วันพฤหัสบดีที่ 24 เมษายน พ.ศ. 2557
ขนส่งจังหวัดสระแก้ว เปิดรับคำขอจัดสรรเงินค่าอุปกรณ์ช่วยเหลือผู้พิการเนื่องจากประสบภัยจากการใช้รถทางถนน
นายกฤษณะ พึ่งปาน ขนส่งจังหวัดสระแก้วเปิดเผยว่า กรมขนส่งทางบกได้กำหนดให้มีการเปิดรับคำร้องขอจัดสรรเงินเป็นค่าอุปกรณ์ช่วยเหลือผู้พิการเนื่องมาจากประสบภัยจากการใช้รถทางถนน สำหรับอุปกรณ์ช่วยเหลือผู้พิการ ได้แก่ แขนเทียม ขาเทียม รถนั่งสำหรับผู้พิการ ไม้เท้าและไม้ค้ำยัน และ อุปกรณ์ เบาะรองนั่งป้องกันแผลกดทับ เตียงนอนธรรมดา 3 ไกรที่นอนลมป้องกันแผลกดทับ รถสามล้อโยก เครื่องช่วยหายใจ และ เครื่องดูดเสมหะ ผู้พิการท่านใดสนใจขอรับจัดสรรเงินเป็นค่าอุปกรณ์ช่วยเหลือ สามายื่นคำขอได้ที่ สำนักงานขนส่งจังหวัดสระแก้ว ตั้งแต่วันที่ 22 เมษายน 2557 ถึงวันที่ 2 พฤษภาคม 2557 หรือต้องการทราบรายละเอียดเพิ่มสามาโทรหมายเลข 037241809
สระแก้ว หารือแนวทางการคมนาคมและการเจรจาบริเวณตลาดตามแนวชายแดน
วันนี้ (24 เม.ย.57) ที่ห้องประชุมสระแก้ว ชั้น3 ศาลากลางจังหวัดสระแก้ว นายภัครธรณ์ เทียนไชย ผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว พร้อมด้วยนายชูศักดิ์ ตรีสาร รองผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว ส่วนราชการและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุมหารือแนวทางการคมนาคมขนส่งและการจราจรบริเวณตลาดตามแนวชายแดนซึ่งในปัจจุบันมีสิ่งก่อสร้างอาคารโรงเรือนเป็นจำนวนมากและในช่วงเทศกาลสำคัญๆหรือการจัดงานประเพณีขึ้นมักจะทำให้การขนส่ง การจราจร การดูแลรักษาความปลอดภัยเพิ่มขึ้น และมีประชาชน นักท่องเที่ยวพร้อมทั้งผู้ประกอบการเสนอแนวทางแก้ไขปัญหาเป็นประจำทุกปีจึงได้จัดประชุมหารือเพื่อบูรณาการดำเนินการแก้ไขให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อยและมอบหน้าที่เพื่อดำเนินการแก้ไขต่อไป
สภาวัฒนธรรมจังหวัดสระแก้ว จัดโครงการอบรมมารยาทไทย ประจำปี ๒๕๕๗ เพื่อขยายผลโครงการครูต้นแบบมารยาทไทย ไปสู่บุคลากรในสถานศึกษา ให้มีความรู้ความเข้าใจ และสามารถถ่ายทอดมารยาทไทยในจังหวัด
เช้านี้ (๒๔ เม.ย. ๕๗) สภาวัฒนธรรมจังหวัดสระแก้ว ร่วมกับสำนักงานวัฒนาธรรมจังหวัดสระแก้ว จัดโครงการอบรมมารยาทไทย ประจำปี ๒๕๕๗ ณ วิทยาลัยชุมชนสระแก้ว ตำบลท่าเกษม อำเภอเมืองสระแก้ว จังหวัดสระแก้ว มีนายชูศักดิ์ ตรีสาร รองผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว เป็นประธานในพิธีเปิดโครงการ นายประสิทธิ์ จันทรา ประธานสภาวัฒนธรรมจังหวัดสระแก้ว กล่าวถึงวัตถุประสงค์ว่า เพื่อขยายผลโครงการครูต้นแบบมารยาทไทย ไปสู่บุคลากรในสถานศึกษา ให้มีความรู้ความเข้าใจ และสามารถถ่ายทอดมารยาทไทยในจังหวัดของตนได้ และเพื่อให้ครู อาจารย์ และบุคลากรทางการศึกษาที่เข้ารับการอบรมสามารถปฏิบัติตนตามแบบแผนมารยาทไทยได้ ผู้เข้ารับการอบรม ประกอบด้วย ครู อาจารย์ บุคลากรในสถานศึกษา และเจ้าหน้าที่ของสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดสระแก้ว จำนวน ๑๕๐ คน ระยะเวลาอบรม ๒ วัน โดยรับเกียรติจากคณะวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิจากกรมส่งเสริมวัฒนธรรม
ประธานสภาวัฒนธรรมจังหวัดสระแก้ว กล่าวว่า มารยาทไทย เป็นเอกลักษณ์สำคัญอย่างหนึ่งที่แสดงถึงความเป็นคนไทย ระเบียบแบบแผนการประพฤติที่ดีงามอันเหมาะสมแก่กาลเทศะและสังคม โดยเฉพาะการไหว้ ที่แสดงให้เห็นอุปนิสัยของคนไทยที่มีความนอบน้อม เคารพผู้อาวุโส ความกตัญญูกตเวทิตาต่อผู้มีพระคุณ ปัจจุบันเยาวชนไทยได้รับอิทธิพลทางด้านค่านิยมและวัฒนธรรมจากต่างประเทศ เช่น เกาหลี ญี่ปุ่น ทั้งการแต่งกาย และการแสดงออกทางสังคม ทำให้ในบางครั้งมักจะแสดงพฤติกรรมไม่เหมาะสมกับผู้อื่น เช่น แสดงกิริยาที่ก้าวร้าว ไม่เคารพผู้อาวุโส ฯลฯ ตลอดจนหลงลืมรากเหง้าของวัฒนธรรมไทย
ประธานสภาวัฒนธรรมจังหวัดสระแก้ว กล่าวว่า มารยาทไทย เป็นเอกลักษณ์สำคัญอย่างหนึ่งที่แสดงถึงความเป็นคนไทย ระเบียบแบบแผนการประพฤติที่ดีงามอันเหมาะสมแก่กาลเทศะและสังคม โดยเฉพาะการไหว้ ที่แสดงให้เห็นอุปนิสัยของคนไทยที่มีความนอบน้อม เคารพผู้อาวุโส ความกตัญญูกตเวทิตาต่อผู้มีพระคุณ ปัจจุบันเยาวชนไทยได้รับอิทธิพลทางด้านค่านิยมและวัฒนธรรมจากต่างประเทศ เช่น เกาหลี ญี่ปุ่น ทั้งการแต่งกาย และการแสดงออกทางสังคม ทำให้ในบางครั้งมักจะแสดงพฤติกรรมไม่เหมาะสมกับผู้อื่น เช่น แสดงกิริยาที่ก้าวร้าว ไม่เคารพผู้อาวุโส ฯลฯ ตลอดจนหลงลืมรากเหง้าของวัฒนธรรมไทย
(ดุลยศักดิ์ ส.ปชส.สระแก้ว/ข่าว/ภาพ)
ปภ.สระแก้วเพิ่มศักยภาพชุมชนด้านการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย
วันนี้ (24 เม.ย.57) ที่วัดเนินผาสุก หมู่ที่6 บ้านเนินผ่สุก ตำบลสระขวัญ อำเภอเมือง จังหวัดสระแก้ว นายภัครธรณ์ เทียนไชย ผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว เป็นประธานเปิดโครงการเสริมสร้างศักยภาพชุมชนด้านการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดสระแก้ว โดยมีนางจรัส ใยเยื่อ หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกล่าวรายงานภึงวัตถุประสงค์การจัดงาน
นายภัครธรณ์ เทียนไชย ผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว เปิดเผยว่า ปัจจุบันภัยพิบัติที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติและเกิดจากการกระทำของมนุษย์ได้สร้างความเสียหายต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนในทุกภูมิภาคและมีแนวโน้มที่มีความรุนแรงเพิ่มมากขึ้นดังนั้นเพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมรับภัยพิบัติ กระทรวงมหาดไทย โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจึงได้ดำเนินโครงการนี้มาตั้งแต่ปี พ.ศ.2547-ปัจจุบัน โดยอาศัยชุมชนเป็นรากฐานซึ่งเป็นผู้ที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัยให้มความรู้และความเข้าใจ สามารถบริหารจัดการสาธารณภัยในเบื้องต้นก่อน
นางจรัส ใยเยื่อ หัวหน้าสำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กล่าวเพิ่มเติมว่า จังหวัดสระแก้วเป็นพื้นที่ที่มีความเสี่ยงต่อการเกิดภัยและตำบลสระขวัญเคยประสบอุทกภัยเมื่อเดือนกันยายน 2556จึงได้จัดโครงการนี้ขึ้นมาเพื่อให้ประชาชนในพื้นที่ได้มีการเตรียมความพร้อมเมื่อประสบภัยและสามารถช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ตนเองและรอบๆชุมชนเพื่อลดการสูญเสียชีวิตและทรัพย์สิน
นายภัครธรณ์ เทียนไชย ผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว เปิดเผยว่า ปัจจุบันภัยพิบัติที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติและเกิดจากการกระทำของมนุษย์ได้สร้างความเสียหายต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนในทุกภูมิภาคและมีแนวโน้มที่มีความรุนแรงเพิ่มมากขึ้นดังนั้นเพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมรับภัยพิบัติ กระทรวงมหาดไทย โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจึงได้ดำเนินโครงการนี้มาตั้งแต่ปี พ.ศ.2547-ปัจจุบัน โดยอาศัยชุมชนเป็นรากฐานซึ่งเป็นผู้ที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัยให้มความรู้และความเข้าใจ สามารถบริหารจัดการสาธารณภัยในเบื้องต้นก่อน
นางจรัส ใยเยื่อ หัวหน้าสำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กล่าวเพิ่มเติมว่า จังหวัดสระแก้วเป็นพื้นที่ที่มีความเสี่ยงต่อการเกิดภัยและตำบลสระขวัญเคยประสบอุทกภัยเมื่อเดือนกันยายน 2556จึงได้จัดโครงการนี้ขึ้นมาเพื่อให้ประชาชนในพื้นที่ได้มีการเตรียมความพร้อมเมื่อประสบภัยและสามารถช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ตนเองและรอบๆชุมชนเพื่อลดการสูญเสียชีวิตและทรัพย์สิน
จ.ฉะเชิงเทรา จัดงาน“มหกรรมไอศกรีมผลไม้แปดริ้ว ปี 2557 ”
วันนี้ (24 เม.ย.57) นายไพศาล วิมลรัตน์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทราเป็นประธานในพิธีเปิดงาน"มหกรรมไอศกรีมผลไม้แปดริ้ว ปี2557 ” พร้อมมอบรางวัลและใบประกาศเกียรติคุณให้กับผู้ประกวดไอศกรีมผลไม้แปดริ้ว โดยมีนาย อรชุน ธิวรรณลักษณ์ พัฒนาการจังหวัดฉะเชิงเทรา กล่าวรายงาน หัวหน้าส่วนราชการ ประชาชนทั่วไป และสื่อมวลชน เข้าร่วมงานอย่างคับคั่ง ณ บริเวณสนามหน้าศาลาจัตุรมุข หน้าศาลากลางจังหวัดฉะเชิงเทรา ทั้งนี้ภายในงานได้จัดให้ผู้ผลิต ผู้ประกอบการไอศกรีมจากผลไม้ นำสินค้ามาจำหน่าย สาธิต แข่งขันการทำไอศกรีมจากผลไม้ในจังหวัดเพื่อให้มีการพัฒนารูปแบบ รสชาติ ให้มีความหลากหลาย
นายไพศาล วิมลรัตน์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทรา กล่าวว่า การจัดงาน"มหกรรมไอศกรีมผลไม้แปดริ้ว ปี2557 ” มีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นการประชาสัมพันธ์ขับเคลื่อนโครงการพัฒนาผลิตภัณฑ์ไอศกรีมจากผลไม้และผลิตภัณฑ์ OTOP จากผลิตผลทางการเกษตรของจังหวัดฉะเชิงเทราให้เป็นสินค้าที่มีความแปลกใหม่ มีความโดดเด่น มีรูปแบบและคุณภาพที่สอดคล้องกับความต้องการของตลาด อีกทั้งเป็นการกระตุ้นการตลาด เพิ่มศักยภาพด้านการท่องเที่ยวของจังหวัด ก่อให้เกิดรายได้เพิ่มให้กับผู้ผลิต ผู้ประกอบการในการพัฒนารูปแบบ รสชาติ ให้มีความหลากหลาย ตรงกับความต้องของตลาด ตลอดจนเป็นการสร้างเอกลักษณ์ของจังหวัดฉะเชิงเทรา สร้างมูลค่าเพิ่มแก่ผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรของจังหวัดฉะเชิงเทรา สามารถพัฒนาเป็นจุดขายด้านการท่องเที่ยวของจังหวัดได้
จังหวัดฉะเชิงเทราจึงขอเชิญประชาชนและผู้ที่สนใจร่วมชิม ช้อป ไอศกรีมผลไม้ ผลิตภัณฑ์ OTOP และ OTOP ชวนชิม ในงาน"มหกรรมไอศกรีมผลไม้แปดริ้วปี2557 ” ระหว่างวันที่ 24-25 เมษายน 2557 ตั้งเวลา 10.00 น. เป็นต้นไป ณ บริเวณสนามหน้าศาลาจัตุรมุข หน้าศาลากลางจังหวัดฉะเชิงเทรา
นายไพศาล วิมลรัตน์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทรา กล่าวว่า การจัดงาน"มหกรรมไอศกรีมผลไม้แปดริ้ว ปี2557 ” มีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นการประชาสัมพันธ์ขับเคลื่อนโครงการพัฒนาผลิตภัณฑ์ไอศกรีมจากผลไม้และผลิตภัณฑ์ OTOP จากผลิตผลทางการเกษตรของจังหวัดฉะเชิงเทราให้เป็นสินค้าที่มีความแปลกใหม่ มีความโดดเด่น มีรูปแบบและคุณภาพที่สอดคล้องกับความต้องการของตลาด อีกทั้งเป็นการกระตุ้นการตลาด เพิ่มศักยภาพด้านการท่องเที่ยวของจังหวัด ก่อให้เกิดรายได้เพิ่มให้กับผู้ผลิต ผู้ประกอบการในการพัฒนารูปแบบ รสชาติ ให้มีความหลากหลาย ตรงกับความต้องของตลาด ตลอดจนเป็นการสร้างเอกลักษณ์ของจังหวัดฉะเชิงเทรา สร้างมูลค่าเพิ่มแก่ผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรของจังหวัดฉะเชิงเทรา สามารถพัฒนาเป็นจุดขายด้านการท่องเที่ยวของจังหวัดได้
จังหวัดฉะเชิงเทราจึงขอเชิญประชาชนและผู้ที่สนใจร่วมชิม ช้อป ไอศกรีมผลไม้ ผลิตภัณฑ์ OTOP และ OTOP ชวนชิม ในงาน"มหกรรมไอศกรีมผลไม้แปดริ้วปี2557 ” ระหว่างวันที่ 24-25 เมษายน 2557 ตั้งเวลา 10.00 น. เป็นต้นไป ณ บริเวณสนามหน้าศาลาจัตุรมุข หน้าศาลากลางจังหวัดฉะเชิงเทรา
ชาญณรงค์/ข่าว-ภาพ
ส.ปชส.ฉะเชิงเทรา
ส.ปชส.ฉะเชิงเทรา
พ่อเมืองแปดริ้วนำส่วนราชการออกหน่วยเคลื่อนที่ บำบัดทุกข์ บำรุงสุข สร้างรอยยิ้มให้ประชาชนในพื้นที่อำเภอบางน้ำเปรี้ยว
วันนี้ (24 เม.ย. 57 ) นายอนุกูล ตังคณานุกูลชัย ผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทรา พร้อมด้วย นางมารยาท ตังคณานุกูลชัย นายกเหล่ากาชาดจังหวัดฉะเชิงเทรา หัวหน้าส่วนราชการ หน่วยงานรัฐวิสาหกิจ ภาคเอกชน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และผู้นำชุมชน ออกเยี่ยมเยียนพบปะประชาชนในพื้นที่ห่างไกล ตามโครงการ"หน่วยบำบัดทุกข์ บำรุงสุข สร้างรอยยิ้มให้ประชาชน” (โครงการจังหวัดเคลื่อนที่ ) ณ โรงเรียนหมอนทองวิทยา หมู่ที่ 7 ตำบลหมอนทอง อำเภอบางบางน้ำเปรี้ยวพร้อมนำการบริการเคลื่อนที่ของหน่วยงานต่าง ๆ ไปให้บริการพี่น้องประชาชน และเพื่อให้ส่วนราชการ ได้มีโอกาสพบปะประชาชนในท้องที่ พร้อมแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนและหาทางช่วยเหลือในเบื้องต้นซึ่งเป็นไปตามนโยบายของรัฐบาลและของจังหวัดฉะเชิงเทรา
โอกาสนี้ผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทราได้นำข้าราชการและประชาชนตำบลหมอนทอง กล่าวคำปฏิญาณเทิดทูนสถาบันของชาติ ต่อหน้าพระบรมสาทิสลักษณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ และร่วมร้องเพลงสรรเสริญพระบารมีและสดุดีมหาราชา เพื่อเป็นการแสดงออกถึงความจงรักภักดี พร้อมกันนี้ผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทรา ได้กล่าวฝากถึงแนวทางการดำเนินชีวิตที่จะทำให้เกิดความร่มเย็นเป็นสุขในหมู่บ้าน/ชุมชน คือ ความจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ ความสามัคคี การเคารพนับถือผู้สูงอายุ การสร้างความอบอุ่นแก่ครอบครัว การช่วยกันป้องกันแก้ไขปัญหายาเสพติด การดูแลรักษาสุขภาพให้ปลอดภัยจากโรคภัยไข้เจ็บต่าง ๆ รวมถึงการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
สำหรับโครงการจังหวัดเคลื่อนที่ยังได้จัดประชุมเสวนาเวทีนี้มีคำตอบ เพื่อเป็นการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนให้มีประสิทธิภาพเพิ่มมากขึ้น รวมทั้งได้มีการมอบสื่อการพัฒนาเด็กเล็กแก่ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กในพื้นที่ มอบทุนการศึกษาแก่เด็กนักเรียนยากจน มอบหนังสือเผยแพร่ความรู้เกี่ยวกับสหกรณ์ แก่โรงเรียนในพื้นที่ มอบเงินสงเคราะห์ครอบครัวผู้มีรายได้น้อยและไร้ที่พึ่ง มอบถุงยังชีพ เครื่องอุปโภคและบริโภคกับราษฎรที่ยากจน และโอกาสเดียวกันนี้ผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทรา นายกเหล่ากาชาดจังหวัดฉะเชิงเทรา หัวหน้าส่วนราชการ ได้ร่วมกันปลูกต้นไม้ และเยี่ยมชมกิจกรรมการให้บริการที่ส่วนราชการต่าง ๆ ได้มาร่วมกันจัดกิจกรรมให้บริการประชาชนอีกด้วย
โอกาสนี้ผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทราได้นำข้าราชการและประชาชนตำบลหมอนทอง กล่าวคำปฏิญาณเทิดทูนสถาบันของชาติ ต่อหน้าพระบรมสาทิสลักษณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ และร่วมร้องเพลงสรรเสริญพระบารมีและสดุดีมหาราชา เพื่อเป็นการแสดงออกถึงความจงรักภักดี พร้อมกันนี้ผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทรา ได้กล่าวฝากถึงแนวทางการดำเนินชีวิตที่จะทำให้เกิดความร่มเย็นเป็นสุขในหมู่บ้าน/ชุมชน คือ ความจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ ความสามัคคี การเคารพนับถือผู้สูงอายุ การสร้างความอบอุ่นแก่ครอบครัว การช่วยกันป้องกันแก้ไขปัญหายาเสพติด การดูแลรักษาสุขภาพให้ปลอดภัยจากโรคภัยไข้เจ็บต่าง ๆ รวมถึงการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
สำหรับโครงการจังหวัดเคลื่อนที่ยังได้จัดประชุมเสวนาเวทีนี้มีคำตอบ เพื่อเป็นการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนให้มีประสิทธิภาพเพิ่มมากขึ้น รวมทั้งได้มีการมอบสื่อการพัฒนาเด็กเล็กแก่ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กในพื้นที่ มอบทุนการศึกษาแก่เด็กนักเรียนยากจน มอบหนังสือเผยแพร่ความรู้เกี่ยวกับสหกรณ์ แก่โรงเรียนในพื้นที่ มอบเงินสงเคราะห์ครอบครัวผู้มีรายได้น้อยและไร้ที่พึ่ง มอบถุงยังชีพ เครื่องอุปโภคและบริโภคกับราษฎรที่ยากจน และโอกาสเดียวกันนี้ผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทรา นายกเหล่ากาชาดจังหวัดฉะเชิงเทรา หัวหน้าส่วนราชการ ได้ร่วมกันปลูกต้นไม้ และเยี่ยมชมกิจกรรมการให้บริการที่ส่วนราชการต่าง ๆ ได้มาร่วมกันจัดกิจกรรมให้บริการประชาชนอีกด้วย
ชาญณรงค์/ข่าว
ธนภัทร-ภาพ
ส.ปชส.ฉะเชิงเทรา
ธนภัทร-ภาพ
ส.ปชส.ฉะเชิงเทรา
กอ.รมน.ระยอง เดินหน้าสร้างเครือข่ายมวลชน ปลูกฝังอุดมการณ์รักชาติ ปกป้องและเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์
เมื่อเวลา 10.00 น.วันที่ 24 เม.ย.ที่ห้องประชุมศูนย์การเรียนรู้ชุมชน บ.ไออาร์พีซี จำกัด(มหาชน) อ.เมืองระยอง น.อ.กิจพัฒน์ นาคมอญ รองผู้อำนวยการกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน( กอ.รมน.) จังหวัดระยอง เป็นประธานเปิดการประชุมสัมมนาพัฒนาเครือข่ายมวลชน กอ.รมน. จังหวัดระยอง โดยมีประชาชนสมัครใจเข้าร่วมเป็นเครือข่าย กอ.รมน.จังหวัดระยอง จากอำเภอต่างๆ ในจังหวัด จำนวน 100 คน เข้าร่วมสัมมนา มี พ.ต.หญิง ปนัดดา ปานรักษา รองหัวหน้ากลุ่มงานกิจกรรมมวลชน กอ.รมน.จังหวัดระยอง และนายมาโนช โอสถเจริญ ประชาสัมพันธ์จังหวัดระยอง ร่วมเป็นเกียรติ
น.อ.กิจพัฒน์ กล่าวว่า เนื่องจากในสังคมไทย ได้เกิดความแตกแยกทางความคิด มีการปลุกระดมบิดเบือนข่าวสารจนเกิดความรุนแรงลุกลามไปสู่สังคมอย่างกว้างขวาง เกิดความเสียหายต่อประเทศชาติโดยรวมในทุกๆ ด้าน อีกทั้งยังมีการมุ่งทำลายความสามัคคี ลดความศรัทธาต่อสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ กอ.รมน.จังหวัดระยอง ในฐานะเป็นหน่วยงานความมั่นคงในระดับพื้นที่ จำเป็นจะต้องเสริมสร้างให้ประชาชนมีจิตสำนึกในหน้าที่ของพลเมืองที่ดี รวมทั้งให้เข้ามาส่วนร่วมในการปกป้องสถาบันและเทิดทูนสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ อีกทั้งยังช่วยกันเฝ้าระวังภัยคุกคามต่างๆ ที่มีผลกระทบต่อความมั่นคงกับเครือข่ายมวลชนในสาขาวิชาชีพต่างๆ กอ.รมน.จังหวัดระยอง จึงได้ประชุมสัมมนาดังกล่าวขึ้น โดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อสร้างเครือข่ายมวลชนให้เข้มแข็ง ปลูกฝังอุดมการณ์ รักชาติ รักสามัคคี มีส่วนร่วมในการปกป้องและเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์ในทุกโอกาส เป็นเครือข่ายเฝ้าระวังในการแก้ไขปัญหาภัยคุกคามที่มีผลกระทบต่อความมั่นคงของชาติ พร้อมทั้งจัดทำบัญชีข้อมูลเครือข่ายมวลชนของ กอ.รมน.จังหวัดระยอง ไว้ด้วย
น.อ.กิจพัฒน์ กล่าวว่า เนื่องจากในสังคมไทย ได้เกิดความแตกแยกทางความคิด มีการปลุกระดมบิดเบือนข่าวสารจนเกิดความรุนแรงลุกลามไปสู่สังคมอย่างกว้างขวาง เกิดความเสียหายต่อประเทศชาติโดยรวมในทุกๆ ด้าน อีกทั้งยังมีการมุ่งทำลายความสามัคคี ลดความศรัทธาต่อสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ กอ.รมน.จังหวัดระยอง ในฐานะเป็นหน่วยงานความมั่นคงในระดับพื้นที่ จำเป็นจะต้องเสริมสร้างให้ประชาชนมีจิตสำนึกในหน้าที่ของพลเมืองที่ดี รวมทั้งให้เข้ามาส่วนร่วมในการปกป้องสถาบันและเทิดทูนสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ อีกทั้งยังช่วยกันเฝ้าระวังภัยคุกคามต่างๆ ที่มีผลกระทบต่อความมั่นคงกับเครือข่ายมวลชนในสาขาวิชาชีพต่างๆ กอ.รมน.จังหวัดระยอง จึงได้ประชุมสัมมนาดังกล่าวขึ้น โดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อสร้างเครือข่ายมวลชนให้เข้มแข็ง ปลูกฝังอุดมการณ์ รักชาติ รักสามัคคี มีส่วนร่วมในการปกป้องและเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์ในทุกโอกาส เป็นเครือข่ายเฝ้าระวังในการแก้ไขปัญหาภัยคุกคามที่มีผลกระทบต่อความมั่นคงของชาติ พร้อมทั้งจัดทำบัญชีข้อมูลเครือข่ายมวลชนของ กอ.รมน.จังหวัดระยอง ไว้ด้วย
วฐิต/ข่าว
ระยองประชุมคณะกรรมการบริหารจัดการตลาดกลางและผลผลิตทางการเกษตรจังหวัดระยอง
เมื่อเวลา 09.00 น.วันที่ 24 เม.ย. 57 ที่ห้องประชุม1ชั้น 8 สำนักงานตึก อบจ.ระยอง อ.เมือง จ.ระยอง นายนิวัฒน์ พ้นชั่ว ประธานกรรมการคณะกรรมกาบริหารจัดการตลาดกลางและผลผลิตทางการเกษตรจังหวัดระยอง เป็นประธานการประชุม โดยมีนายปิยะ ปิตุเตชะ นายก อบจ.ระยอง นายสายหยุด อาบสุวรรณ เกษตรจังหวัดระยอง นายคัมภีร์ ศรีสุนทร รองปลัดการบริหารส่วนจังหวัดระยอง สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดระยองและผู้ที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุมอย่างคับคั่ง ซึ่งในที่ประชุมได้พูดถึงปัญหาผลไม้ล้นตลาด การส่งออก การหาเงินที่จะช่วยเหลือเกษตรกรในการรับซื้อผลไม้ นายนิวัฒน์ พ้นชั่ว ประธานกรรมการคณะกรรมกาบริหารจัดการตลาดกลางและผลผลิตทางการเกษตรจังหวัดระยอง กล่าว่าขณะนี้อย่างไม่เกิดปัญหาอะไร ส่วนเงินของโครงการช่วยเหลือเกษตรกร( คชก.)นั้นคาดว่าน่าจะยังไม่มานั้นชาวเกษตรกรก็ต้องช่วยเหลือตัวเองกันไป และหมุนเวียนกันไปคงมีการกู้ลืมเงินทาง ธ.ก.ส. บ้าง ทาง อบจ.ระยอง ยังไม่ได้สนับสนุนงบประมาณลงมา ซึ่งได้รับช่วยเหลือเป็นตะกร้า กล่องเป็นบรรจุหีบภัณฑ์มากว่า ถ้าชาวเกษตรกรทำคุณภาพผลไม้ส่งออกได้ รับรองว่าผลไม้ไม่เพียรพอกับการต้องการของตลาด เรื่องการส่งออกต้องดูต้นเดือนหน้าตั้งแต่วันที่ 10 พ.ค. ถึงวันที่ 10 มี.ค.57 ต้องดูกันเป็นระยะๆไปถ้าเป็นได้ก็อยากผลักดันเรื่องการส่งออกมากกว่า
ด้านนายสายหยุด อาบสุวรรณ เกษตรจังหวัดระยอง ได้กล่าวว่าปีนี้ผลิตผลไม้จากของจังหวัดระยองมีผลิตประมาณ111,000 ตันโดยประมาณร่วมผลไม้ทุกประเภทจะมีมากอยู่ในช่วงของเดือนพ.ค.ถึง มิ.ย. 57 นี้ ถือว่าเป็นช่วงที่ผลไม้ออกมาที่สุด ปัญหาของผลไม้มีอยู่ 2 ลักษณะคือ ความต้องการของตลาดผลไม้ ประเภทผลไม้เงาะจะเกินอยู่ประมาณ2พันตันส่วนทุเรียนเกินอยู่6พันตันร่วมแล้วประมาณ 8 พันตัน ซึ่งทางเกษตรจังหวัดระยองต้องมีการเตรียมการ เพื่อให้เกษตรกรได้รับราคาผลไม้ที่ดี ซึ่งปัญหาจะเกิดขึ้นในช่วงประมาณ 15 วันนี้แต่ผลไม้ทุเรียนจะไม่มีปัญหาซึ่งการส่งออกของผลไม้ทุเรียนนั้นสามารถไปด้วยกันได้ดีทั้งที่เกินความต้องการของตลาดในประเทศไทย จะมีปัญหาในส่วนของมังคุดในเรื่องคุณภาพของผิวลาย ตกขนาด ปัญหาเหล่านี้ ซึ่งต้องช่วยเหลือชาวเกษตรกรไม่ว่าจะเป็นทางโครงการช่วยเหลือเกษตรกร( คชก.)บ้าง ซึ่งมีการเจรจาสิ่งค้าระหว่างจังหวัดกับจังหวัดให้สิ่งผลไม้ได้ระบายออกไปสู่ต่างจังหวัดระยองไปยังภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือซึ่งเป็นทางออกของผลไม้ที่ดีที่สุด ในส่วนที่จะช่วยเหลือชาวเกษตรกรได้อีกคือสหกรณ์เกษตร สหกรณ์ก็จะทำเรื่องของศูนย์กระจ่ายการผลิตภัณฑ์ ซึ่งจะมีผลผลิตของเกษตรกรในนามเกษตรกรไปอีกสหกรณ์หนึ่งและทางสหกรณ์หนึ่งที่อยู่ต่างจังหวัดที่ได้ซึ่งเป็นคู่ค้ากัน
ส่วนสำนักงานเกษตรจังหวัดระยองได้ประสานทางโรงงานอุตสาหกรรมที่มีความต้องการที่จะรับซื้อผลผลิตจากเกษตรกรหรือกลุ่มวิสากิจชุมชนที่อยู่ในจังหวัดระยองที่จะนำออกไปจำหน่ายให้ในช่วงไหนเวลาไหนประมาณเท่าไร สำนักงานการเกษตรกำลังสำรวจอยู่ นายณรงค์ เอี่ยมพิทักษ์ ประธานกรรมการบริษัทแอลเคยูนิตี้ จำกัด ผู้จำหน่ายผลไม้ส่งออกต่างประเทศกล่าวว่า เรื่องปัญหาการส่งออกผลไม้ในปีนี้ ทางบริษัทส่งออกนั้นปัญหาไม่มี ในส่วนของจังหวัดระยองผลรุ่นแรกก็จะหมดไป รุ่นที่ 2 ก็ออกในช่วงของวันที่ 10 พ.ค. และรุ่นที่ 3 จะช่วงเดือน ก.ค. 57 จังหวัดระยองผลไม้มีถึง 3 รุ่น สำคัญตลาดต่างประเทศนั้นถ้าในปีนี้คาดว่าไม่น่าจะมีปัญหาอะไรมากนัก
สำหรับประเทศไทยน่าจะมีปัญหามากกว่าเพราะหลายองค์กรและในส่วนราชการที่เคยช่วยเหลือในด้านงบประมาณผลักดันกระจ่ายผลไม้ออกสู่ตลาดต่างจังหวัดปีนี้ จากการประชุมมา อบจ.ระยองได้มีการพลักดันกระจ่ายตลาดไปสู่ต่างจังหวัด ผลไม้ในส่วนจังหวัดระยองได้ผลักดันไปไม่ต่ำกว่า 300-400 ตันออกสู่ต่างจังหวัด ซึ่งคงนี้เป็นปัจจัยและตัวมีปัญหาให้กับจังหวัดระยองในเรื่องผลไม้ในฤดูกาลนี้ ผลไม้ประเภทมังคุดว่ามีอายุสั้นกว่าผลไม้อย่างอื่น ผลไม้ที่มีอายุสั้นจะทำให้ตลาดผลไม้ที่เรียกกันว่าตลาดตายซึ่งหมายความว่าราคานั้นต่ำเร็ว ราคาผลไม้เช่นมังคุดซื้อจำนวนกิโลกรัมละ5 บาทต้องขายออกในกิโลกรัม 5 บาทเช่นกัน ลักษณะนี้คือปัญหาของจังหวัดระยอง ปัญหาเรื่องผลไม้ล้นตลาดนั้นเกิดขึ้นอย่างแน่นอน ซึ่งประมาณผลไม้นั้นมีมากขึ้นกว่าปีที่ผ่านมา และปีที่ผ่านมาเกิดประสพปัญหาอยู่ช่วงประมาณ 1 สัปดาห์เพราะไม่ได้ประกันราคาไว้ ซึ่งปัญหาต่างๆนั้นอยากให้หน่วยงานราชการเข้ามาดูแลเรื่องของผลไม้ให้มากขึ้นเพราะคาดว่าผลไม้ในปีนี้มีจำนวนมากอย่างแน่นอน
ด้านนายสายหยุด อาบสุวรรณ เกษตรจังหวัดระยอง ได้กล่าวว่าปีนี้ผลิตผลไม้จากของจังหวัดระยองมีผลิตประมาณ111,000 ตันโดยประมาณร่วมผลไม้ทุกประเภทจะมีมากอยู่ในช่วงของเดือนพ.ค.ถึง มิ.ย. 57 นี้ ถือว่าเป็นช่วงที่ผลไม้ออกมาที่สุด ปัญหาของผลไม้มีอยู่ 2 ลักษณะคือ ความต้องการของตลาดผลไม้ ประเภทผลไม้เงาะจะเกินอยู่ประมาณ2พันตันส่วนทุเรียนเกินอยู่6พันตันร่วมแล้วประมาณ 8 พันตัน ซึ่งทางเกษตรจังหวัดระยองต้องมีการเตรียมการ เพื่อให้เกษตรกรได้รับราคาผลไม้ที่ดี ซึ่งปัญหาจะเกิดขึ้นในช่วงประมาณ 15 วันนี้แต่ผลไม้ทุเรียนจะไม่มีปัญหาซึ่งการส่งออกของผลไม้ทุเรียนนั้นสามารถไปด้วยกันได้ดีทั้งที่เกินความต้องการของตลาดในประเทศไทย จะมีปัญหาในส่วนของมังคุดในเรื่องคุณภาพของผิวลาย ตกขนาด ปัญหาเหล่านี้ ซึ่งต้องช่วยเหลือชาวเกษตรกรไม่ว่าจะเป็นทางโครงการช่วยเหลือเกษตรกร( คชก.)บ้าง ซึ่งมีการเจรจาสิ่งค้าระหว่างจังหวัดกับจังหวัดให้สิ่งผลไม้ได้ระบายออกไปสู่ต่างจังหวัดระยองไปยังภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือซึ่งเป็นทางออกของผลไม้ที่ดีที่สุด ในส่วนที่จะช่วยเหลือชาวเกษตรกรได้อีกคือสหกรณ์เกษตร สหกรณ์ก็จะทำเรื่องของศูนย์กระจ่ายการผลิตภัณฑ์ ซึ่งจะมีผลผลิตของเกษตรกรในนามเกษตรกรไปอีกสหกรณ์หนึ่งและทางสหกรณ์หนึ่งที่อยู่ต่างจังหวัดที่ได้ซึ่งเป็นคู่ค้ากัน
ส่วนสำนักงานเกษตรจังหวัดระยองได้ประสานทางโรงงานอุตสาหกรรมที่มีความต้องการที่จะรับซื้อผลผลิตจากเกษตรกรหรือกลุ่มวิสากิจชุมชนที่อยู่ในจังหวัดระยองที่จะนำออกไปจำหน่ายให้ในช่วงไหนเวลาไหนประมาณเท่าไร สำนักงานการเกษตรกำลังสำรวจอยู่ นายณรงค์ เอี่ยมพิทักษ์ ประธานกรรมการบริษัทแอลเคยูนิตี้ จำกัด ผู้จำหน่ายผลไม้ส่งออกต่างประเทศกล่าวว่า เรื่องปัญหาการส่งออกผลไม้ในปีนี้ ทางบริษัทส่งออกนั้นปัญหาไม่มี ในส่วนของจังหวัดระยองผลรุ่นแรกก็จะหมดไป รุ่นที่ 2 ก็ออกในช่วงของวันที่ 10 พ.ค. และรุ่นที่ 3 จะช่วงเดือน ก.ค. 57 จังหวัดระยองผลไม้มีถึง 3 รุ่น สำคัญตลาดต่างประเทศนั้นถ้าในปีนี้คาดว่าไม่น่าจะมีปัญหาอะไรมากนัก
สำหรับประเทศไทยน่าจะมีปัญหามากกว่าเพราะหลายองค์กรและในส่วนราชการที่เคยช่วยเหลือในด้านงบประมาณผลักดันกระจ่ายผลไม้ออกสู่ตลาดต่างจังหวัดปีนี้ จากการประชุมมา อบจ.ระยองได้มีการพลักดันกระจ่ายตลาดไปสู่ต่างจังหวัด ผลไม้ในส่วนจังหวัดระยองได้ผลักดันไปไม่ต่ำกว่า 300-400 ตันออกสู่ต่างจังหวัด ซึ่งคงนี้เป็นปัจจัยและตัวมีปัญหาให้กับจังหวัดระยองในเรื่องผลไม้ในฤดูกาลนี้ ผลไม้ประเภทมังคุดว่ามีอายุสั้นกว่าผลไม้อย่างอื่น ผลไม้ที่มีอายุสั้นจะทำให้ตลาดผลไม้ที่เรียกกันว่าตลาดตายซึ่งหมายความว่าราคานั้นต่ำเร็ว ราคาผลไม้เช่นมังคุดซื้อจำนวนกิโลกรัมละ5 บาทต้องขายออกในกิโลกรัม 5 บาทเช่นกัน ลักษณะนี้คือปัญหาของจังหวัดระยอง ปัญหาเรื่องผลไม้ล้นตลาดนั้นเกิดขึ้นอย่างแน่นอน ซึ่งประมาณผลไม้นั้นมีมากขึ้นกว่าปีที่ผ่านมา และปีที่ผ่านมาเกิดประสพปัญหาอยู่ช่วงประมาณ 1 สัปดาห์เพราะไม่ได้ประกันราคาไว้ ซึ่งปัญหาต่างๆนั้นอยากให้หน่วยงานราชการเข้ามาดูแลเรื่องของผลไม้ให้มากขึ้นเพราะคาดว่าผลไม้ในปีนี้มีจำนวนมากอย่างแน่นอน
วฐิต/ข่าว
จับได้แล้วคนร้ายปล้นร้านเสื้อผ้าบูติ๊กกลางเมืองระยอง มีคนในร้านร่วม
เมื่อเวลา 17.00 น.ของวันที่ (23 เมษายน 57) พลตำรวจตรีสมนึก บุรมิ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดระยอง พร้อมด้วย พ.ต.อ.สุกิตติ ไสวเกียรติ ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรเมืองระยอง ได้ร่วมกันแถลงข่าวการจับกุมผู้ต้องหาคดีปล้นทรัพย์ร้านขายเสื้อผ้าบูติ๊ค "เดือน” ตั้งอยู่เลขที่ 292 – 292/1 ถนนสุขุมวิท ตำบลท่าประดู่ อำเภอเมืองระยอง เหตุเกิดเมื่อวันที่ 16 มีนาคม 2557 ที่ผ่านมา โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนสถานีตำรวจภูธรเมืองระยอง ได้จับกุมตัว นายชัชชัย (เบริ์ด) บุราคม อายุ 30 ปี นายณัฐวุฒิ (เคน) อ้วนอำพล อายุ 23 ปีและนางสาวลลิตา (มิ้ว) ทดคำใส อายุ 22 ปี พร้อมรถยนต์กระบะวีโก้สีดำ ทะเบียน ผฉ – 9417 ชลบุรี ซึ่งเป็นยานพาหนะในการก่อเหตุ)
ทั้งนี้โดยเมื่อเวลา 11.30 น.ของวันที่ 16 มีนาคม ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นวันที่เกิดเหตุ มีคนร้ายเป็นชาย 3 คน ได้บุกเข้าไปในร้านเดือน แล้วใช้กำลังทำร้ายจับนางสาวทอรุ้ง (เดือน) สิริวัฒนโกสิทธิ์ อายุ 49 ปี เจ้าของร้าน( ผู้เสียหาย) มัดมือไขว้หลังใช้ผ้าปิดตาก่อนจะพาไปค้นทรัพย์สินและบังคับให้เปิดตู้เชฟภายในห้องนอน แต่ไม่สามารถเปิดได้ จึงได้รื้อค้นและยึดเอาทรัพย์สินเป็นเครื่องประดับ กระเป๋า น้ำหอม รวมหลายรายการ พร้อมนำตัวผู้เสียหายและทรัพย์สินใส่รถยนต์เก๋งฮอนด้าซิตี้สีบรอนส์เงิน ทะเบียน กค. 6 ระยอง ซึ่งเป็นของผู้เสียหายหลบหนีไป ระหว่างทางผู้เสียหายได้พยายามพูดจาเกลี้ยกล่อมจนคนร้ายใจอ่อนยอมปล่อยตัวกลับมาพร้อมรถยนต์เก๋งคันดังกล่าวและทรัพย์สิน ก่อนที่คนร้ายจะแยกย้ายกันหลบหนี
หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดภายในร้าน พบว่าคนร้ายที่ร่วมก่อเหตุมีทั้งหมด 4 คน และพบว่านางสาวลลิตา (มิ้ว) ทดคำใส ซึ่งทำงานเป็นลูกจ้างในร้านมีส่วนร่วมกระทำความผิดและหลังเกิดเหตุได้หายตัวไป เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้รวบรวมหลักฐานและขอให้ศาลออกหมายจับ และออกติดตามจนสามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาทั้ง 3 คน ได้ที่เมืองทองธานี จังหวัดนนทบุรี ส่วนรถยนต์กระบะวีโก้สีดำที่ใช้เป็นยานพาหนะก่อเหตุเป็นของนายเฉลิมพงษ์ ทดคำใส บิดานางสาวลลิตา ฯ ที่ผู้ต้องหายืมมาก่อเหตุ
ทั้งนี้โดยเมื่อเวลา 11.30 น.ของวันที่ 16 มีนาคม ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นวันที่เกิดเหตุ มีคนร้ายเป็นชาย 3 คน ได้บุกเข้าไปในร้านเดือน แล้วใช้กำลังทำร้ายจับนางสาวทอรุ้ง (เดือน) สิริวัฒนโกสิทธิ์ อายุ 49 ปี เจ้าของร้าน( ผู้เสียหาย) มัดมือไขว้หลังใช้ผ้าปิดตาก่อนจะพาไปค้นทรัพย์สินและบังคับให้เปิดตู้เชฟภายในห้องนอน แต่ไม่สามารถเปิดได้ จึงได้รื้อค้นและยึดเอาทรัพย์สินเป็นเครื่องประดับ กระเป๋า น้ำหอม รวมหลายรายการ พร้อมนำตัวผู้เสียหายและทรัพย์สินใส่รถยนต์เก๋งฮอนด้าซิตี้สีบรอนส์เงิน ทะเบียน กค. 6 ระยอง ซึ่งเป็นของผู้เสียหายหลบหนีไป ระหว่างทางผู้เสียหายได้พยายามพูดจาเกลี้ยกล่อมจนคนร้ายใจอ่อนยอมปล่อยตัวกลับมาพร้อมรถยนต์เก๋งคันดังกล่าวและทรัพย์สิน ก่อนที่คนร้ายจะแยกย้ายกันหลบหนี
หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดภายในร้าน พบว่าคนร้ายที่ร่วมก่อเหตุมีทั้งหมด 4 คน และพบว่านางสาวลลิตา (มิ้ว) ทดคำใส ซึ่งทำงานเป็นลูกจ้างในร้านมีส่วนร่วมกระทำความผิดและหลังเกิดเหตุได้หายตัวไป เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้รวบรวมหลักฐานและขอให้ศาลออกหมายจับ และออกติดตามจนสามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาทั้ง 3 คน ได้ที่เมืองทองธานี จังหวัดนนทบุรี ส่วนรถยนต์กระบะวีโก้สีดำที่ใช้เป็นยานพาหนะก่อเหตุเป็นของนายเฉลิมพงษ์ ทดคำใส บิดานางสาวลลิตา ฯ ที่ผู้ต้องหายืมมาก่อเหตุ
วฐิต/ข่าว
ระยอง จัดงานเทศกาลดนตรี Samet in love ส่งเสริมการท่องเที่ยวเกาะเสม็ด คาดเงินสะพัดกว่า 50 ล้านบาท
วันที่ 23 เม.ย.57 นายวราวุธ ปิ่นเงิน รองผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง เปิดเผยว่า จังหวัดระยอง พร้อมส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง อาทิ สำนักงานการท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัด อุทยานแห่งชาติเขาแหลมหญ้า – หมู่เกาะเสม็ด สถานีตำรวจภูธรเพ ฯ9ฯ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และบริษัทบูสท์พลัส จำกัด กำหนดจัดงานเทศกาลดนตรี Samet in love เพื่อคงไว้เพื่อให้เป็นเทศกาลส่งเสริมการท่องเที่ยวในช่วง low Season ของเกาะเสม็ด ซึ่งในปีนี้นับเป็นครั้งที่ 5 แล้ว โดยจะจัดขึ้นระหว่างวันเสาร์ที่ 31 พฤษภาคม ถึงวันอาทิตย์ที่ 1 มิถุนายน 2557 ที่บริเวณหาดทรายแก้ว เกาะเสม็ด จังหวัดระยอง โดยกิจกรรมในงานจะมีการแสดงดนตรีของศิลปินชื่อดังมากมายการ Paint สีสะท้อนแสงร่วมปาร์ตี้ใน Black Light Foam Party กิจกรรมนำร่องการอนุรักษ์รักษาสิ่งแวดล้อม เช่น การปลูกกิ่งปะการัง การรณรงค์ขี่จักรยานบนถนนเกาะเสม็ด และกิจกรรมคืนหาดสวยงามสู่เกาะเสม็ด ซึ่งหลังเสร็จสิ้นงานแล้วจะมีการเก็บขยะที่เกิดขึ้นระหว่างการจัดงานทั้งหมดส่งให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นนำไปดำเนินการตามกรรมวิธี อีกทั้งภายในงานนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรเพ จะเน้นในเรื่องของการรักษาความปลอดภัยดูแลผู้ที่มาร่วมงานอย่างเข้มแข็ง
คาดว่างานนี้จะมีนักท่องเที่ยวมาร่วมนับกว่า 10,000 คน ส่วนที่พักบนเกาะเสม็ดเวลานี้เต็มแล้ว แต่ยังมีที่พักบนฝั่งที่สามารถรองรับนักท่องเที่ยวได้อย่างเพียงพอ พร้อมทั้งมั่นใจว่าช่วงเวลาการจัดงานนี้จะมีเงินสะพัดกว่า 50 ล้านบาท
คาดว่างานนี้จะมีนักท่องเที่ยวมาร่วมนับกว่า 10,000 คน ส่วนที่พักบนเกาะเสม็ดเวลานี้เต็มแล้ว แต่ยังมีที่พักบนฝั่งที่สามารถรองรับนักท่องเที่ยวได้อย่างเพียงพอ พร้อมทั้งมั่นใจว่าช่วงเวลาการจัดงานนี้จะมีเงินสะพัดกว่า 50 ล้านบาท
วฐิต/ข่าว
อบต.หนองบัว จัดสัมมนาและศึกษาดูงาน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการปฏิบัติงานให้แก่ผู้บริหาร และพนักงานส่วนท้องถิ่น
เมื่อวันที่ 23 เม.ย.57 ที่โรงแรมสตาร์ระยอง นายสุจินต์ สุขเกิด นายกองค์การบริหารส่วนตำบล(อบต.)หนองบัว อ.บ้านค่าย จ.ระยอง เป็นประธานเปิดโครงการฝึกอบรมสัมมนาศึกษาดูงาน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการปฏิบัติงานให้แก่ผู้บริหาร และพนักงานส่วนท้องถิ่น โดยมีผู้บริหาร และพนักงาน อบต.หนองบัว เข้าร่วมโครงการดังกล่าว จำนวน 100 คน โดยมีนายไตรภพ บันเทิงสุข ปลัด อบต.หนองบัว ร่วมเป็นเกียรติฯ
นายไตรภพ กล่าวว่า การบริหารจัดการภาครัฐในปัจจุบันได้ยึดหลักธรรมาภิบาล เพื่อให้การทำงานเกิดประสิทธิภาพและประสิทธิผลและความคุ้มค่าเปิดเผย โปร่งใส และเน้นการมีส่วนร่วมของประชาชน มุ่งผลสัมฤทธิ์ ซึ่งเป็นไปตามพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดี พ.ศ.2556 ทำให้หน่วยงานราชการต่างๆ ต้องปรับเปลี่ยนวิธีการคิดใหม่ ให้มุ่งเน้นประชาชนเป็นศูนย์กลาง และวิธีการทำงาน เพื่อมุ่งไปสู่การเป็นองค์กรสมัยใหม่ เพื่อให้ได้รับการยอมรับและสนับสนุนจากประชาชนอย่างต่อเนื่องและสม่ำเสมอ อบต.หนองบัว จึงได้จัดทำโครงการดังกล่าวขึ้นมา โดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อเป็นการเพิ่มพูนความรู้ให้พนักงาน ให้มีประสิทธิภาพในการทำงานและการให้บริการประชาชนในพื้นที่ และเพื่อส่งเสริมและสนับสนุนให้บุคลากร ผู้บริหาร ลูกจ้าง และพนักงานจ้างของ อบต.หนองบัว ได้ศึกษาหาความรู้และประสบการณ์จากสถานที่ต่างๆ เพื่อนำมาพัฒนาองค์กรและชุมชน ให้มีความเจริญก้าวหน้าอย่างยั่งยืนต่อไป
วฐิต/ข่าว
ระยอง ติวเข้ม อปพร.ในพื้นที่ พร้อมมอบประกาศเกียรติคุณ อปพร.ปฏิบัติงานดีเด่น
เมื่อวันที่ 23 เม.ย.ที่ห้องประชุมสำนักงานเทศบาลเมืองมาบตาพุด อ.เมืองระยอง วันที่ 23 เม.ย.นายธีรวัฒน์ สุดสุข ปลัดจังหวัดระยอง เป็นประธานมอบใบประกาศเกียติคุณให้แก่อาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน(อปพร.) จังหวัดระยอง 27 คน พร้อมเปิดการประชุมประชาคม อปพร.จังหวัดระยอง โดยมี อปพร.ระยอง เข้าร่วมประชุม 120 คน โดยมีนายจุมพฏ วรรณศิริ หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดระยอง ร่วมเป็นเกียรติฯ
นายจุมพฏ กล่าวว่า พระราชบัญญัติป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย พ.ศ.2550 กำหนดให้กรมการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เป็นหน่วยงานกลางของรัฐ ในการดำเนินการเกี่ยวกับการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยของประเทศ มีนโยบายเกี่ยวกับการป้องกันบรรเทาสาธารณภัย โดยประสานความร่วมมือกับศูนย์อาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือนองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น(อปท.) ในพื้นที่ ดำเนินพัฒนายกระดับมาตรฐานศูนย์ อปพร.ของตนเองทั้งด้านสถานที่ การบริหารจัดการ การบริการประชาชน และด้านสวัสดิการ เพื่อให้สามารถบริหารจัดการสาธารณภัยได้อย่างเป็นระบบและมีประสิทธิภาพ และเป็นกำลังหลักภาคประชาชนในการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยในทุกพื้นที่ รวมทั้งจัดอบรมทบทวนอาสาสมัคร อปพร. ให้ครบทุก อปท. โดยเฉพาะพื้นที่เป้าหมายเกิดภัยพิบัติบ่อยครั้ง และเกิดซ้ำซาก ซึ่งปัจจุบัน จังหวัดระยอง มีอาสาสมัคร อปพร.จำนวน 7,328 คน เพื่อให้อาสาสมัคร อปพร.เป็นกำลังสำคัญในการสร้างความปลอดภัยในชีวิต และทรัพย์สินของประชาชนอย่างยั่งยืน จังหวัดระยอง จึงได้จัดประชุมดังกล่าวขึ้น ทั้งนี้เพื่อเสริมสร้างสนับสนุนให้ศูนย์ อปพร.ในพื้นที่ทุกระดับ มีความเข้มแข็ง และขยายผลการดำเนินงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยทั้งในภาวะปกติและฉุกเฉิน อย่างต่อเนื่องและยั่งยืน ในโอกาสนี้ทางสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดระยอง ยังได้มอบประกาศเกียรติคุณเป็นขวัญกำลังใจ สำหรับอาสาสมัคร อปพร.ที่ปฏิบัติงานดีเด่นอีกด้วย
นายจุมพฏ กล่าวว่า พระราชบัญญัติป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย พ.ศ.2550 กำหนดให้กรมการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เป็นหน่วยงานกลางของรัฐ ในการดำเนินการเกี่ยวกับการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยของประเทศ มีนโยบายเกี่ยวกับการป้องกันบรรเทาสาธารณภัย โดยประสานความร่วมมือกับศูนย์อาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือนองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น(อปท.) ในพื้นที่ ดำเนินพัฒนายกระดับมาตรฐานศูนย์ อปพร.ของตนเองทั้งด้านสถานที่ การบริหารจัดการ การบริการประชาชน และด้านสวัสดิการ เพื่อให้สามารถบริหารจัดการสาธารณภัยได้อย่างเป็นระบบและมีประสิทธิภาพ และเป็นกำลังหลักภาคประชาชนในการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยในทุกพื้นที่ รวมทั้งจัดอบรมทบทวนอาสาสมัคร อปพร. ให้ครบทุก อปท. โดยเฉพาะพื้นที่เป้าหมายเกิดภัยพิบัติบ่อยครั้ง และเกิดซ้ำซาก ซึ่งปัจจุบัน จังหวัดระยอง มีอาสาสมัคร อปพร.จำนวน 7,328 คน เพื่อให้อาสาสมัคร อปพร.เป็นกำลังสำคัญในการสร้างความปลอดภัยในชีวิต และทรัพย์สินของประชาชนอย่างยั่งยืน จังหวัดระยอง จึงได้จัดประชุมดังกล่าวขึ้น ทั้งนี้เพื่อเสริมสร้างสนับสนุนให้ศูนย์ อปพร.ในพื้นที่ทุกระดับ มีความเข้มแข็ง และขยายผลการดำเนินงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยทั้งในภาวะปกติและฉุกเฉิน อย่างต่อเนื่องและยั่งยืน ในโอกาสนี้ทางสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดระยอง ยังได้มอบประกาศเกียรติคุณเป็นขวัญกำลังใจ สำหรับอาสาสมัคร อปพร.ที่ปฏิบัติงานดีเด่นอีกด้วย
วฐิต/ข่าว
จ.ตราด จัดหน่วยบำบัดทุกข์ บำรุงสุข สร้างรอยยิ้มให้กับประชาชน ในพื้นที่ตำบลบางปิด อำเภอแหลมงอบ
( 23 เม.ย. 57 ) นางสาวเบญจวรรณ อ่านเปรื่อง ผู้ว่าราชการจังหวัดตราดนำส่วนราชการทั้งในระดับจังหวัดและอำเภอ ออกให้บริการประชาชนตามโครงการบำบัดทุกข์ บำรุงสุข สร้างรอยยิ้มให้กับประชาชน โดยการนำการบริการภาครัฐในลักษณะการบูรณาการงานให้บริการประชาชน ที่ศาลาเอนกประสงค์บ้านบางปิดบน หมู่ที่ 3 ตำบลบางปิด อำเภอแหลมงอบ จังหวัดตราดโดยมีส่วนราชการต่าง ๆ ออกให้บริการถึงในพื้นที่ เพื่อช่วยลดรายจ่ายในการเดินทาง และแก้ไขปัญหาได้อย่างเป็นรูปธรรม
ผู้ว่าราชการจังหวัดตราด กล่าวว่า การจัดโครงการนี้ทางจังหวัดมุ่งที่จะแก้ไขปัญหาให้กับประชาชนถึงในพื้นที่โดยนำการบริการระดับจังหวัดและอำเภอลงมาให้บริการประชาชน เพื่อนำไปสู่การแก้ไขปัญหาอย่างเป็นรูปธรรมพร้อมทั้งเป็นการนโยบายของรัฐบาลที่สำคัญในการแก้ไขปัญหาต่าง ๆ มาชี้แจงให้กับประชาชน สำหรับปัญหาที่ประชาชนต้องการให้หน่วยงานภาครัฐระดับจังหวัดขึ้นไป เข้ามาดำเนินการแก้ไขคือปัญหาขาดแคลนน้ำในการทำเกษตรกรในบางพื้นที่ทางจังหวัดได้ย้ำให้ อบต. บางปิด สำรวจพื้นที่เพื่อเตรียมประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งแก้ไข ในส่วนของปัยหาการกัดเซาะชายฝั่งในบางพื้นที่ของตำบลบางปิด ทางจังหวัดได้ขอให้ทางสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ร่วทกับสำนักงานโยธิธิการและผังเมืองดำเนินการสำรวจและหาทางแก้ไขต่อไป ในส่วนการดำเนินการทำเขื่อนกันคลื่น นับเป็นเรื่องละเอียดอ่อน ซึ่งหากดำเนินการแก้ไขปัญหาได้ในจุดใดก็ตาม อาจเกิดปัญหาในจุดอื่นใกล้เคียงที่ไม่ได้สร้างเขื่อนกันคลื่น ดังนั้นการดำเนินการในเรื่องนี้ต้องมีการสำรวจอย่างรอบคอบ อย่างไรก็ตามในช่วงนี้ผลผลิตผลไม้จะออกสู่ตลาด ทางจังหวัดขอวิงวอนให้เกตรกรผลิตผลไม้ที่มีคุณภาพออกสู่ตลาด โดยเฉพาะทุเรียนไม่ควรตัดทุเรียนอ่อนนำเข้าสู่ตลาด เนื่องจากจะเป็นการทำลายกลไกลด้านราคาในภาพรวม
ผู้ว่าราชการจังหวัดตราด กล่าวว่า การจัดโครงการนี้ทางจังหวัดมุ่งที่จะแก้ไขปัญหาให้กับประชาชนถึงในพื้นที่โดยนำการบริการระดับจังหวัดและอำเภอลงมาให้บริการประชาชน เพื่อนำไปสู่การแก้ไขปัญหาอย่างเป็นรูปธรรมพร้อมทั้งเป็นการนโยบายของรัฐบาลที่สำคัญในการแก้ไขปัญหาต่าง ๆ มาชี้แจงให้กับประชาชน สำหรับปัญหาที่ประชาชนต้องการให้หน่วยงานภาครัฐระดับจังหวัดขึ้นไป เข้ามาดำเนินการแก้ไขคือปัญหาขาดแคลนน้ำในการทำเกษตรกรในบางพื้นที่ทางจังหวัดได้ย้ำให้ อบต. บางปิด สำรวจพื้นที่เพื่อเตรียมประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งแก้ไข ในส่วนของปัยหาการกัดเซาะชายฝั่งในบางพื้นที่ของตำบลบางปิด ทางจังหวัดได้ขอให้ทางสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ร่วทกับสำนักงานโยธิธิการและผังเมืองดำเนินการสำรวจและหาทางแก้ไขต่อไป ในส่วนการดำเนินการทำเขื่อนกันคลื่น นับเป็นเรื่องละเอียดอ่อน ซึ่งหากดำเนินการแก้ไขปัญหาได้ในจุดใดก็ตาม อาจเกิดปัญหาในจุดอื่นใกล้เคียงที่ไม่ได้สร้างเขื่อนกันคลื่น ดังนั้นการดำเนินการในเรื่องนี้ต้องมีการสำรวจอย่างรอบคอบ อย่างไรก็ตามในช่วงนี้ผลผลิตผลไม้จะออกสู่ตลาด ทางจังหวัดขอวิงวอนให้เกตรกรผลิตผลไม้ที่มีคุณภาพออกสู่ตลาด โดยเฉพาะทุเรียนไม่ควรตัดทุเรียนอ่อนนำเข้าสู่ตลาด เนื่องจากจะเป็นการทำลายกลไกลด้านราคาในภาพรวม
ผู้ประกอบการเดินเรือเฟอร์รี่ แหลมงอบ – เกาะช้าง จ.ตราด สร้างความมั่นใจในระบบความปลอดภัยในการให้บริการผู้โดยสาร
( 23 เม.ย. 57 ) นายเลอสรวง สุทธิบุหงา รองผู้จัดการท่าเรือเฟอร์รี่เซนเตอร์พอยท์ ที่ให้บริการเรือข้ามฟากระหว่างอำเภอแหลมงอบ กับอำเภอเกาะช้าง จังหวัดตราด กล่าวว่า จากกรณีที่เกิดปัญหาเรือเฟอร์รี่ในประเทศเกาหลีใต้พลิกคว่ำ ส่งผลให้มีผู้บาดเจ็บ และเสียชีวิตจำนวนมาก ทั้งนี้ในส่วนของการบริการเรือเฟอร์รี่ข้ามเกาะช้างแห่งนี้ขอให้นักท่องเที่ยว ผู้โดยสารที่ใช้บริการมีความมั่นใจว่า เรือเฟอร์รี่ที่ให้บริการมีความปลอดภัย โดยเฉพาะเรือเฟอร์รี่เซนเตอร์พ้อยท์แห่งนี้ เป็นเรือเฟอร์รี่ที่มีสองท้อง จึงมีการทรงตัวที่ดีกว่าเรือเฟอร์รี่ท้องเดียว และในส่วนของพนักงานขับเรือหรือนายท้ายเรือก็มีใบอนุญาตเดินเรือที่ถูกต้องตามกฎหมายจากกรมเจ้าท่า ทั้งนี้ในส่วนของความปลอดภัยของผู้โดยสาร ได้มีการจัดเตรียมจำนวนชูชีพไว้พียงพอกับผู้โดยสารตามที่ระบุไว้ในใบอนุญาตทะเบียนเรือ นอกจากนี้ปัจจัยในการเดินเรือในทะเลระหว่างอำเภอแหลมงอบกับเกาะช้างมีคลื่นลมที่สงบ ประกอบกับไม่เคยพบปัญหาในลักษณะเช่นที่เกาหลีใต้เลยในน่านน้ำทะเลตราด ดังนั้นผู้โดยสารจึงมั่นใจในความปลอดภัยได้เมื่อใช้บริการ อย่างไรก็ตามในส่วนของเจ้าหน้าที่ภาครัฐ โดยสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาตราด ได้มีการจัดเจ้าหน้าที่ประจำท่าเรือโดยสารทุกแห่งของจังหวัดตราด ในการทำหน้าที่ตรวจตราความปลอดภัยก่อที่เรือโดยสารจะออกจากท่าทุกเที่ยวของการเดินเรือจึงเป็นการควบคุมเรื่องความปลอดภัยอีกชั้นหนึ่งด้วย
ขนส่ง จ.ตราด ขอเชิญผู้พิการจากการใช้รถใช้ถนน ขอรับความช่วยเหลือจัดซื้ออุปกรณ์สำหรับการดำรงชีพจากกองทุน กปถ.
( 23 เม.ย. 57 ) นางแสงจันทร์ จวบความสุข ขนส่งจังหวัดตราดเปิดเผยว่ากองทุนเพื่อความปลอดภัยในการใช้รถใช้ถนน (กปถ.) กรมการขนส่งทางบก ได้ดำเนินการจัดกิจกรรม โดยนำเงินรายได้จากการประมูลทะเบียนรถเลขสวยมอบให้แก่ผู้พิการที่ประสบภัยจากการใช้รถใช้ถนน เพื่อนำไปจัดซื้ออุปกรณ์ที่จำเป็นในการดำรงชีวิต ประจำปี 2557 อาทิ แขนเทียม ขาเทียม รถนั่งสำหรับคนพิการ เตียงสำหรับผู้พิการ ไม้เท้า และไม้ค้ำยัน ทั้งนี้เพื่อให้ผู้พิการสามารถดำรงชีวิตอยู่ได้อย่างปกติสุข ผู้พิการที่สนใจขอรับเงินจัดสรรค่าอุปกรณ์ช่วยเหลือผู้พิการสามารถยื่นคำขอได้ที่สำนักงานขนส่งจังหวัดตราด หรือที่กองทุนเพื่อความปลอดภัยในการใช้รถใช้ถนน กรมการขนส่งทางบก ได้ตั้งแต่บัดนี้ถึงวันที่ 2 พฤาภาคม 2557 สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ กลุ่มวิชาการขนส่ง สำนักงานขนส่งจังหวัดตราด หมายเลขโทรศัพท์ 0-3952-0227 หรือCallCenter 1584
รองผู้ว่า กกท.ตวจความคืบหน้าสนามกีฬากลางจังหวัดจันทบุรี
รองผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย พร้อมคณะตรวจความคืบหน้าการปรับปรุงสนามกีฬากลางจังหวัดจันทบุรีเพื่อใช้ในการแข่งขันกีฬาเยาวชนแห่งชาติครั้งที่ 31 จันทบูรเกมส์
บ่ายวันนี้ ( 24 เม.ย.57 ) ที่สนามกีฬากลางจังหวัดจันทบุรี นายสังเวียน บุญโต รองผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทยพร้อมคณะกรรมการตรวจการจ้าง ได้เดินทางมาตรวจติดตามความคืบหน้าโครงการการก่อสร้างสนามฟุตบอล ลู่ ลานวัสดุสังเคราะห์ สนามกีฬากลางจังหวัดจันทบุรี ที่จะใช้ในการจัดการแข่งขันกีฬาเยาวชนแห่งชาติครั้งที่ 31 จันทบูรเกมส์ โดยมี ผอ.การกีฬาแห่งประเทศไทยภาค 1 ผู้แทนสมาคมกีฬาจังหวัดจันทบุรี กกท.จังหวัดจันทบุรี กรรมการผู้จัดการบริษัทรับจ้างให้การต้อนรับ และครั้งนี้บริษัทที่รับจ้างได้ส่งมอบงานงวดแรกที่แล้วเสร็จ ประกอบด้วยงานปรับปรุงสนาม วางตัวหนอน ระบบรางระบายน้ำ ท่อใต้ดิน สปิงเกอร์ บ่อทราย ที่แล้วเสร็จแก่คณะกรรมการตรวจการจ้าง ทั้งนี้สนามกีฬากลางจังหวัดจันทบุรีจะเป็นสนามที่ใช้ในพิธีเปิด – ปิด การแข่งขันกีฬาเยาวชนแห่งชาติครั้งที่ 31 จันทบูรเกมส์ ที่กำหนดจัดการแข่งขันในระหว่างวันที่ 16 ถึง 27 มีนาคม 2558 โดยการก่อสร้างสนามฟุตบอล ลู่ – ลานกรีฑา วัสดุยางสังเคราะห์ จังหวัดเจ้าภาพทางการกีฬาแห่งประเทศไทยได้ว่าจ้างบริษัทอุตสาหกรรมพื้นยางโอลิมปิก จำกัด เป็นผู้ดำเนินการในวงเงิน 34,860,000 บาท เริ่มโครงการตั้งแต่ 25 กุมภาพันธ์ 2557 กำหนดแล้วเสร็จ 22 ตุลาคม 2557 รวมระยะเวลาการก่อสร้าง 240 วัน
บ่ายวันนี้ ( 24 เม.ย.57 ) ที่สนามกีฬากลางจังหวัดจันทบุรี นายสังเวียน บุญโต รองผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทยพร้อมคณะกรรมการตรวจการจ้าง ได้เดินทางมาตรวจติดตามความคืบหน้าโครงการการก่อสร้างสนามฟุตบอล ลู่ ลานวัสดุสังเคราะห์ สนามกีฬากลางจังหวัดจันทบุรี ที่จะใช้ในการจัดการแข่งขันกีฬาเยาวชนแห่งชาติครั้งที่ 31 จันทบูรเกมส์ โดยมี ผอ.การกีฬาแห่งประเทศไทยภาค 1 ผู้แทนสมาคมกีฬาจังหวัดจันทบุรี กกท.จังหวัดจันทบุรี กรรมการผู้จัดการบริษัทรับจ้างให้การต้อนรับ และครั้งนี้บริษัทที่รับจ้างได้ส่งมอบงานงวดแรกที่แล้วเสร็จ ประกอบด้วยงานปรับปรุงสนาม วางตัวหนอน ระบบรางระบายน้ำ ท่อใต้ดิน สปิงเกอร์ บ่อทราย ที่แล้วเสร็จแก่คณะกรรมการตรวจการจ้าง ทั้งนี้สนามกีฬากลางจังหวัดจันทบุรีจะเป็นสนามที่ใช้ในพิธีเปิด – ปิด การแข่งขันกีฬาเยาวชนแห่งชาติครั้งที่ 31 จันทบูรเกมส์ ที่กำหนดจัดการแข่งขันในระหว่างวันที่ 16 ถึง 27 มีนาคม 2558 โดยการก่อสร้างสนามฟุตบอล ลู่ – ลานกรีฑา วัสดุยางสังเคราะห์ จังหวัดเจ้าภาพทางการกีฬาแห่งประเทศไทยได้ว่าจ้างบริษัทอุตสาหกรรมพื้นยางโอลิมปิก จำกัด เป็นผู้ดำเนินการในวงเงิน 34,860,000 บาท เริ่มโครงการตั้งแต่ 25 กุมภาพันธ์ 2557 กำหนดแล้วเสร็จ 22 ตุลาคม 2557 รวมระยะเวลาการก่อสร้าง 240 วัน
จรัล/ภาพ/ข่าว ( 24 เม.ย. 57
ธเนศ เธียรนันทน์/ตรวจข่าว
จังหวัดจันทบุรี รณรงค์ออกกำลังกายเพื่อสุขภาพ
ผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรีนำหัวหน้าส่วนราชการ ข้าราชการ ประชาชน ร่วมรณรงค์ออกกำลังกายเพื่อสุขภาพที่แข็งแรง สร้างภูมิคุ้มกัน เป็นแบบอย่างแก่ประชาชน
เย็นวานนี้ ( 23 เม.ย.57 ) ที่บริเวณสวนสาธารณะสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ทุ่งนาเชย จังหวัดจันทบุรี นายเกรียงเดช เข็มทอง ผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรีได้นำหัวหน้าส่วนราชการ ข้าราชการ ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นร่วมออกกำลังกายเพื่อสุขภาพที่แข็งแรง ตามโครงการ เดิน – วิ่งเพื่อสุขภาพ ซึ่งเป็นไปตามนโยบายของผู้ว่าราชการจังหวัดที่ต้องการให้ประชาชนชาวจังหวัดจันทบุรีหันมาสนใจการออกกำลังกายเพื่อสุขภาพ ป้องกันโรคภัยไข้เจ็บ สร้างความกระปี้กระเป่าแก่ร่างกาย โดยให้ข้าราชการออกกำลังกายอย่างน้อยสัปดาห์ละ 1 ครั้งเป็นแบบอย่างแก่ประชาชนและกำหนดทุกวันพุธของสัปดาห์เป็นวันสปอตเดย์ ของจังหวัดจันทบุรี และการณรงค์ในโอกาสต่อไปผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรีจะนำหัวหน้าส่วนราชการ ข้าราชการไปออกกำลังกายตามสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญของจังหวัดจันทบุรีเพื่อเป็นการประชาสัมพันธ์แหล่งท่องเที่ยวและของดีเมืองจันท์อีกทางหนึ่งด้วย
จรัล/ภาพ/ข่าว ( 24 เม.ย. 57 )
ธเนศ เธียรนันทน์/ตรวจข่าว
มกุฎราชกุมาร สาธารณรัฐโซมาเลีย ทรงปลื้ม การจัดสวน สวนนงนุชพัทยา
มกุฎราชกุมาร สาธารณรัฐโซมาเลีย และ mr.mustafa oeace เอกอัครราชฑูตรประเทศโซมาเลีย ประจำประเทศไทย และคณะ ฯ ชื่นชมสวนนงนุชพัทยา แหล่งท่องเที่ยวชื่อดังก้องโลก มีศักยภาพไม่อายต่างประเทศ มีความหลากหลาย
beeidaige Mohamed มกุฎราชกุมาร สาธารณรัฐโซมาเลีย ทรงเสด็จ พร้อม mr.mustafa oeace เอกอัครราชฑูตรประเทศโซมาเลีย ประจำประเทศไทย มาเยี่ยมชมสวนนงนุช พัทยา อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี โดยมี นายกัมพล ตันสัจจาผู้อำนวยการ สวนนงนุช พัทยา นางพัทธนันท์ ขันติสุขพันธุ์ ผู้จัดการทั่วไป สวนนงนุช นายมานิจ นารินทร์รักษ์ รองผู้จัดการทั่วไปสวนนงนุชพัทยา นายชยุต แสนจันทร์กุล รองผู้จัดการทั่วไปสวนนงนุชพัทยา นายเสกสรร นาควงศ์ รองปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา รับเสด็จให้การต้อนรับ
โดยนายกัมพล ตันสัจจาผู้อำนวยการสวนนงนุช พัทยา ได้รับเสด็จ คณะท่าน beeidaige Mohamed มกุฎราชกุมาร สาธารณรัฐโซมาเลีย และmr.mustafa oeace เอกอัครราชฑูตรประเทศโซมาเลีย ประจำประเทศไทย เข้าเยี่ยมชมสวนสวย สัตว์น่ารัก ไม่ว่าจะเป็นสวนกระถาง สวนกล้วยไม้ สวนสับปะรดสี ทุ่งสวนชม ค่ายนงนุช โครงการรักษ์ต้นไม้ลดโลกร้อน ไบโอแก็ส สวนหินสโตนเฮ้นท์ สวนฝรั่งเศส วิวตึกมดและปิดท้ายด้วยการชมการแสดงศิลปวัฒนธรรม ช้างแสนรู้
นายกัมพล ตันสัจจาผู้อำนวยการสวนนงนุช พัทยา ได้กล่าวว่าพระองค์ท่านทรงเรียนมาว่าออยากจะมาดูวัฒนธรรมของประเทศต่างๆ ก่อนที่ท่านจะขึ้นครองราชย์ เป็นการส่วนพระองค์ พระองค์ท่านทรงได้ทราบถึง สวนนงนุช เมืองพัทยา ท่านจึงเจาะจงที่จะมาเที่ยวที่นี่ ผมจึงได้มีโอกาศรับใช้ ฝ่าพระบาท พาพระองค์ท่านเสด็จทั่วสวนและอธิบายแนวคิดที่เราได้ทำสวนว่าทำเพื่ออะไรและทำยังไงให้พระองค์ท่านฟัง พระองค์ท่านก็สนใจเป็นพิเศษ ผมเองก็เรียนท่านว่าหากท่านมีอะไรที่จะให้เราช่วยหรือแนะแนวคิดที่ท่านจะทำอะไรในประเทศของท่านเราก็ยินดีหรือจะส่งคนของท่านมาฝึกงานเรียนรู้กับเราเพื่อที่จะไปจัดสวนในประเทศของท่านเราก็พร้อมเสมอ พระองค์ท่านก็เป็นคนที่มีความสนใจเป็นพิเศษในเรื่องพันธุ์ไม้ จึงได้นำท่านไปดูพันธุ์ไม้ของประเทศพระองค์ท่านเองซึ่งเราก็มีปลูกอยู่ในสวนนงนุชเช่นกัน ท่านก็สนพระทัยเรื่องนี้มากครับ แล้วก็เรื่องการบริหารการท่องเที่ยวพระองท่านก็เห็นว่ามีชาวต่างชาติมาเที่ยวกันมากมาย ท่านก็ไม่ได้พูดอะไรมากนะครับแต่ท่านบอกว่าชอบคนไทย เพราะคนไทยเป็นคนที่ยิ้มแย้มแจ่มใส
beeidaige Mohamed มกุฎราชกุมาร สาธารณรัฐโซมาเลีย ทรงเสด็จ พร้อม mr.mustafa oeace เอกอัครราชฑูตรประเทศโซมาเลีย ประจำประเทศไทย มาเยี่ยมชมสวนนงนุช พัทยา อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี โดยมี นายกัมพล ตันสัจจาผู้อำนวยการ สวนนงนุช พัทยา นางพัทธนันท์ ขันติสุขพันธุ์ ผู้จัดการทั่วไป สวนนงนุช นายมานิจ นารินทร์รักษ์ รองผู้จัดการทั่วไปสวนนงนุชพัทยา นายชยุต แสนจันทร์กุล รองผู้จัดการทั่วไปสวนนงนุชพัทยา นายเสกสรร นาควงศ์ รองปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา รับเสด็จให้การต้อนรับ
โดยนายกัมพล ตันสัจจาผู้อำนวยการสวนนงนุช พัทยา ได้รับเสด็จ คณะท่าน beeidaige Mohamed มกุฎราชกุมาร สาธารณรัฐโซมาเลีย และmr.mustafa oeace เอกอัครราชฑูตรประเทศโซมาเลีย ประจำประเทศไทย เข้าเยี่ยมชมสวนสวย สัตว์น่ารัก ไม่ว่าจะเป็นสวนกระถาง สวนกล้วยไม้ สวนสับปะรดสี ทุ่งสวนชม ค่ายนงนุช โครงการรักษ์ต้นไม้ลดโลกร้อน ไบโอแก็ส สวนหินสโตนเฮ้นท์ สวนฝรั่งเศส วิวตึกมดและปิดท้ายด้วยการชมการแสดงศิลปวัฒนธรรม ช้างแสนรู้
นายกัมพล ตันสัจจาผู้อำนวยการสวนนงนุช พัทยา ได้กล่าวว่าพระองค์ท่านทรงเรียนมาว่าออยากจะมาดูวัฒนธรรมของประเทศต่างๆ ก่อนที่ท่านจะขึ้นครองราชย์ เป็นการส่วนพระองค์ พระองค์ท่านทรงได้ทราบถึง สวนนงนุช เมืองพัทยา ท่านจึงเจาะจงที่จะมาเที่ยวที่นี่ ผมจึงได้มีโอกาศรับใช้ ฝ่าพระบาท พาพระองค์ท่านเสด็จทั่วสวนและอธิบายแนวคิดที่เราได้ทำสวนว่าทำเพื่ออะไรและทำยังไงให้พระองค์ท่านฟัง พระองค์ท่านก็สนใจเป็นพิเศษ ผมเองก็เรียนท่านว่าหากท่านมีอะไรที่จะให้เราช่วยหรือแนะแนวคิดที่ท่านจะทำอะไรในประเทศของท่านเราก็ยินดีหรือจะส่งคนของท่านมาฝึกงานเรียนรู้กับเราเพื่อที่จะไปจัดสวนในประเทศของท่านเราก็พร้อมเสมอ พระองค์ท่านก็เป็นคนที่มีความสนใจเป็นพิเศษในเรื่องพันธุ์ไม้ จึงได้นำท่านไปดูพันธุ์ไม้ของประเทศพระองค์ท่านเองซึ่งเราก็มีปลูกอยู่ในสวนนงนุชเช่นกัน ท่านก็สนพระทัยเรื่องนี้มากครับ แล้วก็เรื่องการบริหารการท่องเที่ยวพระองท่านก็เห็นว่ามีชาวต่างชาติมาเที่ยวกันมากมาย ท่านก็ไม่ได้พูดอะไรมากนะครับแต่ท่านบอกว่าชอบคนไทย เพราะคนไทยเป็นคนที่ยิ้มแย้มแจ่มใส
ปริญญา/ข่าว/ภาพ
สวนวัฒนธรรมไทยสู่เวทีโลกใน มหกรรมพืชสวนโลกประเทศจีน
ณ ห้องนันทา เอบี สวนนงนุชพัทยา อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี นายพินิจ จารุสมบัติ ประธานสภาวัฒนธรรมไทย – จีน และส่งเสริมความสัมพันธ์ นายอิทธิพล คุณปลื้ม นายกเมืองพัทยา นายกำพล ตันสัจจา ผู้อำนวยการสวนนงนุชพัทยา ได้จัดงานแถลงข่าว โครงการสวนวัฒนธรรมไทยสู่เวทีอาเซียนและเวทีโลก ระหว่างกระทรวงวัฒนธรรม,กรมส่งเสริมวัฒนธรรม,สภาวัฒนธรรมไทย – จีน และส่งเสริมความสัมพันธ์ เมืองพัทยา,และสวนนงนุชพัทยา โดยมี นายภวัต เลิศมุกดา นายอำเภอสัตหีบ ตลอดจนแขกรับเชิญ และสื่อมวลชนร่วมภายในงาน
นายกำพล ตันสัจจา ผู้อำนวยการสวนนงนุชพัทยา กล่าวว่า สวนนงนุชพัทยา สัตหีบ ชลบุรี ได้รับมอบหมายจากกระทรวงวัฒนธรรม กรมส่งเสริมวัฒนธรรม สภาวัฒนธรรมไทย-จีน และส่งเสริมความสัมพันธ์ และเมืองพัทยา ให้เป็นตัวแทนประเทศไทยร่วมงานมหกรรมพืชสวนโลก ชิงเต่า 2014 ประเทศจีน เป็นงานระดับโลกแสดงนวัตกรรมเกี่ยวกับพืชสวนและสายน้ำแห่งวิธีไทย และยังเป็นโอกาสในการเผยแพร่มิติวัฒนธรรม นอกเหนือจากมิติทางการเกษตรอย่างเดียว มหกรรมงานพืชสวนโลก เป็นงานมหกรรมระดับนาๆชาติที่จัดโดยสมาคมพืชสวนระหว่างประเทศ โดยอนุมัติหรือมีมติให้เมืองหรือประเทศใดประเทศหนึ่งเป็นเจ้าภาพรับจัดงาน ระยะเวลาจัดงาน 3-6 เดือน มีผู้จัดแสดงมากกว่า 10 ประเทศ ซึ่งตามมติที่ประชุมเมื่อวันที่ 15 กันยายน 2552 ครั้งที่ 61 ที่เมืองซาราโกซา ประเทศสเปน เมืองชิงเต่า ประเทศจีน ได้รีบการคัดเลือกจากสมาคมพืชสวนระหว่างประเทศให้เป็นเจ้าภาพ ณ บริเวณอุทยานเขาไป๋กั่วสำหรับงานมหกรรมพืชสวนโลก ชิงเต่า 2014 ประเทศจีน ซึ่งเป็นงานระดับโลกโดยจัดขึ้นทุก 4 ปี โดยปี 2014 ประเทศจีนเป็นเจ้าภาพ สถานที่จัดงาน ณ เมืองชิงเต่า ประเทศจีน ระหว่างเดือน เมษายน-ตุลาคม 2557 โดยเชิญประเทศต่างๆ ในโลกเพื่อเข้าร่วมแสดงงานนวัตกรรมเกี่ยวกับพืชสวนและศิลปะการจัดสวน ตลอดจนแสดงอัตลักษณ์ของแต่ละประเทศ ในแง่การประชาสัมพันธ์ของประเทศนั้นๆ ในส่วนของประเทศไทยได้ใช้รูปแบบ สายน้ำแห่งวิธีไทยอันเป็นนิรันดร ความเป็นไทย จักถูกส่งผ่านวิถีแห่งสายน้ำ นำมาซึ้งการแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรมของไทยกับต่างชาติ หากรู้จักหยิบยืมนำมาปรับปรุงให้เกิดประโยชน์ อีกทั้งยังเป็นเวทีในการสื่อสารทางวัฒนธรรมกับคนจีน ซึ่งเป็นกลุ่มเป้าหมายที่ชื่นชอบวัฒนธรรมไทยเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว
นายพินิจ จารุสมบัติ ประธานสภาวัฒนธรรมไทย – จีน และส่งเสริมความสัมพันธ์ กล่าวว่า จากสายสัมพันธ์ระหว่างไทย-จีน เมืองชิงเต่าได้สถาปนาความสัมพันธ์ บ้านพี่เมืองน้องกับจังหวัดเชียงใหม่ นับตั้งแต่ปี 2552 ด้านการลงทุน การท่องเที่ยวและการศึกษา ในปี 2555 นครชิงเต่าได้ทำหนังสือบันทึกตกลงทำความเข้าใจ และสถาปนาความสัมพันธ์ บ้านพี่เมืองน้อง กับทางพัทยา เพื่อส่งเสริมการลงทุน การท่องเที่ยว ตลอดจนความร่วมมิกันเพื่อส่งเสริมและพัฒนาด้านต่างๆ จากความสัมพันธ์ดังกล่าวทางเมืองชิงเต่า ประเทศจีน ได้ทำหนังสือเชิญประเทศไทยเข้าร่วมการแสดงมหกรรมพืชสวนโลก 2014 ณ เมืองชิงเต่า โดยมอบพื้นที่ โซน A ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ดีที่สุดในส่วนของสวนอินเตอร์ ซึ่งมีขนาดพื้นที่ 1,353 ตารางเมตร เพื่อจัดแสดงเอกลักษณ์และประชาสัมพันธ์ในส่วนของประเทศไทย ทั้งด้านพืชสวนศิลปะการจัดสวน สถาปัตยกรรมตลอดจนสื่อแอกลักษณ์แห่งความเป็นไทย รวมทั้งจัดแสดงกิจกรรมต่างๆ เช่น ภาพลักษณ์ประเทศไทยด้านการท่องเที่ยว ศิลปวัฒนธรรม อาหารไทย สถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ประเทศไทยได้รับพื้นที่จัดแสดงในโซนสวนอินเตอร์ ขนาดพื้นที่จัดแสดง 1,353 ตารางเมตร ประกอบด้วยอาคารนิทรรศการ กว้าง 10 เมตร ยาว 19 เมตร สูง 9 เมตร แบ่งเป็น 3 ห้อง ห้องที่ 1 จัดแสดงพระราชกรณียกิจ ห้องที่ 2 จัดแสดงศิลปวัฒนธรรมของไทยแต่ละภาค 5 ภาค และสถานที่ท่องเที่ยวที่มีความสำคัญ 5 ภาค กิจกรรมต่างๆของประเทศไทย ห้องที่ 3 เป็นห้องวีไอพี รองรับบุคลสำคัญต่างๆจัดแสดงเรื่องราว และเอกลักษณ์แห่งความเป็นไทย ส่วนแสดงภายนอก จัดแสดงศิลปวัฒนธรรม ตลอดจน เอกลักษณ์ของความเป็นไทย ในแต่ละภูมิภาคของประเทศไทยประกอบกับการจัดภูมิทัศน์สวนโดยรอบ
นายอิทธิพล คุณปลื้ม นายกเมืองพัทยา กล่าวว่า เมืองพัทยา ได้เล็งเห็นถึงความสำคัญในการประชาสัมพันธ์ให้แก่นักท่องเที่ยวทั่วโลกได้รู้จักเมืองพัทยามากยิ่งขึ้น โดยได้มีการดำเนินงานด้านการพัฒนากายภาพ ในการตกแต่งทัศนียภาพและดำเนินกิจกรรมร่วมกัน และเพื่อให้เกิดการบูรณาการทรัพยากรและกิจกรรมด้านต่าง ๆ ร่วมกัน เมืองพัทยา กับ สวนนงนุชพัทยา ถือเป็นโอกาสดีที่จะทำให้คนทั่วโลกได้รู้จักประเทศไทย และเมืองพัทยาได้อย่างกว้างขวางมากยิ่งขึ้นโดยสวนนงนุชพัทยา
นายกำพล ตันสัจจา ผู้อำนวยการสวนนงนุชพัทยา กล่าวว่า สวนนงนุชพัทยา สัตหีบ ชลบุรี ได้รับมอบหมายจากกระทรวงวัฒนธรรม กรมส่งเสริมวัฒนธรรม สภาวัฒนธรรมไทย-จีน และส่งเสริมความสัมพันธ์ และเมืองพัทยา ให้เป็นตัวแทนประเทศไทยร่วมงานมหกรรมพืชสวนโลก ชิงเต่า 2014 ประเทศจีน เป็นงานระดับโลกแสดงนวัตกรรมเกี่ยวกับพืชสวนและสายน้ำแห่งวิธีไทย และยังเป็นโอกาสในการเผยแพร่มิติวัฒนธรรม นอกเหนือจากมิติทางการเกษตรอย่างเดียว มหกรรมงานพืชสวนโลก เป็นงานมหกรรมระดับนาๆชาติที่จัดโดยสมาคมพืชสวนระหว่างประเทศ โดยอนุมัติหรือมีมติให้เมืองหรือประเทศใดประเทศหนึ่งเป็นเจ้าภาพรับจัดงาน ระยะเวลาจัดงาน 3-6 เดือน มีผู้จัดแสดงมากกว่า 10 ประเทศ ซึ่งตามมติที่ประชุมเมื่อวันที่ 15 กันยายน 2552 ครั้งที่ 61 ที่เมืองซาราโกซา ประเทศสเปน เมืองชิงเต่า ประเทศจีน ได้รีบการคัดเลือกจากสมาคมพืชสวนระหว่างประเทศให้เป็นเจ้าภาพ ณ บริเวณอุทยานเขาไป๋กั่วสำหรับงานมหกรรมพืชสวนโลก ชิงเต่า 2014 ประเทศจีน ซึ่งเป็นงานระดับโลกโดยจัดขึ้นทุก 4 ปี โดยปี 2014 ประเทศจีนเป็นเจ้าภาพ สถานที่จัดงาน ณ เมืองชิงเต่า ประเทศจีน ระหว่างเดือน เมษายน-ตุลาคม 2557 โดยเชิญประเทศต่างๆ ในโลกเพื่อเข้าร่วมแสดงงานนวัตกรรมเกี่ยวกับพืชสวนและศิลปะการจัดสวน ตลอดจนแสดงอัตลักษณ์ของแต่ละประเทศ ในแง่การประชาสัมพันธ์ของประเทศนั้นๆ ในส่วนของประเทศไทยได้ใช้รูปแบบ สายน้ำแห่งวิธีไทยอันเป็นนิรันดร ความเป็นไทย จักถูกส่งผ่านวิถีแห่งสายน้ำ นำมาซึ้งการแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรมของไทยกับต่างชาติ หากรู้จักหยิบยืมนำมาปรับปรุงให้เกิดประโยชน์ อีกทั้งยังเป็นเวทีในการสื่อสารทางวัฒนธรรมกับคนจีน ซึ่งเป็นกลุ่มเป้าหมายที่ชื่นชอบวัฒนธรรมไทยเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว
นายพินิจ จารุสมบัติ ประธานสภาวัฒนธรรมไทย – จีน และส่งเสริมความสัมพันธ์ กล่าวว่า จากสายสัมพันธ์ระหว่างไทย-จีน เมืองชิงเต่าได้สถาปนาความสัมพันธ์ บ้านพี่เมืองน้องกับจังหวัดเชียงใหม่ นับตั้งแต่ปี 2552 ด้านการลงทุน การท่องเที่ยวและการศึกษา ในปี 2555 นครชิงเต่าได้ทำหนังสือบันทึกตกลงทำความเข้าใจ และสถาปนาความสัมพันธ์ บ้านพี่เมืองน้อง กับทางพัทยา เพื่อส่งเสริมการลงทุน การท่องเที่ยว ตลอดจนความร่วมมิกันเพื่อส่งเสริมและพัฒนาด้านต่างๆ จากความสัมพันธ์ดังกล่าวทางเมืองชิงเต่า ประเทศจีน ได้ทำหนังสือเชิญประเทศไทยเข้าร่วมการแสดงมหกรรมพืชสวนโลก 2014 ณ เมืองชิงเต่า โดยมอบพื้นที่ โซน A ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ดีที่สุดในส่วนของสวนอินเตอร์ ซึ่งมีขนาดพื้นที่ 1,353 ตารางเมตร เพื่อจัดแสดงเอกลักษณ์และประชาสัมพันธ์ในส่วนของประเทศไทย ทั้งด้านพืชสวนศิลปะการจัดสวน สถาปัตยกรรมตลอดจนสื่อแอกลักษณ์แห่งความเป็นไทย รวมทั้งจัดแสดงกิจกรรมต่างๆ เช่น ภาพลักษณ์ประเทศไทยด้านการท่องเที่ยว ศิลปวัฒนธรรม อาหารไทย สถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ประเทศไทยได้รับพื้นที่จัดแสดงในโซนสวนอินเตอร์ ขนาดพื้นที่จัดแสดง 1,353 ตารางเมตร ประกอบด้วยอาคารนิทรรศการ กว้าง 10 เมตร ยาว 19 เมตร สูง 9 เมตร แบ่งเป็น 3 ห้อง ห้องที่ 1 จัดแสดงพระราชกรณียกิจ ห้องที่ 2 จัดแสดงศิลปวัฒนธรรมของไทยแต่ละภาค 5 ภาค และสถานที่ท่องเที่ยวที่มีความสำคัญ 5 ภาค กิจกรรมต่างๆของประเทศไทย ห้องที่ 3 เป็นห้องวีไอพี รองรับบุคลสำคัญต่างๆจัดแสดงเรื่องราว และเอกลักษณ์แห่งความเป็นไทย ส่วนแสดงภายนอก จัดแสดงศิลปวัฒนธรรม ตลอดจน เอกลักษณ์ของความเป็นไทย ในแต่ละภูมิภาคของประเทศไทยประกอบกับการจัดภูมิทัศน์สวนโดยรอบ
นายอิทธิพล คุณปลื้ม นายกเมืองพัทยา กล่าวว่า เมืองพัทยา ได้เล็งเห็นถึงความสำคัญในการประชาสัมพันธ์ให้แก่นักท่องเที่ยวทั่วโลกได้รู้จักเมืองพัทยามากยิ่งขึ้น โดยได้มีการดำเนินงานด้านการพัฒนากายภาพ ในการตกแต่งทัศนียภาพและดำเนินกิจกรรมร่วมกัน และเพื่อให้เกิดการบูรณาการทรัพยากรและกิจกรรมด้านต่าง ๆ ร่วมกัน เมืองพัทยา กับ สวนนงนุชพัทยา ถือเป็นโอกาสดีที่จะทำให้คนทั่วโลกได้รู้จักประเทศไทย และเมืองพัทยาได้อย่างกว้างขวางมากยิ่งขึ้นโดยสวนนงนุชพัทยา
ปริญญา/ข่าว/ภาพ
ไทยแลนด์ มอเตอร์ เฟสติวัล รุกตลาดภูมิภาคเป็นปีที่ 2 เริ่มชลบุรีเป็นแห่งแรก ก่อนไปอีก 5 จังหวัดทั่วประเทศ
ปริญญา/ข่าว/ภาพ
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)