วันจันทร์ที่ 21 เมษายน พ.ศ. 2557

ระยอง ดึงผู้นำชุมชน เยาวชน เข้าร่วมโครงการปลูกฝังสำนึกรักสามัคคีและเสริมสร้างความปรองดอง เพื่อความสมานฉันท์ของคนในชาติ

เมื่อเวลา 09.30 น.  วันที่ 21 เม.ย. 57  ที่ห้องประชุมเทศบาลตำบลทับมา อ.เมืองระยอง นายวิชิต ชาตไพสิฐ ผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง เป็นประธานเปิดโครงการปลูกฝังสำนึกรักสามัคคีและเสริมสร้างความปรองดอง ซึ่งจัดขึ้นโดยที่ทำการปกครองจังหวัดระยอง ระหว่างวันที่ 21-22 เม.ย.นี้ โดยมีผู้นำชุมชน ผู้นำท้องถิ่น และกลุ่มเยาวชน จำนวน 80 คน จากอำเภอเมืองระยอง อำเภอบ้านค่าย อำเภอบ้านฉาง และอำเภอนิคมพัฒนา เข้าร่วมโครงการ โดยมีนายวราวุธ ปิ่นเงิน รองผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง นายธีรวัฒน์ สุดสุข ปลัดจังหวัดระยอง นายประเสริฐ วงษ์ศรี นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลทับมา และนายอดุลย์ บำรุงสุนทร นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลหนองตะพาน อ.บ้านค่าย ร่วมเป็นเกียรติฯ นายธีรวัฒน์ สุดสุข ปลัดจังหวัดระยอง กล่าวว่า จังหวัดระยอง ได้จัดทำโครงการปลูกฝังสำนึกรักสามัคคีและเสริมสร้างความปรองดอง ประจำปี 2557 ขึ้นเป็นปีที่ 3 แล้ว ตามนโยบายของกระทรวงมหาดไทย เพื่อขับเคลื่อนนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาล ด้านการเสริมสร้างความปรองดองสมานฉันท์ของคนในชาติและฟื้นฟูประชาธิปไตยในระดับพื้นที่โดยมีหลักการที่สำคัญในการดำเนินของโครงการฯ คือ การสร้างกระบวนการเรียนรู้ ประกอบด้วย หลัก 3 ร่วม เพื่อ 3 สร้าง คือ ร่วมกันคุย เพื่อสร้างความสามัคคีร่วมกันคิด เพื่อสร้างพลังและร่วมกันทำ เพื่อสร้างสังคมปรองดอง โดยนำกลุ่มเป้าหมาย ผู้นำชุมชน ผู้นำท้องถิ่น และกลุ่มเยาวชน มาพบปะพูดคุยกัน ทำให้เกิดเครือข่ายความร่วมมือระหว่างเยาวชนผู้นำและเจ้าหน้าที่ เกิดการบูรณาการความรัก ความสามัคคีในอันที่จะสร้างสังคมปรองดองให้เกิดขึ้นในพื้นที่ ซึ่งโครงการดังกล่าว มีวัตถุประสงค์ เพื่อให้ผู้เข้าร่วมโครงการฯ ได้ร่วมพูดคุยแลกเปลี่ยนเรียนรู้เพื่อสร้างสามัคคี โดยกระบวนการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ เสริมสร้างความรักสามัคคี เสริมสร้างการเรียนรู้เชิงสร้างสรรค์ โดยร่วมทำกิจกรรมเพื่อส่งเสริมความปรองดอง ตลอดจนเพื่อจงรักภักดีต่อสถาบันชาติ ศาสนา และหระมหากษัตริย์ อันที่จะสร้างสังคมปรองดองให้เกิดขึ้นในพื้นที่ ทั้งนี้กิจกรรมที่จัดขึ้น ประกอบด้วย การบรรยาย "การน้อมนำพระบรมราโชวาทตามแนวทางเศรษฐกิจพอเพียง เรื่องคุณธรรม รู้รักสามัคคี” "การปูพื้นฐานแนวคิดและอุดมการณ์ประชาธิปไตยตามแนวทางการปกครองระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข” และการจัดเวทีอภิปรายเพื่อแลกเปลี่ยนเรียนรู้ของกลุ่มผู้นำและเยาวชน ในหัวข้อ "การเมืองเรื่องผลประโยชน์ของใคร”โดยเป็นการเปิดโอกาสให้ได้แสดงความคิดเห็นทางการเมืองการปกครองและแลกความรู้อันจะทำให้เกิดเครือข่ายที่เข้มแข็งในการพัฒนาประชาธิปไตยภายใต้บรรยากาศที่สร้างสรรค์

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น