วันพฤหัสบดีที่ 3 กรกฎาคม พ.ศ. 2557

ช้างแสนรู้ 9 เชือกหล่อเทียน เทศกาลเข้าพรรษา

สวนนงนุชพัทยา จัดหล่อเทียนพรรษายิ่งใหญ่ นำช้างแสนรู้ 9 เชือก ปางช้างสวนนงนุชพัทยา เป็นพรีเซ็นเตอร์เชิญชวนนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติ ร่วมประเพณีหล่อเทียนพรรษา สืบสานประเพณีไทย สืบทอดพระพุทธ ศาสนา ส่งเสริมด้านการท่องเที่ยว และสร้างความปองดองสมานฉันท์ในวิถีพุทธ ภายใต้โครงการ  หล่อเทียนพรรษา 9 วัน 9 วัด 9 ต้น

นางพัทธนันท์ ขันติสุขพันธุ์ ผู้จัดการทั่วไปสวนนงนุชพัทยา เป็นประธานในพิธีหล่อเทียนพรรษา 9 วัน 9 วัด 9 ต้น ณ ปรัมพิธีหน้าห้องอาหารวิวัฒน์  สวนนงนุชพัทยา จังหวัดชลบุรี โดยมี พระครูเกษมกิตติโสภณ เจ้าอาวาสวัดสามัคคีบรรพต เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ประกอบพิธีทางศาสนา เพื่อเกิดความเป็นสิริมงคล ซึ่งเป็นไปตามนโยบายของ นายกัมพล ตันสัจจา ผู้อำนวยการสวนนงนุชพัทยา ที่เล็งเห็นถึงความสำคัญของการหล่อเทียนพรรษา ซึ่งเป็นประเพณีที่เกี่ยวกับพระพุทธศาสนาที่มีมาแต่โบราณกาล

โดยสวนนงนุชพัทยาได้นำช้างแสนรู้ จำนวน 9 เชือก ประกอบด้วย พลายไม้เมือง พังแสงดาว พังคริสมาสต์ พังพิมพ์ทอง พังหยก พังทับทิม พังขวัญเมือง พังแบมบี้ และพังทิมทอง มาเป็นพรีเซ็นเตอร์ตัวแทนสวนนงนุชพัทยา ใช้งวงจับกระบวยตักน้ำเทียนเทเข้าแท่นหล่อเทียนพรรษา เพื่อเป็นการเชิญชวนให้นักท่องเที่ยว และเหล่าพุทธศาสนิกชนได้มาร่วมกันประกอบพิธีหล่อเทียนพรรษา เพื่อสืบสานประเพณีไทยที่มีมาแต่สมัยโบราณ และเป็นการสืบทอดพระพุทธศาสนา รวมถึงการส่งเสริมด้านการท่องเที่ยว และที่สำคัญเป็นการสร้างความปองดองสมานฉันท์คืนความสุขให้คนในชาติแนววิถีพุทธ ตามนโยบายของ คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ในปัจจุบัน โดยจัดให้มีขึ้นระหว่างวันที่ 1-9 ก.ค.57 ก่อนจะนำเทียนพรรษาไปถวายยังวัดต่างๆ จำนวน 9 วัด ได้แก่ วัดญาณสังวรารามวรมหาวิหาร วัดสามัคคีบรรพต วัดนาจอมเทียน วัดอัมพาราม วัดบางเสร่คงคาราม วัดเขาบำเพ็ญบุญ วัดเขาคันธสมาทน์ วัดหนองจับเต่า และวัดใหม่อยู่สงัด เพื่อเป็นกุศลทานตามความเชื่อ หากบุคคลใดให้ทานด้วยแสงสว่างจะมีอานิสงส์เพิ่มพูนปัญญาหูตาสว่างไสว มีสติปัญญาเฉลียวฉลาด และชีวิตรุ่งเรืองดั่งแสงเทียน

สำหรับประเพณีหล่อเทียนพรรษาได้ถือกำเนิดขึ้นตั้งแต่สมัยกรุงสุโขทัยเป็นราชธานี กล่าวคือ เมื่อถึงฤดูเข้าพรรษา บรรดาภิกษุสามเณรต้องเข้าจำพรรษาในวัด หรือสถานที่ที่กำหนดตลอดระยะเวลา 3 เดือน โดยมิให้ไปค้างแรมที่อื่น ในการนี้พระภิกษุสามเณรจะมีการทำวัตร สวดมนต์ทุกเช้าเย็น ซึ่งในสมัยโบราณยังไม่มีไฟฟ้าใช้ยามค่ำคืน ต้องอาศัยแสงสว่างจากไส้ตะเกียงน้ำมัน หรือประทีปโคมไฟอื่นๆ พุทธศาสนิกชนจึงร่วมใจกันหล่อเทียนจำนำพรรษา เพื่อให้พระภิกษุสงฆ์ได้ใช้จุดเวลาทำวัตรสวดมนต์ หรือจุดบูชาพระตลอด 3 เดือน ซึ่งในพื้นที่ตามชนบท การหล่อเทียนจำนำพรรษาจะทำกันอย่างเอิกเกริกสนุกสนาน ก่อให้เกิดความรัก ความสามัคคีของคนในชุมชน ซึ่งการจัดกิจกรรมในวันนี้ จึงเป็นส่วนหนึ่งของการสนองตอบต่อนโยบายของ คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ในการสร้างความปองดองสมาน ฉันท์ของคนในชาติตามแนววิถีพุทธในปัจจุบันอีกด้วย




ปริญญา/ข่าว/ภาพ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น