วันพฤหัสบดีที่ 12 มิถุนายน พ.ศ. 2557

สำนักอนุรักษ์สัตว์ป่า กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช จัดโครงการสำรวจทางซีรั่มวิทยาการติดเชื้อไวรัสนิปาห์ และอีโบลา รวมทั้งตรวจหาเชื้อไวรัสไคโรน่า ในค้างคาวแม่ไก่

วันพฤหัสบดีที่ 12 มิถุนายน 2557 นายธีรภัทร  ประยูรสิทธิ  รองอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธ์พืช พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่จากกลุ่มงานวิจัยสัตว์ป่า สถานีวิจัยสัตว์ป่าฉะเชิงเทรา สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 2 (ศรีราชา) สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 12 (นครสรรค์) สัตวแพทย์กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธ์พืช คณะวนศาสตร์ และศูนย์เฝ้าระวังโรคจากสัตว์ป่า สัตว์ต่างถิ่นและสัตว์อพยพ คณะสัตวแพทย์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล ลงพื้นที่ ณ วัดหลวงพรหมาวาส จังหวัดชลบุรี เพื่อดำเนินโครงการสำรวจทางซีรั่มวิทยาการติดเชื้อไวรัสนิปาห์  และอีโบลา รวมทั้งตรวจหาเชื้อไวรัสไคโรน่า ในค้างคาวแม่ไก่ เพื่อเฝ้าระวังโรคติดต่ออุบัติใหม่จากสัตว์สู่คน สร้างความปลอดภัยให้กับประชาชนที่อาศัยอยู่ใกล้พื้นที่

การดำเนินการในครั้งนี้ จะทำการเก็บตัวอย่างเลือด นน้ำลาย ปัสสาวะและมูล เพื่อนำไปตรวจหาเชื้อไวรัส  ซึ่งอาจเป็นสาเหตุของโรคติดต่ออุบัติใหม่ โดยเจ้าหน้าที่จากสถานีวิจัยสัตว์ป่าฉะเชิงเทรา ทำการจับค้างคาว โดยใช้ตาข่ายดัก   แล้วนำไปตรวจประเมินสุขภาพเบื้องต้น วัดขนาด ชั่งน้ำหนัก บันทึก เพศ คะแนนสภาพร่างกายและจำแนกชนิดพันธ์ แล้วดำเนินการเก็บตัวอย่าง ปล่อยสัตว์ไปเป็นอิสระ จากนั้นนำตัวอย่างส่งตรวจทางห้องปฏิบัติการของหน่วยงานในความร่วมมือ ได้แก่ ห้องปฏิบัติการโรคทางสมอง ศูนย์ความร่วมมือองค์การอานามัยโลกด้านค้นคว้าและอบรมโรคไวรัสสู่คน คณะแพทย์ศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เพื่อตรวจภูมิคุ้มกันต่อการติดเชื้อไวรัสนิปาห์(Nipah virus)  และอีโบลา (Ebola virus) ในค้างคาวแม่ไก่ และเพื่อตรวจรหัสพันธุกรรมและจำแนกชนิดของไวรัสโคโรน่าด้วยวิธีปฏิกิริยาลูกโซ่(PCR) ในค้างคาวแม่ไก่

การสำรวจโรคทางซีรั่มวิทยาในค้างคาว นับเป็นกระบวนการเฝ้าระวังโรคอุบัติใหม่อุบัติซ้ำที่นำโดยค้างคาววิธีหนึ่ง ซึ่งอาจมรความสอดคล้องกับการติดเชื้อในสัตว์ชนิดอื่นและในคน การมีแผนป้องกันและควบคุมโรคติดต่ออุบัติใหม่ซ้ำของประเทศให้พร้อมรับและตอบสนองเหตุการณ์ระบาดที่อาจเกิดขึ้นได้อย่างทันท่วงทีและมีประสิทธิภาพจึงเป็นเรื่องที่มีความสำคัญอย่างยิ่ง โดยการเตรียมความพร้อมด้านขีอมูลพื้นฐานเพื่อจัดการกับโรคอุบัติใหม่ นับเป็นกุญแจสำคัญในการเสริมสร้างความเข้มแข็งในการเฝ้าระวัง จักการความเสี่ยงและปกป้องความสูญเสียที่อาจเกิดขึ้นได้อีกด้วย



คมศักดิ์  หล่อเถิน ข่าว/ภาพ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น