นายทวีป กล่าวว่า ตำบลตะพงเป็นพื้นที่ที่มีการปลูกทุเรียนมากเป็นอันดับหนึ่งของเมืองระยอง ขณะนี้ทุเรียนรุ่นแรกเริ่มออกสู่ตลาดแล้ว โดยในพื้นที่ตำบลตะพงมีการจัดตั้งกลุ่มของเกษตรกรดูแลผลผลิตทุเรียน ไปจนถึงการเก็บเกี่ยว เพื่อไม่ให้พ่อค้าฉวยโอกาสตัดทุเรียนอ่อน เพราะจะส่งผลกระทบทำให้ราคาทุเรียนตกต่ำ โดยเฉพาะทุเรียนพันธ์หมอนทองซึ่งมีการตรวจติดตามอยู่เป็นประจำ ในภาพรวมเป็นที่น่าพอใจ ซึ่งจากการตรวจติดตามตามสวนทุเรียน แผง หรือล้ง (แผงที่ทำส่งนอก) ต่างๆ ไม่พบว่ามีทุเรียนอ่อนแต่ประการใด คาดว่าในปีนี้ทุเรียนในอำเภอเมืองระยองจะไม่มีทุเรียนอ่อนหลุดออกไป อย่างไรก็ตามทุเรียนรุ่นที่ 2 กำลังจะเริ่มแก่และออกสู่ตลาดในช่วงวันที่ 25 พฤษภาคม นี้ ซึ่งทางองค์การบริหารส่วนตำบลตะพงรวมกับกลุ่มเกษตรกรกำลังเฝ้าติดตาม พร้อมขอความร่วมมือให้เกษตรกรชาวสวนทุเรียนทำการตัดทุเรียนรุ่นที่ 2 นี้หลังวันที่ 25 พฤษภาคมทุกราย เพื่อป้องกันทุเรียนด้อยคุณภาพจะออกสู่ตลาด โดยคาดว่าผลผลิตผลไม้ในช่วงนี้ซึ่งเป็นช่วงจัดงานเทศกาลผลไม้และของดีจังหวัดระยอง ทุเรียนจะมีจำนวนรวมประมาณกว่า 2 ,000 ตัน และมังคุดที่มีนี้มีจำนวนหลายรุ่น มั่นใจว่าจะไม่มีปัญหาเพราะมีการติดตามดูแลกันอย่างใกล้ชิด คงมีปัญหากังวลใจเรื่องของเงาะที่จะออกมากว่า 4,000 ตัน ขณะนี้ทาง อบต.ตะพง ได้จัดสรรงบประมาณ 4 ล้านบาทเตรียมรับซื้อในราคาประกันตามกลไกของตลาดแล้ว
ด้านนายสายหยุด อาบสุวรรณ เกษตรจังหวัดระยอง กล่าวว่า ปัญหาทุเรียนอ่อน ในอนาคตเราจะเน้นเรื่องคุณภาพ ซึ่งนายวิชิต ชาตไพสิฐ ผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง ได้เน้นย้ำนโยบายว่าทำอย่างไรไม่ให้มีทุเรียนอ่อน ซึ่ง อบต.ตะพง ให้ความสนใจตั้งจุดตรวจ ทุกอำเภอก็จะมีคณะกรรมการตรวจสอบทุเรียนอ่อน ประกอบด้วย เกษตรอำเภอ ปลัดอำเภอ และ อส.
เพราะฉะนั้นฝากไปยังเกษตรกรว่าถ้ายังไม่มีความมั่นใจก็อย่าเพิ่งตัด นำทุเรียนไปตรวจสอบที่สำนักงานเกษตรอำเภอได้ทุกแห่ง พร้อมแนะวิธีดูทุเรียนอ่อน เบื้องต้นให้จับขั้วยกทุเรียนจะมีความรู้สึกว่ามีน้ำหนัก และจะยกไม่ค่อยขึ้น นั่นคือ ทุเรียนอ่อน ผิดกับทุเรียนแก่จะมีน้ำหนักเบากว่าสามารถจับขั้วทุเรียนยกได้อย่างสบาย
วฐิต/ข่าว
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น