วันพฤหัสบดีที่ 27 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

จ.ฉะเชิงเทรา จัดการประชุมคณะกรรมการจังหวัดและหัวหน้าส่วนราชการ ประจำเดือน กุมภาพันธ์ 2557

วันนี้ (27 ก.พ.57) นาย อนุกูล ตังคณานุกูลชัย    ผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทรา  เป็นประธานในการประชุมหัวหน้าส่วนราชการ ครั้งที่ 2/2557  ประจำเดือน กุมภาพันธ์ 2557โดยมี นาย บัณฑิตย์ เทวีทิวารักษ์  รองผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทรา  นาย ไพศาล วิมลรัตน์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทรา  คณะกรมการจังหวัด  หัวหน้าส่วนราชการ และ หน่วยงานรัฐวิสาหกิจจังหวัดฉะเชิงเทรา  เข้าร่วมประชุมอย่างพร้อมเพรียง  ณ ห้องประชุมมรุพงษ์ศิริพัฒน์    ศาลากลางจังหวัดฉะเชิงเทรา

ก่อนเข้าสู่วาระการประชุม  ผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทราได้เป็นประธานพิธีไหว้พระสวดมนต์เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว  เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษาฯ  จากนั้นได้มีการมอบเครื่องหมาย "รักษาดินแดนยิ่งชีพ ”  แก่บุคคลผู้ประกอบคุณประโยชน์ต่อกิจการกองอาสารักษาดินแดน จำนวน 2ราย ได้แก่ นายวุฒิศักดิ์ สิงหเดโชนายอำเภอแปลงยาว /ผู้บังคับกองอาสารักษาดินแดนอำเภอแปลงยาว และนางวราภรณ์  ศิริวงศ์ นายอำเภอสนามชัยเขต /ผู้บังคับกองอาสารักษาดินแดนอำเภอสนามชัย

สำหรับเรื่องที่ประธานแจ้งที่ประชุมทราบเป็นเรื่องน้อมนำพระบรมราโชวาทหรือพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว  /การแนะนำข้าราชการย้ายมาดำรงตำแหน่งใหม่ หรือเข้าประชุมครั้งแรก ได้แก่ พ.ต.อ. ธนู พวงมณี  ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรท่าตะเกียบ ย้ายมาจากผู้กำกับฝ่ายอำนวยการภูธรจังหวัดฉะเชิงเทรา / นอกจากนี้เป็นการติดตามผลการดำเนินงานตามมติที่ประชุม ในเรื่องการดำเนินงานของส่วนราชการต่าง ๆ /การเบิกจ่ายเงินงบประมาณประจำปี 2557 จังหวัดฉะเชิงเทรา / สถานการณ์โรคฯ และภัยสุขภาพ/ การสรุปสถิติอุบัติเหตุทางถนน ประจำเดือน มกราคม 2557 / เรื่องจังหวัดกำหนดวันออกปฏิบัติตามโครงการหน่วยบำบัดทุกข์ บำรุงสุข สร้างรอยยิ้มให้ประชาชน(จังหวัดเคลื่อนที่) ประจำปีงบประมาณ 2557 ครั้งที่ 5/2557  ในวันพฤหัสบดีที่ 20 มีนาคม 2557   ณ วัดบางกระเจ็ด ตำบลบางกระเจ็ด อำเภอบางคล้า จังหวัดฉะเชิงเทรา    / เรื่องการทอดผ้าป่าสบทบกองทุนพัฒนาเด็กชนบท ในพระราชูปถัมภ์ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯสยามบรมราชกุมารี/เรื่องกฎหมายและระเบียบการคลังที่น่าสนใจและเรื่องการรายงานพยากรณ์อากาศจังหวัดฉะเชิงเทรา


ชาญณรงค์/ข่าว-ภาพ

กกต. จว.ระยอง เตรียมความพร้อมการเลือกตั้ง สมาชิกวุฒิสภา

กกต. จว.ระยอง เตรียมความพร้อมการเลือกตั้ง สมาชิกวุฒิสภา 30 มี.ค 57

พ.ต.ท.สมหมาย ธัญลักษณากุล ผอ. กกต.จว.ระยอง เปิดเผยว่า เนื่องจากสมาชิกวุฒิสภา ที่มาจากการเลือกตั้ง จะครบวาระในวันที่ 1 มีนาคม 2557 ดังนั้น พระราชกฤษฎีกาให้มีการเลือกตั้ง สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว) จะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 2 มีนาคม 2557 และกำหนดวันเลือกตั้ง สว.ในวันที่ 30 มีนาคม 2557 กำหนดวันเลือกตั้งล่วงหน้า ทั้งในเขตจังหวัด และนอกเขตจังหวัด วันที่ 23 มีนาคม 2557 ซึ่ง กกต.ประจำจังหวัดระยอง กำหนดสถานที่เลือกตั้งจังหวัดล่วงหน้า ณ สนามกีฬากลางจังหวัดระยอง และสถานที่เลือกตั้งกลางในเขตจังหวัด ณ ศาลาประคมของที่ว่าการอำเภอทั้ง 8 อำเภอ ส่วนการลงทะเบียน ขอใช้สิทธิ์เลือกตั้งล่วงหน้า ประชาชนผู้มีสิทธ์เลือกตั้ง สามารถลงทะเบียนขอใช้สิทธ์เลือกตั้ง ล่วงหน้านอกเขตจังหวัด ระหว่าง 17-28 กุมภาพันธ์นี้ ณ สำนักทะเบียนอำเภอ หรือสำนักทะเบียนท้องถิ่นในจังหวัดที่ผู้มีสิทธ์เลือกตั้งอาศัยอยู่ ส่วนผู้ที่เคยลงทะเบียนไว้แล้ว เมื่อครั้งเลือกตั้ง ส.ส. แต่ยังต้องการใช้สิทธ์เลือกตั้งล่วงหน้านอกเขตจังหวัด ไม่ต้องลงทะเบียน แต่หากไม่ต้องการใช้สิทธิเลือกตั้งหน้านอกเขตจังหวัดต่อไปแล้ว ต้องแจ้งยกเลิก มิฉะนั้นจะไม่สามารถไปใช้สิทธิ์เลือกตั้งที่ภูมิลำเนาของตนเองได้ หากไม่สะดวกในการแจ้งขอลงทะเบียนใช้สิทธิเลือกตั้งล่วงหน้านอกเขตจังหวัด หรือเกรงว่าจะลงทะเบียนไม่ทัน ขอให้ส่งเอกสารทางไปรษณีย์ลงทะเบียน ไปยังจังหวัดที่เคยแจ้งลงทะเบียนไว้ โดยจะถือวันประทับตราไปรษณีย์เป็นหลัก

กกต.จว.ระยอง จึงขอแจ้งกำหนดการ/การดำเนินงานการเลือกตั้ง ส.ว. ดังนี้        
          1. การลงทะเบียนเลือกตั้งล่วงในเขตจังหวัด ระหว่างวันที่ 4-10 มีนาคม 2557 ณ สำนักทะเบียนอำเภอหรือสำนักทะเบียนท้องถิ่น ที่ผู้มีสิทธิเลือกตั้งมีภูมิลำเนาอยู่ กรณีมีความประสงค์จะใช้สิทธิในวันเลือกตั้ง สามารถใช้สิทธิได้โดยไม่ต้องแจ้งยกเลิก แต่ต้องกรอกคำขอลงทะเบียนตามแบบ ส.ว.42
          2. กรณีไม่ไปใช้สิทธิเลือกตั้งต้องแจ้งเหตุก่อนและหลังวันเลือกตั้งภายใน 7วัน (แจ้งเหตุก่อน 23-27 มีนาคม 2557,แจ้งเหตุหลังระหว่างวันที่ 31 มีนาคม 2557- 6 เมษายน 2557) มิฉะนั้นจะถูกตัดสิทธิ 3 ประการ ได้แก่ สิทธิการเลือกตั้ง ส.ส./ส.ว./สิทธิสม้ครรับเลือกตั้ง ส.ส./ส.วและท้องถิ่น/และสิทธิสมัครรับเลือกตั้งกำนัน /ผู้ใหญ่บ้าน      
          3 การเพิ่มหรือถอนชื่อผู้มีสิทธิเลือกตั้ง ส.ว. สามารถดำเนินการก่อนวันเลือกตั้งภายใน 10 วัน ระหว่างวันที 11-20 มีนาคม 2557 4 กำหนดรับสมัคร สมาชิกวุฒิสภา วันที่ 4-8 มินาคม 2557 ณ. ศาลาประชาคมอำเภอเมืองระยอง ตั้งแต่เวลา 08.30 -10.30 น.
          หากมีข้อสงสัยสอบถามได้ที่ สนง.กกต.จว.ระยอง โทร. 038-618916-7 หรือ ผอ.กกต.จว.ระยอง โทร. 087-5026476

ผอ. กตต.จว. ระยอง กล่าวเชิญชวน ประชาชนผู้มีสิทธิ ไปใช้สิทธิเลือกตั้ง ส.ว. ในวันที่ 30 มีนาคม 2557 เพื่อรักษาสิทธิและดำรงไว้ขึ่งการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข และเพื่อให้ชาวระยอง เป็นตัวแทนเข้าไปทำหน้าที่ในสภา เช่นเดียวกับ ส.ว. จังหวัดอื่นๆ ซึ่งการเลือกตั้ง ส.ว. ครั้งนี้ ไม่เกี่ยวข้องกับพรรคการเมือง จึงเชื่อว่าน่าจะไม่มีการต่อต้านหรือขัดขวาง ประชาชนไม่ให้ออกมาใช้สิทธิเลือกตั้งแน่นอน



สวรส รูปแก้ว/ข่าว

สำนักงาน กกต.ประจำจังหวัดระยอง พร้อมการเลือกตั้งทดแทน 27 หน่วยวันที่ 2 มี.ค นี้

สำนักงาน กกต.ประจำจังหวัดระยอง พร้อมการเลือกตั้งทดแทน 27 หน่วยวันที่ 2 มี.ค นี้            

นายสุขุม โกมาสถิตย์ ประธานกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดระยอง กล่าวว่า ตามที่การเลือกตั้งเมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2557 จังหวัดระยองไม่สามารถจัดการเลือกตั้งได้จำนวน 27 หน่วย ใน 3 เขตเลือกตั้ง ขณะนี้คณะกรรมการการเลือกตั้งได้เตรียมพร้อมจัดให้มีการเลือกตั้งทดแทนในวันที่ 2 มีนาคม 2557 ซึ่งหน่วยเลือกตั้งของจังหวัดระยองทั้ง 27 หน่วยมีดังนี้
            เขตเลือกตั้งที่ 1 ตำบลตะพง จำนวน 19 หน่วย
            เขตเลือกตั้งที่ 3 อำเภอบ้านค่าย ต. ตาขัน จำนวน 2 หน่วย ต.ชากบก จำนวน 2 หน่วย อ.วังจันทร์ ต.วังจันทร์ จำนวน 1 หน่วย
            เขตเลือกตั้งที่ 4 อำเภอเมือง ตำบลมาบตาพุด จำนวน 3 หน่วย โดย สำนักงาน กกต.ประจำจังหวัดระยองได้รณรงค์ประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนผู้มีสิทธิทางหอกระจายข่าว เสียงตามสาย เพื่อให้ประชาชนทั้ง 27 หน่วยได้ทราบอย่างทั่วถึงแล้ว

ด้านมาตรการในการควบคุม กำกับ ดูแล ให้การเลือกตั้ง เป็นไปด้วยความเรียบร้อย ขณะนี้ได้ขอความร่วมมือไปยังตำรวจภูธรจังหวัดระยองจัดชุดควบคุมฝูงชน / ชุดเคลื่อนที่เร็ว/ชุดประชาสัมพันธ์การเลือกตั้ง เพื่อช่วยเหลือกรณีมีเหตุเกิดการขัดขวางการเลือกตั้งไว้แล้ว

นอกจากนี้ จังหวัดระยอง ได้สนับสนุนจัดกำลัง อส. และชุดป้องกันจังหวัดระยอง เพื่อปฎิบัติหน้าที่ร่วมกับตำรวจภูธรจังหวัดระยองอีกด้วย

ประธาน กกต ประจำจังหวัดระยอง ได้กล่าวเชิญชวนให้ ผู้มีสิทธิในเขตเลือกตั้งทั้ง 27 หน่วย ออกมาใช้สิทธิลงคะแนนเลือกตั้งทดแทนวันที่ 2 มีนาคม 2557 โดยพร้อมเพรียง เพื่อรักษาไว้ซึ่งระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข เข้าคูหารับบัตร 2 ใบ เลือกคนที่รัก หากเกิดกรณีขัดขวางการเลือกตั้ง ขอให้ผู้ชุมนุมแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ อยู่ในกรอบของกฎหมาย โดยไม่ละเมิดสิทธิของผู้อื่น หรือกระทำการใดๆ เพื่อเป็นการขัดขวางการเลือกตั้ง และเชื่อว่า จังหวัดระยองเป็นจังหวัดท่องเที่ยว คนระยองจะไม่ทำเหตุรุนแรงที่ทำให้เสียภาพลักษณ์การท่องเที่ยวแต่อย่างใด



สวรส/ข่าว

เอสซีจี เคมิคอลส์ ร่วมจัดสัมมนาเครือข่ายภาคีอนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง

เมื่อวันที่ 11 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา เอสซีจี เคมิคอลส์ ร่วมกับศูนย์อนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 1 จังหวัดระยอง จัดประชุมสัมมนาเครือข่ายภาคีอนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งระดับกลุ่มจังหวัด โดยมีตัวแทน จากกลุ่มประมงพื้นบ้านเรือเล็ก จังหวัดระยองและชลบุรี กว่า 70 คน จาก 24 กลุ่มประมง ร่วมงาน ณ ห้องประชุมจันทร์สุดา โรงแรมสตาร์จังหวัดระยอง วัตถุประสงค์ในการจัดงานครั้งนี้ เพื่อเปิดเวทีเสวนาให้ภาคประชาชน ชุมชนร่วมปรึกษาหารือ ระดมความคิดเห็นในการแก้ไขปัญหา ดำเนินกระบวนการ การมีส่วนร่วมในการทำงาน ส่งเสริมความเข้มแข็งของเครือข่ายภาคประชาชน ในการจัดการ ทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งในพื้นที่ พร้อมแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับโครงการ หาดงามตาปลากับบ้าน นอกจากนี้ คุณนพดล จันทร์เรือง ผู้จัดการกิจการเพื่อสังคม เอสซีจี เคมิคอลส์ เป็นผู้แทน มอบงบประมาณสนับสนุนการจัดทำหญ้าเทียม (ซั๊งเชือก) เพื่อทรัพยากรทางทะเล จำนวนเงิน 300,000 บาท โดยมี คุณภุชงค์ สฤษฎีชัยกุล ผู้อำนวยการศูนย์ฯ ผู้รับมอบ

ค่ายเฟรนด์คลับ เด็กดี เอสซีจี เคมิคอลส์


เอสซีจี เคมิคอลส์ ร่วมกับโรงเรียนมาบตาพุดพันพิทยาคาร จัดโครงการเฟรนด์คลับเด็กดี ระหว่างวันที่ 10-11 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ให้แก่นักเรียนระดับมัธยมศึกษาปีที่ 2 และ 3 กว่า 1000 คน เพื่อให้เยาวชนได้ตระหนักถึงภัยใกล้ตัวต่าง ๆ ที่อาจเกิดขึ้นจากความประมาทรู้เท่าไม่ถึงการณ์ มีกระบวนการคิดอย่างมีเหตุผล รู้เท่าทันและรู้จักการควบคุมอารมณ์ตนเอง รวมถึงส่งเสริมให้เยาวชนมีจิตอาสา ทำประโยชน์ให้สังคม เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่องค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ทั้งนี้ เอสซีจี เคมิคอลส์ มีแผนจัดทำโครงการฯ ให้กับ 14 โรงเรียนในพื้นที่เทศบาลเมืองมาบตาพุด และเทศบาลตำบลมาบข่าพัฒนา ให้แล้วเสร็จภายในเดือนสิงหาคมนี้ เพื่อคัดเยาวชนเข้าโครงการค่ายเด็กดี เอสซีจี เคมิคอลส์ ในเดือนตุลาคมต่อไป

กลุ่มคนจันท์รักชาติ จัดคาราวานแรลลี่กว่า 140 คัน นำเงินบริจาค ร่วมฌาปนกิจศพ ด.ญ.ฬิฬาวัลย์ พรหมชัย หรือ น้องฟิก เหยื่อคนร้ายปาระเบิด และยิงถล่มกลุ่มผู้ชุมนุม กปปส.ตราด ที่วัดแสนตุ้ง

(27 ก.พ. 57) ที่ศาลาการเปรียญวัดแสนตุ้ง อ.เขาสมิง จ.ตราด นางสาวเบญจวรรณ อ่านเปรื่อง ผู้ว่าราชการจังหวัดตราด พร้อมด้วย นาย บรรจง กนะกาศัย นายอำเภอเขาสมิง และส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง เดินทางร่วมในพิธีฌาปนกิจศพ ด.ญ.ฬิฬาวัลย์ พรหมชัย หรือ น้องฟิก อายุ 5 ปี เหยื่อคนร้ายปาระเบิด และยิงถล่มกลุ่มผู้ชุมนุม กปปส.ตราด รายแรก โดยมี กลุ่มคนจันท์รักชาติ นำโดย นาย แสนคม อนามพงษ์ นำคาราวานแรลลี่กลุ่มคนจันท์รักชาติ จำนวนกว่า 140 คัน เดินทางร่วมในพิธี พร้อมนำเงินที่ได้รับการบริจาคจากชาวจังหวัดจันทบุรี จำนวน 51,929 บาท มามอบให้กับเหยื่อผู้เสียชีวิต โดยมี นาง สาคร บุญชู อายุ 72 ปี ยายทวดของ ด.ญ.ฬิฬาวัลย์ พรหมชัย หรือ น้องฟิก ผู้เสียชีวิตซึ่งเป็นเหลน พร้อมด้วย นาง สุภาพร พิมชาย อายุ 29 ปี มารดา และญาติๆ ร่วมรับมอบ ในการนี้ ในพิธีฌาปนกิจศพดังกล่าว ได้รับเกียรติจากสมณะ 4 รูป จากกองทัพธรรมมูลนิธิ เดินทางมาร่วมภายในพิธีด้วย ท่ามกลางกลุ่ม กปปส.จันทบุรี กลุ่ม กปปส.ตราด ญาติผู้ใหญ่ ประชาชนชาวตำบลแสนตุ้ง และตำบลใกล้เคียงร่วมภายในงานอย่างคับคั่ง

นางสาคร บุญชู กล่าวว่า รู้สึกเสียใจที่ต้องสูญเสียเหลนจากเหตุการณ์ดังกล่าว แต่ก็ดีใจที่ทุกคนมีน้ำใจเข้ามาให้ความช่วยเหลือ และต้องขอขอบคุณหัวหน้าส่วนราชการ ญาติผู้ใหญ่ และแขกผู้มีเกียรติทุกท่าน ที่ให้เกียรติเดินทางมาร่วมงานฌาปนกิจศพของน้องฟิกในวันนี้ ซึ่งนับว่าเหลนมีบุญมาก สำหรับวันเกิดเหตุ ตนเองได้พาน้องฟิกไปที่ร้านก๋วยเตี๋ยวเพื่อพบกับลูกๆหลานๆ ซึ่งปกติตนไมได้ไปที่ร้านก๋วยเตี๋ยวทุกวัน จะไปเฉพาะวันเสาร์เท่านั้น และก็จะกลับบ้านไม่ดึกมาก แต่วันนั้นพบว่าภายในร้านมีชามก๋วยเตี๋ยวเยอะ เนื่องจากบริเวณตลาดยิ่งเจริญ มีการจัดเวทีอภิปรายของ กลุ่ม กปปส.ตราด โดยไม่ทันคิดว่าจะมีเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดเกิดขึ้น จึงได้อยู่ช่วยล้างจาน จนกระทั่งเกิดเหตุดังกล่าว จนส่งผลให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บเป็นจำนวนมาก และส่งผลให้ น้องฟิก เสียชีวิตจากเหตุการณ์ดังกล่าวด้วย ในส่วนของเงินได้รับความช่วยเหลือ ตนเองและครอบครัวจะนำไปใช้ให้ตรงตามวัตถุประสงค์ของผู้มอบ และให้เกิดประโยชน์สูงสุด

จ.ตราด กำหนดจัดงานวันตราดรำลึก ครบรอบ 108 ปี น้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณและพระปรีชาญาณ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว

(27 ก.พ. 57) นางสาวเบญจวรรณ อ่านเปรื่อง ผู้ว่าราชการจังหวัดตราด กล่าวระหว่างการประชุมเตรียมความพร้อมจัดงานวันตราดรำลึก ประจำปี 2557 ว่า จังหวัดตราดร่วมกับองค์การบริหารส่วนจังหวัดตราด การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชน กำหนดจัดงานวัน "ตราดรำลึก” ครบรอบ 108 ปี วันสู่อิสรภาพของเมืองตราดขึ้น ในระหว่างวันที่ 23-25 มีนาคม 2557 ณ บริเวณหน้าพระบรมราชานุสาวรีย์ รัชกาลที่ 5 และบริเวณสนามหน้าศาลากลางจังหวัดตราด ทั้งนี้เพื่อร่วมน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณและพระปรีชาญาณของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ที่ทรงดำเนินวิเทโศบายทางการเมืองระหว่างประเทศด้วยพระปรีชาสามารถ จนในที่สุดฝรั่งเศสยอมทำสัญญายกเมืองตราดคืนให้แก่ประเทศไทย เมื่อวันที่ 23 มีนาคม 2449 หรือเมื่อ 108 ปีที่แล้ว การจัดงานดังกล่าวมีพิธีมากมายและกิจกรรมที่หลากหลาย ประกอบด้วย ทำบุญตักบาตรข้าวสารอาหารแห้ง, การจัดริ้วขบวนเทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว การแสดงแสง สี เสียง ประวัติความเป็นมาของวันตราดรำลึก การจัดนิทรรศการเกี่ยวกับประวัติศาสตร์เมืองตราดจากภาครัฐและภาคเอกชน การออกร้านจำหน่ายสินค้าพื้นเมืองการแสดงวัฒนธรรมพื้นบ้าน ตลอดจนการแสดงบนเวทีกลางตลอดจนมหรสพต่างๆ

กรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ มอบเงินเยียวยา ให้กับผู้ปกครองน้องขิม เหยื่อระเบิดรายที่สองที่เสียชีวิตจากกรณีคนร้ายปาระเบิดและกราดยิง เวที กปปส.ตราด

(27 ก.พ. 57) ที่ห้องประชุมธารมะยม ศาลากลางจังหวัดตราด นางสาวเบญจวรรณ อ่านเปรื่อง ผู้ว่าราชการจังหวัดตราด พร้อมด้วยนางสาวปิติกาญจน์ สิทธิเดช รองอธิบดีกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ กระทรวงยุติธรรม ร่วมกันมอบเงินช่วยเหลือเยียวยา ตามพระราชบัญญัติค่าตอบแทนผู้เสียหายและค่าทดแทนละค่าใช้จ่ายแก่จำเลยในคดีอาญา พ.ศ. 2544 จำนวน 100,000 บาท ให้กับนางละมัย รองสูงเนิน ย่าของเด็กหญิงณัฐชยา รอสูงเนิน หรือน้องขิม ที่เสียชีวิตจากกรณีเหตุคนร้ายใช้อาวุธปืนกราดยิงและปาระเบิดใส่กลุ่มผู้ชุมนุม กปปส.จังหวัดตราด บริเวณตลาดยิ่งเจริญ ตำบลแสนตุ้ง อำเภอเขาสมิง เมื่อคืนวันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2557 เวลา 21.30 น. เป็นเหตุให้น้องขิมเสียชีวิตหลังเข้ารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาลระยอง

รองอธิบดีกรมกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ กล่าวว่า กรมกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ มีภารกิจในการช่วยเหลือเยียวยาเหยี่ออาชญากรรมตามพระราชบัญญัติค่าตอบแทนผู้เสียหายและค่าทดแทนละค่าใช้จ่ายแก่จำเลยในคดีอาญา พ.ศ. 2544 กรณีตกเป็นเหยื่ออาชญากรรม ถูกยิง ถูกแทง ถูกฆ่า ถูกระเบิด ถูกทำร้ายร่างกายหรือถูกกระทำโดยที่ตนเองไม่ได้มีส่วนร่วมในการกระทำความผิด จึงได้นำเงินเยียวยามามอบให้กับผู้ปกครองของเด็กหญิงณัฐชยา รอสูงเนิน หรือน้องขิม ในครั้งนี้ อย่างไรก็ตามในระดับพื้นที่กรมคุ้มคริองสิทธิและเสรีภาพกระทรวงยุติธรรม มีสำนักงานยุติธรรมจังหวัดตราด ที่คอยตรวจสอบข้อมูลพร้อมประสานงานในการมอบเงินเยียวยาให้กับผู้เสียชีวิต และผู้บาดเจ็บจากเหตุดังกล่าวในพื้นที่จังหวัดตราดอยู่แล้ว ทั้งนี้ญาติของผู้บาดเจ็บหรือผู้เสียชีวิต สามารถสอบถามข้อมูลได้ที่ ศูนย์เยียวยาเหยื่ออาชญากรรม โทร 089-967-3403 หรือสายด่วน 1111 กด 77 หรือที่ผู้ประสานงานในพื้นที่จังหวัดตราด 085-136-6445 

จังหวัดตราด เดินหน้าส่งเสริมการพัฒนาคุณภาพชีวิตผู้สูงอายุ ด้านการส่งเสริมอาชีพ

(27 ก.พ. 57) นางสาวเบญจวรรณ อ่านเปรื่อง ผู้ว่าราชการจังหวัดตราด เป็นประธานมอบเช็คสนับสนุนเงินทุนกู้ยืมประกอบอาชีพสำหรับผู้สูงอายุ ที่ขอรับการสนับสนุนจากทางจังหวัดและผ่านการอนุมัติจากคณะกรรมการพัฒนาคุณภาพชีวิตผู้สูงอายุ โดยสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดตราด จำนวน 17 ราย ๆ ละ 20,000 ถึง 30,000 บาท รวมทั้งสิ้น 500,000 บาท เพื่อใช้เป็นเงินในการลงทุนประกอบอาชีพของผู้สูงอายุ

นางสาวมนิดา ลิ่มนิจสรกุล พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดตราด กล่าวว่า การดำเนินการมอบเงินทุนกู้ยืมประกอบอาชีพของผู้สูงอายุ ครั้งนี้ เป็นการส่งเสริมคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุ ให้มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นสามารถดำรงชีวิตอยู่ในสังคมได้อย่างมีความสุขเช่นบุคคลปกติทั่วไป นอกเหนือจากการส่งเสริมด้านเงินทุนประกอบอาชีพผู้สูงอายุแล้ว ทางจังหวัดโดยสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ยังมีนโยบายในการพัฒนาคุณภาพชีวิบุคคลเหล่านี้ ทั้งสมรรถภาพทางด้านร่างกาย และจิตใจ รวมทั้งการจัดสวัสดิการตามนโยบายของรัฐบาลให้กับบุคคลเหล่านี้ อย่างไรก็ตามขอให้ผู้สูงอายุที่ได้รับเงินทุนในการประกอบอาชีพใช้เงินทุนประกอบอาชีพตามถนัดด้วยความรอบคอบเกิดประโยชน์กับครอบครัวของตนเอง

จ.ตราด เดินหน้าลดอุบัติเหตุจราจรทางถนน มอบโล่ประกาศเกียรติคุณและเงินรางวัลให้ 6 ตำบลที่ปลอดจากอุบัติเหตุและรักษาวินัยจราจร

(27 ก.พ. 57) นางสาวเบญจวรรณ อ่านเปรื่อง ผู้ว่าราชการจังหวัดตราด กล่าวหลังเป็นประธานมอบโล่ประกาศเกียรติคุณ และเงินรางวัลให้กับ 6 ตำบลของจังหวัดตราดที่เป็นตำบลปลอดจากอุบัติเหตุและรักษาวินัยจราจร ว่า จังหวัดได้ให้ควงามสำคัญในการป้องกันและลดปัยหาอุบัติเหตุจราจรอย่างต่อเนื่อง จึงได้มีการดำเนินโครงการถนนตราดปลอดภัยรักษ์วินัยจราจร เทศกาลปีใหม่ 2557 โดยได้มีการตั้งเกณฑ์เพื่อเชิดชูตำบลที่ประสบความสำเร็จในการรณรงค์ให้ประชาชนรักษาวินัยจราจร และปลอดจากอุบัติเหตุจราจร โดยประชาชนในแต่ละตำบลจะต้องไม่ถูกจับกุมจาการทำผิดกฎหมายจราจร และไม่มีอุบัติเหตุจราจรจตลอดช่วง 7 วันในการเฝ้าระวังปัญหาอุบัติเหตุจราจร จนทำให้จังหวัดตราดประสบความสำเร็จในการบริหารจัดการลดสถิติตายเป็นศูนย์ได้ 4 เทศกาลติดต่อกัน ซึ่งมี 6 ตำบลที่ผ่านเกณฑ์ดังกล่าวของทางจังหวัดประกอบด้วย ตำบลทุ่งนนทรี ตำบลประณีต และตำบลเทพนิมิต ของอำเภอเขาสมิง ตำบลน้ำเชี่ยว ของอำเภอแหลมงอบ และตำบลเกาะกูด และตำบลเกาะหมาก ของอำเภอเกาะกูด ทางจังหวัดจึงได้จัดทำโล่เชิดชูเกียรติ และเงินรางวัล มอบให้กับทั้ง 6 ตำบล เพื่อให้เป็นแบบอย่างกับตำบลอื่น ๆ ในการรณรงค์ปลูกจิตสำนึกให้กับประชาชนในพื้นที่เพื่อรักษาวินัยจราจร ต่อไป

จันทบุรี มอบเกียรติบัตร ของดีบ้านฉัน

จังหวัดจันทบุรีมอบใบประกาศเกียรติคุณรากวัฒนธรรม ของดีบ้านฉัน ที่ผ่านการคัดสรร 10 อำเภอ ในที่ประชุมหัวหน้าส่วนราชการจังหวัด  

วันนี้ ( 27 ก.พ.57 ) ที่ ห้องประชุม 4 ศาลากลางจังหวัดจันทบุรี จังหวัดจันทบุรี  ได้จัดประชุมหัวหน้าส่วนราชการ หัวหน้าหน่วยงานรัฐวิสาหกิจ และหัวหน้าส่วนราชการบริหารส่วนท้องถิ่นจังหวัดจันทบุรี ครั้งที่ 2/2557  ประจำเดือนกุมภาพันธ์ โดยมีนายเกรียงเดช เข็มทอง ผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรี  เป็นประธานในการประชุม ซึ่งมีเรื่องก่อนเข้าวาระการประชุม เรื่อง การมอบใบประกาศเกียรติคุณให้แก่รากวัฒนธรรม ของดีบ้านฉัน ที่ได้รับการคัดสรรระดับอำเภอจำนวน 10 อำเภอ  ทั้งประเภทประเพณี ศิลปะการแสดง และอาหาร อาทิ อำเภอเขาคิชฌกูฏ ประเภทประเพณีได้แก่ ประเพณีนมัสการรอยพระพุทธบาทพลวง เขาคิชฌกูฏ  อำเภอแก่งหางแมวประเภทประเพณีได้แก่ประเพณีปลงคืนถิ่น อำเภอนายายอามประเภทอาหารได้แก่ แกงส้มผักกระชับ และมะพร้าวตำขยำข้าว อำเภอแหลมสิงห์ประเภทศิลปะการแสดงได้แก่ ละครชาตรี เท่งตุ๊ก ประเภทอาหารได้แก่ข้าวตู อำเภอท่าใหม่ประเภทอาหารได้แก่ข้าวเกรียบหอยนางรม อำเภอเมืองประเภทประเพณีได้แก่ประเพณีกวนข้าวทิพย์ ประเภทศิลปะการแสดงได้แก่ การแสดงแสง เสียง จำลองเหตุการณ์พระทรมานของพระเยซู คริสต์เจ้า  ประเภทอาหารได้แก่น้ำพริกเผามังคุด 100 ปี อำเภอขลุงประเภทประเพณีได้แก่ประเพณีแห่รอยผ้าพระพุทธบาทและชักเย่อเกวียนพระบาท ประเภทศิลปะการแสดงเพลงหงฟาง อำเภอสอยดาวประเภทศิลปะการแสดงได้แก่การแสดงละเล่นอะไย และประเพณีบุญบั้งไฟ อำเภอโป่งน้ำร้อนประเภทประเพณีได้แก่ประเพณีการแห่โตร๊ด เป็นต้น  โอกาสเดียวกันนี้ได้มีการแนะนำข้าราชการที่ย้ายมาดำรงตำแหน่งใหม่ในจังหวัดจันทบุรี ได้แก่ นายพินิจ  เจริญแสนสุข ผู้จัดการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคจังหวัดจันทบุรี  และพันตำรวจเอก ฉัตรมงคล พ้นภัย ผู้กำกับการตำรวจตระเวนชายแดนที่ 11 ค่ายเจ้าพระยาบดินทร์เดชา



จรัล/ภาพ/ข่าว

วันพุธที่ 26 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

เครือข่ายสหกรณ์จังหวัดตราด ร่วมกันจัดงานวันสหกรณ์แห่งชาติ ประจำปี 2557

(26 ก.พ. 57) นายณรงค์ ธีรจันทรางกูร รองผู้ว่าราชการจังหวัดตราดเป็นประธานเปิดงานวันสหกรณ์แห่งชาติ ประจำปี 2557 ซึ่งจังหวัดตราดโดยสำนักงานสหกรณ์จังหวัดตราด ร่วมกับเครือข่ายสหกรณ์ในจังหวัดตราดร่วมกันจัดงานขึ้นที่อาคารยิมเนเซียม 2 สนามกีฬากลางจังหวัดตราด

นายวุฒิพงศ์ รัตนมน ประธานสหกรณ์การเกษตรเพื่อการแปรรูปและส่งออกจังหวัดตราด และประธานเครือข่ายสหกรณ์จังหวัดตราด กล่าวว่า คณะรัฐมนตรีมีมติเมื่อวันที่ 9 ตุลาคม 2519 กำหนดให้วันที่ 26 กุมภาพันธ์ ของทุกปี เป็นวันสหกรณ์แห่งชาติ เนื่องจากเป็นวันที่พระราชวรวงศ์เธอ กรมหมื่นพิทยาลงกรณ์ พระบิดาแห่งการสหกรณ์ไทย ทรงส่งเสริมให้ก่อตั้งสหกรณ์แห่งแรกที่ สหกรณ์วัดจันทร์ ไม่จำกัดสินใช้ ณ ตำบลวัดจันทร์ อำเภอเมือง จังหวัดพิษณุโลก และทรงเป็นนายทะเบียนสหกรณ์พระองค์แรก รับจดทะเบียนเป็นสหกรณ์แห่งแรก เมื่อวันที่ 26 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2459 ดังนั้นเพื่อเป็นการระลึกถึงพระกรุณาธิคุณของพระบิดาแห่งการสหกรณ์ไทยระหว่างสมาชิกสหกรณ์ต่าง ๆ รวมทั้งเป็นการส่งเสริมความร่วมมือระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับสหกรณ์ และสร้างความตระหนักถึงความสำคัญของกิจการสหกรณ์ ทางเครือข่ายสหกรณ์ในจังหวัดตราดจึงได้ร่วมกับสำนักงานสหกรณ์จังหวัดตราดจัดงานครั้งนี้ขึ้น โดยมีกิจกรรมประกอบด้วย พิธีวางพานดอกไม้ถวายสักการะพระบรมรูปพระราชวรวงศ์เธอ กรมหมื่นพิทยาลงกรณ์ พิธีทำบุญตักบาตรพระสงฆ์ การแข่งขันกีฬาสามัคคีชาวสหกรณ์ และงานเลี้ยงสังสรรค์ชาวสหกรณ์ อย่างไรก็ตามปัจจุบันจังหวัดตราด มีสหกรณ์ทั้งหมด 56 สหกรณ์ จำนวนกลุ่มเกษตรกร 25 กลุ่ม และจำนวนกลุ่มอาชีพ 35 กลุ่ม มีจำนวนสมาชิกทั้งสิ้น 52,478 ราย ในภาพรวมกิจการสหกรณ์ในจังหวัดตราดมีทุนดำเนินงานประมาณ 5,300 ล้านบาท

ปศุสัตว์เขต 2 เล็งประกาศจังหวัดตราดเป็นจังหวัดปลอดโรคพิษสุนัขบ้า หลังดำเนินการอย่างจริงจังในทุกพื้นที่

(26 ก.พ. 57) นายณรงค์ ธีรจันทรางกูร รองผู้ว่าราชการจังหวัดตราด ร่วมหารือแนวทางการณรงค์ป้องกันโรคพิษสุนัขบ้านในพื้นที่จังหวัดตราดร่วมกับนายสัตวแพทย์ประวัติ รัตนภุมมะ ปศุสัตว์เขต 2 นางสาวเยาวนิตย์ บุรีรักษา ปศุสัตว์จังหวัดตราด และผู้แทนสาธารณสุขจังหวัดตราด เพื่อเตรียมรณรงค์ป้องกันและแก้ไขปัญหาโรคพิษสุนัขบ้าในพื้นที่จังหวัดตราด ก่อนที่จะประกาศให้เป็นจังหวัดปลอดจากโรคพิษสุนัขบ้า

นายสัตวแพทย์ประวัติ รัตนภุมมะ ปศุสัตว์เขต 2 กล่าวว่า ตามที่มีการรณรงค์ป้องกันและกำจัดโรคพิษสุนัขบ้าโดนตั้งเป้าในปี พ.ศ. 2563 ประเทศไทยจะปลอดจากโรคพิษสุนัขบ้า โดยเป็นความร่วมมือของ 4 กระทรวงหลัก คือกระทรวงมหาดไทย กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงสาธารณสุข และกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ที่ร่วมกันดำเนินการจัดทำแผนทั้งในระดับชาติ ระดับเขต ระดับพื้นที่ กิจกรรมตั้งแต่ การณรงค์ฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าในสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม การเตรียมเซรุ่มพิษสุนัขบ้าไว้ตามสถานพยาบาล การสร้างเครือข่ายรณรงค์ รวมทั้งการจัดทำฐานข้อมูลในการรณรงค์ ซึ่งในปีนี้จะมีการดำเนินการรณรงค์ป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าพร้อมกันทั่วประเทศในระหว่างวันที่ 1 มีนาคม - 30 เมษายน 2557 สำหรับสถานการณ์โรคพิษสุนัขบ้าในจังหวัดตราด จากการดำเนินงานของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทำให้จังหวัดตราดอยูในสถานการณ์ที่ดีมาก เนื่องมาจากความร่วมมือขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทั้ง 43 แห่ง หรือ 100 เปอร์เซนต์ ได้เข้ามาร่วมรณรงค์ในการจัดหาวัคซีนโรคพิษสุนัขบ้าให้กับสัตว์เลี้ยงของประชาชน ทำให้จังหวัดตราดไม่พบการเกิดโรคพิษสุนัขบ้ามาแล้วหลายปี ส่วนในคนไม่พบผู้ป่วยที่เสียชีวิตจากโรคพิษสุนัขบ้ามาแล้วกว่า 10 ปี ทางสำนักงานปศุสัตว์เขต 2 จึงเตรียมที่จะประเมินผลการดำเนินการในส่วนของจังหวัดตราด เพื่อจะได้ประกาศเป็นจังหวัดปลอดโรคพิษสุนัขบ้า นำร่องในพื้นที่ภาคตะวันออก ซึ่งจะส่งผลดีเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะในเรื่องของการท่องเที่ยวที่จะเป็นการสร้างความเชื่อมั่นให้กับน้กท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามา

กลุ่มแพทย์ พยาบาล เจ้าหน้าที่ โรงพยาบาลตราด ร่วมกันแต่งชุดดำปฏิบัติงาน พร้อมรวมตัวกันประณามการใช้ความรุนแรง กรณีเหตุระเบิดเวที กปปส.ตราด

(26 ก.พ. 57) กลุ่มแพทย์ พยาบาล เจ้าหน้าที่ โรงพยาบาลตราดประมาณ 70 คนร่วมกันแต่งชุดดำในการปฏิบัติงาน พร้อมรวมตัวกันบริเวณหน้าโรงพยาบาลตราด เพื่อประณามการใช้ความรุนแรง จากเหตุคนร้ายข้างระเบิด พร้อมทั้งยิงปืนเข้าใส่เวทีการชุมนุม กปปส.ตราด บริเวณตลาดยิ่งเจริญ อำเภอเขาสมิง เมื่คืนวันที่ 22 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา จนทำให้มีผู้บาดเจ็บหลายราย และจนถึงปัจจุบันมีเด็กเสียชีวิตจากเหตุดังกล่าวแล้ว 2 ราย โดยการรวมตัวของบุคลากรทางการแพทย์ของโรงพยาบาลตราดในครั้งนี้ได้มีการเดินรณรงค์เรียกร้องไม่เห็นด้วยกับการใช้ความรุนแรงในการแก้ไขปัญหา ไปรอบตลาดสดเทศบาลเมืองตราด ท่ามกลางความสนใจของผู้ประกอบการร้านค้า และประชาชนที่สัญจรผ่านไปมา

สำหรับเหตุระเบิดและยิงเข้าใสเวทีการชุมชนม กปปส.ตราด เมื่อคืนวันเสาร์ที่ผ่านมา ทำให้มีผู้บาดเจ็บรวม 35 คน ถูกส่งเข้ารักษาตัวทั้งที่โรงพยาบาลตราด และโรงพยาบาลกรุงเทพตราด และบางส่วนได้ถูกส่งตัวไปยังโรงพยาบาลศูนย์จังหวัดระยอง จนกระทั่งล่าสุดช่วงบ่ายของวานนี้ เด็กหญิงณัชยา รอสูงเนิน อายุ 5 ปี หรือ น้องขิม ซึ่งถูกสะเก็ดระเบิดจากเหตุการณ์ดังกล่าวได้เสียชีวิตแล้วเป็นรายที่สอง ต่อจากเด็กหญิงฬิฬาวัลย์ พรหมชัย ที่เสียชีวิตที่รงพยาบาลตราด จากการถูกกระสุนเข้าบริเวณศรีษะที่เสียชีวิตก่อนหน้านี้ อย่างไรก็ตามปัจจุบันจากเระเบิดเวที กปปส.ตราด ยังมีผู้บาดเจ็บรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลตราดอีก 11 คน 

ผู้ว่าฯตราด เป็นประธานรดน้ำศพเด็กหญิง เหยื่อระเบิดจากเวที กปปส.ตราด รายที่สอง หลังเสียชีวิตที่ ร.พ.ศูนย์ระยอง วานนี้

(26 ก.พ. 57) ที่ศาลาการเปรียญ วัดบ่อพลอย อำเภอบ่อไร่ นางสาวเบญจวรรณ อ่านเปรื่อง ผู้ว่าราชการจังหวัดตราด พร้อมด้วยนายธีระ สลักเพชร อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฏรจังหวัดตราด ตลอดจนหัวหน้าส่วนราชการ ประชาชนจำนวนมากร่วมพิธีรดน้ำศพ เด็กหญิงณัฐชยา รอสูงเนิน หรือน้องขิม อายุ 5 ปี ที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสโดยถูกสะเก็ดระเบิดบริเวณศรีษะ จากกรณีเหตุคนร้ายปาระเบิดและใช้อาวุธปืนยิงใส่กลุ่มผู้ชุมนุม กปปส.จังหวัดตราด บริเวณตลาดยิ่งเจริญ ตำบลแสนตุ้ง อำเภอเขาสมิง เมื่อคืนวันที่ 22 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา จากนั้นเด็กหญิงณัฐชยา รอสูงเนิน ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลตราด และถูกส่งตัวไปรักษาต่อที่โรงพยาบาลศูนย์ระยอง จนกระทั่งวานนี้เวลาประมาณ 14.20 น. เด็กหญิงณัฐชยา รอสูงเนิน ได้เสียชีวิตลงโดยสงบ ด้วยอาการสมองตาย

สำหรับการบำเพ็ญกุศลศพของเด็กหญิงณัฐชยา รอสูงเนิน จะมีการสวดอภิธรรมศพ รวม 5 คืน จากนั้นจะมีการฌาปนกิจศพในวันที่ 3 มีนาคม 2557 เวลา 13.00 น. ณ วัดบ่อพลอย แห่งนี้ ผู้ว่าราชการจังหวัดตราด กล่าวว่า ทางจังหวัดได้มอบเงินเยียวยาให้กับผู้เสียชีวติจากเหตุดังกล่าวรายละ 25,000 บาท นอกจากนี้ทางกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ กระทรวงยุติธรรม ยังได้มอบเงินช่วยเหลือเยียวยา ตามพระราชบัญญัติค่าตอบแทนผู้เสียหายและค่าทดแทนละค่าใช้จ่ายแก่จำเลยในคดีอาญา พ.ศ. 2544 จำนวน 100,000 บาท ให้กับญาติผู้เสียชีวิต รวมทั้งผู้ได้รับบาดเจ็บ ในส่วนความคืบหน้าของคดีทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้อยู่ระหว่างการสืบสวน หาหลักฐาน โดยเฉพาะจากกล้องวงจรปิดของทั้งภาครัฐและเอกชนในทุกจุดอยู่ เพื่อเร่งหาตัวคนร้ายมาดำเนินคดี

เริ่มแล้ว งาน “วันรักษ์กล้วยไม้เมืองตราด ครั้งที่ 1” แฟนพันธุ์แท้กล้วยไม้ไทยชาวตราดและนักท่องเที่ยวร่วมชมงานอย่างคับคั่ง

(26 ก.พ. 57) บริเวณหน้าองค์การบริหารส่วนตำบลเขาสมิง อำเภอเขาสมิง จังหวัดตราด สถานที่จัดงาน "วันรักษ์กล้วยไม้เมืองตราด ครั้งที่ 1” ที่ทางองค์การบริการส่วนตำบลเขาสมิงและกลุ่มรักษ์กล้วยไม้ไทย ม.9 บ้านวังตัก ร่วมกันจัดขึ้นระหว่างวันที่ 26 กุมภาพันธ์ – วันที่ 2 มีนาคม 2557 ได้รับความสนใจจากกลุ่มแฟนพันธุ์แท้กล้วยไม้ไทยชาวตราด และนักท่องเที่ยวจำนวนมาก พากันเดินทางเข้าร่วมชมงาน

สำหรับกิจกรรมภายในงานนี้ ประกอบด้วย การประกวดและแสดงกล้วยไม้หลากหลายสายพันธุ์รวม 10 ประเภท แบ่งเป็นประเภทกล้วยไม้ทั่วไป ชิงเงินรางวัล 1,000 บาท ประเภทเหลืองจันทบูร ชิงเงินรางวัล 1,000 บาท และรางวัลยอดเยี่ยมแต่ละประเภท ๆ ละ 1,000 บาท รางวัลกล้วยไม้ที่ 1,2,3 เงินรางวัล 500,300,200 บาท ตามลำดับ การแข่งขันปอกสับปะรด การแข่งขันกินสับปะรด การประกวดสับปะรดพันธุ์ตราดสีทองและพันธุ์ปัตตาเวีย ชมกล้วยไม้หลากหลายสายพันธุ์ที่มีความแปลกใหม่ สวยงาม เป็นที่ตื่นตา ตื่นใจ และไม่เคยพบเห็นมาก่อน ตลอดจนการออกร้านจำหน่ายพันธุ์กล้วยไม้และวัสดุทางการเกษตร

สำหรับการจัดงาน "วันรักษ์กล้วยไม้เมืองตราด ครั้งที่ 1” ที่ทางองค์การบริการส่วนตำบลเขาสมิงและกลุ่มรักษ์กล้วยไม้ไทย ม.9 บ้านวังตัก ร่วมกันจัดขึ้นในครั้งนี้ นับเป็นครั้งแรกของจังหวัดตราด โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นการสนับสนุนการเพาะเลี้ยงกล้วยไม้พื้นเมืองตราดเพื่อการอนุรักษ์ ทั้งยังเป็นการเสริมสร้างให้เกิดอาชีพแก่ชุมชน เนื่องจากกลุ่มวิสาหกิจชุมชนกลุ่มรักษ์กล้วยไม้ไทยบ้านวังตัก มีความเข้มแข็งในการดำเนินการอนุรักษ์กล้วยไม้ นอกจากนี้การจัดงานดังกล่าวยังเป็นการปลูกฝังจิตสำนึกของประชาชนในการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติสิ่งแวดล้อม และพรรณพืชท้องถิ่นอีกด้วย

ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตรสระแก้ว มอบรางวัลโรงเรียนธนาคารดีเด่น รางวัลรองชนะเลิศอันดับที่ 2 ของประเทศ

นายบุตรฉัตร บุญประกอบ ผอ.สำนักงาน ธ.ก.ส. สระแก้ว เป็นประธานในการมอบรางวัลโรงเรียนธนาคารดีเด่นระกับประเทศ อุปกรณ์สนับสนุนโรงเรียนธนาคารประจำปี 2556 กว่า 5 แสนบาท ณ โรงแรมธนาสิริ อ.เมือง จ.สระแก้ว โดยมีตัวแทน ธนาคาร ธ.ก.ส.ทุกสาขาและโรงเรียนที่เข้าร่วมโครงการธนาคารโรงเรียน 10 แห่ง มียอดเงินฝาก 7.450 ล้านบาท

นายบุตรฉัตร บุญประกอบ ผอ.สำนักงาน ธ.ก.ส. สระแก้ว เปิดเผยว่า ธนาคารได้จัดทำโครงการเงินออมในกลุ่มเยาวชน ตั้งแต่ปี 2536 เพื่อให้เยาวชนรู้จักออมเงิน โดยฝากใช้บริการกับ ธ.ก.ส. ตลอดจนเป็นการช่วยเยาวชนได้ทีทุนการศึกษาเพิ่มมากขึ้น โดย ตั้งแต่ปี 2551 เป็นต้นมา ธนาคารได้เปลี่ยนโครงการเงินออมในกลุ่มโรงเรียนธนาคารต้นแบบ ฝึกให้ นักเรียนทำหน้าที่พนักงานโดยมีครูและคณะกรรมการนักเรียนเป็นที่ปรึกษา ปัจจุบันมีโรงเรียนธนาคารต้นแบบ ธ.ก.ส.ทั่วประเทศ 1000 โรงเรียน สำหรับจังหวัดสระแก้ว มี รร.ที่เข้าร่วม 17 แห่ง พร้อมกันนี้ ทางโรงเรียนบ้านนางามมิตรภาพที่ 131 ที่เข้าร่วมโครงการธนาคารฯ ได้เข้าประกวดธนาคารดีเด่น จนได้รับรางวัลชนะเลิศฝ่ายกิจการสาขาภาคตะวันออก และ รางวัลรองชนะเลิศ อันดับที่ 2 ระดับประเทศ 

วันสหกรณ์แห่งชาติจังหวัดสระแก้ว

ที่หอประชุมปางสีดาจังหวัดสระแก้ว นายภัครธรณ์  เทียนไชย ผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้วเป็นประธานเปิดงานวันสหกรณ์แห่งชาติ โดยมีนายบรรจง  ไพบูลย์ ประธานสหกรณ์ออมทรัพย์ครูสระแก้ว จำกัด กล่าวรายงาน ถึงวัตถุประสงค์ของการจัดงานวันสหกรณ์แห่งชาติ เพื่อน้อมรำลึกถึงพระกรุณาธิคุณของพระราชวรวงศ์เธอกรมหมื่นพิทยาลงกรณ "พระบิดาแห่งการสหกรณ์ไทย" และส่งเสริมให้สมาชิกได้ตระหนักถึงคุณค่า ศรัทธา และเชื่อมั่นระบบสหกรณ์

สหกรณ์แห่งแรก คือสหกรณ์วัดจันทร์ไม่จำกัดสินใช้ ณ ท้องที่อำเภอเมือง จังหวัดพิษณุโลก โดยจดทะเบียนเมื่อวันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2459 มีพระราชวรวงศ์เธอกรมหมื่นพิทยาลงกรณ์ทรงเป็นนายทะเบียนองค์แรก ซึ่งปัจจุบันมีสหกรณ์จำนวนทั้งสิ้น 7,964 สหกรณ์และมีสมาชิกจำนวน 10.8 ล้านครอบครัวและสหกรณ์จังหวัดสระแก้วมีสหกรณ์จำนวน 61 แห่ง กลุ่มเกษตรกร 18 แห่งรวมสมาชิกจำนวน 227,076 คนสหกรณ์และกลุ่มเกษตรมีทุนดำเนินงาน จำนวน 8,237 ล้านบาทและปริมาณธุรกิจโดยรวม จำนวน 9,590 บาท การจัดงานในวันนี้ มีกิจกรรม การวางพุ่มถวายสักการะพระบิดาแห่งการสหกรณ์ไทย กล่าวสดุดีพระราชวรวงศ์เธอกรมหมื่นพิทยาลงกรณ์ พระบิดาแห่งสหกรณ์ไทยและวางพุ่มสักการะและมอบรางวัลสหกรณ์ดีเด่นจังหวัดสระแก้ว

จังหวัดฉะเชิงเทราจัดงาน “มหกรรมจำหน่าย สินค้า OTOP กลุ่มเบญจบูรพาสุวรรณภูมิ” อย่างยิ่งใหญ่

วันนี้ (26 ก.พ.57)   ที่เวทีกลางในเต้นท์แสดงและจำหน่ายสินค้า    บริเวณสนามหน้าศาลาจัตุรมุข ศาลากลางจังหวัดฉะเชิงเทรา นาย อนุกูล ตังคณานุกูลชัย  ผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทรา เป็นประธานในพิธีเปิดงาน"มหกรรมจำหน่าย สินค้า OTOP กลุ่มเบญจบูรพาสุวรรณภูมิ” ครั้งที่ 1 โดยมี ดร.ทวี  นริสศิริกุล  ผู้ว่าราชการจังหวัดนครนายก      นายวันชัย  หงเกษม  รองผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรปราการ   นายบัณฑิตย์  เทวีทิวารักษ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทรา  นายกลยุทธ ฉายแสง  นายกเทศมนตรีเมืองฉะเชิงเทรา  นาย อรชุน ธิวรรณลักษณ์ พัฒนาการจังหวัดฉะเชิงเทรา นางธนัชศวรรธ์น วรรณวิจิตร พัฒนาการจังหวัดปราจีนบุรี นาย มงคล ปัตลา พัฒนาการจังหวัดสระแก้ว หัวหน้าส่วนราชการ ผู้ที่เกี่ยวข้องและผู้ผลิต ผู้ประกอบการสินค้า OTOP  เข้าร่วมงานอย่างคับคั่ง

ทั้งนี้กลุ่มจังหวัดภาคกลางตอนกลาง ประกอบด้วย จังหวัดสระแก้ว นครนายก ปราจีนบุรี สมุทรปราการ และจังหวัดฉะเชิงเทราได้ดำเนินกิจกรรมตามแผนปฏิบัติราชการประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2557 กลุ่มจังหวัดภาคกลางตอนกลาง และดำเนินโครงการเพิ่มช่องทางการตลาดสินค้า OTOP กลุ่มเบญจบูรพาสุวรรณภูมิ โดยกำหนดจัดงานมหกรรมแสดงสินค้า OTOP กลุ่มเบญจบูรพาสุวรรณภูมิภายใต้ชื่องาน "สีสันภูมิปัญญา OTOP กลุ่มเบญจบูรพาสุวรรณภูมิ” ครั้งที่1 ระหว่างวันที่ 26กุมภาพันธ์ -2 มีนาคม 2557 รวม 5 วัน ณ  บริเวณหน้าศาลาจัตุรมุข  ศาลากลางจังหวัดฉะเชิงเทรา มีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมสนับสนุน ผู้ผลิต ผู้ประกอบการสินค้า OTOP สร้างรายได้ ให้ประชาชนในพื้นที่กลุ่มจังหวัด รวมทั้งสร้างโอกาสและได้ประชาสัมพันธ์สินค้า ทำให้ผู้บริโภค ได้เลือกซื้อสินค้าที่มีคุณภาพ จากผู้ผลิต ผู้ประกอบการ OTOP โดยตรง โดยภายในงานได้จัดการแสดงและจำหน่ายสินค้า   จำนวน 101 ราย(บูท)เป็นสินค้าประเภทอาหาร, ประเภทเครื่องดื่ม,ประเภทผ้า,เครื่องแต่งกาย,ประเภทของใช้ ของตกแต่ง ของที่ระลึกและประเภทสมุนไพรที่ไม่ใช่อาหารและที่สำคัญจัดให้มีโซนตลาดโบราณ เน้นผลิตภัณฑ์ไอศกรีมจากผลไม้ในจังหวัดฉะเชิงเทรา  ขนมหวาน     ขนมเบเกอรี่ และขนมไทย พร้อมจัดให้มีการแสดงดนตรีศิลปวัฒนธรรมร่วมสมัยในแบบต่างๆสลับหมุนเวียนกันทุกวัน(ช่วงเวลา 19.00น. – 20.00 น.)
  จังหวัดฉะเชิงเทราจึงขอเชิญชวนประชาชนชาวจังหวัดฉะเชิงเทราและใกล้เคียง เที่ยวชม ชิม ช้อปในงาน"มหกรรมจำหน่าย สินค้า OTOP กลุ่มเบญจบูรพาสุวรรณภูมิ” ระหว่างวันที่26กุมภาพันธ์ -2 มีนาคม 2557 ณ  บริเวณสนามหน้าศาลาจัตุรมุข  ศาลากลางจังหวัดฉะเชิงเทรา


ชาญณรงค์/ข่าว
ธนภัทร-ภาพ

เริ่มแล้ววันนี้ “มหกรรมจำหน่าย สินค้า OTOP กลุ่มเบญจบูรพาสุวรรณภูมิ” ที่จังหวัดฉะเชิงเทรา

นายอนุกูล ตังคณานุกูลชัย  ผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทรา   เปิดเผยว่า จังหวัดฉะเชิงเทราได้ดำเนินกิจกรรมตามแผนปฏิบัติราชการประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2557 กลุ่มจังหวัดภาคกลางตอนกลาง และดำเนินโครงการเพิ่มช่องทางการตลาดสินค้า OTOP กลุ่มเบญจบูรพาสุวรรณภูมิ โดยกำหนดจัดงานมหกรรมแสดงสินค้า OTOP กลุ่มเบญจบูรพาสุวรรณภูมิภายใต้ชื่องาน "สีสันภูมิปัญญา OTOP กลุ่มเบญจบูรพาสุวรรณภูมิ” ครั้งที่1 ระหว่างวันที่ 26กุมภาพันธ์ -2 มีนาคม 2557 รวม 5 วัน ณ  บริเวณสนามหน้าศาลาจัตุรมุข  ศาลากลางจังหวัดฉะเชิงเทรา โดยจะมีเปิดอย่างเป็นทางการในวันนี้(26 ก.พ.57)  เวลา 16.00 น.  เป็นต้นไป

สำหรับการจัดงานดังกล่าวมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมสนับสนุน ผู้ผลิต ผู้ประกอบการสินค้า OTOP  สร้างรายได้ ให้ประชาชนในพื้นที่กลุ่มจังหวัด ภาคกลางตอนกลาง รวมทั้งสร้างโอกาสและได้ประชาสัมพันธ์สินค้า ทำให้ผู้บริโภค ได้เลือกซื้อสินค้าที่มีคุณภาพ จากผู้ผลิต ผู้ประกอบการ OTOP โดยตรง โดยภายในงานได้จัดการแสดงและจำหน่ายสินค้า   จำนวน 101 ราย(บูท)เป็นสินค้าประเภทอาหาร, ประเภทเครื่องดื่ม,ประเภทผ้า,เครื่องแต่งกาย,ประเภทของใช้ ของตกแต่ง ของที่ระลึกและประเภทสมุนไพรที่ไม่ใช่อาหารและที่สำคัญจัดให้มีโซนตลาดโบราณ เน้นผลิตภัณฑ์ไอศกรีมจากผลไม้ในจังหวัดฉะเชิงเทรา  ขนมหวาน     ขนมเบเกอรี่ และขนมไทย พร้อมจัดให้มีการแสดงดนตรีศิลปวัฒนธรรมร่วมสมัยในแบบต่างๆสลับหมุนเวียนกันทุกวัน(ช่วงเวลา 19.00น. – 20.00 น.)

จังหวัดฉะเชิงเทราจึงขอเชิญชวนประชาชนชาวจังหวัดฉะเชิงเทราและใกล้เคียง เที่ยวชม ชิม ช้อปให้เพลิดเพลินกับเต้นท์ติดแอร์ ในงาน"มหกรรมจำหน่าย สินค้า OTOP กลุ่มเบญจบูรพาสุวรรณภูมิ” ครั้งที่1 ระหว่างวันที่26 กุมภาพันธ์ -2 มีนาคม 2557 ณ  บริเวณสนามหน้าศาลาจัตุรมุข  ศาลากลางจังหวัดฉะเชิงเทรา


ชาญณรงค์/ข่าว
ส.ปชส.ฉะเชิงเทรา

จับโจ๋แสบขโมยรถญาติรอง ผกก.สืบภาค 2 หลบหนีกบดานเมืองระยอง

เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2557 พ.ต.ท.สมศักดิ์ สังข์ทอง พนักงานสอบสวน สภ.เมืองระยอง ได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.ทุ่งเบญจา จ.จันทบุรี ว่ามีคนร้ายทราบชื่อนายนรินทร์ หรือแย้ รณชิต อายุ 29 ปี ขโมยรถยนต์เก๋งยี่ห้อโตโยต้า รุ่นวีออส สีบอรนซ์ทอง ทะเบียน ฌส 7263 กรุงเทพมหานคร มากบดานอยู่ที่บ้านสวนผลไม้ เลขที่ 82 ม.6 ต.นาตาขวัญ อ.เมือง จ.ระยอง จึงได้ประสาน ร.ต.ต.สามารถ บุญเที่ยง หัวหน้าตู้ยามนาตาขวัญ และ ด.ต.สมศักดิ์ บุญญาภา เจ้าหน้าที่ตำรวจตู้ยามนาตาขวัญ นายประวิทย์ ธรรมเจริญ กำนัน ต.นาตาขวัญ พร้อมด้วยสารวัตรกำนัน เจ้าหน้าที่ตำรวจอาสาชุมชน และ อพปร. อบต.นาตาขวัญ เข้าตรวจสอบบ้านพักหลังดังกล่าว พบรถยนต์เก๋งคันดังกล่าวซุกซ่อนอยู่ในบ้าน เจ้าหน้าที่จึงได้แสดงตัวและปิดล้อมเพื่อจับกุม แต่เมื่อสิ้นสุดสัญญาณเจ้าหน้าที่ตำรวจ นายนรินทร์ หรือแย้ ได้ขับรถยนต์เก๋งคันดังกล่าวมาพร้อมด้วยนางสาวปรัสณีย์ เพิ่มพูล อายุ 23 ปี ซึ่งเป็นแฟนสาวเพื่อจะหลบหนีการจับกุม แล้วเร่งเครื่องยนต์หลบหนีฝ่าวงล้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจไปตามเส้นทาง แล้วพุ่งชนรั้วลวดหนามหักล้มระเนระนาด เจ้าหน้าที่จึงได้ใช้อาวุธปืนเอสเคยิงล้อยาง กระสุนพลาดไปถูกกันชนซ้ายด้านหลังและแผ่นป้ายทะเบียน กระสุนทะลุเข้าเบาะหลังและพลาดถูกเข้าที่ขาซ้ายนางสาวปรัสณีย์ เพิ่มพูน อายุ 23 ปีได้รับบาดเจ็บถูกนำตัวส่ง รพ.ระยอง จากนั้นรถได้เสียหลักพุ่งชนกองดินด้านหน้าพังยับ เจ้าหน้าที่จึงสามารถจับกุมนายนรินทร์ หรือแย้ได้ จากการสอบสวนนายนรินทร์ ให้การว่าตนเองได้ไปบำบัดฑัณฑสถานเปิดทุ่งเบญจา อ.ท่าใหม่ จ.จันทบุรี และได้หลบหนีออกมาเมื่อวันที่ 22 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมาตามที่นายประพันธ์ หรือวิทย์ หรือเด๊า หรือติ๊ด ศรีฉาย ซึ่งเป็นลูกพี่ใหญ่บ้านพักทะเลน้อยแก๊งค้ายาเสพติดรายใหญ่ในเมืองแกลงได้ให้หลบหนีออกมาและนัดเจอที่ริมถนน โดยนายประพันธ์ได้นำรถยนต์เก๋งคันดังกล่าวมาให้เพื่อใช้ในการหลบหนี จากนั้นนายประพันธ์ได้ขับรถยนต์เก๋งยี่ห้อฮอนด้า รุ่นแจ๊สสีแดงไปพร้อมกับเมียเพื่อมาส่งยาเสพติดที่มาบตาพุดเมืองระยอง แล้วจะโทรนัดเจอกันในเวลา 3 วัน เพื่อนำรถมาคืน จากนั้นได้ขับรถยนต์เก๋งคันดังกล่าวมุ่งหน้ามาที่บ้านพักเลขที่98 หมู่ 6 ต.นาตาขวัญ อ.เมือง จ.ระยอง และได้มาหาเพื่อนชื่อนายวุฒิพงษ์ หรือสั้น โพธิแก้ว และมาถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจปิดล้อมจับดังกล่าว ต่อมา พ.ต.ท.อาคม ตัณยะกุล รอง ผกก.สส.สภ.ทุ่งเบญจา จ.จันทบุรี และพร้อมด้วยชุดสืบสวน สภ.ทุ่งเบญจา และน.ส.สุธาสินี ทองขจร เจ้าของรถยนต์เก๋งดังกล่าวเดินทางมาตรวจสอบ ที่ตู้ยามตำรวจนาตาขวัญและได้ยืนยันว่ารถยนต์เก๋งเป็นของตนเอง ซึ่งแจ้งความไว้กับ ร.ต.อ.ไกรสิทธิ์ ตาพราว ร้อยเวร สภ.ทุ่งเบญจา  เมื่อวันที่22 ก.พ. ที่ผ่านมา
            พ.ต.ท.อาคม ตัณยะกุล รอง ผกก.สส.สภ.ทุ่งเบญจา จ.จันทบุรี ได้กล่าวว่าได้กำลังชุดสืบสวนเข้าตรวจสอบและหาหลักฐาน พยานผู้เห็นเหตุการณ์ พร้อมให้รูปนายนรินทร์ นายนรินทร์ หรือแย้ รณชิต อายุ 29 ปี ผู้ต้องสงสัย ซึ่งถูกจับกุมข้อหาเสพยาเสพติดส่งไปบำบัดฑัณฑสถานเปิดทุ่งเบญจาแล้วหลบหนีออกมาขโมยรถเก๋งยี่ห้อโตโยต้า รุ่นวีออส สีบอรนซ์ทอง ทะเบียน ฌส 7263ซึ่งเป็นของน.ส.สุธาสินี ทองขจร ที่จอดทิ้งไว้ในบ้านพัก โดยหลบซ่อนตัวอยู่ในห้องน้ำ พอได้โอกาสเข้าไปหยิบของกินในตู้เย็นและถ่ายอุจจาระทิ้งไว้ในห้องครัว จากนั้นได้หยิบโทรศัพท์มือถือไป จำนวน 1 เครื่อง เงินสด 1,000 บาท และกุญแจรถยนต์เก๋งดันดังกล่าว และได้ขับออกจากบ้าน โดยมีพยานเห็นนายนรินทร์ หรือแย้ รณชิต เนื่องจากผู้ต้องหาได้ลดกระจกต่ำลงมาและเห็นหน้าอย่างชัดเจน เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้นำภาพถ่ายมาให้พยานดูพร้อมกับยืนยังว่าเป็นคนเดียวกันนายรินทร์ที่หลบหนีออกมาจากทัฑสถานเปิดทุ่งเบญจา ส่วนนายนริทร์ หรือแย้ จะแก้อย่างไรเป็นสิทธิของผู้ต้องหา
          จากนั้นได้ข้อกล่าวหาหลบหนีจากทัฑสถานเปิดทุ่งเบญจา ลักทรัพย์ในยามวิกาล และนำส่ง ร.ต.อ.ไกรสิทธิ์ ตาพราว ร้องเวร สภ.ทุ่งเบญจา เพื่อนำดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป ผู้สื่อข่าวเสริมอีกว่า น.ส.สุธาสินี ทองขจร ซึ่งเป็นเจ้าของรถยนต์เก๋งยี่ห้อโตโยต้า รุ่นวีออส สีบอรนซ์ทอง ทะเบียน ฌส 7263 กรุงเทพมหานคร ที่คนร้านขโมยมานั้นเป็นญาติ พ.ต.ท.กุลชาติ กุลชัย รอง ผกก.1 บก.สส.ภ.2 อีกด้วย
มาโนช สนองสุ/ข่าว

ญาติรับศพน้องขิม วัย 5 ขวบ เหยื่อถูกยิงถล่มและปาระเบิดเวที กปปส.ตราดกลับบ้านทำพิธีทางศาสนา

เมื่อเวลา 10.00 น.วันที่ 26 ก.พ.ที่ รพ.ระยอง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นางอุทัย โปรษยบุตร อายุ 65 ปี (ย่า) และนางสาวนฤมล รอสูงเนิน (ป้า) ได้นำร่างไร้วิญญาณของเด็กหญิงณัฎฐชยา รอสูงเนิน (น้องขิม) อายุ 5 ขวบ เหยื่อผู้เคราะห์ร้ายถูกกราดยิง และปาระเบิดเวที กปปส.ตราด จากเวทีปราศรัยที่ตลาดยิ่งเจริญ หมู่ 1 ตำบลแสนตุ้ง อำเภอเขาสมิง จังหวัดตราด ซึ่งเกิดเหตุเมื่อคืนวันที่ 22 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา เพื่อนำกลับไปทำพิธีทางศาสนาโดยจะตั้งศพบำเพ็ญกุศลที่วัดบ่อพลอย ตำบลบ่อพลอย อำเภอบ่อไร่ จังหวัดตราด ซึ่งในเบื้องต้นทางญาติได้มีการพูดคุยกันไว้ว่าจะทำพิธีสวดพระอภิธรรมเป็นเวลา 5 คืน นางอุทัย โปรษยบุตร ผู้เป็นย่า เปิดเผยถึงความรู้สึกว่า รู้สึกเสียใจกับการที่หลานต้องมาจากไปจากเหตุการณ์การเมืองครั้งนี้ แต่อีกส่วนก็รู้สึกดีใจที่หลานถือว่าตายในสมรภูมิ อยากให้ทุกฝ่ายมีความรู้สึกเป็นเช่นเดียวกับผู้ที่เสียหาย ผู้ที่สูญเสีย และอยากให้ทุกฝ่ายหันหน้ามาคุยกัน



วฐิต  กลางนอก/ข่าว

จับอดีตทหาร ข้อหามีความผิดตาม พ.ร.บ.อาวุธปืน

จากกรณีมีกระแสข่าวลือเกี่ยวกับ การจับกุมกลุ่มนายทหารเรือ พร้อมอาวุธปืน จำนวนหนึ่งได้ที่ โรงแรมใน จ.ระยอง แล้วมีการนำไปเชื่อมโยงกับกระแสข่าวทางการเมือง เช่น การบุกชิงตัว น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ขณะเข้าไปร่วมพิธีเคารพศพ พ.ต.ต.เพียรชัย ภารวัตร ตำแหน่ง ผบ.หมู่ (ป.) สภ.ห้วยโป่ง อ.เมือง จ.ระยอง ที่เสียชีวิตจากเหตุการณ์ปะทะที่แยกผ่านฟ้า แล้วช่วงเย็นวันที่ 24 ก.พ. ที่ผ่านมา หรือ กระแสข่าวลือว่า กลุ่มบุคคลดังกล่าว เป็นผู้ต้องสงสัยที่ก่อเหตุ กราดยิงและปาระเบิดใส่เวที กปปส.จ.ตราด ที่ตลาดยิ่งเจริญ อ.เขาสมิง จ.ตราด เมื่อคืนวันที่ 22 ก.พ.ที่ผ่านมา แล้วมีการแชร์รูปภาพ ในโลกของโซเชียลมีเดียกันอย่างแพร่หลาย ตามที่ปรากฏเป็นข่าวมาแล้วนั้น ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจาก พ.ต.อ.สุรพณ มงคลยุทธ ผกก.สส.ภ.จว.ระยองว่า มีการจับกุมอดีตทหารดังกล่าวจริง โดยเมื่อประมาณ 15.30 น. ของวันที่ 24 ก.พ. ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนจังหวัดระยอง และหน่วยปฎิบัตการพิเศษตำรวจภูธรจังหวัดยองได้เข้าจับกุม นายกรษภณ หรือ บอย สิงห์ทอง อายุ 35 ปี ชาว จ.สระบุรี พร้อมของกลางอาวุธสั้น .38 เครื่องกระสุน 2 แม็ก (14 นัด) ได้ที่ห้องอาหารไผ่ทอง โรงแรมโกลเด้นซิตี้ จ.ระยอง หลังจากนายบอย เข้าไปอ้างว่า เป็นลูกเขยนักการเมืองชื่อดัง ต้องการขอมีผลประโยชน์ส่วนแบ่งในสถานบริการร้านอาหารดังกล่าว ทำให้ฝ่ายเจ้าของร้านอาหารติดต่อร้องเรียนไปยัง นายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ทันที ก่อนจะมีการสืบสวนบุกเข้าจับกุมดังกล่าว อย่างไรก็ตามระหว่างจับกุม เจ้าหน้าที่ยังพบการ์ดของ นายบอย อีก 5 คนด้วย

ซึ่งภายหลังพบว่าอดีตเป็นทหารเรืออยู่ในหน่วยสงครามพิเศษทางเรือ กองเรือยุทธการฐานทัพเรือสัตหีบ และยังพบอาวุธปืนสั้น 5 กระบอก เครื่องกระสุนจำนวนมาก ซึ่งทางฝ่ายเจ้าหน้าที่ได้ติดต่อประสารนายทหารรัฐธรรมนูญ มานำตัวกลับไปสอบข้อเท็จจริง แต่ได้ยึดปืนไว้ตรวจสอบก่อน ส่วน นายบอย นั้น เบื้องต้น เจ้าหน้าที่แจ้งข้อหามีความผิดตาม พ.ร.บ.อาวุธปืน เอาไว้ก่อน จากนั้นได้ส่งตัวให้พนักงานสอบสวน สภ.เมืองระยอง นำตัวไปสอบสวนเพื่อหาข้อเท็จจริง เกี่ยวกับกรณีดังกล่าวต่อมาเมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2557 พล.ต.ต.สมนึก บุรมิ ผบก.ภ.จว.ระยอง ได้ให้เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดระยอง ติดตามจับกุม พ.จ.อ.ปิยะ มาตขาว อายุ 42 ปี จ.อ.สถิต สวนจันทร์ อายุ 39 ปี จ.อ.อดินันท์ สมหวัง อายุ 43 ปี จ.อ.ภคพล วชิรบัณฑูร อายุ 39 ปี ซึ่งเป็นอดีตทหารเรือหน่วยสงครามพิเศษทางเรือกองเรือยุทธการสัตหีบ (นสร.) ทำงานอยู่ในท่าอากาศยานสุวรรณภูมิจำนวน 4 คน นายวงศพัทธ์ หรือปา รอบคอบ อายุ 30 ปี และเป็นพลเรือน 1 คน พร้อมด้วยของกลางอาวุธปืนพกสั้นออโตเมติก 9 มม. จำนวน 5 กระบอก เครื่องกระสุนปืนขนาด 9 มม. จำนวน 120 นัด อาวุธมีดพกสั้น 1 เล่ม พล.ต.ต.สมนึก บุรมิ ผบก.ภ.จว.ระยอง กล่าวว่า ได้รับร้องเรียนจากผู้ประกอบการสถานบริการร้านอาหารว่ามีชายฉกรรจ์แต่งกายชุดดำคล้ายการ์ดหรือผู้ติดตาม เข้ามานั่งดื่มรับประทานอาหารที่ถนนสายราษฎร์บำรุง (สายล่าง) ต.เนินพระ อ.เมืองระยอง โดยอ้างว่าเป็นลูกเขยนักการเมืองชื่อดัง และจะขอแบ่งผลประโยชน์ในสถานบริการร้านอาหารแห่งนี้ด้วย

จากนั้นทั้งหมดได้แยกย้ายและมานั่งรับประทานต่อที่ห้องอาหารไผ่ทอง 1 ในโรงแรมโกลเด้นซิตี้ อ.เมือง จ.ระยอง เจ้าหน้าที่จึงได้ไปติดตามพร้อมกับตรวจค้นนายกรษภณ หรือบอย สิงห์ทอง อายุ 35 ปี ชาว จ.สระบุรี พร้อมกับของกลางอาวุธปืนสั้นขนาด .38 มม. เครื่องกระสุนปืนจำนวน 14 นัด เจ้าหน้าที่จึงได้นำตัวสอบสวนและแจ้งข้อหา พ.ร.บ.อาวุธปืน ส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองระยองไปแล้ว ต่อมาเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนจังหวัดระยองพบว่ากลุ่มชายฉกรรจ์ดังกล่าวนั้นเป็นอดีตทหารเรือ จึงได้นำตัวมาดำเนินคดีและแจ้งข้อกล่าวหาไม่มีใบอนุญาตพกพาอาวุธปืนจำนวน 4 คน ส่วนนายวงศพัทธ์ รอบคอบ ได้แจ้งข้อกล่าวหาพกพาอาวุธมีด ดำเนินคดีเช่นกัน ส่วน พ.จ.อ.ถาวร กล้าหาญ อายุ 42 ปี เจ้าหน้าที่ตรวจไม่พบสิ่งผิดกฎหมาย จึงได้ปล่อยตัวกลับไป ซึ่งทั้งหมดให้การรับสารภาพว่าได้รับจ้างมาเป็นการ์ดของนายนายกรษภณ หรือบอย สิงห์ทอง เท่านั้น ไม่เกี่ยวกับเรื่องการเมืองหรือเรื่องของกระแสข่าวที่จะบุกชิงตัวนายกรัฐมนตรีแต่อย่างใด


นายมาโนช สนองสุข/ข่าว 

คณะกรรมการพัฒนาสตรี จ.จันทบุรีแถลงข่าวเตรียมจัดงานวันสตรีสากล

คณะกรรมการพัฒนาสตรีจังหวัดจันทบุรีแถลงข่าวเตรียมจัดกิจกรรมวันสตรีสากล ชักชวนชาวจันท์ร่วมสร้างความดีถวายพ่อหลวง ครั้งที่ 2 เชิญทุกภาคส่วน ร่วมแต่งชุดขาว ปฏิบัติธรรม สร้างความดีถวายเป็นพระราชกุศลฯ

วันนี้ ( 26 ก.พ.57 ) ที่ห้องประชุมชั้น 2 ศูนย์ราชการองค์การบริหารส่วนจังหวัดจันทบุรี คณะกรรมการพัฒนาสตรีจังหวัดจันทบุรีได้จัดแถลงข่าว การจัดงานวันสตรีสากลจังหวัดจันทบุรี ประจำปี 2557 โดยมีนายธนภณ กิจกาญจน์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดจันทบุรี นางนันทวรรณ ตั้งเกียรติ นกยกสมาคมสตรีอาสาพัฒนาจังหวัดจันทบุรี นายกิจวัตร สวาสดิ์ หรือกำนันจิ๋ว นายกสมาคมกำนัน – ผู้ใหญ่บ้านจังหวัดจันทบุรี นางสาวจันทนา อ้นคำ ผู้อำนวยการ สวท.จันทบุรี และ นางสาวสิริมา วิชยธรกุล หัวหน้ากลุ่มงานผู้แทนสำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดจันทบุรี ร่วมกันแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนและผู้สนใจ โดยงานวันสตรีสากลจังหวัดจันทบุรี กำหนดจัดขึ้นในวันเสาร์ที่ 8 มีนาคม 2557 ณ ลานขนถ่ายสินค้า ศูนย์ราชการองค์การบริหารส่วนจังหวัดจันทบุรี ตั้งแต่เวลา 13.00 น.ถึง 20.00 น.โดยมีกิจกรรมที่มุ่งเน้น  ปลุกจิตสำนึกให้สตรีและทุกภาคส่วนของจังหวัดจันทบุรีตระหนักในพระมหากรุณาธิคุณและร่วมสร้างความดีถวายพ่อหลวง จงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์อย่างมั่นคงและยั่งยืน สร้างความสมานฉันท์ในหมู่ประชาชนชาวจันทบุรี ยกระดับความสัมพันธ์ด้านจิตใจและเสริมสร้างความเท่าเทียมกันทางสังคม รวมทั้งยกย่องเชิดชูเกียรติสตรีที่ทำคุณประโยชน์ต่อสังคม ชมการแสดงเทิดพระเกียรติ ร่วมเขียนปณิธานความดีถวายพ่อหลวง  ร่วมถือศีลปฏิบัติธรรมฟังพระธรรมเทศนา ถวายเป็นพระราชกุศลฯ ร่วมจุดเทียนถวายพระพรชัยมงคล มอบประกาศเกียรติคุณสตรีดีเด่นกิจกรรมเล่นเกมส์ชิงรางวัลครอบครัวสุขสันต์


จรัล/ภาพ/ข่าว 

ผลเลือกตั้ง กำนันตำบลคลองนารายณ์ อ.เมือง จันทบุรี

นกยูง นั่งเก้าอี้กำนันตำบลคลองนารายณ์ แทนกำนันโตที่เกษียณอายุราชการ หลังเป็นผู้ใหญ่บ้านเพียง 8 วัน ชนะใจผู้ใหญ่บ้าน ต.คลองนารายณ์แบบเฉียดฉิว 7 ต่อ 6

วันนี้ ( 26 ก.พ.57 )  ที่ห้องประชุมชั้น 2 อำเภอเมือง จังหวัดจันทบุรีได้จัดให้มีการเลือกตั้งกำนัน ตำบลคลองนารายณ์แทนนายบุญมี ศิริพร หรือกำนันโตที่เกษียณอายุราชการ 60 ปี โดยมีผู้ใหญ่บ้านในเขตตำบลคลองนารายณ์ อำเภอเมือง จังหวัดจันทบุรีเสนอตัวเข้าชิงตำแหน่งกำนัน รวม 3 ราย ประกอบด้วย นายมงคล โอสถเจริญ หรือผู้ใหญ่นกยูง หมู่ 10 นายเฉลียว กิมศรี หรือผู้ใหญ่ถ่าน ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 9 และนายอานุภพ สังขนาค หรือผู้ใหญ่ภพ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 3 และมีผู้ใหญ่บ้านในตำบลคลองนารายณ์ทั้ง 14 หมู่บ้าน ร่วมลงคะแนนแบบลับ ผลการนับคะแนนรวมปรากฏว่า  นายมงคล โอสถเจริญ หรือผู้ใหญ่นกยูง หมู่ 10 ได้คะแนน 7 คะแนน นายเฉลียว กิมศรี หรือผู้ใหญ่ถ่าน ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 9 ได้ 6 คะแนน และนายอานุภพ สังขนาค หรือผู้ใหญ่ภพ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 3 ได้ 1 คะแนน จึงทำให้นายมงคล โอสถเจริญ หรือผู้ใหญ่นกยูง หมู่ 10 ได้ดำรงตำแหน่งกำนันตำบลคลองนารายณ์

ทั้งนี้ นายมงคล โอสถเจริญ หรือที่ชาวบ้านรู้จักกันดีในชื่อเต้นท์นกยูงหรือนกยูงโปรโมชั่นได้รับการไว้วางใจจากชาวบ้านหมู่ 10 ตำบลคลองนารายณ์ในการเลือกตั้งผู้ใหญ่บ้านหมู่ 10 เมื่อวันจันทร์ที่ 17 กุมภาพันธ์ 2557 ด้วยคะแนนชนะคู่แข่ง 115 คะแนน ต่อ 63 และเข้ามาเป็นผู้ใหญ่บ้านหมู่ 10 เพียงแค่ 8 วัน ก็สามารถชนะใจผู้ใหญ่บ้านของตำบลคลองนารายณ์ทั้ง 14 หมู่บ้าน ให้ดำรงตำแหน่งกำนันตำบลคลองนารายณ์ ต่อจากนายบุญมี ศิริพร หรือกำนันโต และมีนโยบายในการทำงานมุ่งเน้นให้ประชาชน ท้องถิ่น ท้องที่ผู้ใหญ่บ้าน คณะกรรมการหมู่บ้าน กลุ่มสตรีอาสาและทุกภาคส่วนมีส่วนร่วมในการพัฒนาท้องถิ่นให้เจริญรุดหน้า  บำบัดทุกข์ บำรุงสุข ด้วยความจริงใจ



จรัล/ภาพ/ข่าว

วันอังคารที่ 25 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

ตำรวจท่องเที่ยวเมืองพัทยาจับหนุ่มไนจีเรียแอบซุกยาไอซ์ในทวารหนัก สารภาพธุรกิจส่งออกเสื้อผ้าเจ๊งเลยหันมายึดอาชีพค้ายาเสพติด

ขณะที่ พ.ต.ท.อรุณ พร้อมพันธุ์ สว.ส.ทท.4 กก.2 บก.ทท. นำกำลังตำรวจท่องเที่ยวเมืองพัทยา ออกตรวจตรารักษาความสงบเรียบร้อยและดูแลรักษาความปลอดภัยให้กับนักท่อง เที่ยวภายในเมืองพัทยา จนไปถึงบริเวณถนนพัทยาสาย 3 ตัดถนนพัทยากลาง พบชายชาวต่างชาติขับรถ จยย.ผ่านมาท่าทางมีพิรุธ จึงเรียกให้จอดเพื่อเพื่อขอตรวจค้น

สอบสวนทราบชื่อต่อมาคือนายกูดวิน ชิโนดู อัฟกาลักวี (Mr.Godwin Chinedu Abgarakwe) อายุ 35 ปี ชาวไนจีเรีย จากการตรวจค้นพบของกลางยาไอซ์ น้ำหนักรวม 4 กรัม ซุกซ่อนอยู่ในทวารหนัก จึงยึดไว้เป็นหลักฐาน จากการสอบปากคำให้การรับสารภาพว่า เดินทางเข้ามาในเมืองไทยได้ประมาณ 1 ปีเศษและประกอบธุรกิจซื้อเสื้อผ้าย่านประตูน้ำส่งออกไปขายยังประเทศบ้านเกิด แต่ระยะหลังประสบภาวะขาดทุนจึงหันมายึดอาชีพขายยาไอซ์ โดยจะติดต่อขอซื้อมาจากเอเย่นต์คนหนึ่งในกรุงเทพฯ ก่อนนำมาขายให้กับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติในเมืองพัทยา

ด้าน พ.ต.ท.อรุณ พร้อมพันธุ์ เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบหนังสือเดินทางของนายกูดวิน พบว่าเดินทางเข้ามาประเทศไทยเมื่อวันที่ 8 กันยายน 2555 และอนุญาตให้อยู่ถึงวันที่ 6 ธันวาคม 2555 ถ้านับเวลาถึงปัจจุบันจึงถือว่าหนุ่มไนจีเรียรายนี้อยู่เกินเวลาที่กำหนด หรือโอเวอร์สเตย์ เบื้องต้นจึงแจ้งข้อกล่าวหาว่ามียาเสพติดให้โทษประเภท1 (ยาไอซ์) ไว้ในครอบครอง และอยู่ในราชอาณาจักรไทยเกินกำหนดที่ได้รับอนุญาต ก่อนคุมตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองพัทยา ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป



ปริญญา/ข่าว/ภาพ

ยายวัย70 ใจเด็ด! ฮึดสู้คว้ามีดดาบฟันโจรกลางกะบาลเลือดอาบ

พ.ต.อ.สุทธิศักดิ์ วันที ผกก. สภ.หนองปรือ จังหวัดชลบุรี ได้รับแจ้งเหตุหญิงวัยชราเจ้าชองบ้าน ใช้อาวุธมีดฟันคนร้ายเข้ามาก่อเหตุชิงทรัพย์ได้รับบาดเจ็บ เหตุเกิดภายในบ้านพักเลขที่ 101/9 อยู่ในซอย 13 ทุ่งกลมตาลหมัน หมู่8 ตำบลหนองปรือ อำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี หลังรับแจ้งจึงรุดไปตรวจสอบพร้อมด้วยหน่วยกู้ภัยมูลนิธิสว่างบริบูรณ์ เมืองพัทยา

เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุเป็นบ้านพัก 1 ชั้น ครึ่งปูนครึ่งไม้ ซึ่งแบ่งเปิดเป็นร้านขายของชำ บริเวณตู้แช่เครื่องดื่ม พบร่างคนร้ายนอนจมกองเลือด ในสภาพถูกอาวุธมีดฟันเข้ากลางศีรษะ1 ที่บาดแผลยาว 3 เซนติเมตร ลึกกว่า 1 เซนติเมตร ทราบชื่อต่อมาคือนายอภิชาติ จันแดง อายุ 15 ปี อาชีพรับจ้างเป็นช่างฝ้าเพดาน เจ้าหน้าที่กู้ภัยฯจึงปฐมพยาบาลเบื้องต้น ก่อนเคลื่อนย้ายส่ง รพ.บางละมุง

ส่วนนางสาวสุรีย์ สุพรรณปัฏ อายุ 70 ปี หญิงวัยชราเจ้าของร้าน อยู่ในอาการตกใจและผวากับเหตุการณ์ดังกล่าว ซึ่งหลังใช้อาวุธมีดดาบฟันคนร้ายแล้วก็ไม่ได้หลบหนีไปไหน ยืนรอให้การกับเจ้าหน้าที่ หลังจากปิดร้านช่วงหัวค่ำได้นอนพักผ่อนอยู่ในบ้านปกติ จนช่วงกลางดึกคนร้ายได้ปีนมุดช่องระบายอากาศบริเวณหลังบ้านเข้ามาก่อเหตุ ก่อนจะใช้มือปิดปากขณะหลับอยู่บนเตียงเตียงนอน พอรู้สึกตัวยายไม่ยอมขัดขืนลุกขึ้นมาสู้กับคนร้าย จนข้าวของในร้านกระจัดกระจาย จากนั้นนางมาลินี กรีมละ อายุ 24 ปี หลานสาว บ้านอยู่ติดกันได้ยินเสียงวิ่งเข้ามาช่วยเหลือ แต่สู้แรงคนร้ายไม่ไหวยายจึงคว้าดาบซุกไว้ใต้เตียงฟันศีรษะคนร้ายจนลงไปกองฟุบกับพื้น และโทรเรียกตำรวจมาตรวจสอบดังกล่าว

ด้าน พ.ต.อ.สุทธิศักดิ์ เปิดเผยว่า จากการสอบสวนนายอภิชาติ ผู้ก่อเหตุ ยังให้การวกไปวนมาคล้ายคนเมาอะไรบางอย่าง ซึ่งยอมรับเข้ามาก่อเหตุครั้งนี้ เพื่อประสงค์ต่อชิงทรัพย์สิน โดยอ้างว่าต้องการหาเงินไปรับแฟนสาวซึ่งอยู่ในกรุงเทพ หลังสอบสวนทางตำรวจยังไม่ปักใจในคำให้การของผู้ก่อเหตุ อย่างไรก็ตามตำรวจจะอายัดตัวนายอภิชาติ ผู้ก่อเหตุที่โรงพยาบาลก่อน จากนั้นจะสอบสวนอย่างละเอียดอีกครั้ง  



ปริญญา/ข่าว/ภาพ

เอกอัครราชทูตจีนประจำประเทศไทย เยี่ยมชมมาตรการส่งเสริมการท่องเที่ยว เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับนักท่องเที่ยวชาวจีน

เอกอัครราชฑูตจีนประจำประเทศไทย เดินทางเข้าพบผู้บริหารเมืองพัทยา ดูมาตรการส่งเสริมการท่องเที่ยวและความปลอดภัยของเมืองพัทยา เพื่อสร้างความมั่นใจในการเดินทางของนักท่องเที่ยวจีนในอนาคต ด้านภาคธุรกิจเอกชนระบุถือเป็นแนวโน้มที่ดีต่อการชี้แจงสถานการณ์การท่องเที่ยว

ที่ศาลาว่าการเมืองพัทยา จังหวัดชลบุรี นายรณกิจ เอกะสิงห์ รองนายกเมืองพัทยา พร้อมด้วยนายบัณฑิต ศิริตันหยง รองประธานสภาวัฒนธรรมไทย-จีน และส่งเสริมความสัมพันธ์ นายศักดิ์ชัย แตงฮ่อ นายอำเภอบางละมุง นายปรเมศวร์ งามพิเชษฐ์ อดีต ส.ส.ชลบุรี พร้อมหัวหน้าส่วนราชการ ตัวแทนองค์กรภาคธุรกิจเอกชน ร่วมให้การต้อนรับ มร.หนิง ฟูกุ่ย (Ning Fukui) เอกอัครราชฑูตสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำประเทศไทย พร้อมคณะ ในโอกาสที่เดินทางมาเยือนเมืองพัทยาอย่างเป็นทางการ เพื่อร่วมประชุมหารือเกี่ยวกับปัญหาด้านการท่องเที่ยว โดยเฉพาะกรณีของมาตรกาความปลอดภัยของนักท่องเที่ยวในพื้นที่เมืองพัทยา ซึ่งมีกำหนดการในระหว่างวันที่ 21-23 กุมภาพันธ์ศกนี้

ในการนี้ตัวแทนจากเมืองพัทยาได้ร่วมชี้แจง บรรยายสรุปถึงสถานการณ์การท่องเที่ยวในภาพรวมรวมทั้งการพัฒนาทางด้านเศรษฐกิจและสังคม  และมาตรการในการรักษาความปลอดภัยของเมืองพัทยา ซึ่งถือว่าเข้มข้นและได้รับความร่วมมือจากหน่วยงานภาคต่างๆ เพื่อดูแลและอำนวยความสะดวกแก่นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างประเทศอย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งการท่องเที่ยวทางบกและทะเล โดยมีแผนในการจัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการร่วมเพื่อดูแลนักท่องเที่ยวอย่างเป็นรูปธรรม บริเวณชายหาดพัทยาใต้ ซึ่งปัจจุบันอยู่ในขั้นตอนของการว่าจ้างผู้รับเหมาเข้ามาดำเนินการ และการจัดตั้งศาลเพื่อดูแลนักท่องเที่ยวเป็นการเฉพาะกิจ ซึ่งปัจจุบันได้เปิดดำเนินการอย่างเป็นทางการไปแล้ว

ในขณะเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างเมืองพัทยากับทางประเทศจีนนั้นในอดีตที่ผ่านมา มีการกระชับความสัมพันธ์และเดินทางไปมาหาสู่กันอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะกรณีของการลงนามเป็นบ้านพี่เมืองน้อง ระหว่างเมืองพัทยากับเมืองชิงเต่า ซึ่งถือว่าเกิดประโยชน์ต่อด้านเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวระหว่างกันอย่างต่อ เนื่อง โดยจะเห็นได้จากปัจจุบันเมืองพัทยามีนักท่องเที่ยวชาวจีนเดินทางเข้ามาพัก ผ่อนในอัตราปีละไม่ต่ำกว่า 1.2 ล้านคนทั้งนี้ มร.หนิง ฟูกุ่ย เอกอัคราชฑูตสาธารณรัฐจีนประจำประเทศไทย กล่าวว่า เมืองพัทยาถือเป็นเมืองท่องเที่ยวที่มีศักยภาพสูง ทำให้ชาวจีนสนใจเดินทางมาท่องเที่ยวในแต่ละปีเป็นจำนวนมาก อย่างไรก็ตาม มาตรการด้านความปลอดภัยถือเป็นสิ่งสำคัญต่อเมืองท่องเที่ยว จึงอยากให้กำหนดแนวนโยบายและวางมาตรการที่รัดกุมเพื่อลดปัญหาที่เกิดขึ้น ส่วนกรณีที่ประเทศไทยมีสถานการณ์ทางการเมืองจนส่งผลกระทบให้นักท่องเที่ยวลดลงนั้น ในฐานะที่เป็นฑูตประจำประเทศไทย ก็จะส่งข้อมูลรวมทั้งประชาสัมพันธ์และชี้แจงผ่านไปยังประเทศจีนว่าเมืองพัทยามีความพร้อมและไม่มีปัญหาใดๆเกิดขึ้น

ขณะที่นายธเนศ ศุภรสหัสรังสี ที่ปรึกษาสมาคมนักธุรกิจและการท่องเที่ยวเมืองพัทยา กล่าวว่า กรณีนี้ถือเป็นโอกาสอันดีที่มีข้าราชการระดับสูงของประเทศจีนเดินทางมาเยือนเมืองพัทยา เพื่อให้เห็นถึงข้อเท็จจริงในด้านความปลอดภัยในพื้นที่ ที่สามารถรองรับการท่องเที่ยวได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยปัจจุบันสถานการณ์ด้านการท่องเที่ยวในส่วนของประเทศจีนนั้นยังอยู่ในระดับแดง แต่หากมีการชี้แจงข้อมูลที่ถูกต้องและเห็นภาพความสวยงาม และความพร้อมอย่างเป็นรูปธรรม ก็คงจะส่งผลให้สถานการณ์การท่องเที่ยวของเมืองพัทยาดีขึ้นในอนาคตอย่างแน่นอน



ปริญญา/ข่าว/ภาพ

เทศบาลตำบลเขตรอุดมศักดิ์ จัดโครงการรณรงค์ป้องกันไข้เลือดออก

นายไพโรจน์ มาลากุล ณ อยุธยา ได้มาเป็นประธานในพิธี โครงการรณรงค์ป้องกันไข้เลือดออก ณ เทศบาลตำบลเขตรอุดมศักดิ์ อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี โดยมีคณะผู้บริหาร หัวหน้าส่วนราชการ ประธานกรรมการชุมชน อาสาสมัครสาธารณสุข ร่วมให้การต้อนรับ

ในพื้นที่เทศบาลตำบลเขตรอุดมศักดิ์พบผู้ป่วยด้วยโรคไข้เลือดออกจำนวนมาก ซึ่งถือว่าเป็นสถานการณ์โรคที่ไม่น่าไว้วางใจที่ทุกภาคส่วนทั้งภาครัฐ เอกชน และภาคประชาชนจะต้องเข้ามามีส่วนร่วมในการป้องกันและควบคุมโรค ร่วมมือกันทำลายและควบคุมแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลายอย่างจริงจังและต่อเนื่อง ทั้งในหน่วยราชการ โรงเรียน วัด และอาคารบ้านเรือน ทุกชุมชนทุกหมู่บ้านเพื่อลดความรุนแรงการระบาดของโรคไข้เลือดออกลง

นายไพโรจน์ มาลากุล ณ อยุธยา ได้มาเป็นประธานในพิธี กล่าวว่าในโอกาสนี้ขออันเชิญกระแสพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวที่พระราชทาน ณ พระราชวังไกลกังวล หัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขีนธ์ เมื่อวันที่ 28 สิงหาคม 2548 แก่ผู้ที่มีหน้าที่เกี่ยวกับการป้องกันโรคไข้เลือดออก เพื่อเตือนสติให้ทุกท่านได้ตระหนักถึงภารกิจในการป้องกันโรคไข้เลือดออกร่วมกัน ใจความกระแสพระราชดำรัสมีดังนี้ “โครงการ ปราบยุงลายคั้งค้างมานานแล้ว และอันตรายยังมีอยู๋มาก อยากให้ปราบปรามอย่างจริงจัง อันตรายจากโรคไข้เลือดออกจะได้ทุเลาลง”ดังนั้นในการจัดกิจกรรมในวันนี้ก็ เพื่อระดมความร่วมมือจากทุกภาคส่วนเข้ามามีส่วนร่วมในการควบคุมโรคไข้เลือด ออกต้องขอขอบคุณผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทุกท่านที่ได้ร่วมกันจัดกิจกรรมควบคุม และป้องกันโรคไข้เลือดออกในวันนี้และต่อจากนี้ไปขอให้ทุกท่านได้ไปดำเนิน กิจกรรมการควบคุมป้องกันโรคไข้เลือดออกทั้งในหน่วยงาน โรงเรียน วัดและอาคารบ้านเรือนทุกชุมชนทุกหมู่บ้านต่อไป


ปริญญา/ข่าว/ภาพ

แถลงข่าว เปิดตัวสโมสรพัทยา อารีน่า ฟุตซอล คลับ

นายอิทธิพล คุณปลื้ม นายกเมืองพัทยา พร้อมด้วยนายชาญยุทธ เฮงตระกูล เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ นายนิพิชฌน์ เกตน์พงศ์พัทธ ผู้บริหารเมืองจำลอง พัทยา ในฐานะประธานสโมสรพัทยาอารีน่า ฟุตซอลคลับ ร่วมแถลงข่าวเปิดตัวสโมสรพัทยาอารีน่า ฟุตซอล คลับ อย่างเป็นทางการ โดยมีสมาชิกสภาเมืองพัทยา ที่ปรึกษานายกเมืองพัทยา ผู้สนับสนุนและสื่อมวลชนแขนงต่างๆ เข้าร่วมงานแถลงข่าว ณ อาคารกรีฑาในร่มเมืองพัทยา ศูนย์กีฬาแห่งชาติภาคตะวันออก ซอยชัยพฤกษ์ 2

สโมสรพัทยา อารีน่า ฟุตซอลคลับ ได้จัดตั้งขึ้นเมื่อปี 2556 ได้ส่งทีมฟุตซอลเดินสายแข่งขัน ในรายการต่างๆ ทั่วประเทศ อาทิเช่น รายการแคทริจินอล 2010 - 2011 สามารถคว้ารางวัลได้ที่ 2 ในระดับภาคและได้อันดับ 4 ในระดับประเทศ และในช่วง ปี2011 - 2012 ได้เข้ารอบ 16 ทีม สุดท้ายในรายการยูเมะพลัส FA CUP สำหรับสโมสรพัทยาอารีน่า ฟุตซอลคลับ มีคณะผู้บริหารทีมนำโดย นายสนธยา คุณปลื้ม รักษาการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม ประธานที่ปรึกษากิตติมศักดิ์ นายอิทธิพล คุณปลื้ม นายเมืองพัทยา ในฐานะที่ปรึกษาสโมสรฯ นายชาญยุทธ เฮงตระกูล ที่ปรึกษาสโมสร นายนิพิชฌน์ เกตน์พงศ์พัทธ ประธานสโมสร นายวรรพต พงษ์มาลี เลขานุการสโมสร นายสิทธิพล อุบลรัตน์ ผู้จัดการทีม นายพัทยา เปี่ยมคุ้ม ประธานเทคนิค และนายประเสริฐ อินนุ้ย เฮดโค้ช “พัทยาอารีน่า ฟุตซอลคลับ ถือเป็นทีมฟุตซอล หรือสิงห์โต๊ะเล็กของเมืองพัทยา ที่หลากหลายองค์กรในท้องถิ่นได้ร่วมกันสนับสนุนเพื่อสร้างความแข็งแกร่งให้ทีมสู้ศึกในรายการลีกฟุตซอลไทย เป็นการเริ่มต้นจากทีมเล็กๆ จนพัฒนาสู่เวทีการแข่งขันระดับชาติ

นายอิทธิพล คุณปลื้ม นายกเมืองพัทยา ในฐานะที่ปรึกษาสโมสรพัทยาอารีน่า ฟุตซอลคลับ เผยว่าการเปิดตัวทีมพัทยาอารีน่าในครั้งนี้ เพื่อจะร่วมแข่งขันในรายการฟุตซอลไทยแลนด์พรีเมียร์ลีก 2014 อันจะเป็นการผลักดันและพัฒนานักเตะระดับเยาวชนท้องถิ่นของเมืองพัทยาให้มีมาตรฐานไปสู่ระดับอาชีพ เป็นการส่งเสริมให้เยาวชนและประชาชนสนใจในกิจกรรมกีฬาระดับชาติ ซึ่งจะต่อยอดไปสู่การพัฒนาเศรษฐกิจท้องถิ่นให้มีความคึกคัก และจะใช้อาคารกรีฑาในร่มแห่งนี้เป็นสนามเหย้าในการเปิดบ้านรับคู่แข่งที่จะมาจากที่อื่นๆ ด้วยเช่นกัน

เมืองพัทยาขอเชิญ ร่วมชม ร่วมเชียร์ และส่งกำลังใจแก่นักกีฬาที่เข้าร่วมการแข่งขันในรายการฟุตซอลไทยแลนด์พรีเมียร์ลีก 2014 ณ อาคารกรีฑาในร่มเมืองพัทยา ศูนย์กีฬาแห่งชาติภาคตะวันออก ซอยชัยพฤกษ์ 2 หรือสอบถามข้อมูลตารางการแข่งขันได้ที่ http://www.pattayaarenafs.com



ปริญญา/ข่าว/ภาพ

ส.ปชส.จบ. พาสื่อท้องถิ่นศึกษาดูงานโครงการพระราชดำริฯ จ.เพชรบุรี

สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดจันทบุรี จัดกิจกรรมเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์ นำสื่อมวลชนศึกษาดูงานโครงการตามพระราชดำริฯ ในพื้นที่อำเภอบ้านแหลม และอำเภอท่ายาง จังหวัดเพชรบุรี

เมื่อวันที่ 20 ถึง 21 ก.พ. 57  สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดจันทบุรี นำคณะสื่อมวลชนร่วมกิจกรรมตามโครงการประชาสัมพันธ์เทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์ โดยมีสื่อมวลชนทุกแขนงรวมทั้งสิ้น 30 คน ไปศึกษาดูงานโครงการตามพระราชดำริหรือศูนย์เรียนรู้ตามปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง  โดยมีกำหนดการเดินทาง 2 วัน 1 คืน ศึกษาดูงาน 2 แห่ง คือ วันพฤหัสบดีที่ 20 กุมภาพันธ์ 2557 นำคณะสื่อมวลชนศึกษาดูงานโครงการศึกษาวิจัยและพัฒนาสิ่งแวดล้อมแหลมผักเบี้ย อันเนื่องมาจากพระราชดำริ อำเภอบ้านแหลม จังหวัดเพชรบุรี และเข้าพักค้างคืน ณ วนอุทยานแห่งชาติปราณบุรี อำเภอปราณบุรี จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ต่อมาวันศุกร์ที่ 21 กุมภาพันธ์ 2557 นำคณะสื่อมวลชนศึกษาดูงานโครงการชั่งหัวมัน ตามพระราชดำริ อำเภอท่ายาง จังหวัดเพชรบุรี ทั้งนี้เพื่อเป็นการเผยแพร่โครงการพระราชดำริและศูนย์การเรียนรู้ตามปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง และเพื่อเปิดโอกาสให้สื่อมวลชนได้เพิ่มพูนความรู้ ทักษะ เกี่ยวกับโครงการพระราชดำริและศูนย์การเรียนรู้ตามปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง  สามารถนำมาปรับใช้ในชีวิตประจำวันได้ และสามารถนำเผยแพร่สู่สาธารณชนให้เป็นที่รู้จักได้อย่างกว้างขวางต่อไป

กกต.ตราด ย้ำประชาชนแจ้งยื่นคำขอลงทะเบียนหรือเปลี่ยนแปลงหรือยกเลิกการลงทะเบียนการใช้สิทธิเลือกตั้งนอกเขตจังหวัด เตรียมเลือกตั้ง ส.ว. ภายใน 28 ก.พ. นี้

(25 ก.พ. 57) นายปิติฉัตร ธนนวนนท์ ผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำจังหวัดตราด เปิดเผยว่า ตามที่สมาชิกวุฒิสภาที่มาจากการเลือกตั้งเป็นการทั่วไปเมื่อวันที่ 2 มีนาคม 2551 จะครบวาระการดำรงตำแหน่งในวันที่ 1 มีนาคม 2557 ซึ่งรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.28550 แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2554 มาตรา 118 ให้กำหนดวันเลือกตั้งภายใน 30 วัน นับตั้งแต่วันที่วาระของวุฒิสภาซึ่งมาจากการเลือกตั้งสิ้นสุดลง ดังนั้นเพื่อให้การจัดการเลือกตั้งสมาชิกวุฒิสภา กรณีครบวาระการดำรงตำแหน่งในวันที่ 1 มีนาคม 2554 เป็นไปด้วยความเรียนบร้อย มีประสิทธิภาพ สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดตราดจึงได้กำหนดให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งยื่นคำร้องขอลงทะเบียนขอใช้สิทธิเลือกตั้งล่วงหน้านอกเขตจังหวัด หรือยื่นคำขอเปลี่ยนแปลง หรือยกเลิกการลงทะเบียนการใช้สิทธิเลือกตั้งนอกเขตจังหวัด ณ สำนักทะเบียนอำเภอหรือสำนักทะเบียนท้องถิ่น ที่ตนเองมีชื่ออยู่หรือที่ตนเองมีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้าน แล้วแต่กรณี ภายในวันที่ 28 กุมภาพันธ์ นี้ ทั้งนี้สามารดาวน์โหลดคำขอลงทะเบียนหรือเปลี่ยนแปลงหรือยกเลิกการลงทะเบียนการใช้สิทธิเลือกตั้งนอกเขตจังหวัด (ส.ส.42) ได้ที่เว็บไซด์ www.ect.go.th สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ งานการมีส่วนร่วม สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดตราด หมายเลขโทรศัพท์ 0-3952-0499 , 0-3952-5526 – 7 ต่อ 51 – 52

ปภ.ตราด เสริมสร้างศักยภาพชุมชนด้านการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยให้กับ 4 ชุมชนของตำบลห้วยแร้ง

(25 ก.พ. 57) นายวิรัต อสัมภินาวงศ์ นายอำเภอเมืองตราด เปิดโครงการเสริมสร้างศักยภาพชุมชนด้านการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ให้กับประชาชนหมู่ที่ 1 บ้านเกาะขวาง หมู่ที่ 6 บ้านฉางเกลือ หมู่ที่ 7 บ้านแหลมตอง และหมู่ที่ 8 บ้านบางปรือ ของตำบลห้วยแร้ง อำเภอเมืองตราด ที่ห้องประชุมองค์การบริหารส่วนตำบลห้วยแร้ง โดยมีประชาชนจากทั้ง 4 หมู่บ้านรวม 50 คนเข้าร่วมโครงการ

นายฐิตนันท์ อุดมสุข หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดตราด กล่าวว่า ในอดีตรูปแบบการดำเนินการจัดการภัยพิบัติ คือ การตั้งรับโดยเมื่อเกิดภัยพิบัติแล้วจึงเข้าไปจัดการแก้ไขปัญหาที่ตามมา ซึ่งจะส่งผลให้เกิดความสูญเสียที่มากมาย แต่การดำเนินการโครงการนี้เป็นแนวคิดในการจัดการภัยพิบัติแผนใหม่ คือ การดึงประชาชนในชุมชนเข้ามามีส่วนร่วมในการป้องกันและแก้ไขปัญหาภัยพิบัติ โดยการให้ประชาชนเข้ามาคิดเองจัดการเองว่าในหมู่บ้านของตนมาสิ่งแวดล้อมอย่างไรภัยพิบัติที่เสี่ยงต่อหมู่บ้านของตนมีอะไรบ้าง จากนั้นประชาชนจะได้ร่วมกันจัดทำแผนที่ชุมชนว่าพื้นที่ตรงไหนของหมู่บ้านเป็นจุดเสี่ยงภัย หรือพื้นที่ตรงไหนเป็นพื้นที่ปลอดภัย จากนั้นจึงให้ประชาชนร่วมจำลองสถานการณ์ที่เกิดภัยพิบัติในหมู่บ้านของตน พร้อมทั้งเรียงลำดับความสำคัญในการแก้ไขปัญหา โดยมีส่วนราชการที่เกี่ยวข้องเป็นพี่เลี้ยงดำเนินการ อย่างไรก็ตามการดำเนินการในครั้งนี้ได้มีการคัดเลือก 4 หมู่บ้านของตำบลห้วยแร้งดำเนินการ เนื่องจากเป็นพื้นที่เสี่ยงภัยจากปัญหาน้ำป่าไหลหลาก และน้ำท่วมขังจากน้ำล้นตลิ่ง ทั้งนี้เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมของประชาชนในชุมชน พร้อมทั้งสร้างระบบเตือนภัยในชุมชน และมีการจัดตั้งทีมกู้ภัยประจำชุมชน ซึ่งเมื่อเกิดปัญหาแล้ว ประชาชนในชุมชนดังกล่าวสามารถขนย้ายทรัพย์สิน และเอาตัวรอดจากเหตุการณ์โดยไม่ได้รับอันตราย

สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 9 (ชลบุรี) สร้างเครือข่ายราษฎรอาสาสมัครพิทักษ์ป่า (รสทป.) ในพื้นที่จังหวัดตราด

(25 ก.พ. 57) นายสมศักดิ์ อิทธิวรกุล ปลัดจังหวัดตราด เปิดโครงการฝึกอบรมราษฎรอาสาสมัครพิทักษ์ป่า (รสทป.) รุ่นที่ 1 / 2557 ในพื้นที่จังหวัดตราด ซึ่งสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 9 (ชลบุรี) ดำเนินการจัดขึ้น โดยมี ผู้นำชุมชน ประชาชน ในพื้นที่จังหวัดตราดจำนวน 100 คนเข้าร่วมโครงการรวมระยะเวลา 3 วัน ที่อุทยานแห่งชาติน้ำตกคลองแก้ว ตำบลบ่อพลอย อำเภอบ่อไร่ จังหวัดตราด

นายสมคิด แก้วไทรหงวน ผู้อำนวยการสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 9 (ชลบุรี) กล่าวว่า สถานการณ์ป่าไม้ในปัจจุบันกรมป่าไม้ดูแลพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ จำนวน 1,221 ป่า คิดเป็นเนื้อที่ 73.7 ล้านไร่ ในภาพรวมยังพบการบุกรุกตัดไม้ทำลายป่า โดยมีกลุ่มนายทุนหรือผู้มีอิทธิพลอยู่เบื้องหลัง จนสภาพป่าไม้หลายแห่งของประเทศอยู่ในภาวะวิกฤติ ปัญหาเหล่านี้จึงต้องมีความจำเป็นในการเฝ้าระวังไม่ให้มีการบุกรุกทรัพยากรป่าไม้ ในพื้นที่ป่าอนุรักษ์และป่าสงวนแห่งชาติเพิ่มขึ้นอีก เพื่อให้การแก้ไขปัญหาดังกล่าวเกิดเป็นรูปธรรม โดยการเปิดโอกาสให้ประชาชนในท้องถิ่นได้มีส่วนร่วมในการดูแลทรัพยากรป่าไม้ ทางสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 9 (ชลบุรี) จึงได้จัดโครงการฝึกอบรมราษฎรอาสาสมัครพิทักษ์ป่า (รสทป.) รุ่นที่ 1 / 2557 ในพื้นที่จังหวัดตราด ขึ้น เพื่อถ่านทอดพระราชปณิธาน และความห่วงใยในพสกนิกรปวงชนชาวไทยทุกหมู่เหล่าของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าฯ แก่ราษฎรในพื้นที่ให้มีความเข้าใจและซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณ ร่วมกันดูแลรักษาป่าถวายเป็นพระราชสักการะ ทั้งยังเป็นการจิตสำนึกและอุดมการณ์ร่วมกันในการป้องกันและรักษาป่าระหว่างเจ้าหน้าที่ของรัฐกับราษฎรในพื้นที่ให้เกิดเป็นรูปธรรม เป็นการจัดตั้งองค์กรราษฎรอาสาสมัครพิทักษ์ป่า (รสทป.) ในชุมชน ที่อยู่ในและรอบพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ ในการเป็นเครือข่ายป้องกันรักษาป่ารวมทั้งการควบคุมปัยหาไฟป่า ให้เกิดผลเป็นรูปธรรมอีกด้วย

ประชาชนชาวนตราดจำนวนมากเริ่มซื้อหากล้วยไม้หลากหลายสายพันธุ์ ในงาน “วันรักษ์กล้วยไม้เมืองตราด ครั้งที่ 1”

(25 ก.พ. 57) นายบรรจง กนะกาศัย นายอำเภอเขาสมิง จังหวัดตราด กล่าวหลังตรวจความพร้อมในการเตรียมงาน "วันรักษ์กล้วยไม้เมืองตราด ครั้งที่ 1” บริเวณหน้าองค์การบริหารส่วนตำบลเขาสมิง ว่า งานดังกล่าวอำเภอเขาสมิง โดยองค์การบริการส่วนตำบลเขาสมิง และกลุ่มรักษ์กล้วยไม้ไทยบ้านวังตัก ร่วมกันจัดขึ้นในระหว่างวันที่ 26 กุมภาพันธ์ – 2 มีนาคม 2557 ทั้งนี้เพื่อเป็นการสนับสนุนการเพาะเลี้ยงกล้วยไม้พื้นเมืองตราดเพื่อการอนุรักษ์ ทั้งยังเป็นการเสริมสร้างให้เกิดอาชีพแก่ชุมชน เนื่องจากกลุ่มวิสาหกิจชุมชนกลุ่มรักษ์กล้วยไม้ไทยบ้านวังตัก มีความเข้มแข็งในการดำเนินการอนุรักษ์กล้วยไม้ นอกจากนี้การจัดงานดังกล่าวยังเป็นการปลูกฝังจิตสำนึกของประชาชนในการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติสิ่งแวดล้อม และพรรณพืชท้องถิ่นอีกด้วย

สำหรับการจัดงานนี้มีกิจกรรมที่หลากหลาย ประกอบด้วย การประกวดและแสดงกล้วยไม้หลากหลายสายพันธุ์ การประกวดสับปะรดพันธุ์ตราดสีทองและปัตตาเวีย การแข่งขันปอกและกินสับปะรด ตลอดจนการออกร้านจำหน่ายพันธุ์กล้วยไม้ และวัสดุทางการเกษต อย่างไรก็ตามการเตรียมการจัดงานในวันนี้ซึ่งเป็นวันก่อนเริ่มงานปรากฎว่าได้รับความสนใจจากประชาชนชาวตราดจำนวนมากต่างมาเลือกซื้อหากล้วยไม้นานาสายพันธุ์ ส่วนในวันพรุ่งนี้คาดว่าจะมีประชาชนสนใจร่วมชมงานจำนวนมากเนื่องจากเป็นวันจัดประกวดกล้วยไม้สายพันธุ์ต่าง ๆ ทางอำเภอเขาสมิงจึงขอเชิญชวนประชาชน และนักท่องเที่ยวร่วมชมงานดังกล่าว

วันจันทร์ที่ 24 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

กองทุนพัฒนาไฟฟ้า ร่วมกับ สำนักงาน กกพ. จัดกิจกรรมพบปะสื่อมวลชนท้องถิ่น จังหวัดฉะเชิงเทราและจังหวัดชลบุรี

วันจันทร์ ที่ 24 กุมภาพันธ์ 2557 โดยนางสาวนฤภัทร อมรโฆษิต รองเลขาธิการ สำนักงาน กกพ. กล่าวเปิดพิธี กิจกรรมพบปะสื่อมวลชนท้องถิ่น จังหวัดฉะเชิงเทราและจังหวัดชลบุรีโดยมีหัวข้อการบรรยาย เรื่อง “ความคืบหน้าการดำเนินงานของกองทุนพัฒนาไฟฟ้า” ชึ่งจัดขึ้น ณ โรงแรม The Tide Resortถนนหาดบางแสน ต. แสนสุข อ.เมือง จังหวัดชลบุรี โดยมีผู้สื่อข่าวตลอดจนเคเบิ้ลทีวีท้องถิ่น เข้าร่วมกิจกรรมจำนวนมาก

โดยนางสาวนฤภัทร อมรโฆษิต รองเลขาธิการ สำนักงาน กกพ. กล่าวว่า กองทุนพัฒนาไฟฟ้ามีวัตถุประสงค์หนึ่งในการพัฒนาหรือพื้นฟูท้องถิ่นที่ได้รับผลกระทบจากการดำเนินงานของโรงไฟฟ้า ซึ่งคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.)ได้ให้ความสำคัญกับการมีส่วนร่วมของประชาชนในพื้นที่รอบโรงไฟฟ้าในการบริหารและเงินกองทุนพัฒนาไฟฟ้าโดยชุมชน เพื่อชุมชน ภายใต้การกำกับดูแลของ กกพ. โดยในปี 2555 ได้มีการสรรหาและแต่งตั้งคณะกรรมการพัฒนาชุมชนในพื้นที่รอบโรงไฟฟ้า (คพรฟ.)เพื่อทำหน้าที่บริหารเงินกองทุนพัฒนาไฟฟ้า และได้มีการโอนเงินให้ คพรฟ. เพื่อให้ประชาชนในพื้นที่รอบโรงไฟฟ้า ได้ร่วมเสนอโครงการชุมชนในการพัฒนาท้องถิ่นของตนเอง

กกพ.มุ่งเน้นและให้ความสำคัญของการมีส่วนร่วมของประชาชนโดยในส่วนของการพัฒนาและฟื้นฟูท้องถิ่นรอบโรงไฟฟ้า นั้น กกพ. มีแนวนโยบายให้ กองทุนพัฒนาไฟฟ้า เป็นกองทุนของชุมชน โดยชุมชน เพื่อชุมชน มีธรรมาภิบาล ผ่านการมีส่วนร่วมของชุมชนทุกภาคส่วน เพื่อให้เกิดการพัฒนาคุณภาพชีวิตของชุมชนและสิ่งแวดล้อมในพื้นที่รอบโรงไฟฟ้าอย่างยั่งยืน

ด้าน นายไพรัช สุวรรณรัตน์ ผู้อำนวยการสำนักงาน กกพ.ประจำเขต 9 ดูแลรับผิดชอบกองทุนพัฒนาไฟฟ้าโรงไฟฟ้าบางปะกง กล่าวว่า ที่ผ่านมากองทุนพัฒนาไฟฟ้าโรงไฟฟ้าบางปะกงได้รับการอนุมัติงบประมาณจาก กกพ.ทั้งสิ้น 317 ล้านบาท ในการดำเนินการชุมชนรวม 483 โครงการ ซึ่งคณะกรรมการพัฒนาชุมชนในพื้นที่รอบโรงไฟฟ้า หรือ คพรฟ.ได้กำหนดยุทธศาสตร์การพัฒนา 3 ด้าน คือ ด้าน การพัฒนาคุณภาพชีวิตแบบบูรณาการ ด้านการพัฒนาฟื้นฟูสิ่งแวดล้อม ควบคู่กับการสร้างเศรษฐกิจชุมชนและด้านการพัฒนาสุขภาพและสุขภาวะ

ทั้งนี้กองทุนพัฒนาไฟฟ้าโรงไฟฟ้าบางปะกงได้เสนอแผนงานประจำปี พ.ศ. 2557 และกกพ.ได้พิจารณาอนุมัติให้ดำเนินโครงการชุมชนรวมจำนวน 140 โครงการ ซึ่งงบประมาณทั้งหมดนี้เพื่อนำไปพัฒนาด้านการส่งเสริมคุณภาพชีวิต สุขภาพและสุขภาวะ และการพัฒนาชุมชน การศึกษา วัฒนธรรมและประเพณี ให้แก่ประชาชนในพื้นที่รอบโรงไฟฟ้า อาทิ เช่นโครงการพัฒนาการเรียนการสอนโรงเรียนวัดบางวัว(สายเสริมวิทย์) หมู่ที่ 4 ต.บางวัว โครงการพัมนาทางเดินแหล่งเรียนรู้ธรรมชาติป่าชายเลน ม.13 ต. บางปะกง โครงการขยายเขตบริการน้ำประปาสายท่าแค หมู่ที่ 5 ต. เขาดิน โครงการหน่วยบำบัดทุกข์บำรุงสุข สร้างรอยยิ้มให้ประชาชน และโครงการอื่นๆอีกมากมายซึ่งจะก่อให้เกิดประโยชน์ต่อชุมชนอย่างยั่งยืนต่อไป

จากนั้นได้มีการเปิดโอกาส ให้ผู้บริหาร พบปะ พูดคุย และตอบข้อซักถามสื่อมวลชนท้องถิ่น เพื่อนำไปปฏิบัติ และ จัดทำโครงการที่คาดหวังในอนาคต ต่อไป


คมศักดิ์/ข่าว/ภาพ

ผู้ว่าฯตราด และคณะรุดเยี่ยมผู้บาดเจ็บจากกรณีกลุ่มคนร้ายยิงกราดใส่ฝูงชน กปปส.ตราด

เช้าวันที่ ( 23 กุมภาพันธ์ 2557 ) นางสาวเบญจวรรณ อ่านเปรื่อง ผู้ว่าราชการจังหวัดตราด พร้อมด้วย นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดตราด ปลัดจังหวัดตราด หัวหน้า ปภ.ตราด และเจ้าหน้าที่ สนง.พมจ.ตราด ได้ตรวจเยี่ยมให้กำลังใจผู้ที่ได้รับบาดเจ็บจากกระสุนปืนและสะเก็ดระเบิดจากกรณีกลุ่มคนร้ายปาระเบิดและใช้ปืนยิงกราดเข้าไปในฝูงชน กปปส.ตราด

ที่โรงพยาบาลตราดและโรงพยาบาลกรุงเทพ-ตราด ที่โรงพยาบาลตราด มีผู้บาดเจ็บเข้ารักษา จำนวน 22 คน รวมถึงรายที่มีการส่งต่อไปยังโรงพยาบาลระยอง จำนวน 1 คน และเสียชีวิต 1 ราย คือ เด็กหญิงฬีฬาวัลย์ พรหมชัย อายุ 5 ปี ซึ่งจากการสอบถามพ่อแม่ของเด็กหญิงฬีฬาวัลย์ ทราบว่า เมื่อนำศพออกจากโรงพยาบาลแล้วจะได้นำไปบำเพ็ญกุศลที่วัดแสนตุ้ง เขาสมิง ต่อไป ส่วนที่โรงพยาบาลกรุงเทพ-ตราด ขณะนี้มีผู้บาดเจ็บที่รักษาตัวอยู่ จำนวน 6 คน

โอกาสนี้ ผู้ว่าฯ ตราด ได้สอบถามผู้บาดเจ็บถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยให้กำลังใจให้หายจากอาการบาดเจ็บโดยไว พร้อมกันนี้ ได้มอบเงินปลอบขวัญให้รายละ 2,000 บาท และถุงของขวัญจากกาชาดจังหวัดตราด ให้กับผู้เข้าพักรักษาตัวทุกราย ส่วนกรณีที่เสียชีวิตได้มอบเงินให้ในเบื้องต้น จำนวน 25,000 บาท อย่างไรก็ตาม ผู้ว่าราชการจังหวัดตราด ได้สั่งให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องโดยเฉพาะสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของชีวิตให้ดำเนินการให้ความช่วยอย่างต่อเนื่องตามระเบียบของทางราชการต่อไป

จ.ตราด พัฒนาเครือข่ายภาคบริการและความปลอดภัยแก่นักท่องเที่ยวกลุ่มภาคตะวันออก เชื่อมโยงไทย– กัมพูชา – เวียดนาม รองรับ AEC

(24 ก.พ. 57) ที่ศูนย์ราชการุณย์ สภากาชาดไทย บ้านเขาล้าน อ.เมือง จ.ตราด นางสาวเบญจวรรณ อ่านเปรื่อง ผู้ว่าราชการจังหวัดตราด เปิดโครงการพัฒนาบุคลากรเครือข่ายภาคบริการและความปลอดภัยแก่นักท่องเที่ยว กลุ่มจังหวัดภาคตะวันออกเชื่อมโยงไทย– กัมพูชา – เวียดนาม เพื่อเตรียมพร้อมรองรับการเปิด ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (ASEAN Economic Community : AEC) ประจำปีงบประมาณ 2557 มี ส่วนราชการที่เกี่ยวข้องเข้าร่วม ซึ่งการจัดอบรมให้ความรู้ในครั้งนี้ จะมีเจ้าหน้าที่ตำรวจท่องเที่ยว จากสทท.6 (ตราด) ตำรวจตะเวนชายแดนที่117 สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดตราด ร่วมกันดำเนินการ ซึ่งศูนย์ปฏิบัติการกลุ่มจังหวัดภาคตะวันออก มอบหมายให้สำนักงานการท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดตราด ร่วมกับสถานีตำรวจท่องเที่ยว 6 (ตราด) กก.2 กองบก.ทท. ร่วมกันจัดขึ้นโดยมีผู้เข้ารับการอบที่มาจากพื้นที่ ชลบุรี-ระยอง- จันทบุรี และตราด รวมไปถึงบุคลากรด้านการท่องเที่ยวของประเทศกัมพูชา-เวียดนามเข้าร่วมรวมแล้วกว่า 200 คนควบคุมดูแลประสานงานโดย พ.ต.ท.เสกสรร จินดาพรรณ รองผกก.กก.2 บก.ทท.

นายฐกัดชัย เกียรติอัมพร ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดตราด กล่าวว่า การจัดอบรมเพื่อให้ความรู้เตรียมพร้อมเข้าสู่ประชาคมอาเซียน(AEC) ได้จัดขึ้นเป็น 2 รุ่นด้วยกัน รุ่นแรกระหว่างวันที่ 17-20 ก.พ. 57 ที่ผ่านมา รุ่นที่ 2 ระหว่างวันที่ 24-27 ก.พ. 57 เพื่อเป็นการพัฒนาบุคลากรเครือข่ายภาคบริการและความปลอดภัยแก่นักท่องเที่ยว กลุ่มจังหวัดภาคตะวันออกเชื่อมโยงไทย-กัมพูชา- เวียดนาม โดยได้รับการสนับสนุนการดำเนินกิจกรรมจากกลุ่มจังหวัดภาคตะวันออก คือ ชลบุรีระยอง จันทบุรี และตราด มีเป้าหมายคือ บุคลากรที่เกี่ยวข้องกับภาคบริการ และดูแลความปลอดภัยให้กับนักท่องเที่ยว อาทิเช่น เจ้าหน้าที่จากส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง- อบต-เทศบาล-ตัวแทนจากชุมชน-อาสาสมัครกู้ภัยฯ - อาสาสมัครตำรวจท่องเที่ยว รุ่นละกว่า 200 คน และในจำนวนผู้เข้าร่วมในครั้งนี้ก็มี เจ้าหน้าที่จากกระทรวงมหาดไทย และเจ้าหน้าที่ด้านการท่องเที่ยวของประเทศกัมพูชา – และเวียดนามเข้าร่วมกิจกรรมกว่า 30 คน ส่วนใหญ่ จะปฏิบัติงานอยู่ตามแนวเส้นทางสายเลียบชายฝั่งทะเล ( R 10 ) ซึ่งมีอาณาเขตพื้นที่เชื่อมโยงกันกับ จ.ตราด สำหรับการจัดกิจกรรมครั้งนี้มีการดำเนินการรวม 2 รุ่นๆละ 3 วันโดยมีวิทยากรรับเชิญจากส่วนราชการ และเจ้าหน้าที่ที่มีความสามารถทางด้านภาษามาให้ความรู้ คาดว่าผู้ที่ได้รับการอบรมจะนำไปใช้ประโยชน์ เมื่อมีการเปิดประชาคมอาเซียน (AEC) ในปี 2558 นี้

อธิบดีกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ รุดมอบเงินเยียวยา 100,000 บาทให้กับบิดาของเด็กหญิงฬิฬาวัลย์ ที่เสียชีวิตจากเหตุ คนร้ายกราดยิงและปาระเบิดใส่กลุ่มผู้ชุมนุม กปปส.ตราด

(24 ก.พ. 57) ที่กองบังคับกการตำรวจภูธรจังหฟวัดตราด พล.ต.ต.ถีร์สถัต บูรณะรัช ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดตราด พร้อมเด้วย พ.ต.อ.ดร.ณรัชต์ เศวตนันท์ อธิบดีกรมกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ กระทรวงยุติธรรมร่วมกันมอบเงินช่วยเหลือเยียวยา ตามพระราชบัญญัติค่าตอบแทนผู้เสียหายและค่าทดแทนละค่าใช้จ่ายแก่จำเลยในคดีอาญา พ.ศ. 2544 จำนวน 100,000 บาท ให้กับนายนิพนธ์ พรหมชัย บิดาของ เด็กหญิงฬิฬาวัลย์ พรหมชัย อายุ 5 ปี ที่เสียชีวิตจากกรณีเหตุคนร้ายใช้อาวุธปืนกราดยิงและปาระเบิดใส่กลุ่มผู้ชุมนุม กปปส.จังหวัดตราด บริเวณตลาดยิ่งเจริญ ตำบลแสนตุ้ง อำเภอเขาสมิง เมื่อคืนวันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2557 เวลา 21.30 น. ทำให้เด็กหญิงฬิฬาวัลย์ พรหมชัย เสียชีวิต

อธิบดีกรมกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ กล่าวว่า กรมกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ มีภารกิจในการช่วยเหลือเยียวยาเหยี่ออาชญากรรมตามพระราชบัญญัติค่าตอบแทนผู้เสียหายและค่าทดแทนละค่าใช้จ่ายแก่จำเลยในคดีอาญา พ.ศ. 2544 กรณีตกเป็นเหยื่ออาชญากรรม ถูกยิง ถูกแทง ถูกฆ่า ถูกระเบิด ถูกทำร้ายร่างกายหรือถูกกระทำโดยที่ตนเองไม่ได้มีส่วนร่วมในการกระทำความผิด จึงได้นำเงินเยียวยามามอบให้กับบิดา หรือมารดา ของเด็กหญิงฬิฬาวัลย์ พรหมชัย ในครั้งนี้ อย่างไรก็ตามในระดับพื้นที่กรมคุ้ใมคริองสิทธิและเสรีภาพกระทรวงยุติธรรม มีสำนักงานยุติธรรมจังหวัดตราด ที่คอยตรวจสอบข้อมูลพร้อมประสานงานในการมอบเงินเยียวยาให้กับผู้เสียชีวิต หรือผู้บาดเจ็บจากเหตุดังกล่าวในพื้นที่จังหวัดตราดอยู่แล้ว ทั้งนี้ญาติของผู้บาดเจ็บหรือผู้เสียชีวิต สามารถสอบถามข้อมูลได้ที่ ศูนย์เยียวยาเหยื่ออาชญากรรม โทร 089-967-3403 หรือสายด่วน 1111 กด 77 หรือที่ผู้ประสานงานในพื้นที่จังหวัดตราด 085-136-6445

รอง ผบ.ตร. พร้อมคณะ ลงพื้นที่จังหวัดตราด ติดตามแนวทางการสืบสวนผู้กระทำผิดกรณีคนร้ายขว้างระเบิด พร้อมใช้อาวุธปืนยิงถล่มเวที กปปส.ตราด

(24 ก.พ. 57)  พล.ต.อ.เอก อังสนานนท์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พร้อมด้วย พล.ต.ต.ธวัชชัย เมฆประเสริฐสุข ผู้บัญชการการกองพิสูจน์หลักฐานกลาง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พร้อม พ.ต.อ.กำธร อุ่ยเจริญ ผู้กำกับการกลุ่มงานเก็บกู้และตรวจพิสูจน์วัตถุระเบิด (อีโอดี) และคณะ เดินทางตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุกรณีคนร้ายขว้างระเบิด พร้อมใช้อาวุธปืนยิงถล่มเวที กปปส.ตราด เมื่อคืนวันที่ 22 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา บริเวณหน้าตลาดยิ่งเจริญ ตำบลแสนตุ้ง อำเภอเขาสมิง ทำให้มีผู้บาดเจ็บกว่า 30 ราย เสียชีวิตแล้ว 1 ราย

รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติได้ให้ความสำคัญในการสืบสวน ติดตามคนร้านมาดำเนินคดี เนื่องจากคดีดังกล่าวนับเป็นคดีที่สะเทือนขวัญประชาชน ทั้งนี้ทางตำรวจภูธรภาค 2 ได้ตั้งคณะกรรมการสืบสวนร่วมกับทางตำรวจภูธรจังหวัดตราด เพื่อร่วมกันคลี่คลายคดีนี้ อย่างไรก็ตามจากสถานการณ์การชุมนุมของ กปปส. ทั้งในกรุงเทพฯ และเวทีต่างจังหวัด ที่มีเหตุการณ์ความไม่สงบกับผู้ร่วมชุมนุม ทางผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้สั่งการณ์ให้ผู้รับผิดชอบการปฏิบัติในแต่ละพื้นที่ เพิ่มมาตรการในการป้องกันปัญหา ส่วนในกรณีที่เป็นคดีแล้วได้เร่งดำเนินการสืบสวนจับกุมคนร้ายมาดำเนินคดีโดยเร็วที่สุด โดยเฉพาะกรณที่จังหวัดตราดที่มีการใช้ทั้งอาวุธสงครามและวัตถุระเบิดก่อเหตุกับประชาชน

ด้าน พ.ต.อ.กำธร อุ่ยเจริญ ผู้กำกับการกลุ่มงานเก็บกู้และตรวจพิสูจน์วัตถุระเบิด (อีโอดี) กล่าวว่า จาการตรวจสอบหลักฐานที่มีอยู่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน ในจุดแรก ทั้งจากการตรวจสอบหลุมระเบิดที่พบ กระเดื่อง และเศษสะเก็ดระเบิด ในที่เกิดเหตุ คาดว่าเป็นระเบิดสังหาร ชนิด M 26 A2 ส่วนจุดที่สอง ก็พบทั้งหลุมระเบิด กระเดื่องระเบิด และเศษชิ้นส่วนสะเก็ดระเบิด คาดว่าจะเป็นระเบิดชนิด M 26 ซึ่งในที่เกิดเหตุตัวหมายเลขประจำ ที่ติดอยู่กับกระเดื่องของระเบิดที่พบในที่เกิดเหตุพบว่าถูกขุดออก ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจจะต้องดำเนินการตรวจสอบหาที่ไปที่มาเพื่อสืบหาตัวคนร้ายมาดำเนินคดีต่อไป 

ผู้ว่าฯตราด เป็นประธานรดน้ำศพเด็กหญิงฬิฬาวัลย์ ที่เสียชีวิตจากเหตุคนร้ายกราดยิงและปาระเบิดใส่กลุ่มผู้ชุมนุม กปปส.ตราด ในพื้นที่ อ.เขาสมิง

(24 ก.พ. 57) ที่ศาลาการเปรียญ วัดแสนตุ้ง อ.เขาสมิง นางสาวเบญจวรรณ อ่านเปรื่อง ผู้ว่าราชการจังหวัดตราด พร้อมด้วย น.อ.(พ.)กิตติคุณ นาคสุก รองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัดตราด นายธีระ สลักเพชร อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฏรจังหวัดตราด นายสมศักดิ์ อิทธิวรกุล ปลัดจังหวัดตราด และประชาชน จำนวนมากร่วมพิธีรดน้ำศพ เด็กหญิงฬิฬาวัลย์ พรหมชัย วัย 5 ปี เสียชีวิตจากกรณีเหตุคนร้ายใช้อาวุธปืนกราดยิงและปาระเบิดใส่กลุ่มผู้ชุมนุม กปปส.จังหวัดตราด บริเวณตลาดยิ่งเจริญ ตำบลแสนตุ้ง อำเภอเขาสมิง เมื่อคืนวันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2557 เวลาประมาณ 21.30 น. จากนั้นเด็กหญิงฬิฬาวัลย์ พรหมชัย ได้ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลตราด แต่ทนพิษบาดแผลไม่ไหว ถึงแก่กรรมเมื่อเวลา 03.30 น. ของวันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2557 เนื่องจากเด็กหญิงฬิฬาวัลย์ พรหมชัย ถูกกระสุนเข้าบริเวณศรีษะขณะเกิดเหตุได้วิ่งเล่นกับเพื่อน บริเวณที่มารดาซึ่งเป็นลูกจ้างร้านจ้านของร้านก๋วยเตี่ยวที่คนร้ายก่อเหตุ ยิง และปาระเบิดใส่กลุ่มผู้ชุมนุม กปปส.ตราด ในคืนดังกล่าว

สำหรับการบำเพ็ญกุศลศพของเด็กหญิงฬิฬาวัลย์ พรหมชัย ในคืนแรก วันนี้ ผู้ว่าราชการจังหวัดตราด อำเภอเขาสมิง และชมรมกำนันผู้ใหญ่บ้านอำเภอเขาสมิง ร่วมกันเป็นเจ้าภาพ โดยจะมีการสวดอภิธรรมศพ รวม 3 คืน จากนั้นจะมีการฌาปนกิจศพในวันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2557 เวลา 13.00 น. ณ วัดแสนตุ้ง แห่งนี้ 

แพทย์ รพ.ระยอง เผยอาการเด็กหญิงวัย 5 ขวบ เวที กปปส.ตราด สมองตาย

เมื่่อวันที่ 23 ก.พ. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีเด็กหญิงวัย 5 ขวบ ที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสจากการถูกคนร้ายกราดยิงและปาระเบิดใส่เวทีปราศรัยของกลุ่ม กปปส.ตราด บริเวณตลาดยิ่งเจริญ หมู่ 1 ต.แสนตุ้ง อ.เขาสมิง จ.ตราด เหตุเกิดเมื่อวานนี้ เวลาประมาณ 21.30 น.และถูกส่งตัวมารักษาพยาบาลต่อที่ รพ.ระยอง จึงเดินทางไปตรวจสอบ โดยได้รับการยืนยันจาก นพ.ประสิทธิ์ ทองสดายุ หัวหน้ากลุ่มงานศัลยกรรม รพ.ระยอง ว่า ได้รับเด็กหญิงดังกล่าว มีรักษาตัวจริงอยู่ชั้น 2 ตึกฉัตรแก้ว ทราบชื่อคือเด็กหญิงณัฐชยา รอสูงเนิน อายุ 5 ขวบ ถูกส่งต่อมาจาก รพ.ตราด โดยทางญาติไม่อนุญาตให้ทำข่าวแต่อย่างใด

นพ.วิธชุ ลัทธิวงศกร ศัลยแพทย์ระบบประสาท รพ.ระยอง แพทย์เจ้าของไข้ กล่าวว่า รับตัวเด็กมาเมื่อเวลา 02.00 น.ของวันนี้ โดยเด็กไม่รู้สึกตัว มีบาดแผลถูกยิงที่ท้ายทอยด้านซ้าย กระสุนมาตุงที่ขมับขวา อาการปัจจุบันทรุดหนักลงเรื่อยๆ สมองไม่ตอบสนอง และใช้เครื่องช่วยหายใจตลอดเวลา โดยมีป้าของเด็ก 2 คน คอยเฝ้าดูอาการ ส่วนแม่เด็กยังอยู่จังหวัดตราด ทราบเพียงว่าดูอาการของลูกอีกคนที่ รพ.ตราด อย่างไรก็ตามตอนนี้ทำได้เพียงรักษาตามอาการ และได้แจ้งญาติให้ทำใจแล้ว ซึ่งเขาก็ยอมรับได้แล้ว


วฐิต/ข่าว

บริษัทกลางคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ จำกัด สาขาฉะเชิงเทรา จัดกิจกรรมเชิญชวนผู้ใช้รถจักรยานยนต์ร่วมสร้างวัฒนธรรมความปลอดภัยทางถนน เนื่องในวัน RVP Road Safety Day

วันนี้ (24 ก.พ.57)  ที่บริเวณด้านหน้าบริษัทกลางคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ จำกัด สาขาฉะเชิงเทรา ถนนศรีโสธรตัดใหม่ ได้มีการจัดกิจกรรมเชิญชวนผู้ใช้รถจักรยานยนต์ร่วมสร้างวัฒนธรรมความปลอดภัยทางถนน เนื่องในวัน RVP Road Safety Day โดยการจำหน่ายหมวกนิรภัยแบบมาตรฐาน ในราคา 86 บาท และแจกหมวกนิรภัยฟรีให้กับเด็ก

นางคุณัญญา แย้มสรวล ผู้จัดการบริษัทกลางคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ สาขาฉะเชิงเทรา เปิดเผยว่า  ปัจจุบันอุบัติเหตุทางถนนในประเทศไทยเป็นปัญหาที่สำคัญอย่างมาก เพราะในแต่ละปีประเทศไทยมีผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางถนนมากกว่า 16,000 ราย และบาดเจ็บมากกว่า 500,000 ราย ซึ่งเป็นความสูญเสียที่มิอาจประเมินค่าได้  ซึ่งจากสถิติอุบัติเหตุทางถนนในประเทศไทย ศูนย์ข้อมูลอุบัติเหตุทางถนน พบว่า ทุก 1 ชม.ในประเทศไทย จะมีผู้เสียชีวิตถึง 2 ราย โดยสาเหตุเกิดจากหลายปัจจัย ทั้งจากคน จากรถ สถานภาพถนน และสิ่งแวดล้อม  และหนึ่งสาเหตุในการบาดเจ็บคือการไม่สวมหมวกนิรภัย เมื่อเกิดอุบัติเหตุทำให้บาดเจ็บรุนแรงและเฉียบพลัน  บ้างถึงแก่ชีวิตหรือพิการ  บริษัทกลางฯจึงแสดงปณิธานในการร่วมสร้างวัฒนธรรมความปลอดภัยทางถนน เพื่อร่วมทำให้รถปลอดภัย ถนนปลอดภัย คนไทยปลอดภัย  โดยจัดกิจกรรมการจำหน่ายหมวกนิรภัย 86 พรรษา เพื่อถวายในโครงการ "รักพ่อ รักความปลอดภัย”โดยรายได้จากการจำหน่าย จะนำขึ้นทูลเกล้าฯ โดยเสด็จพระราชกุศลโดยไม่หักค่าใช้จ่าย อีกทั้งยังมีการแจกหมวกนิรภัยสำหรับเด็กฟรีอีกด้วย  ทั้งนี้เพื่อให้ผู้ที่ใช้รถจักรยานยนต์ตระหนักถึงความปลอดภัยทางถนนดังปณิธานของบริษัทกลางฯที่ว่า "อุบัติเหตุลดได้ ต้องเริ่มที่ตัวเราก่อน”



ชาญณรงค์/ข่าว
ธนภัทร/ภาพ

วันอาทิตย์ที่ 23 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

สหกรณ์จังหวัดฉะเชิงเทราจัดการแข่งขันกีฬาสหกรณ์สามัคคีเนื่องในวันสหกรณ์แห่งชาติ ประจำปี 2557

วันนี้ (23 ก.พ. 57)  ที่สนามกีฬาโรงเรียนวัดดอนทอง    นาย อรัญ วิสุทธิแพทย์  สหกรณ์จังหวัดฉะเชิงเทรา เป็นประธานในพิธีเปิดการแข่งขันกีฬาสหกรณ์สามัคคี เนื่องในวันสหกรณ์แห่งชาติ ประจำปี 2557โดยมีนาย อุทิศ วงศ์มาก ประชาสัมพันธ์จังหวัดฉะเชิงเทรา  น.อ. อัมพร นฤภัย ประธานคณะกรรมการจัดงานวันสหกรณ์แห่งชาติจังหวัดฉะเชิงเทรา  หัวหน้าส่วนราชการ  หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง สมาชิกสหกรณ์และกลุ่มเกษตรกร เข้าร่วมกิจกรรม ซึ่งการจัดงานดังกล่าวมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมให้บุคลากรของขบวนการสหกรณ์ กลุ่มเกษตรกรและ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับสหกรณ์และกลุ่มเกษตรกรมีสุขภาพและพลานามัยสมบูรณ์ แข็งแรงและได้ทำความรู้จักและกันอันเป็นการเสริมสร้างความสามัคคีและความสัมพันธ์อันดีต่อกันพร้อมที่จะทำงานร่วมกันเพื่อผลักดันให้สหกรณ์และกลุ่มเกษตรกรบรรลุเป้าหมายขององค์กรได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ทั้งนี้ สืบเนื่องจากคณะรัฐมนตรีมีมติเมื่อวันที่ 9 ตุลาคม 2527  กำหนดให้ วันที่ 26 กุมภาพันธ์ ของทุกปีเป็นวันสหกรณ์แห่งชาติ  จังหวัดฉะเชิงเทราโดยขบวนการสหกรณ์และกลุ่มเกษตรกรในจังหวัดฉะเชิงเทรา ร่วมด้วยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องประกอบด้วย สหกรณ์ และกลุ่มเกษตรกร สำนักงานสหกรณ์จังหวัดฉะเชิงเทรา สำนักงานตรวจบัญชีสหกรณ์ และธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร สาขาฉะเชิงเทราจัดกิจกรรม วันสหกรณ์แห่งชาติจังหวัดฉะเชิงเทราขึ้น เพื่อรำลึกถึงพระราชวงศ์เธอกรมหมื่น พิทยาลงกรณ์ พระบิดาแห่งการสหกรณ์ไทย  เพื่อส่งเสริมให้สมาชิกสหกรณ์ให้ตระหนักถึงคุณค่าและศรัทธาในระบบสหกรณ์รวมทั้ง เสริมสร้างความสามัคคี ระหว่างบุคลากรที่เกี่ยวข้องกับขบวนการสหกรณ์และกลุ่มเกษตรกรด้วย


ชาญณรงค์/ข่าว-ภาพ

จ.ตราด นำส่วนราชการ ประชาชน เข้าวัดวันธรรมสวนะ ตามโครงการส่งเสริมการมีส่วนร่วมในกิจกรรมด้านพระพุทธศาสนา ที่วัดนิโรธภาวนา อ.เขาสมิง

(22 ก.พ. 57) นางสาวเบญจวรรณ อ่านเปรื่อง ผู้ว่าราชการจังหวัดตราดนำข้าราชการประชาชนเข้าร่วมทำบุญ ฟังเทศน์ในวันธรรมสวนะ หรือวันพระ ตามโครงการส่งเสริมการมีส่วนร่วมในกิจกรรรมด้านพระพุทธศาสนาจังหวัดตราดที่ศาลาการเปรียญวัดนอโรธภาวนา ตำบลประณีต อำเภอเขาสมิง ซึ่งจังหวัดตราดโดยสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดร่วมกับวัดในจังหวัดตราด และหน่วยงานภาครัฐในจังหวัดร่วมกันจัดโครงการนี้ขึ้น

ผู้ว่าราชการจังหวัดตราด กล่าวว่า การจัดทำโครงการนี้มุ่งที่จะส่งเสริมคุณธรรม จริยธรรม ให้กับข้าราชการทั้งยังเป็นการส่งเสริมให้ข้าราชการและประชาชนมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน โดยเฉพาะช่องว่างระหว่างหน่วยงานภาครัฐกับประชาชนในพื้นที่ต่าง ๆ รวมทั้งยังเป็นการส่งเสริมประเพณีทางพระพุทธศาสนาอันดีงามของชาติไทยและถวายเป็นพุทธบูชาทั้งนี้ทางจังหวัดเชิญชวนหน่วยงานในระดับจังหวัดร่วมกับหน่วยงานในระดับอำเภอ และประชาชนในแต่ละพื้นที่ ร่วมทำบุญ ตักบาตรสมาทานศีล 5 และฟังธรรมเทศนาในทุกวันธรรมสวนะหรือวันพระซึ่งเป็นการส่งเสริมการทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา

วันเสาร์ที่ 22 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

โครงการพัฒนาเมือง เทศบาลเมืองจันทบุรี

ชุมชนย่อยที่ 5 , 6 และ 7 เทศบาลเมืองจันทบุรีเป็นชุมชนเมืองที่มีความหลากหลายทางเศรษฐกิจ สังคม และวัฒนธรรม มีปัจจัยเสี่ยงเรื่องปัญหายาเสพติด ทางคณะกรรมการชุมชนได้ประชุมและมีแนวคิดร่วมกันที่จะจัดทำลานอเนกประสงค์ชุมชนร่วมใจเพื่อใช้เป็นสถานที่สำหรับนันทนาการ ออกกำลังกาย และพักผ่อนหย่อนใจของคนในชุมชน แต่เนื่องจากเทศบาลเมืองจันทบุรีมีงบประมาณจำกัด ประกอบกับรัฐบาล ได้มีนโยบายในการสนับสนุนโครงการพัฒนาเมือง เพื่อแก้ไขปัญหาและพัฒนาพื้นที่ชุมชนเมืองให้ตรงกับความต้องการของประชาชน คณะกรรมการบริหารโครงการพัฒนาเมือง เทศบาลเมืองจันทบุรีจึงได้จัดทำประชาพิจารณ์ความต้องการของคนในชุมชน และจัดทำโครงการเพื่อขอรับการอุดหนุนงบประมาณจากรัฐบาล จำนวน 2 ล้านบาท เพื่อจัดทำโครงการ ลานเอนกประสงค์ชุมชนร่วมใจ ที่บริเวณซอยท่าแฉลบ 1 หลังวัดใหม่เมืองจันทบุรี และได้รับอนุญาตการใช้ที่ดินสาธารณะจากสำนักงานธนารักษ์จังหวัดแล้ว

โดยนายสุบิน กิจจานนท์ ประธานชุมชนย่อยที่ 6  กล่าวว่าโครงการนี้เป็นโครงการที่มุ่งหวังพัฒนาคุณภาพชีวิตที่ดีของประชาชนในพื้นที่ชุมชนเมือง ให้เป็นเมืองที่น่าอยู่ น่าอาศัยอย่างปลอดภัย มีสุขภาวะ สิ่งแวดล้อมที่ดี มีพื้นที่สร้างสรรค์กิจกรรมในการผ่อนคลายของประชาชนและมีการพัฒนาการเรียนรู้ในพื้นที่ของชุมชนเมืองร่วมกัน หากได้รับการสนับสนุนงบประมาณโครงการพัฒนาเมืองจากรัฐบาล จะได้เร่งดำเนินการปรับปรุงพื้นที่ให้เป็นลานอเนกประสงค์ มีอาคาร เวที สถานที่ใช้ได้ทั้งกิจกรรมกีฬา การพักผ่อน นันทนาการ รวมทั้งงานประเพณีของชุมชน ที่มุ่งหวังสร้างความสามัคคี ปรองดอง ห่างไกลยาเสพติด ที่ผ่านมาทางชุมชนได้จัดกิจกรรมอย่างต่อเนื่องทุกปี อาทิกิจกรรมเทิดพระเกียรติฯ วาดภาพระบายสี รณรงค์ต่อต้านยาเสพติด กิจกรรมผู้สูงอายุ งานส่งเสริมประเพณี ที่ผ่านมามีปัญหาชาวบ้านไม่สามารถใช้พื้นที่ในช่วงฤดูฝนได้ ซึ่งหากมีงบประมาณในการสร้างอาคาร สถานที่จัดเก็บอุปกรณ์ ปรับปรุงภูมิทัศน์ ก็จะจัดกิจกรรมต่าง ๆ ได้อย่างต่อเนื่อง รวมทั้งสถานที่แห่งนี้ยังเป็นเส้นทางหลักที่ชาวจังหวัดจันทบุรีใช้เป็นเส้นทางเชื่อมต่อไปยังห้างสรรพสินค้า แหล่งเศรษฐกิจการค้า และสถานบันเทิง โดยเฉพาะกลุ่มเยาวชน วัยรุ่น จะได้เห็นและมีส่วนร่วมในการรณรงค์ต่อต้านยาเสพติด ที่ชุมชนได้เริ่มต้นทำไว้อย่างเข้มแข็ง โดยอาศัยเงินกองทุนแม่ของแผ่นดินเป็นจุดเริ่มต้นของการดำเนินงานในช่วงที่ผ่านมา   

โครงการพัฒนาเมือง เทศบาลเมืองจันทนิมิต จังหวัดจันทบุรี

เทศบาลเมืองจันทนิมิต เป็นชุมชนเมืองที่มีความหนาแน่น มีประชากรอาศัยอยู่กว่า 14,000 คน พื้นที่รวม 7.1 ตารางกิโลเมตร ที่ผ่านมา หมู่ที่ 2 ชุมชนย่อยที่ 2 และ หมู่ที่ 4  ชุมชนย่อยที่ 4 และชุมชนย่อยที่ 5 เทศบาลเมืองจันทนิมิต ได้นำเงินโครงการ SML มาจัดซื้อเครื่องเล่นกีฬาสำหรับเด็ก และอุปกรณ์ออกกำลังกายกลางแจ้ง และได้ใช้พื้นที่บริเวณหนองกระรอก ด้านข้างสุสานโรมันคาทอลิกเป็นสถานที่ตั้งเครื่องออกกำลังกาย และยังไม่เป็นระเบียบเรียบร้อยตามลักษณะการเก็บรักษาอุปกรณ์ที่ดี แต่ก็มีประชาชนในพื้นที่และนอกพื้นที่ กว่า 700 คน มาใช้สถานที่ในการพักผ่อนหย่อนใจและออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ  ทางคณะกรรมการโครงการพัฒนาเมืองของเทศบาลเมืองจันทนิมิต เห็นว่า หากมีการปรับปรุงสถานที่ให้ได้มาตรฐาน จะเป็นประโยชน์สนองความต้องการของประชาชนในชุมชนได้ตามแนวทางการประชาพิจารณ์ความต้องการของคนในชุมชน จึงได้จัดทำโครงการขอรับเงินสนับสนุนจากรัฐบาล ตามโครงการ พัฒนาเมืองซึ่งเป็นโครงการที่มุ่งหวังพัฒนาคุณภาพชีวิตที่ดีของประชาชนในพื้นที่ชุมชนเมือง ให้เป็นเมืองที่น่าอยู่ น่าอาศัยอย่างปลอดภัย มีสุขภาวะ สิ่งแวดล้อมที่ดี มีพื้นที่สร้างสรรค์กิจกรรมในการผ่อนคลายของประชาชนและมีการพัฒนาการเรียนรู้ในพื้นที่ของชุมชนเมืองร่วมกัน ในวงเงิน 1,994,000 บาท

นายสุกิจ สฤษดิชัยนันทา นายกเทศมนตรี เทศบาลเมืองจันทนิมิต กล่าวถึงประโยชน์ของประชาชนที่จะได้รับ จากการปรับปรุงพื้นที่หนองกระรอกเป็นสวนสาธารณะของชุมชนให้ประชาชนได้ประโยชน์ใช้สอยอย่างเต็มที่ ซึ่งเป็นการต่อยอดจากโครงการ SME ของหมู่บ้าน    มีความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน เป็นศูนย์รวมการสร้างเสริมสุขภาพชุมชน สร้างความเข้มแข็งให้สถาบันครอบครัวได้ใช้เป็นที่พักผ่อนหย่อนใจ ส่งเสริมสนับสนุนให้เด็ก เยาวชน ประชาชน และผู้สูงอายุได้ใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ หันมาใส่ใจสุขภาพออกกำลังกาย ห่างไกลยาเสพติด โดยรูปแบบของโครงการจะมีการปรับปรุงพื้นที่หนองกระรอกให้เป็นสวนสาธารณะ จัดทำลู่สำหรับเดิน และวิ่งออกกำลังกาย สร้างลานคอนกรีตสำหรับติดตั้งเครื่องเล่นเด็กและเครื่องออกกำลังกายให้มีความมั่นคง ปลอดภัย รวมทั้งปรับปรุงภูมิทัศน์ให้มีความสวยงาม

วันศุกร์ที่ 21 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

หน่วยทหารที่ฝึกคอบร้าโกลด์ 2014 ส่งมอบอาคารเรียนแก่โรงเรียนบ้านคลองโป่ง ต.ขุนซ่อง อ.แก่งหางแมว จ.จันทบุรี

หน่วยทหารที่ฝึกคอบร้าโกลด์ 2014 ส่งมอบอาคารเรียนแก่โรงเรียนบ้านคลองโป่ง

หน่วยทหารสหรัฐ เกาหลีใต้ และไทย ที่ร่วมฝึกคอบร้าโกลด์ 2014 ได้ร่วมกันก่อสร้างอาคารเรียนและส่งมอบให้โรงเรียนบ้านคลองโป่ง ตำบลขุนซ่อง อำเภอแก่งหางแมว จังหวัดจันทบุรี

เมื่อเย็นวันที่ 20 ก.พ.57 ที่โรงเรียนวัดขุนซ่องห้องเรียนเคลื่อนที่บ้านคลองโป่ง ตำบลขุนซ่อง อำเภอแก่งหางแมว จังหวัดจันทบุรี นายเกรียงเดช เข็มทอง ผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรี ได้นำชุดการแสดงของวิทยาลัยนาฏศิลป์จังหวัดจันทบุรีร่วมแสดงต้อนรับและขอบคุณหน่วยทหารกองกำลังผสมที่เข้ามาฝึกคอบร้าโกลด์ 2014 ในพื้นที่จังหวัดจันทบุรี ที่มีชุดทหารช่างก่อสร้างกองพันทหารช่างกองพลนาวิกโยธิน ร่วมกับชุดทหารช่างกองพันทหารช่างก่อสร้างที่ 3 กองทัพเรือสหรัฐอเมริกา และชุดทหารช่างก่อสร้างสาธารณรัฐเกาหลี ที่ได้ร่วมกันก่อสร้างอาคารเรียนตามโครงการช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่การฝึก แก่โรงเรียนวัดขุนซ่องห้องเรียนเคลื่อนที่บ้านคลองโป่งเพื่อใช้ประโยชน์แก่เด็กนักเรียนและชุมชนบ้านคลองโป่งเป็นอาคารเรียนชั้นเดียวขนาด 7.8 คูณ 20 เมตร 3 ห้องเรียน

โดยใช้เวลาในการก่อสร้างรวม 36 วัน และได้จัดให้มีพิธีส่งมอบและเปิดอาคารอเนกประสงค์อย่างเป็นทางการ โดยมีนายเกรียงเดช เข็มทอง ผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรีเป็นประธาน รับมอบอาคารเรียนจากพลเรือตรีรัตนะ วงษาโรจน์ รองผู้บัญชาการกองพลนาวิกโยธิน กองทัพเรือ นาวาเอกเจพี เฮดเจส นายทหารตัวแทนกองทัพสหรัฐอเมริกา และ นาวาเอกอาน มายองจิน นายทหารตัวแทนกองทัพสาธารณรัฐเกาหลีใต้ หลังจากนั้นผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรีได้ส่งมอบอาคารเรียนต่อผู้อำนวยการโรงเรียนวัดขุนซ่อง ก่อนนำคณะเยี่ยมชมการเรียนการสอนของเด็กนักเรียน ท่ามกลางบรรยากาศที่อบอุ่น มีเด็กนักเรียน ผู้ปกครอง ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ผู้นำชุมชน และชาวบ้านนำดอกไม้มาให้การต้อนรับแสดงความขอบคุณทหารจากหน่วยต่าง ๆ ที่เข้ามาฝึกคอบร้าโกลด์ 2014 ในพื้นที่จังหวัดจันทบุรี เป็นวันสุดท้ายก่อนจะมีพิธีปิดการฝึกซ้อมรบประจำปี สร้างความประทับแก่หน่วยทหารต่างชาติเป็นอย่างดี


จรัล/ภาพ/ข่าว

เทศบาลเมืองตราด กำหนดจัดงาน “เล่าขานตำนานคลองบางพระ” ชุมชนรางวัลกินรี มุ่งเผยแพร่วิถีชีวิตดั้งเดิมของชาวตราด

(20 ก.พ. 57)  นายชนินท์ สุทธิวารี นายกเทศมนตรีเมืองตราด กล่าวระหว่างการประชุมแถลงข่าวงาน "เล่าขานตำนานคลองบางพระ” (THE LEGEND OF KLONG BANGPRA) ประจำปี 2557 ว่า งานดังกล่าวเทศบาลเมืองตราดร่วมกับชุมชนรักษ์คลองบางพระกำหนดจัดขึ้นระหว่างวันที่ 7 – 9 มีนาคมนี้ ตั้งแต่เวลา 14.00 น. – 24.00 น.บริเวณถนนธนเจริญริมคลองบางพระ อำเภอเมือง จังหวัดตราด การจัดงานดังกล่าวถูกจัดขึ้นเพื่อเป็นการมุ่งสืบสานและอนุรักษ์วิถีชีวิตดั้งเดิมของชุมชนสองฝั่งคลองบางพระ ซึ่งเป็นชุมชนที่เคยรุ่งเรืองในอดีตทั้งเป็นการสร้างรายได้ให้กับชาวชุมชน และยังเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวของทางจังหวัดตราด

เนื่องจากชุมชนรักษ์คลองบางพระเป็นอีกชุมชนหนึ่งของจังหวัดตราดที่เคยได้รับรางวัลกินรี หรือรางวัลชุมชนดีเด่นด้านการท่องเที่ยว จาก ททท. ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2550 สำหรับการจัดงานดังกล่าวมีกิจกรรมมากมายประกอบด้วยการแสดงวิถีชีวิตดั้งเดิมของชุมชนริมคลองบางพระที่เป็นศูนย์กลางทางการค้าของจังหวัดตราดในอดีตกิจกรรมเปิดบ้านขอชาวชุมชนรักษ์คลองบางพระเพื่อแสดงของเก่าสะสม นิทรรศการการอนุรักษ์บ้านเก่า การจำหน่ายอาหารและขนมพื้นบ้าน กิจกรรมการแสดงแสดงเท่งกุ๊กหรือละครชาตรี การแสดงพื้นบ้าน กิจกรรมย้อนยุคชมหนังกลางแปลงกิจกรรมรำวงย้อนยุคเจ้าแรกของจังหวัดตราด ตลอดจนการแสดงของเด็กและเยาวชนบนเวทีกลางและการประกวดร้องเพลงไทยลูกทุ่ง อย่างไรก็ตามระหว่างการจัดงานนี้เทศบาลเมืองตราดได้รณรงค์ให้ชาวชุมชนรักษ์คลองบางพระและผู้เข้าร่วมงานและผู้ออกร้านในงานร่วมแต่งกายย้อนยุคเพื่อเติมสีสันให้กับการจัดงานดังกล่าวด้วย

ประมงจังหวัดตราดดึงเกษตรกรผู้ประกอบอาชีพชาวประมงร่วมเป็นเครือข่ายประมงอาสา

(20 ก.พ. 57) นายไชยันต์ การสมเนตร ประมงจังหวัดตราด เปิดโครงการอบรมสร้างประมงอาสา ประจำปี 2557 ซึ่งสำนักงานประมงจังหวัดตราด ดำเนินการพัฒนาเกษตรกร รวมทั้งกลุ่มผู้ประกอบอาชีพชาวประมง ที่มีศักยภาพ และมีจิตอาสาจากทั้ง 7 อำเภอของจังหวัดตราด จำนวน 30 คน เพื่อทำหน้าที่ทำหน้าที่เป็นประมงอาสา ของสำนักงานประมงจังหวัดตราด จัดขึ้นที่ห้องประชุมศูนย์ส่งการเรียนรู้และพัฒนาป่าชายเลนที่ 1 จังหวัดตราด

ประมงจังหวัดตราด กล่าวว่า การดำเนินงานสร้างประมงอาสาเป็นการดำเนินการตามนโยบายของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในการสร้างอาสาสมัครเกษตรกรผู้นำท้องถิ่น ด้านการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ ของชุมชน เพื่อทำหน้าที่เป็นสื่อกลางในการติดต่อสื่อสารถ่ายทอดความรู้ และเทคโนโลยีข่าวสารด้านประมงให้กับเกษตรกรในชุมชนของตนเอง ทั้งยังทำหน้าที่สอดส่องดูและปัยหาในการประกอบอาชีพประมงให้กับภาครัฐ เข้าไปดำเนินการแก้ไขในกรณีที่เกษตรกรผู้เพาะเลี้ยงสัตว์น้ำประสบปัญหาจาการประกอบอาชีพประมงอีกด้วย อย่างไรก็ตามก่อนหน้านี้สำนักงานประมงจังหวัดตราดได้สร้างประมงอาสาในพื้นที่ต่าง ๆ มาแล้ว 180 คน ซึ่งการดำเนินการในครั้งนี้นับเป็นการสร้างเครือข่ายประมงอาสาให้ครอบคลุมในทุกพื้นที่ของจังหวัดตราด