” (โครงการจังหวัดเคลื่อนที่ ) ณ วัดธารพูด   หมู่ที่ 7  ตำบลบ้านซ่อง อำเภอพนมสารคาม พร้อมนำการบริการเคลื่อนที่ของหน่วยงานต่าง ๆ ไปให้บริการพี่น้องประชาชน   และเพื่อให้ส่วนราชการ ได้มีโอกาสพบปะประชาชนในท้องที่ พร้อมแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนและหาทางช่วยเหลือในเบื้องต้นซึ่งเป็นไปตามนโยบายของรัฐบาลและของจังหวัดฉะเชิงเทรา

โอกาสนี้ผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทราได้นำข้าราชการและประชาชนตำบลบ้านซ่อง กล่าวคำปฏิญาณเทิดทูนสถาบันของชาติ ต่อหน้าพระบรมสาทิสลักษณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ และร่วมร้องเพลงสรรเสริญพระบารมีและสดุดีมหาราชา  เพื่อเป็นการแสดงออกถึงความจงรักภักดี พร้อมกันนี้ผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทรา ได้กล่าวฝากถึงแนวทางการดำเนินชีวิตที่จะทำให้เกิดความร่มเย็นเป็นสุขในหมู่บ้าน/ชุมชน คือ ความจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ ความสามัคคี การเคารพนับถือผู้สูงอายุ การสร้างความอบอุ่นแก่ครอบครัว การช่วยกันป้องกันแก้ไขปัญหายาเสพติด การดูแลรักษาสุขภาพให้ปลอดภัยจากโรคภัยไข้เจ็บต่าง ๆ รวมถึงการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม  สำหรับโครงการจังหวัดเคลื่อนที่ยังได้จัดประชุมเสวนาเวทีนี้มีคำตอบ เพื่อเป็นการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนให้มีประสิทธิภาพเพิ่มมากขึ้น รวมทั้งได้มีการมอบสื่อพัฒนาเด็กเล็กแก่ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กในพื้นที่ , มอบทุนการศึกษาแก่เด็กนักเรียนยากจน , มอบหนังสือเผยแพร่ความรู้เกี่ยวกับสหกรณ์ แก่โรงเรียนในพื้นที่ , มอบเงินปรับสภาพที่อยู่อาศัยคนพิการ ,มอบเงินสงเคราะห์ครอบครัวผู้ยากไร้ ,  มอบรถเข็นสำหรับคนพิการ ,มอบเงินสงเคราะห์ครอบครัวผู้พิการ ,มอบเครื่องอุปโภคและบริโภคกับราษฎรที่ยากจน   และโอกาสเดียวกันนี้ผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทรา  รองผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทรา   หัวหน้าส่วนราชการ ได้ร่วมกันปลูกต้นไม้ และเยี่ยมชมกิจกรรมการให้บริการที่ส่วนราชการต่าง ๆ ได้มาร่วมกันจัดกิจกรรมให้บริการประชาชนอีกด้วย



ชาญณรงค์/ข่าว-ภาพ
ส.ปชส.ฉะเชิงเทรา

สำนักงานพัฒนาภาค 1 หน่วยบัญชาการทหารพัฒนานำอาหารกล่องแจกจ่ายให้ประชาชนในพื้นที่ อ.พนสารคาม จ.ฉะเชิงเทรา

วันนี้  (19 มิ.ย. 57) สำนักพัฒนาภาค 1 หน่วยบัญชาการทหารพัฒนา ได้นำรถครัวสนาม มาดำเนินการจัดทำอาหารกล่อง จำนวน 300 กล่อง เพื่อแจกจ่ายให้กับประชาชน ที่เข้าร่วมงานโครงการ "หน่วยบำบัดทุกข์ บำรุงสุข สร้างรอยยิ้มให้ประชาชน”  ณ วัดธารพูด ต.บ้านช่อง อ.พนมสารคาม จ.ฉะเชิงเทรา โดยมีนายอนุกูล  ตังคณานุกูลชัย ผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทรา พร้อมด้วย พันเอก ธวัชชัย ชวนสมบูรณ์ รองผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาภาค 1  ร่วมกันมอบอาหารกล่องให้ประชาชนพื้นที่ตำบลบ้านซ่อง และตำบลใกล้เคียง

ทั้งนี้  สำนักงานพัฒนาภาค 1 หน่วยบัญชาการทหารพัฒนาได้จัดบอร์ดประชาสัมพันธ์ เพื่อเผยแพร่ผลงานการปฏิบัติงานของหน่วยบัญชาการทหารพัฒนา อาทิ เช่น การขุดลอกคลอง เพื่อแก้ไขปัญหาภัยแล้งและให้มีน้ำเพื่อใช้ในการเกษตรกร จำนวน 7 งาน , การซ่อมทางลูกรัง จำนวน 3 เส้นทาง เพื่อบรรเทาการเดือดร้อนในการสัญจรของประชาชน และการนำผลิตผลทางการเกษตรออกสู่ตลาดในพื้นที่จังหวัดฉะเชิงเทรา รวมถึงการขุดเจาะน้ำบาดาลและขุดเจาะบ่อน้ำตื้นให้กับองค์การบริหารส่วนตำบลต่างๆ โดยได้แนะนำประชาชนผู้ร่วมงานให้ทราบถึงภารกิจการช่วยเหลือและบรรเทาความเดือดร้อนตลอดจนช่องทางในการขอรับการช่วยเหลือและการสนับสนุนจากสำนักงานพัฒนาภาค 1 หน่วยบัญชาการทหารพัฒนา และสามารถติดต่อได้ที่ สำนักงานพัฒนาภาค 1 เลขที่ 179 หมู่ 7 บ.หนองเค็ดใหม่ ต.ท่าถ่าน อ.พนมสารคาม จ.ฉะเชิงเทรา โทรศัพท์ 038-552881 ซึ่งเป็นไปตามนโยบายคืนความสุขให้กับประชาชน ตามประกาศของคณะรักษาความสงบแห่งชาติอีกด้วย



ชาญณรงค์/ข่าว-ภาพ
ส.ปชส.ฉะเชิงเทรา

ตำรวจสนธิกำลังทหาร อาสาสมัครกว่า 300 นาย ปล่อยแถวระดมกวาดล้างอาชญากรรม

เมื่อเวลา 16.00 น.วันที่ 18 มิถุนายน หน้ากองบังคับการตำรวจภูธร จังหวัดระยอง ต.ท่าประดู่ อ.เมืองระยอง พล.ต.ต.รุ่งฤทธิ์ ซุ่นทรัพย์ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธร ภาค 2 รักษาราชการแทน ผู้บังคับการตำรวจภูธร จังหวัดระยอง เป็นประธานในพิธี ปล่อยแถวระดมกวาดล้างอาชญากรรมเริ่มตั้งแต่วันที่ 18 - 24 มิถุนายน โดยมีข้าราชการตำรวจสังกัดตำรวจภูธร จังหวัดระยอง จำนวน 250 นาย ทหาร กองพันทหารราบที่ 6 กรมทหารราบที่ 2 กองพลนาวิกโยธิน จำนวน 23 นาย เจ้าหน้าที่อาสาสมัครตำรวจชุมชน จำนวน 80 นาย พร้อมรถยนต์สายตรวจจำนวน 25 คัน รถจักรยานยนต์สายตรวจจำนวน 10 คัน ร่วมในพิธีโดย พ.ต.อ.ไตรศูล เนียมทรัพย์ รองผู้บังคับการตำรวจภูธร จังหวัดระยอง กล่าวรายงานว่า ตามที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) ประกาศยกเลิกการห้ามออกนอกเคหะสถาน ได้ปรากฏข่าวสารความเคลื่อนไหวของกลุ่มบุคคลที่มีความคิดเห็นต่างและมีแนวโน้มที่จะระดมแนวร่วมมวลชน ออกมาเคลื่อนไหวหรือจัดกิจกรรมในระหว่างวันที่ 19 - 21 มิถุนายนนี้ ในหลายพื้นที่ สำนักงานตำรวจแห่งชาติจึงสั่งให้ทุกหน่วยระดมกวาดล้างอาชญากรรมระหว่างวันที่ 18 - 24 มิถุนายนนี้ โดยเน้นกลุ่มเป้าหมายสำคัญ เรื่องยาเสพติด อาวุธปืน อาวุธสงคราม วัตถุระเบิดและระเบิดแสวงเครื่องรวมทั้งระเบิดปิงปอง เรื่องบุคคล สถานที่และสื่อสังคมออนไลน์ ที่เกี่ยวข้องกับการต่อต้านหรือจัดกิจกรรมเคลื่อนไหวในรูปแบบต่างๆ ให้สืบสวนหาข่าว ตรวจสอบติดตามบุคคลและสถานที่เป้าหมายเพื่อเข้าไปชี้แจงทำความเข้าใจ ขอความร่วมมือยุติการกระทำ

พ่อเมืองระยอง เปิดงานเทศกาลผลไม้และของดีอำเภอวังจันทร์คึกคัก

เมื่อเวลา 20.00 น.วันที่ 18 มิถุนายน ที่บริเวณหน้าโรงเรียนวังจันทร์วิทยา ริมถนนสายบ้านบึง-แกลง หมู่ 1ต.ชุมแสง อ.วังจันทร์ จ.ระยอง นายธานี สามารถกิจ ผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง เดินทางไปเป็นประธานเปิดงานเทศกาลผลไม้และของดีอำเภอวังจันทร์ จังหวัดระยอง โดยมีนายศุภมิตร เลื่อนสุคันธ์ นายอำเภอวังจันทร์ นายปิยะ ปิตุเตชะ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด(อบจ.)ระยอง นายกองค์การบริหารส่วนตำบล(อบต.)ชุมแสง นายก อบต.วังจันทร์ นายกอบต.พลงตาเอี่ยม กำนันผู้ใหญ่บ้าน และกลุ่มเกษตรกร ร่วมในพิธีคับคั่ง

นายศุภมิตร เลื่อนสุคันธ์ นายอำเภอวังจันทร์ กล่าวรายงานว่าข้าราชการ เกษตรกรและประชาชน พร้อมคณะกรรมการจัดงาน มีความรู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ท่านให้เกียรติเดินทางมาเป็นประธานเปิดงานเทศกาลผลไม้และของดี อำเภอวังจันทร์ ปัจจุบันสภาพเศรษฐกิจและสังคมของอำเภอวังจันทร์มีความเจริญเติบโตอย่างรวดเร็วโดยเฉพาะภาคเกษตรกรรม ซึ่งมีพื้นที่การเกษตรทั้งหมด 80 %ของอำเภอวังจันทร์ ผลผลิตทางการเกษตรที่สำคัญคือ ทุเรียน มังคุด ยางพารา มันสำปะหลัง สับปะรดฯลฯ ที่ผ่านมาผลผลิตทางเกษตรกรรมมักประสบปัญหาเรื่องราคาตกต่ำในช่วงฤดูกาลที่ให้ผลผลิตมาก ทำให้อำเภอวังจันทร์จึงร่วมใจกันจัดงานเทศกาลผลไม้และของดีอำเภอวังจันทร์ เป็นประจำทุกปี และในปีนี้งานจะเริ่มตั้งแต่วันที่ 18 - 24 มิถุนายน

นายศุภมิตร นายอำเภอวังจันทร์ กล่าวต่อไปว่าการจัดงานครั้งนี้เพื่อแก้ไขปัญหาเรื่องราคาตกต่ำโดยมุ่งเน้นให้เกษตรกรนำผลไม้ที่มีคุณภาพมาจำหน่ายกับผู้บริโภคโดยตรง โดยไม่ผ่านพ่อค้าคนกลาง และยังเป็นการเผยแพร่ผลผลิตทางการเกษตรโดยเฉพาะผลไม้ของอำเภอวังจันทร์เป็นผลไม้ที่มีคุณภาพให้แพร่หลายแก่คนทั่วไป ซึ่งจะนำไปสู่การพัฒนาคุณภาพผลไม้ให้ดียิ่งขึ้น

นายธานี สามารถกิจ ผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง กล่าวเปิดงานว่าการจัดงานเทศกาลผลไม้และของดีอำเภอวังจันทร์ สามารถสร้างรายได้ให้กับเกษตรกรอย่างดียิ่ง และเป็นการแก้ไขปัญหาราคาผลไม้ตกต่ำที่ตรงจุด เป็นการส่งเสริมช่วยเหลือเกษตรกรให้มีรายได้เพิ่มขึ้น แสดงให้เห็นว่าพี่น้องเกษตรกรชาวอำเภอวังจันทร์ให้ความร่วมมือร่วมใจในการแก้ไขปัญหารวมทั้งมีการพัฒนาศักยภาพของอำเภอวังจันทร์ไปในทิศทางเดียวกันอีกด้วย

สคบ.เร่งผลักดันการคุ้มครองผู้บริโภคสู่สหภาพแรงงาน

เมื่อเวลา 09.00 น.ของวันนี้ (19 มิถุนายน) สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคร่วมกับกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน จัดโครงการส่งเสริมและผลักดันการดำเนินงานเครือข่ายสหภาพแรงงาน โดยมีนายบัณฑิต ตั้งประเสริฐ รองเลขาธิการคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) เป็นประธานเปิดการประชุมสัมมนาที่ โรงแรมโกลเด้นซิตี้ อำเภอเมืองระยอง

นายบัณฑิต ตั้งประเสริฐ รองเลขาธิการ สคบ. เปิดเผยว่า จากการทำข้อตกลงความร่วมมือระหว่าง สคบ. กับกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานในการเร่งส่งเสริมให้ภาคแรงงานอุตสาหกรรมมีความรู้ความเข้าใจด้านการคุ้มครองผู้บริโภค เพื่อเป็นการส่งเสริมบทบาทขององค์กรภาคเอกชนและภาคประชาชนให้ควบคู่ไปกับองค์กรภาคราชการ ในการพัฒนาศักยภาพของประชาสัมคมและชุมชนท้องถิ่นให้เกิดการรวมกลุ่มที่มีความเข้มแข็ง สามารถพิทักษ์ปกป้องสิทธิและผลประโยชน์ของตนเองและสังคมไทย ไม่ให้ถูกเอารัดเอาเปรียบจากการซื้อสินค้าหรือบริการ ซึ่งเป็นการส่งเสริมสนับสนุนให้ประชาชนผู้บริโภคได้เข้าใจและเห็นความสำคัญในสิทธิผู้บริโภค เพราะในการคุ้มครองผู้บริโภคในภาคส่วนต่างๆ กลุ่มสหภาพแรงงานนับเป็นกลุ่มพลังที่มีความเข้มแข็งและสามารถเป็นเครือข่ายด้านการคุ้มครองผู้บริโภคเป็นอย่างดี

สคบ. ได้ตระหนักถึงความสำคัญของการรวมพลังเป็นเครือข่ายเพื่อคุ้มครองผู้บริโภคและถือเป็นภารกิจสำคัญที่ต้องดูแลเอาใจใส่ประชาชน จึงจัดโครงการนี้ขึ้น โดยผู้เข้าร่วมประชุมสัมมนาประกอบด้วยผู้แทนสหภาพแรงงานและผู้แทนจากองค์กรนายจ้างจำนวนรวม 200 คน

สภ.เมืองระยอง แจงข้อเท็จจริงกรณีมีข่าวคนร้ายลักพาตัวเด็ก

เมื่อเวลา 17.00 น.วันที่ 18 มิ.ย.57 ที่หน้าตำรวจภูธรจังหวัดระยอง พันตำรวจเอกฐานวัฒน์ ธีรโชติเรืองชัย ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรเมืองระยอง เปิดเผยถึงกรณีข่าวคนร้ายลักพาตัวเด็ก โดยในข่าวระบุว่าเกิดบริเวณร้านตี๋ผลไม้ ศูนย์การค้าระยอง อำเภอเมืองระยอง ซึ่งได้ตรวจสอบแล้วเป็นเรื่องเข้าใจผิด ทั้งนี้จากเมื่อวันที่ 16 มิถุนายน 2557 เวลา 10.00 น .ร.ต.อ.ชัชวาลย์ ไชยพา รองสารวัตรป้องกันและปราบปรามเจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรเมืองระยองที่ออกตรวจป้องกันเหตุในศูรนย์การค้าระยองได้รับแจ้งเหตุจากหญิงคนหนึ่งว่า บุตรสาวอายุ 4 ขวบ หายไปใกล้บริเวณที่เป็นข่าว โดยมีผู้พบเห็นหญิงคนหนึ่งจูงมือไปยังสถานีขนส่งระยอง จึงพร้อมด้วยชุดเคลื่อนที่เร็วได้ออกติดตาม จนกระทั่งพบเด็กอยู่ในละแวกใกล้เคียง สอบถามหญิงที่จูงเด็กคนดังกล่าว ทราบว่าเป็นญาติพี่น้องที่มาซื้อของด้วยกัน โดยมารดาเด็กหญิงคนนั้นกล่าวยืนยันว่าเป็นความจริงและเป็นเรื่องเข้าใจผิด จากนั้นได้รีบเดินหลบไปโดยไม่แจ้งข้อมูลส่วนตัวให้ทราบ จากการสอบถามพนักงานสอบสวนที่สถานีตำรวจภูธรเมืองระยองทุกนายยืนยันว่าไม่ได้รับแจ้งเหตุเด็กหายจากผู้อื่นอีก นอกจากนี้จากการตรวจสอบศูนย์ข้อมูลเด็กหาย มูลนิธิกระจกเงา (080 – 775 – 2673) ก็ยืนยันว่าไม่ได้รับแจ้งเหตุเด็กหายจากพื้นที่จังหวัดระยองเช่นกัน ในกรณีที่เกิดเป็นข้าวทางสื่ออนไลน์ น่าจะเกิดจากพลเมืองดีผ่านมาเห็นเหตุการณ์แล้วลงข่าวโดยไม่ได้ติดตามให้ตลอด ทำให้ข่าวดังกล่าวสร้างความตื่นตระหนกหวาดกลัวให้กับประชาชนในจังหวัดระยองเป็นอย่างมาก ทางสถานีตำรวจภูธรเมืองระยองจึงขอชี้แจงท้อเท็จจริง ข่าวดังกล่าวเป็นเรื่องเข้าใจผิด

คนร้ายบุกเดี่ยวขี่รถจักรยานยนต์มาจอดทางเข้าบ้าน ใช้อาวุธปืนเอ็ม 16 ยิงถล่มบ้านอดีตตำรวจชุมชน พรุนกว่า 20 นัด สองแม่ลูกนอนอยู่ไม่ได้รับบาดเจ็บแต่อย่างใด แม่ครวญน้อยใจเสียใจ ทำไม่ต้องทำกันถึงขนาดนี้ ตำรวจคาดสาเหตุพัวพันยาเสพติด

เมื่อเวลา 06.30 น.วันที่ 19 มิ.ย. ร.ต.ท.ธงชัย กาสีใส ร้อยเวร สภ.บ้านค่าย จ.ระยองรับแจ้งจากนางเชย เงินบุคคล อายุ 74 ปี อยู่บ้านเลขที่ 66/5 ถนนสายสวนหลาว-ดอนจันทร์ หมู่ 1 ต.หนองละลอก อ.บ้านค่าย และนายสุชาติ สายพิณ อายุ 42 ปี สองแม่ลูก ว่าเมื่อเวลา 04.30 น.วันเดียวกันขณะกำลังนอนหลับอยู่ในห้องนอน มีคนร้ายไม่ทราบจำนวนใช้อาวุธปืนยิงใส่บ้านเสียงดังสนั่นหวั่นไหว หลังเสียงปืนสงบออกมาดูไม่พบคนร้ายแต่อย่างใด หลังรับแจ้งจึงรายงาน พ.ต.อ.อธิก ลาภานุพัฒน์ ผกก.สภ.บ้านค่าย จึงเดินทางมาดูที่เกิดเหตุพร้อมเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.บ้านค่าย

ในที่เกิดเหตุบริเวณริมถนนสายสวนหลาว-ดอนจันทร์ ซึ่งเป็นทางเข้าบ้านที่เกิดเหตุพบปลอกกระสุนปืนขนาด เอ็ม 16 ตกอยู่จำนวน 22 ปลอก และหัวกระสุนปืน 3 หัว เจ้าหน้าที่ได้เก็บไว้เป็นหลักฐาน จากการตรวจสถานที่เกิดเหตุ มีบ่อน้ำอยู่หน้าบ้าน พบรอยกระสุนบริเวณปากบ่อจำนวน 1 รูและที่ไม้ปากบ่อน้ำใช้สำหรับแขวนลอกตักน้ำมีรอยกระสุนจำนวน 2 รู หลังบ่อน้ำเป็นผนังคอนกรีตห้องนอน พบรอยกระสุนรวม 14 รู ถังน้ำพลาสติกถูกกระสุนแตกร้าว ฝาไม้หน้าบ้านถูกยิงทะลุ 1 รู หลังคากระเบื้องในห้องนอนแตกเป็นรูโหว่ เจ้าหน้าที่พบหัวกระสุนตกบริเวณผนังห้องคอนกรีตจำนวน 3 หัว

จากการสอบสวนนางเชย เงินบุคคล เจ้าของบ้านให้การว่าเมื่อเวลา 04.30 น.วันเดียวกันขณะกำลังนอนหลับได้ยินเสียงปืนดังติดต่อกันจำนวนหลายนัด ไม่กล้าออกมาดูจนรุ่งเช้านางสมโภชน์ เงินบุคคล อายุ 65 ปี น้องสาวมีบ้านพักอยู่ฝั่งตรงข้ามได้เดินมาที่บ้านร้องเรียกว่ามีใครถูกยิงหรือเปล่า ตนจึงเปิดบ้านออกมาดูพบว่าบ้านถูกยิงได้รับความเสียหายหลายแห่งกระเบื้องหลังคาแตกเป็นรูพรุนพร้อมกล่าวว่ารู้สึกเสียใจ ทำไมต้องทำกันถึงขนาดนี้

นางสมโภชน์ เงินบุคคล อายุ 65 ปี น้องสาวนางเชย ให้การว่า ก่อนเกิดเหตุหลังกลับจากกรีดยางเดินเข้าไปในบ้านต้มน้ำร้อนใส่บะหมี่สำเร็จรูปกำลังจะกิน ก็ได้ยินเสียงปืนดังสนั่นหวั่นไหวจึงแอบดูเห็นชายฉกรรจ์ไม่สวมหมวกนั่งคร่อมอยู่บนรถจักรยานยนต์มองไม่ชัดว่าสีอะไรและไม่ทราบยี่ห้อ ใช้ปืนยาวกำลังยิงใส่บ้านพี่สาวแล้วก็ขี่รถจักรยานยนต์หนีไป

น.ส.บุญชู ผ่องฉาย อายุ 50 ปี อยู่บ้านเลขที่ 122/1 หมู่ 3 ต.หนองละลอก ลูกสาวนางเชย กล่าวว่า เปิดร้านขายของชำที่บ้านถูกคนร้ายไม่ทราบจำนวนใช้อาวุธปืนยิงใส่บ้านรวม 4 นัด เมื่อประมาณ 2 เดือนที่ผ่านมาแต่ไม่ได้แจ้งความ

ด้านนายสุชาติ สายพิณ อายุ 42 ปี ลูกชายนางเชย กล่าวว่า ในอดีตเมื่อ 10 ปีเศษที่ผ่านมาเคยเป็นตำรวจชุมชน ร่วมกับพวกออกปราบปรามยาเสพติดจนถูกคนร้ายใช้อาวุธปืนขนาด .38 ยิงใส่บ้าน รวม 5 นัดไม่ได้รับบาดเจ็บแต่อย่างใดและเหตุการณ์เมื่อคืนที่ผ่านมาคนร้ายไม่สวมหมวกกันน็อก ขี่รถจักรยานยนต์ไม่ทราบสีและยี่ห้อมาจอดริมถนนห่างจากบ้าน 30 เมตร จุดเดียวกับที่คนร้ายยิงเมื่อ 10 ปีก่อน ขณะกำลังนอนหลับได้ยินเสียงคล้ายปืนกลดังถี่ยิบ แต่ก็ไม่ได้คิดอะไรเพราะแถบนี้มีคนยิงปืนกันเป็นประจำ จึงนอนต่อจนรุ่งเช้าออกมาดูจึงรู้ว่าบ้านถูกยิง ซึ่งไม่เข้าใจว่าคนร้ายต้องการอะไร และยิงถล่มบ้านตนเองทำไม เนื่องจากที่ผ่านมา ตนก็ไม่ได้มีเรื่องขัดแย้งกับใคร

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจฯ ได้เร่งสอบปากคำสองแม่ลูกบ้านเกิดเหตุรวมทั้งน้องสาวที่เห็นเหตุการณ์อย่างเร่งรีบ ส่วนเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนออกสืบสวนหาข่าวเส้นทางคนร้ายที่หลบหนี เพื่อติดตามจับกุมคนร้ายมาดำเนินคดี เบื้องต้นคาดว่าสาเหตุน่าจะมาจากพัวพันเรื่องยาเสพติด หรือแก๊งค้ายาบ้าที่เคยปราบปรามสมัยเป็นตำรวจชุมชนกลับมาแก้แค้น

จังหวัดจันทบุรี เร่งกระจายผลผลิตผลไม้ป้องกันผลไม้ล้นตลาดราคาตกต่ำ

จังหวัดจันทบุรีจัดกิจกรรมปล่อยคาราวานผลไม้ กระจายผลผลิตคุณภาพสู่อาเซียนเพิ่มช่องทางการตลาด ป้องกันแก้ไขปัญหาผลผลิตล้นตลาดราคาตกต่ำ

เมื่อเย็นวันที่ 18 มิถุนายน ที่ลานขนถ่ายสินค้า ศูนย์ปฏิบัติราชการองค์การบริหารส่วนจังหวัดจันทบุรี สำนักงานเกษตรและสหกรณ์จังหวัดจันทบุรีได้จัดกิจกรรม กระจายผลไม้คุณภาพจังหวัดจันทบุรีสู่อาเซียน เพื่อประชาสัมพันธ์ สร้างภาพลักษณ์ระบบการกระจายผลผลิตคุณภาพของจังหวัดจันทบุรีไปสู่ผู้บริโภคปลายทางในต่างประเทศ กัมพูชา เวียดนาม มาเลเซีย พม่า และลาว โดยมีผู้ตรวจราชการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พร้อมด้วยนายกล้าณรงค์ พงษ์เจริญ รองผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรี พลเรือตรีนพพร วุฒิรณฤทธิ์ รองผู้บัญชาการกองบัญชาการป้องกันชายแดนจันทบุรีและตราด เกษตรและสหกรณ์จังหวัด ประธานสภา อบจ.จันทบุรี และรองนายก อบจ.จันทบุรีร่วมสัมผัสลูกบอลเปิดงาน พร้อมทั้งปล่อยขบวนรถคาราวานผลไม้คุณภาพไปจำหน่ายยังตลาดต่างประเทศ กระจายผลผลิต เพิ่มช่องทาง การตลาด ป้องกันแก้ไขปัญหาผลไม้ล้นตลาด ราคาตกต่ำ ช่วยให้เกษตรกรชาวสวนในจังหวัดจันทบุรีมีรายได้เพิ่มขึ้น

สำหรับสถานการณ์ผลไม้ในช่วงนี้ ทั้งเงาะ และมังคุดกำลังออกสู่ตลาดจำนวนมาก อีกทั้งปัญหาแรงงานต่างด้าวชาวกัมพูชาที่ตื่นกับข่าวลือเดินทางกลับบ้านจึงขาดแคลนแรงงานเก็บเกี่ยวผลผลิต รวมทั้งล้งที่รับซื้อผลไม้ก็ขาดแคลนแรงงานเช่นกันส่งผลให้การกระจายผลผลิตของเกษตรกรชาวจันทบุรีเริ่มมีปัญหาแต่ทางจังหวัดได้เตรียมป้องกันแก้ไขไว้แล้ว และพร้อมทันทีที่จะแทรกแซงราคาหากผลผลิตล้นตลาดราคาตกต่ำ



จรัล บรรยงคเสนา/ภาพ/ข่าว ( 19  มิ.ย.57 )
                  ธเนศ  เธียรนันทน์/ตรวจข่าว  

ส.ปชส. จันทบุรี จับมือ ปภ. จัดประชุมชี้แจงเชิงปฏิบัติการซ้อมแผนป้องกันอัคคีภัย

สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดจันทบุรี ร่วมกับสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดจันทบุรี ประชุมชี้แจงเชิงปฏิบัติการประชาสัมพันธ์เพื่อสนับสนุนการแก้ไขปัญหาสาธารณภัยและภาวะวิกฤต ด้านการป้องกันและระงับอัคคีภัย

วันนี้ ( 19 มิ.ย.57 ) ที่บริเวณศาลเจ้าที่ตลาดล่าง ริมน้ำจันทบูรณ์ จังหวัดจันทบุรี สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดจันทบุรีร่วมกับสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดจันทบุรีไดจัดประชุมชี้แจงเชิงปฏิบัติการประชาสัมพันธ์เพื่อสนับสนุนการแก้ไขปัญหาสาธารณภัยและภาวะวิกฤต พร้อมฝึกซ้อมแผนการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยระดับจังหวัด ด้านการป้องกันและระงับอัคคีภัย เพื่อสนองตอบปีแห่งการรณรงค์ด้านการป้องกันและแก้ไขปัญหาอัคคีภัย กรมประชาสัมพันธ์จึงได้มอบหมายให้สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดทุกจังหวัดจัดโครงการประชาสัมพันธ์เพื่อสนับสนุนการแก้ไขปัญหาสาธารณภัยและภาวะวิกฤตขึ้นโดยมีนายสมหมาย วิเชียรฉันท์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรีเป็นประธานเปิดการสัมมนาและเปิดฝึกซ้อมแผนป้องกันสาธารณะภัย

ทั้งนี้ชุมชนริมน้ำจันทบูรณ์ถือเป็นพื้นที่เสี่ยงเนื่องมีบ้านเรือนส่วนใหญ่เป็นบ้านไม้และอยู่ติดกันอย่างหนาแน่นอาจเกิดอัคคีภัยได้ง่ายและยากแก่การควบคุมซึ่งอาจส่งผลต่อความสูญเสียในชีวิตและทรัพย์สิน สาเหตุการเกิดอัคคีภัยส่วนใหญ่มักเกิดจากความประมาทและขาดความระมัดระวัง โดยเฉพาะในที่อยู่อาศัย ซึ่งกลุ่มเป้าหมายในการจัดโครงการครั้งนี้เป็นสื่อมวลชนทุกแขนง จำนวน 30 คน ทั้งนี้เพื่อเป็นการสร้างความเข้าใจถึงบทบาท ภารกิจของสื่อมวลชน ในการเตรียมความพร้อมและซักซ้อมแนวทางการปฏิบัติ ให้สามารถประชาสัมพันธ์และเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารไปสู่ประชาชนได้อย่างถูกต้องตามขั้นตอนวิธีการ เพื่อไม่ให้ประชาชนเกิดการตื่นตระหนก และให้ความร่วมมือกับภาครัฐด้วยดี อันจะช่วยลดภาวะสูญเสียได้ในระดับหนึ่ง โดยการสัมมนาครั้งนี้ได้จัดให้มีการบรรยายเรื่อง "บทบาทของสื่อมวลชน กับการป้องกันแก้ไขปัญหาสาธารณภัยและภาวะวิกฤต” โดย นายธเนศ เธียรนันท์ ประชาสัมพันธ์จังหวัดจันทบุรี และการบรรยายเรื่อง "สิ่งที่ ปภ. ต้องการความร่วมมือจากสื่อมวลชน เมื่อเกิดเหตุสาธารณภัยและภาวะวิกฤต” โดยนายวิสุทธิ์ ประกอบความดี หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดจันทบุรี นอกจากนี้ยังมีการร่วมฝึกซ้อมแผนบนโต๊ะ (Table Top Exercies : TTX.) ด้านการป้องกันและระงับอัคคีภัย ประจำปี 2557 ด้วย



จรัล บรรยงคเสนา/ภาพ/ข่าว ( 19  มิ.ย.57 )
                  ธเนศ  เธียรนันทน์/ตรวจข่าว

พัทยา-ทหาร ตำรวจ กสทช. บุกยึดสถานีวิทยุ 3 แห่ง ออกอากาศละเมิดคำสั่ง คสช. พร้อมยึดเครื่องส่งกระจายเสียงรวม 6 เครื่อง

กสทช.ประสาน ทหาร ตำรวจ บุกยึดสถานีวิทยุ 3 แห่ง ออกอากาศละเมิดคำสั่ง คสช. พร้อมยึดเครื่องส่งกระจายเสียงรวม 6 เครื่อง ในเมืองพัทยา

นายเจษฎา สุขนิยม ผอ.สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ เขต 5 (จันทบุรี) พร้อมด้วย ร.ท.ขุนดง เพ็ชรไธสง ร้อย รส.ที่ 8 ฐานทัพเรือสัตหีบ นำกำลังทหารพร้อมหมายศาลเข้าตรวจสอบสถานีวิทยุรวม 4 แห่งในพื้นที่เมืองพัทยา ที่ละเมิดคำสั่ง คสช. และ กสทช. เพราะยังเปิดดำเนินการวิทยุกระจายเสียงอยู่

โดยจุดแรกเข้าตรวจสอบสถานีวิทยุช้างสยาม คลื่นความถี่เอฟเอ็ม 105.00 MHz. ตั้งอยู่เลขที่ 6/28 ริมถนนสุขุมวิท ตรงข้ามปากซอยพรประภานิมิตร หมู่ 9 ตำบลหนองปรือ อำเภอบางละมุง มีนางฌณิชา สารทอง อายุ 41 ปี นำพาเข้าตรวจค้น จุดที่ 2 ตรวจสอบ บริษัท มังกรธุรกิจ จำกัด เลขที่ 20/15-16 ซอยเดย์ไนท์ พัทยาใต้ หมู่ 10 ตำบลหนองปรือ อำเภอบางละมุง เจ้าของคลื่นความถี่ 96.00 MHz. มีนายธนพงษ์ บยอร์นมาร์เทนโคลอฟ อายุ 23 ปี พาเข้าตรวจค้น และจุดที่ 3 เข้าตรวจสอบบริษัท ทิพย์มณีเคเบิลทีวี เลขที่ 263/92-93 ถนนชัยพฤกษ์ 2 ตำบลหนองปรือ อำเภอบางละมุง คลื่นความถี่ 89.50 MHz. มี Mr.Sergey Petrushev อายุ 44 ปี สัญชาติรัสเซีย เจ้าของสถานี ที่มาเช่าเวลาจากทิพย์มณีเคเบิลทีวี เป็นผู้นำตรวจ โดยทั้ง 3 แห่ง เจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจยึดเครื่องกำเนิดความถี่ และเครื่องขยายกำลังส่งวิทยุ รวม 6 เครื่องไว้เป็นหลักฐาน

นายเจษฎา สุขนิยม เปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้สถานีวิทยุทั้ง 3 แห่ง ได้กระทำการละเมิดคำสั่ง คสช. และ กสทช. ที่ให้สถานีวิทยุทุกแห่งทั่วประเทศงดการกระจายเสียง ตามประกาศฉบับที่ 32 และฉบับที่ 66 เว้นแต่จะได้รับอนุญาต แต่จากการตรวจสอบพบว่าทั้ง 3 แห่ง ยังมีการเปิดกระจายเสียงอยู่ จึงนำกำลังเข้าตรวจยึดเครื่องกำเนิดความถี่และเครื่องขยายกำลังส่งวิทยุ ซึ่งสถานีวิทยุที่สามารถกระจายเสียงได้จะต้องผ่านหลักเกณฑ์การตรวจสอบของ กสทช. โดยจะมีหนังสือเชิญเจ้าของสถานีวิทยุไปทำหนังสือข้อตกลงเงื่อนไขและหลักเกณฑ์ ถึงจะออกอากาศกระจายเสียงตามคลื่นความถี่นั้นๆ ได้ตามปกติ



ปริญญา/ข่าว/ภาพ

ชลบุรี จัดการประชุมขับเคลื่อนนโยบายปรองดองสมานฉันท์เพื่อการปฏิรูปจังหวัด

วันพฤหัสบดีที่ 19 มิถุนายน พ.ศ. 2557 นายคมสัน เอกชัย ผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี ร่วมกับพล.ต.ณัฐ อินทรเจริญ ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 14 พลตำรวจตรี ธเนศ พิณเมืองงาม รองผู้บัญชาการตำรวจภาค 2 รักษาราชการแทนผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดชลบุรี และ  พลตรี รณกร  ดุลยรัตน์ รองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัดชลบุรี ได้จัดการประชุมขับเคลื่อนนโยบายปรองดองสมานฉันท์เพื่อการปฏิรูปจังหวัดชลบุรี ณ ห้องประชุมชลบุรี ชั้น3 ศาลกลางจังหวัดชลบุรี โดยมีหัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุมพร้อมเพียงกัน

นายคมสัน เอกชัย ผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี เปิดเผยว่า ตามที่ได้เกิดสถานการณ์ความไม่สงบเรียบร้อย ในบ้านเมือง มีความขัดแย้งทางความคิดทางการเมืองอย่างรุนแรง ประชาชนเกิดความคิดต่าง แบ่งกลุ่ม แบ่งฝ่ายทำให้เกิดความแตกแยกของคนในชาติ ซึ่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ได้มีนโยบายการแก้ไขปัญหาดังกล่าว โดยให้ส่วนราชการดำเนินการสร้างความปรองดองสมานฉันท์ เพื่อการปฏิรูปขึ้น เพื่อปลูกฝังสำนึกรักสามัคคี และเสริมสร้างความปรองดองสมานฉันท์ นำความสงบสุขสู่สังคมและประเทศชาติได้โดยเร็ว

สำหรับจังหวัดชลบุรี ได้มอบหมายภารกิจหน้าที่ในส่วนที่เกี่ยวข้องของหน่วยงานราชการ ดำเนินการดังนี้ จัดตั้งศูนย์เฉพาะกิจจังหวัดชลบุรี เพื่อสนับสนุนการรักษาความสงบแห่งชาติ การชี้แจงทำความเข้าใจประชาสัมพันธ์ การจัดตั้งศูนย์ปรองดองสมานฉันท์เพื่อการปฏิรูป (ศปป.) จังหวัดชลบุรี การป้องกันและปราบปรามการกระทำที่ไม่เหมาะสมต่อสถานบันสำคัญของชาติ การกวดขันห้ามเล่นการพนัน ส่งมอบอาวุธฯ ตรวจค้นอาวุธสงคราม ติดตาม ตรวจสอบกลุ่มทวงหนี้ชาวนาที่ไม่ชองด้วยกฎหมาย การดูแลรักษาทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม การปราบปรามยาเสพติด การจัดระเบียบรถรับจ้างสาธารณะ (รถจักรยานยนต์ รถตู้ เป็นต้น) การตรวจสอบสถานีวิทยุชุมชนที่ไม่ได้รับอนุญาต การระงับการชุมชนต่อต้าน การจัดระเบียบสังคมสถานบริการ สถานประกอบการ หอพัก ร้านเกมส์ เป็นต้น ติดตามสถานการณ์ หาแนวทางปฏิบัติประจำวันและประชาสัมพันธ์ กรอบแนวทางการสร้างความปรองดองสมานฉันท์จังหวัดชลบุรี (Road Map) และแผนการสร้างความปรองดองสมานฉันท์จังหวัดชลบุรี (Road Map)

นอกจากนี้ จังหวัดชลบุรี ได้มอบหมายให้อำเภอทุกอำเภอ ดำเนินการขับเคลื่อนนโยบายปรองดองสมานฉันท์ เพื่อการปฏิรูป โดยการจัดกิจกรรม “ชลบุรีปรองดองสมานฉันท์ เทิดทูนสถาบันรวมพลังต่อต้านยาเสพติด” ในวันที่ 26 มิถุนายน 2557 นี้



ปริญญา/ข่าว/ภาพ 

วันเสาร์ที่ 14 มิถุนายน พ.ศ. 2557

กองพันทหารช่างที่ 2 รักษาพระองค์ จัดกิจกรรม ”แต่งแต้มกำแพงสวยด้วยสีเล่าภาพพระราชกรณียกิจ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว “ ชิงถ้วยพระราชทาน สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯสยามบรมราชกุมารี

วันนี้ (14 มิ.ย. 57) พลตรี องอาจ ชวาลวิวัฒน์ รองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัดฉะเชิงเทราเป็นประธานเปิดโครงการแต่งแต้มกำแพงสวยด้วยสีเล่าภาพพระราชกรณียกิจ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯสยามบรมราชกุมารี ที่จะทรงเจริญพระชนมายุครบ 60 พรรษา ในปีพุทธศักราช 2558 โดยมี  พ.ท. เกียรติพนธ์ ประทุรัตน์ ผู้บังคับกองพันทหารช่างที่ 2 รักษาพระองค์ ข้าราชการ ทหาร และนักเรียน เข้าร่วมพิธีเปิด ณ บริเวณด้านหน้า กองพันทหารช่างที่ 2 รักษาพระองค์ (ค่ายศรีโสธร) อำเภอเมืองฉะเชิงเทรา

พ.ท. เกียรติพนธ์ ประทุรัตน์ ผู้บังคับกองพันทหารช่างที่ 2 รักษาพระองค์  กล่าวว่า โครงการแต่งแต้มกำแพงสวยด้วยสีเล่าภาพพระราชกรณียกิจ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว นั้น สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯสยามบรมราชกุมารี ได้พระราชทานถ้วยรางวัลในการนี้เพื่อเป็นการแสดงถึงความจงรักภักดีแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวที่ทรงเป็นมิ่งขวัญของพสกนิกรทุกหมู่เหล่า ทรงเยี่ยมราษฎรในถิ่นทุรกันดารและชนบทห่างไกลโดยมิได้เห็นแก่ความเหนื่อยพระวรกาย และด้วยพระราชกรณียกิจอันคุณประโยชน์ต่อประเทศชาติและประชาชนสุดจะคณานับได้ กองพันทหารช่างที่ 2 รักษาพระองค์ จึงได้จัดกิจกรรมการประกวดวาดภาพบนกำแพงค่ายศรีโสธร ภายใต้หัวข้อ "พระราชกรณียกิจ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว” โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อ เป็นการปลุกจิตสำนึกแสดงความจงรักภักดีเทิดทูนพระเกียรติและเผยแพร่พระราชกรณียกิจ และเพื่อพัฒนาความฉลาดทางด้านศิลปะ ให้แก่เด็กและเยาวชนไทย อีกทั้งยังเป็นการปรับภูมิทัศน์กำแพงกองพันทหารช่างรักษาพระองค์ให้มีความสวยงามอีกด้วย

สำหรับการประกวดการวาดภาพบนกำแพง  พระราชกรณียกิจ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในวันนี้มีโรงเรียนส่งเข้าแข่งขันจำนวน 17 โรงเรียน แบ่งเป็น 3ระดับได้แก่ระดับประถมศึกษา ระดับมัธยมศึกษาตอนต้นและระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย โดยผู้ชนะการแข่งขันแต่ระระดับจะได้รับ ถ้วยพระราชทาน สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯสยามบรมราชกุมารี พร้อมทุนการศึกษาจำนวน 3000 บาท



ส.ปชส.ฉะเชิงเทรา  

สำนักงานสหกรณ์จังหวัดฉะเชิงเทราจัดกิจกรรมส่งเสริมการตลาดมันสำปะหลังฉะเชิงเทราปี 2557

วันนี้ (14 มิ.ย. 57) นายปัญญา เอี่ยมอ่อน ผู้อำนวยการศูนย์ศึกษาการพัฒนาเขาหินซ้อนอันเนื่องมาจากพระราชดำริ เป็นประธานเปิดงานส่งเสริมการตลาดมันสำปะหลังฉะเชิงเทราปี 2557  โดยมี นางสาววาสนา เนียมสูงเนิน  นักวิชาการสหกรณ์ชำนาญการพิเศษ กล่าวรายงาน  ผู้แทนสถาบันเกษตรกรในจังหวัดฉะเชิงเทราและประชาชนทั่วไป เข้าร่วมงาน ณ ณ บริเวณโรงสีข้าวพระราชทาน ศูนย์การศึกษาการพัฒนาเขาหินซ้อนอันเนื่องมาจากพระราชดำริ อ.พนมสารคาม จ. ฉะเชิงเทรา

ทั้งนี้เนื่องจากจังหวัดฉะเชิงเทรามีเกษตรกรปลูกมันสำปะหลังจำนวนมากมีปริมาณผลผลิตเป็นอันดับสองของภาคตะวันออกและมักจะพบปัญหา ผลผลิตต่อไรตกต่ำ และราคาผลผลิตตกต่ำ สำนักงานสหกรณ์จังหวัดฉะเชิงเทรา จึงได้จัดจัดกิจกรรมส่งเสริมการตลาดมันสำปะหลังฉะเชิงเทรา เพื่อเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพการถ่ายทอดเทคโนโลยีการผลิต การแปรรูปและการตลาดครบวงจร และเป็นการประชาสัมพันธ์ผลิตภัณฑ์มันสำปะหลังคุณภาพดีผลิตโดยสถาบันเกษตรกรในจังหวัดเชิงเทรา  โดย กิจกรรมภายในงานประกอบด้วย นิทรรศการมันสำปะหลังเชิงคุณภาพ , ทอล์คโชว์ หัวข้อ "เรื่องมันๆ ( มันสำปะหลัง)ของเกษตรกรไทย”,การจัดทำบันทึกข้อตกลงการซื้อ –ขายมันเส้นสะอาดของสถาบันเกษตรกร, โรงสีพระราชทาน ,นิทรรศการวาระแห่งชาติด้านการสหกรณ์ และ กิจกรรมสินค้าลดค่าครองชีพของประชาชน ซึ่งถือเป็นการเปิดโอกาสในสมาชิกสถาบันเกษตรกรในจังหวัดฉะเชิงเทรา  และประชาชนทั่วไป ได้เรียนรู้ขั้นตอนการผลิตมันสำปะหลังเชิงคุณภาพ เพื่อการเพิ่มมูลค่าเพิ่มให้กับผลผลิตของเกษตรกร การแปรรูปขั้นต้น (การผลิตมันเส้นสะอาด )



ส.ปชส.ฉะเชิงเทรา

กปช.จต.ประกอบพิธีบวงสรวงเตรียมจัดสร้างพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์

ผู้บัญชาการทหารเรือเป็นประธานในพิธีบวงสรวงสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ในการเตรียมก่อสร้างพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ ภายในค่ายตากสินจังหวัดจันทบุรีท่ามกลางสายฝนที่ตกลงมาอย่างหนัก

วันนี้ ( 14 มิ.ย.57 ) ที่บริเวณพระบรมราชานุสาวรีย์สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ภายในกองพันทหารราบที่ 2 กรมทหารราบที่ 1 กองพลนาวิกโยธิน ค่ายตากสินจังหวัดจันทบุรี พลเรือเอก ณรงค์  พิพัฒนาศัย ผู้บัญชาการทหารเรือ ได้เดินทางมาเป็นประธานในพิธีบวงสรวงถวายเครื่องราชสักการะแด่สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช เนื่องในโครงการจัดเตรียมก่อสร้างพิพิธภัณฑ์ ประวัติศาสตร์จังหวัดจันทบุรี หรืออาคารเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ค่ายตากสินจังหวัดจันทบุรี โดยพลเรือโท สนธยา น้อยฉายา ผู้บัญชาการกองบัญชาการป้องกันชายแดนจันทบุรีและตราด นายสามารถ ลอยฟ้า ผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรี นำหัวหน้าส่วนราชการ ข้าราชการ พ่อค้า ประชาชน กลุ่มพลังมวลชนร่วมพิธีจำนวนมากท่ามกลางสายฝนที่ตกลงมาอย่างหนัก ทั้งนี้พิพิธภัณฑ์ ประวัติศาสตร์จังหวัดจันทบุรีจะเป็นแหล่งศึกษาเรียนรู้ของนักเรียน นักศึกษา ประชาชน และนักท่องเที่ยวได้เรียนรู้ประวัติความเป็นมาของจังหวัดจันทบุรี เทิดพระเกียรติ และน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของสมเจพระเจ้าตากสินมหาราชและบรรพบุรุษของปวงคนชาวไทย ที่ทรงตรากตรำ รวบรวมไพล่พลที่จังหวัดจันทบุรีก่อนไปกอบกู้อิสรภาพกรุงศรีอยุธยา กำหนดพื้นที่ก่อสร้างบริเวณสนามเทนนิสภายในค่ายตากสินจังหวัดจันทบุรีงบประมาณการก่อสร้าง 20 ล้านบาทกำหนดแล้วเสร็จประมาณปลายปี 2558 

ในโอกาสเดียวกันนี้ภายหลังจากเสร็จสิ้นพิธีบวงสรวงแล้ว กองบัญชาการป้องกันชายแดนจันทบุรีและตราด ร่วมกับกองรักษาความมั่นคงภายในภาค 1 ส่วนแยก 3 ได้จัดกิจกรรมสร้างความปรองดองสมานฉันท์ คืนความสุขให้แก่ชาวจันทบุรี มีข้าราชการ ทหาร ตำรวจ ผู้นำท้องถิ่น กำนัน – ผู้ใหญ่บ้าน ผู้แทนสมาคม มูลนิธิ องค์กรภาคเอกชน กลุ่มพลังมวลชน ประชาชนร่วมกิจกรรมจำนวนมาก



จรัล บรรยงคเสนา/ภาพ/ข่าว ( 14 มิ.ย.57 )
                        ธเนศ เธียรนันทน์/ตรวจข่าว 

วันพฤหัสบดีที่ 12 มิถุนายน พ.ศ. 2557

สำนักอนุรักษ์สัตว์ป่า กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช จัดโครงการสำรวจทางซีรั่มวิทยาการติดเชื้อไวรัสนิปาห์ และอีโบลา รวมทั้งตรวจหาเชื้อไวรัสไคโรน่า ในค้างคาวแม่ไก่

วันพฤหัสบดีที่ 12 มิถุนายน 2557 นายธีรภัทร  ประยูรสิทธิ  รองอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธ์พืช พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่จากกลุ่มงานวิจัยสัตว์ป่า สถานีวิจัยสัตว์ป่าฉะเชิงเทรา สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 2 (ศรีราชา) สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 12 (นครสรรค์) สัตวแพทย์กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธ์พืช คณะวนศาสตร์ และศูนย์เฝ้าระวังโรคจากสัตว์ป่า สัตว์ต่างถิ่นและสัตว์อพยพ คณะสัตวแพทย์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล ลงพื้นที่ ณ วัดหลวงพรหมาวาส จังหวัดชลบุรี เพื่อดำเนินโครงการสำรวจทางซีรั่มวิทยาการติดเชื้อไวรัสนิปาห์  และอีโบลา รวมทั้งตรวจหาเชื้อไวรัสไคโรน่า ในค้างคาวแม่ไก่ เพื่อเฝ้าระวังโรคติดต่ออุบัติใหม่จากสัตว์สู่คน สร้างความปลอดภัยให้กับประชาชนที่อาศัยอยู่ใกล้พื้นที่

การดำเนินการในครั้งนี้ จะทำการเก็บตัวอย่างเลือด นน้ำลาย ปัสสาวะและมูล เพื่อนำไปตรวจหาเชื้อไวรัส  ซึ่งอาจเป็นสาเหตุของโรคติดต่ออุบัติใหม่ โดยเจ้าหน้าที่จากสถานีวิจัยสัตว์ป่าฉะเชิงเทรา ทำการจับค้างคาว โดยใช้ตาข่ายดัก   แล้วนำไปตรวจประเมินสุขภาพเบื้องต้น วัดขนาด ชั่งน้ำหนัก บันทึก เพศ คะแนนสภาพร่างกายและจำแนกชนิดพันธ์ แล้วดำเนินการเก็บตัวอย่าง ปล่อยสัตว์ไปเป็นอิสระ จากนั้นนำตัวอย่างส่งตรวจทางห้องปฏิบัติการของหน่วยงานในความร่วมมือ ได้แก่ ห้องปฏิบัติการโรคทางสมอง ศูนย์ความร่วมมือองค์การอานามัยโลกด้านค้นคว้าและอบรมโรคไวรัสสู่คน คณะแพทย์ศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เพื่อตรวจภูมิคุ้มกันต่อการติดเชื้อไวรัสนิปาห์(Nipah virus)  และอีโบลา (Ebola virus) ในค้างคาวแม่ไก่ และเพื่อตรวจรหัสพันธุกรรมและจำแนกชนิดของไวรัสโคโรน่าด้วยวิธีปฏิกิริยาลูกโซ่(PCR) ในค้างคาวแม่ไก่

การสำรวจโรคทางซีรั่มวิทยาในค้างคาว นับเป็นกระบวนการเฝ้าระวังโรคอุบัติใหม่อุบัติซ้ำที่นำโดยค้างคาววิธีหนึ่ง ซึ่งอาจมรความสอดคล้องกับการติดเชื้อในสัตว์ชนิดอื่นและในคน การมีแผนป้องกันและควบคุมโรคติดต่ออุบัติใหม่ซ้ำของประเทศให้พร้อมรับและตอบสนองเหตุการณ์ระบาดที่อาจเกิดขึ้นได้อย่างทันท่วงทีและมีประสิทธิภาพจึงเป็นเรื่องที่มีความสำคัญอย่างยิ่ง โดยการเตรียมความพร้อมด้านขีอมูลพื้นฐานเพื่อจัดการกับโรคอุบัติใหม่ นับเป็นกุญแจสำคัญในการเสริมสร้างความเข้มแข็งในการเฝ้าระวัง จักการความเสี่ยงและปกป้องความสูญเสียที่อาจเกิดขึ้นได้อีกด้วย



คมศักดิ์  หล่อเถิน ข่าว/ภาพ

ตำรวจภูธรจังหวัดชลบุรี จัดการประชุมเจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบงานจราจรของแต่ทุกสถานีในพื้นที่จังหวัดชลบุรี

วันพฤหัสบดีที่ 12 มิถุนายน 2557 พ.ต.อ.พิสิฏฐ์ โปรยรุ่งโรจน์ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดชลบุรี เป็นประธานการประชุมเจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบงานจราจรของแต่ทุกสถานีในพื้นที่จังหวัดชลบุรี โดยมีคณะทำงานสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดชลบุรี เจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบงานจราจรของแต่ทุกสถานีในพื้นที่จังหวัดชลบุรี และตัวแทน บริษัท กลางคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ จำกัด (สาขาชลบุรี)เข้าร่วมการประชุม ณ ห้องประชุม ศปก. ตำรวจภูธร จังหวัดชลบุรี

ตำรวจภูธรจังหวัดชลบุรี จัดการประชุมเจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบงานจราจรของแต่ทุกสถานีในพื้นที่จังหวัดชลบุรี โดยร่วมกันพิจารณาจุดเสี่ยง จุดอันตราย รวบรวมพฤติกรรมเสี่ยง สาเหตุ ประเภท ฐานความผิดต่าง ๆ โดยการนำข้อมูลมาวิเคราะห์ถึงสาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุ ติดตาม การเกิดอุบัติเหตุทางถนนในช่วงเดือน  เมษายน  – พฤษภาคม 2557 รวมทั้งการแก้ไขปัญหาจราจรในแต่ละพื้นที่ นำไปสู่การแก้ไขปัญหาอุบัติเหตุทางถนนที่ยั่งยืนต่อไป


คมศักดิ์  หล่อเถิน /ข่าว/ภาพ

อำเภอศรีราชา จัดพิธีสมานฉันท์เชิญ ทุกกลุ่มทุกสี มาร้อยใจเป็นหนึ่งเดียวเพื่อชาติ

นายวิชัย  สัมพันธ์รัตน์ นายอำเภอศรีราชา เป็นประธานการประชุม ตามแผนการสร้างความปองดองสมานฉันท์ จังหวัดชลบุรี (Road Map) โดยเชิญ เจ้าหน้าที่ฝ่ายทหาร ตำรวจ ฝ่ายปกครองท้องถิ่น พร้อมด้วย กลุ่มบุคคลจากสีต่างๆในอำเภอศรีราชา เพื่อลดความขัดแย้งและสร้างความเข้าใจอันดีต่อกัน

นายวิชัย  สัมพันธ์รัตน์ นายอำเภอศรีราชา เปิดเผยว่า สืบเนื่องจากสถานการณ์บ้านเมืองในปัจจุบันมีความแตกแยกทางความคิดทางการเมืองของประชาชน เป็นผลให้ประชาชนทั่วไป ไม่มีความสุข และไม่ปลอดภัย รัฐบาลรักษาการไม่สามารถบังคับใช้กำหมายปกติได้ และไม่สามารถบริหารราชการแผ่นดินด้วยอำนาจทีมีอยู่อย่างเพียงพอ ซึ่งหากปล่อยทิ้งไว้ปัญหายืดเยื้อยาวนาน ย่อมส่งผลกระทบกับระบบเศรษฐกิจของประชาชนคนไทยโดยรวมและประเทศไทย คณะรักษาความสงบเรียบร้อยแห่งชาติ(คสช) จึงได้เข้ามาควบคุมการบริหารประเทศ เพื่อให้เกิดความเรียบร้อย ประเทศสามารถเดินหน้าต่อไป

ดังนั้น นายคมสัน เอกชัย ผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี ได้มอบหมายให้นายอำเภอทุกอำเภอ พร้อมด้วยองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่ ร่วมกับ เจ้าหน้าที่ ทหาร ตำรวจ และกลุ่มบุคคลจากสีต่างในพื้นที่ ให้ดำเนินการสร้างความปรองดองสมานฉันท์เป็นไปตามที่กำหนด และสามารถก้าวต่อไปตามเจตนารมณ์ของคณะรักษาความสงบเรียบร้อยแห่งชาติ  จังหวัดชลบุรี จึงได้กำหนดแนวทางการสร้างความปรองดองสมานฉันท์ จังหวัดชลบุรี (Road Map) ขึ้นเพื่อเป็นแนวทางขับเคลื่อนภาระกิจในการคืนความสุขให้กับประชาชนโดยเร็ว โดยตั้งเป้าหมายว่าจะสามารถดำเนินการได้ภายใน วันที่ 31กรกฎาคม 2557

โดยเร่งทำความเข้าใจกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องถึงแนวทางการดำเนินงานของศูนย์ปองดองสมานฉันท์ เพื่อเสริมสร้างความปรองดองสมานฉันท์ของคนในชาติ ฟื้นฟูประชาธิปไตย เทิดทูนและพิทักษ์รักษาไว้ซึ้งสถาบันพระมหากษัตริย์ พร้อมทั้งพิจารณาจัดทำแผนปฏิบัติการ แผนงานโครงการกิจกรรมต่างๆ เพื่อเสริมสร้างความรัก ความสามัคคี ปรองดอง ลดความขัดแย้งในสังคม สลายสีเสื้อให้กลับมาร่วมมือกัน โดยยึดถือสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และความสงบสุขปลอดภัยของประชาชนเป็นสำคัญ  โดยหลังจากนี้จะมีการดำเนินการในลักษณะเช่นนี้อีก โดยอาจจะมีการลงไปในพื้นที่ย่อยๆ ในระดับ ตำบล หมู่บ้าน เพื่อสลายเสื้อ ให้กลายเป็นหนึ่งเดี่ยวกันโดยให้ทุดคนเห็นแก่ชาติ บ้านเมืองเป็นสำคัญ

พ.ท.อภิชาติ วรรณกานต์  ผู้แทนจาก  มณฑลทหารบกที่ 14 เผยว่า การจัดการกิจกรรมปรองดองในครั้งนี้ ถือว่า อำเภอศรีราชาเป็นแห่งแรกของจังหวัดชลบุรี ที่ได้มีการดำเนินการดังกล่าวโดยได้เชิญแกนนำ  ทุกกลุ่ม ทุกสี คู่ขัดแย้งที่ชัดเจน ได้มาหารือกัน เพื่อยุติการเคลื่อนไหว โดยขอให้ทุกฝ่ายเห็นแก่ประโยชน์ของชาติเป็นสำคัญ  ซึ่งจากพูดคุยในวันนี้ บรรยากาศ ก็เป็นไปได้ด้วยดี คู่ขัดแย้งชัดเจนได้มีการแสดงเจตนารมณ์ของตนเองให้อีกฝ่ายเข้าใจ พร้อมทั้งได้มีการอธิบายถึงความไม่เข้าใจของกันและกันออกมาซึ่งบางเรื่องก็เป็นการเข้าใจผิดกันในระดับล่าง ซึ่งนำไปสู่การเคลื่อนไหวที่ยืดเยื้อแต่ทั้งสองฝ่ายก็เห็นด้วยกับทาง คณะรักษาความสงบเรียบร้อยแห่งชาติ เจ้าหน้าที่ทหารออกมาห้ามทัพ เพื่อกวาดล้างทำความสะอาด บ้านเมือง ที่มีอยู่ในปัจจุบันให้เรียบร้อยเสียก่อนที่จะมีการเลือกตั้ง ต่อไปในอนาคต



ปริญญา/ข่าว/ภาพ

นักเรียน อัสสัมชัญศรีราชา โชว์ผลงานการคว้ารางวัลรายการต่างๆ

นักกีฬา โรงเรียนอัสสัมชัญศรีราชาพาเหรดโชว์ผลงานการคว้ารางวัลชนะเลิศในรายการต่าง ๆ ที่เข้าร่วมการแข่งขัน

ที่โรงเรียนอัสสัมชัญศรีราชา นายนิวัตร พูลสวัสดิ์ หัวหน้าผ่ายงานกีฬาและนันทนาการ โรงเรียนอัสสัมชัญศรีราชา นำคณะนักกีฬาของโรงเรียน ที่เข้าร่วมการแข่งขันรายการต่าง ๆ ตั้งแต่ต้นปี 2557 มาจนถึงปัจจุบัน เข้ารายงานความสามารถของนักกีฬาที่สามารถคว้ารางวัลชนะเลิศในประเภทต่าง ๆ มาได้หลายรายการ ในประเภทฟุตบอล ว่ายน้ำ และกอล์ฟในประเภทฟุตบอลรุ่น อายุ 13 ปี คว้ารางวัลชนะเลิศฟุตบอลช้างเอฟเวอร์ตัน ระดับภาค ในรุ่น 15 ปีคว้ารางวัล ชนะเลิศฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทานเจ้าฟ้าหญิงจุฬาภรณ์มาได้ส่วนในประเภทว่ายน้ำ เด็กชายทัธชรัณย์ ประพัฒน์โพธิ์ คว้ารางวัลชนะเลิศบุคคลชาย รุ่นอายุ 10 ปี ในการแข่งขันว่ายน้ำกาวิละสปริ้นเตอร์ 2014 ที่จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งสามารถกวาดเหรียญรางวัลมาได้ 5 เหรียญทอง 3 และ 3 เหรียญเงินส่วนในประเภทการแข่งขันกอล์ฟ สองพี่น้องบรรณบดี คือเด็กชายพีชญ์ บรรณบดี และเด็กหญิงกัญจน์ บรรณบดี ที่สามารถคว้ารางวัลมามากมาย โดยเฉพาะน้องกัญจน์ บรรณบดี ที่สามารถคว้ารางวัลชนะเลิศในรายการพีทีที ไฮฟอร์ช จูเนียร์ กอล์ฟ 2014 ชนะเลิศรายการ ทีจีเอ สิงห์ จูเนียร์ กอล์ฟ เรงกิ้ง ทัวนาเม้นต์ 2014-2015 ชนะเลิศรายการ ทรู วิชั่น จูเนียร์ กอล์ฟ เรงกิ้ง 2014 ชนะเลิศ รายการจูเนียร์ เกิร์ล เอจีอี ดิวิชั่น 10-12 ปี และได้เป็นตัวแทนประเทศไทยไปแข่งขันกอล์ฟที่ประเทศสหรัฐอเมริกาอีกด้วย



ปริญญา/ข่าว/ภาพ

เหล่านักรบทางเรือ บริจาคโลหิตช่วย ทหารราบชายแดนใต้

พลเรือตรี สุชา เคี่ยมทองคำ ผู้บัญชาการ กองการฝึก กองเรือยุทธการ ได้นำกำลังพลกว่า 120 นาย เข้าร่วมกิจกรรมบำเพ็ญประโยชน์ บริจาคโลหิตถวายเป็นพระราชกุศล เนื่องวันคล้ายวันสถาปนากองการฝึก กองเรือยุทธการ ครบรอบปีที่ 72 ณ ห้องรับบริจาคโลหิต โรงพยาบาลสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ กรมแพทย์ทหารเรือ อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี

ตามที่ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ องค์สภานายิกาสภากาชาดไทย ทรงมีพระราชดำรัสถึงผู้บริจาคโลหิตว่า “โลหิตเป็นปัจจัยหล่อเลี้ยงรักษาชีวิตให้ดำรงอยู่ นับได้ว่าเป็นส่วนหนึ่งของชีวิต การบริจาคโลหิตจึงเทียบได้กับการบริจาคชีวิตเป็นทานสูงสุด ควรยกย่องสรรเสริญอย่างยิ่ง การที่ประชาชนชาวไทยมีศรัทธาบำเพ็ญประโยชน์อย่างเดียวกันนี้ แสดงว่าทุกคนมีจิตใจเป็นกุศลถือว่าตนเป็นเพื่อเกิด แก่ เจ็บ ตาย ด้วยกันมีหน้าที่ ที่จะอนุเคราะห์กันและกัน”

พลเรือตรี สุชา เคี่ยมทองคำ กล่าวว่า เนื่องด้วยวันที่ 20 มิถุนายน ของทุกปี เป็นวันคล้ายวันสถาปนากองการฝึก กองเรือยุทธการ จึงได้นำกำลังพลเข้าร่วมกันบริจาคโลหิต เพื่อแสดงมุทิตาจิต ประกอบกิจกรรมอันเป็นสาธารณะกุศล เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินาถ ซึ่งจะนำไปเก็บสะสม หรือนำไปเสริมให้กับโรงพยาบาลต่าง ๆ เพื่อช่วยเหลือชีวิตทหารนาวิกโยธิน ที่ดีรับบาดเจ็บจาก 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ตลอดจนประชาชนที่ได้รับบาดเจ็บ อีกทั้ง เพื่อเป็นการปลูกฝังจิตสำนึกให้ข้าราชการได้รู้จักเป็นผู้เสียสละ ช่วยเหลือชีวิตเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน ให้รอดจากการเสียชีวิตโดยไม่มีการแบ่งแยกว่าโลหิตทุกหยดนั้นจะนำไปช่วยใคร




ปริญญา/ข่าว/ภาพ

ผู้ตรวจฯ สำนักนายกรัฐมนตรี ลงพื้นที่ จ.ตราด ติดตามการพัฒนายกระดับผลิตภัณฑ์ OTOP การพัฒนาศักยภาพและการตลาดสินค้าเกษตร และโครงการปิดทองหลังพระสืบสานแนวพระราชดำริ

(12 มิ.ย. 57) นายอำนวย โชติสกุล ผู้ตรวจราชการสำนักนายกรัฐมนตรี ประจำเขตตรวจราชการที่ 9 พร้อมด้วยคณะกรรมการธรรมาภิบาลจังหวัดตราด ติดตามการดำเนินงานตามนโยบายพัฒนาพื้นที่ของจังหวัดตราด มีนายณรงค์ ธีรจันทรางกูร รองผู้ว่าราชการจังหวัดตราด ตลอดจนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมให้ข้อมูลการดำเนินงาน ที่ห้องประชุมพลอยแดง ศาลากลางจังหวัดตราด

ผู้ตรวจราชการสำนักนายกรัฐมนตรี ประจำเขตตรวจราชการที่ 9 กล่าวว่า การติดตามการดำเนินงานของจังหวัดตราดในครั้งนี้มุ่งเน้นติดตามการดำเนินงานในเรื่องของการพัฒนายกระดับผลิตภัณฑ์ OTOP และการพัฒนาศักยภาพการผลิตและการตลาดสินค้าเกษตร ซึ่งในภาพรวมทางจังหวัดสามารถดำเนินการได้เป็นที่น่าพอใจ โดยเฉพาะในปีนี้ผลผลิตผลไม้ 4 ชนิดที่กำลังออกสู่ตลาด ในภาพรวมยังไม่พบปัญหาราคาผลผลิตตกต่ำ ประกอบกับมีการทำตลาดในต่างประเทศได้เป็นอย่างดี ทั้งกัมพูชา เวียดนาม และจีน รวมทั้งมีการแปรรูปเพื่อเพิ่มมูลค่า จึงคาดว่าสถานการณ์ด้านราคาผลไม้คงไม่พบปัญหาตกต่ำ อย่างไรก็ตามยังได้มีการติดตามการดำเนินกิจกรรมสนับสนุนโครงการปิดทองหลังพระสืบสานแนวพระราชดำริ ของบ้านท่าตะเภา ตำบลหนองเสม็ด ที่ได้ส่งเสริมให้ประชาชนน้อมนำปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมาปรับใช้ในการดำเนินชีวิต โดยเฉพาะโรงเรียนวัดสุวรรณมงคล ซึ่งอยู่ในเขตพื้นที่ของโครงการที่ได้มีการจัดตั้งศูนย์การเรียนรู้ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง รวมทั้งมีการจัดสร้างฟาร์มต้นแบบเลี้ยงไก่ไข่ ให้กับเยาวชน และประชาชนในพื้นที่อีกด้วย

สภ.เมืองตราด ย้ำเตือน ประชาชนหากมีการเล่นพนันบอลจะดำเนินการอย่างเฉียบขาด

(12 มิ.ย. 57) พ.ต.อ.บุญส่ง ปีกขุนทด ผู้กำกับการ สภ.เมืองตราด กล่าวว่า ในช่วงการแข่งขันฟุตบอลโลก มักจะมีการลักลอบเล่นพนันบอลเกิดขึ้น ซึ่งเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย ทั้งนี้ทาง สภ.เมืองตราด ได้ดำเนินการเข้มในการป้องกันปัญหาการพนันฟุตบอล หากมีการสืบพบ มีการตั้งโต๊ะบอลหรือรับแทงพนันบอลก็จะดำเนินการตามกฎหมายทันที อย่างไรก็ตามในส่วนร้านอาหารที่มีจอขนาดใหญ่ถ่ายทอดการแข่งขันซึ่งจะมีผู้คนไปรวมตัวดูฟุตบอลกันเป็นจำนวนมาก หากมีการเล่นพนันบอลก็จะถูกดำเนินคดีเช่นกันรวมถึงร้านค้าที่ให้การสนับสนุนจะมีความผิดด้วย ทั้งนี้ในส่วนของการป้องกันปัญหานี้ในกลุ่มเยาวชน ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงขอฝากไปยัง ผู้ปกครองให้ช่วยกันดูแลอย่าให้นักเรียน นักศึกษายุ่งเกี่ยวกับการพนัน เพราะมีตัวอย่างของเด็กหลายคนที่ต้องหมดอนาคต เพราะการเล่นพนันบอล ทั้งนี้ทาง สภ. เมืองตราดจะดำเนินการอย่างเด็ดขาด หากมีข้อมูลของการเล่นพนันบอล รวมทั้งเครือข่ายที่รับแทงบอลด้วย

ผู้กำกับการ สภ.เมืองตราด ยังกล่าวอีกว่า ในส่วนของผลกระทบจากการเล่นพนันบอลที่จะก่อให้เกิดคดีต่าง ๆ อาทิ คดีลักทรัพย์ กรรโชกทรัพย์ ทาง สภ.เมืองตราดมีมาตรการควบคุม โดยเพิ่มความถี่ของชุดสายตรวจในการปฏิบัติงานตามธนาคาร ร้านทอง ร้านรับซื้อของเก่า ชุมชน และโรงรับจำนำ โดยจะคอยตรวจตราตามสถานที่เหล่านี้ หากมีข้อมูลความความเคลื่อนไหวที่ผิดปกติ ก็จะดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ได้ทันท่วงที

จ.ตราด เดินหน้าใช้กิจกรรมเข้าวัดวันธรรมสวนะ ตามโครงการส่งเสริมการมีส่วนร่วมในกิจกรรมด้านพระพุทธศาสนา เสริมสร้างความรักสามัคคี

(12 มิ.ย. 57) นางสาวเบญจวรรณ อ่านเปรื่อง ผู้ว่าราชการจังหวัดตราดนำข้าราชการประชาชนเข้าร่วมทำบุญ ฟังเทศน์ในวันธรรมสวนะ หรือวันพระ ตามโครงการส่งเสริมการมีส่วนร่วมในกิจกรรรมด้านพระพุทธศาสนาจังหวัดตราดที่ศาลาการเปรียญวัดหนองคันทรง ตำบลหนองคันทรง อำเภอเมืองตราด ซึ่งจังหวัดตราดโดยสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดร่วมกับวัดในจังหวัดตราด และหน่วยงานภาครัฐในจังหวัดร่วมกันจัดโครงการนี้ขึ้น

ผู้ว่าราชการจังหวัดตราด กล่าวว่า การจัดทำโครงการนี้มุ่งที่จะส่งเสริมคุณธรรม จริยธรรม ให้กับข้าราชการทั้งยังเป็นการส่งเสริมให้ข้าราชการและประชาชนมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน โดยเฉพาะช่องว่างระหว่างหน่วยงานภาครัฐกับประชาชนในพื้นที่ต่าง ๆ เป็นการส่งเสริมประเพณีทางพระพุทธศาสนาอันดีงามของชาติไทยและถวายเป็นพุทธบูชา นอกจากนี้ยังมุ่งให้กิจกรรมนี้ช่วงสร้างความรักสามัคคีให้เกิดขึ้นกับสังคมเมืองตราด อย่างไรก็ตามการจัดกิจกรรมนี้ทางจังหวัดเชิญชวนหน่วยงานในระดับจังหวัดร่วมกับหน่วยงานในระดับอำเภอ และประชาชนในแต่ละพื้นที่ ร่วมทำบุญ ตักบาตรสมาทานศีล 5 และฟังธรรมเทศนาในทุกวันธรรมสวนะหรือวันพระซึ่งเป็นการส่งเสริมการทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา

อบจ.ตราด ร่วม สโมสรฟุตบอล ตราดเอฟซี นำนักเตะ ร่วมงานคินความสุขให้ประชาชนจังหวัดตราด พร้อมประเดิมเปิดห้องชมภาพยนต์ TRAT TK PARK ถ่ายทอดการแข่งขันฟุตบอลโลกนัดเปิดสนามคืนนี้

(12 มิ.ย. 57) นายวิเชียร ทรัพย์เจริญ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดตราด เปิดเผยว่า ตามที่จังหวัดตราด โดยศูนยืปรองดองสมานฉันท์เพื่อการปฏิรูปจังหวัดตราดได้กำหนดจัดงานคืนคความสุขให้กับประชาชนจังหวัดตราด ขึ้นในวันพรุ่งนี้( 13 มิ.ย. 57) ณ บริเวณศูนย์ฝึกกีฬาในร่มจังหวัดตราด ตรงข้ามองค์การบริหารส่วนตำบลวังกระแจะ ซึ่งเป็นการดำเนินการตามนโยบายคืนความสุขให้กับประชาชนของ คสช. ที่ใช้สื่อกิจกรรมต่าง ๆ มาสร้างความปรองดองสมานฉันท์ให้กับประชาชน ซึ่งการจัดงานดังกล่าวทางองค์การบริหารส่วนจังหวัดตราด ยังได้ร่วมกับสโมสรฟุตบอล ตราด เอฟซี จะได้นำนักฟุตบอลเข้าร่วมกิจกรรมในงานดังกล่าวด้วย โดยจะได้แสดงพลังร่วมร้องเพลงเชียร์ กับ เหล่ากองเชียร์ ตราด เอฟซี รวมทั้งร่วมกิจกรรมอื่นๆ ของการจัดงาน ภายใต้คอมเซปต์ "วันวานให้ผ่านไป วันใหม่ให้รักกัน” อย่างไรก็ตามในค่ำคืนนี้ซึ่งจะมีการการเปิดการแข่งขันฟุตบอลโลก 2014 ที่ประเทศบราซิล ทางองค์การบริหารส่วนจังหวัดตราด ร่วมกับสมาคมกีฬาจังหวัดตราด และสโมสร ตราด เอฟซี ได้สนองนโยบาย คืนความสุข คืนสู่ประชาชน ด้วยการจัดกิจกรรมรับชม พิธีเปิด และ ถ่ายทอดสดการแข่งขันฟุตบอลโลก ระหว่าง เจ้าภาพ ทีมชาติบราซิล ปะทะ ทีมชาติ โครเอเชีย ณ ห้องฉายภาพยนตร์ อุทยานการเรียนรู้ตราด (TRAT TK PARK) ตั้งแต่เวลา 02.30 น.เป็นต้นไป จึงขอเชิญชวนผู้สนใจเข้าร่วมกิจกรรมดังกล่าว โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย

รักษาราชการแทน ผบ.ตร.บินด่วนมาแถลงข่าวกวาดล้างจับกุมพนันบอลและตู้ม้าเกือบ 300 ตู้

เมื่อเวลา 19.00น.วันที่ 11 มิถุนายน ที่หน้ากองบังคับการตำรวจภูธร จ.ระยอง นายธานี สามารถกิจ ผวจ.ระยอง พล.ต.อ.วัชรพล ประสานราชกิจ รักษาราชการแทน ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(ผบ.ตร.) พล.ต.อ.เอก อังสนานนท์ รอง ผบ.ตร. พล.ต.ต.ศานิตย์ มหถาวร รักษาราชการแทน ผู้บัญชาการตำรวจภูธร ภาค 2 พล.ต.ต.สุรพล วิรัตน์โยสินทร์ รอง ผบช.ภ. 2 พล.ต.ต.รุ่งฤทธิ์ ซุ่นทรัพย์ รักษาราชการแทน ผบก.ภ.จว.ระยองพร้อมด้วยผกก.สภ.ทุกแห่งในสังกัด ภ.จว.ระยอง และ น.ท.พิทักษ์รัฐ นิลพฤกษ์ ผบ.พันร.6 ร่วมแถลงข่าวผลการจับกุมการเล่นพนันทายผลฟุตบอลโดยการนำของพ.ต.อ.ฐานวัฒน์ ธีรโชติเรืองชัย ผกก.สภ.เมืองระยองพร้อมด้วย รองผกก.และสวป.จับกุมผู้ต้องหา 4 คน 1.นายวัชระ เขียวสด อายุ 33 ปี (เจ้ามือ) 2.น.ส.เบญจวรรณ ทรัพย์ทวีพงศ์ อายุ 31 ปี 3.นายกฤติธิ กล่อมแก้ว อายุ 45 ปี และ 4.นายสุริยันณ์ เอนกพงษ์ อายุ 40 ปี พร้อมของกลางสมุดจดโพยแทงบอลจำนวน 25 เล่ม เครื่องคิดเลข 3 เครื่อง โพยบอล 85 แผ่น มือถือ 1 เครื่อง เงินสด 10,420 บาทพร้อมอุปกรณ์

พล.ต.อ.วัชรพล ประสานราชกิจ รักษาราชการแทน ผบ.ตร. กล่าวว่าได้กำชับให้ สภ.ทุกห่งเร่งรัดจับกุมการพนันบอลและในวันนี้เป็นการเปิดศักราช สามารถจับกุมตู้เครื่องจักรกลไฟฟ้ารวมทั้งสิ้น 288 ตู้ สภ.นิคมพัฒนา 130 ตู้ สภ.บ้านฉาง 124 ตู้ และในพื้นที่สภ.ต่างอีกจำนวนหนึ่ง หลังเสร็จสิ้นการแถลงข่าวจะเดินทางไปดูที่สภ.นิคมพัฒนาและสภ.บ้านฉาง ที่สามารถตรวจยึดตู้เครื่องจักรกลไฟฟ้าได้เป็นจำนวนมาก ตู้เครื่องจักกลไฟฟ้าหรือตู้ม้า เป็นการมอมเมาเยาวชน ทำลายทรัพยากรของชาติ สถานการณ์ที่รุนแรงเหมือนยาเสพติดนโยบายของสำนักงานตำรวจแห่งชาติต้องกวาดล้างจับกุมอย่างเด็ดขาด โดยเฉพาะอย่างยิ่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.)ได้เน้นย้ำปราบปรามเรื่องยาเสพติด อบายมุข และในวันพรุ่งนี้จะมีฟุตบอลโลก จึงกำชับเพื่อนข้าราชการตำรวจต้องให้ความร่วมมือฝ่ายปกครอง และทหาร เพื่อให้ประชาชนได้มีความมั่นใจว่าการบังคับใช้กฏหมายด้วยความเป็นธรรมจะไม่มีการเลือกปฏิบัติ เพื่อให้สถานการณ์บ้านเมืองมีความสงบ มีความสามัคคี วันนี้ได้รับรายงานผลการจับกุมได้ของกลางจำนวนมากจึงต้องเดินทางมาให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายที่ร่วมกันทำงานสร้างผลงาน อยากให้พี่น้องประชาชนมีความมั่นใจว่าต่อไปนี้บ้านเมืองจะก้าวไปด้วยระบบคุณธรรม ความถูกต้องตามกฏหมาย


วฐิต  /ข่าว

เอ็มเอสเอส เน็ตเวิร์ค ฉะเชิงเทรา เปิดตัวระบบ Digital ระดับ HD

วันนี้ (12 มิ.ย.57 )  ที่โรงแรมวีเวิร์บ เซอร์วิสอพาร์ทเม้นท์ แอนด์ โฮเต็ล  อำเภอเมืองฉะเชิงเทรา  นายณัฏฐชัย  อักษรดิษฐ  นายกสมาคมเคเบิ้ลทีวีแห่งประเทศไทยในฐานะประธานกรรมการ บริษัท เอ็มเอสเอส เคเบิ้ล เน็ตเวิร์ค จำกัด เป็นประธานในการแถลงข่าวเปิดตัวระบบ "Digital HD MSS CABLE NETWORK ประหยัด คุ้มค่า คมชัด ระบบ HD " เพื่อความมีระดับของคนฉะเชิงเทรา เปิดเผยว่า ปัจจุบันระบบโทรทัศน์บ้านเราเป็นระบบ Analog มาโดยตลอดซึ่งระบบ Analog เป็นระบบทีวีที่แพร่สัญญาณโดยการนำเอาสัญญาณภาพมาผสมกับสัญญาณวิทยุแพร่ภาพเป็นแบบ AM และผสมสัญญาณเสียงเข้ากับคลื่นและแพร่สัญญาณเป็นแบบFM ซึ่งใช้ชิ่งความถี่ตามมาตรฐานในย่านVHF และ UHF ที่ต้องใช้ช่องความถี่กว้างขนาดนี้ เนื่องจากว่าข้อมูลภาพแบบAnalog เป็นข้อมูลที่มีขนาดใหญ่มากผิดกับระบบ Digital ที่เป็นระบบการบีบอัดข้อมูลก่อนส่งผ่านตัวกลางไปสู่ผู้รับปลายทางผ่านกล่องรับสัญญาณ(Set Top Box ) จึงทำให้ภาพที่ออกมามีความละเอียด สมจริง และความคมชัดสูง ทางบริษัทฯจึงได้ทุ่มทุนงบประมาณในการจัดสร้างห้องหรือ H/N มากกว่า 20 ล้านบาท ให้เป็นระบบ High-definition โดยมีช่องรายการมากกว่า 300 ช่อง ทั้ง Analog และDigital และมีช่องรายการที่เพิ่มขึ้นจากเดิมคือ True , RS , GMM , TRITLE T , IPM ,แสนสุข และช่องคอนเท้นส์รายการคุณภาพต่างๆอีกมากมาย บริษัทฯคาดหวังว่าช่องรายการที่เรานำเสนอในระบบ Digital นี้ จะมีคุณภาพดีที่สุด นับตั้งแต่ก่อตั้งบริษัทฯมาเพื่อตอบสนองความต้องการของชาวจังหวัดฉะเชิงเทราตามสโลแกนที่ว่า "ประหยัด คุ้มค่า คมชัด ระดับ HD”

นอกจากนี้ประธานกรรมการบริษัท เอ็มเอสเอส เคเบิ้ล เน็ตเวิร์ค จำกัด ยังกล่าวต่อว่าการรับชมการแข่งขันฟุตบอลโลก 2014 ลูกค้าและสมาชิกทุกท่านสามารถรับชมฟุตบอลโลกครบทั้ง 64 แม๊ตซ์ ทาง MSS CABLE NETWORK ในระบบ HD อย่างแน่นอน



ส.ปชส.ฉะเชิงเทรา

วันพุธที่ 11 มิถุนายน พ.ศ. 2557

สหกรณ์จังหวัดสระแก้ว เผยแพร่ความรู้การสหกรณ์และการขับเคลื่อนวาระแห่งชาติด้านการสหกรณ์

วันนี้ (11 มิ.ย.57) นายชัยภัทร  หิรัณยเลขา รองผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้วเป็นประธานเปิดโครงการฝึกอบรมเผยแพร่ความรู้การสหกรณ์และการขับเคลื่อนวาระแห่งชาติด้านการสหกรณ์ ประจำปี2557 โดยมีนายพีรพนธ์    กิจโกศล สหกรณ์จังหวัดสระแก้วเป็นผู้กล่าวถึงวัตถุประสงค์การจัดโครงการในครั้งนี้ เพื่อให้เกิดการสร้างองค์ความรู้แก่ผู้มีหน้าที่ที่จะไปเผยแพร่ความรู้ความเข้าใจด้านสหกรณ์ให้กับประชาชนต่อไปและเตรียมพร้อมสำหรับการนำการสหกรณ์ไปใช้ในวิถีชีวิตเพื่อการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของประเทศไทยอย่างยั่งยืน โดยในวันนี้มีผู้เข้าร่วมรับการอบรมจำนวน 100 คนเพื่อนำไปถ่ายทอดองค์ความรู้ด้านการสหกรณ์ต่อไป

กลุ่มประมงพื้นบ้านเรือเล็กจังหวัดระยอง จี้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง หาต้นตอโรงงานลักลอบปล่อยคราบน้ำมันปนเปื้อนหาดแม่รำพึง อ.เมืองระยอง หลังเคยเกิดเหตุน้ำมันรั่วกลางทะเล เมื่อปี 2556 มาแล้ว

กลุ่มประมงพื้นบ้านเรือเล็กจังหวัดระยอง จี้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง หาต้นตอโรงงานลักลอบปล่อยคราบน้ำมันปนเปื้อนหาดแม่รำพึง อ.เมืองระยอง หลังเคยเกิดเหตุน้ำมันรั่วกลางทะเล เมื่อปี 2556 มาแล้ว ส่งผลให้สัตว์น้ำลดน้อยลงและหายากขึ้น นอกจากนี้ยังขอได้คำชี้แจงกรณีเกิดเหตุเพลิงไหม้ บ.ไออาร์พีซี น้ำที่ใช้ดับเพลิงไหม้มีการลักลอบปล่อยลงทะเลหรือไม่ด้วย

เมื่อเวลา 11.00 น.วันที่ 11 มิ.ย.ที่ศาลากลางจังหวัดระยอง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้มีกลุ่มประมงพื้นบ้านเรือเล็กจังหวัดระยอง นำโดยนายละม่อม บุญยงค์ รองประธานกลุ่มประมงพื้นบ้านเรือเล็กจังหวัดระยอง และนายอุดมศักดิ์ หลอดทอง ผู้ประสานงานเครือข่ายผู้ได้รับผลกระทบน้ำมันรั่วไหลในจังหวัดระยอง เข้าพบนายทรรศนะ วิชัยธนพัฒน์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง เพื่อขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการ หาต้นตอโรงงานที่ปล่อยคราบน้ำมันปนเปื้อนหาดแม่รำพึง อ.เมืองระยอง เมื่อวานนี้ และขอได้คำชี้แจงกรณีเกิดเหตุเพลิงไหม้ บ.ไออาร์พีซี น้ำที่ใช้ดับเพลิงไหม้มีการลักลอบปล่อยลงทะเลหรือไม่ด้วย โดยมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ประกอบด้วย นายอาทิตย์ ละเอียดดี ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดระยอง นางสาวกาญจนา ทัพป้อม รักษาการอุตสาหกรรมจังหวัดระยอง และนายวิทยา ชัชวาลชาญชนกุล ผู้จัดการส่วนชุมชนสัมพันธ์ บ.ไออาร์พีซี จำกัด(มหาชน) เข้าร่วมให้คำชี้แจงด้วย
นายละม่อม กล่าวว่า ได้ยื่นหนังสือข้อเรียกร้อง 2 ข้อ คือ 1.ต้องการให้ทางจังหวัดหาผู้โรงงานหรือผู้ที่ลักลอบปล่อยคราบน้ำมันปนเปื้อนชายหาดแม่รำพึง จะหาตัวผู้กระทำผิดได้เมื่อไหร่ โดยเหตุเกิดขึ้นเมื่อวานนี้ 2.กรณีเกิดเหตุเพลิงไหม้ในไซด์งานของ บ.ไออาร์พีซีฯ น้ำหรือโฟมที่ใช้ดับเพลิง มีการนำบำบัดอย่างไร หรือมีการปล่อยลงทะเลหรือไม่ ซึ่งปัจจุบันชาวประมง ยังคงได้รับผลกระทบจากกรณีเกิดน้ำมันรั่วกลางทะเล เมื่อวันที่ 27 ก.ค. 2556 สัตว์น้ำลดลงน้อยลง และจับได้ยากขึ้น

นายทรรศนะ กล่าว เบื้องต้น ทางจังหวัดระยอง ได้ตั้งคณะทำงานขึ้นมาติดตามตรวจสอบ หาต้นตอผู้กระทำความผิดแล้ว โดยเบื้องต้น ได้เก็บตัวอย่างคราบน้ำมันไปตรวจสอบยังห้องปฎิบัติการของกรมควบคุมมลพิษ และห้องแล็ปของเอกชนแห่งหนึ่ง ซึ่งจะทราบผลภายใน 15-30 วัน ว่าคราบน้ำมันที่ปนเปื้อนชายหาดดังกล่าวมาแหล่งใด

ด้านนายวิทยา ยืนยันว่า การใช้น้ำและโฟมดับเพลิงไหม้บริษัทไออาร์พีซีฯ มีการบำบัดอย่างถูกวิธี นอกจากนี้ยังมีบ่อบำบัดดักกรองอีกชั้นหนึ่ง กรณีหากเกิดน้ำเสียหลุดลอดออกมาจากบ่อบำบัดได้ รวมทั้งทางบริษัทยังมีเจ้าหน้าที่คอยตรวจสอบคุณภาพน้ำตลอดแนวคลองกันปึกที่ทางมีการระบายน้ำที่ผ่านการบำบัดออกทางคลองก้นปึกก่อนลงสู่ทะเล ซึ่งชุมชนสามารถตรวจสอบได้ตลอดแนวคลองว่าสภาพน้ำเป็นอย่างไร

เชิญร่วมรับฟังรายการ ผู้ว่าฯพบประชาชน

จังหวัดจันทบุรีเชิญร่วมรับฟังรายการผู้ว่าฯ พบประชาชน ทุกวันจันทร์ เวลา 06.00 น.ถึง 07.00 น.ทาง สวท.จันทบุรี    

นายธเนศ เธียรนันทน์ ประชาสัมพันธ์จังหวัดจันทบุรี กล่าวว่าทุกวันจันทร์ในช่วงเช้าตั้งแต่เวลา 06.00 น.จนถึง 07.00 น.นายสามารถ ลอยฟ้า ผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรี จะจัดรายการผู้ว่าฯ พบประชาชน ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย จังหวัดจันทบุรี เพื่อแจ้งข่าวประชาสัมพันธ์ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ นโยบายการพัฒนาจังหวัดเพื่อความอยู่ดีมีสุขของประชาชน ตามยุทธศาสตร์ของจังหวัดจันทบุรีเมืองแห่งความสุข สุขทุกวันที่จันทบุรีรวมทั้งทิศทางการพัฒนาจังหวัด การตอบคำถามข้อสงสัยของพี่น้องประชาชน ซึ่งเป็นรายการสด พร้อมทั้งมีการถ่ายทอดทางสถานีวิทยุชุมชนทุกแห่งในจังหวัดจันทบุรี และหอกระจายข่าวทุกพื้นที่ จึงขอเชิญชวนประชาชนชาวจังหวัดจันทบุรีร่วมรับฟังรายการและร่วมแสดงความคิดเห็นในการจัดรายการสด ทาง สวท.จันทบุรี หมายเลขโทรศัพท์ 039 – 325987



จรัล บรรยงคเสนา/ภาพ/ข่าว ( 11 มิ.ย.57 )
                  ธเนศ เธียรนันทน์/ตรวจข่าว

คสช.ขยายเวลาส่งมอบอาวุธสงคราม และยกเลิกเคอร์ฟิวจันทบุรี

คณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ คสช. ออกประกาศ ขยายระยะเวลาการนำส่งมอบอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน หรือวัตถุระเบิด ที่สำหรับใช้เฉพาะแต่การสงคราม

นายสามารถ ลอยฟ้า ผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรี กล่าวว่า ตามที่ได้มีคำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติที่ 37/2557 ลงวันที่ 29 พ.ค. 2557 เรื่องให้ผู้มีอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน หรือวัตถุระเบิดที่สำหรับใช้เฉพาะแต่การสงครามนำส่งมอบ และประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติฉบับที่ 53/2557 ลงวันที่ 3 มิ.ย. 2557 เรื่องกำหนดให้ผู้กระทำความผิดในบางกรณีไม่อยู่ใต้บังคับคำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติที่ 37/2557 แล้วนั้น เพื่อให้มีการนำอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน หรือวัตถุระเบิด ที่สำหรับใช้เฉพาะแต่การสงคราม ส่งมอบต่อนายทะเบียนท้องที่ตามกฎหมายต่อไปอีกระยะหนึ่ง คณะรักษาความสงบแห่งชาติจึงมีประกาศ ดังต่อไปนี้

            ข้อ 1 ให้ขยายเวลาแก่ผู้ที่มีอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน หรือวัตถุระเบิด ที่สำหรับใช้เฉพาะแต่การสงคราม ในการส่งมอบต่อนายทะเบียนท้องที่ตามกฎหมายว่าด้วยอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิง และสิ่งเทียมอาวุธปืน ตามคำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติที่ 37/2557 ลงวันที่ 28 พ.ค. 2557 เรื่องให้ผู้มีอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน หรือวัตถุระเบิดที่สำหรับใช้เฉพาะแต่การสงครามนำส่งมอบ ต่อไปจนถึงวันที่ 25 มิ.ย. 2557

            ข้อ 2 ให้ผู้นำอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน หรือวัตถุระเบิด ที่สำหรับใช้เฉพาะแต่การสงครามส่งมอบต่อนายทะเบียนท้องที่ภายในกำหนดเวลาตามข้อ 1 ไม่ต้องรับโทษทางอาญา ตามที่บัญญัติไว้ในกฎหมายว่าด้วยอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิง และสิ่งเทียมอาวุธปืน

            ข้อ 3 ผู้ที่ฝ่าฝืนไม่นำอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน หรือวัตถุระเบิดที่สำหรับใช้เฉพาะแต่การสงครามส่งมอบต่อนายทะเบียนทอ้งที่ภายในกำหนดเวลาตามข้อ 1 มีความผิดต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 2 ปี ถึง 20 ปี

            ข้อ 4 ประกาศนี้มิบังคับแก่ผู้กระทำความผิดตามกฎหมายว่าด้วยอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิง และสิ่งเทียมอาวุธปืน ที่ถูกจับกุมหรือตกเป็นผู้ต้องหาหรือเป็นจำเลยก่อนวันที่ 29 พ.ค. 2557 และอยู่ระหว่างการสอบสวนหรือระหว่างคดี ยังไม่ถึงที่สุด          นอกจากนี้ คสช.ยังมีประกาศ ฉบับที่ 60/2557 เรื่องยกเลิกการห้ามออกนอกเคหะสถานในบางพื้นที่ โดยลกเลิกเพิ่มเติม 20 จังหวัด รวมทั้งจังหวัดจันทบุรีด้วย



จรัล บรรยงคเสนา/ภาพ/ข่าว ( 11 มิ.ย.57 )
                  ธเนศ เธียรนันทน์/ตรวจข่าว  

เทศบาลเมืองจันทบุรี เตรียมพร้อมแก้ปัญหาการระบายน้ำช่วงฤดูฝน

เทศบาลเมืองจันทบุรี เร่งแก้ปัญหาฝนตกน้ำท่วมขังระบายไม่ทันเนื่องจากการขยายตัวของที่พักอาศัย และท่อระบายน้ำตีบตัน 

ที่ซอยเทศบาลพัฒนา 2 ชุมชนย่อยที่ 10 เทศบาลเมืองจันทบุรี นางสุกานดา  สุทธิพัฒนกุล นายกเทศมนตรีเมืองจันทบุรี พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร สมาชิกสภา นำเจ้าหน้าที่กองช่างสุขาภิบาลเทศบาลเมืองจันทบุรี ออกให้บริการประชาชนแก้ปัญหาน้ำระบายไม่ทันเนื่องจากฝนตกหนัก ทั้งนี้ที่ผ่านมาตั้งแต่ฝนเริ่มตกเทศบาลเมืองจันทบุรี ได้รับแจ้งเรื่องร้องเรียนจากประชาชนในซอยเทศบาลพัฒนา 2 ว่าพื้นที่บางส่วนในซอย เกิดน้ำท่วมขังไม่สามารถระบายน้ำได้ สาเหตุเกิดจากการถมที่ดิน ปลูกสร้างอาคารบ้านเรือนขวางทางระบายน้ำ และใส่ท่อระบายน้ำไม่ได้ขนาด รวมทั้งมีสิ่งปฏิกูล ขยะไหลปิดทางเดินน้ำ เพื่อเป็นการบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนคณะผู้บริหารเทศบาลเมืองจันทบุรี จึงมอบหมายให้เจ้าหน้าที่กองช่างสุขาภิบาลเร่งแก้ปัญหาเร่งด่วน พร้อมสำรวจและเตรียมปรับพื้นที่ดังกล่าวโดยการขุดรางระบายน้ำเพื่ออำนวยความสะดวกให้ประชาชนต่อไป


จรัล บรรยงคเสนา/ภาพ/ข่าว ( 11 มิ.ย.57 )
                  ธเนศ เธียรนันทน์/ตรวจข่าว
 

ผู้ว่าฯ ลงพื้นที่ติดตามดูช้างป่าที่หลงฝูงเข้าชุมชนให้กำลังใจชาวบ้าน

ผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรีลงพื้นที่ให้กำลังใจชาวบ้านที่หวาดผวา จากช้างป่าหลงฝูงหากินในชุมชน สั่งเจ้าหน้าที่จับตาใกล้ชิด ขณะที่ช้างเริ่มหงุดหงิดจากอาการบาดเจ็บ

ที่ซอยวังหว้า หมู่ 6 บ้านมาบคล้า ตำบลทับไทร อำเภอโป่งน้ำร้อน นายสามารถ ลอยฟ้า ผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรี พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้เดินทางเยี่ยมปลอบขวัญให้กำลังใจชาวบ้านและติดตามดูพฤติกรรมของช้างป่าพลายลูกแก้ว ที่หลงฝูงจากเขาอ่างฤาไนมาหากินในสวนผลไม้และชุมชนสร้างความหวาดวิตกแก่คนในพื้นที่เขาเกลือ อำเภอโป่งน้ำร้อน ซึ่งพลายลูกแก้วตัวนี้ เดินวนเวียนหากินในพื้นที่อำเภอโป่งน้ำร้อน ตะเข็บรอยต่อชายแดนจันทบุรี – กัมพูชา มากว่าสัปดาห์แล้ว และมีอาการบาดเจ็บที่บริเวณขาหน้าขวา และขาหลังซ้าย ซึ่งเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติคลองเครือหวาย และอุทยานแห่งชาติเขาสอยดาวได้จัดกำลังติดตามพร้อมนำยาแก้อักเสบผสมกับผลไม้ให้ช้างกินบรรเทาอาการ แต่ช้างยังมีอาการหงุดหงิด กระสับกระส่ายอยู่บ้างเจ้าหน้าที่ได้พยายามหลอกให้ช้างออกนอกพื้นที่ชุมชนอย่างสุดความสามารถ

อย่างไรก็ตาม นายสามารถ ลอยฟ้า ผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรีได้เยี่ยมปลอบขวัญให้กำลังใจชาวบ้านในพื้นที่ที่ช้างพลายลูกแก้วออกหากินพร้อมเตือนชาวบ้านอย่าได้ทำร้ายช้างป่าตัวนี้ โดยเฉพาะการจุดประทัดหรือยิงปืนส่งเสียงดังอาจทำให้ช้างตื่นตกใจสร้างความเสียหายแก่ทรัพย์สินและชีวิตคนได้ ในส่วนของผลไม้ที่เสียหายจากการถูกช้างกินทางราชการมีแนวทางการช่วยเหลือเยียวยาขอชาวบ้านอย่าหวาดวิตกส่วนการแก้ปัญหาจากนี้ต้องขอติดตามดูสถานการณ์ระยะหนึ่งหากเห็นว่าเสี่ยงทั้งคนและช้างจะรีบแจ้งให้กรมอุทยานแห่งชาติหาวิธีการนำช้างป่าตัวนี้ออกจากพื้นที่กลับคืนสู่ธรรมชาติแหล่งอาศัยที่อยู่เดิมโดยเร็วที่สุด   ส่วนระยะยาวทางจังหวัดมีแผนโครงการที่จะจัดหาสถานที่แหล่งโซ่อาหารที่สมบูรณ์ให้ช้างอยู่อาศัยและไม่ออกมารบกวนชาวบ้าน เบื้องต้นทางอำเภอแก่งหางแมว มีชาวบ้าน ประชาชนจิตอาสาเตรียมทำโครงการปลูกพืชอาหารให้ช้าง สร้างความสมบูรณ์แก่ธรรมชาติเพิ่มขึ้นซึ่งจังหวัดจะเข้าช่วยเหลือเร่งรีบดำเนินการและอาจแก้ปัญหาได้ระดับหนึ่ง


จรัล บรรยงคเสนา/ภาพ/ข่าว ( 11 มิ.ย.57 )
                  ธเนศ เธียรนันทน์/ตรวจข่าว

วันอังคารที่ 10 มิถุนายน พ.ศ. 2557

เหล่ากาชาดจังหวัดฉะเชิงเทรา ร่วมกับโรงพยาบาลพุทธโสธร รับบริจาคโลหิตเพื่อนำไปช่วยเหลือผู้ประสบภัยฯ

วันนี้ (10 มิ.ย.57) นางมารยาท ตังคณานุกูลชัย นายกเหล่ากาชาดจังหวัดฉะเชิงเทรา พร้อมด้วยคณะกรรมการเหล่ากาชาดจังหวัดฉะเชิงเทรา  พยาบาลและเจ้าหน้าที่จากพยาบาลโรงพยาบาลพุทธโสธร อำเภอเมืองฉะเชิงเทรา  ได้จัดตั้งหน่วยรับบริจาคโลหิตจากประชาชนทั่วไป เพื่อเก็บสำรองเลือดเข้าโรงพยาบาลพุทธโสธร  ไว้ช่วยเหลือผู้ป่วยฉุกเฉิน หรือประสบอุบัติเหตุ  โดยมี นายอนุกูล ตังคณานุกูลชัย ผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทรา เข้าร่วมพูดคุยและให้กำลังใจกับผู้มาบริจาคโลหิต   ณ  ห้องประชุมสำนักงานเหล่ากาชาดจังหวัดฉะเชิงเทรา

นายกเหล่ากาชาดจังหวัดฉะเชิงเทรา กล่าวว่า ภารกิจการรับบริจาคโลหิตของเหล่ากาชาดจังหวัดฉะเชิงเทรา จะรับบริจาคโลหิตจากหน่วยงานราชการ ภาคเอกชน สถาบันการศึกษา และประชาชนทั่วไปในพื้นที่จังหวัดฉะเชิงเทรา เป็นประจำอย่างต่อเนื่อง เพื่อเก็บสำรองเลือดไว้ใช้ในยามจำเป็น เร่งด่วน และ นอกจากจะมีการรับบริจาคโลหิตแล้วยังมีการเปิดรับ บริจาคดวงตา และอวัยวะ ด้วย ทั้งนี้หากใครมีความประสงค์จะบริจาคดวงตาและอวัยวะ สามารถติดต่อสอบถามได้ที่ สำนักงานเหล่ากาชาดจังหวัดฉะเชิงเทรา โทร. 038 – 814241 , 038-511411 ได้ทุกวันเวลาราชการ สำหรับกำหนดการบริจาคโลหิต ครั้งต่อไปในวันพุธ ที่ 11 มิถุนายน 2557 ณ โรงเรียนเซนต์หลุยส์ อำเภอเมืองฉะเชิงเทราและ พฤหัสบดี ที่ 12  มิถุนายน 2557  ณ  บริษัท อิซุซุ มอเตอร์(ประเทศไทย)จำกัด   อำเภอแปลงยาว จังหวัดฉะเชิงเทรา   จึงขอเชิญผู้ที่สนใจบริจาคโลหิต เข้าร่วมบริจาคได้ตามวันและสถานที่ดังกล่าว



ส.ปชส.ฉะเชิงเทรา

จ.ฉะเชิงเทรา ร่วมกับชมรมกีฬาผู้สูงอายุจังหวัดฉะเชิงเทราจัดกิจกรรมส่งเสริมกีฬาและการออกกำลังกายผู้สูงอายุ ประจำปี 2557

วันนี้ (10 มิ.ย.57) นาย บัณฑิตย์  เทวีทิวา รักษ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทรา เป็นประธานเปิดโครงการส่งเสริมกีฬาและการออกกำลังกายผู้สูงอายุ ประจำปี 2557  โดยมี ว่าที่ร้อยตรีไพศาล พงศ์ศิริไพศาล  ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดฉะเชิงเทรา กล่าวรายงาน พร้อมด้วย หัวหน้าส่วนราชการ  ภาคเอกชน เจ้าหน้าที่  นักเรียน นักศึกษา  และ นักกีฬาผู้สูงอายุจังหวัดฉะเชิงเทรา เข้าร่วมกิจกรรมจำนวนกว่า 120 คน  ณ บริเวณศาลาจัตุรมุข  หน้าศาลากลางจังหวัดฉะเชิงเทรา

รองผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทรา กล่าวว่า ผู้สูงอายุเป็นทรัพยากรบุคคลที่มีคุณค่าและสร้างคุณประโยชน์มากมายให้กับประเทศจึงสมควรได้รับการดูแลให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีในการดำเนินชีวิตด้วยการเล่นกีฬาที่เหมาะสมกับวัยเพื่อเสริมสร้างความแข็งแรงของร่างกายรวมทั้งการจัดกิจกรรมนันทนาการร่วมกันเพื่อการมีสุขภาพจิตที่ดีของผู้สูงอายุเพราะจากการจัดกิจกรรมการแข่งขันกีฬาครั้งนี้แล้วยังเป็นการเชื่อมความสัมพันธ์และสร้างความสามัคคีในกลุ่มผู้สูงอายุที่มาจากทุกอำเภอในจังหวัดฉะเชิงเทราด้วย

ด้านท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดฉะเชิงเทรา กล่าวว่า การจัดกิจกรรมส่งเสริมกีฬาและการออกกำลังกายผู้สูงอายุ ประจำปี 2557 แบ่งการแข่งขันออกเป็น 7 ชนิดกีฬา  ได้แก่ เปตอง กอล์ฟ หมากรุกไทย  กรีฑา แบดมินตัน วู้ดบอล และคาราโอเกะ  มีวัตถุประสงค์ เพื่อให้ผู้สูงอายุได้มีโอกาสออกกำลังกาย เล่นกีฬาเพื่อสุขภาพเป็นการพัฒนาคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุและได้พบปะแลกเปลี่ยนกันในกลุ่มผู้สูงอายุที่สนใจเล่นกีฬาด้วยกัน รวมทั้งให้ผู้สูงอายุแสดงศักยภาพด้านกีฬาเพื่อสุขภาพ กาย ใจ และอารมณ์นอกจากนี้ยังเป็นการคัดเลือกตัวแทนนักกีฬาผู้สูงอายุจังหวัดฉะเชิงเทราเข้าร่วมการแข่งขันกีฬาผู้สูงอายุ ประจำปี 2557ระหว่างวันที่ 22-25 กรกฏาคม 2557  ณ จังหวัดภูเก็ต อีกด้วย



ชาญณรงค์/ข่าว-ภาพ
ส.ปชส.ฉะเชิงเทรา

จังหวัดระยอง จัดตั้งศูนย์ปรองดองสมานฉันท์ในทุกพื้นที่


นายธานี สามารถกิจ ผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง เปิดเผยว่า จังหวัดระยอง ได้จัดตั้งศูนย์ปรองดองสมานฉันท์เพื่อการปฎิรูป ระดับจังหวัดระยอง เพื่อ ปฎิบัติตามเจตนารมย์ของหัวหน้ารักษาความสงบแห่งชาติ ในการสร้างความรัก ความสามัคคี ปรองดอง สมานฉันท์ ให้คนไทยทุกกลุ่มทุกฝ่าย โดยให้คำนึงถึงชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ มากกว่าสิ่งอื่นใด เกิดความร่วมมือกับภาคราชการ เดินหน้าปฎิรูปประเทศ ให้เป็นประชาธิปไตยที่ถูกต้องและยั่งยืน ไม่มีการซื้อสิทธิขายเสียง และทุจริต คอรัปชั่น รวมทั้งมุ่งเนินให้ประชาชนคนไทย มีระเบียบวินัย รักษากฎหมายมากยิ่งขึ้น บรรลุวัตถุประสงค์ตามที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติกำหนดไว้ จังหวัดระยองจึงได้จัดตั้งศูนย์ปรองดองสมานฉันท์เพื่อการปฎิรูประดับจังหวัดขึ้น ณ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน จังหวัดระยอง ชั้น 2 ศูนย์ราชการจังหวัดระยอง ศูนย์ดังกล่าวถือเป็นโรดแมปที่สำคัญที่ทุกจังหวัดจะต้องดำเนินการให้เกิดขึ้นอย่างเร่งด่วน และทุกอำเภอ และผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในจังหวัดระยองร่วมกันจัดตั้งศูนย์ปรองดองสมานฉันท์ในพื้นที่ท้องถิ่นของตนเอง เพื่อเป็นศูนย์กลางในการสร้างความรัก ความสามัคคี แลกเปลี่ยนความคิดเห็น สร้างความรู้ ความเข้าใจร่วมกันอย่างสมานฉันท์ภายใต้ความแตกต่างและหลากหลาย

โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับข้าราชการผู้ปฎิบัติงานอยู่ในพื้นที่ที่จะต้องไม่ตกเป็นเหยื่อของความขัดแย้งหรือเลือกฝ่ายหนึ่งฝ่ายใด จะต้องทำงานบนพื้นฐานของความถูกต้อง และให้บริการประชาชนอย่างเต็มความสามารถ ในแต่ละศูนย์จะมีกิจกรรมเพื่อคืนความสุขให้กับประชาชน มีกิจกรรมนันทนาการ เชิญทุกฝ่ายมาร่วมหารือและรับฟังความคิดเห็น เพื่อสร้างความรัก ความสามัคคี ความปรองดอง สลายแนวคิดที่แตกต่างและป้องกันการปลุกระดมมวลชนที่จะนำไปสู่ความแตกแยกลดการแบ่งฝักแบ่งฝ่าย โดยเน้นการแก้ไขปัญหาในชุมชนให้มองประโยชน์ของชาติเป็นหลัก ไม่ขยายความขัดแย้ง ให้สร้างสรรค์และแสวงหาความร่วมมือไปข้างหน้าปรับทัศนคติอย่างมีเหตุผลด้วยความต่อเนื่องและสมัครใจ ขณะเดียวกันกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นอยู่ในขณะนี้จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องเดินตามแผนปฎิรูปเพื่อให้สถานการณ์ต่างๆที่กำลังเกิดขึ้นนั้นกลับเข้าสู่สภาวะความปกติสุขโดยเร็ว



สวรส/ข่าว

ผู้ว่าระยอง สั่งไออาร์พีซีหยุด 90 วันหลังเกิดเหตุระเบิดและไฟไหม้

เมื่อเวลา 10.00น.วันที่ 10 มิถุนายน ที่อาคาร 10 ปี บริษัท ไออาร์พีซี จำกัด(มหาชน)มีการแถลงข่าวกรณีการเกิดเหตุระเบิดมีไฟลุกไหม้ที่หน่วยปรับปรุงคุณภาพน้ำมันเตา(หน่วย VGOHT :Vacuum Gas Oil Hydro Treating) เพื่อป้อนหน่วยแครกเกอร์เพื่อผลิตเป็นสารโพรไพลีน ภายในบริษัท ไออาร์พีซี จำกัด(มหาชน) ต.เชิงเนิน อ.เมืองระยองเมื่อเวลา 18.00น.วันที่ 9 มิถุนายนที่ผ่านมาโดยมีนายโพธิวัฒน์ เผ่าพงศ์ช่วง ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไออาร์พีซี จำกัด(มหาชน) พร้อมด้วยนายศักดา พันธ์กล้า รองอธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรมและคณะโดยเป็นการแถลงผ่านวีดีโอคอนเฟอร์เร้นส์จากศูนย์เอเนอร์ยี่คอมแพล็กซ์ อาคารบี ชั้น 6 ถนนวิภาวดีรังสิต กรุงเทพฯซึ่งมีนายสุกฤตย์ สุรบถโสภณ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไออาร์พีซี จำกัด เป็นผู้แถลงพร้อมกล่าวแสดงความเสียใจต่อเหตการณ์ที่เกิดขึ้น ในเบื้องต้นสันนิษฐานว่าสาเหตเกิดจากการรั่วไหลของสารไฮโดรคาร์บอนด์เป็นเหตุให้เกิดเพลิงไหม้ หลังเกิดดเหตุได้ตัดแยกระบบของหน่วยผลิตที่เกิดเพลิงไหม้ออกจากโรงงานอื่นๆของบริษัทฯ สามารถควบคุมเพลิงให้อยู่ในวงจำกัดตั้งแต่เวลา 19.00 น.วันเดียวกัน และได้ดับเพลิงได้ทั้งหมดเมื่อเวลา 20.20 น.วันเดียวกันและไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บแต่อย่างใด ส่งผลกระทบสิ่งแวดล้อมจากเขม่าควันไฟ บริษัทนได้ส่งรถเคลื่อนที่ออกไปตรวจวัดสภาพอากาศโดยรอบโรงงานทันทีที่เกิดเหตุ เพื่อตรวจสอบผลกระทบต่อชุมชนและสิ่งแวดล้อม เบื้องต้นพบว่ามีผลกระทบเล็กน้อยต่อสภาพอากาศ

ซึ่งทางบริษัทฯจะเฝ้าระวังผลกระทบต่อชุมชนอย่างใกล้ชิด พร้อมส่งหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ออกไปตรวจเยี่ยมประชาชน พร้อมรับฟังปัญหาเพื่อสร้างความมั่นใจเกี่ยวกับเรื่องสุขภาพอนามัย นายสุกฤตย์ สุรบถโสภณ กล่าวว่าขณะนี้อยู่ระหว่างตรวจสอบความเสียหายจากการเกิดเพลิงไหม้ สำหรับโรงกลั่นและโรงงานปิโตรเคมีโดยส่วนใหญ่ยังสามารถดำเนินการผลิตได้ มีเพียงหน่วยที่เกิดเพลิงไหม้และหน่วยผลิตใกล้เคียงจะต้องหยุดดำเนินการชั่วคราว บริษัทฯประเมินว่ามีผลกระทบต่อการผลิตโดยรวมไม่มากนัก มูลค่าความเสียหายอยู่ระหว่างการตรวจสอบร่วมกับบริษัทประกันภัย ดดยบริษัทฯมีวงเงินประกัน 1,200 ล้านเหรียญสหรัฐด้านนายศักดา พันธ์กล้า รองอธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม กล่าวว่าได้รับคำสั่งจากอธิบดีฯให้ลงมาตรวจสอบข้อเท็จจริงสาเหตุการเกิดระเบิดและมีไฟไหม้ จะเข้าไปตรวจสอบจุดเกิดเหตุในวันนี้ พร้อมผู้สื่อข่าวแต่เนื่องจากบริษัทฯมีข้อกฏหมายในเรื่องของการประกัน และรับรองความปลอดภัย บริษัทฯไม่สามารถควบคุมได้ จึงไม่มีอำนาจที่จะพาผู้สื่อข่าวเข้าไปจุดเกิดเหตุได้ แต่ความคืบหน้าในขณะนี้กรมโรงงานมีคำสั่งให้หยุดและให้ผู้บริหารไออาร์พีซี เซ็นรับทราบคำสั่ง

ขณะเดียวกันได้รับแจ้งว่านายธานี สามารถกิจ ผวจ.ระยอง ลงนามคำสั่งให้หยุดเป็นเวลา 90 วัน ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่สำนักการมีส่วนร่วมกรมโรงงานลงพื้นที่ว่ามีผลกระทบต่อประชาชนรอบโรงงานอย่างไรและให้คำแนะนำเกี่ยวกับเรื่องกฏหมาย การฟ้องร้องจากผลกระทบที่เกิดขึ้น


วฐิต/ข่าว