วันพฤหัสบดีที่ 31 กรกฎาคม พ.ศ. 2557

์กรมทรัพยากรน้ำ จัดประชุมเชิงปฏิบัติการเพื่อจัดทำแผนบริหารจัดการและพัฒนาลุ่มน้ำภาคตะวันออกแบบบูรณาการอย่างมีประสิทธิภาพ สอดคล้องรับกับปัญหาในพื้นที่และตรงกับความต้องการของประชาชน

กรมทรัพยากรน้ำ จัดประชุมเชิงปฏิบัติการเพื่อจัดทำแผนบริหารจัดการและพัฒนาลุ่มน้ำภาคตะวันออกแบบบูรณาการอย่างมีประสิทธิภาพ สอดคล้องรับกับปัญหาในพื้นที่และตรงกับความต้องการของประชาชน

เมื่อเวลา 10.30 น.วันที่ 29 ก.ค.ที่โรงแรมโกลเด้นซิตี้ อ.เมืองระยอง ว่าที่พันตรี คมน์เดช ไชยชนะ ผู้อำนวยการสำนักงานเลขานุการ คณะกรรมการลุ่มน้ำชายฝั่งทะเลตะวันออก เป็นประธานเปิดการประชุมเชิงปฏิบัติการเพื่อจัดทำแผนบริหารจัดการและพัฒนาลุ่มน้ำแบบบูรณาการในภาคตะวันออก ซึ่งจัดโดยสำนักงานทรัพยากรน้ำภาค 6 จ.จันทบุรี โดยมีผู้เข้าร่วมประชุม ประกอบด้วย คณะทำงาน 7 ลุ่มน้ำสาขาภาคตะวันออก มีลุ่มน้ำสาขาชลบุรี – ลุ่มน้ำสาขาคลองใหญ่ระยอง – ลุ่มน้ำสาขาแม่น้ำประแสร์ ระยอง – ลุ่มน้ำสาขาวังโตนดจันทบุรี – ลุ่มน้ำสาขาแม่น้ำจันทบุรี – ลุ่มน้ำสาขาแม่น้ำเวฬุจันทบุรี และลุ่มน้ำสาขาแม่น้ำเมืองตราด นอกจากนี้ยังมีองค์กรหรือเครือข่าย หน่วยราชการที่เกี่ยวข้อง เจ้าหน้าที่กรมทรัพยากรน้ำ เข้าร่วมประชุมด้วย เพื่อนำเสนอ / สรุปปัญหาและร่วมแสดงความคิดเห็นการจัดทำแผนบริหารจัดการและพัฒนาทรัพยากรน้ำแบบบูรณาการระดับจังหวัด ให้มีความสอดคล้องกับยุทธศาสตร์ลุ่มน้ำชายฝั่งทะเลตะวันออก ที่ครอบคลุมพื้นที่ 4 จังหวัดได้แก่ จังหวัดชลบุรี ระยอง จันทบุรีและตราด ว่าที่พันตรี คมเดชน์ ไชยชนะ ผู้อำนวยการสำนักงานเลขานุการ คณะกรรมการลุ่มน้ำชายฝั่งทะเลตะวันออก กล่าวว่า ปัญหาเบื้องต้นที่พบส่วนใหญ่จะเป็นปัญหาการขาดแคลนน้ำเพื่ออุปโภคบริโภคและภาคอุตสาหกรรม ซึ่งภาคประชาชนมีการตื่นตัวในการใช้ทรัพยากรน้ำและมีความรู้สึกในการแสดงความเป็นเจ้าของทรัพยากรน้ำ โดยภาพรวมแล้วน้ำจะเกิดขึ้นที่หนึ่งแล้วไหลไปอีกที่หนึ่ง แล้วสูบกลับมาใช้อีกที่หนึ่ง เช่น สูบน้ำจากจันทบุรีมาใช้ที่ระยอง น้ำที่ระยองส่งไปใช้ที่ชลบุรี จึงเกิดปัญหาด้านการใช้น้ำข้ามพื้นที่ ซึ่งลุ่มน้ำที่ทำงานร่วมกับภาคประชาชนต้องทำความเข้าใจว่า แหล่งน้ำต้องจัดแบ่งปันกันและใช้ร่วมกันอย่างมีประสิทธิภาพ และปัญหาอีก        

อย่างที่ตามมาในเรื่องของทรัพยากรน้ำ คือ น้ำเน่าเสียจากทั้งจากภาคอุตสาหกรรมและชุมชนที่หลั่งไหลเข้ามาทำงานในภาคอุตสาหกรรม ทำให้คุณภาพน้ำเสื่อมโทรมและเกิดปัญหาในพื้นที่ ซึ่งกรมทรัพยากรน้ำได้เร่งทำความเข้าใจในด้านการดูแลน้ำ รักษาคุณภาพน้ำเพื่อไม่ให้เกิดมลภาวะ ซึ่งในอนาคตอาจจะผลักดันให้มีการใช้กฎหมายการเก็บค่าน้ำจากปัญหาดังกล่าว

จังหวัดระยอง จัดประชุมหัวหน้าส่วนราชการประจำเดือนกรกฎาคม ๒๕๕๗

จังหวัดระยองจัดประชุมหัวหน้าส่วนราชการประจำเดือนกรกฎาคม ๒๕๕๗ จังหวัดระยองจัดการประชุมหัวหน้าส่วนราชการ ครั้งที่ ๗ /๒๕๕๗ ประจำเดือนกรกฎาคม ๒๕๕๗ เพื่อแจ้งข่าว ข้อรายงาน และชี้แจงข้อราชการ รวมทั้ง วาระงานที่สำคัญและน่าสนใจ

วันที่ ๓๐ ก.ค ๕๗ ที่ห้องประชุมภักดีศรีสงคราม ชั้น ๔ ศาลากลางจังหวัดระยอง นายธานี สามารถกิจ ผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง เป็นประธานในการประชุมประจำเดือนกรกฎาคม ๒๕๕๗ โดยมี หัวหน้าส่วนราชการ นายอำเภอ ผู้บริหาร หัวหน้าหน่วยงานปกครองส่วนท้องถิ่น และผู้แทนองค์กรภาคเอกชนเข้าร่วมประชุมด้วยความพร้อมเพรียง โดยการประชุมเริ่มด้วยการประชุมหัวหน้าส่วนราชการ ครั้งที่ ๗/๒๕๕๗ ประจำเดือนกรกฎาคม ๒๕๕๗ เริ่มด้วยวาระเรื่องก่อนวาระการประชุม ได้แก่ พิธีมอบโลห์เกียรติคุณให้แก่ผู้ชนะการประกวดโปสเตอร์รณรงค์ต่อต้านการค้ามนุษย์ ประจำปี ๒๕๕๗ พิธีมอบธงสัญลักษณ์/ต้นไม้สติกเกอร์ให้แก่ ๘ อำเภอในจังหวัดระยอง แนะนำข้าราชการย้ายมาใหม่ นายนภดล อิสรางกูล ณ อยุธยา ธนารักษ์พื้นที่พิจิตร มาดำรงตำแหน่ง ธนารักษ์พื้นที่ระยอง นายสุรพล สุทธจินดา อุตสาหกรรมจังหวัดสุพรรณบุรี มาดำรงตำแหน่งอุตสาหกรรมจังหวัดระยอง จากนั้น เป็นเรื่องที่ประธานแจ้งให้ที่ประชุมทราบ ได้แก่ แนวทางการปฎิบัติในการปฎิบัติงานด้วย การทำความดีละเว้นความชั่ว ยึดศีล ๕ เป็นแนวทาง ต่อด้วยนำเสนอวิดีทัศน์รายงานสรุปข่าวเด่นการดำเนินงานของจังหวัดระยองประจำเดือนกรกฎาคม๒๕๕๗ ของสำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดระยอง หลังจากนั้น เป็นการรับรองรายงานการประชุม ครั้งที่ ๖/๒๕๕๗ เมื่อวันที่ ๒๗ มิถุนายน ๒๕๕๗ จบแล้ว เป็นเรื่องสืบเนื่องจากการประชุมครั้งก่อน ได้แก่ สถานการณ์ด้านอุตสาหกรรม สถานการณ์ด้านแรงงาน สถานการณ์การคลังและเร่งรัดติดตามการใช้จ่ายในปีงบประมาณ ๒๕๕๖ สถานการณ์ด้านการท่องเที่ยวในจังหวัดระยอง สถานการณ์น้ำในจังหวัดระยองและการแก้ไขปัญหาของโครงการชลประทานระยอง และสถานการณ์ด้านมลพิษในจังหวัดระยอง จบแล้ว เป็นเรื่องเพื่อทราบและถือปฏิบัติ ได้แก่ การจัดโครงการรณรงค์เพื่อยุติความรุนแรงต่อผู้หญิงและเด็กและสังคมปลอดภัยไร้ความรุนแรงจังหวัดระยอง ๒๕๕๗ ในวันที่ ๕ สิงหาคม ๒๕๕๗ เวลา ๐๘.๐๐ -๑๖.๐๐ น ณ ศาลาเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สำนักงานอัยการจังหวัดระยอง และวันศุกร์ที่ ๒๒ สิงหาคม ๒๕๕๗ เวลา ๐๘.๐๐ -๑๒.๐๐ น ณ ห้องประชุมชั้น ๓ อาคารเอนกประสงค์ โรงเรียนมัธยมตากสินระยองระยอง เรื่องการจัดสัปดาห์รณรงค์นมแม่ ในวันที่ ๗ สิงหาคม ๒๕๕๗ ณ วัดบ้านค่าย อำเภอบ้านค่าย จังหวัดระยอง การกำหนดจัดงานเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เนื่องในโอกาสมหามงคล ๑๒ สิงหาคม ๒๕๕๗ ในวันที่ ๑๒ สิงหาคม ๒๕๕๗ ณ หอประชุมศูนย์ราชการจังหวัดระยอง และโครงการ หน่วยบำบัดทุกข์ บำรุงสุข สร้างรอยยิ้มให้ประชาชน ในวันที่ ๒๐ สิงหาคม ๒๕๕๗ เวลา ๐๘.๐๐ -๑๒.๐๐ น ณ โรงเรียนบ้านห้วงหิน หมู่ ๓ บ้านห้วงหิน ตำบลชากบก อำเภอบ้านค่าย จังหวัดระยอง

โดยการประชุมประจำเดือนในครั้งนี้ นับเป็นประโยชน์อย่างยิ่งต่อการประสานการปฏิบัติราชการ การบูรณาการภารกิจหน้าที่และการสนับสนุนในการให้บริการแก่ประชาชนได้อย่างทั่วถึงยิ่งขึ้น ดังนั้น การพบปะและรับทราบ เพื่อทำความเข้าใจในนโยบายที่จะช่วยให้ส่วนราชการต่าง ๆ สามารถเข้าถึงและการประสานให้บริการแก่ประชาชนได้อย่างมีประสิทธิภาพและประชาชนมีความพึงพอใจ ต่อการมีส่วนร่วมและการรับบริการ เพื่อตอบสนองการขับเคลื่อนการบริหารราชการแผ่นดินให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดของจังหวัดระยองอีกด้วย



สวรส รูปแก้ว /ข่าว

จังหวัดระยอง เปิดศูนย์ดำรงธรรม ตามประกาศ คสช.เพื่อให้คำปรึกษา รับเรื่องปัญหาความต้องการ ข้อเสนอแนะของประชาชน

จังหวัดระยอง เปิดศูนย์ดำรงธรรม ตามประกาศ คสช.เพื่อให้คำปรึกษา รับเรื่องปัญหาความต้องการ ข้อเสนอแนะของประชาชน

วันนี้ (30ก.ค.57) เวลา 14.00 น นายธานี สามารถกิจ ผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง เป็นประธานเปิดศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดระยอง ตามประกาศ ของ คสช. พร้อมด้วยนายอำเภอทุกอำเภอ หัวหน้าส่วนราชการ ร่วมเป็นเกียรติในพิธี ณ ชั้น 1 ศาลากลางจังหวัดระยอง

นายธานี กล่าวว่า ตามที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติ ได้มีประกาศรักษาความสงบแห่งชาติฉบับที่ 96/2557 ลงวันที่ 18 กรกฎาคม 2557 เรื่อง การจัดตั้งศูนย์ดำรงธรรม เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารงานระดับจังหวัด และให้การปฎิบัติงานของส่วนราชการในจังหวัดสามารถให้บริการประชาชนได้อย่างเสมอภาค มีคุณภาพ รวดเร็ว ลดขั้นตอนการปฎิบัติงาน เพื่อให้ประชาชนได้รับความพึงพอใจ คณะรักษาความสงบแห่งชาติ ให้จังหวัดจัดตั้งศูนย์ดำรงธรรมขึ้นในจังหวัด เพื่อทำหน้าที่ในการรับเรื่องร้องเรียน ร้องทุกข์ ให้คำแนะนำ ให้คำปรึกษา รับเรื่องปัญหาความต้องการ ข้อเสนอแนะของประชาชน แบบ One Stop Service และทำหน้าที่เป็นศูนย์บริการร่วมตามมาตรา 32 แห่งพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยเกณฑ์และวิธีการบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดี พ.ศ 25546 โดยจัดตั้งขึ้น ณ ชั้น 1 ศาลากลางจังหวัดระยอง โดยมีช่องทางการติดต่อดังนี้ ติดต่อด้วยตนเองที่ศูนย์ดำรงธรรม ชั้น 1 ศาลากลางจังหวัดระยอง ติดต่อทางโทรศัพท์และโทรสาร หมายเลข 038-694042 หรือติอต่อทางไปรษณีย์ถึง ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดระยอง ศาลากลางจังหวัดระยอง ถนนสุขุมวิท ตำบลเนินพระ อำเภอเมือง จังหวัดระยอง 21150


สวรส /ข่าว

กองพันทหารราบที่ 7 กรมทหารราบที่ 3 กองพลนาวิกโยธิน ค่ายมหาสุรสิงหนาท(พัน ร.7) จ.ระยอง จัดงานพิธีวันสถาปนาครบรอบการก่อตั้งหน่วยปีที่ 43

กองพันทหารราบที่ 7 กรมทหารราบที่ 3 กองพลนาวิกโยธิน ค่ายมหาสุรสิงหนาท(พัน ร.7) จ.ระยอง จัดงานพิธีวันสถาปนาครบรอบการก่อตั้งหน่วยปีที่ 43

เมื่อเวลา 09.00 น.วันที่ 30 ก.ค.ที่กองพันทหารราบที่ 7 กรมทหารราบที่ 3 กองพลนาวิกโยธิน ค่ายมหาสุรสิงหนาท ต.ตะพง อ.เมืองระยอง น.ท.จักรณรงค์ เหมนิธิ ผู้บังคับการกองพันทหารราบที่ 7 กรมทหารราบที่ 3 กองพลนาวิกโยธิน ค่ายมหาสุรสิงหนาท (พัน ร.7) เป็นประธานในพิธีวันสถาปนากองพันทหารราบที่ 7 กรมทหารราบที่ 3ปีที่ 43 ที่ค่ายมหาสุรสิงหนาท (พัน ร.7) เพื่อให้กำลังพลและครอบครัวร่วมกันทำบุญเพื่อความเป็นสิริมงคล โดยนิพนธ์พระสงฆ์มาเจริญพระพุทธมนต์ และมอบทุนการศึกษาให้บุตร ธิดากำลังพลด้วย โดยมี น.ท.นึกอนันต์ แสนอุบล อดีต ผู้บังคับการกองพันฯ หัวหน้าส่วนราชการ ผู้แทนโรงงานอุตสาหกรรม และประชาชนในพื้นที่ ร่วมในพิธีจำนวนมาก

น.ท.จักรณรงค์ เหมนิธิ ผู้บังคับการกองพันทหารราบที่ 7 กรมทหารราบที่ 3 กองพลนาวิกโยธิน กล่าวว่า ปัจจุบันค่ายมหาสุรสิงหนาท (พัน.ร.7) มีกำลังพลประมาณ 500 นาย ได้ก่อตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 30 กรกฎาคม 2514 ปัจจุบันกำลังพลทหารได้สลับผลัดเปลี่ยนออกไปราชการตามคำสั่งของผู้บังคับบัญชาในการปฏิบัติหน้าที่ในจังหวัดชายแดนภาคใต้ เพื่อปกป้องผืนแผ่นดินไทยให้มีความสงบสุข ซึ่งถือว่าเป็นภารกิจหลักของทหารหน่วยนาวิกโยธิน





วฐิต กลางนอก/ข่าว

สมาคมเคมีแห่งประเทศไทย ในพระอุปถัมภ์ของศาตราจารย์ด๊อกเตอร์สมเด็จพระเจ้าลูกเธอเจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี ร่วมกับกลุ่มโรงงานในนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด จัดกิจกรรมติดตามและประเมินผลโครงการห้องเรียนเคมีดาว

สมาคมเคมีแห่งประเทศไทย ในพระอุปถัมภ์ของศาตราจารย์ด๊อกเตอร์สมเด็จพระเจ้าลูกเธอเจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี ร่วมกับกลุ่มโรงงานในนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด จัดกิจกรรมติดตามและประเมินผลโครงการห้องเรียนเคมีดาว เพิ่มศักยภาพครูวิทยาศาสตร์ในพื้นที่จังหวัดระยอง
เมื่อเวลา 10.00 น.วันที่ 30 ก.ค. ที่โรงเรียนบ้านฉางกาญจนกุลวิทยา อำเภอบ้านฉาง จังหวัดระยอง ซึ่งสมาคมเคมีแห่งประเทศไทยในพระอุปถัมภ์ของศาตราจารย์ด๊อกเตอร์สมเด็จพระเจ้าลูกเธอเจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี ร่วมกับกลุ่มบริษัทดาว เคมิคอล ประเทศไทย จัดกิจกรรมติดตามและประเมินผลโครงการห้องเรียนเคมีดาว เพิ่มศักยภาพครูวิทยาศาสตร์ในพื้นที่จังหวัดระยอง เพื่อติดตามและประเมินผลการเรียนการสอนปฏิบัติการเคมีแบบย่อส่วน ภายใต้โครงการห้องเรียนเคมีดาว เพื่อสร้างความตื่นตัวและติดตามผลการนำเทคนิคการทำการทดลองที่ใช้สารเคมีปริมาณน้อยมาใช้ในการเรียนการสอนวิทยาศาสตร์ระดับมัธยมศึกษาตอนต้นและตอนปลาย ซึ่งมีความปลอดภัย ประหยัด สะดวกรวดเร็ว และไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม สำหรับการติดตามและประเมินผลโครงการ ห้องเรียนเคมีดาว เป็นการดำเนินงานในระยะที่ 3 โดยคณะทำงานมุ่งเน้นการสร้างศักยภาพการสอนปฏิบัติการเคมีแบบย่อส่วนของครูวิทยาศาสตร์ที่เข้าร่วมอบรมเชิงปฏิบัติการ ของ 21 โรงเรียนในพื้นที่จังหวัดระยอง ซึ่งจะเป็นตัวชี้วัดประสิทธิภาพการเรียนการสอนในเบื้องต้นว่าครูผู้สอนได้มีการนำความรู้และเทคนิคจากการเข้าอบรมมาประยุกต์ใช้ หรือพัฒนารูปแบบการเรียนการสอนให้เหมาะสมกับเนื้อหาวิชาของแต่ละระดับชั้นหรือไม่ รวมถึงช่วยกระตุ้นครูผู้สอนให้ใช้ความคิดสร้างสรรค์มาพัฒนารูปแบบการเรียนการสอนอันจะนำไปสูการพัฒนาศักยภาพของเยาวชนรุ่นใหม่ ซึ่งถือเป็นอนาคตของวงการวิทยาศาสตร์ไทย อย่างไรก็ดี โรงเรียนบ้านฉางกาญจนกุลวิทยาถือเป็น 1 ใน 21 โรงเรียนนำร่องของจังหวัดระยอง ที่มีครูผู้สอนวิทยาศาสตร์ เข้าร่วมโครงการห้องเรียนเคมีดาว ได้เรียนรู้เทคนิคการสอนการทดลองเคมีรูปแบบใหม่และนำมาขยายผลโดยการเสริมในเนื้อหาวิชาและกิจกรรมการเรียนการสอนวิทยาศาสตร์ในห้องเรียน






วฐิต/ข่าว

ผู้ปกครองโวยครูสอนวิทยาศาสตร์ ทำอนาจารลูกสาว ซึ่งเป็นลูกศิษย์เรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6

ผู้ปกครองโวยครูสอนวิทยาศาสตร์ ทำอนาจารลูกสาว ซึ่งเป็นลูกศิษย์เรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 จนไม่กล้าไปโรงเรียน เบื้องต้นเตรียมเข้าแจ้งความกับตำรวจเอาเรื่องให้ถึงที่สุด หลังพบว่าเพื่อนนักเรียนหญิงร่วมชั้น ถูกทำอนาจารยกห้อง ด้านผู้อำนวยการโรงเรียน ระบุ หลังเกิดเรื่องครูสอนวิทยาศาสตร์ ยื่นลาออกแล้ว

เมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 30 กรกฎาคม 2557 ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากนางไก่ (นามสมมุติ) อายุ 46 ปี ชาวบ้าน ม.5 ต.วังหว้า อ.แกลง จ.ระยอง ว่าลูกสาวเรียนอยู่ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนระดับประถมศึกษาแห่งหนึ่ง ใน อ.แกลง จ.ระยอง ถูกครูผู้ชาย ซึ่งเป็นครูประจำชั้น สอนวิชาวิทยาศาสตร์ทำอนาจาร โดยนางไก่ เล่าว่า ลูกสาวถูกครูคนดังกล่าว กระทำอนาจารหลายครั้งด้วยกัน โดยใช้มือจับหน้าอก และอวัยวะเพศ จนไม่กล้าไปโรงเรียน นอกจากนี้ยังมีเพื่อนนักเรียนหญิงในห้องอีกหลายคนด้วยกันเรียกได้ว่ายกห้องเรียนเลยทีเดียว ถูกครูกระทำอนาจารเช่นกัน หลังเกิดเหตุตนและผู้ปกครองเด็กนักเรียนที่ถูกทำอนาจาร ได้ไปแจ้งให้ทางโรงเรียนสอบสวนในเรื่องนี้ กลับมีครูในโรงเรียนมาพูดคุยเจรจาไม่ให้เอาเรื่อง เพราะเกรงว่าโรงเรียนจะเสียชื่อเสียง แต่อย่างไรก็ตามในเบื้องต้นในวันพรุ่งนี้ (31 ก.ค.) ได้เตรียมเข้าแจ้งความกับตำรวจเอาเรื่องให้ถึงที่สุดแล้ว ด้านนายแสวง(นามสมมติ)

ผู้อำนวยการโรงเรียน กล่าวว่า หลังผู้ปกครองเด็กนักเรียน มาร้องเรียน ก็ได้มีการว่ากล่าวตักเตือนครูคนดังกล่าวไป และตั้งกรรมการสอบสวน พบว่าการร้องเรียนมีมูลความจริง จึงได้สั่งให้หยุดการสอน โดยให้เซ็นชื่อรับทราบข้อกล่าวหา พร้อมกับส่งเรื่องไปยังสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาระยอง เขต 2 ซึ่งขณะนี้เรื่องอยู่ระหว่างการสอบสวนทางวินัย อย่างไรก็ตามครูคนดังกล่าว ได้ยื่นหนังสือลาออกแล้ว





มาโนช สนองสุข-ข่าว

เรือหลวงกันตัง ช่วยชีวิต 2 สามี ภรรยา ชาวประมงรอดตายหวุดหวิด หลังเรือล่มกลางทะเลต้องเกาะถังน้ำมันลอยคอกลางทะเลกว่า 2 ชั่วโมง

(29 ก.ค. 57) ร.อ.พรเทพ ปาลรัตน์ ผู้บังคับการเรือหลวงกันตัง 524 ได้นำเรือหลวงกันตัง 524 พร้อมเจ้าหน้าที่ทหารกลับจากการปฏิบัติหน้าที่จากพื้นที่บ้านบางเป้า ต.เกาะช้างใต้ อ.เกาะช้าง จ.ตราด ขณะที่แล่นเรืออ้อมเกาะช้างมุ่งหน้ากลับฐานส่งกำลังบำรุงทหารเรือตราด ทัพเรือภาคที่ 1 บ้านธรรมชาติล่าง ต.คลองใหญ่ อ.แหลมงอบ จ.ตราด มีคลื่นลมแรงและมีฝนตกลงมาเป็นระยะ เมื่อแล่นเรือมาถึงบริเวณบ้านสลักห่างจากชายฝั่งประมาณ 4 กิโลเมตร พบผู้ลอยคออยู่กลางทะเลโบกมือขอความช่วยเหลืออยู่ในน้ำกลางทะเลจำนวน 2 ราย เป็นชาย 1 ราย และหญิง 1 ราย โดยทั้ง 2 ราย ว่ายน้ำลอยคอเกาะถังน้ำมัน 20 ลิตร ท่ามกลางคลื่นลมที่แรง เมื่อเจ้าหน้าที่เห็นจึงได้ทำการหยุดแล่นเรือและรีบให้การช่วยเหลือ โดยได้มัดเชือกเข้ากับห่วงยางก่อนโยนไปให้ผู้ประสบเหตุทั้ง 2 ราย ใช้เวลาประมาณ 5 นาที สามารถช่วยผู้ประสบภัยทั้ง 2 รายขึ้นมาบนเรือได้สำเร็จ

จากการสอบถามทราบชื่อผู้ประสบภัย คือ นายสมยศ ขันนาค อายุ 45 ปี และ นางสายใจ ขันนาค อายุ 37 ปี ทั้งคู่อยู่บ้านเลขที่ 15/4 ม.3 ต.หาดเล็ก ต.คลองใหญ่ จ.ตราด เป็นสามีภรรยากัน หลังจากที่ช่วยชีวิต 2 สามีภรรยาเสร็จทั้งคู่อยู่ในอาการหนาวสั่นและอ่อนเพลีย ร.อ. ประสิทธิ์ ชำนาญจันทร์ นายแพทย์ประจำเรือได้ทำการปฐมพยาบาลเบื้องต้นและให้เปลี่ยนเสื้อผ้าเพื่อคลายความหนาว

สอบถาม นาย สมยศ ขันนาค เล่าว่า ตนและภรรยามีอาชีพประมงเรือเล็ก วันนี้ได้ออกมาวางอวนหาปลาบริเวณทะเลหน้าเกาะช้างห่างจากฝั่งประมาณ 5 กิโลเมตร หลังจากที่วางอวนเสร็จก็ได้แล่นเรือตระเวนเก็บอวนขณะที่กำลังเก็บอวนอยู่นั้นได้มีลมพายุฝนตกลงมาทำให้มีคลื่นแรง ตนและภรรยาพยายามขับเรือแล่นเข้าฝั่ง จะไปหลบลมพายุที่บริเวณหลังเกาะสลัก ขณะที่แล่นเรืออยู่คลื่นได้มีขนาดใหญ่ขึ้นและซัดเข้าใส่เรือน้ำทะเลไหลทะลักเข้าเรือจนทำให้เรือจมลง ตนและภรรยาต้องว่ายน้ำลอยคอโดยอาศัยถังน้ำมันพลาสติกขนาด 20 ลิตร เกาะลอยคอนานกว่า 2 ชั่วโมง จนมีเรือหลวงกันตัง 524 มาพบและช่วยชีวิตไว้ได้ทัน ซึ่งหากไม่มีเรือรบหลวงแล่นผ่านมาพบ ตนคิดว่า ตนเองและภรรยาคงจะต้องจมน้ำเสียชีวิตแน่นอน เพราะภรรยาของตนเริ่มจะหมดแรงแล้ว โชคดีที่มีเรือหลวงมาพบก่อน จากนั้น ร.อ.พรเทพ ปาลรัตน์ ผู้บังคับการเรือหลวง กันตัง 524 ได้พาสามี ภรรยา ทั้ง 2 ราย นั่งเรือไปขึ้นฝั่งที่ ฐานส่งกำลังบำรุงทหารเรือตราด ทัพเรือภาคที่ 1 บ้านธรรมชาติล่าง ต.คลองใหญ่ อ.แหลมงอบ พร้อมรายงานให้ น.อ. อนุชา บุตรสิงขรณ์ ผบ.มชด./1 ทราบ พร้อมทั้งจัดเตรียมรถพยาบาลเพื่อนำผู้ประสบภัยทั้ง 2 ราย ส่งตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลแหลมงอบต่อไป

สถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน จ.ตราด พัฒนาศักยภาพเครือข่ายการคุ้มครองสวัสดิภาพเด็กและเยาวชนที่กระทำผิดกฎหมายในกลุ่มประเทศอาเซียน

(29 ก.ค. 57) นายพยัคฆพันธุ์ โพธิ์แก้ว รองผู้ว่าราชการจังหวัดตราด เปิดการประชุมเชิงปฏิบัติการการส่งเสริมเครือข่ายการคุ้มครองสวัสดิภาพเด็กและเยาวชนที่กระทำผิดกฎหมายในกลุ่มประเทศอาเซียน ปีงบประมาณ 2557 ซึ่งจังหวัดตราดโดยสถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชนจังหวัดตราด จัดขึ้นที่ห้องประชุม อาคารบูรณาการกระทรวงยุติธรรมจังหวัดตราด มีผู้แทนจากหน่วยงานสังกัดกระทรวงยุติธรรมในจังหวัดตราด ตลอดจนผู้แทนหน่วยงานเครือข่ายทั้งภาครัฐ เอกชน ภาคประชาชนกว่า 55 คนเข้าร่วมโครงการครั้งนี้

นางจินนารี ธนพรภิบาลชน ผู้อำนวยการสถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชนจังหวัดตราด กล่าวว่า ตามที่ในปี 2558 ประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้จะรวมตัวกันเป็นประชาคมอาเซียน กรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน ได้เห็นควรให้มีแนวทางในการสงเคราะห์และคุ้มครองสวัสดิภาพเด็กและเยาวชนขึ้น เพื่อเป็นการับรองการปฏิบัติงานต่อเด็กและเยาวชนที่กระทำผิดกฎหมายในกลุ่มประเทศอาเซียน ให้ได้รับการสงเคราะห์และคุ้มครองที่มีประสิทธิภาพ สอดคล้องกับสภาพปัญหา ตลอดจนพัฒนาแนวทางการคุ้มครองสวัสดิภาพเด็กและเยาวชนที่กระทำผิดกฎหมาย ทั้งเด็กไทยและเด็กที่ไม่เข้าใจภาษาไทย เพื่อให้เด็กและเยาวชนที่เข้าสู่กระบวนการยุติธรรม ได้รับการคุ้มครองอย่างเท่าเทียมกันตามสิทธิที่มีกฎหมายบัญญัติรับรอง ดังนั้นเพื่อให้เกิดการประสานความร่วมมือในการดำเนินการสงเคราะห์ช่วยเหลือเด็กและเยาวชนในกลุ่มประเทศอาเซียนได้อย่างมีประสิทธิภาพได้อย่างมีประสิทธิภาพสถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชนจังหวัดตราด จึงจัดโครงการปะชุมเชิงปฏิบัติการครั้งนี้ขึ้น เพื่อให้ผู้เข้าร่วมได้มีส่วนร่วมจัดทำแนวทางในการสงเคราะห์และคุ้มครองสวัสดิภาพเด็กและเยาวชน ในกลุ่มประเทศอาเซียนได้อย่างมีประสิทธิภาพ นำไปสู่การมีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหาได้อย่างเหมาะสมต่อไป

โรงเรียนคลองใหญ่วิทยาคม จ.ตราด จัดค่ายภาษาจีน มุ่งส่งเสริมการใช้ภาษาจีนเพื่อการท่องเที่ยวและธุรกิจให้เยาวชน

(30 ก.ค. 57) ที่โรงเรียนคลองใหญ่วิทยาคม นายบุญเลิศ วรวงษ์ ปลัดอำเภอคลองใหญ่ เป็นประธานเปิดโครงการเข้าค่ายภาษาจีน มีคณะอาจารย์สอนจากมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีฮวายฉิวและมูลนิธีจี้ฮว่าร่วมเป็นวิทยากร โดยการอบรมครั้งนี้มีนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาตอนต้นและมัธยมศึกษาตอนปลาย จำนวน 80 คนเข้าร่วม

นายสำเนา บุญมาก ผู้อำนวยการโรงเรียนคลองใหญ่วิทยาคม กล่าวว่า การจัดค่ายอบรมภาษาจีนในครั้งนี้ สืบเนื่องจากโรงเรียนคลองใหญ่วิทยาคมได้ทำข้อตกลงร่วมกันกับมหาวิทยาลัยเทคโนโลยี ฮวายฉิวและมูลนิธีจี้ฮว่า ประเทศสาธารณะรัฐไต้หวัน เพื่อความร่วมมือทางด้านการศึกษาและการสร้างความสัมพันธ์อันดี เพื่อส่งเสริมทักษะภาษาจีนให้กับนักเรียนโรงเรียนคลองใหญ่วิทยาคม รวมทั้งเป็นการพัฒนาคุณภาพชีวิตให้มีความทัดเทียมอารยประเทศ จึงได้ร่วมกันจัดค่ายภาษาจีนให้กับนักเรียนที่มีความสนใจ เพื่อเปิดโอกาสให้นักเรียนได้แสดงอัจริยภาพและความสนใจของตนเองในภาษาจีน ซึ่งในการอบรมนักเรียนจะได้ประสบการณ์ตรงจากการสื่อสารกับเจ้าของภาษา และสามารถสื่อความคิดผ่านการพูด การเขียน หรือการนำเสนอด้วยวิธีต่าง ๆ ที่สำคัญคือนักเรียนได้ใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ สำหรับการอบรมในครั้งนี้ จัดขึ้นเป็นเวลา 2 วัน

อบจ.ตราด ร่วมนักศึกษาวิทยาลัยเทคนิค และผู้ต้องขังเรือนจำชั่วคราวเขาระกำ แก้ปัญหาหลังคาอัฒจันทร์สนามกีฬากลางจังหวัดตราดพังจากอิทธิพลของพายุ รับการแข่งขันฟุตบอลดีวิชั่น 1 ตราดเอฟซี เสาร์นี้

จากกรณีที่เกิดพายุหมุนในพื้นที่อำเภอเมืองตราด ส่งผลให้หลังคาอัฒจันทร์ฝั่งกระถางคบเพลิงสนามกีฬากลางจังหวัดตราด ที่เป็นหลังคาเมทัลชีทพร้อมด้วยโครงเหล็กหลังคาพังถล่มลงมาทั้งแถบเหตุเกิดเมื่อวันนที่ 28 กรกฎาคม ที่ผ่านมา วันนี้ (30 ก.ค. 57) ทางองค์การบริหารส่วนจังหวัดตราด โดยกองช่าง อบจ.ตราด ได้ระดมความร่วมมือโดยขอทางให้คณะอาจารย์ นักศึกษาภาควิชาก่อสร้าง วิทยาลัยเทคนิคตราด ร่วมกันแก้ไขปัญหา ในขณะที่เรือนจำชั่วคราวเขาระกำได้ส่งผู้ต้องขัง เข้ามาช่วยดำเนินการรื้อถอนซากหลังคาดังกล่าวให้ สนามกีฬาแห่งนี้มีความพร้อมในการแข่งขันฟุตบอลดีวีชั่น 1 ในสุดสัปดาห์นี้

นายวิเชียร ทรัพย์เจริญ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดตราด กล่าวว่า ทาง อบจ.ตราดได้ระดมความร่วมมือในการแก้ไขปัญหาดังกล่าวซึ่งส่งผลกระทบต่อตู้ควบคุมระบบกระแสไฟฟ้าส่งสว่างภายในสนามด้วย ดังนั้นในวันเสาร์นี้ที่ฟุตบอลดีวิชั่น 1 มีโปรแกรมการแข่งขันที่ทีมตราด เอฟซี จะต้องเปิดบ้านต้อนรับการมาเยือนของทีมพิษณุโลก ทีเอสวาย ทางสโมสรตราดเอฟซีได้ทำเรื่องไปยัง ทีพีแอล ในการขอเลื่อนเวลาการแข่งขันจากเวลา 18.00 น. มาเป็นเวลา 16.00 น. แล้ว เนื่องจากปัญหาด้านระบบแสงสว่าง จึงขอประชาสัมพันธ์ให้กองเชียร์ตราดเอฟซีเดินทางมาชมการแข่งขันในช่วงเวลาดังกล่าว

จ.ตราด ติดตามการดำเนินงาน ตามบันทึกความร่วมมือ “เมืองตราดสุขภาพดี”

(30 ก.ค. 57) นายณรงค์ ธีรจันทรางกูร รองผู้ว่าราชการจังหวัดตราด กล่าวระหว่างการประชุมติดตามผลการดำเนินงานตามบันทึกความร่วมมือ "เมืองตราดสุขภาพดี” ว่า ตามที่จังหวัดตราดโดยสำนักงานสาธารณสุขจังหวัด ได้ลงนามบันทึกความร่วมมือ "เมืองตราดสุขภาพดี” กับหน่วยงานต่าง ๆ มาแล้ว จึงได้มีการติดตามข้อมูลปัญหาสุขภาพที่สำคัญของประชาชนในจังหวัดตราด รวมทั้งปรับแนวทางการดำเนินงานเพื่อนำไปสู่แผนการดำเนินงานเมืองตราดสุขภาพดีให้เกิดผลเป็นรูปธรรม

ทั้งนี้จากข้อมูลด้านสุขภาพของจังหวัดตราด พบว่า สาเหตุการเสียชีวิตอันดับแรกของประชาชนในจังหวัดตราด คือ โรคมะเร็ง พบว่าเพศชายป่วยเป็นมะเร็งตับมากที่สุด รองลงมาคือ มะเร็งช่องปาก และลำคอ มะเร็งลำไส้ใหญ่ มะเร็งปอด และมะเร็งต่อมลูกหมาก และอวัยวะเพศชาย ส่วนเพศหญิง ป่วยเป็นมะเร็งเต้านม มากที่สุด รองลงมาคือ มะเร็งปากมดลูก มะเร็งลำไส้ใหญ่ มะเร็งปอด และมะเร็งตับตามลำดับ อย่างไรก็ตาม ปัญหาสุขภาพที่สำคัญของประชาชนในจังหวัดตราดอีกด้านหนึ่ง คือมะเร็งตับ เกิดการติดเชื้อไวรัสตับอักเสบชนิด บี และวี ภาวะตับแข็ง การดื่มสุรา ไขมันพอกตับ จากภาวะอ้วน การรับประทานอาหารที่มีสารก่อมะเร็ง เช่น ถั่วลิสงบดที่มีสารอะฟลาทอกซิน ปลาเค็ม กุนเชียง ไส้กรอก ที่มักพบสารไนโตรซามีน และการติดเชื้อพยาธิใบไม้ตับ ส่วนมะเร็งปอด มีส่วนเกี่ยวข้องกับการสูบบุหรี่ โรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง และวัณโรคปอด ทั้งนี้ที่ประชุมได้หารือถึงการป้องกันควบคุมโรคมะเร็งตับ มะเร็งปอด ส่งเสริมให้ประชาชนฉีดวัคซีนให้ครอบคลุมกลุ่มเป้าหมายเด็กแรก และส่งเสริมลดภาวะโรคอ้วน ลดการดื่มสุรา และสูบบุหรี่ หลังการประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะได้ข้อมูลและรับทราบบทบาทที่เกี่ยวข้องในการดำเนินกิจกรรม เพื่อแก้ไขปัญหาสุขภาพให้กับประชาชนจังหวัดตราดได้อย่างถูกต้องเหาะสมและยั่งยืนต่อไป

จ.ตราด เปิดเวทีสัมมนาโครงการจัดทำแผนบริหารจัดการและพัฒนาทรัพยากรน้ำแบบบูรณาการ ระดับจังหวัดตราด

(30 ก.ค. 57) นางสาวเบญจวรรณ อ่านเปรื่อง ผู้ว่าราชการจังหวัดตราด เปิดเวทีการประชุมสัมมนาระดับจังหวัด ครั้งที่ 2 โครงการจัดทำแผนบริหารจัดการและพัฒนาทรัพยากรน้ำแบบบูรณาการจังหวัดตราด มีหน่วยงานภาครัฐ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ตลอดจนผู้แทนภาคประชาชนในพื้นที่เข้าร่วม ที่ห้องประชุมพลอยแดง ศาลากลางจังหวัดตราด

ผู้ว่าราชการจังหวัดตราด กล่าวว่า การจัดทำแผนบริหารจัดการและพัฒนาทรัพยากรน้ำแบบบูรณาการ จังหวัดตราด เกิดจากการที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเห็นชอบให้จังหวัด เป็นหน่วยงานรับผิดชอบการดำเนินการโครงการรับผิดชอบดำเนินการ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อใช้ประกอบการเสนอขอรับงบประมาณจังหวัดและกลุ่มจังหวัด ปี 2557 ถึงปี 2560 เพื่อแก้ปัญหาอุทกภัยและภัยแล้งของจังหวัด ซึ่งการมอบหมายให้จังหวัดเป็นผู้รับผิดชอบการดำเนินการโครงการ เนื่องจากเป็นหน่วยงานในพื้นที่ที่ใกล้ชิด สามารถรับทราบปัญหาและความต้องการของประชาชนได้อย่างแท้จริง ตลอดจนเห็นวาหน่วยงานจงหวัดมีความคล่องตัว มีศักยภาพและประสิทธิภาพในการดำเนินงานโครงการดังกล่าวในพื้นที่แต่ละจังหวัดให้แล้วได้ในปีงบประมาณที่กำหนด การประชุมสัมมนาระดับจังหวัดครั้งที่ 2 มีวัตถุประสงค์เพื่อสรุปแผนบูรณาการการแก้ไขปัญหาน้ำท่วม น้ำแล้ง การกัดเซาะชายฝั่ง และคุณภาพน้ำของจังหวัด อันประกอบไปด้วยโครงการที่จะแก้ไขปัญหาของพื้นที่ที่ทุกส่วนราชการใช้เป็นแผนในการขอรับการสนับสนุนงบประมาณ โดยแต่ละโครงการะกำหนดชัดเจนว่าหน่วยงานใดจะเป็นหน่วยปฏิบัติ เพื่อมีการใช้จ่ายงบประมาณอย่างมีประสิทธิภาพประหยัด และไม่ซ้ำซ้อน ทั้งนี้เพื่อนำข้อมูลสรุปและข้อคิดเห็นจากที่ประชุมนำไปปรับปรุงแผนบูรณาการแก้ไขปัญหาน้ำท่วมน้ำแล้ง การกัดเซาะชาฝั่ง และคุณภาพน้ำของจังหวัดตราดต่อไป

จังหวัดจันทบุรีขอเชิญชวนประชาชนทุกภาคส่วนร่วมพิธีเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 12 สิงหาคม 2557

จังหวัดจันทบุรีขอเชิญชวนประชาชนทุกภาคส่วนร่วมพิธีเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 12 สิงหาคม 2557

นายธเนศ เธียรนันทน์ ประชาสัมพันธ์จังหวัดจันทบุรีกล่าวว่า เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 82 พรรษา 12 สิงหาคม 2557 จังหวัดจันทบุรีกำหนดจัดงานเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 82 พรรษา 12 สิงหาคม 2557 ในวันอังคารที่ 12 สิงหาคม 2557 ณ ศาลาเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช เทศบาลเมืองจันทบุรี ( ศาลากระต่าย ) ช่วงเช้า เวลา 07.00 น.เป็นพิธีทำบุญตักบาตรข้าวสารอาหารแห้งพระภิกษุสงฆ์จำนวน 83 รูป ถวายเป็นพระราชกุศลฯ หลังจากนั้นจะเป็นพิธีถวายพระพรชัยมงคล ถวายราชสดุดีเฉลิมพระเกียรติฯ

ส่วนภาคค่ำ ตั้งแต่เวลา 17.00 น.เป็นต้นไป ที่ ศาลาเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช เทศบาลเมืองจันทบุรี ( ศาลากระต่าย ) ผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรี นายสามารถ ลอยฟ้า จะนำข้าราชการ ทหาร ตำรวจ พนักงานรัฐวิสาหกิจ กลุ่มพลังมวลชน นักเรียน นักศึกษา พ่อค้า ประชาชน ร่วมในพิธีถวายเครื่องราชสักการะพานพุ่มเงิน – พุ่มทอง และพิธีจุดเทียนชัยถวายพระพรชัยมงคล

จังหวัดจันทบุรีจึงขอเชิญชวนประชาชนชาวจังหวัดจันทบุรีทุกหมู่เหล่า ร่วมพิธีเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 82 พรรษา 12 สิงหาคม 2557 ณ ศาลาเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช เทศบาลเมืองจันทบุรีโดยพร้อมเพรียงกัน และขอเชิญประชาชนร่วมประดับตกแต่งธงชาติและธงตราสัญลักษณ์ ตามหน่วยงาน อาคารบ้านเรือน ร้านค้า บริษัท ตลอดจนงดเว้นอบายมุข การเล่นการพนัน การฆ่าสัตว์ ทรมานสัตว์ เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลฯ



จรัล บรรยงคเสนา /ภาพ/ข่าว ( 30 ก.ค.57 )
                 ธเนศ เธียรนันทน์/ตรวจข่าว 

ท.เมืองจันท์เร่งแก้ปัญหาจราจรติดขัดชั่วโมงเร่งด่วนหน้าสถานศึกษา

เทศบาลเมืองจันทบุรี ร่วมกับสถานีตำรวจภูธรเมืองจั นทบุรี จัดระเบียบการจอดรถรับส่งนั กเรียนแก้ปัญหาการจราจรติดขั ดในชั่วโมงเร่งด่วน

ภายในเขตเทศบาลเมืองจันทบุรี ซึ่งเป็นที่ตั้งของสถานศึกษาต่าง ๆ ทั้งระดับประถม และมัธยม ที่ผ่านมามีปัญหารถติดขัดเนื่องจากผู้ปกครองนำรถส่วนตัวรับส่งบุตรหลาน รวมทั้งรถรับส่งนักเรียนประจำที่จะเข้ามาส่งเด็กนักเรียนตามสถานศึกษา 4 โรงเรียน โรงเรียนเบญจมราชูทิศ โรงเรียนศรียานุสรณ์ โรงเรียนอนุบาลจันทบุรี และโรงเรียนสฤษดิเดชที่อยู่ใกล้กันและมีปัญหารถติดขัดในชั่วโมงเร่งด่วนทั้งเช้า เย็น โดยเฉพาะวันที่มีฝนตก เทศบาลเมืองจันทบุรีร่วมกับ เจ้าหน้าที่ตำรวจจราจร สภ.เมืองจันทบุรี ขนส่งจังหวัด และตัวแทนคณะครูจากโรงเรียน จึงได้ร่วมกันวางแผนแก้ไขปัญหาด้ านการจราจร ณ บริเวณถนนสายต่าง ๆ ที่เชื่อมโยงโรงเรียน        

ทั้งนี้ถนนหน้าโรงเรียนดังกล่าวมี ช่องทางการจราจรเพียง 2 ช่อง พื้นผิวจราจรคับแคบ ประกอบกับผู้ปกครอง และรถรับส่งนักเรียนจอดบริเวณฟุ ตบาท และจอดในบริเวณห้ามจอดทำให้ การจราจรติดขัดยิ่งขึ้น  เพื่อให้การจราจรเป็นไปอย่ างคล่องตัว หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่ร่วมกันแก้ไขปัญหาจั ดระเบียบการจอดรถรับส่งนักเรียน โดยดำเนินการให้เจ้าหน้าที่ กองช่าง เทศบาลเมืองจันทบุรี ทาสีตีเส้นขอบฟุ ตบาททางเท้า ทุบช่องฟุตบาท เพื่อขยายช่องทางการจราจร  ซึ่งจะทำให้ประชาชนได้รั บความสะดวกในการสัญจร และลดปัญหาการจราจรติดขัดในชั่วโมงเร่งด่วน



จรัล บรรยงคเสนา /ภาพ/ข่าว ( 30 ก.ค.57 )

ปลัดกระทรวงมหาดไทย ลงพื้นที่ติดตามเพื่อติดตามการดำเนินงานศูนย์ดำรงธรรมระดับจังหวัด

วันพุธที่ 30 กรกฎาคม พ.ศ. 2557 นายวิบูลย์ สวงนพงศ์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย นำคณะลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมการดำเนินงานของศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดชลบุรี ตามนโยบายของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) โดยมีนายคมสัน เอกชัย ผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี ให้การตอนรับ

ปลัดกระทรวงมหาไทย นำคณะลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมการดำเนินงานของศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดชลบุรี ซึ่งจัดตั้งขึ้นตามนโยบายของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ เพื่อทำหน้าที่ในการรับเรื่องร้องเรียนร้องทุกข์ ให้บริการข้อมูลข่าวสาร ให้คำปรึกษารับเรื่องปัญหาความต้องการ และข้อเสนอแนะของประชาชนสามารถให้บริการแก่ประชาชนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ตอบสนองความต้องการของประชาชนได้อย่างรวดเร็วและทั่งถึง นายคมสัน เอกชัย ผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี กล่าวว่า ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดชลบุรี ได้มีการจัดตั้งขึ้นที่ศาลากลางจังหวัดชลบุรี และเปิดให้บริการประชาชนอย่างเป็นทางการไปแล้ว ในรูปแบบศูนย์บริการร่วมโดยในระยะแรกมีบริการ 5 เรื่อง ได้แก่ เรื่องการให้บริการข้อมูลข่าวสารและให้คำปรึกษา การให้บริการรับเรื่อง – ส่งต่อ (Service Link) การให้บริการแบบเบ็ดเสร็จ (One Stop Service) การรับเรื่องราวร้องเรียน ร้องทุกข์ และการรับเรื่องปัญหาความต้องการและข้อเสนอแนะของประชาชน

สำหรับศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดชลบุรี ได้ตั้งอยู่ที่ศาลากลางจังหวัดชลบุรี แล้ว ยังได้จัดตั้งศูนย์ดำรงธรรมระดับอำเภอ เพื่อให้ประชาชนได้รับข้อมูลข่าวสาร หรือร้องเรียน ร้องทุกข์ ตอบสนองความต้องการของประชาชนได้อย่างรวดเร็วและทั่วถึง นอกจานี้ในช่วงบ่ายปลัดกระทรวงมหาดไทยได้ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมศูนย์ดำรงธรรมอำเภอเมืองชลบุรี และอำเภอบางละมุงอีกด้วย

นายวิบูลย์ สวนพงศ์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า การตรวจเยี่ยมศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดชลบุรี ในวันนี้ เพื่อติดตามความคืบหน้าการดำเนินงานของ ศูนย์ดำรงธรรม ตามที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ได้มีประกาศให้ทุกจังหวัดจัดตั้งศูนย์ดำรงธรรมขึ้น ซึ่งภายหลังมีประกาศดังกล่าว กระทรวงมหาดไทยได้สั่งการให้ทุกจังหวัดดำเนินการาจัดตั้งศูนย์ดำรงธรรมระดับจังหวัด ขึ้น ณ ศาลากลางจังหวัด หรือสถานที่ที่จังหวัดเห็นสมควรเพื่อความสะดวกแก่ประชาชนที่มาติดต่อขอรับบริการ ซึ่งขณะนี้ทุกจังหวัดได้ดำเนินการไปแล้ว โดยในส่วนกลางได้กำหนดจัดตั้งขึ้นที่ศูนย์บริการประชาชนวังไชยา (นางเลิ้ง) ซึ่งจะเปิดทำการอย่างเป็นทางการในวันที่ 4 สิงหาคม 2557 นี้

อย่างไรก็ดี ในวันนี้ได้เน้นย้ำจังหวดได้พัฒนาประสิทธิภาพการให้บริการต่างๆ ให้เป็นไปตามแนวทางที่กระทรวงมหาดไทยได้กำหนดไว้ทั้งเรื่องโครงสร้างของศูนย์ดำรงธรรม การปฏิบัติงาน และการเพิ่มประสิทธิภาพการให้บริการแก่ประชาชน รวมทั้งการขยายการจัดตั้งศูนย์ดำรงธรรมลงไปสู่ระดับอำเภอในลักษณะเช่นเดียวกับศูนย์ดำรงธรรมจังหวัด เพื่อให้การดำเนินงานของศูนย์ดำรงธรรมมีประสิทธิภาพ เกิดประโยชน์สูงสุดกับประชาชน และเป็นไปตามนโยบาย คสช. ต่อไป



ปริญญา/ข่าว/ภาพ

ชลบุรี จัดการประชุมหัวหน้าส่วนราชการ ประจำเดือน กรกฎาคม 2557

วันพุธที่ 30 กรกฎาคม พ.ศ. 2557 นายคมสัน เอกชัย ผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี เป็นประธานประชุม พร้อมด้วย นายวรวิทย์ สายสุพัฒน์ผล รองผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี และนายพงษ์ศักดิ์ ปรีชาวิทย์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี โดยมีหัวหน้าส่วนราชการประจำจังหวัด หัวหน้าหน่วยงานส่วนกลาง นายอำเภอทุกอำเภอ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดชลบุรี นายกเมืองพัทยา นายกเทศมนตรี และหัวหน้าหน่วยงานรัฐวิสาหกิจจังหวัดชลบุรี เข้าร่วมประชุม ณ ห้องประชุมชลบุรี ศาลากลางจังหวัดชลบุรี

จังหวัดชลบุรี ได้จัดการประชุมหัวหน้าส่วนราชการ เป็นประจำทุกเดือน เพื่อให้หน่วยงานภาครัฐภาคเอกชน และองค์กรปกครองท้องถิ่นช่วยแก้ไขปัญหาให้กับพี่น้องประชาชนชาวชลบุรี โดยมีนายคมสัน เอกชัย ผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี เป็นประธานประชุม พร้อมด้วยรองผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี และหัวหน้าส่วนราชการจังหวัดชลบุรี เข้าร่วมประชุมโดยพร้อมเพียงกัน ในการประชุมแต่ละครั้งได้มีการออกอากาศ ทางวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย จังหวัดชลบุรี ทางFM 99.75 เมกกะเฮิร์ต และทางเคเบิล CTV ชลบุรีทางช่อง 20 ตั้งแต่เวลา 09.00 น.เป็นต้นไป

สำหรับการประชุมในวันนี้ นายคมสัน เอกชัย ผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี ประธานในที่ประชุม ได้แจ้งในที่ประชุมทราบหลายเรื่องเริ่มที่การจัดงานมหากรรมคอนเสิร์ต คืนความสุขให้คนในชาติ จังหวัดชลบุรี ส่วนกิจกรรมภายในงานประกอลบด้วยการจัดนิทรรศการรณรงค์การรักชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์  กิจกรรมสินค้าราคาพิเศษ เช่น ธงฟ้าราคาประหยัด จากกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ สินค้าโอท๊อป กิจกรรมปลดหนี้ พร้อมด้วยบูธบริการประชาชน เช่น ตรวจสุขภาพ ตัดผมฟรี การฉายภาพยนตร์ตำนานสมเด็จพระนเรศวร ส่วนบนเวทีเป็นการแสดงคอนเสิร์ตจากรายการเวทีไท ซึ่งจะทำการถ่ายทอดสดทางช่อง 11 (NBT) ส่วนเรื่องต่อมาเป็นการรายงานแผนพัฒนาเครือยขายการขนส่งและระบบบริหารขนส่งสินค้าและบริการ ซึ่งเป็นที่หน้ายินดีเป็นอย่างยิ่งที่ คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ได้อนุมัติงบประมาณจำนวน 4,200 กว่าล้านบาท ดำเนินการซ่อมบำรุงทาง 6 เส้นทางหลักในระยะเวลา 3 ปี และยังได้จัดสรรงบประมาณอีก 200 กว่าล้านบาท ให้กับเทศบาลเมืองบ้านสวน เพื่อแก้ไขปัญหาน้ำท่วมซ่ำซาก ส่วนเรื่องต่อมาเป็นการเฝ้าระวังโรคในช่วงฤดูฝน (โรคไข้หวัดโคโรนา 2009) และเรื่องสุดท้ายเป็นภารกิจและแผนงาน โครงการของสำนักงานพื้นที่พิเศษเมืองพัทยา และพื้นที่เชื่อมโยง (สพพ.3) ตามที่รัฐบาลได้จัดตั้ง องค์การบริหารพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน ขึ้นเป็นองค์การมหาชน เพื่อทำหน้าที่เป็นหน่วยงานในการกำหนดนโยบาย และแผนการบริหารการพัฒนาในพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน รวมถึงการประสานหน่วยงานภาครัฐส่วนกลาง ส่วนท้องถิ่น และประชาชน เพื่อให้เกิดความร่วมมือในการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนต่อไป

นอกจากนี้ในที่ประชุมได้แนะนำหัวหน้าส่วนราชการที่ย้ายมาอยู่ใหม่ ได้แก่ นายอำนาจ ปรัชญาพันธ์ ผู้บัญชาการเรือนจำกลางชลบุรี ย้ายไปดำรงตำแหน่ง ผู้ตรวจราชการกรม สังกัดสำนักผู้ตรวจราชการกรม กรมราชทัณฑ์



ปริญญา/ข่าว/ภาพ

วันอังคารที่ 29 กรกฎาคม พ.ศ. 2557

จังหวัดสระแก้ว จัดพิธีมอบทุนสนับสนุนการศึกษาแก่เด็กออทิสติกและเด็กพิการในมูลนิธิคุณพุ่ม ประจำปี 2557

วันนี้ (29 ก.ค.) ที่ศูนย์การศึกษาพิเศษประจำจังหวัดสระแก้ว นายชูศักดิ์  ตรีสาร รองผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว เป็นผู้แทนพระองค์ในพิธีมอบทุนการศึกษามูลนิธิคุณพุ่มแก่เด็กออทิสติกและเด็กพิการในจังหวัดสระแก้ว จำนวน 103 ทุน ๆ ละ 5,000 บาท เป็นจำนวนเงินทั้งสิ้น 515,000 บาท โดยศูนย์การศึกษาพิเศษจังหวัดสระแก้วนำผู้ปกครองเด็กออทิสติกและเด็กพิการ เข้ารับทุนการศึกษาจากพระรูปของทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดีพร้อมทั้งมอบสื่อสิ่งอำนวยความสะดวก สื่อบริการและความช่วยเหลืออื่นๆในด้านทางการศึกษา

สืบด้วยทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตน์ราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดีที่ทรงเข้าใจในฐานะพระมารดาที่ดูแลเอาใจใส่และพัฒนาการเรียนรู้ของพระโอรสอย่างใกล้ชิด ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตน์ราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี ผู้ประทานกำเนิดมูลนิธิคุณพุ่ม ทรงเล็งเห็นว่าบุคคลที่มีความบกพร่องทางการเรียนรู้หรือบุคคลออทิสติกยังไม่ได้รับโอกาสอย่างทั่วถึง จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าประทานทุนทรัพย์ส่วนพระองค์ เป็นเงินทุนเริ่มสำหรับจดทะเบียนก่อตั้งเป็นมูลนิธิคุณพุ่มทะเบียนเลขที่ กท 1410 เมื่อวันที่ 14 มกราคม 2548 เพื่อเป็นอนุสรณ์รำลึกถึงคุณพุ่ม พระโอรสในทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญาสิริวัฒนาพรรณวดีและทรงมีพระเมตตาประทานทุนให้เด็กที่เรียนในระบบ เด็กที่ขาดโอกาสเรียน เด็กที่มีความต้องการจำเป็นพิเศษประเภทออทิสติก สติปัญญาและเด็กที่มีปัญหาทางการเรียนรู้ ซึ่งมีฐานะยากจนเพื่อการดำรงชีวิตต่อไป

หอการค้าจังหวัดระยอง ขอเชิญร่วมพิธีเปิดศูนย์ SMEs Clinic (ศูนย์ให้คำปรึกษาด้านธุรกิจ)

นางอนุชิดา ชินศิรประภา ประธานหอการค้าจังหวัดระยอง แจ้งกับประชาสัมพันธ์จังหวัดระยอง ว่า ด้วยหอการค้าจังหวัดระยอง ได้ดำเนินโครงการจัดตั้งศูนย์ SMEs Clinic (ศูนย์ให้คำปรึกษาด้านธุรกิจ) โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นศูนย์กลางให้คำปรึกษา ช่วยเหลือ แก้ไขปัญหาในการประกอบธุรกิจแก่สมาชิกหอการค้า ผู้ประกอบการ โดยเฉพาะผู้ประกอบการ SMEs เพื่อเสริมสร้างความเข้มแข็ง และการเจริญเติบโต ของผู้ประกอบการธุรกิจ SMEs

หอการค้าจังหวัดระยอง ขอเรียนเชิญได้เข้าร่วมพิธีเปิดศูนย์ SMEs Clinic หอการค้าจังหวัดระยอง ในวันพฤหัสบดีที่ ๓๑ กรกฎาคม ๒๕๕๗ เวลา ๐๙.๔๕ น. ณ. สำนักงานหอการค้าจังหวัดระยอง หอการค้าจังหวัดระยอง จึงใคร่แจ้งให้ทราบและขอขอบคุณล่วงหน้ามา ณ. โอกาสนี้

ประชุมคณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชนเพื่อแก้ไขปัญหาทางเศรษฐกิจจังหวัดระยอง (กรอ.จังหวัดระยอง)

29 ก.ค.57 เวลา 10.00 น. นายธานี สามารถกิจ ผวจ.ระยอง ประธานประชุมคณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชนเพื่อแก้ไขปัญหาทางเศรษฐกิจจังหวัดระยอง (กรอ.จังหวัดระยอง) โดยมี นายวราวุธ ปิ่นเงิน รอง ผวจ.ระยอง คณะกรรมการภาครัฐและเอกชนร่วมประชุม ณ ห้องศรีสมุทโภคไชย ศูนย์ราชการจังหวัดระยอง ซึ่งวาระเพื่อพิจารณาได้แก่ สถานการณ์น้ำประปาในพื้นที่จังหวัดระยอง/ปัญหาการวางและจัดทำผังเมืองจังหวัดระยอง/ปัญหาโครงสร้างพื้นฐานทางถนนไม่สามารถรองรับการจราจร/การแจ้งเหตุกรณีเกิดเหตุฉุกเฉินในพื้นที่จังหวัดระยอง/โครงการจัดทำศูนย์ข้อมูลครบวงจรของโรงงานอุตสาหกรรมในจังหวัดระยอง ทั้งนี้ กระทรวงมหาดไทยสั่งการให้จังหวัดจัดประชุม กรอ.จังหวัด อย่างสมำเสมออย่างน้อย 2 ครั้งต่อ 1 เดือน พร้อมเสนอปัญหาและอุปสรรค ที่ไม่สามารถแก้ปัญหาได้ในระดับจังหวัด รวมถึงข้อเสนอแนะในการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจในพื้นที่ไปยังกระทรวงมหาดไทย เพื่อเสนอ กรอ.ส่วนกลางต่อไป



สวรส/ข่าว

กำนัน – ผู้ใหญ่บ้านจันทบุรีเตรียมจัดกิจกรรมวิถีประชาธิปไตย สร้างความปรองดอง สมานฉันท์

สมาคมกำนัน – ผู้ใหญ่บ้าน จังหวัดจันทบุรีเตรียมจัดกิจกรรมวิถีประชาธิปไตย สร้างความปรองดอง สมานฉันท์ เดินหน้า คืนรอยยิ้ม สร้างความสุขให้ชุมชน

วันนี้ ( 29 ก.ค.57 ) ที่ห้องประชุมสมาคมกำนัน – ผู้ใหญ่บ้าน จังหวัดจันทบุรี ชั้น 2 ที่ว่าการอำเภอเมืองจันทบุรี สมาคมกำนัน – ผู้ใหญ่บ้าน จังหวัดจันทบุรี ได้ประชุมคณะกรรมการบริหารสมาคมเพื่อเดินหน้าโครงการวิถีแบบประชาธิปไตยเพื่อสร้างความปรองดอง สมานฉันท์ สร้างความเข้มแข็งชุมชนโดยมีนายกิจวัตร สวาสดิ์ หรือกำนันจิ๋ว นายกสมาคมกำนัน – ผู้ใหญ่บ้าน เป็นประธานการประชุมซึ่งที่ประชุมมีมติเห็นชอบดำเนินโครงการในวันพฤหัสบดีที่ 18 สิงหาคม 2557 ณ องค์การบริหารส่วนจังหวัดจันทบุรี ซึ่งเป็นโครงการที่ได้งบประมาณสนับสนุนจาก องค์การบริหารส่วนจังหวัดจันทบุรีมาดำเนินโครงการรวม 2 ล้านบาท โดยการเปลี่ยนแปลงแผนการดำเนินงานจากโครงการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด มาเป็นโครงการปรองดองสมานฉันท์ อย่างไรก็ตามที่ผ่านมา สมาคมกำนัน – ผู้ใหญ่บ้านจังหวัดจันทบุรี ที่ได้รับการสนับสนุนงบประมาณในการดำเนินโครงการจากองค์การบริหารส่วนจังหวัดจันทบุรี รวมปีละ 13 ล้านบาท ซึ่งในปีนี้ทางสมาคมฯ ได้ดำเนินโครงการกิจกรรมที่ 1 และกิจกรรมที่ 2 คือ โครงการชุมชนพัฒนาอาชีพเข้มแข็งห่างไกลยาเสพติดชุมชนอยู่อย่างยั่งยืนสู่ประชาคมอาเซียน และรวมพลังชุมชนสร้างฝายชะลอน้ำตามแนวคิด 3 ว. คือ วิถีคิด วิถีการดำรงชีวิต และวิถีพอเพียงแล้วเสร็จทั้ง 2 กิจกรรมซึ่งเป็นการใช้งบประมาณอย่างคุ้มค่า สร้างความมั่นคง ผาสุกแก่ประชาชนในพื้นที่อย่างยั่งยืน โดยมีกำนัน – ผู้ใหญ่บ้าน ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน แพทย์ สารวัตรกำนัน และคณะกรรมการหมู่บ้านรวม 11,000 คนเป็นกลไกในการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ และวาระ จันทบุรีเมืองแห่งความสุข สุขทุกวันที่จันทบุรี 



จรัล บรรยงคเสนา/ภาพ/ข่าว ( 29 ก.ค. 57 )       

จันทบุรี แถลงข่าวเตรียมจัดกิจกรรมรวมพลคนรักแม่ สร้างสรรค์ สมานฉันท์ อุ่นรักบนตักแม่

สมาคมสตรีอาสาพัฒนาจังหวัดจันทบุรี ร่วมกับ อบจ. สภาเด็กและเยาวชนจันทบุรีแถลงข่าวเตรียมจัดกิจกรรม "รวมพลคนรักแม่ สร้างสรรค์ สมานฉันท์” เปิดเวทีให้เด็ก เยาวชนแสดงออกถึงความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณฯ กตัญญูสำนึกรักแม่ สร้างความอบอุ่นแก่ครอบครัว

ที่ห้องทับทิมสยาม ศูนย์ราชการองค์การบริหารส่วนจังหวัดจันทบุรี สมาคมสตรีอาสาพัฒนาจังหวัดจันทบุรี ร่วมกับองค์การบริหารส่วนจังหวัด สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ สภาเด็กและเยาวชนจังหวัดจันทบุรี ได้ร่วมกันแถลงข่าว การจัดงาน"รวมพลคนรักแม่ สร้างสรรค์ สมานฉันท์”โดยกำหนดจัดงานในวันที่ 7 สิงหาคม 2557 ณ ศาลาเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช เทศบาลเมืองจันทบุรี ตั้งแต่เวลา 08.00 น. ถึง 15.00 น. เพื่อเป็นการเทิดพระเกียรติ สำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ สร้างพลังแห่งความรักแม่ก่อให้เกิดสำนึกที่ดีของลูก เกิดการพัฒนาตนเองในการสร้างคุณงามความดีกระทำตนเป็นบุคคลที่ดีของสังคมส่งผลให้สังคมเกิดความสุข เป็นการบูรณาการหลอมรวมระหว่างองค์กรสตรีกับสภาเด็กและเยาวชนและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยมีกิจกรรมถวายพระพร นิทรรศการเฉลิมพระเกียรติ มอบประกาศยกย่องเชิดชูเกียรติแม่ต้นแบบ กิจกรรมสร้างความกตัญญู อุ่นรักบนตักแม่ การแสดงของเด็กและเยาวชน ชุดแม่ลูกสัมพันธ์ สุขสันต์วันรักแม่ การแสดงชุดแม่...แม่...แม่   รวมทั้งกิจกรรมสร้างความรัก ความสมานฉันท์ขององค์กรสตรีในจังหวัดจันทบุรี




จรัล บรรยงคเสนา/ภาพ/ข่าว ( 29 ก.ค. 57 ) 
                     ธเนศ  เธียรนันทน์/ตรวจข่าว 


   

ผู้ว่าฯ ชลบุรี จัดการประชุมเตรียมพร้อมจัดตั้งศูนย์ดำรงธรรม

วันอังคารที่ 29 กรกฎาคม พ.ศ. 2557 นายคมสัน เอกชัย ผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี เป็นประธานประชุมคณะกรรมการและคณะทำงานในการจัดตั้งศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดชลบุรี ณ ห้องประชุมชลบุรี ศาลากลางจังหวัดชลบุรี ชั้น3 อำเภอเมือง จังหวัดชลบุรี

ตามที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ได้ประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ฉบับที่ 96/2557 ลงวันที่ 18 กรกฎาคม 2557 เรื่อง การจัดตั้งศูนย์ดำรงธรรม ให้จังหวัดจัดตั้งศูนย์ดำรงธรรมขึ้น เพื่อทำหน้าที่ในการรับเรื่องร้องเรียนร้องทุกข์ ให้บริการข้อมูลข่าวสาร ให้คำปรึกษารับเรื่องปัญหาความต้องการและข้อเสนอแนะของประชาชน และทำหน้าที่เป็นศูนย์บริการร่วมตามมาตรา 32 แห่งประราชกฤษฏีกาว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดี พ.ศ.2546 โดยจัดตั้งขึ้น ณ ศาลากลางจังหวัดหรือสถานที่อื่นตามที่เห็นสมควร และประกาศให้ประชาชนทราบทั่วกัน

นายคมสัน เอกชัย ผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี กล่าวว่า ตามที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) จัดตั้งศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดชลบุรีขึ้น จึงได้อาศัยอำนาจตามประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) จัดตั้งศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดชลบุรี ณ ศาลากลางจังหวัดชลบุรี และแต่งตั้งคณะกรรมการอำนวยการศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดชลบุรี และคณะทำงานชุดปฏิบัติการศูนย์ฯ ซึ่งมีผู้บัญชาการฐานทัพเรือสัตหีบ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 2 ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 14 ผู้บัญชาการกองบัญชาการช่วยรบที่ 1 และอัยการจังหวัดชลบุรี เป็นคณะที่ปรึกษาศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดชลบุรี ส่วนคณะกรรมการอำนวยการศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดชลบุรี มีผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี เป็นประธานกรรมการ มีรองผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี ทุกท่านเป็นรองประธานกรรมการ มีหัวหน้าส่วนราชการทุกหน่วยงาน มีรองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัดชลบุรี (ฝ่ายทหาร) และผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดชลบุรีเป็นกรรมการ มีหน้าที่กำกับดูแลและตรวจสอบการดำเนินงานของศูนย์ดำรงธรรมจังหวัด คณะทำงานชุดปฏิบัติการ และศูนย์ดำรงธรรมอำเภอ ให้เป็นไปตามเจตนารมณ์ของประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ฉบับที่ 96/2557 ลงวันที่ 18 กรกฎาคม 2557 ให้บริการรับเรื่องราวร้องทุกข์ทุกประเภทในจังหวัดชลบุรี และเร่งรัดดำเนินการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนทุกเรื่อง ให้สำเร็จลุล่วงไปโดยเร็ว ตลอดจนให้บริการตามหลักการศูนย์ดำรงธรรม โดยมีการบริการ 5 เรื่อง (เช่น การบริการข้อมูลข่าวสารและให้คำปรึกษา การใช้บริการรับเรื่อง-ส่งต่อ (Service Link) การให้บริการแบบเบ็ดเสร็จ (One Stop Service) การรับเรื่องร้องเรียนร้องทุกข์และข้อมูลประกอบการร้องทุกข์ผ่านช่องทางเว็บไซต์สายตรงผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี และการรับเรื่องปัญหาความต้องการและข้อเสนอแนะของประชาชน) และดำเนินการอื่นไดตามที่ผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี มอบหมาย

นอกจากนี้ได้แต่งตั้งคณะทำงานชุดปฏิบัติการศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดชลบุรี โดยมีปลัดจังหวัดชลบุรี เป็นหัวหน้าคณะทำงาน มีหัวหน้าส่วนราชการ ตำรวจ และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเป็นคณะทำงาน มีหน้าที่เป็นชุดปฏิบัติการเฉพาะกิจหรือหน่วยเคลื่อนที่เร็วให้ความช่วยเหลือเรื่องสำคัญเร่งด่วน ในการแก่ไขปัญหาของประชาชนตามที่ร้องเรียนหรือร้องทุกข์ ปฏิบัติงานและประสานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการป้องปัดภัยพิบัติสาธารณะการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด การป้องกันและปราบปรามการตัดไม้ทำลายป่าและทรัพยากรธรรมชาติการแก้ไขปัญหาแรงงานต่างด้าวและการค้ามนุษย์ การคุ้มครองป้องกันและช่วยเหลือประชาชนผู้ด้อยโอกาสให้ได้รับความเป็นธรรม การบังคับการให้เป็นไปตามกฎหมาย เพื่อให้เกิดความสงบเรียบร้อยในสังคมและสามารถแก้ไขปัญหาของประชาชนให้เสร็จสินอย่างรวดเร็ว รางงานผลการดเนินการตามข้อ1) และข้อ2) ให้ผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรีทราบ และดำเนินการอื่นใดตามที่ผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี มอบหมาย

อย่างไรก็ตามผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี ได้ให้อำเภอทุกอำเภอจัดตั้งศูนย์ดำรงธรรมระดับอำเภอ โดยมีคณะกรรมการอำนวยการศูนย์ดำรงธรรมอำเภอและคณะทำงานเฉพาะกิจของอำเภออีกด้วย




ปริญญา/ข่าว/ภาพ  

วันจันทร์ที่ 28 กรกฎาคม พ.ศ. 2557

กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จัดกิจกรรม “มหกรรม พม.ร่วมสร้าง พลังรักประเทศไทย” ในพื้นที่จังหวัดฉะเชิงเทรา

วันนี้ (28 ก.ค. 57) กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ บูรณาการร่วมกับภาคีเครือข่าย ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน ผู้นำองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น  ร่วมกันจัดกิจกรรม พม.ร่วมสร้าง พลังรักประเทศไทย  ณ วัดสามกอ ตำบลสิบเอ็ดศอก อำเภอบ้านโพธิ์  จังหวัดฉะเชิงเทรา โดยมีนาย เดชา ใจยะ ปลัดจังหวัดฉะเชิงเทรา พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการ  นักเรียน และประชาชนในพื้นที่เข้าร่วมงานกว่า 700 คน   ภายในงานมีกิจกรรมที่ก่อให้เกิดความรัก ความสามัคคี มีความสำนึกความเป็นพลเมือง และร่วมสร้าง พลังรักประเทศไทย ได้แก่ ร่วมร้องเพลง "ใต้ร่มธงไทย”   การแสดงชุด บายศรีสู่ขวัญ และรำกลองยาว จาก นักเรียนโรงเรียนวัดสามกอ  การเสวนาในหัวข้อเรื่อง "ประชาชนคนไทยจังหวัดฉะเชิงเทราจะมีส่วนร่วมสร้างความสุขในสังคมได้อย่างไร”  การแสดงดนตรี   และ รำมวยไทย (To Be Number One  นอกจากนี้มีการจำหน่ายสินค้าธงฟ้าราคาถูก  การจำหน่ายผลิตภัณฑ์ OTOP พร้อมทั้งมีการมอบทุนการศึกษา มอบเครื่องอุปโภค-บริโภค และมอบเงินสงเคราะห์ครอบครัวผู้ยากไร้อีกด้วย

ปลัดจังหวัดฉะเชิงเทรา กล่าวว่า การจัดกิจกรรม "มหกรรม พม. ร่วมสร้างพลังรัก ประเทศไทย ”ของหน่วยงานในสังกัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ และภาคีเครือข่ายในวันนี้ ถือเป็นส่วนหนึ่งของการดำเนินงานตามนโยบายของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ เพื่อมุ่งหวังให้สังคมไทยเป็นสังคมที่สงบสุข สมานฉันท์ ปราศจากการใช้ความรุนแรงในการแก้ไขปัญหา มีความจงรักภักดีต่อ สถาบันชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ รวมทั้งมุ่งเน้นการพัฒนา เพื่อเสริมสร้างรากฐานความมั่งคงทางสังคม ให้มีความเข้มแข็งอย่างยั่งยืน ตลอดจนสนับสนุนสร้างศักยภาพในเชิงการแข่งขันและเป็นที่ยอมรับในระดับสากล



ชาญณรงค์/ข่าว
ธนภัทร/ภาพ

ขยายเวลาจดทะเบียนแรงงานต่างด้าวแบบเบ็ดเสร็จถึงวันที่ 31 สิงหาคม นี้

นายธานี  สามารถกิจ ผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง เปิดเผยว่า ตามที่จังหวัดระยองได้ประกาศจัดตั้งศูนย์บริการจดทะเบียนแรงงวานต่างด้าวแบบเบ็ดเสร็จ เพื่อให้นายจ้างในพื้นที่จังหวัดระยองนำแรงงานต่างด้าวสัญชาติเมียนมาร์ ลาวและกัมพูชา ที่อาศัยอยู่ในประเทศไทยโดยไม่ได้รับอนุญาต หรือการอนุญาตสิ้นสุดแล้วมาจัดทำทะเบียนประวัติและบัตรประจำตัวรงงานต่างด้าว ณ โรงเรียนอนุบาลนานาชาติตากสินระยองภายในสนามกีฬากลางจังหวัดระยอง ถนนสุขุมวิท ตำบลเนินพระ อำเภอเมือง จังหวัดระยอง ตั้งแต่วันที่ 7—30 กรกฎาคม 2557 เวลา 08.30 น เป็นต้นไป ไม่เว้นวันหยุดราชการ เนื่องจากมีนายจ้าง ในพื้นที่จังหวัดระยองมายื่นความประสงค์ขอจดทะเบียนแรงงานต่างด้าวเป็นจำนวนมาก ทำให้ไม่สามารถดำเนินการจดทะเบียนแรงงานต่างด้าวแบบเบ็ดเสร็จ ออกไปจนถึงวันที่ 31 สิงหาคม ไม่เว้นวันหยุดราชการ (เว้นวันที่ 12 สิงหาคม 2557) จังหวัดระยองจึงขอความร่วมมือสื่อมวลชนประชาสัมพันธ์ ไปยังผู้ประกอบการทราบโดยทั่วกัน



สวรส/ข่าว

กรมการข้าว กระทรวงเกษตรสหกรณ์ จัดงานวันรณรงค์เก็บเกี่ยวข้าวที่จังหวัดระยอง ชวนชาวบ้าน ลงเกี่ยวข้าวในแปลงสาธิต

กรมการข้าว กระทรวงเกษตรสหกรณ์ จัดงานวันรณรงค์เก็บเกี่ยวข้าวที่จังหวัดระยอง ชวนชาวบ้าน ลงเกี่ยวข้าวในแปลงสาธิต พร้อมจัดคลินิกเกษตรเคลื่อนที่ในพระราชานุเคราะห์ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร เนื่องในวันคล้ายวันพระราชสมภพ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมุกราชกุมาร ไปให้บริการ และคำปรึกษากับเกษตรกรในพื้นที่ด้วย เมื่อเวลา 09.00 น.วันที่ 28 ก.ค. ที่แปลงสาธิตการปลูกข้าวด้วยเทคโนโลยีการลดต้นทุนการผลิต หมู่ 4 ตำบลหนองละลอก อำเภอบ้านค่าย จังหวัดระยอง นายไชยวัฒน์ วัฒนไชย ที่ปรึกษาอธิบดีกรมการข้าว เดินทางมาเป็นประธานเปิดงานวันรณรงค์สาธิตการเก็บเกี่ยวข้าว ตามโครงการศูนย์บริการการพัฒนาปลวกแดงตามพระราชดำริจังหวัดระยอง ปี 2557 ซึ่งจัดขึ้นโดยกรมการข้าว กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยที่ปรึกษาอธิบดีกรมการข้าว ได้ร่วมกับข้าราชการ ผู้นำองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และชาวบ้านในพื้นที่ ลงเกี่ยวข้าวในแปลงสาธิตฯ เพื่อจะได้นำเมล็ดพันธุ์ข้าวที่ได้ไปแจกจ่ายให้กับเกษตรกรผู้สนใจด้วย นอกจากนี้ยังจัดคลินิกเกษตรเคลื่อนที่ในพระราชานุเคราะห์ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร เนื่องในวันคล้ายวันพระราชสมภพ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมุกราชกุมาร ไปให้บริการ และคำปรึกษากับเกษตรกรในพื้นที่ด้วย  
 
นายไชยวัฒน์ กล่าวว่า การถ่ายทอดความรู้และวิทยาการการผลิตเมล็ดพันธุ์ข้าวพันธ์ดีสู่เกษตรกรในพื้นที่ เป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนในเรื่องของการลดต้นทุนการผลิตข้าว โดยแปลงนาสาธิตของโครงการฯ ได้แสดงให้เห็นถึงการเก็บตัวอย่างการปลูกข้าวด้วยวิธีการต่างๆ สามารถลดต้นทุน ตั้งแต่ลดการใช้เมล็ดพันธุ์ข้าว การจัดการด้านแรงงาน ลดสารเคมีทางการเกษตรด้วย นายไชยวัฒน์ กล่าวต่อว่า ปัจจุบันกรมการข้าวมีนโยบายเร่งด่วนที่จะช่วยเหลือชาวนาที่ประสบปัญหาด้านรายได้เนื่องจากข้าวมีราคาเกวียนละ 6,000 – 7,000 บาท โดยได้ปรับลดราคาเมล็ดพันธุ์ข้าวนาปีและนาปรัง กิโลกรัมละ 4 บาท ตั้งแต่เดือนมิถุนายนที่ผ่านมา นอกจากนั้น กรมการข้าวได้มีคำสั่งแต่งตั้ง "ข้าวจังหวัด” เพื่อดำเนินการตามภารกิจกรมฯ ภายในจังหวัดให้มีประสิทธิภาพ มีเอกภาพ เป็นการช่วยเหลือและรักษาผลประโยชน์ของชาวนาในจังหวัด อย่างไรก็ตาม กรมการข้าวยังมีโครงการส่งเสริมและพัฒนาชาวนา โดยสนับสนุนให้ชาวนารวมกลุ่ม เพื่อผลิตเมล็ดพันธุ์ข้าวที่มีมาตรฐานได้ด้วยตนเอง ภายใต้โครงการศูนย์ข้าวชุมชน เพื่อไว้ใช้เองและจำหน่ายในชุมชนและบริเวณใกล้เคียง เพื่อสร้างความเข้มแข็งให้เกิดกับชุมชนอย่างยั่งยืน



วฐิต/ข่าว

นพค. 14 ร่วมประชาชน ต.ด่านชุมพล อ.บ่อไร่ จัดกิจกรรมปลูกหญ้าแฝก ปล่อยพันธุ์ปลา เฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินีนาถ

(27 ก.ค. 57) บริเวณอ่างเก็บน้ำโรงเรียนบ้านป้องกันตนเอง พ.อ.นพดล ปิ่นทอง ผู้บังคับหน่วยพัฒนาการเคลื่อนที่ 14 สำนักงานภาค1 หน่วยบัญชาการทหารพัฒนาพร้อมด้วยกำลังพลเจ้าหน้าที่องค์การบริหารส่วนตำบลด่านชุมพล ข้าราชการในท้องที่ ผู้นำหมู่บ้าน ประชาชนนักเรียนโรงเรียนบ้านป้องกันตนเอง หมู่ 8 บ้านด่านชุมพล อำเภอบ่อไร่ จังหวัดตราด รวมกว่า 300 คน ร่วมปลูกหญ้าแฝก จำนวน 20,0000 ต้น และปล่อยพันธุ์ปลา ได้แก่ ปลานิล ปลาไน ตะเพียน ปลานวลจันท์ และปลายี่สก จำนวน 30,000 ตัว ลงสู่บริเวณอ่างเก็บน้ำโรงเรียนบ้านป้องกันตนเอง

พ.อ.นพดล ปิ่นทอง กล่าวว่า การจัดกิจกรรมครั้งนี้เพื่อเป็นการร่วมเฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินีนาถ รวมทั้งเป็นการเสริมสร้างกิจกรรมปรองดอง สมานฉันท์ ของประชาชนในพื้นที่ตามนโยบายของ(คสช.) โดยใช้กิจกรรมเฉลิมพระเกียรติมามีส่วนร่วมสร้างความปรองดองสามัคคีให้กับประชาชน

ชาวมุสลิม จ.ตราดร่วม พิธีออกบวชของชาวมุสลิม หลังจากถือศีลอดหรือเทศกาลรอมฎอน

(28 ก.ค. 57) ที่มัสยิดเราฎอตุ๊ลญีนาน ตำบลวังกระแจะ อำเภอเมืองตราด ชาวมุสลิมในพื้นที่จังหวัดตราด ได้พากันมาร่วมพิธีละหมาด และพิธีออกบวช โดยมีชาวมุสลิมทั้งสุภาพบุรุษและสุภาพสตรี ทุกวัยไม่ว่าจะเป็นผู้สูงอายุ หนุ่มสาว เด็กและเยาวชนจำนวนมากเดินทางพร้อมกันที่มัสยิดแห่งนี้

นายอภิชาติ บันเดวอ ครูสอนศาสนาอิสลาม กล่าวว่า หลังจากที่ชาวมุสลิมได้ประกาศถือศีลอดหรือเทศกาลรอมฏอน เป็นเวลา 1 เดือนเต็ม ทำให้พี่น้องชาวมุสลิมอดทนต่อการไม่ประกอบความชั่วร้ายทุกชนิด ปฏิบัติตามคำสอนของศาสนาอิสลามหรือของพระผู้เป็นเจ้าอย่าเคร่งครัด ที่สำคัญได้อดทนต่อความหิวโหย เพื่อให้ได้ลิ้มรสชาติของความหิวโหยด้วยตัวเอง จะได้มีห้วงแห่งความคำนึงคิดถึงพี่น้องคนยากจนที่หิวโหยว่าจะมีความรู้สึกเป็นเช่นไร เมื่อความหิวเข้ามาประดัง เมื่อได้สัมผัสกับความหิว ความทุกข์ยากจากการอด จะได้เกิดความรู้สึกมีเมตตาคิดที่จะเผื่อแผ่คนยากจนหรือคนด้อยโอกาสกว่า เป็นสิ่งสำคัญของการถือศีลอดของชาวมุสลิมเป็นเวลา 1 เดือนเต็มของชาวมุสลิม ถือเป็นบททดสอบที่ยิ่งใหญ่ของจิตใจอย่างหนึ่ง การเข้าพิธีละหมาด และพิธีออกบวช ถือเป็นการแสดงความยินดี และความรื่นเริงสำหรับทุกคนที่ผ่านการถือศีลอดในเดือนรอมฏอนที่ผ่านมา

กลุ่มอนุรักษ์ป่าชายเลน จ.ตราด ประชาชนร่วมปลูกป่าเทิดพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เนื่องในวโรกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 12 สิงหาคม 2557

(28 ก.ค. 57) ที่ศาลาประจำหมู่บ้านธรรมชาติล่าง หมู่ที่ 6 ตำบลคลองใหญ่ อำเภอแหลมงอบ จังหวัดตราด นายวิธร จันทุมา ประธานกลุ่มอนุรักษ์ป่าชายเลนจังหวัดตราด กลุ่มเครือข่ายอาสาสมัครพิทักษ์ทะเลและชายฝั่ง ทหารนาวิกโยธิน เจ้าหน้าที่ตำรวจน้ำ กองกำกับการตำรวจน้ำแหลมงอบ ผู้นำในท้องถิ่น นักเรียนนักศึกษา ร่วมกิจกรรมปล่อยปูดำคืนธรรมชาติจำนวน 999 ตัว พร้อมปลูกป่าโกงกางจำนวน 1,582 ต้น บนเนื้อที่จำนวน 2 ไร่ บริเวณป่าชายเลน คลองตาหลี หมู่ที่ 6 ตำบลคลองใหญ่ อำเภอแหลมงอบ จังหวัดตรา โดยได้รับการสนับสนุนพันธุ์กล้าไม้โกงกางทั้งหมดจากสถานีพัฒนาทรัพยากรป่าชายเลนที่ 4 (บ้านน้ำเชี่ยว)

สำหรับกิจกรรมในครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของโครงการ "ประชาอาสาปลูกป่า 800 ล้านกล้า 80 พรรษามหาราชินี” เป็นโครงการเทิดพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เนื่องในวโรกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 12 สิงหาคม 2557 โดยผู้เข้าร่วมกิจกรรมปลูกป่าครั้งนี้มาจากหลากหลายอาชีพมีทั้ง เจ้าหน้าที่ทหารนาวิกโยธิน เจ้าหน้าที่ตำรวจน้ำ กองกำกับการตำรวจน้ำแหลมงอบ ผู้นำในท้องถิ่น นักเรียนนักศึกษา และเด็กๆในหมู่บ้าน ต่างมาร่วมกิจกรรมกันอย่างสนุกสนาน และยังเป็นการปลูกฝังให้เยาวชนได้ใกล้ชิดธรรมชาติมีความรู้ความเข้าใจในระบบนิเวศของป่าชายเลน เพื่อให้เด็กเหล่านี้โตขึ้นไปเป็นกำลังหลักในการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติเหล่านี้สืบต่อไป

จ.ตราด จัดพิธีเจริญพระพุทธมนต์นพเคราะห์ และพิธีสืบดวงชะตา เฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร เนื่องในโอกาสทรงเจริญพระชนมพรรษา 62 พรรษา 28 กรกฎาคม 2557

(28 ก.ค. 57) นายณรงค์ ธีรจันทรางกูร รอผู้ว่าราชการจังหวัดตราด เป็นประธานในพิธีเจริญพระพุทธมนต์นพเคราะห์ และพิธีสืบดวงชะตา เฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร เนื่องในโอกาสทรงเจริญพระชนมพรรษา 62 พรรษา 28 กรกฎาคม 2557 ซึ่งจังหวัดตราด โดยสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดตราดร่วมกับคณะสงฆ์ในจังหวัดตราด และเครือข่ายทางวัฒนธรรม ร่วมกันจัดขึ้น ที่วัดสุวรรณมงคล ตำบลหนองเสม็ด อำเภอเมืองตราด

นางดวงจันทร์ สุขวิลัย วัฒนธรรมจังหวัดตราด กล่าวว่า การจัดพิธีในครั้งนี้เพื่อเป็นการเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร เนื่องในโอกาสทรงเจริญพระชนมพรรษา 62 พรรษา 28 กรกฎาคม 2557 เป็นการเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์ สร้างวัญกำลังใจให้กับพุทธศาสนิกชนที่อยู่ภายใต้พระบรมโพธิสมภารได้แสดงออกถึงความจงรักภักดี ให้สังคมเกิดความร่มเย็นและสันติสุข สำหรับการสวดมนต์ หรือเจริญพระพุทธมนต์ มีมาตั้งแต่สมัยพุทธกาลเพื่อเป็นการป้องกันภัยอันตราย ก่อให้เกิดความสุขสวัสดี เมื่อผู้สวดหรือเจริญพระพุทธมนต์ สวดด้วยความเคารพพร้อมแผ่เมตตาขอให้อานุภาพพระปริตรจงคุ้มครองรักษาทุกเมื่อ แล้วทำใจให้สงบเป็นสมาธิแน่วแน่ก็จะทำให้พระปริตรมีพลังและอานุภาพยิ่งขึ้น ตามโบราณประเพณี เมื่อบุคคลอันเป็นที่เคารพนับถือมีอายุครบปีนักษัตร หรือรอบปีที่เป็นวาระสำคัญ ควรที่จะมีการบำเพ็ญกุศลครั้งใหญ่ เพื่อให้เกิดความเป็นศิริมงคล ปราศจากโรคาพยาธิ มีความเจริญรุ่งเรือง อันเป็นการแสดงออกถึงความกตัญญูกตเวที ซึ่งเป็นเครื่องหมายคนดีตามหลักพระพุทธศาสนา หน่วยงานที่เกี่ยวของจึงได้จัดพิธีครั้งนี้ขึ้นในครั้งนี้

เกิดเหตุพายุพัดกระหน่ำในเขตอำเภอเมืองตราด ทำให้หลังคาอัฒจันทร์ฝั่งกระถางคบเพลิงสนามกีฬากลางจังหวัดตราดพังทั้งแถบ

(28 ก.ค. 57) จากอิทธิพลของมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังค่อนข้างกำลังแรง ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน อ่าวไทย และประเทศไทย ส่งผลกระทบให้ช่วงเย็นที่ผ่านมา เกิดฝนตก ลมแรง ในหลายจุดของพื้นที่จังหวัดตราด จากอิทธิพลดังกล่าวทำให้หลังคาอัฒจันทร์ฝั่งกระถางคบเพลิงสนามกีฬากลางจังหวัดตราด ที่เป็นหลังคาเมทัลชีทพร้อมด้วยโครงเหล็กหลังคาพังถล่มลงมาทั้งแถบ เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องจึงได้ลงพื้นที่แก้ไขปัญหาดังกล่าว

นายอยุธ บางหลวง ปลัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดตตราด พร้อมด้วยสิบเอกพิเชษฐ์ กัณกาศ ผู้อำนวยการโรงเรียนกีฬาจังหวัดตราด และเจ้าหน้าที่องค์การบริหารส่วนจังหวัดตราด เข้าตรวจสอบความเสียหายจากเหตุดังกล่าว ในขณะที่เจาหน้าที่การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคจังหวัดตราดได้เร่งด้เนินการตัดกระแสไฟฟ้า พร้อมซ่อมแซมระบบสายส่ง

สิบเอกพิเชษฐ์ กัณกาศ ผู้อำนวยการโรงเรียนกีฬาจังหวัดตราด กล่าวว่า เหตุดังกล่าวได้เกิดขึ้นเมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมาโดยลมพายุหมุนที่มีกำลังแรงได้พัดกระหน่ำ มาจากทิศทางด้านหน้าสนามกีฬากลางจังหวัดตราด แรงลมทำให้หลังคาอัฒจันทร์เกิดการยกตัว และพังถล่มลงมาทั้งแถบ พร้อมทั้งทับแผงควบคุมระบบไปส่องสว่างของสนามกีฬากลางจนได้รับความเสียหาย โชคดีที่ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตจากเหตุการณ์ดังกล่าว อย่างไรก็ตามในเบื้องต้นเจ้าหน้าที่กองช่าง องค์การบริหารส่วนจังหวัดตราดได้เข้ามาสำรวจความเสียหายแล้วอยู่ระหว่างการเมินราคาความเสียหายทั้งหมดต่อไป

จันทบุรี จัดงานคลินิกเกษตรเคลื่อนที่ในพระราชานุเคราะห์อำนวยความสะดวกเกษตรกร

จังหวัดจันทบุรีจัดโครงการคลินิกเกษตรเคลื่อนที่ ในพระราชานุเคราะห์ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช สยามมกุฎราชกุมาร เนื่องในวันคล้ายวันพระราชสมภพ มีเกษตรกรร่วมงานคับคั่ง

วันนี้ ( 28 ก.ค.57 ) ที่ลานขนถ่ายสินค้า ศูนย์ราชการองค์การบริหารส่วนจังหวัดจันทบุรี กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้จัดกิจกรรม โครงการคลินิกเกษตรเคลื่อนที่ ในพระราชานุเคราะห์ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช สยามมกุฎราชกุมาร เนื่องในวันคล้ายวันพระราชสมภพ ประจำปี 2557ซึ่งจังหวัดจันทบุรีเป็น 1 ใน 4 จังหวัดทั่วประเทศที่ได้รับเลือกจากกระทรวงเกษตรและสหกรณ์จัดกิจกรรม โดยมีหน่วยงานในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ในพื้นที่ภาคตะวันออกมาออกหน่วยให้บริการแก่ประชาชน เกษตรกรทั้งในจังหวัดจันทบุรีและจังหวัดใกล้เคียงอย่างทั่วถึง โดยจังหวัดจันทบุรีถูกคัดเลือกให้เป็นจุดถ่ายทอดพิธีเปิดผ่าน สถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย หรือ NBT เชื่อมต่อสัญญาณภาพจากจังหวัดลำปาง สุรินทร์ และสุราษฎร์ธานี โดยมีนายชวลิต ชูขจร ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เป็นประธานในพิธีเปิด พร้อมเยี่ยมชมการให้บริการของหน่วยงานในสังกัดกระทรวงเกษตรที่ร่วมออกให้บริการคลินิกเกษตรเคลื่อนที่ ในพระราชานุเคราะห์ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช สยามมกุฎราชกุมาร เนื่องในวันคล้ายวันพระราชสมภพ

การจัดงาน "คลินิกเกษตรเคลื่อนที่ฯ” เป็นการแสดงความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณในสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ที่ทรงมีความห่วงใยต่อเกษตรกรไทยและประชาชนในท้องถิ่นที่ห่างไกลจากการขอรับบริการจากหน่วยงานภาครัฐ เพื่อเปิดให้บริการความรู้ พร้อมให้เกษตรกรที่มีปัญหาด้านการเกษตรในพื้นที่ห่างไกล สามารถเข้าถึงการบริการคลินิกเกษตรเคลื่อนที่ และได้รับการแก้ไขปัญหาด้านการเกษตรอย่างครบวงจรแบบเบ็ดเสร็จ ณ จุดเดียว ทั้งยังเป็นการส่งเสริมภาพลักษณ์ด้านวิชาการ และเทคโนโลยีการผลิตทางการเกษตรต่อประชาชน ตลอดจนช่วยประชาสัมพันธ์สินค้าวิสาหกิจชุมชนจากอำเภอต่างๆด้วย

สำหรับกิจกรรมภายในงาน ประกอบด้วย นิทรรศการสาธิต การฝึกอาชีพ และการจำหน่ายผลิตภัณฑ์สมาชิกโครงการสายใยรักแห่งครอบครัวฯ ของหน่วยงานในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ นิทรรศการด้านการพัฒนาน้ำบาดาล เพื่อสนับสนุนโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ของกรมทรัพยากรน้ำบาดาล กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม การประกวดผลผลิตทางการเกษตรและมหกรรมการจำหน่ายสินค้าคุณภาพจากวิสาหกิจชุมชนของจังหวัดจันทบุรี



จรัล บรรยงคเสนา/ภาพ/ข่าว ( 25 ก.ค. 57 ) 
                    ธเนศ  เธียรนันทน์/ตรวจข่าว

จังหวัดชลบุรี จัดการประชุม แต่งตั้งคณะทำงานมหกรรมคอนเสิร์ตคืนความสุขให้คนในชาติ

วันจันทร์ที่ 28 กรกฎาคม  2557  นายวรวิทย์  สายสุพัฒน์ผล รองผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี เป็นประธาน การประชุมการแต่งตั้งคณะทำงานมหกรรมคอนเสิร์ตคืนความสุขให้คนในชาติ   ณ ห้องประชุมพระพิพิธโภไคย  ศาลากลางจังหวัดชลบุรี ซึ่งจะจัดขึ้นในวันที่ 16 สิงหาคม 2557  ณ  ลานเอนกประสงค์หน้าศาลากลางจังหวัดชลบุรี เพื่อส่งเสริมความรัก ความสามัคคีและรณรงค์การรักชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ให้กับประชาชนในพื้นที่ จังหวัดชลบุรี โดยมี หัวหน้าส่วนราชการ คณะทำงานที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมประชุม

การจัดการประชุม แต่งตั้งคณะทำงานมหกรรมคอนเสิร์ตคืนความสุขให้คนในชาติ ในวันนี้ เป็นการแต่งตั้งคณะทำงาน พร้อมชี้แจงเกี่ยวกับนโยบาย และวัตถุประสงค์ของการจัดกิจกรรม ซึ่งมีเนื้อหาในการพิจารณาแนวทางการจัดมหกรรมคอนเสิร์ต คืนความสุขให้คนในชาติ ในการวางแนวทางปฏิบัติ และอำนวยการให้การดำเนินโครงการเป็นไปด้วยความเรียบร้อย บรรลุวัตถุประสงค์ และการปฏิบัติหน้าที่ โดยจังหวัดชลบุรีได้มอบหมายให้คณะทำงานการจัดกิจกรรม พร้อมการดำเนินงาน เพื่อเตรียมความพร้อมในการจัดงานมหกรรมคอนเสิร์ตคืนความสุขให้คนในชาติ

สำหรับมหกรรมคอนเสิร์ตคืนความสุขให้คนในชาติ  จังหวัดชลบุรี  จัดขึ้นใน วันเสาร์ที่ 16 สิงหาคม  2557  เวลา  10.00  - 22.00 น  ณ  ลานเอนกประสงค์หน้าศาลากลาง จังหวัดชลบุรี  เพื่อส่งเสริมความรัก ความสามัคคีและรณรงค์การรักชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ให้กับประชาชนในพื้นที่ จังหวัดชลบุรี พร้อมทั้งจัดกิจกรรมความบันเทิงให้กับประชาชนโดยไม่คิดค่าใช้จ่าย โดยภายในงานมีกิจกรรมต่างๆ มากมาย อาทิเช่น การแสดงมหกรรมคอนเสิร์ต ของศิลปินเวทีไท  การแสดงแฟน ซี ดิว จาก มทบ.14  และยังมีกิจกรรมนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติฯ  ร้านบริการประชาชน  สินค้าราคาถูกอีกด้วย



คมศักดิ์  หล่อเถิน ข่าว/ภาพ

จังหวัดชลบุรี จัดพิธีเจริญพระพุทธมนต์นพเคราะห์เฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมงกุฎราชกุมาร

วันจันทร์ที่ 28 กรกฎาคม พ.ศ. 2557 จังหวัดชลบุรี จัดพิธีเจริญพระพุทธมนต์นพเคราะห์เฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร เนื่องในโอกาสเฉลิมพระชนมายุ 62 พรรษา 28 กรกฎาคม 2557 ณ วัดนอก อำเภอเมืองชลบุรี จังหวัดชลบุรี โดยมีนายพงษ์ศักดิ์ ปรีชาวิทย์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี เป็นประธานในพิธี

เนื่องในโอกาสที่สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ทรงเจริญพระชนมพรรษา 5 รอบ 28 กรกฎาคม 2555 รัฐบาลได้มอบหมายให้จังหวัดชลบุรี จัดกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช ฯ สยามมกุฎราชกุมาร ทรงเจริญพระชนมพรรษา 5 รอบ 28 กรกฎาคม 2555 ตามโบราณประเพณี เมื่อบุคคลอันเป็นที่เคารพนับถือมีอายุครบปีนักษัตร หรือรอบปีที่เป็นวาระสำคัญๆ ควรที่จะได้มีการบำเพ็ญกุศลครั้งใหญ่ เพื่อให้เกิดความเป็นสิริมงคล ปราศจากโรคาพยาธิ มีความเจริญรุ่งเรือง อันเป็นการแสดงออกถึงความกตัญญูกตเวที ซึ่งเป็นเครื่องหมายคนดีตามหลักธรรมของพระพุทธศาสนา จึงได้จัดทำโครงการเจริญพระพุทธมนต์นพเคราะห์ สืบชาตา เพื่อเป็นการเฉลิมพระเกียรติและถวายเป็นพระราชกุศลแด่สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร เนื่องในโอกาสเฉลิมพระชนมพรรษา 5 รอบ 28 กรกฎาคม 2555

จังหวัดชลบุรี นายพงษ์ศักดิ์ ปรีชาวิทย์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี ได้นำส่วนราชการ ภาคเอกชน ประชาชน นักเรียน พ่อค้าประชาชนทุกหมู่เหล่า พร้อมใจแต่งชุดขาว ร่วมพิธีเจริญพระพุทธมนต์นพเคราะห์ เฉลิมพระเกียรติและถวายเป็นพระราชกุศลแด่ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมายุ 62 พรรษา 28 กรกฎาคม 2557 และเพื่อเป็นการแสดงออกถึงความจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ พร้อมกล่าวถวายพระพรชัยมงคล จากนั้น พร้อมใจยืนตรงร้องเพลงสรรเสริญพระบารมี ประธานฝ่ายสงฆ์เจิมเทียนชัยมงคลและบัตรพลีนพเคราะห์ ประธานในพิธีจุดเทียนชัยมหามงคล พระสงฆ์เจริญพระพุทธมนต์นพเคราะห์ โหรประกาศอัญเชิญเทวดา พระสงฆ์เจริญพระพุทธมนต์บทประจำดาวนพเคราะห์จนครบทั้ง 9 วัน ประธานร่วมกับผู้เข้าร่วมพิธีถวายเครื่องไทยธรรมแด่พระสงฆ์เป็นอันจบพิธี

ส่วนการสวดพระปริตร หรือพุทธมนต์เกี่ยวเนื่องกับหลักโหราศาสตร์ คือ นพเคราะห์ประจำวันทั้ง 9 องค์ มีเทวดาคุ้มครองเกี่ยวข้องด้วยกำเนิดมนุษย์ อันส่งผลให้เกิดคุณโทษ เกิดทุกข์โศกโรคภัย เกิดความเจริญรุ่งเรือง หรืออายุยาว หรือสั้นได้ ประเพณีโบราณจึงจัดให้มีพิธีเจริญพระพุทธมนต์ และบูชานพเคราะห์เพื่อป้องกันภัยพิบัติ และกำจัดอันตรายทั้งปวงให้สิ้นไป พร้อมทั้งให้ผู้กระทำประสบแต่ความสวัสดี ความเจริญรุ่งเรือง ความเป็นมงคลแก่ชีวิตตนเอง และบุคคลที่นับถือ




ปริญญา/ข่าว/ภาพ

ภาค 2 จัดแถลงข่าวจับกุมผู้ต้องหาชาวต่างชาติ ทำบัตรอิเล็กทรอนิกส์ปลอม

วันจันทร์ที่ 28 กรกฎาคม พ.ศ. 2557 พลตำรวจตรี ศานิตย์ มหถาวร รักษาการ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค2 ได้แถลงข่าวจับกุมผู้ต้องหาชาวสเปน ทำบัตรอิเล็กทรอนิกส์ปลอมในพื้นที่เมืองพัทยา จังหวัดชลบุรี พร้อมของกลางหลายรายการ ณ กองบังคับการสืบสวนสอบสวน ตำรวจภูธรภาค 2

ตามที่พลตำรวจตรี ศานิตย์ มหถาวร รักษาการ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค2 ได้มีนโยบายติดตามดำเนินการสืบสวน สอดส่องติดตามพฤติกรรมชาวต่างชาติที่น่าสงสัยจะก่อเหตุต่างๆ และแฝงตัวเข้ามาเมืองไทยหลายรูปแบบทั้งในลักษณะก่ออาชญากรรม และลักลอบเข้ามาทำงาน ในลักษณะที่เป็นการหลอกลวงและต้มตุ่น ทำให้เกิดความเสียหายต่อเศรษฐกิจและภาพลักษณ์การท่องเที่ยวของประเทศไทย

ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ต.ศานิตย์ มหถาวร รรท.ผบช.ภ.2 พล.ต.ต. สุรพล วิรัตน์โยสินทร์ รอง ผบช.ภ.2 พล.ต.ต.เชษฐา โกมลวรรธนะ ผบก.สส.ภ.2 พ.ต.ต.ยงยุทธ จันตะบุตร และ พ.ต.อ.ธีรพล จินดาหลวง รอง ผบก.สส.ภ.2 เมื่อวันที่ 27 ก.ค. 2557 เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม บก.สส.ภ.2 ประกอบด้วย พ.ต.อ.ชาตรี สุขศิริ ผกก.สืบสวน 1 บก.สส.ภ.2 พ.ต.ท.เฉลิมศักดิ์ เถียรทองศรี รอง ผกก.ฯ พ.ต.ท.จากเทพ ผงผาย รอง ผกก.ฯ พ.ต.ต.สิริบัญชา ขอบใจ สว.ฯ พ.ต.ต.ประจักษ์พงษ์ สุริยา สว.ฯ และเจ้าหน้าที่ศพส.ภ.2 ร่วมกันจับกุมผู้ต้องหา นายเฟอร์นันโด มานูเอล นาวาโร่ (Mr.Fernando Manuel Navarro) อายุ 56 ปี สัญชาติสเปน หนังสือเดินทางประเทศสเปน หมายเลข AAD077401 พื้นที่เมืองพัทยา ในข้อหาทำบัตรอิเล็กทอรนิกส์ปลอมขึ้นทั้งฉบับหรือแต่ส่วนหนึ่งส่วนใดเติมหรือตัดทอนข้อความหรือแก้ไขด้วยประการใดๆ มีเครื่องมือหรือวัตถุสำหรับปลอมหรือแปลงเพื่อใช้หรือให้ได้ข้อมูลในการปลอมหรือแปลงบัตรอิเล็กทรอนิกส์ ใช้หรือมีไว้เพื่อใช้สิ่งใดๆ อันได้มาโดยรู้ว่า เป็นของที่ทำปลอมหรือแปลงขึ้น พร้อมของกลางประกอบด้วย คอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ค ยี่ห้อ Asus สีขาว จำนวน 1 เครื่อง เครื่องคัดลอกและบันทึกข้อมูลบัตรอิเล็กทรอนิกส์ จำนวน 1 เครื่อง บัตรอิเล็กทรอนิกส์ปลอม มีแถบแม่เหล็กด้านหลัง จำนวน 2 กล่อง รวม 500 ใบ และโทรศัพท์มือถือ จำนวน 1 เครื่อง

สำหรับพฤติการณ์ของผู้ต้องหารายนี้ คือ ก่อนเกิดเหตุ  เจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.สส.ภ.2 ได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่ธนาคาร ไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) ว่ามีชาวต่างชาติสืบสวนทราบว่า คือนายเฟอร์นันโด มานูเอล นาวาโร่ (Mr.Fernando Manuel Navarro) อายุ 56 ปี สัญชาติสเปน ร่วมกับพวกสัญชาติโรมาเนียอีก 2 คน นำบัตรอิเล็กทรอนิกส์ปลอมมาใช้ในการเลิกถอนเงินตามตู้เอทีเอ็ม ในเขตเมืองพัทยาและบางละมุง ซึ่งผู้เสียหายส่วนใหญ่จะอยู่ต่างประเทศ จึงได้ทำการสืบสวนติดตามจับกุมจนทราบว่า ผู้ก่อเหตุหลบหนีมาพักอาศัยอยู่ที่ พีแมนชั่น ช.เนินพลับหวาน ตำบลหนองปรือ อำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี ต่อมาตามวันเวลาเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมได้เดินทางไปแสดงตัวและการตรวจค้นห้องพัก พลของกลางเป็นบัตรอิเล็กทรอนิกส์ปลอมและเครื่องมือต่างๆ จำนวนมากสร้างความเสียหายคิดเป็นเงินมูลค่าหลายล้านบาท จึงแจ้งสิทธิและข้อกล่าวหาให้ผู้ต้องหาทราบ นำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองพัทยา จังหวัดชลบุรี ดำเนินคดีตามกฎหมาย และได้ทำการสืบสวนขยายผลจับกุมเครื่องข่ายที่ร่วมก่อเหตุซึ่งกำลังหลบหนีดำเนินคดีต่อไป



ปริญญา/ข่าว/ภาพ

วันอาทิตย์ที่ 27 กรกฎาคม พ.ศ. 2557

สวนพฤกษศาสตร์ฯ เปิดให้สถาบันการศึกษา เข้าชมสวนฟรี ตลอดเดือนสิงหาคมนี้

ดร.สุ ญาณี เวสสบุตร  ผู้อำนวยการองค์การสวนพฤกษศาสตร์ กล่าวว่า เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ 12 สิงหาคม 2557 สวนพฤกษศาสตร์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ องค์การสวนพฤกษศาสตร์ (อ.ส.พ.) จะได้เปิดให้ นักเรียน นิสิต นักศึกษา จากสถาบันการศึกษาทั่วประเทศ เข้าทัศนศึกษาในสวนพฤกษศาสตร์ฯ ฟรี โดยยกเว้นค่าธรรมเนียมเข้าชม รวมค่าธรรมเนียมยานพาหนะที่นำเข้ามา

นอกจากเยาวชนจะได้เข้ามาชื่นชมความงดงามของพรรณไม้ และได้รับความรู้เกี่ยวกับการอนุรักษ์พันธุ์ไม้หายากและใกล้สูญพันธุ์ของไทย แล้ว ยังจะได้สนุกสนานไปกับกิจกรรมในนิทรรศการ “ไดโนเสาร์กาฬสินธุ์ แอ่วเชียงใหม่ ม่วนใจ๋กับ สวนพฤกษศาสตร์” ซึ่งพิพิธภัณฑ์ธรรมชาติ องค์การสวนพฤกษศาสตร์ ได้ร่วมกับ พิพิธภัณฑ์สิรินธร กรมทรัพยากรธรณี จัดให้มีนิทรรศการดังกล่าวขึ้น ในระหว่างวันที่ 20 สิงหาคม – 5 กันยายน 2557 ภายในงานจะมีเรื่องราวเกี่ยวกับธรณีวิทยาและซากดึกดำบรรพ์ เพลิดเพลินไปกับไดโนเสาร์เพื่อนตัวใหญ่ในลานกิจกรรม ร่วมเดินทางย้อนเวลาสู่ห้วงอดีตสู่ดินแดนแห่งโลกล้านปีและป่าดึกดำบรรพ์ องค์การฯ จึงขอเชิญชวนสถาบันการศึกษาต่างๆ นำนักเรียน นักศึกษาเข้าชมสวนพฤกษศาสตร์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ ฟรี ตลอดเดือนสิงหาคมนี้

สนใจสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ ส่วนสารนิเทศและประชาสัมพันธ์ องค์การสวนพฤกษศาสตร์ โทรศัพท์ 053-841234  และ www.qsbg.org



นายคมศักดิ์  หล่อเถิน /ข่าว

จันทบุรี จัดพิธีตักบาตรพระ 1,000 รูป คืนความสุข สร้างความสามัคคี ปรองดอง

ประชาชนชาวจังหวัดจันทบุรี ร่วมแต่งกายชุดขาว ตักบาตรพระ 1,000 รูป สร้างความสามัคคี ปรองดอง ส่งกำลังใจให้คนไทยใน 4 จังหวัดชายแดนใต้

วันนี้ ( 27 ก.ค.57 ) ที่บริเวณหอนาฬิกา ทุ่งนาเชย จังหวัดจันทบุรี นายสามารถ ลอยฟ้า ผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรีได้นำประชาชน พุทธศาสนิกชน ทุกสาขา อาชีพในจังหวัดจันทบุรี ร่วมแต่งกายชุดขาว ทำบุญตักบาตรพระ 1,000 รูป สืบอายุพระศาสนา ส่งเสริมประชาชนให้ประพฤติ ปฏิบัติดี สร้างความสุขให้ครอบครัว สอดคล้องวาระ จันทบุรีเมืองแห่งความสุข สุขทุกวันที่จันทบุรี สร้างความสามัคคี ปรองดอง สมานฉันท์ เป็นน้ำหนึ่งใจเดียว โดยคำนึงถึง ชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ รวมทั้งเป็นการถวายมหาสังฆทานครั้งยิ่งใหญ่เสริมสิริมงคลให้กับจังหวัดจันทบุรี ซึ่งเป็นโครงการที่ชมรมกัลยาณมิตรจังหวัดจันทบุรี จัดขึ้นเป็นประจำต่อเนื่องทุกปี และนำข้าวสาร อาหารแห้ง ที่ประชาชนร่วมกันทำบุญตักบาตร ไปถวายแด่พระภิกษุสงฆ์ ตามวัดต่าง ๆ ในพื้นที่ 4 จังหวัดชายแดน ภาคใต้   



จรัล บรรยงคเสนา/ภาพ/ข่าว ( 27 ก.ค. 57 )
                      ธเนศ  เธียรนันทน์/ตรวจข่าว

จันทบุรี พบการแพร่ระบาดยาเสพติดประเภทกัญชาเพิ่มขึ้น

สถานการณ์ยาเสพติดจังหวัดจันทบุรีภาพรวมยังอยู่ในระดับไม่รุนแรงแต่ต้องเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด ส่วนกัญชามีแนวโน้มเพิ่มระดับความรุนแรงมากขึ้น

นายสามารถ ลอยฟ้า ผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรีเปิดเผยข้อมูลจากศูนย์อำนวยการพลังแผ่นดินเอาชนะยาเสพติดจังหวัดจันทบุรี ว่า สถานการณ์การแพร่ระบาดของยาเสพติดในพื้นที่จังหวัดจันทบุรีในห้วงเดือนที่ผ่านมาอยู่ในระดับที่ไม่รุนแรงแต่ยังคงปรากฏการเคลื่อนไหวของกลุ่มเครือข่ายยาเสพติดในลักษณะผู้จำหน่ายรายย่อยอย่างต่อเนื่อง  พื้นที่ที่จะต้องเฝ้าระวังคืออำเภอที่มีแนวเขตติดต่อของจังหวัด ได้แก่ อำเภอแก่งหางแมวและอำเภอนายยายอาม  ทั้งนี้เนื่องจากปรากฏข้อมูลการเคลื่อนไหวของบุคคลในลักษณะนำยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) จากพื้นที่อื่นมาพักรอเพื่อเตรียมส่งต่อให้กับกลุ่มเครือข่ายยาเสพติดในพื้นที่ตอนใน คือ เขตอำเภอเมืองจันทบุรี อำเภอท่าใหม่และอำเภอขลุง รวมทั้งต้องเฝ้าระวังการเคลื่อนไหวของกลุ่มเครือข่ายยาเสพติดระหว่างประเทศไทยและกัมพูชาในพื้นที่อำเภอโป่งน้ำร้อนและจุดผ่อนปรนทางการค้าบ้านสวนส้ม ตำบลสะตอน อำเภอสอยดาว  ประเด็นที่น่าสนใจคือการจับกุมผู้กระทำความผิดในลักษณะผลิตยาเสพติดให้โทษประเภท 5 (กัญชา) ในพื้นที่อำเภอนายายอามและอำเภอท่าใหม่ อาจเป็นสิ่งบ่งชี้เกี่ยวกับสถานการณ์แพร่ระบาดของยาเสพติดในพื้นที่จังหวัดจันทบุรีในลักษณะของการมาทดแทนยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้าและไอซ์) ในอนาคต ทั้งนี้เนื่องจากกัญชามีราคาถูกกว่าและสามารถปลูกได้ในทุกสภาพอากาศและทุกสภาพภูมิประเทศ รวมทั้งหาซื้อได้ง่ายและไม่ยุ่งยากในการเสพ รวมทั้งสังคมไม่ได้ให้ความสำคัญต่อการเสพกัญชาเป็นสิ่งผิดกฎหมาย จึงทำให้ยังคงปรากฏการลักลอบปลูกกัญชาในบางพื้นที่ สำหรับการติดตามความเคลื่อนไหวของเครือข่ายยาเสพติดในเรือนจำจังหวัดจันทบุรีได้มีการกำหนดแผนปฏิบัติเพื่อทำการตรวจค้นเรือนนอนของผู้ต้องขังในคดียาเสพติดอย่างต่อเนื่องจึงทำให้สถานการณ์แพร่ระบาดของยาเสพติดภายในเรือนจำจังหวัดจันทบุรีมีระดับความรุนแรงลดลง  กล่าวโดยสรุปคือแนวโน้มสถานการณ์การแพร่ระบาดของยาเสพติดในพื้นที่จังหวัดจันทบุรีจะยังคงมีการเคลื่อนไหวของผู้กระทำความผิดในลักษณะครอบครองเพื่อจำหน่ายอยู่อย่างต่อเนื่อง โดยพื้นที่ที่จะต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษคืออำเภอแก่งหางแมว อำเภอโป่งน้ำร้อน อำเภอขลุงและอำเภอเมืองจันทบุรี ส่วนประเภทของยาเสพติดที่มีแนวโน้มจะแพร่ระบาดเพิ่มมากขึ้นในระยะนี้คือกัญชา



ธเนศ  เธียรนันทน์ / ข่าว
  

แถลงข่าวการจับกุมแก๊งรถจักรยานยนต์ในพื้นที่อำเภอปลวกแดง

แถลงข่าวการจับกุมแก๊งรถจักรยานยนต์ในพื้นที่อำเภอปลวกแดง

วันนี้ 27 ก.ค.57 พ.ต.อ.สมไทย คำวัฒน์ รอง ผบก.ภ.จว.ระยอง พ.ต.อ.พรชัย แก่นเพชร ผกก.สภ.ปลวกแดง พ.ต.ท.มานพ ภูชชงค์ รอง ผกก. ป.สภ.ปลวกแดง พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจปลวกแดงชุดจับกุม ได้แถลงข่าวการจับกุมแก๊งโจรชาวเขมรที่เข้ามาลักรถ จยย.ในพื้นที่อำเภอปลวกแดงจังหวัดระยองไว้ได้ 4 คน มีคนไทยร่วมด้วย 1 คน พร้อมด้วย รถยนต์เก๋งยี่ห้อฮอนด้า ซิตี้ สีบรอนด์เงินทะเบียน กค.-3404 สระแก้ว 1 คัน รถ จักรยานยนต์ยี่ห้อ ฮอนด้าคลิ๊กสีแดง ทะเบียน 1 กค-7274 สุพรรณบุรี และรถ จักรยานยนต์ฮอนด้า ซูมเม่อเอ๊ก สีเขียวดำ ทะเบียน 1กต.8726 ชลบุรี และประแจหกเหลี่ยมตัวที เบอร์8 จำนวน 1 อัน เหล็กหกเหลี่ยมเจียรปลายแหลมใช้แทงเบ้ากุญแจเพื่อสตาร์ทเครื่องยนต์ จำนวน 2 อันและโทรศัพท์มือถือสองเครื่อง

การจับกุมครั้งนี้เกิดจากเมื่อวันที่ 26 ก.ค.57 น.ส.ศรวณีย์ แฉเกษม อายุ 32 ปีพักอยู่ห้องแถวเลขที่ 70 หมู่ 6 ตำบลมาบยางพร อำเภอปลวกแดง ทำงานอยู่ที่ บริบัทดี เอช แอล ซัพพลายเซน ได้มาแจ้งความว่ามีคนร้ายมาลักรถ จยย.ยี่ห้อ ฮอนด้า ซูมเม่อเอ๊ก สีเขียว-ดำที่จอดไว้หน้าห้องพักแล้วขับหนีออกมาบนถนนซอยห้างแก้ว ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจของ สภ.ปลวกแดง ได้ทำการสืบสวนจับกุมตัวคนร้ายไว้ได้ทั้งหมดเป็นชาวเขมร 3คน และคนไทย1คน คือ 1 .นายซอ วัน อายุ 19 ปี 2.นายเจีย เดช อายุ 21 ปี 3.นายยง เพ็ญ อายุ 33 ปี ทั้ง 3 คนเป็นชาวเขมร และยังมีคนไทย 1 คนคือนางสำเนียง หรือเนียง จันทร์คล้าย อายุ 54 ปี อยู่บ้านเลขที่ 79 หมู่3 ตำบลพันทราย อำเภออรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว โดยนางสำเนียงบอกว่าชาวเขมรทั้งสามคนว่าจ้างให้มาส่งโดยขับรถยนต์เก๋งยี่ห้อฮอนด้า ซิตี้ สีบรอนด์เงิน ทะเบียน ก.ค. 3404 สระแก้วมาส่งที่อำเภอปลวกแดง เมื่อวานนี้ ส่วนคนร้ายชาวเขมรรับสารภาพว่ามาลักรถ จักรยานยนต์แล้วนำไปส่งขายที่ประเทศกัมพูชาจริงในราคาคันละ 1 หมื่นบาท โดยนายซอ วัน รับว่าทำมาแล้ว 12 ครั้ง และรถจักรยานยนต์ที่ชาวกัมพูชาต้องการจะเป็นยี่ห้อ ฮอนด้า ส่วนรถ จักรยานยนต์อีกคันได้ลักมาจากพื้นที่ อำเภอศรีราชา และขี่มาลักรถจักรยานยนต์ฮอนด้าซูมเม่อเอ๊ก ของ น.ส.ศรวณีย์ แฉเกษม ซี่งขณะแถลงข่าว นางสาว ศรวณีย์เจ้าของรถฮอนด้าซูมเม่อเอ๊ก มาดูและคอยรับรถกลับ...โดยบอกว่าวันเกิดเหตุช่วงเที่ยงวัน ได้ขี่จักรยานยนต์ออกไปซื้อบุหรี่ให้แฟน แล้วจอดรถไว้หน้าห้องโดยลืมถอดกุญแจไว้แป๊บเดียวได้ยินเสียงรถจักรยานยนต์วิ่งออกไปจึงออกมาดูเห็นหลังคนร้ายไวๆ ขับขี่ จักรยานยนต์ของตนออกไป ก็นับว่ายังโชคดีที่ตามจับคนร้ายได้พร้อมรถ

ทางด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เปิดเผยว่าคนร้ายชาวเขมรเหล่านี้ได้ทำงานกันเป็นทีมเป็นแก๊งและจะตระเวนไปตามจุดต่างๆ เพื่อลักรถนำส่งไปขายได้คัน 1 หมื่นบาท โดยจะใช้เครื่องมือที่ทำมาเสียบเข้าไปในช่องกุญแจแล้วก็ออกแรงบิดและสตาร์ทเครื่องแล้วก็ขับรถหนีไปซึ่งคนร้ายพวกนี้จะมาเช่าอยู่ตามหอพักติดแอร์อย่างดี จึงขอเตือนเจ้าของรถว่าให้เก็บรถไว้ให้ดีอย่าเสียบกุญแจรถทิ้งไว้โดยเด็ดขาด



วฐิต/ข่าว

พบระเบิด และเครื่องกระสุนปืนอาวุธสงครามถูกทิ้งริมถนนที่จังหวัดระยอง คาดผู้ที่มีไว้ครอบครองกลัวความผิด จึงนำมาทิ้ง

พบระเบิด และเครื่องกระสุนปืนอาวุธสงครามถูกทิ้งริมถนนที่จังหวัดระยอง คาดผู้ที่มีไว้ครอบครองกลัวความผิด จึงนำมาทิ้ง

เมื่อเวลา 09.00 น.วันที่ 27 ก.ค.ร.ต.ท.ชัยกมล พิพิธกุล ร้อยเวร สภ.นิคมพัฒนา จ.ระยอง ได้รับแจ้งพบวัตถุสงสัยคล้ายระเบิดและเครื่องกระสุนปืนอาวุธสงครามถูกนำมาทิ้งริมถนนลูกรังภายในซอย 7 ห่างจากถนนสาย 36 ประมาณ 1 กม. ท้องที่ ม.2 ต.มะขามคู่ อ.นิคมพัฒนา จึงเดินทางไปตรวจสอบพร้อมด้วย พ.ต.อ.เชาว์ศิริ บุญศิริโยธิน ผกก.สภ.นิคมพัฒนา พ.ต.ต.ประวิทย์ ภาษีชา ร.ต.อ.สุริยา กุลบุญญา ร.ต.ท.ธวิช ภูสมศรี ร.ต.ท.สุธน หมื่นสุข ร.ต.ต.สุรเดช มณีพิทักษ์ รอง สวป.สภ.นิคมพัฒนา พ.จ.อ.ถนัด ปานอินทร์ รอง ผบ.มว.รส.ที่ 2 และนายพิเชษฐ์ ธรรมโหร ปลัดอำเภอฝ่ายความมั่นคง อ.นิคมพัฒนา ก่อนจะประสานตำรวจ EOD ตำรวจภูธรจังหวัดระยอง มาเก็บกู้ จากการตรวจสอบพบวัตถุระเบิดซุกซ่อนอยู่ในถุงพลาสติกสีดำ ถูกนำมาทิ้งในป่าหญ้าริมถนนลูกรัง ประกอบด้วย ระเบิด เอ็ม 33 จำนวน 1 ลูก ระเบิด เอ็ม 26 เอ 1 จำนวน 1 ลูก ระเบิด เอ็ม 27 จำนวน 1 ลูก ระเบิดควัน เอ็ม 18 จำนวน 1 ลูก เครื่องกระสุนปืน อาก้า ขนาด 7.62 จำนวน 46 นัด

พ.ต.อ.เชาว์ศิริ บุญศิริโยธิน ผกก.สภ.นิคมพัฒนา กล่าวว่า วัตถุระเบิดและเครื่องกระสุนปืนอาวุธสงครามดังกล่าวที่ตรวจพบมีพลเมืองดี โทรศัพท์ไปแจ้งว่าพบวัตถุต้องสงสัยว่าจะเป็นระเบิด ถูกนำมาทิ้งบริเวณดังกล่าว จึงได้แจ้งไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้มาร่วมตรวจสอบ เบื้องต้นได้ตรวจยึดระเบิด และเครื่องกระสุนปืนอาวุธสงครามทั้งหมดส่งพนักงานสอบสวน สภ.นิคมพัฒนา ตรวจสอบลายนิ้วมือ เพื่อติดตามหาตัวผู้ที่นำมาทิ้ง มาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป ทั้งนี้คาดว่า ผู้ที่มีไว้ในครอบครองกลัวความผิด หลัง คสช.กวาดล้างหนัก และประกาศให้นำมาส่งมอบให้กับทางการ จึงนำมาทิ้งดังกล่าว




วฐิต/ข่าว

เศรษฐีเมืองระยอง แห่ร่วมประมูลเลขทะเบียนสวยหมวดอักษร กพ. “กำไรเพิ่มพูน เพิ่มพูนกำไร” เนื่องแน่น

เศรษฐีเมืองระยอง แห่ร่วมประมูลเลขทะเบียนสวยหมวดอักษร กพ. "กำไรเพิ่มพูน เพิ่มพูนกำไร” เนื่องแน่น

เมื่อเวลา 10.00 น.วันที่ 26 ก.ค.57 ที่โรงแรมสตาร์ อ.เมืองระยอง นายอัฌษไธค์ รัตนดิลก ณ. ภูเก็ต อธิบดีกรมการขนส่งทางบก เป็นประธานในพิธีประมูลหมายเลขทะเบียนรถ ซึ่งเป็นที่ต้องการหรือเป็นที่นิยมของประชาชน (เลขสวย) ประเภทรถนั่งส่วนบุคคลไม่เกิน 7 คน ที่จดทะเบียนในเขตจังหวัดระยอง หมวดอักษร กพ "กำไรเพิ่มพูน เพิ่มพูนกำไร” จำนวน 301 เลขหมาย มีนายธานี สามารถกิจ ผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง นายปิยะ ปิตุเตชะ นายก อบจ.ระยอง ร่วมเป็นเกียรติฯ โดยมีบรรดาเศรษฐีเมืองระยอง สนใจเข้าร่วมประมูลจำนวนมาก การประมูลจัดขึ้น 2 วันด้วยกัน ระหว่างวันที่ 26-27 ก.ค.นี้

 สำหรับการประมูลในวันแรกวันนี้ เริ่มประมูลที่ป้ายทะเบียน กพ 8899 ระยอง ราคาที่สูงสุด 380,000 บาท ผู้ที่ได้ชนะการประมูลได้ไป คือนายนัทธพงษ์ คุณาจิระกุล เจ้าของธุรกิจบ้านจัดสรร และอสังหาริมทรัพย์เมืองระยอง ส่วนป้ายทะเบียนที่มีผู้สนใจแห่ร่วมประมูลจำนวนมากคือ ป้ายทะเบียน กพ 9999 ระยอง ซึ่งผู้ที่ชนะการประมูล นางสาวสุภาวดี วาจาสิทธิ์ อายุ 23 ปี เจ้าของธุรกิจสถานบันเทิง "ซู้ด เวติโก ผับ” ผับชื่อดังเมืองระยอง ได้ไปในราคา 1,555,555 บาท



วฐิต/ข่าว

จังหวัดระยองจัดเจริญพระพุทธมนต์นพเคราะห์เฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร เนื่องในโอกาสเฉลิมพระชนมพรรษา 62 พรรษา 28 กรกฎาคม 2557

จังหวัดระยองจัดเจริญพระพุทธมนต์นพเคราะห์เฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร เนื่องในโอกาสเฉลิมพระชนมพรรษา 62 พรรษา 28 กรกฎาคม 2557

​วันนี้ (27 ก.ค. 57) ที่วัดเนินพระ นายธานี สามารถกิจ ผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง เป็นประธานในพิธีเจริญพระพุทธมนต์นพเคราะห์เฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร เนื่องในโอกาสเฉลิมพระชนมพรรษา 62 พรรษา วันที่ 28 กรกฎาคม 2557 โดยมีนายทรรศนะ วิชัยธนพัฒน์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง นายธีรวัฒน์ สุดสุข ปลัดจังหวัดระยอง นายดำริห์ สมควรคิด วัฒนธรรมจังหวัดระยอง นายชูเกียรติ ชมแก้ว ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดระยอง เจ้าคณะจังหวัดระยอง องค์กรเครือข่ายทางพระพุทธศาสนา สภาวัฒนธรรมจังหวัด ตลอดจนข้าราชการ ประชาชน ครูอาจารย์ นักเรียนโรงเรียนอนุบาลวัดเนินพระ เข้าร่วม

นายดำริห์ กล่าวว่า การจัดพิธีเจริญพระพุทธมนต์ เนื่องด้วยนพเคราะห์ในครั้งนี้ เพื่อเป็นการเฉลิมพระเกียรติและถวายพระราชกุศลแด่สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร เนื่องในโอกาสเฉลิมพระชนมพรรษา 62 พรรษา วันที่ 28 กรกฎาคม 2557 เป็นการเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์ สร้างขวัญและกำลังให้พุทธศาสนิกชน ที่เป็นพสกนิกรอยู่ใต้พระบรมโพธิสมภารได้ แสดงออกถึงความจงรักภักดี ให้สีงคมสงบร่มรื่น และสันติสุข ด้วยการนำหลักธรรมจากบทเจรญพระพุทธมนต์มาประพฤติปฏิบัติในวิถีชีวิต ประชาชนมีความสามัคคีปรองดอง ด้วยการทำกิจกรรมทางพระพุทธศาสนาร่วมกัน โดยมีสถาบีนพระมหากษัตริย์เป็นศูนย์รวมจิตใจของคนไทยทั้งชาติิ



สวรส/ข่าว

จ.ฉะเชิงเทราจัดพิธี เจริญพระพุทธมนต์นพเคราะห์ เฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ

วันนี้ (27 ก.ค.57) เวลา 09.09 น. ที่ศาลาการเปรียญวัดบางปรงธรรมโชติการาม  อำเภอเมืองฉะเชิงเทรา   นาย บัณฑิตย์ เทวีทิวารักษ์   รองผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทรา นำข้าราชการ พุทธศาสนิกชน ผู้นำท้องถิ่น นักเรียน นักศึกษา และ ประชาชนทั่วไป จำนวนกว่า  500  คน  ประกอบพิธีเจริญพระพุทธมนต์นพเคราะห์เฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมายุ 62 พรรษา 28 กรกฎาคม 2557  โดยรองผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทรา ประธานในพิธี ได้ลงนามถวายพระพร  เปิดกรวยดอกไม้ ธูปเทียนแพ ถวายราชสักการะเบื้องหน้าพระฉายาลักษณ์ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช ฯสยามมกุฎราชกุมาร และกล่าวคำถวายพระพรชัยมงคล จากนั้นพระสงฆ์เจริญชัยมงคลคาถา ต่อด้วยประธานในพิธีถวายผ้าไตรพระราชทานแด่พระสงฆ์ ก่อนที่พระสงฆ์เจริญพระพุทธมนต์บทต่างๆและเจริญพระพุทธมนต์บทดาวนพเคราะห์ฯ เพื่อเป็นการเฉลิมพระเกียรติและถวายเป็นพระราชกุศล ซึ่งเป็นการเทิดทูนสถาบันมหากษัตริย์ สร้างขวัญ กำลังใจให้พุทธศาสนิกชนที่เป็นพสกนิกรอยู่ภายใต้พระบรมโพธิสมภาร ได้แสดงออกถึงความจงรักภักดีให้เกิดความสงบร่มเย็น และสันติสุข ด้วยการนำหลักธรรมจากบทเจริญพระพุทธมนต์มาประพฤติปฏิบัติในชีวิตประจำวัน ประชาชนมีความรักความสามัคคี ปรองดอง ด้วยการทำกิจกรรมทางพระพุทธศาสนาร่วมกัน โดยมีสถาบันพระมหากษัตริย์เป็นศูนย์รวมจิตใจของคนไทยทั้งชาติ




ชาญณรงค์/ข่าว
ธนภัทร/ภาพ
ส.ปชส.ฉะเชิงเทรา

วันอังคารที่ 22 กรกฎาคม พ.ศ. 2557

จ.สระแก้ว ทำบุญตักบาตร“มหกรรมปรองดองสมานฉันท์ คืนความสุขให้คนในชาติ”

วันที่ (22 กรกฎาคม 2557) เวลา 07.00 น. นายภัครธรณ์  เทียนไชย ผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว เป็นประธานในพิธี ทำบุญตักบาตร"มหกรรมปรองดองสมานฉันท์ คืนความสุขให้คนในชาติ” ณ วัดสระแก้วพระอารามหลวง อ.เมือง จ.สระแก้ว โดยมีหัวหน้าส่วนราชการ ตำรวจ ทหาร ประชาชน  ร่วมกันทำบุญตักบาตรข้าวสารอาหารแห้ง พระสงฆ์ 99 รูป เพื่อความปรองดองสมานฉันท์ และ "มหกรรมปรองดองสมานฉันท์ คืนความสุขให้คนในชาติ”

 ทั้งนี้ ผู้มาร่วมทำบุญตักบาตร ต่างพร้อมใจตั้งจิตอธิษฐาน ขอให้ประเทศชาติสุขสงบ ทุกฝ่ายมีความปรองดอง สมานฉันท์ เพื่อให้ประเทศไทยมีความสุขโดยเร็ว
   
   
   
   

จังหวัดสระแก้ว จัดอบรมพัฒนาศักยภาพแกนนำชุมชนด้านความปลอดภัยทางท้องถนน

วันนี้ (22 ก.ค.) ที่องค์การบริหารส่วนตำบลสระขวัญ นายชูศักดิ์  ตรีสาร รองผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว เป็นประธานเปิดโครงการพัฒนาศักยภาพแกนนำชุมชนด้านความปลอดภัยทางท้องถนน โดยมีแกนนำชุมชนด้านความปลอดภัยบนท้องถนน จำนวน 50 คน เข้ารับการฝึกอบรมทั้งภาคทฤษฎีและภาคปฏิบัติโดยสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดสระแก้ว ร่วมกับสำนักงานขนส่งจังหวัดสระแก้ว สถานีตำรวจภูธรเมืองสระแก้ว โรงพยาบาลวัฒนานครและหน่วยงานต่างๆที่เกี่ยวข้อง  ซึ่งสาเหตุสำคัญของการเสียชีวิต บาดเจ็บและพิการของประชาชนชาวไทยมาจากการขับขี่ไม่ปลอดภัยทางถนน ซึ่งได้มีการรณรงค์ป้องกันและแก้ไขปัญหาอุบัติเหตุทางถนนมาอย่างต่อเนื่องและจริงจัง ภายใต้ยุทธศาสตร์การยกระดับมาตรฐานความปลอดภัยทางถนน เพื่อนำไปสู่การปฏิบัติที่มีประสิทธิภาพ

ชาวจังหวัดฉะเชิงเทรา พร้อมใจทำบุญตักบาตร รวมใจ คืนความสุขให้คนในชาติ

วันนี้ (22  ก.ค. 57) เวลา 07.00 น. ที่บริเวณศาลาจัตุรมุข หน้าศาลากลางจังหวัดฉะเชิงเทรา นาย อนุกูล ตังคณานุกูลชัย ผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทรา นำ ทหาร ตำรวจ  ข้าราชการ พ่อค้าและ ประชาชน ทำบุญตักบาตร ข้าวสารอาหารแห้งแด่พระภิกษุสงฆ์ จำนวน 99 รูป ตามโครงการ "มหกรรมปรองดองสมานฉันท์ คืนความสุขให้คนในชาติ” ซึ่งเป็นกิจกรรมคู่ขนานกับ พิธี ที่กระทรวงมหาดไทยจัดขึ้น ณ มณฑลพิธีท้องสนามหลวง และทั่วประเทศ  พร้อมกัน ซึ่งเปรียบเสมือนการทำบุญประเทศครั้งใหญ่ เพื่อสร้างความปรองดองสมานฉันท์  ความเป็นสิริมงคล และความสงบสุขของบ้านเมือง

ทั้งนี้ผู้มาร่วมทำบุญตักบาตร ต่างพร้อมใจตั้งจิตอธิษฐาน ขอให้ประเทศชาติสุขสงบ ทุกฝ่ายมีความปรองดอง สมานฉันท์ เพื่อให้ประเทศไทยมีความสุขโดยเร็ว



ชาญณรงค์/ข่าว
ธนภัทร/ภาพ
ส.ปชส.ฉะเชิงเทรา

อำเภอเมืองฉะเชิงเทรา จัดพิธีปิดโครงการเทิดทูนสถาบัน สมานฉันท์ รู้รักสามัคคี

วันนี้ ( 22 ก.ค.57)     นาย อนุกูล ตังคณานุกูลชัย ผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทรา เป็นประธานในพิธีปิดโครงการเทิดทูนสถาบัน สมานฉันท์ รู้รักสามัคคี อำเภอเมืองฉะเชิงเทรา พร้อมด้วย พล.ต. พิชิต ฟูฟุ้ง ผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 11  นายไพศาล  วิมลรัตน์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทรา   นาย เดชา ใจยะ ปลัดจังหวัดฉะเชิงเทรา  พล.ต. องอาจ  ชวาลวิวัฒน์ รองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัดเชิงเทรา  และ พ.ตอ. ชัยรัตน์ ศรีเอี่ยม รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเชิงเทรา  ร่วมประกอบพิธีปิดโครงการฯ   โดยมีนาย วิสิทธิ์ สินลือนาม นายอำเภอเมืองฉะเชิงเทรา กล่าวรายงานและ ข้าราชการ ทหาร ตำรวจ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน เจ้าหน้าที่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เข้าร่วมพิธี ณ บริเวณศาลากลางจังหวัดฉะเชิงเทรา(หลังเก่า)

นาย อนุกูล ตังคณานุกูลชัย ผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทรา ประธานในพิธีได้เปิดกรวยถวายเครื่องราชสักการะ กล่าวคำถวายราชสดุดีเฉลิมพระเกียรติและนำผู้เข้าร่วมพิธีกล่าวคำปฏิญาณเทิดทูนสถาบันของชาติ และร่วมกันร้องเพลงสรรเสริญพระบารมีและเพลงสดุดีมหาราชา จากนั้นนายอำเภอเมืองฉะเชิงเทรา  สัสดีอำเภอเมืองฉะเชิงเทราและผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรเมืองฉะเชิงเทรา อัญเชิญธงตราสัญลักษณ์ส่งมอบให้ผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทรา ผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 11 และผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดฉะเชิงเทรา นอกจากนั้นนายกองค์การบริหารส่วนตำบลทั้ง 18 ตำบล ได้มอบบันทึกข้อตกลงและแนวทางสร้างความปรองดองสมานฉันท์ให้แก่ผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทรา   ผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 11  รองผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทรา  ปลัดจังหวัดฉะเชิงเทรา  รองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัดเชิงเทรา และรองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเชิงเทรา

สำหรับโครงการเทิดทูนสถาบัน สมานฉันท์ รู้รักสามัคคี อำเภอเมืองฉะเชิงเทรา จัดขึ้นระหว่างวันที่ 4-22 กรกฏาคม  เพื่อปลูกฝังค่านิยม อุดมการณ์ ความภักดีและเทิดทูนสถาบันชาติ  ศาสนา และพระมหากษัตริย์ และเพื่อให้ประชาชนทุกหมู่เหล่ามีความสามัคคีเสริมสร้างความมั่นคงแก่ประเทศชาติ  ด้วยการจัดกิจกรรมเดิน-วิ่งอัญเชิญธงตราสัญลักษณ์ไปจัดกิจกรรมเทิดทูนสถาบันสร้างความสมานฉันท์ครอบคลุมพื้นที่ทุกตำบล/หมู่บ้านในอำเภอเมืองฉะเชิงเทรา



ชาญณรงค์/ข่าว
ส.ปชส.ฉะเชิงเทรา

บสย. จับมือ หอการค้า สภาอุตสาหกรรม และ บริษัทข้อมูลเครดิตแห่งชาติ จัดงานมหกรรมเข้าถึงแหล่งเงินทุน จังหวัดฉะเชิงเทรา

วันนี้ (22 ก.ค.57)   ทีโรงแรมซันธารา เวลเนส รีสอร์ท  อำเภอเมืองฉะเชิงเทรา     นายอนุกูล   ตังคณานุกูลชัย  ผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทรา เป็นประธานในพิธี เปิดงาน "มหกรรมเข้าถึงแหล่งเงินทุนจังหวัดฉะเชิงเทรา”  โดยบรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.)ร่วมกับ หอการค้าจังหวัดฉะเชิงเทรา  สภาอุตสาหกรรมจังหวัดฉะเชิงเทรา  และ บริษัทข้อมูลเครดิตแห่งชาติ จัดขึ้น  เพื่อให้ผู้ประกอบการ SMEs ในพื้นที่จังหวัดฉะเชิงเทรามีโอกาสเข้าถึงแหล่งเงินทุนมากยิ่งขึ้น

นายอนุกูล   ตังคณานุกูลชัย  ผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทรากล่าวว่าการจัดงาน  มหกรรมเข้าถึงแหล่งเงินทุน จังหวัดฉะเชิงเทรา ในวันนี้ จะช่วยให้ผู้ประกอบการ SMEsในพื้นที่จังหวัดฉะเชิงเทรา  สามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนจากสถาบันการเงินในระบบได้ง่ายขึ้น โดยมีบรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) เข้าไปช่วยในการค้ำประกันสินเชื่อแก่ผู้ประกอบการ SMEs และกลุ่มผู้ประกอบการรายย่อย ซึ่งเป็นไปตามนโยบายของรัฐ รวมถึงการส่งเสริมมาตรการช่วยเหลือ SMEs ผ่านสถาบันการเงินของรัฐ ตามนโยบายของกระทรวงการคลัง ทำให้มีสภาพคล่องในการทำธุรกิจ ช่วยให้ธุรกิจสามารถดำเนินการต่อไปได้ เพื่อรองรับให้ผู้ประกอบการ SMEs ในพื้นที่จังหวัดฉะเชิงเทรา ให้ได้รับสินเชื่อเพิ่มมากขึ้น ซึ่งเป็นกำลังที่สำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของจังหวัดฉะเชิงเทราและของประเทศต่อไปได้

ด้านนายก ฤต สมมาศเดชสกุล  ผู้จัดการอาวุโส บสย.สำนักงานสาขาชลบุรี  กล่าวว่า งาน "มหกรรมเข้าถึงแหล่งเงินทุน จังหวัดฉะเชิงเทรา” เป็นการเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการ SMES ในจังหวัดฉะเชิงเทรา สามารถเข้ารับคำปรึกษาด้านการลงทุน การเข้าถึงแหล่งเงินทุนจากเจ้าหน้าที่ของบรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) นอกจากนี้ยังมีธนาคารกว่า 10 ธนาคารร่วมออกบูธ  ซึ่งมาให้บริการปรึกษาการขอสินเชื่อและบจก.ข้อมูลเครดิตแห่งชาติเปิดบริการรับการตรวจสอบเดรดิตบูโรฟรี อีกด้วย



ชาญณรงค์/ข่าว
ธนภัทร/ภาพ
ส.ปชส.ฉะเชิงเทรา

รักษาราชการผู้บัญชาการตำรวจภูธร ภาค 2 ลงพื้นที่ ติดตามคดีเอ็นจีโอชื่อดังเสียชีวิต หลังญาติคาใจการยิงตัวตาย

เมื่อเวลา 10.00 น.วันที่ 21 ก.ค.พล.ต.ต.ศานิตย์ มหาถาวรรักษาราชการผู้บัญชาการตำรวจภูธร ภาค 2 ลงพื้นที่ ติดตามคดีนายสุทธิ อัชฌาศัย ผู้ประสานงานเครือข่ายประชาชนภาคตะวันออก เอ็นจีโอชื่อดังเมืองระยอง ก่อเหตุยิงตัวเองเสียชีวิตคารถยนต์ที่จอดอยู่โรงรถภายในบ้านกลางสวนผลไม้ ม.7 ต.บ้านแลง อ.เมืองระยอง เหตุเกิดเมื่อวันที่ 15 ก.ค.ที่ผ่านมา โดยรักษาราชการผู้บัญชาการตำรวจภูธร ภาค 2ได้ตรวจสอบรถยนต์ กระบะยี่ห้อโตโยต้าไมตี้เอ็กซ์สีเขียว หมายเลขทะเบียน พ 1426 ระยอง คันที่นายสุทธิ นั่งอยู่ในรถก่อนใช้ปืนยิงตัวเองเสียชีวิตด้วย

รักษาราชการผู้บัญชาการตำรวจภูธร ภาค 2กล่าวว่า การเดินทางมาวันนี้ เพื่อมาติดตามสำนวนคดี เนื่องจากญาติผู้ตายคาใจถึงการใช้อาวุธปืนยิงตัวตายของนายสุทธิ ซึ่งจากร่วมประชุมกับทีมชุดคลี่คลายคดี ทราบว่า มีการทำงานอย่างตรงไปตรงมา มีตรวจสอบที่เกิดเหตุอย่างละเอียดจากตำรวจพิสูจน์หลักฐาน มีการสอบสวนพยานบุคคล และหาพยานแวดล้ออย่างละเอียดซึ่งเป็นที่แน่ชัดว่านายสุทธิ ใช้อาวุธปืนยิงตัวตาย เนื่องจากเกิดความเครียด ขอยืนยันว่า ตำรวจไม่ได้นิ่งนอนใจและทำคดีไปตามข้อเท็จจริงจากรูปการที่เป็นจริงแต่อย่างไรก็ตามหากญาติยังคาใจอยู่ก็สามารถร้องให้มีการผ่าพิสูจน์ศพได้


วฐิต กลางนอก/ระยอง 0871373960