วันศุกร์ที่ 4 กรกฎาคม พ.ศ. 2557

นายกหนองไม้แดง ชี้แจงแนวทางการก่อสร้างโครงการทางพิเศษ

แขวงการทางจังหวัดชลบุรีร่วมกับ เทศบาลตำบลหนองไม้แดง อำเภอเมืองชลบุรี  ร่วมกันชี้แจงแนวทางการก่อสร้างโครงการทางพิเศษบูรวิถี-พัทยา เพื่อให้ประชาชนเข้าใจการสร้างพิเศษ

ที่หอประชุมเทศบาลตำบลหนองไม้แดง อำเภอเมืองชลบุรี นายอมรศักดิ์ พรหมหล้าวรรณ หัวหน้าหมวดการทางชลบุรี 1 กรมทางหลวง พร้อมกับ นางสาวตวงทิพย์ ภาวสุทธิ์ชัยกิจ นายกเทศมนตรีตำบลหนองไม้แดง ร่วมกันชี้แจงงานศึกษาความเหมาะสมทางด้านวิศวกรรม การเงิน แลผลกระทบสิ่งแวดล้อม โครงการทางพิเศษสายบูรพาวิถี – พัทยา ท่ามกลางชาวบ้านประมาณ 100 กว่าคนที่มารวมตัวกันคัดค้านโครงการดังกล่าว โดยนายกเทศมนตรีตำบลหนองไม้แดง ต้องมาชี้แจงกับชาวบ้านว่า การประชุมในครั้งนี้เพื่อชี้แจงรายละเอียดให้ประชาชนรับทราบเพื่อนำไปพิจารณาตัดสินใจ ส่วนการแสดงพลังคัดค้าน ให้รวมตัวกันอีกครั้งในวันที่ 8 กรกฎาคม ที่อำเภอศรีราชา ซึ่งจังหวัดชลบุรีจะร่วมกับ การทางพิเศษแห่งประเทศไทยจัดประชุมระดมความคิดเห็นของประชาชนในจังหวัดชลบุรี

ทั้งนี้ โครงการทางพิเศษบูรพาวิถีเดิมได้ก่อสร้างจาก กรุงเทพมหานครมาจนถึง ตำบลคลองตำหรุ อำเภอเมืองชลบุรี แต่เนื่องจากปัจจุบันปัญหาการจราจรบนถนนสุขุมวิทมีมากขึ้น การทางพิเศษแห่งประเทศไทยจึงจัดโครงการทางพิเศษบูรวิถี-พัทยา เพื่อเชื่อมจากเส้นทางเดิมไปจนถึงพัทยา ระยะทาง 68 กิโลเมตร แต่เนื่องจากโครงการดังกล่าวส่งผลกระทบต่อประชาชนเป็นจำนวนมาก จึงมีการต่อต้านจากประชาชนในจังหวัดชลบุรีมาอย่างต่อเนื่อง มีการขึ้นป้ายคัดค้านจนนายคมสัน เอกชัย ผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี ต้องมาเป็นตัวกลางในการเจรจาต่อรองเพื่อให้การทางพิเศษแห่งประเทศไทยเลือกเส้นทางการก่อสร้างคร่อมถนนมอเตอร์เวย์แทนการสร้างคร่อมถนนสุขุมวิท ซึ่งจะส่งผลต่อเศรษฐกิจรากหญ้าและการจราจรในจังหวัดชลบุรี แต่ยังคงมีประชาชนจำนวนหนึ่งที่คัดค้านการก่อสร้างโครงการนี้ทั้งโครงการ



ปริญญา/ข่าว/ภาพ

ผู้ค้าสลากกินแบ่งรัฐบาลชลบุรีน้อมรับนโยบาย (คสช.) ขายราคา 80 บาท article

วันศุกร์ที่ 4 กรกฎาคม พ.ศ. 2557 นายทวีศักดิ์ ยิ้มตระกูล คลังจังหวัดชลบุรี ได้รับมอบหมายจากนายคมสัน เอกชัย ผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี นำคณะเจ้าหน้าที่พร้อมด้วยสื่อมวนชลลงพื้นที่เพื่อตรวจเยี่ยมผู้ค้าสลากกินแบ่งรัฐบาล บริเวณถนนวชิรปราการ อำเภอเมือง จังหวัดชลบุรี ซึ่งส่วนใหญ่น้อมรับนโยบาย คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่ยอมรับและพอใจในการขายสลากกินแบ่งรัฐบาลในราคา 80 บาท

นายวรวิทย์ สายสุพัฒน์ผล รองผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี กล่าวว่า ตามที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ให้จำหน่ายสลากกินแบ่งรัฐบาลที่มีปัญหาขายเกินราคา คสช.มีแนวทางการปฏิบัติในระยะแรกโดยให้มีการจัดตั้งจุดขายในราคา 80 บาท ทั้งในเขต กทม.และในต่างจังหวัด เท่าที่สามารถทำได้ ส่วนที่เหลือให้เป็นไปตามกลไกตลาด พยายามไม่เกิน 90 บาท เพราะเนื่องจากกองสลากมีภาระสัญญาผูกพันคงค้างอยู่กับผู้ได้รับอนุญาตอยู่เดิม ขณะที่ในอนาคตหรือในระยะที่จะให้คณะกรรมการหาวิธีการที่เหมาะสมเพื่อให้ราคาจำหน่ายอยู่ในเกณฑ์ที่ควบคุมได้ทั้งหมดโดยจะพยายามจัดโควตาให้ผู้ค้าระดับกลาง ระดับล่าง รวมถึงผู้ค้าคนพิการที่ยังไม่ได้รับการจัดสรรให้มากขึ้น “การดำเนินการทั้งหมดก็เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมต่อทั้งผู้ขายและผู้ซื้อ โดยได้คำนึงถึงผู้ค้ารายย่อย กับผู้มีรายได้น้อย เพื่อให้สามารถมีรายได้เลี้ยงชีพได้อย่างเหมาะสม และพอเพียง


สำหรับบรรยากาศการซื้อขายสลากกินแบ่งรัฐบาล บริเวณถนนวชิรปราการ ตำบลบางปลาสร้อย อำเภอเมืองชลบุรี ซึ่งถือเป็นจุดจำหน่ายสลากกินแบ่งรัฐบาล จุดใหญ่ในอำเภอเมืองชลบุรี พบว่า ผู้สลากกินแบ่งรัฐบาล ทั้งหมดต่างขานรับนโยบายในการจำหน่ายใบละ 80 บาท  ส่งผลให้บรรยากาศการซื้อขายสลากกินแบ่งรัฐบาล คึกคักเป็นอย่างมาก

ด้านนายทวีศักดิ์ ยิ้มตระกูล คลังจังหวัดชลบุรี กล่าวว่า กรมบัญชีกลางได้มอบหมายของ สำนักงานคลังจังหวัดชลบุรี จัดโควตาให้ผู้ค้ารายย่อย พร้อมย้ำนโยบายจำหน่ายสลากกินแบ่งรัฐบาล ตามราคาขายจริง 80 บาท เพื่อเป็นการลดค่าครองชีพให้กับประชาชน และจะขายในราคา 80 บาทไปจนถึงวันออกรางวัล ส่วนผู้ค้าที่มาสลากกินแบ่งรัฐบาล ไปจากยี่ปั๊วอีกต่อ ก็อนุโลมให้ขายในราคา 90 บาทได้แต่ต้องแจ้งที่มาที่ชัดเจนว่ารับสลากกินแบ่งรัฐบาล มาจากไหน

ส่วนนางจงกล ครุวงศ์ไพบูลย์ เจ้าของร้านจินดาภัณฑ์ กล่าวว่า ทางร้านจำหน่ายสลากกินแบ่งรัฐบาล ในราคา 80 บาทมานานแล้ว แม้ว่าจะได้กำไรน้อยเพราะรับมาในราคา 74.40 บาท  แต่ก็รับได้ เพราะมีน้อยใช้น้อยแบบเศรษฐกิจพอเพียง ส่วนบรรยากาศการซื้อขายสลากกินแบ่งรัฐบาล งวดนี้ขายดีมาก บรรยากาศคึกคักรับข่าวสลากกินแบ่งรัฐบาลใบละ 80 บาท

และในวันนี้จังหวัดชลบุรี ได้จัดสถานทีให้ผู้ค้ารายย่อยมาขายบริเวณศาลาภักดีแผ่นด้านข้างอนุสาวรีย์รัชกาลที่5 พร้อมกับชี้แจงให้ผู้ค้ารายย่อยทราบว่าในวันพรุ่งนี้เป็นต้นไปจะให้ขายบริเวณหน้าธนาคารกรุงไทย ด้านหน้าศาลากลางจังหวัดชลบุรีต่อไป




ปริญญา/ข่าว/ภาพ

สวนสัตว์เปิดเขาเขียว จังหวัดชลบุรี จัดกิจกรรม “คืนสุขทันที เที่ยวฟรีสวนสัตว์เปิดเขาเขียว” 11 กรกฎาคม นี้

นายสุริยา  แสงพงค์  ผู้อำนวยการสวนสัตว์เปิดเขาเขียว เปิดเผยว่า สวนสัตว์เปิดเขาเขียว จังหวัดชลบุรี ได้จัดกิจกรรม “คืนสุขทันที เที่ยวฟรีสวนสัตว์เปิดเขาเขียว” ในวันศุกร์ที่ 11 กรกฎาคม  2557 ที่จะถึงนี้ เพื่อเป็นการสร้าง   ความสามัคคี  ปรองดองสมานฉันท์ ให้กับคนในชาติ ซึ่งภายในงานมีการแสดงดนตรีจากมณฑลทหารบกที่ 14 พร้อมนักร้องลูกทุ่ง ไมค์ ภิรมย์พร ตลกหลุยส์ ก่อนบ่ายคลายเครียด พ่อดม ชวนชื่น และปลาคราฟ เชิญยิ้ม  ชมนิทรรศการเศรษฐกิจพอเพียงจากโครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืชอันเนื่องมาจากพระราชดำริฯและนิทรรศการของหน่วยงานต่างๆ การจำหน่ายสินค้าราคาถูกจากโรงงานอุตสาหกรรม ให้บริการตัดผมฟรี บริการตรวจสุขภาพเบื้องต้น บริการอาหารและเครื่องดื่มฟรี และเกมส์มหาสนุกรับของรางวัลมากมาย พิเศษสุด สัมผัสความน่ารักของการแต่งงานสร้างความปรองดองของ สิงโตขาว เจ้าบ่าวจากสวนสัตว์อุบลราชธานี และเจ้าสาวจากสวนสัตว์เปิดเขาเขียว นอกจากนี้ยังได้สัมผัสบรรยากาศสุดคลาสสิกเสน่ห์สีสันฟาร์มแกะ ให้อาหารแกะหลากหลายสาย กลางสนามหญ้าเขียวขจี และหุบเขา ใกล้ชิดสัตว์ป่า หลากหลายสายพันธุ์ อาทิ ชมความน่ารักของฮิปโปแคระว่ายน้ำเล่นกับปลานับร้อยตัวในมหัศจรรย์สัตว์โลก พาเหรดนกเพนกวิน พาเหรดนกกาบบัว  ให้อาหาร ยีราฟ แรดขาว นกกระจอกเทศ และถ่ายภาพกับเหล่าบรรดาสัตว์ป่า พลาดไม่ได้สนุกกันให้เต็มที่เที่ยวฟรี ที่สวนสัตว์เปิดเขาเขียว ในวันศุกร์ ที่ 11 กรกฎาคม  2557 นี้  สอบถามรายละเอียด โทร. 038-318444  และ www.kkopenzoo.com



คมศักดิ์  หล่อเถิน /ข่าว/ภาพ

จังหวัดชลบุรี จัดพิธีทำบุญ ถวายสังฆทานและอุทิศส่วนกุศล

วันศุกร์ที่ 4 กรกฎาคม 2557 จังหวัดชลบุรี โดยสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดชลบุรี จัดพิธีทำบุญ ถวายสังฆทาน และอุทิศส่วนกุศล โดยมีนายสามารถ เที่ยงพูนวงศ์ วัฒนธรรมจังหวัดชลบุรี เป็นประธานในการจัดพิธีทำบุญ  ณ ห้องเจริญธรรม   ศาลากลาง จังหวัดชลบุรี มีเหล่าข้าราชการ ทหาร มาร่วมพิธีและร่วมทำบุญ เป็นจำนวนมาก

นายสามารถ เที่ยงพูนวงศ์ วัฒนธรรมจังหวัดชลบุรี  กล่าวว่า ผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี ได้มอบหมายให้วัฒนธรรมจังหวัดชลบุรี ร่วมกับผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดชลบุรี จัดกิจกรรมเกี่ยวกับห้องเจริญธรรมอย่างต่อเนื่อง โดยเชิญชวนหัวหน้าส่วนราชการ ข้าราชการ นักเรียน นักศึกษา เข้ามาร่วมปฏิบัติธรรมและฟังปาฐกถาธรรมจาก พระดัง ๆ ที่นิมนต์มาจากวัดต่าง ๆ ทั้งในจังหวัด และต่างจังหวัด ตลอดทั้งปี โดยกำหนดทุกวันโกน เดือนละ ๒ ครั้ง พร้อมมอบหมายให้วัฒนธรรมจังหวัดชลบุรี ดูแลห้องเจริญธรรม และเปิดให้ข้าราชการ และประชาชน ได้ขึ้นมากราบไหว้สักการะบูชาทุกวัน ยกเว้นวันหยุดราชการ ตั้งแต่เวลา ๐๘.๐๐ น. ถึง เวลา ๑๖.๓๐ น.

ซึ่งการจัดกิจกรรมทำบุญถวายสังฆทาน ในวันนี้ เพื่อเป็นการอุทิศบุญกุศลให้ข้าราชการที่เคยปฏิบัติงาน ณ ศาลากลางจังหวัดชลบุรี ที่ล่วงลับไปแล้ว และถือเป็นโอกาสที่ดีที่ข้าราชการ ได้ร่วมทำบุญ ถวายสังฆทานร่วมกันอีกด้วย โดยได้นิมนต์ พระมหาเสฐียรพงษ์  สถิรวังโส  เจ้าคณะตำบลบางปลาสร้อย เจ้าอาวาสจากวัดเครือวัลย์ มาในพิธี พร้อมให้ธรรมเทศนาแก่ ข้าราชการที่มาร่วมทำบุญอีกด้วย



คมศักดิ์  หล่อเถิน /ข่าว/ภาพ

โมเดลธนาคารปูม้าจันทบุรีประสบความสำเร็จเป็นหนึ่งในภูมิภาคอาเซียน

ธนาคารปูจังหวัดจันทบุรี ประสบความสำเร็จเป็นต้นแบบ โมเดลธนาคารปูม้า ภูมิภาคอาเซียนเพิ่มจำนวนทรัพยากรปูม้าในอ่าวคุ้งกระเบน ยึดทางพระราชดำริฯ ปลุกจิตสำนึกประชาชนใส่ใจอนุรักษ์ทรัพยากรสัตว์น้ำ


ที่ธนาคารปูชุมชนบ้านหัวแหลม ท่าแครง หมู่บ้านชาวประมงพื้นบ้าน ตำบลสนามไชย อำเภอนายายอาม จังหวัดจันทบุรี นายกล้าณรงค์ พงษ์เจริญ รองผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรี ได้นำส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ชาวบ้าน และสื่อมวลชน ร่วมชมการดำเนินงานธนาคารปูม้า ของศูนย์ศึกษาการพัฒนาอ่าวคุ้งกระเบน โครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริฯ ที่มีภาคเอกชนเข้ามาร่วมฟื้นฟู อนุรักษ์จนประสบความสำเร็จในการขยายพันธุ์ปูม้าภายในบริเวณอ่าวคุ้งกระเบน ปลุกจิตสำนึกประชาชน ชาวประมงพื้นบ้าน ให้ร่วมกันอนุรักษ์ทรัพยากรสัตว์น้ำและได้รับความร่วมมืออย่างดีโดยชาวประมงหลังจากจับสัตว์น้ำแล้วเมื่อพบปูม้าที่มีไข่จะร่วมกันนำไข่มาเขี่ยเก็บอนุบาลในธนาคาร ก่อนปล่อยกับคืนสู่ธรรมชาติ จนปัจจุบันในพื้นที่อ่าวคุ้งกระเบนจังหวัดจันทบุรีมีจำนวนประชากรปูม้าเพิ่มขึ้นจำนวนมาก อย่างไรก็ตามยังคงมีชาวบ้านที่รู้เท่าไม่ถึงการณ์เข้ามาจับปูม้า และลูกปูตัวเล็กที่ยังไม่ถึงวัยอันควรไปบริโภค กลุ่มชาวประมงพื้นบ้านได้ร่วมกับเจ้าหน้าที่จัดชุดเคลื่อนที่คอยดูแล ประชาสัมพันธ์และทำความเข้าใจกับชาวบ้านพื้นที่อื่นที่เข้ามาหากินจับสัตว์น้ำทะเลในบริเวณดังกล่าว เพื่อเป็นการป้องกันอนุรักษ์ทรัพยากรปูม้า เพื่ออนาคตที่ยั่งยืนของชาวประมง รณรงค์ไม่จับและไม่บริโภคปูม้าที่มีไข่ รวมทั้งปูม้าตัวเล็กก็จะปล่อยคืนธรรมชาติ โอกาสเดียวกันนี้รองผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรีได้นำคณะร่วมปล่อยพันธุ์สัตว์กุ้งกุลาดำลงอ่าวคุ้งกระเบนเพิ่มจำนวนทรัพยากรสัตว์น้ำทะเลและห่วงโซ่อาหาร  ก่อนที่จะเยี่ยมชมการดำเนินงาน ณ จุดสาธิตการเลี้ยงปลาในกระชัง และธนาคารปูม้าของศูนย์ศึกษาการพัฒนาอ่าวคุ้งกระเบน โครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ซึ่งเป็นโมเดลต้นแบบของธนาคารปูในภูมิภาคอาเซียนที่มีรูปแบบการดำเนินงานยึดแนวทางพระราชดำริ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ " ทำงานกับฉัน ไม่มีเงินเดือนให้ แต่มีความสุขร่วมกัน” ซึ่งผลการดำเนินงานประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี 




จรัล/ภาพ/ข่าว (  4 ก.ค. 57 )
                            ธเนศ เธียรนันทน์/ตรวจข่าว

ศูนย์ส่งเสริมการเรียนรู้และพัฒนาทรัพยากรป่าชายเลนที่ ๑ ตราด จัดสัปดาห์เรียนรู้รักษ์ป่าชายเลนตามแนวปรัชญาเศรษฐกิจพอพียงสู่ประชาคมอาเซียน

( ๔ กรกฎาคม ๒๕๕๗ ) เช้าวันนี้ มีพิธีเปิดโครงการสัปดาห์เรียนรู้รักษ์ป่าชายเลนตามแนวปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงสู่ประชาคมอาเซียน โดย ศูนย์ส่งเสริมการเรียนรู้และพัฒนาทรัพยากรป่าชายเลนที่ ๑ ตราด ณ หอประชุมโรงเรียนบ้านท่าเรือจ้าง (ประชาชนูปถัมภ์) อำเภอเมืองตราด จังหวัดตราด มีนักเรียนระดับประถมศึกษาจากโรงเรียนต่างๆ มากกว่า ๒๐๐ คน เข้าร่วมกิจกรรรม

นายธนิต แสงวิสุทธิ์ หัวหน้าศูนย์ส่งเสริมการเรียนรู้และพัฒนาทรัพยากรป่าชายเลนที่ ๑ ตราด กล่าวว่า ศูนย์ส่งเสริมการเรียนรู้และพัฒนาทรัพยากรป่าชายเลนที่ ๑ ตราด ร่วมกับสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาตราด ส่วนส่งเสริมและพัฒนาป่าชายเลน ศูนย์อนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ ๑ ระยอง และศูนย์วิจัยและพัฒนาทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งอ่าวไทยฝั่งตะวันออก ร่วมกันจัดจัดสัปดาห์เรียนรู้รักษ์ป่าชายเลนตามแนวปรัชญาเศรษฐกิจพอพียงสู่ประชาคมอาเซียนเพื่อเสริมสร้างความร่วมมือระหว่างกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งกับเยาวชนและชุมชนในท้องถิ่นในการอนุรักษ์ทรัพยากรป่าชายเลนโดยการส่งเสริมกลุ่มเยาวชนและชุมชนที่มีศักยภาพเป็นศูนย์กลางการเรียนรู้ป่าชายเลน นอกจากนี้ยังเป็นการสนับสนุนและส่งเสริมการทำกิจกรรมร่วมกันในการอนุรักษ์ทรัพยากรป่าชายเลน สร้างองค์ความรู้และความเข้าใจเกี่ยวกับการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม พร้อมกับการประกวดคำขวัญ เสริมสร้างการเรียนรู้ เกี่ยวกับป่าชายเลนเพื่อเตรียมสู่อาเซียนด้วย

ทั้งนี้คาดว่า เยาวชนและชุมชนที่อาศัยอยู่ใกล้กับพื้นที่ป่าชายเลน จะมีการประสานงานและร่วมมือกันก่อให้เกิดแผนปฏิบัติงานร่วมกันในระดับพื้นที่ต่อไป สำหรับกิจกรรมที่ให้นักเรียนได้เรียนรู้ มีการจัดเป็นฐานการเรียนรู้ต่างๆ ทั้งหมด ๗ ฐานการเรียนรู้ เช่น ฐานภูมิปัญญาท้องถิ่นจากป่าชายเลน ฐานใบโกงกางทอดเมนูพิเศษจากป่าชายเลน เป็นต้น ซึ่งนักเรียนที่เข้าร่วมกิจกรรมได้ให้ความสนใจทำกิจกรรมและบันทึกกิจกรรมจากการเข้าฐานต่างๆ ด้วยความสนใจและกระตือรือร้น

จว.ตราด รุกจัดระเบียบคิวรถตู้และวินจักรยานยนต์รับจ้างเพื่อให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อยและเป็นไปตามกฎหมาย

วันนี้ ( ๔ กรกฎาคม ๒๕๕๗ ) ที่ห้องประชุมธารมะยม ศาลากลางจังหวัดตราด นายพยัคฆพันธุ์ โพธิ์แก้ว รองผู้ว่าราชการจังหวัดตราด เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการประจำจังหวัดตราดเพื่อจัดระเบียบคิวรถตู้และวินจักรยานยนต์รับจ้าง มีผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งขนส่งจังหวัดตราด ตัวแทนนายกเทศมนตรี ผู้แทนผู้ขับขี่ รวมถึงผู้แทนสถานีตำรวจภูธรเมืองตราด เข้าร่วมประชุมด้วย

ในที่ประชุมได้มีการแจ้งถึงสภาพการณ์ของรถตู้ที่วิ่งจากต่างจังหวัดมายังจังหวัดตราดและจากจังหวัดตราดไปยังต่างจังหวัด ยังมีส่วนที่ผิดกฎหมายอยู่จำนวนหนึ่ง จึงต้องมีการใช้กฎหมายบังคับอย่างเคร่งครัด ในขณะเดียวกันก็มีการพิจารณาเพื่อจัดระเบียบวินจักรยานยนต์รับจ้าง ในเขตอำเภอเมืองตราด ซึ่งพบว่ามีปัญหาเรื่องสีเสื้อวินที่มีสีเหมือนกันหลายวิน ยากต่อการจัดระเบียบ จึงได้กำหนดให้แต่ละวินมีสีเสื้อวินแตกต่างกัน และให้ผู้ขับวินจักรยานยนต์รับจ้างไปดำเนินการจดทะเบียนป้ายเหลืองให้ถูกต้องตามกฎหมาย และให้เพิ่มวินใหม่จากเดิม ๙ วิน เป็น ๑๐ วิน ซึ่งวินที่ ๑๐ นี้ จะให้บริการบริเวณห้างสรรพสินค้าเทสโก้โลตัส กำหนดให้มีรถ ประจำวินได้จำนวน ๑๕ คัน

ทั้งนี้ รองผู้ว่าราชการจังหวัดตราด ได้กำชับให้คณะกรรมการทุกคนได้ปฏิบัติงานอย่างถูกต้องเพื่ออำนวยความสะดวกทั้งผู้ขับขี่จักรยานยนต์รับจ้างและผู้ใช้บริการ จะส่งผลให้เกิดความเป็นระเบียบเรียบร้อยในสังคมเมืองตราดต่อไป

อำเภอบ้านฉาง จัดโครงการสร้างความปรองดองสมานฉันท์

เมื่อเวลา07.30 น.วันที่ 2 กรกฎาคม ที่บริเวณหน้าที่ว่าการอำเภอบ้านฉาง จังหวัดระยอง จัดโครงการเดินรณรงค์สร้างความปรองดองสมานฉันท์ ปฏิญาณตน โดยนายธีรวัฒน์ สุดสุข ปลัดจังหวัดระยอง เป็นประธานในพิธี โดยมี พ.ต.อ.เทอดเกียรติ วิริยะสถิตกุลผกก.สภ.บ้านฉาง ข้าราชการตำรวจ พันเอก บุรินทร์ ฐาปณพงศธร สัสดีจังหวัดระยอง ข้าราชการฝ่ายปกครองอำเภอบ้านฉาง นายกเทศมนตรีตำบลบ้านฉาง สมาชิกสภาเทศบาล กำนัน ผู้ใหญ่บ้านและนักเรียนร่วมในพิธีจำนวนมาก

นายอินทรีย์ เกิดมณี นายอำเภอบ้านฉาง กล่าวรายงานว่าในนามของข้าราชการพนักงานรัฐวิสาหกิจ สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดระยอง ผู้บริหารและสมาชิกองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน องค์กรภาคเอกชนกลุ่มพลังมวลชนและพี่น้องประชาชนชาวอำเภอบ้านฉางเข้าร่วมกิจกรรมครั้งนี้เพื่อเป็นการสนับสนุนแนวทางการดำเนินงาน การสร้างความรัก ความสามัคคี ปรองดองสมานฉันท์ ในประชาชนชาวไทยทุกหมู่เหล่า อยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข ร่วมมือร่วมใจกับทางราชการพัฒนาประเทศชาติ ตามเจตนารมณ์ของคณะรักษาความสงบแห่งชาติและเหนืออื่นใด คือความต้องการให้พี่น้องชาวไทยทุกกลุ่มทุกฝ่าย คำนึงถึงชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์มากกว่าสิ่งอื่นใด

นายธีรวัฒน์ สุดสุข ปลัดจังหวัดระยอง ประธานในพิธี ได้กล่าวนำปฏิญาณตนและร่วมกันร้องเพลง รักกันไว้เถิด และนางนิรมล ธำรงราชนิติ อัยการจังหวัดคุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือทางกฏหมายและบังคับคดี จังหวัดระยอง กล่าวนำปฏิญาณตนรณรงค์ยุติความรุนแรงต่อเด็กและสตรีและความรุนแรงในครอบครัว จากนั้นได้เดินรณรงค์สร้างความปรองดองสมานฉันท์ไปตามถนนสุขุมวิท ถึงสี่แยกไฟแดง(หาดพยูน-ชากหมาก) เลี้ยวกลับมาที่ว่าการอำเภอบ้านฉาง

ตร.สภ แกลง รวบแก๊งลักรถจักรยานยนต์ ลักทรัพย์ในสถานศึกษา ผู้ต้องหาชายหญิง 14 คน ของกลางหลายรายการ รวมทั้งแท็ปเล็ตของนักเรียนที่ถูกโจรกรรมมาด้วย

เมื่อเวลา 15.00 น.วันที่ 2 ก.ค. ที่สภ.แกลง จ.ระยอง พล.ต.ต.รุ่งฤทธิ์ ซุ่นทรัพย์ รักษาการ ผบก.ภ.จว.ระยอง พ.ต.อ.ไตรศูร เนียมทรัพย์ รอง ผบก.ภ.จว.ระยอง พ.ต.อ.จตุวัฒน์ กิ่งบัวหลวง ผกก.สภ.แกลง ร่วมแถลงข่าวจับกุมแก๊งโจรกรรม รถ จยย.และลักทรัพย์ในสถานศึกษา พร้อมผู้ต้องหาชายหญิงรวม 14 คน 1. นายสุทธชาติ หรือดำ นิลนาจักร์ อายุ 23 ปี อยู่บ้านเลขที่ 155 ม. 4 ต.กร่ำ อ.แกลง ระยอง 2.นายศิริพงค์ หรือหนู บุญยิ่งอายุ 19 ปี อยู่บ้านเลขที่ 196 หมู่ 8 ต.บ้านนา อ.แกลง 3.นายวันมา ภักดีงาม อายุ 30 ปี 4.นายจีระศักดิ์ ใจหาญ อายุ 28 ปี 5. นายวินัย สินทรัพย์ อายุ 33 ปี 6.นายไผ่ ภิญโญ อายุ 38 ปี 7.นายบรรจง คงทน อายุ 34 ปี 8.น.ส.ศิริพร สาครเสถียร อายุ 47 ปี 9.นางจรีนันท์ บัวจร อายุ 30 ปี 10.น.ส.น้ำฝน บุญสุด อายุ 22 ปี 11.น.ส.นิชนันท์ ไชโย อายุ 26 ปี 12.น.ส.ปุณยนุช ถึงไชย อายุ 28 ปี (ข้อหาร่วมกันลักทรัพย์และเสพยาเสพติด )13นายสินชัย หรือต้อม พูนสวัสดิ์ อายุ 42 ปี 14.นายสมบัติ หรือมี่ ภิญโญ อายุ 39 ปี (ข้อหารับของโจร) พร้อมของกลาง รถจยย. 6 คัน แทปเล็ต5 เครื่อง เครื่องเล่นซีดี 2 เครื่อง แอมป์ขยายเสียง 1 เครื่อง ยาไอซ์0.03 กรัม ยาบ้า 6 เม็ด กุญแจผี 1 อัน ไขควง ปากแบน 1 ชุด โดยมีผู้เสียหายมายืนดูหน้าผู้ต้องหาและรถจักรยานยนต์ที่ถูกโจรกรรม

พล.ต.ต.รุ่งฤทธิ์ รักษาการผู้บังคับการตำรวจภูธร จังหวัดระยอง กล่าวว่าพฤติกรรมแก๊งนี้ มีนายสุทธิชาติ หรือดำ เป็นหน.แก๊ง ร่วมกับนายศิริพงค์ หรือหนู ตระเวนลักรถจักรยานยนต์ตามห้างสรรพสินค้า บ้านเรือนประชาชน ที่จอดทิ้งไว้หน้าบ้านหรือที่ทำงาน แล้วส่งต่อให้เพื่อนร่วมแก๊งนำไปขาย หาเงินเที่ยวเตร่ และซื้อยาบ้าเสพ นอกจากนี้ได้ไปงัดหน้าต่างโรงเรียนวัดโพธิ์ทอง ต.บ้านนา และโรงเรียนรุ่งนภาพิทยา เขตเทศบาลตำบลเมืองแกลง ขโมยแท๊ปเล็ตของเด็กนักเรียน เครื่องเล่นซีดีและแอมป์ขยายเสียง ของโรงเรียน พร้อมชื่นชมการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.แกลง ที่สามารถติดตามจับกุมแก๊งนี้ได้ยกแก๊ง..



วฐิต กลางนอก/ระยอง 0871373960

จังหวัดระยอง จัดประชุมซักซ้อมแนวทางปฏิบัติการจดทะเบียนแรงงานต่างด้าวแบบเบ็ดเสร็จ

จังหวัดระยอง จัดประชุมซักซ้อมแนวทางปฏิบัติการจดทะเบียนแรงงานต่างด้าวแบบเบ็ดเสร็จ

วันที่ 4 กรกฎาคม 2557 เวลา 09.00 น ณ ห้องอุตรกิจพิจารณ์ ศาลากลางจังหวัดระยอง จังหวัดระยองจัดประชุมเร่งด่วนซักซ้อมแนวทางปฏิบัติการจดทะเบียนแรงงานต่างด้าวแบบเบ็ดเสร็จตามมาตรการชั่วคราวในการดำเนินการต่อแรงงานต่างด้าว เพื่อกำหนดให้มีการจัดระเบียบแรงงานต่างด้าว โดยมี นายธีรวัฒน์ สุดสุข ปลัดจังหวัดระยอง เป็นประธานการประชุม และมีหัวหน้าส่วนราชการจังหวัด ที่เกี่ยวข้อง องค์กรบริหารส่วนจังหวัดระยอง อำเภอต่างๆ เข้าร่วมประชุมซักซ้อมแนวทางการปฏิบัติการจดทะเบียนแรงงานต่างด้าว และเป็นการเตรียมความพร้อมของศูนย์บริการเบ็ดเสร็จ ที่กำลังจะเริ่มขึ้นในวันที่ 7 กรกฎาคม 2557 นี้ ทั้งนี้จังหวัดระยองได้จัดตั้งศูนย์บริการจดทะเบียนแรงงานต่างด้าวแบบเบ็ดเสร็จ ณ โรงเรียนอนุบาลนานาชาติตากสินระยอง ภายในสนามกีฬากลางจังหวัดระยอง ถ.สุขุมวิท ต. เนินพระ อ. เมือง จ.ระยอง เพื่อจัดทำทะเบียนประวัติและบัตรประจำตัวแรงงานต่างด้าว สัญชาติเมียนม่าร์ ลาว และกัมพูชา ตั้งแต่วันที่ 7-30 กรกฎาคม 2557 เวลา 08.30 น ไม่เว้นวันหยุดราชการ โดยให้มารายงานตัวและรับบัตรคิวก่อนเวลา 15.00 น. ของแต่ละวัน โดยแยกเป็น 8 อำเภอดังนี้ แรงงานต่างด้าวในพื้นที่อำเภอเมือง ตั้งแต่วันที่7-11 กรกฎาคม 2557 แรงงานต่างด้าวในพื้นที่อำเภอแถลง ตั้งแต่วันที่ 12-14 กรกฎาคม 2557 แรงงานต่างด้าวในพื้นที่ อำเภอปลวกแดง ตั้งแต่วันที 15-17 กรกฎาคม 2557 แรงงานต่างด้าวในพื้นที่อำเภอนิคมพัฒนาตั้งแต่วันที่ 18-19 กรกฎาคม 2557 แรงงานต่างด้าวในพื้นที่อำเภอบ้านฉาง ตั้งแต่วันที่ 20-21 กรกฎาคม 2557 แรงงานต่างด้าวในพื้นที่อำเภอบ้านค่าย ตั้งแต่วันที่ 22-23 กรกฎาคม 2557 แรงงานต่างด้าวในพื้นที่อำเภอวังจันทร์ วันที่ 24 กรกฎาคม 2557 แรงงานต่างด้าวในพื้นที่อำเภอเขาชะเมา วันที่ 24 กรกฎาคม 2557 และแรงงานต่างด้าวในพื้นที่ทุกอำเภอ (เฉพาะที่ตกค้าง) ตั้งแต่วันที่ 25 –30 กรกฎาคม 2557

จึงขอประชาสัมพันธ์ให้นายจ้าง ผู้ประกอบการ นำแรงงานต่างด้าวสัญชาติเมียนมาร์ ลาว หรือ กัมพูชา ที่อาศัยอยู่ในประเทศไทย โดยไม่ได้รับอนุญาตหรือการอนุญาตสิ้นสุดแล้ว และอาศัยหรือทำงาน อยู่ในพื้นทีจังหวัดระยอง มาจัดทำทะเบียนประวัติและบัตรประจำตัวแรงงานต่างด้าว ณ ศูนย์ฯ ตามกำหนดต่อไป



สวรส รูปแก้ว /ข่าว

ผู้ว่าฯฉะเชิงเทรา สนธิกำลังปฏิบัติการจู่โจมตรวจค้นยาเสพติดและสิ่งผิดกฎหมายภายในเรือนจำกลางฉะเชิงเทรา ตามนโยบาย คสช.

วันนี้ (4 ก.ค.57 ) นายอนุกูล   ตังคณานุกูลชัย   ผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทรา/ผู้อำนวยการศูนย์พลังแผ่นดินเอาชนะยาเสพติดจังหวัดฉะเชิงเทรา  พร้อมด้วยนาย บัณฑิตย์ เทวีทิวารักษ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทรา   นายเดชาใจยะ  ปลัดจังหวัดฉะเชิงเทรา  นายธวัชชัย  ชัยวัฒน์  ผู้บัญชาการเรือนจำกลางจังหวัดฉะเชิงเทรา  พล.ต.ต.เชิดชาย  เสขะนันทน์  ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดฉะเชิงเทรา พล.ต. องอาจ ชวาลวิวัฒน์ รองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัดฉะเชิงเทรา พ.อ. ณรงค์  พฤกษารุ่งเรือง  รองผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 11    และส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง สนธิกำลังทหาร ตำรวจ สมาชิกกองอาสารักษาดินแดน (อส.)  เจ้าหน้าที่สาธารณสุข และเจ้าหน้าที่เรือนจำประกอบด้วยชุดปฏิบัติการจำนวน140 นาย  ปฏิบัติการจู่โจมตรวจค้นสิ่งผิดกฎหมายภายในเรือนจำกลางฉะเชิงเทรา  เพื่อเป็นการปราบปรามเสพติดในเรือนจำ การป้องกันการซุกซ่อนอาวุธ การนำโทรศัพท์มือถือ สิ่งของต้องห้ามเข้ามาในเรือนจำ  รวมทั้งเป็นการป้องปรามปัญหาการแพร่ระบาดของยาเสพติดให้โทษ ซึ่งเป็นไปตามนโยบายของคสช.  ด้านการปราบปรามและหยุดยั้งการแพร่ระบาดของยาเสพติด

ซึ่งภายหลังจากการตรวจค้นสิ่งของต้องห้ามภายในเรือนจำกลางฉะเชิงเทรา ผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทราและคณะได้ร่วมกันแถลงข่าว ผลการปฏิบัติการตรวจค้น ดังนี้ ตรวจค้นผู้ต้องขังชาย 3,668 คน หญิง 292 คน รวม 3,960 คน พบอุปกรณ์เหล็กแหลม จำนวน 4 เล่ม สื่ออนาจาร จำนวน 4 ชุด อุปกรณ์การเล่นพนัน จำนวน 1ชุด ไฟแช๊ค จำนวน 4 อัน นอกจากนี้ยังนำตัวผู้ต้องขัง มาตรวจสารเสพติดและสุ่มตรวจปัสสาวะโครงการ To be Number One /ชุมชนบำบัดระบบต้องโทษและโครงการเรือนนอนสีขาว จำนวน 427  คน ซึ่งผลการตรวจไม่พบว่ามีสารเสพติดในร่างกาย



ชาญณรงค์/ข่าว-ภาพ
ส.ปชส.ฉะเชิงเทรา

ผู้ตรวจราชการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์พร้อมทหารและคณะลงพื้นที่ตรวจสอบปริมาณและคุณภาพข้าวคลังสินค้า บริษัท เอเชียโกลเด้นไรซ์ จำกัด จังหวัดฉะเชิงเทรา

วันนี้ ( 4 ก.ค. 57) นายนิรันดร เอื้องตระกูลสุข ผู้ตรวจราชการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พร้อมด้วย พ.อ.บรมวิช วารุณประภา รอง ผบ.ร111 และคณะ ลงพื้น ตรวจสอบปริมาณและคุณภาพข้าว ณ บริษัท เอเชียโกลเด้นไรซ์ จำกัด ต.ท่าสะอ้าน อำเภอบางปะกง จังหวัดฉะเชิงเทรา โดยมี นายอนุกูล ตังคณานุกูลชัย ผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทรา นายไพศาลวิมลรัตน์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทรา และ นายครรชิต สุขเสถียร เกษตรและสหกรณ์จังหวัดฉะเชิงเทราให้การต้อนรับและร่วมตรวจสอบปริมาณและคุณภาพข้าว

ผู้ตรวจราชการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า  สำหรับ โกดังแห่งนี้ เป็นโกดังแห่งแรกของจังหวัดฉะเชิงเทรา ที่มีการตรวจสอบปริมาณและคุณภาพข้าว หลัง คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ได้มอบหมายให้คณะกรรมการนโยบายบริหารจัดการข้าว (นบข.) และคณะอนุกรรมการตรวจสอบปริมาณข้าวคงเหลือของรัฐฯ ออกตรวจสอบปริมาณข้าวในโกดังรัฐทั่วประเทศ ซึ่งในส่วนของจังหวัดฉะเชิงเทรามีโกดังกลางเก็บข้าวรัฐบาล จำนวนทั้งสิ้น 33 แห่ง โดยคาดว่าจะสามารถตรวจข้าวในสต๊อกแล้วเสร็จในเดือนกรกฎาคมนี้

ด้านผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทรา กล่าวว่า  วันนี้ได้ทำการตรวจสอบข้าวขาว 5%  ปี 2555/56 จำนวน  121,969 กระสอบ ในคลังประมงหลังที่ 4 ของบริษัท เอเชียโกลเด้นไรซ์  จำกัด  ซึ่งจากการตรวจสอบของผู้ตรวจราชการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พบว่ามีปริมาณข้าวถูกต้องตามบัญชีและในส่วนของคุณภาพข้าวจากการตรวจเบื้องต้นพบว่าอยู่ในเกณฑ์ที่มีมาตรฐานแต่จะต้องทำการเก็บตัวอย่างข้าวกองละ 3 ถุง จากจำนวน 10 กอง และส่งไปตรวจสอบคุณภาพต่อไป ทั้งนี้โดยภาพรวมคลังจังหวัดฉะเชิงเทรานั้นมีคลังที่รับฝากข้าวสารเข้าร่วมโครงการทั้งหมด 33 คลัง มีการประมูลและขายไปแล้วบางส่วนคงเหลือข้าวในคลังอีก 16 คลัง  มีโรงสีเข้าร่วมโครงการรับจำนำข้าวเปลือก ปี 2556/57 จำนวน 26 รายโดยเป็นโรงสี 24 ราย และจุดรับจำนำของโรงสีภายในจังหวัดอีก 2 จุด



ส.ปชส.ฉะเชิงเทรา