วันพฤหัสบดีที่ 3 กรกฎาคม พ.ศ. 2557

สืบสวนโรงพักพัทยาจับสมุนเอเย่นต์ค้ายาบ้ารายใหญ่เครือข่ายเรือนจำชลบุรี

พ.ต.อ.สุภธีร์ บุญครอง รอง ผบก.ภ.จว.ชลบุรี รักษาราชการแทน ผกก.สภ.เมืองพัทยา พ.ต.ท.ภูมิสิทธิ์ สิงห์เถื่อน รอง ผกก.สส พ.ต.ท.ไพโรจน์ เพ็ชรพลอย รรท.รอง ผกก.ป. พร้อมกำลังตำรวจชุดสืบสวน ร่วมกันแถลงข่าวจับกุมนายโสภณ หรืออู๊ด รัตนะ อายุ 35 ปี ชาว จังหวัดชลบุรี พร้อมของกลางยาบ้าจำนวน 4,000 เม็ด นายเอกชัย หรือเบริด สูหญ้านาง อายุ 19 ปี ชาว อำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี ของกลางยาบ้า 388 เม็ด และนายไพฑูรย์ หรือนัด ทีประเสริฐ อายุ 24 ปี ชาว จังหวัดหนองคาย พร้อมของกลางยาบ้า 100 เม็ด

สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.เมืองพัทยา สืบทราบว่า นายโสภณ หรืออู๊ด มีพฤติกรรมลักลอบจำหน่ายยาบ้าทั้งในเขตจังหวัดชลบุรี และเมืองพัทยา จึงส่งสายลับออกสืบสวนหาข่าวจนทราบว่านายโสภณ กำลังขับรถตู้ขนยาบ้าออกมาจากซอยสวนผึ้ง ตำบลหนองรี ผ่านทางถนนหมายเลข 334 (ชลบุรี-บ้านบึง) จึงนำกำลังตำรวจเดินทางไปจับกุมตัวไว้ได้พร้อมของกลางยาบ้า 4,000 เม็ด จากการสอบสวนให้การรับสารภาพว่า เมื่อไม่นานมานี้เคยติดคุกในคดียาเสพติดและไปรู้จักกับเอเย่นต์ค้ายาบ้าคนหนึ่งที่เรือนจำจังหวัดชลบุรี พอพ้นโทษออกมาจึงได้รับการติกต่อว่าจ้างจากเอเย่นต์คนดังกล่าว ให้ทำหน้าที่คอยไปเอายาบ้าที่เครือข่ายนำไปทิ้งไว้ตามจุดต่างๆ เพื่อนำไปส่งให้กับลูกค้า โดยได้รับค่าจ้างเป็นจำนวนเงิน 5,000 บาทต่อยาบ้า 1 มัด (2,000 เม็ด) จนมาถูกตำรวจจับกุมดังกล่าว

จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดเดียวกันได้ทำการขยายผลไปจับกุมนายเอกชัย ได้ที่หน้าศาลเจ้า ใน ตำบลเขาไม้แก้ว อำเภอบางละมุง ส่วนนายไพฑูรย์ จับได้ที่เล้าไก่ ซอยบ้านกำนันเขียว ตำบลเขาไม้แก้ว อำเภอบางละมุง ซึ่งแนวทางการสืบสวนทราบว่าทั้งคู่ได้สั่งซื้อยาบ้าจากเอเย่นต์ใหญ่ในเรือนจำชลบุรี โดยมีนายโสภณ เป็นคนนำมาส่งให้ ภายหลังการสอบสวนเบื้องต้นจึงแจ้งข้อหาทั้ง 3 คนว่ามียาเสพติดประเภท 1 (ยาบ้า) ไว้ในความครอบครองเพื่อจำหน่าย ก่อนส่งตัวให้พนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป


ปริญญา/ข่าว/ภาพ 

“เปิดบ้านวิชาการ “รัตนจามจุรี ศรีพัทยา” 35 ปี แสงสว่างแห่งปัญญาสู่ 36 ปี การศึกษาเมืองพัทยาก้าวไกล

นายอิทธิพล คุณปลื้ม นายกเมืองพัทยา เป็นประธานกล่าวเปิดงานวันวิชาการ “เปิดบ้านวิชาการ “รัตนจามจุรี ศรีพัทยา” 35 ปี แสงสว่างแห่งปัญญาสู่ 36 ปี การศึกษา เมืองพัทยาก้าวไกล พร้อมด้วยนายวัฒนา จันทนวรานนท์ รองนายกเมืองพัทยา สมาชิกสภาเมืองพัทยา นายมานัส คงวัฒนะ ผู้อำนวยการโรงเรียนเมืองพัทยา 7 คณะกรรมการสถานศึกษา คณะครูผู้ปกครอง และนักเรียนโรงเรียนเมืองพัทยา เข้าร่วมพิธีเปิด ณ โรงเรียนเมืองพัทยา 7 (บ้านหนองพังแค)

สำหรับกิจกรรม เปิดบ้านวิชาการ “รัตนจามจุรี ศรีพัทยา” 75 ปี แสงสว่างแห่งปัญญาสู่ 36 ปี การศึกษา เมืองพัทยาก้าวไกล จัดขึ้นเพื่อนำเสนอรูปแบบกระบวนการจัดการเรียนรู้ ผลงานนักเรียน และเผยแพร่การจัดการศึกษาของโรงเรียนสู่ชุมชน รวมไปถึงเป็นการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ความก้าวหน้าทางวิชาการกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ซึ่งในปัจจุบันโรงเรียนเมืองพัทยา 7 จัดการศึกษาตั้งแต่ระดับปฐมวัยถึงระดับมัธยมศึกษาตอนต้น มีนักเรียนทั้งสิ้น จำนวน 2,245 คน ครูและบุคลากรทางการศึกษาอีก 117 คน

ซึ่งงานวันวิชาการครั้งนี้ เป็นการจัดงานภายใต้แนวคิด เปิดบ้านวิชาการ “รัตนจามจุรี ศรีพัทยา” 35 ปี แสงสว่างแห่งปัญญาสู่ 36 ปี การศึกษาเมืองพัทยาก้าวไกล โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อมุ่งเน้นการเสริมสร้างความรู้ ความสามารถ และคุณลักษณะที่พึงประสงค์ของผู้เรียนในศตวรรษที่ 20 ก่อเกิดทักษะในการคิดและแก้ปัญหาอย่างสร้างสรรค์ ซึ่งเป็นการพัฒนาคุณภาพผู้เรียนโดยใช้การปลูกฝังคุณธรรมเป็นฐาน เพื่อมุ่งเน้นพัฒนาคนแบบองค์รวมให้อยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข เพื่อเป็นการพัฒนาคุณภาพและยกระดับมาตรฐานการศึกษาของโรงเรียนเมืองพัทยา7ต่อไป



ปริญญา/ข่าว/ภาพ

ช้างแสนรู้ 9 เชือกหล่อเทียน เทศกาลเข้าพรรษา

สวนนงนุชพัทยา จัดหล่อเทียนพรรษายิ่งใหญ่ นำช้างแสนรู้ 9 เชือก ปางช้างสวนนงนุชพัทยา เป็นพรีเซ็นเตอร์เชิญชวนนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติ ร่วมประเพณีหล่อเทียนพรรษา สืบสานประเพณีไทย สืบทอดพระพุทธ ศาสนา ส่งเสริมด้านการท่องเที่ยว และสร้างความปองดองสมานฉันท์ในวิถีพุทธ ภายใต้โครงการ  หล่อเทียนพรรษา 9 วัน 9 วัด 9 ต้น

นางพัทธนันท์ ขันติสุขพันธุ์ ผู้จัดการทั่วไปสวนนงนุชพัทยา เป็นประธานในพิธีหล่อเทียนพรรษา 9 วัน 9 วัด 9 ต้น ณ ปรัมพิธีหน้าห้องอาหารวิวัฒน์  สวนนงนุชพัทยา จังหวัดชลบุรี โดยมี พระครูเกษมกิตติโสภณ เจ้าอาวาสวัดสามัคคีบรรพต เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ประกอบพิธีทางศาสนา เพื่อเกิดความเป็นสิริมงคล ซึ่งเป็นไปตามนโยบายของ นายกัมพล ตันสัจจา ผู้อำนวยการสวนนงนุชพัทยา ที่เล็งเห็นถึงความสำคัญของการหล่อเทียนพรรษา ซึ่งเป็นประเพณีที่เกี่ยวกับพระพุทธศาสนาที่มีมาแต่โบราณกาล

โดยสวนนงนุชพัทยาได้นำช้างแสนรู้ จำนวน 9 เชือก ประกอบด้วย พลายไม้เมือง พังแสงดาว พังคริสมาสต์ พังพิมพ์ทอง พังหยก พังทับทิม พังขวัญเมือง พังแบมบี้ และพังทิมทอง มาเป็นพรีเซ็นเตอร์ตัวแทนสวนนงนุชพัทยา ใช้งวงจับกระบวยตักน้ำเทียนเทเข้าแท่นหล่อเทียนพรรษา เพื่อเป็นการเชิญชวนให้นักท่องเที่ยว และเหล่าพุทธศาสนิกชนได้มาร่วมกันประกอบพิธีหล่อเทียนพรรษา เพื่อสืบสานประเพณีไทยที่มีมาแต่สมัยโบราณ และเป็นการสืบทอดพระพุทธศาสนา รวมถึงการส่งเสริมด้านการท่องเที่ยว และที่สำคัญเป็นการสร้างความปองดองสมานฉันท์คืนความสุขให้คนในชาติแนววิถีพุทธ ตามนโยบายของ คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ในปัจจุบัน โดยจัดให้มีขึ้นระหว่างวันที่ 1-9 ก.ค.57 ก่อนจะนำเทียนพรรษาไปถวายยังวัดต่างๆ จำนวน 9 วัด ได้แก่ วัดญาณสังวรารามวรมหาวิหาร วัดสามัคคีบรรพต วัดนาจอมเทียน วัดอัมพาราม วัดบางเสร่คงคาราม วัดเขาบำเพ็ญบุญ วัดเขาคันธสมาทน์ วัดหนองจับเต่า และวัดใหม่อยู่สงัด เพื่อเป็นกุศลทานตามความเชื่อ หากบุคคลใดให้ทานด้วยแสงสว่างจะมีอานิสงส์เพิ่มพูนปัญญาหูตาสว่างไสว มีสติปัญญาเฉลียวฉลาด และชีวิตรุ่งเรืองดั่งแสงเทียน

สำหรับประเพณีหล่อเทียนพรรษาได้ถือกำเนิดขึ้นตั้งแต่สมัยกรุงสุโขทัยเป็นราชธานี กล่าวคือ เมื่อถึงฤดูเข้าพรรษา บรรดาภิกษุสามเณรต้องเข้าจำพรรษาในวัด หรือสถานที่ที่กำหนดตลอดระยะเวลา 3 เดือน โดยมิให้ไปค้างแรมที่อื่น ในการนี้พระภิกษุสามเณรจะมีการทำวัตร สวดมนต์ทุกเช้าเย็น ซึ่งในสมัยโบราณยังไม่มีไฟฟ้าใช้ยามค่ำคืน ต้องอาศัยแสงสว่างจากไส้ตะเกียงน้ำมัน หรือประทีปโคมไฟอื่นๆ พุทธศาสนิกชนจึงร่วมใจกันหล่อเทียนจำนำพรรษา เพื่อให้พระภิกษุสงฆ์ได้ใช้จุดเวลาทำวัตรสวดมนต์ หรือจุดบูชาพระตลอด 3 เดือน ซึ่งในพื้นที่ตามชนบท การหล่อเทียนจำนำพรรษาจะทำกันอย่างเอิกเกริกสนุกสนาน ก่อให้เกิดความรัก ความสามัคคีของคนในชุมชน ซึ่งการจัดกิจกรรมในวันนี้ จึงเป็นส่วนหนึ่งของการสนองตอบต่อนโยบายของ คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ในการสร้างความปองดองสมาน ฉันท์ของคนในชาติตามแนววิถีพุทธในปัจจุบันอีกด้วย




ปริญญา/ข่าว/ภาพ

เทศบาลเมืองศรีราชา จัดงานวันคล้ายวันถึงแก่อสัญกรรม ท่านจอมพลมหาอำมาตย์เอก เจ้าพระยาสุรศักดิ์มนตรี อย่างยิ่งใหญ่

นายคมสัน เอกชัย ผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี เป็นประธานในพิธีบวงสรวงดวงวิญญาณของท่านจอมพลมหาอำมาตย์เอก เจ้าพระยาสุรศักดิ์มนตรี ณ อนุสาวรีย์จอมพลมหาอำมาตย์เอก เจ้าพระยาสุรศักดิ์มนตรี บริเวณหน้าเทศบาลเมืองศรีราชา

เทศบาลเมืองศรีราชา จัดกิจกรรมงานวันคล้ายวันถึงแก่อสัญกรรม ท่านจอมพลมหาอำมาตย์เอก เจ้าพระยาสุรศักดิ์มนตรี ผู้ก่อตั้งเมืองศรีราชาประจำปี 2557 อย่างยิ่งใหญ่ ซึ่งเทศบาลได้กำหนดจัดขึ้นทุกวันที่ 1 กรกฎาคม ของทุกปี โดยในช่วงเช้าเวลา 05.30 นาฬิกา คณะผู้บริหาร สมาชิกสภาเทศบาลและหัวหน้าส่วนการงาน ร่วมพิธีบวงสรวงดวงวิญญาณของท่านจอมพลมหาอำมาตย์เอก เจ้าพระยาสุรศักดิ์มนตรี และเวลา 07.00 นาฬิกาหน่วยงานภาครัฐและเอกชน พ่อค้า ประชาชน ร่วมตักบาตรข้าวสารอาหารแห้งแด่พระภิกษุสงฆ์ จำนวน 80 รูป จากนั้น ได้นิมนต์พระภิกษุสงฆ์ เจ้าอาวาส 9 วัด มาเจริญพระพุทธมนต์ และร่วมถวายภัตราหารเช้า เพื่อความเป็นสิริมงคล จากนั้น นายคมสัน เอกชัย ผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี เป็นประธานในพิธีกล่าวสดุดีถวายแด่ท่านจอมพลมหาอำมาตย์เอก เจ้าพระยาสุรศักดิ์มนตรี และมี นายธานี รัตนานนท์ นายกเทศมนตรีเมืองศรีราชา เป็นผู้กล่าวรายงาน พร้อมทั้งคณะผู้บริหาร สมาชิกสภา หัวหน้าส่วนการงาน และพนักงานเทศบาล เข้าร่วมกิจกรรม อีกทั้งยังได้รับเกียรติจากกองทหารเกียรติยศพลแตรเงิน เป่าแตรนอน เพื่อเป็นการแสดงเกียรติสูงสุดแด่ท่านเจ้าคุณ จากนั้นหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาชน จำนวนมากเข้าร่วมพิธีวางพวงมาลาด้านหน้าอนุสาวรีย์ ท่านจอมพลมหาอำมาตย์เอก เจ้าพระยาสุรศักดิ์มนตรี เพื่อร่วมรำลึกถึงคุณงามความดีของท่านที่เป็นผู้สร้างความเจริญรุ่งเรืองให้กับอำเภอศรีราชา และประเทศชาติไว้เป็นอย่างมาก



ปริญญา/ข่าว/ภาพ

มอบทุนการศึกษากว่า 2 ล้านบาท ให้บุตรทหารชายแดนใต้เพื่อเป็นและกำลังใจ

สมาคมภริยาทหารเรือ ระดมทุนการศึกษามอบให้กับบุตร-ธิดา ข้าราชการในสังกัดที่ปฏิบัติงานในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ รวมถึงทุนส่งเสริมการศึกษาต่อเนื่องบุตรของสมาชิกจนจบปริญญาตรี และปริญญาโท รวมกว่า 2 ล้านบาท เพื่อบรรเทาความเดือดร้อน เป็นขวัญและกำลังใจแก่บุตรของสมาชิกที่มีความขยันหมั่นเพียรและมีผลการเรียนดี

ที่หอประชุมนาวิกโยธิน ค่ายกรมหลวงชุมพร อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี นางอัจฉรา พิพัฒนาศัย นายกสมาคมภริยาทหารเรือ ได้เป็นประธานมอบทุนการศึกษาให้แก่บุตรของสมาชิกสมาคมภริยทหารเรือ ประจำปี 2557 จำนวน 582 ทุน เป็นจำนวนเงินกว่า 2 ล้านบาท เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้กับสมาชิกตลอดจนเพื่อเป็นขวัญกำลังใจแก่บุตรของสมาชิกที่มีความขยันหมั่นเพียรและมีผลการเรียนดี

สำหรับการมอบทุนการศึกษาในครั้งนี้ ประกอบด้วยทุนผูกพันที่เข้ารับการศึกษาในสถาบันของรัฐ จนถึงระดับปริญญาตรี-ปริญญาโท ทุนส่งเสริมการศึกษาในระดับประถมศึกษาถึงระดับอุดมศึกษา ทุนกรณีพิเศษมอบให้แก่บุตรของ พันจ่าเอกจักรกฤช พีพิมาย ที่ได้รับบาดเจ็บจากการปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่ชายแดนใต้ และทุนการศึกษามอบให้แก่บุตรของกำลังพลที่ปฏิบัติราชการในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ รวมเป็นทุนการศึกษาที่มอบให้กับบุตรสมาชิกของสมาคมภริยาทหารเรือในครั้งนี้ จำนวน 582 ทุน เป็นเงินทั้งสิ้น 2,090,000 บาท (สองล้านเก้าหมื่นบาท) โดยมี พลเรือโทสนธยา น้อยฉายา ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน คณะนายทหารชั้นผู้ใหญ่ คณะกรรมการสมาคมภริยาทหารเรือทั้งส่วนกลางและส่วนภูมิภาค รวมถึงผู้ปกครองเข้าร่วมในพิธีมอบทุนการศึกษาในวันนี้ด้วยเป็นจำนวนมาก 

นายกสมาคมภริยาทหารเรือกล่าวว่า ทุนการศึกษาที่มอบให้ในวันนี้ เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจให้กับบุตรของสมาชิกรวมถึงเพื่อเป็นการบรรเทาความเดือดร้อนของผู้ปกครองในช่วงสภาวะเศรษฐกิจที่ไม่ค่อยดีอยู่ในขณะนี้ ขอให้ผู้รับทุนการศึกษานำเงินที่ได้รับในครั้งนี้ ถึงแม้จะไม่มากนักแก่ก็สามารถแก้ปัญหาได้ในระดับหนึ่ง ไปใช้ให้เกิดประโยชน์ทางด้านการศึกษา และตั้งใจศึกษาเล่าเรียนเป็นกำลังที่สำคัญของชาติต่อไปในอนาคต สำหรับบุตร-ธิดาของกำลังพลที่ปฏิบัติงานในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ทางสมาคมจะมอบทุนการศึกษาให้อย่างต่อเนื่อง เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจให้กับกำลังพลที่ปฏิบัติหน้าที่เสียงภัยอยู่ในปัจจุบันอีกด้วย 



ปริญญา/ข่าว/ภาพ

ผวจ.จันทบุรี เดินหน้ามอบนโยบายสร้างสุขให้สังคม

ผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรีเดินสายมอบนโยบาย สร้างความสามัคคี ปรองดอง ลดอบายมุข สร้างสุขให้สังคม ประกาศวาระจันทบุรีเมืองแห่งความสุข สุขทุกวันที่จันทบุรี

วันนี้ ( 3 ก.ค.57 ) ที่ที่อาคารเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชเทศบาลเมืองจันทบุรี นายสามารถ ลอยฟ้า ผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรี ได้ตรวจเยี่ยม มอบนโยบาย แลกเปลี่ยนข้อมูลความคิดเห็น รับทราบปัญหา อุปสรรคกับผู้นำชุมชน ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ข้าราชการ กำนัน – ผู้ใหญ่บ้านในเขตอำเภอเมืองจังหวัดจันทบุรี โดยมุ่งเน้นสร้างความสามัคคี ปรองดอง ลดอบายมุข สร้างสุขให้สังคม พร้อมประกาศวาระจันทบุรีเมืองแห่งความสุข สุขทุกวันที่จันทบุรี โอกาสนี้ผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรีได้กำชับกำนัน – ผู้ใหญ่บ้าน ช่วยกันป้องกันแก้ไขปัญหายาเสพติดในชุมชนเนื่องจากมีความใกล้ชิดกับประชาชนเป็นอย่างดี มีข้อมูล และเป็นกลไกสำคัญที่จะแก้ไขปัญหายาเสพติดให้หมดไปจากจังหวัดจันทบุรี   

หลังจากนั้นเวลา 11.00 น.ผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรีพร้อมคณะได้เดินทางไปตรวจเยี่ยมมอบนโยบาย ข้าราชการ ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กำนัน – ผู้ใหญ่บ้าน ในเขตอำเภอขลุง ที่หอประชุมที่ว่าการอำเภอขลุง



จรัล/ภาพ/ข่าว (  3 ก.ค. 57 )
                            ธเนศ เธียรนันทน์/ตรวจข่าว 

จังหวัดจันทบุรี รณรงค์ออกกำลังกาย เดิน – วิ่ง อิงประวัติศาสตร์สร้างความปรองดอง

ผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรีนำหัวหน้าส่วนราชการ ข้าราชการ ประชาชน ร่วมรณรงค์ออกกำลังกายตามสถานที่ท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ของจังหวัด เพื่อสุขภาพที่แข็งแรงส่งเสริมการท่องเที่ยว สร้างความปรองดอง สมานฉันท์  

เมื่อเย็นวานนี้ (  2 ก.ค.57 ) ที่วัดเสม็ดงาม ตำบลหนองบัว อำเภอเมือง จังหวัดจันทบุรี นายสามารถ ลอยฟ้า ผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรี พร้อมด้วยนายสมหมาย วิเชียรฉันท์ นายกล้าณรงค์ พงษ์เจริญ รองผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรี ได้นำหัวหน้าส่วนราชการ ข้าราชการ ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและประชาชนร่วมโครงการเดิน – วิ่ง อิงประวัติศาสตร์ โดยครั้งนี้เป็นการเดิน – วิ่ง ศึกษาเรียนรู้แหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติและมีความสำคัญทางประวัติศาสตร์อู่ต่อเรือสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ชุมชนบ้านเสม็ดงามที่มีประวัติศาสตร์มายาวนาน    

ทั้งนี้การรณรงค์ออกกำลังกาย ตามโครงการ เดิน – วิ่งอิงประวัติศาสตร์เพื่อสุขภาพที่แข็งแรงเป็นไปตามนโยบายของผู้ว่าราชการจังหวัดที่ต้องการให้ประชาชนชาวจังหวัดจันทบุรีหันมาสนใจการออกกำลังกายเพื่อสุขภาพ ป้องกันโรคภัยไข้เจ็บ สร้างความกระปี้กระเป่าแก่ร่างกาย สร้างความสามัคคี ปรองดอง ลดอบายมุข สร้างสุขให้สังคม ตามยุทธศาสตร์จันทบุรีเมืองแห่งความสุข สุขทุกวันที่จันทบุรี เป็นแบบอย่างแก่ประชาชน และเพื่อเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวอีกทางหนึ่ง ผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรี จึงนำข้าราชการ ประชาชน ออกกำลังกายเป็นประจำตามแหล่งท่องเที่ยว แหล่งเรียนรู้ทางประวัติศาสตร์ที่สำคัญของจังหวัดจันทบุรี โดยจะหมุนเวียนไปตามอำเภอต่าง ๆ เดือนละ 2 ครั้ง



จรัล/ภาพ/ข่าว (  3 ก.ค. 57 )
                            ธเนศ เธียรนันทน์/ตรวจข่าว 

บ.ไออาร์พีซี จำกัด(มหาชน) แจงกรณีเกิดไฟไหม้หน่วยการผลิต VGOHT หลังชาวบ้านเข้าพบขอคำชี้แจง

นายวิทยา ชัชวาลชาญชนกิจ ผู้จัดการส่วนชุมชนสัมพันธ์ และนายแสงจันทร์ ผานิล ผู้จัดการแผนกสิ่งแวดล้อม ผู้แทน บริษัท ไออาร์พีซีจำกัด(มหาชน) ได้ชี้แจงข้อมูลกรณีการเกิดเหตุเพลิงไหม้ที่หน่วยผลิต VGOHT เมื่อวันที่ 9 มิถุนายน 2557 เวลาประมาณ 18:00 น.หลังชาวบ้านเข้าพบขอคำชี้แจง โดยกล่าวว่า กรณีดังกล่าว เกิดจากการรั่วไหลของสารไฮโดรคาร์บอนชนิดเบา(น้ำมันเบา) ออกมาอย่างรวดเร็ว ทำให้เกิดไอของน้ำมันเบา จนลุกไหม้และเกิดเสียงดัง(ระเบิด)โดยใช้เวลาดับเพลิงประมาณชั่วโมงเศษ ทั้งนี้เหตุดังกล่าวก่อให้เกิดเขม่าควัน ซึ่งพบว่าทิศทางลมขณะเกิดเหตุได้พัดจากตะวันตกเฉียงใต้ไปทิศตะวันออกเฉียงเหนือ โดยดูจากอุปกรณ์เครื่องตรวจวัดคุณภาพอากาศที่ติดตั้งตามสถานีต่างๆทั้ง 5 สถานีในพื้นที่ชุมชน ขณะที่ผลตรวจวัดคุณภาพอากาศในพื้นที่ หลังเกิดเหตุมีค่าฝุ่นละอองและเขม่าสูงขึ้นเล็กน้อยและลดลงมาซึ่งยังมีค่าต่ำกว่าเกณฑ์มาตรฐาน โดยสัมพันธ์กับผลการตรวจวัดของหน่วยงานราชการ สำหรับน้ำดับเพลิงที่ใช้แล้ว จะส่งเข้าระบบบำบัดน้ำส่วนกลางของเขตประกอบการฯ ก่อนที่จะระบายออก สู่ภายนอก ทางคลองก้นปึก ผ่านป่าชายเลน ผ่านชุมชนแหลมรุ่งเรืองลงสู่ทะเล และทิศทางการไหลของน้ำขึ้นน้ำลง ซึ่งไม่มีความสัมพันธ์กับคราบน้ำมันที่บริเวณชายหาดแม่รำพึงแต่อย่างใด

โครงการสร้างความสมานฉันท์โดยใช้หลักธรรมทางพระพุทธศาสนา หมู่บ้านรักษาศีล 5 ประชาเป็นสุข

วันที่ 4 กรกฎาคม 2557 เวลา 13.30 น. ณ ห้องประชุมภักดีศรีสงคราม ศูนย์ราชการจังหวัดระยอง นายธานี สามารถกิจ ผู้ว่าราชการจังหวัดระยองเป็นประธานการประชุมโครงการสร้างความสมานฉันท์โดยใช้หลักธรรมทางพระพุทธศาสนา หมู่บ้านรักษาศีล 5 ประชาเป็นสุข พร้อมด้วย พระครูโอภาสบุญวัฒน์ รองเจ้าคณะจังหวัดระยอง เจ้าคณะอำเภอทุกอำเภอ นายนพรัตน์ เบญจวัฒนานันท์ ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนา นายดำริ สมควรคิด ผู้อำนวยการสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดระยอง และคณะกรรมการดำเนินงานฯ ร่วมประชุมเพื่อกำหนดรูปแบบในการขับเคลื่อนการดำเนินงานในรูปแบบการบูรณาการความร่วมมือทางพระพุทธศาสนาทุกภาคส่วน กว่า 80 คน ทั้งนี้ จังหวัดระยอง อยู่ในช่วงการดำเนินโครงการสร้างความปรองดองสมานฉันท์ โดยใช้หลักธรรมทางพระพุทธศาสนา ตามมติมหาเถรสมาคม เพื่อการขับเคลื่อนโครงการอย่างเป็นระบบและมีประสิทธิภาพ ลดปัญหาความขัดแย้ง สร้างความมั่นคง ความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน ทำให้สังคมมีความสงบ ร่มเย็น และเกิดสันติสุขอย่างยั่งยืน



สวรส/ข่าว

บุกค้นบ้านรองนายกอบต.พบไม้หวงห้ามกว่า 20 ท่อน

บุกค้นบ้านรองนายกอบต.พบไม้หวงห้ามกว่า 20 ท่อน

เมื่อเวลา 11.30 น.วันที่ 2 กรกฎาคม นายพงษ์ศักดิ์ คงคารัตน์ ปลัดอำเภอเขาชะเมา จังหวัดระยอง พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง พ.ต.อ.ประเสริฐ มาเห็ม ผกก.สภ.เขาชะเมา พ.ต.ท.ธีระพงศ์ วรการพงศ์ สวป. สภ.เขาชะเมา ทหารพัน ร.7 เจ้าหน้าที่ป่าไม้กว่า 20 นายเข้าปิดล้อมบ้านบริบูรณ์ หมู่ 1 ต.เขาน้อย เพื่อตรวจค้นไม้หวงห้าม หลังได้รับรายงานว่ามีไม้หวงห้ามไว้ในครอบครอง ในที่เกิดเหตุมีการปลูกสร้างบ้านด้วยไม้หลังเล็กๆ พื้นที่บริเวณรอบบ้านเป็นสวนผลไม้ จากการตรวจสอบทราบว่าเจ้าของบ้านชื่อนายวสันต์ บริบูรณ์ รองนายกองค์การบริหารส่วนตำบล(อบต.)เขาชะเมา ขณะเข้าตรวจค้นนายวสันต์ไม่อยู่บ้าน อยู่แต่นายวิศิษฐ์ บริบูรณ์ อายุ 24 ปี ลูกชาย จากการตรวจค้นพบไม้ตะเคียน ไม้มะค่าและไม้ประดู่ มีไม้แปรรูปหน้ากว้างกว่า 1 เมตร ยาว 2.50 เมตร และขนาดต่างๆรวมกว่า 20 ท่อน กองไว้ข้างบ้าน พร้อมโต๊ะเลื่อยไฟฟ้าสำหรับแปรรูปไม้ และเลื่อยโซ่ยนต์ 1 ตัว เจ้าหน้าที่ได้ทำบันทึกจับกุม นายวิศิษฐ์ บริบูรณ์ ปี ลูกชายนายวสันต์ รับเป็นเจ้าของ ควบคุมตัวส่งร.ต.ท.สุเชษฐ์ เทพชารี พนักงานสอบสวนสภ.เขาชะเมา ดำเนินคดีต่อมากำลังชุดจับกุมชุดเดียวกันได้เข้าตรวจสอบบ้านนายออด ไม่ทราบชื่อนามสกุลจริง บริเวณหลังหน่วยกู้ภัยเขาชะเมา ต.ชำฆ้อพบไม้หวงห้ามจำนวนมาก ขณะนี้เจ้าหน้าที่กำลังตรวจวัดปริมาตรไม้เพื่อลงบันทึกจับกุมยังไม่เสร็จสิ้น


วฐิต/ข่าว

จังหวัดระยอง เตรียมจัดงาน “วันสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระราชา” เพื่อน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวที่มีต่อประชาชนชาวระยอง ในวันที่ ๑๔ กรกฎาคม ๒๕๕๗

จังหวัดระยอง เตรียมจัดงาน "วันสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระราชา” เพื่อน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวที่มีต่อประชาชนชาวระยอง ในวันที่ ๑๔ กรกฎาคม ๒๕๕๗

นายธานี สามารถกิจ ผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง เปิดเผยว่า ดัวยในวันที่ ๑๔ กรกฎาคม ๒๕๒๓ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้เสด็จพระราชดำเนินมา ณ ศูนย์บริการการพัฒนาปลวกแดง ตามพระราชดำริ จังหวัดระยอง จังหวัดระยอง จึงได้กำหนดจัดงานวันสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ๑๔ กรกฎาคม ๒๕๕๗ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวที่มีต่อประชาชนชาวระยอง โดยเน้นการปลูกฝังความเข้าใจเกี่ยวกับปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงของในหลวง พร้อมทั้งเปิดโอกาสให้ภาคประชาชนได้มีส่วนร่วมในการเรียนรู้กิจกรรมต่างๆของศูนย์บริการการพัฒนาปลวกแดง ตามพระราชดำริ จังหวัดระยอง ในพื้นที่ที่ได้ขึ้นชื่อว่า "ครั้งหนึ่งพระราชา…ได้เสด็จพระราชดำเนินมา” เมื่อวันที่ ๑๔กรกฎาคม ๒๕๕๗ ณ อ่างเก็บน้ำดอกกราย ตำบลแม่น้ำคู้ อำเภอปลวกแดง จังหวัดระยอง

ทั้งนี้ ในวันที่ ๑๔ กรกฎาคม ๒๕๕๗ ภาคเช้าเวลา ๐๙.๐๐น พิธีเปิดโครงการหน่วยบำบัดทุกข์ บำรุงสุข สร้างรอยยิ้ม คืนความสุขให้กับประชาชน ครั้งที่ ๑๐ประจำปี ๒๕๕๗ จังหวัดระยอง โดย นายธานี สามารถกิจ ผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง จากนั้น นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดระยองกล่าวพบปะประชาชนและมอบป้ายโครงการงบพัฒนาของ อบจ.ประจำปี ๒๕๕๗ มอบกีฬาให้กับโรงเรียน ต่อด้วยผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง นายกเหล่ากาชาดจังหวัดระยอง หัวหน้าส่วนราชการนายอำเภอ ร่วมมอบถุงยังชีพ/จักรยาน การให้บริการของหน่วยงานต่างๆ นอกจากนี้มี มหกรรมรวมสินค้าโอท็อป สินค้าธงฟ้าราคาประหยัด ผลิตภัณฑ์ชุมชน อื่น ๆ อีกมากมาย  จากนั้น เวลา ๑๐.๓๐ น นายธานี สามารถกิจ ผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง ประชุมแก้ไขปัญหาของประชาชนร่วมกับหัวหน้าส่วนราชการประจำอำเภอ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพืนที่ เพื่อรับทราบปัญหา ข้อเสนอแนะ และพิจารณากำหนดแนวทางแก้ไขปัญหาต่อไป ส่วนภาคบ่ายเวลา ๑๖.๐๐น หัวหน้าส่วนราชการ ผู้ร่วมพิธี กลุ่มพลังมวลชน ทั้ง ๘ อำเภอร่วมปล่อยพันธ์สัตว์น้ำและปลูกป่าเพื่อเฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ชมการแสดงมหรสพ นั่งรถไฟชมกิจกรรมภายในศูนย์ฯ การแสดงโดดร่มเหินเวหา ของหน่วยทหาร นำเทียนชัยลงมาจากฟ้า จากนั้นเวลา ๑๙.๒๙ น พิธีจุดเทียนชัยและกล่าวถวายพระพรชัยมงคล นำโดยนายธานี สามารถกิจ ผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง พร้อมหัวหน้าส่วนราชการ ผู้ร่วมพิธี กลุ่มพลังมวลชน ทั้ง ๘ อำเภอ ร่วมขับร้องเพลง ขอเป็นข้ารองบาททุกชาติ ดนตรีบรรเลงเพลงสรรเสริญพระบารมี การแสดงพลุเฉลิมพระเกียรติ จังหวัดระยอง

จึงขอเชิญชวน ร่วมงาน "วันสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระราชา ” และโครงการ หน่วยบำบัดทุกข์ บำรุงสุข สร้างรอยยิ้ม คืนความสุขให้ประชาชน ครั้งที่ ๑๐ ประจำปี ๒๕๕๗ ในวันที่ ๑๔ กรกฎาคม ๒๕๕๗ ณ อ่างเก็บน้ำดอกกราย ตำบลแม่น้ำคู้ อำเภอปลวกแดง จังหวัดระยอง โดยพร้อมเพรียงกัน


สวรส /ข่าว

ผู้ว่าฯฉะเชิงเทรา ตรวจติดตามการดำเนินการสร้างความปรองดองสมานฉันท์เพื่อการปฏิรูป ระดับจังหวัด อำเภอ และท้องถิ่น

วันนี้ (3 ก.ค. 57) นายอนุกูล ตังคณานุกูลชัย ผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทรา พร้อมด้วย พล.ต. พิชิต ฟูฟุ้ง  ผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 11  พล.ต.ต. เชิดชาย เสขะนันทน์  ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดจังหวัดฉะเชิงเทรา ร่วมติดตามการ  ดำเนินการสร้างความปรองดองสมานฉันท์เพื่อการปฏิรูป ระดับจังหวัด อำเภอ และท้องถิ่น พร้อมมอบนโยบายการดำเนินงานของการสร้างความปรองดองสมานฉันท์ ณ อำเภอบางคล้า  และ อำเภอบางน้ำเปรี้ยว จังหวัดฉะเชิงเทรา  โดยมี นายอำเภอ กล่าวรายงานผลการดำเนินงานการสร้างความปรองดองสมานฉันท์เพื่อการปฏิรูป ระดับอำเภอและท้องถิ่น และ หัวหน้าส่วนราชการ  องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น หน่วยงานรัฐวิสาหกิจ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน อสม. อพปร.  และประชาชน เข้าร่วมประชุมและร่วมนำเสนอข้อมูล ความคิดเห็นและแนวทางการสร้างความปรองดองสมานฉันท์

ผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทรา กล่าวว่า ตามที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติได้มีคำสั่งให้จัดตั้งศูนย์ปรองดองสมานฉันท์เพื่อการปฏิรูปตามเจตนารมณ์ของหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาตินั้นมีแนวทางการปฏิบัติ4 ขั้นตอน     1.ต้องการให้เกิดความสงบเรียบร้อยโดยเร็วปราศจากการต่อต้านและหยุดการเคลื่อนไหวทุกรูปแบบโดยเฉพาะแกนนำเสื้อสีต่างหันหน้ามาพูดกันโดยยึดผลประโยชน์ของชาติเป็นหลัก 2.ขับเคลื่อนการบริหารประเทศให้มีความพร้อมไปสู่ประชาคมอาเซียน 3.การเข้าสู่การเลือกตั้งที่ทุกคนทุกฝ่ายยอมรับเป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์ 4.สร้างความรักความสามัคคีปรองดองให้คนในชาติกลับมาเหมือนเดิมตั้งแต่สถาบันครอบครัวจนถึงระดับชาติ   จังหวัดฉะเชิงเทราจึงได้สั่งการให้ทุกอำเภอและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นจัดตั้ง  ศูนย์ปรองดองสมานฉันท์เพื่อการปฏิรูป เพื่อสร้างความรักสามัคคี ให้คนไทยทุกกลุ่ม ทุกฝ่ายยุติความขัดแย้ง โดยคำนึงถึงชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์  และเพื่อให้การขับเคลื่อนศูนย์ปรองดองฯ  เป็นไปด้วยความเรียบร้อยและมีประสิทธิภาพ  จึงได้มีการติดตามการดำเนินการสร้างความปรองดองฯ และมอบนโยบาย การดำเนินงานขึ้น  โดยการติดตามและมอบนโยบายการดำเนินงานในวันนี้ยังมีการชี้แจงแนวทางในการปฏิรูปประเทศ ของคณะ คสช. การนำทุกภาคส่วนมาร่วมพบปะพูดคุย แลกเปลี่ยน เรียนรู้สถานการณ์บ้านเมืองที่เกิดขึ้น    นอกจากนี้ผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทรายังกล่าวเพิ่มเติมว่า หากท่านใดมีข้อเสนอแนะหรือความคิดเห็นเกี่ยวกับการสร้างความปรองดองสมานฉันท์ สามารถเสนอผ่านจังหวัด/กอ.รมน.จว.ฉช. ได้ตลอดเวลา หรือจะเสนอไปทางตู้ ปณ.99 สาขามหาดไทย กรุงเทพฯ 10206 โดยตรงก็ได้

สำหรับการดำเนินงาน การสร้างความปรองดองสมานฉันท์เพื่อการปฏิรูป ระดับจังหวัด อำเภอ และท้องถิ่น ของอำเภอบางคล้านั้นได้ดำเนินการ จัดตั้งศูนย์ปรองดองสมานฉันท์ระดับอำเภอและระดับท้องถิ่น และ แต่งตั้งชุดปฏิบัติการประจำตำบล จัดประชุมประชาคมสร้างความเข้าใจเจตนารมเกี่ยวกับการปรองดองสมานฉันท์ กับประชาชนในพื้นที่ ปัจจุบันได้ดำเนินการแล้ว 47 หมู่บ้าน จาก ทั้งหมด 56 หมู่บ้าน คิดเป็น  84  % นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมร่วมกันการปลูกต้นไม้สร้างความปรองดองสมานฉันท์ ในพื้นที่สวนสาธารณะ สถานที่ราชการ บ้านเรือน และในส่วนของ อำเภอบางน้ำเปรี้ยวนั้น ได้ดำเนินการ จัดตั้งศูนย์ปรองดองสมานฉันท์  ใน ระดับอำเภอและระดับท้องถิ่น โดยในระดับอำเภอมีการจัดประชุมชี้แจงสร้างความเข้าใจในเจตนารมณ์นโยบาย และขั้นตอนการดำเนินงานของคณะ คสช. ส่วนในระดับท้องถิ่น มีการจัดเวทีเสวนาปรองดองสมานฉันท์ซึ่งได้ดำเนินการครบ 100% ทั้ง 14 ท้องถิ่น 148 หมู่บ้าน และมีการจัดกิจกรรม การแสดง การละเล่น กิจกรรมสาธารณประโยชน์ การปลูกต้นไม้ เพื่อให้เกิดความรัก ความปรองดองและสมานฉันท์



ส.ปชส.ฉะเชิงเทรา


   

จังหวัดฉะเชิงเทรา ส่งบ้านคลองเตยเข้าประกวดหมู่บ้านอาสาพัฒนาและป้องกันตนเอง ระดับภาคประจำปี2557

วันนี้ ( 3 ก.ค. 57)   คณะกรรมการการประกวดหมู่บ้านอาสาพัฒนาและป้องกันตนเอง ระดับภาค โดยการนำของ พล.ต. บัญชา ทองวิลัย เลขาธิการกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน ภาค 1 พร้อมคณะกรรมการฯ จาก 12 หน่วยงาน ได้เดินทางมาตรวจให้คะแนนการประกวดหมู่บ้านอาสาพัฒนาและป้องกันตนเอง หรือ หมู่บ้าน อพป. ระดับภาค  ที่บ้านคลองเตย หมู่ที่12 ตำบลท่ากระดาน อำเภอสนามชัยเขต จังหวัดฉะเชิงเทรา โดยมีนาย บัณฑิตย์ เทวีทิวารักษ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทรา/ รองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัดฉะเชิงเทรา   พ.อ.วุฒิชัย เจริญรื่น หัวหน้ากลุ่มงานข่าว กอ.รมน.จ.ฉะเชิงเทรา  นาง วราภรณ์ ศิริวงศ์ นายอำเภอสนามชัยเขต พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และสมาชิกหมู่บ้านอพป.บ้านคลองเตยและใกล้เคียงให้การต้อนรับ  สำหรับการตรวจให้คะแนนในครั้งนี้ได้มีการตรวจติดตามผลการดำเนินงานด้านต่างๆของหมู่บ้านอพป.และชุดรักษาความสงบเรียบร้อยภายในหมู่บ้าน หรือชุด ชรบ. 

พล.ต. บัญชา ทองวิลัย เลขาธิการกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน ภาค 1 กล่าวว่า กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร ได้จัดให้มีการประกวดหมู่บ้านอาสาพัฒนาและป้องกันตนเองเป็นประจำทุกปี   ภายหลังจากการเสร็จสิ้นการฝึกอบรมจัดตั้งและทบทวนหมู่บ้านอาสาพัฒนาและป้องกันตนเองแล้ว ในส่วนของกองอำนวยรักษาความมั่นคงภายในภาค 1 มีการจัดการประกวดในพื้นที่หมู่บ้านอาสาพัฒนาและป้องกันตนเอง ของกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัด 7 จังหวัด โดยเริ่มดำเนินการระหว่างวันที่ 23 มิถุนายน 2557 ถึงวันที่ 6 กรกฎาคม 2557 ในพื้นที่จังหวัดสมุทรสงคราม สุพรรณบุรี อ่างทอง พระนครศรีอยุธยา สระบุรี ฉะเชิงเทรา และจังหวัดชลบุรี  โดยหมู่บ้านที่ชนะเลิศระดับภาค ประจำปี2557 จะได้รับรางวัลเงินสด 100,000 บาท พร้อมโล่เกียรติยศจากผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค1      

เลขาธิการกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน ภาค 1 กล่าวต่อว่า การจัดประกวดหมู่บ้าน อพป. มีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นการส่งเสริมการดำเนินการหมู่บ้านอาสาพัฒนาและป้องกันตนเองทั้งทางด้านเศรษฐกิจ  สังคม จิตวิทยา การปกครองและการรักษาความปลอดภัยให้เป็นหมู่บ้านตัวอย่างในการจัดระเบียบชายแดน รวมทั้งสามารถสนับสนุนการพัฒนาระบบงานของหมู่บ้านอาสาพัฒนาและป้องกันตนเอง คือระบบการรักษาความปลอดภัย ระบบการพัฒนาและบริการ และระบบการบริหารงานหมู่บ้านให้มีความเข้มแข็ง ตลอดจนเป็นการสร้างขวัญและกำลังใจให้ชุดครูฝึก ในการพัฒนาการฝึกให้ดียิ่งขึ้นต่อไป และเพื่อเป็นการสร้างความร่วมมือ ร่วมใจ ระหว่างประชาชนในหมู่บ้าน ให้มีความตั้งใจ และทุ่มเทในการฝึกอย่างจริงจัง ซึ่งมีรางวัลประกวดเป็นสิ่งตอบแทน



ชาญณรงค์/ข่าว-ภาพ
ส.ปชส.ฉะเชิงเทรา

จังหวัดสระแก้วจัดการประชุมให้ความรู้ผู้ประกอบกิจการภาพยนตร์และวีดีทัศน์ตามพระราชบัญญัติ พ.ศ.2551 และโครงการพัฒนาสถานประกอบการร้านเกม

วันนี้ ( 3 ก.ค.) เวลา 13.30 น. นายวรพันธุ์ สุวัณณุสส์ ปลัดจังหวัดสระแก้ว เป็นประธานเปิดโครงการประชุมให้ความรู้ผู้ประกอบกิจการ ภาพยนตร์และวีดีทัศน์ตามพระราชบัญญัติ พ.ศ.2551 และโครงการพัฒนาสถานประกอบการ (ร้านเกม) ให้เป็นแหล่งเรียนรู้แก่เด็กและเยาวชน ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2557 ณ วิทยาลัยชุมชนสระแก้ว โดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องในการประกอบการร้านวีดีทัศน์ให้ถูกต้องตามพระราชบัญญัติ พ.ศ.2551 เพื่อให้ผู้ประกอบการร้านเกมมีจิตใจสำนึก มีความรับผิดชอบร่วมกันในการแก้ไขปัญหาสังคมอันเนื่องมาจากร้านเกม และเพื่อประสานความร่วมมือจากทุกฝ่ายในการสร้างแหล่งเรียนรู้ให้แก่เด็กๆ เยาวชนและประชาชนที่เข้าใช้บริการเพิ่มขึ้น โดยมี ผู้เข้าร่วมการประชุม ประกอบด้วย ผู้ประการร้านวีดีทัศน์ (ร้านเกม/ร้านคาราโอเกะ) และร้านให้เช่า จำหน่าย หรือแลกเปลี่ยนภาพยนตร์และวีดีทัศน์ จำนวน 152 ร้าน

นายสมเกียรติ พันธรรม วัฒนธรรมจังหวัดสระแก้ว กล่าวว่าสำนักงานวัฒนธรรมมีหน้าที่ตามพระราชบัญญัติภาพยนตร์และวีดีทัศน์ พ.ศ.2551 ในการกำกับดูแลสถานประกอบกิจการให้มีทิศทางในการปฏิบัติร่วมกันให้ถูกต้องตามกฎหมายและเงื่อนไขที่กำหนด จึงได้จัดโครงการประชุมให้ความรู้ผู้ประกอบกิจการ ตามพระราชบัญญัติภาพยนตร์และวีดีทัศน์ พ.ศ.2551 และโครงการพัฒนาสถานประกอบการ (ร้านเกม) ให้เป็นแหล่งเรียนรู้แก่เด็กและเยาวชน จังหวัดสระแก้ว ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2557


(กรรณิการ์/ข่าว)