นายสามารถ ลอยฟ้า ผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรี กล่าวว่า ตามที่ได้มีคำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติที่ 37/2557 ลงวันที่ 29 พ.ค. 2557 เรื่องให้ผู้มีอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน หรือวัตถุระเบิดที่สำหรับใช้เฉพาะแต่การสงครามนำส่งมอบ และประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติฉบับที่ 53/2557 ลงวันที่ 3 มิ.ย. 2557 เรื่องกำหนดให้ผู้กระทำความผิดในบางกรณีไม่อยู่ใต้บังคับคำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติที่ 37/2557 แล้วนั้น เพื่อให้มีการนำอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน หรือวัตถุระเบิด ที่สำหรับใช้เฉพาะแต่การสงคราม ส่งมอบต่อนายทะเบียนท้องที่ตามกฎหมายต่อไปอีกระยะหนึ่ง คณะรักษาความสงบแห่งชาติจึงมีประกาศ ดังต่อไปนี้
ข้อ 1 ให้ขยายเวลาแก่ผู้ที่มีอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน หรือวัตถุระเบิด ที่สำหรับใช้เฉพาะแต่การสงคราม ในการส่งมอบต่อนายทะเบียนท้องที่ตามกฎหมายว่าด้วยอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิง และสิ่งเทียมอาวุธปืน ตามคำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติที่ 37/2557 ลงวันที่ 28 พ.ค. 2557 เรื่องให้ผู้มีอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน หรือวัตถุระเบิดที่สำหรับใช้เฉพาะแต่การสงครามนำส่งมอบ ต่อไปจนถึงวันที่ 25 มิ.ย. 2557
ข้อ 2 ให้ผู้นำอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน หรือวัตถุระเบิด ที่สำหรับใช้เฉพาะแต่การสงครามส่งมอบต่อนายทะเบียนท้องที่ภายในกำหนดเวลาตามข้อ 1 ไม่ต้องรับโทษทางอาญา ตามที่บัญญัติไว้ในกฎหมายว่าด้วยอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิง และสิ่งเทียมอาวุธปืน
ข้อ 3 ผู้ที่ฝ่าฝืนไม่นำอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน หรือวัตถุระเบิดที่สำหรับใช้เฉพาะแต่การสงครามส่งมอบต่อนายทะเบียนทอ้งที่ภายในกำหนดเวลาตามข้อ 1 มีความผิดต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 2 ปี ถึง 20 ปี
ข้อ 4 ประกาศนี้มิบังคับแก่ผู้กระทำความผิดตามกฎหมายว่าด้วยอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิง และสิ่งเทียมอาวุธปืน ที่ถูกจับกุมหรือตกเป็นผู้ต้องหาหรือเป็นจำเลยก่อนวันที่ 29 พ.ค. 2557 และอยู่ระหว่างการสอบสวนหรือระหว่างคดี ยังไม่ถึงที่สุด นอกจากนี้ คสช.ยังมีประกาศ ฉบับที่ 60/2557 เรื่องยกเลิกการห้ามออกนอกเคหะสถานในบางพื้นที่ โดยลกเลิกเพิ่มเติม 20 จังหวัด รวมทั้งจังหวัดจันทบุรีด้วย
จรัล บรรยงคเสนา/ภาพ/ข่าว ( 11 มิ.ย.57 )
ธเนศ เธียรนันทน์/ตรวจข่าว
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น